"เจ็บ..."จี้อี่หนิงละเมอพลางมีเหงื่อเย็นผุดออกมา คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นเป็นปม ใบหน้าซีดขาวหมอกับยารักษาโรคกระเพาะของจี้อี่หนิงมาถึงพร้อมกัน ตั้งใจจะให้เธอกินยาก่อนดูอาการ แต่เธอกัดฟันแน่น ไม่มีทางให้กลืนยาลงไปได้สถานการณ์แบบนี้ ทำได้แค่ให้น้ำเกลือหลังจากให้น้ำเกลือจี้อี่หนิงเรียบร้อย หมอหันไปพูดกับเสิ่นซื่อ "เดี๋ยวพอเธอตื่น ให้เธอกินอะไรอ่อนๆ เช่น โจ๊กนะครับ""ครับ"หมอกำชับอีกสองสามประโยค แล้วก็ตามพนักงานออกไป"ประธานเสิ่น ไปพักผ่อนเถอะครับ ผมจะคอยดูแลคุณจี้เอง"เสิ่นซื่อก้มลงมองมือของจี้อี่หนิงที่ยังกำมือเขาแน่น สีหน้าบึ้งตึง เมื่อกี้ตอนหมอให้น้ำเกลือ พยายามแกะมือเธอออก แต่ไม่สำเร็จ เลยต้องเปลี่ยนไปให้น้ำเกลืออีกข้างแทน"นายคิดว่าแบบนี้ฉันจะพักผ่อนได้เหรอ?"มองตามสายตาของเขาไป เห็นมือที่กุมกันไว้ ซุนสิงรีบเปลี่ยนเรื่อง"ผมไปซื้อโจ๊กให้คุณจี้นะครับ"“อืม”หลังจากซุนสิงออกไป ห้องก็เงียบลง เหลือแค่เสียงละเมอของจี้อี่หนิงเป็นครั้งคราวเสิ่นซื่อก้มหน้าลง เห็นใบหน้าเล็กๆ ที่เปียกชื้นด้วยเหงื่อ ใบหน้าเท่าฝ่ามือขมวดมุ่นอยู่ ดูน่าสงสารแต่พอนึกถึงว่าเธอเป็นภรรยาของเสิ่นเยี่ยน
เธออึ้งไปสองสามวินาที ในใจพลันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกลุกขึ้นล้างหน้าแปรงฟัน จี้อี่หนิงกินยาและโจ๊ก ตัดสินใจไปขอบคุณเสิ่นซื่อให้ดีๆเพราะเมื่อคืนเธอจับมือเขาไว้ตลอด เขาคงพักผ่อนไม่ค่อยดีเดินมาถึงหน้าห้องข้างๆ จี้อี่หนิงยกมือจะเคาะประตู ประตูก็เปิดออกจากด้านในเสิ่นซื่อผมเปียกนิดหน่อย เปลี่ยนชุดใหม่แล้ว ดูเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ"ประธานเสิ่น ฉัน...อยากจะขอบคุณคุณค่ะ สำหรับเรื่องเมื่อคืน ขอบคุณนะคะ"เห็นเธอก้มตาลง มือประสานกันไว้ข้างหน้าตัวอย่างไม่เป็นธรรมชาติ เห็นได้ชัดว่าเกร็งๆเธอกลัวเขาพอได้ข้อสรุปนี้ เสิ่นซื่อก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน"ไม่เป็นไร แค่หวังว่าครั้งหน้าถ้าคุณไม่สบาย ให้รีบบอก อย่าสร้างความลำบากให้คนอื่น"น้ำเสียงเย็นชาของเขา ทำให้จี้อี่หนิงยิ่งรู้สึกละอายใจ"ฉันเข้าใจแล้วค่ะ""อืม กลับไปเตรียมตัวเถอะ แปดโมงออกเดินทางไปเทียนรุ่ยตรงเวลา"กลับมาที่ห้อง จี้อี่หนิงรู้สึกหดหู่คงเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืน ทำให้เสิ่นซื่อไม่พอใจเธอมากนึกถึงว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะเสิ่นเยี่ยนจือ จี้อี่หนิงก็ยิ่งรู้สึกแย่ ต่อไปจะไม่ยอมให้เขามามีผลต
จี้อี่หนิงเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นว่า "ดูออกเลยว่าคนของเทียนรุ่ยอยากจะให้ความร่วมมือครั้งนี้สำเร็จ บางทีพวกเขาอาจจะส่งคนมาติดตามเรา หากรู้ว่าเราจะไปฐานสมุนไพร อาจจะมีการเตรียมตัวล่วงหน้าไว้แล้วก็ได้"ถ้าเป็นแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไปถึงฐานสมุนไพรแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะรู้คุณภาพที่แท้จริงของสมุนไพรได้ซุนสิงที่อยู่ข้างๆ หัวเราะแล้วพูดว่า "คุณจี้ไม่ต้องกังวล เรามีวิธีที่จะปิดบังจากคนของเทียนรุ่ยได้แน่นอน"รู้ว่าพวกเขามีแผนรับมือ จี้อี่หนิงจึงพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีกบ่ายสองกว่า ซุนสิงได้จัดหารถมารับพวกเขาที่หน้าโรงแรมหลังจากขึ้นรถได้ไม่นาน คนขับก็มองกระจกหลังแล้วพูดว่า "มีคนตามมาจริงๆด้วย"ซุนสิงมีสีหน้าสงบนิ่งและพูดว่า "ไม่ต้องสนใจ"ถ้าหากเราสลัดพวกเขาออกไป ย่อมจะทำให้ทางฝั่งเทียนรุ่ยเกิดความสงสัยอย่างแน่นอนต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ ปล่อยให้คนของเทียนรุ่ยคิดว่าพวกเขารู้ 'ความเคลื่อนไหว'ของเราอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะตบตาพวกเขาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถก็จอดที่หน้าห้างสรรพสินค้าที่คึกคักที่สุดในเมืองหรงพวกเขาลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในห้างทันที คนของเทียนรุ่ยก็เดินตามเข้าไปด้วยเช่นกันเ
รู้สึกได้ถึงมือใหญ่ที่แข็งแรงกำลังโอบเอวของเธออยู่ และความอุ่นของร่างกายที่ส่งผ่านเนื้อผ้าบางๆ จี้อี่หนิงก็หน้าแดงขึ้นทันทีเธอรีบยืนให้มั่นคง รู้สึกไม่กล้ามองหน้าเขา"ประธานเสิ่น ขอบคุณค่ะ"เสิ่นซื่อดึงมือกลับอย่างไม่ใส่ใจและพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า"ดูสมุนไพรไปด้วยก็ต้องระวังทางด้วย""ทราบแล้วค่ะ"หลังจากนั้น จี้อี่หนิงไม่กล้ามองมั่วซั่วอีก คอยระวังทางข้างหน้าอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะเผลอสะดุดล้มอีก"นี่คือระย่อมน้อยที่ตากแห้งแล้ว"เจ้าหน้าที่หยิบระย่อมน้อยแห้งจากชั้นวางออกมาให้เสิ่นซื่อหนึ่งชิ้น เสิ่นซื่อรับมาดูสักพักแล้วส่งต่อให้จี้อี่หนิง"คุณลองดูสิ"รากระย่อมน้อยนี้กับสมุนไพรที่เทียนรุ่ยให้พวกเขาดูเมื่อเช้านั้น ดูผิวเผินแล้วไม่มีอะไรแตกต่างกัน แต่ต้องทำการทดสอบก่อนจึงจะทราบปริมาณสารที่มีประสิทธิภาพจี้อี่หนิงหันไปมองเจ้าหน้าที่แล้วถามว่า "ปกติแล้วปริมาณแอลคาลอยด์ในระย่อมน้อยจะมีอยู่เท่าไหร่?""โดยทั่วไปสามารถมีได้ถึง 0.1% ถ้ามากกว่านี้ก็จะค่อนข้างยากแล้ว"ที่จริงแล้ว 0.1% ก็ถือว่าเป็นค่าที่ไม่เลว หากเทียนรุ่ยซื้อสมุนไพรทั้งหมดจากที่นี่จริงๆ ค่าในเช้าวันนี้ก็น่าจะเป็นก
สุดท้ายก็เป็นน้ำใจของคน เขารีบเก็บความไม่พอใจไว้ในใจอย่างรวดเร็ว และยังรักษารอยยิ้มที่เป็นมิตรบนใบหน้าเช่นเดิม"นั่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทางบริษัทของเรามีความจริงใจอย่างมากในการที่จะร่วมมือกับชิงหงระยะยาว หวังว่าประธานเสิ่นจะพิจารณาอย่างดี"เสิ่นซื่อพยักหน้าและพูดว่า "อืม ประธานเจียง มา ฉันดื่มอวยพรให้คุณ"ทั้งสองคนคุยกันต่อ ไม่นานนักเหล้าขวดหนึ่งก็หมดลงใบหน้าขาวเนียนของเสิ่นซื่อเริ่มมีสีแดงระเรื่อขึ้น ดวงตาที่เคยเย็นชาก็มีแววเมาเล็กน้อย แสงไฟจากด้านบนส่องลงมา ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูโดดเด่นจนยากที่จะละสายตาเมื่อรู้ตัวว่ามองเสิ่นซื่อจนเคลิ้ม จี้อี่หนิงก็รีบหันสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว"คุณจี้ ฉันขอดื่มอวยพรให้คุณ"จี้อี่หนิงหันไปมอง จงฉิงที่อยู่ข้างๆ ส่งแก้วไวน์แดงให้เธอ พร้อมกับยิ้มอย่างมีไมตรี"ขอโทษค่ะ คุณจง ฉันดื่มเหล้าไม่เป็น""นี่เป็นไวน์แดงที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ ดื่มแล้วไม่เมา แถมยังหอมหวานนุ่มนวล คุณจี้ลองดื่มดูได้นะคะ"พูดจบ จงฉิงก็ยื่นแก้วไวน์แดงไปข้างหน้าอีกเล็กน้อยจี้อี่หนิงยื่นมือออกไปเพื่อจะปฏิเสธ แต่พอมือแตะโดนจงฉิง มือของอีกฝ่ายที่ถือแก้วไวน์แดงอยู่ก็เอียงเล็กน
ในห้องส่วนตัวของร้านอาหาร เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วแต่จี้อี่หนิงยังไม่กลับมา เสิ่นซื่อจึงขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว"ซุนสิง โทรหาจี้อี่หนิงหน่อย"เจียงปินที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้นว่า "ประธานเสิ่น ไม่ต้องกังวลไปครับ ยังไงก็มีจงฉิงอยู่กับคุณจี้ ไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก"เสิ่นซื่อเม้มปากโดยไม่พูดอะไรอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าอารมณ์ของเขาไม่ค่อยดีนักเจียงปินรีบยกแก้วดื่มอวยพรให้เขา โดยไม่แสดงความรู้สึกผิดมากนัก เพราะคิดว่าอีกฝ่ายก็เป็นเพียงพนักงานธรรมดา แม้ว่าหลังจากนี้เสิ่นซื่อจะรู้ความจริง ก็ไม่น่าจะทำเรื่องใหญ่โตเพราะผู้หญิงคนหนึ่งซุนสิงกดโทรหาจี้อี่หนิง ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นภายในห้องส่วนตัวตอนที่จี้อี่หนิงไปเข้าห้องน้ำ เธอไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วยเลยเมื่อเห็นสีหน้าของทั้งสองคนไม่ค่อยดี เจียงปินจึงรีบพูดขึ้นว่า "เดี๋ยวฉันโทรหาจงฉิงดูนะ"เขากดโทรหาจงฉิง และเมื่อปลายสายรับ เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า "จงฉิง ทำไมคุณกับคุณจี้ยังไม่กลับมาอีก?"เจียงปินเปิดลำโพงเสียงดังไว้ แล้วเสียงเรียบเฉยของจงฉิงก็ดังมาจากปลายสาย"ประธานเจียง ไวน์แดงที่เลอะเสื้อขอคุณจี้
คนนั้นดูเหมือนจะไม่คาดคิดว่าเธอจะตื่นขึ้นในเวลานี้ ถูกเธอผลักลงจากเตียงทันที และเผลอหลุดคำด่าหยาบคายออกมา"คุณเป็นใคร?!"จี้อี่หนิงนิงถอยหลังไปพร้อมกับควานหาของใกล้มือแล้วขว้างไปที่เขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวชายคนนั้นหัวเราะเยาะและพูดด้วยน้ำเสียงลามก "ฉันคือคนที่จะทำให้เธอมีความสุขจนขึ้นไปถึงสวรรค์"พูดจบ เขาก็พุ่งเข้าหาจี้อี่หนิงอย่างรวดเร็วในมุมห้อง มีจุดสีแดงกะพริบอยู่ ซึ่งบันทึกทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนี้ไว้ทั้งหมดขณะที่ชายคนนั้นพุ่งเข้ามา จี้อี่หนิงฟาดโคมไฟในมือเข้าไปที่หน้าผากของชายคนนั้นอย่างแรงอีกฝ่ายร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อรู้สึกได้ว่ามีของเหลวอุ่นๆ ไหลลงมาจากหน้าผาก เขายกมือขึ้นแล้วตบจี้อี่หนิงอย่างแรง"นังสารเลว! กล้าตีข้าเหรอ ดูสิว่าข้าจะเล่นงานแกให้ตาย!"เขาแย่งโคมไฟจากมือจี้อี่หนิงแล้วโยนลงพื้น ก่อนจะกดร่างเธอไว้แน่น ยื่นมือไปคว้าคอเสื้อของจี้อี่หนิงแล้วกระชากอย่างแรงกระดุมเสื้อกระเด็นหลุดออก เผยให้เห็นผิวหนังบริเวณหน้าอกและชุดชั้นในในดวงตาของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความโลภและความปรารถนา ยื่นมือไปจับสายเสื้อชั้นในของเธอแล้วดึงลงด้วยท่าทางลา
เสิ่นซื่อนั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้ และมองเธออย่างเรียบเฉยความทรงจำสุดท้ายที่ผุดเข้ามาในหัวก่อนหมดสติ จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากล่าง หลุบตาลงต่ำ "ประธานเสิ่น ขอบคุณที่ช่วยฉันนะค่ะ"หากไม่ใช่เพราะเสิ่นซื่อมาทันเวลา เมื่อวานจะเกิดอะไรขึ้นแค่คิดก็รู้ได้"ครั้งนี้ฉันไม่รอบคอบเองถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ขอโทษนะค่ะ"เมื่อสบเข้ากับดวงตาจริงจังของเสิ่นซื่อ ใจจี้อี่หนิงเต้นระส่ำโดยไม่รู้ตัว จึงเบือนหน้าหนีอย่างลืมตัว"มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหรอก ยังไงซะก็ไม่มีใครคิดว่าคนของเทียนรุ่ยจะทำเรื่องแบบนี้"อีกอย่าง จงฉิงไม่ใช่แค่อยากหาคนมาสบประมาทเธอ แต่วางแผนจะอัดวิดีโอด้วย เดาว่าน่าจะเป็นเพราะตัวเองไม่ได้รับสินบนจากเธอ จึงคิดจะอัดวิดีโอเพื่อมาข่มขู่เธอพอนึกมาถึงตรงนี้ แววตาของจี้อี่หนิงก็เย็นชาลงเมื่อเห็นดวงตาหลุบต่ำของเธอ ทั้งยังสีหน้าขาวซีดนั่นอีก แววตาเสิ่นซื่อพลันขรึมลง"ยังมีตรงไหนไม่สบายอยู่อีกหรือเปล่า?"จี้อี่หนิงส่ายหน้า และกล่าวอย่างลังเล "ทางจงฉิง...""คุณไม่ต้องห่วง เธอได้รับโทษที่สมควรได้รับแล้ว ชิงหงก็ไม่ร่วมมือกับเทียนรุ่ยแล้วด้วย"ได้ยินแบบนี้จี้อี่หนิงก็เม้มปาก "ค่ะ รบกวนประธ
ที่โรงพยาบาลฉินจืออี้ได้รับโทรศัพท์จากหยางอวี่อย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ว่าเสิ่นเยี่ยนจือได้บริจาคไตให้พ่อของเธอ เธอรู้สึกปลาบปลื้มยินดีอย่างมากเธอคิดว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่า เสิ่นเยี่ยนจือจะยอมตกลงเรื่องนี้ ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้!ต่อไป เธอเพียงแค่หาโอกาสบอกเรื่องนี้กับจี้อี่หนิงก็พอก้มลงแตะท้องที่ยังไม่ได้แสดงอาการตั้งครรภ์ ในดวงตาเต็มไปด้วยการคำนวณอย่างละเอียดทั้งวัน จี้อี่หนิงพยายามหาโอกาสโทรหาเสิ่นเยี่ยนจือสิบกว่าครั้ง แต่เขาไม่รับสายเลยสักครั้งดูเหมือนว่าเธอจะต้องรอให้เขากลับมาจากการเดินทางธุรกิจก่อน แล้วค่อยๆ อธิบายเรื่องนี้กับเขาห้องทำงานประธานซุนสิงถือเอกสารเคาะประตูเข้าไป "ประธานเสิ่น เรื่องเมื่อคืนนี้มีความคืบหน้าแล้วครับ"เสิ่นซื่อวางเอกสารลง และเงยหน้ามองเขาซุนสิงยื่นเอกสารให้เขาพร้อมกับพูดว่า: "ครึ่งชั่วโมงหลังจากสือเวยเข้าโรงแรม เราพบรถต้องสงสัยคันหนึ่ง รถคันนี้ขับออกจากประตูหลังของโรงแรมไม่นาน หลังจากที่สือเวยประสบเหตุ และรถคันนี้ใช้ป้ายทะเบียนปลอม หลังจากนั้นไม่นานก็หายไปในถนนเล็กๆ ที่ไม่มีกล้องวงจรปิด ตอนนี้กำลังตรวจสอบตำแหน่งสุดท้ายอยู่ครับ"เสิ่นซื่
จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากล่างแรงๆ จนกระทั่งรู้สึกได้ถึงรสเลือดในปาก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยหลังจากผ่านไปสักพัก เธอจึงเอ่ยเสียงเย็น "เสิ่นเยี่ยนจือ คุณมีแค่กลเดียวนี้เหรอ?!""คุณบังคับให้ผมทำแบบนี้ ผมแค่อยากรู้ว่าเมื่อคืนคุณไปไหน แค่นั้นเอง คุณไม่ยอมบอก มันทำให้ผมคิดว่าคุณรู้สึกผิด"จี้อี่หนิงสูดหายใจลึก และพูดทีละคำอย่างชัดเจน "เมื่อคืนฉันพักที่บ้านอาเล็กของคุณค่ะ"ปลายสายโทรศัพท์ตกอยู่ในความเงียบที่ทำให้หายใจไม่ออกทันทีจี้อี่หนิงสังเกตเห็นได้ชัดว่าเสียงหายใจของเสิ่นเยี่ยนจือหนักขึ้นมาก เธอค่อยๆพูด "เมื่อคืนสือเวยเกิดเรื่อง ตอนนั้นอารมณ์ฉันไม่ค่อยมั่นคง เขาคงกังวลว่าฉันจะกลับบ้านไปคิดมากเลย ก็..."เสิ่นเยี่ยนจือหัวเราะเยาะ "เลยพาคุณกลับบ้านเขางั้นเหรอ?จี้อี่หนิงอย่าบอกนะว่า ผู้ชายผู้หญิงอยู่กันสองต่อสอง คุณไม่ได้ทำอะไรกันเลย!""ที่บ้านเขายังมีคนรับใช้อีก พวกเราไม่ได้สกปรกอย่างที่คุณคิด!"สำหรับคำพูดนี้ เสิ่นเยี่ยนจือไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว"ไม่ได้สกปรกอย่างที่ผมคิด? แสดงว่าพวกคุณแค่จูบ กอด แต่ไม่ได้ทำถึงขั้นสุดท้ายใช่ไหม?!""เสิ่นเยี่ยนจือ!"ดวงตาของจี้อี่หนิงวาบไปด้วยความเย็นชา น้ำ
เสิ่นซื่อหรี่ตาลง "ยัง กล้องวงจรปิดของโรงแรมถูกทำลาย ผมให้ซุนสิงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบๆโรงแรมแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคุณคืนนี้คือการพักผ่อนให้เต็มที่ เรื่องอื่นๆค่อยพูดกันตอนเช้าครับ""ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณอาเล็กค่ะ""ไม่ต้องขอบคุณ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก แต่ก็ขอให้สุขสันต์วันเกิดนะ"จี้อี่หนิงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดเสียงเบา "ขอบคุณค่ะ"ถ้าสือเวยไม่ฟื้นขึ้นมา ทุกๆวันเกิดในอนาคต เธอคงจะไม่มีความสุขอีกต่อไป"ไปพักผ่อนเถอะ"“ค่ะ”จี้อี่หนิงกลับเข้าห้องนอน การตกแต่งภายในไม่แตกต่างจากห้องนั่งเล่นเท่าไหร่ ทั้งหมดเป็นสีดำ ขาว และเทาในห้องนอนมีกลิ่นหอมเย็นๆอ่อนๆ จี้อี่หนิงแยกไม่ออกว่าเป็นกลิ่นอะไร แค่รู้สึกว่ามันหอมมากหลังจากอาบน้ำในห้องน้ำแล้ว เธอเข้านอน เธอคิดว่าจะนอนไม่หลับ แต่ไม่นานความง่วงก็มาเยือน เธอหลับไปอย่างรวดเร็วสิ่งที่เธอไม่รู้คือ หลังจากที่เธอหลับไปไม่นาน คนรับใช้คนหนึ่งค่อยๆเปิดประตูเข้ามา หยิบกล่องครีมจากโต๊ะข้างเตียงออกไปหลังจากคนรับใช้ออกไป กลิ่นหอมเย็นๆในอากาศก็จางลงไปมากที่ห้องทำงานชั้นล่าง เสิ่นซื่อกำลังดูเอกสารอยู่ คนรับใช้เคาะประตูเข
สายตาของเสิ่นซื่อเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างผิดปกติ มองไปที่แม่สือ ราวกับจะฆ่าคนแม่สือถูกเขามองจนรู้สึกไม่มั่นใจ แต่เมื่อนึกถึงลูกสาวของตนที่ตอนนี้นอนอยู่ในห้องไอซียู ยังไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาได้หรือไม่ เธอก็พลันรู้สึกโกรธขึ้นมาในใจอีกครั้ง"ประธานเสิ่น ถึงคุณจะเอาผิดฉัน ฉันก็ไม่กลัว ยังไงลูกสาวฉันก็เป็นแบบนี้แล้ว ฉันมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร!"จี้อี่หนิงเดินออกมาจากด้านหลังของเสิ่นซื่อเงยหน้ามองเขาพูดว่า "อาเล็ก คุณป้าเจิ้งเป็นแม่ของเวยเวย เกิดเรื่องแบบนี้ เธอโกรธก็เป็นเรื่องปกติ ฉันไม่เป็นไรค่ะ"พ่อสือมองมาที่เธอ ถอนหายใจพูดว่า "คุณจี้ คุณกลับไปก่อนเถอะ ถ้าเวยเวยอาการดีขึ้น ผมจะแจ้งให้คุณทราบครับ"ถึงแม้จี้อี่หนิงอยากจะอยู่ที่นี่ แต่เธอก็รู้ว่าการอยู่ต่อหน้าพ่อแม่สือจะทำให้พวกเขายิ่งรู้สึกแย่"ค่ะ"เธอมองไปที่สือเวยที่นอนอยู่บนเตียงผ่านกระจก สูดลมหายใจลึกๆ แล้วหันหลังเดินจากไปเมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่างของอาคารผู้ป่วยใน เธอไม่ได้จากไป แต่นั่งลงบนม้านั่งยาวข้างๆ"อาเล็ก คุณกลับไปก่อนเถอะ"เสิ่นซื่อยืนอยู่ตรงหน้าเธอ พูดเสียงทุ้มว่า "แล้วคุณล่ะ?""คืนนี้ฉันจะไม่กลับ ยังไงกลับไปก็นอนไม่
เสิ่นซื่อเหลือบมองอย่างเย็นชา กล่าวเสียงเย็น: "งั้นไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดรอบโรงแรม"“ครับ ผมรู้แล้ว”หลังจากวางสาย เสิ่นซื่อเพิ่งเดินมาถึงข้างจี้อี่หนิง เธอก็เอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง: "เป็นอย่างไรบ้าง? ตรวจสอบได้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น?""ยังไม่ได้ตอนนี้ แต่น่าจะเร็วๆ นี้"จี้อี่หนิงพยักหน้า ก้มหน้าพูด: "อาเล็ก วันนี้ขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้ก็ดึกแล้ว คุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันอยู่เฝ้าที่นี่เองค่ะ"เสิ่นซื่อก้มมองเธอ เธอก้มหน้า มือทั้งสองกำแน่น ร่างกายยังคงสั่นเล็กน้อยเขานิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วนั่งลงข้างเธอ"ผมจะอยู่เป็นเพื่อนเธอ"จี้อี่หนิงไม่พูดอะไรอีก ก้มหน้าภาวนาให้สือเวยปลอดภัยไม่นาน คุณพ่อและคุณแม่ของสือเวยได้รับข่าวและรีบมาที่นี่เมื่อรู้ว่าสือเวยตกจากตึกเพราะมาฉลองวันเกิดให้จี้อี่หนิง คุณแม่ของสือเวยจ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชาทันที"คุณลุงคุณป้า ขอโทษค่ะ..."คุณแม่ของสือเวยมองเธอด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ยกมือขึ้นจะตบเธอพอยกขึ้นมาครึ่งทาง ข้อมือก็ถูกจับไว้เมื่อเผชิญกับสายตาเย็นชาน่ากลัวของเสิ่นซื่อ คุณแม่ของสือเวยตกใจ ในใจเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา"คุณนายสือ ผมเข้าใจว่าหลังจา
เธอวิ่งไปหาสือเวยอย่างรวดเร็ว ด้วยความตื่นตระหนกจนล้มลงข้างๆ เธอดวงตาทั้งสองของสือเวยปิดสนิท เสื้อผ้าบนตัวเหมือนถูกฉีกกระชาก ขาดวิ่นไปทั่ว บนใบหน้ายังมีรอยฝ่ามือเมื่อเห็นเลือดซึมออกมาจากใต้ร่างของเธอ จี้อี่หนิงจึงนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรเรียกรถพยาบาล มือสั่นขณะหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า กดหลายครั้งกว่าจะกดถูกพอสายต่อติด เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่ามีคนตกตึก จนกระทั่งปลายสายถามว่าอยู่ที่ไหน เธอจึงสะอื้นรายงานที่อยู่หลังวางสาย จี้อี่หนิงไม่กล้าแตะตัวสือเวย ตัวเธอสั่นไม่หยุด น้ำตาไหลไม่ขาดสายสือเวยมาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้เธอ ถ้าหาก... เธอจะไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิตริมถนน รถรถไมบัคสีดำจอดอยู่ที่สี่แยกไฟแดงเมื่อเห็นคนมุงอยู่ที่โรงแรมข้างๆ ซุนสิงมองไปอย่างสงสัย แล้วขมวดคิ้วทันที"ประธานเสิ่น คนตรงกลางฝูงชนนั่น ดูเหมือนจะเป็นคุณจี้i..."พูดยังไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงประตูรถเปิดจากด้านหลังซุนสิงหันไปมองอย่างตกใจ เห็นเสิ่นซื่อเดินข้ามกระแสจราจรไปยังอีกฝั่งถนนอย่างรวดเร็วจี้อี่หนิงรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน ทุกวินาทีที่ผ่านไป เธอรู้สึกว่าลมหายใจของสือเวยอ่
"ครับ!"ซุนสิงหันกลับมามองเขา สีหน้าดูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ลังเล"มีอะไรอีกหรือ?""ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร... แค่... วันเกิดของคุณจี้ใกล้จะถึงแล้ว จะเตรียมของขวัญให้เธอหรือไม่?"เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว มองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ"วันเกิดของเธอเกี่ยวอะไรกับผม?"ซุนสิงรีบส่ายหัว "ไม่มี...""ต่อไปเรื่องเกี่ยวกับเธอ ไม่ต้องรายงานให้ผมทราบ ในทางการ เธอเป็นเพียงพนักงานที่เฉิงหยวนส่งมา ส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของหลานชายผม เราจำเป็นต้องรักษาระยะห่างครับ"ซุนสิงก้มหน้า "ครับ ประธานเสิ่น ผมเข้าใจแล้ว"จู้อวี่เซวียนกลับบ้านด้วยความโกรธ หลังจากที่พ่อของเธอรู้ว่าจี้อี่หนิงไม่ยอมช่วย เขาก็ด่าเธอและสั่งให้เธอไปหาจี้อี่หนิงอีก จนกว่าอีกฝ่ายจะยอมช่วยเธอรู้สึกโกรธมาก จากท่าทีของจี้อี่หนิงเมื่อเช้านี้ ต่อให้ไปขอร้อยครั้งก็ไร้ประโยชน์ในขณะที่กำลังอารมณ์เสีย เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากหวงอีเหรินอย่างกะทันหันหลังจากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับจู้อวี่เซวียนในตอนเช้า หวงอีเหรินก็นัดเธอไปเดินห้างเพื่อคลายเครียดเมื่อเจอหวงอีเหริน จู้อวี่เซวียนก็เริ่มระบายความทุกข์หลังจากฟังจบ หวงอีเหรินพูดด้วยความเห็นใจ:
แต่ที่เสิ่นซื่อกรุ๊ปเกิดเรื่องมากมายในช่วงนี้ เขาในฐานะผู้จัดการทั่วไปต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของบริษัทก่อนจี้อี่หนิงไม่รู้สึกผิดหวัง เธอก้มหน้าพูดว่า: "ไม่มีอะไรที่อยากได้ ไม่ต้องให้ของขวัญก็ได้"เสิ่นเยี่ยนจือขมวดคิ้วเล็กน้อย "งั้นผมจะเตรียมตามที่ผมคิดไว้แล้วกันครับ""คะ"ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ เสิ่นเยี่ยนจือก้มมองใบหน้าน่ารักของเธอ หวังว่าเธอจะเตือนให้เขาระวังตัวเหมือนทุกครั้งก่อนที่เขาจะเดินทางไปธุรกิจ แต่เธอกลับก้มหน้าลงโดยไม่มีท่าทีว่าจะพูดอะไรเลยในที่สุด เขาก็เลิกคาดหวัง"ผมยังมีงานที่ต้องจัดการอีกนิดหน่อย คุณเข้านอนก่อนเถอะ"พูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกไปเมื่อกลับมาที่ห้องทำงาน เขาเพิ่งนั่งลงก็ได้รับโทรศัพท์จากหยางอวี่"ประธานเสิ่น ผมตรวจสอบแล้ว พ่อของคุณคุณฉินจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนไต แต่ตอนนี้ยังไม่มีไตที่เหมาะสม ดังนั้นเขายังอยู่ในห้องไอซียูครับ""รับทราบ ส่งคนไปหาไต""ครับ"หลังจากวางสาย เสิ่นเยี่ยนจือครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจเก็บไตไว้ให้จี้เหว่ยหงเพราะสำหรับเขาแล้ว จี้อี่หนิงสำคัญกว่าเช้าวันรุ่งขึ้น ทันทีที่จี้อี่หนิงมาถึงหน้าบริษัท เธอก็ถู
จี้อี่หนิงมีแววประหลาดใจในดวงตา “เซอร์ไพรส์อะไรเหรอ?”“ถ้าบอกตอนนี้ มันจะยังเรียกว่าเซอร์ไพรส์อยู่ไหม?”"ก็ได้"ทั้งสองซื้อเสื้อผ้าเสร็จ กำลังจะออกจากร้าน แต่บังเอิญเจอฉินจืออี้และเฉินเสวี่ยหรงดูเหมือนพวกเธอก็มาซื้อของเช่นกัน ในมือหิ้วถุงพะรุงพะรัง"ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่? กลางดึกไม่อยู่บ้าน ทำไมไม่อยู่พักผ่อนดีๆ แค่รู้แต่ไปเดินช็อปปิ้ง? กระโปรงที่เธอถืออยู่ในมือ เธอทำงานทั้งปีก็คงซื้อไม่ได้หรอก? ลูกชายฉันก็หาเงินมาอย่างยากลำบาก อย่าทำอะไรไม่ได้ช่วยเขาเลย แค่รู้แต่ใช้เงินไปเรื่อยๆ"เฉินเสวี่ยหรงมองจี้อี่หนิงด้วยสายตาเต็มไปด้วยโทสะ ถ้าไม่ติดว่าสือเวยอยู่ด้วย คืนนี้ เธอคงไม่ปล่อยเรื่องที่จี้อี่หนิงพยายามยั่วยวนเสิ่นซื่อไปง่ายๆสือเวยไม่คิดว่าเฉินเสวี่ยหรงจะดูถูกจี้อี่หนิงขนาดนี้ เธอหัวเราะเยาะ กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จี้อี่หนิงยกมือห้าม“คุณเฉิน คุณกับคุณฉินก็ใช้เงินของเสิ่นเยี่ยนจือเหมือนกันนี่คะ? คุณเป็นแม่ของเขาก็ว่าไปอย่าง แต่เงินที่คุณฉินใช้ ฉันมีสิทธิ์เรียกให้คืนได้นะ”สีหน้าของเฉินเสวี่ยหรงและฉินจืออี้เปลี่ยนไปทันที“จี้อี่หนิง ฉันเต็มใจให้จืออี้ใช้เงิน ถ้าเธอท้องได้