จี้อี่หนิงเม้มริมฝีปากเล็กน้อยก่อนพูดขึ้นว่า "ดูออกเลยว่าคนของเทียนรุ่ยอยากจะให้ความร่วมมือครั้งนี้สำเร็จ บางทีพวกเขาอาจจะส่งคนมาติดตามเรา หากรู้ว่าเราจะไปฐานสมุนไพร อาจจะมีการเตรียมตัวล่วงหน้าไว้แล้วก็ได้"ถ้าเป็นแบบนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไปถึงฐานสมุนไพรแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะรู้คุณภาพที่แท้จริงของสมุนไพรได้ซุนสิงที่อยู่ข้างๆ หัวเราะแล้วพูดว่า "คุณจี้ไม่ต้องกังวล เรามีวิธีที่จะปิดบังจากคนของเทียนรุ่ยได้แน่นอน"รู้ว่าพวกเขามีแผนรับมือ จี้อี่หนิงจึงพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรอีกบ่ายสองกว่า ซุนสิงได้จัดหารถมารับพวกเขาที่หน้าโรงแรมหลังจากขึ้นรถได้ไม่นาน คนขับก็มองกระจกหลังแล้วพูดว่า "มีคนตามมาจริงๆด้วย"ซุนสิงมีสีหน้าสงบนิ่งและพูดว่า "ไม่ต้องสนใจ"ถ้าหากเราสลัดพวกเขาออกไป ย่อมจะทำให้ทางฝั่งเทียนรุ่ยเกิดความสงสัยอย่างแน่นอนต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ ปล่อยให้คนของเทียนรุ่ยคิดว่าพวกเขารู้ 'ความเคลื่อนไหว'ของเราอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะตบตาพวกเขาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถก็จอดที่หน้าห้างสรรพสินค้าที่คึกคักที่สุดในเมืองหรงพวกเขาลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในห้างทันที คนของเทียนรุ่ยก็เดินตามเข้าไปด้วยเช่นกันเ
รู้สึกได้ถึงมือใหญ่ที่แข็งแรงกำลังโอบเอวของเธออยู่ และความอุ่นของร่างกายที่ส่งผ่านเนื้อผ้าบางๆ จี้อี่หนิงก็หน้าแดงขึ้นทันทีเธอรีบยืนให้มั่นคง รู้สึกไม่กล้ามองหน้าเขา"ประธานเสิ่น ขอบคุณค่ะ"เสิ่นซื่อดึงมือกลับอย่างไม่ใส่ใจและพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า"ดูสมุนไพรไปด้วยก็ต้องระวังทางด้วย""ทราบแล้วค่ะ"หลังจากนั้น จี้อี่หนิงไม่กล้ามองมั่วซั่วอีก คอยระวังทางข้างหน้าอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะเผลอสะดุดล้มอีก"นี่คือระย่อมน้อยที่ตากแห้งแล้ว"เจ้าหน้าที่หยิบระย่อมน้อยแห้งจากชั้นวางออกมาให้เสิ่นซื่อหนึ่งชิ้น เสิ่นซื่อรับมาดูสักพักแล้วส่งต่อให้จี้อี่หนิง"คุณลองดูสิ"รากระย่อมน้อยนี้กับสมุนไพรที่เทียนรุ่ยให้พวกเขาดูเมื่อเช้านั้น ดูผิวเผินแล้วไม่มีอะไรแตกต่างกัน แต่ต้องทำการทดสอบก่อนจึงจะทราบปริมาณสารที่มีประสิทธิภาพจี้อี่หนิงหันไปมองเจ้าหน้าที่แล้วถามว่า "ปกติแล้วปริมาณแอลคาลอยด์ในระย่อมน้อยจะมีอยู่เท่าไหร่?""โดยทั่วไปสามารถมีได้ถึง 0.1% ถ้ามากกว่านี้ก็จะค่อนข้างยากแล้ว"ที่จริงแล้ว 0.1% ก็ถือว่าเป็นค่าที่ไม่เลว หากเทียนรุ่ยซื้อสมุนไพรทั้งหมดจากที่นี่จริงๆ ค่าในเช้าวันนี้ก็น่าจะเป็นก
สุดท้ายก็เป็นน้ำใจของคน เขารีบเก็บความไม่พอใจไว้ในใจอย่างรวดเร็ว และยังรักษารอยยิ้มที่เป็นมิตรบนใบหน้าเช่นเดิม"นั่นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทางบริษัทของเรามีความจริงใจอย่างมากในการที่จะร่วมมือกับชิงหงระยะยาว หวังว่าประธานเสิ่นจะพิจารณาอย่างดี"เสิ่นซื่อพยักหน้าและพูดว่า "อืม ประธานเจียง มา ฉันดื่มอวยพรให้คุณ"ทั้งสองคนคุยกันต่อ ไม่นานนักเหล้าขวดหนึ่งก็หมดลงใบหน้าขาวเนียนของเสิ่นซื่อเริ่มมีสีแดงระเรื่อขึ้น ดวงตาที่เคยเย็นชาก็มีแววเมาเล็กน้อย แสงไฟจากด้านบนส่องลงมา ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูโดดเด่นจนยากที่จะละสายตาเมื่อรู้ตัวว่ามองเสิ่นซื่อจนเคลิ้ม จี้อี่หนิงก็รีบหันสายตากลับมาอย่างรวดเร็ว"คุณจี้ ฉันขอดื่มอวยพรให้คุณ"จี้อี่หนิงหันไปมอง จงฉิงที่อยู่ข้างๆ ส่งแก้วไวน์แดงให้เธอ พร้อมกับยิ้มอย่างมีไมตรี"ขอโทษค่ะ คุณจง ฉันดื่มเหล้าไม่เป็น""นี่เป็นไวน์แดงที่มีแอลกอฮอล์ต่ำ ดื่มแล้วไม่เมา แถมยังหอมหวานนุ่มนวล คุณจี้ลองดื่มดูได้นะคะ"พูดจบ จงฉิงก็ยื่นแก้วไวน์แดงไปข้างหน้าอีกเล็กน้อยจี้อี่หนิงยื่นมือออกไปเพื่อจะปฏิเสธ แต่พอมือแตะโดนจงฉิง มือของอีกฝ่ายที่ถือแก้วไวน์แดงอยู่ก็เอียงเล็กน
ในห้องส่วนตัวของร้านอาหาร เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วแต่จี้อี่หนิงยังไม่กลับมา เสิ่นซื่อจึงขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว"ซุนสิง โทรหาจี้อี่หนิงหน่อย"เจียงปินที่อยู่ข้างๆ รีบพูดขึ้นว่า "ประธานเสิ่น ไม่ต้องกังวลไปครับ ยังไงก็มีจงฉิงอยู่กับคุณจี้ ไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก"เสิ่นซื่อเม้มปากโดยไม่พูดอะไรอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่าอารมณ์ของเขาไม่ค่อยดีนักเจียงปินรีบยกแก้วดื่มอวยพรให้เขา โดยไม่แสดงความรู้สึกผิดมากนัก เพราะคิดว่าอีกฝ่ายก็เป็นเพียงพนักงานธรรมดา แม้ว่าหลังจากนี้เสิ่นซื่อจะรู้ความจริง ก็ไม่น่าจะทำเรื่องใหญ่โตเพราะผู้หญิงคนหนึ่งซุนสิงกดโทรหาจี้อี่หนิง ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นภายในห้องส่วนตัวตอนที่จี้อี่หนิงไปเข้าห้องน้ำ เธอไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วยเลยเมื่อเห็นสีหน้าของทั้งสองคนไม่ค่อยดี เจียงปินจึงรีบพูดขึ้นว่า "เดี๋ยวฉันโทรหาจงฉิงดูนะ"เขากดโทรหาจงฉิง และเมื่อปลายสายรับ เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า "จงฉิง ทำไมคุณกับคุณจี้ยังไม่กลับมาอีก?"เจียงปินเปิดลำโพงเสียงดังไว้ แล้วเสียงเรียบเฉยของจงฉิงก็ดังมาจากปลายสาย"ประธานเจียง ไวน์แดงที่เลอะเสื้อขอคุณจี้
คนนั้นดูเหมือนจะไม่คาดคิดว่าเธอจะตื่นขึ้นในเวลานี้ ถูกเธอผลักลงจากเตียงทันที และเผลอหลุดคำด่าหยาบคายออกมา"คุณเป็นใคร?!"จี้อี่หนิงนิงถอยหลังไปพร้อมกับควานหาของใกล้มือแล้วขว้างไปที่เขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวชายคนนั้นหัวเราะเยาะและพูดด้วยน้ำเสียงลามก "ฉันคือคนที่จะทำให้เธอมีความสุขจนขึ้นไปถึงสวรรค์"พูดจบ เขาก็พุ่งเข้าหาจี้อี่หนิงอย่างรวดเร็วในมุมห้อง มีจุดสีแดงกะพริบอยู่ ซึ่งบันทึกทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนี้ไว้ทั้งหมดขณะที่ชายคนนั้นพุ่งเข้ามา จี้อี่หนิงฟาดโคมไฟในมือเข้าไปที่หน้าผากของชายคนนั้นอย่างแรงอีกฝ่ายร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อรู้สึกได้ว่ามีของเหลวอุ่นๆ ไหลลงมาจากหน้าผาก เขายกมือขึ้นแล้วตบจี้อี่หนิงอย่างแรง"นังสารเลว! กล้าตีข้าเหรอ ดูสิว่าข้าจะเล่นงานแกให้ตาย!"เขาแย่งโคมไฟจากมือจี้อี่หนิงแล้วโยนลงพื้น ก่อนจะกดร่างเธอไว้แน่น ยื่นมือไปคว้าคอเสื้อของจี้อี่หนิงแล้วกระชากอย่างแรงกระดุมเสื้อกระเด็นหลุดออก เผยให้เห็นผิวหนังบริเวณหน้าอกและชุดชั้นในในดวงตาของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความโลภและความปรารถนา ยื่นมือไปจับสายเสื้อชั้นในของเธอแล้วดึงลงด้วยท่าทางลา
เสิ่นซื่อนั่งอยู่ข้างเตียงคนไข้ และมองเธออย่างเรียบเฉยความทรงจำสุดท้ายที่ผุดเข้ามาในหัวก่อนหมดสติ จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากล่าง หลุบตาลงต่ำ "ประธานเสิ่น ขอบคุณที่ช่วยฉันนะค่ะ"หากไม่ใช่เพราะเสิ่นซื่อมาทันเวลา เมื่อวานจะเกิดอะไรขึ้นแค่คิดก็รู้ได้"ครั้งนี้ฉันไม่รอบคอบเองถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ขอโทษนะค่ะ"เมื่อสบเข้ากับดวงตาจริงจังของเสิ่นซื่อ ใจจี้อี่หนิงเต้นระส่ำโดยไม่รู้ตัว จึงเบือนหน้าหนีอย่างลืมตัว"มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหรอก ยังไงซะก็ไม่มีใครคิดว่าคนของเทียนรุ่ยจะทำเรื่องแบบนี้"อีกอย่าง จงฉิงไม่ใช่แค่อยากหาคนมาสบประมาทเธอ แต่วางแผนจะอัดวิดีโอด้วย เดาว่าน่าจะเป็นเพราะตัวเองไม่ได้รับสินบนจากเธอ จึงคิดจะอัดวิดีโอเพื่อมาข่มขู่เธอพอนึกมาถึงตรงนี้ แววตาของจี้อี่หนิงก็เย็นชาลงเมื่อเห็นดวงตาหลุบต่ำของเธอ ทั้งยังสีหน้าขาวซีดนั่นอีก แววตาเสิ่นซื่อพลันขรึมลง"ยังมีตรงไหนไม่สบายอยู่อีกหรือเปล่า?"จี้อี่หนิงส่ายหน้า และกล่าวอย่างลังเล "ทางจงฉิง...""คุณไม่ต้องห่วง เธอได้รับโทษที่สมควรได้รับแล้ว ชิงหงก็ไม่ร่วมมือกับเทียนรุ่ยแล้วด้วย"ได้ยินแบบนี้จี้อี่หนิงก็เม้มปาก "ค่ะ รบกวนประธ
"ประธานเสิ่น ฉันกำลังซื้อผักอยู่ ตอนเย็นคุณอยากทานอะไร?"จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังเห็นหน้าอีกฝ่ายชัดเจน สีหน้าก็ขรึมลงทันทีเป็นฉินจืออี้เมื่อเห็นหน้าที่เคลือบไปด้วยรอยยิ้มบาง และสีหน้าเขินอายประดุจสาวน้อยของเธอ นัยน์ตาจี้อี่หนิงฉายประกายความรังเกียจออกมาดูท่า ประธานเสิ่นที่เธอเอ่ยออกมาจากปากจะเป็นเสิ่นเยี่ยนจือครั้นนึกถึงสองคนนี้กล้าทำเรื่องแบบนั้นในโรงพยาบาล จี้อี่หนิงก็รู้สึกขยะแขยงแล้วเธอหยิบปลามาอย่างรวดเร็ว แล้วหันไปเคลื่อนรถเข็นและจากไปฉินจืออี้ไม่เห็นจี้อี่หนิง ยังคงคุยโทรศัพท์กับเสิ่นเยี่ยนจือ แต่ทว่าท่าทางของปลายสายกลับเย็นชาอย่างมาก"คืนนี้ไม่ไปแล้ว เธอกินเองเถอะ"ว่าจบ ก็ไม่ให้โอกาสฉินจืออี้ได้พูด เสิ่นเยี่ยนจือตัดสายทิ้งทันทีหลังวางสายเขาก็เปิดดูไลน์ เห็นจี้อี่หนิงยังไม่ตอบกลับข้อความที่ตนส่งให้เมื่อสองสามวันก่อน นัยน์ตาพลันฉายประกายหงุดหงิดออกมาในระหว่างที่จิตใจว้าวุ่นอยู่นั้น หยางอวี่ก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา"ประธานเสิ่น เมื่อครู่คนทางเมืองหรงโทรมาว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรผิดปกติ เพียงแต่ตอนเย็นเมื่อสองสามวันก่อนคุณนายถูกคนของเทียนรุ่ยเล
ได้ยินแบบนี้ใจเสิ่นเยี่ยนจือก็โล่งสุดๆ ขอแค่เธอไม่รู้เรื่องนั้นก็พอแล้ว"อี่หนิง ผมบล็อคเธอไปนานแล้ว เธอใช้หมายเลขโทรศัพท์อื่นติดต่อผม ตอนนั้นผมตัดสายทิ้งทันทีและไม่ได้ตอบตกลงว่าจะไปกินข้าวกับเธอด้วย"เสิ่นเยี่ยนจือมองเธอด้วยท่าทางลำบากใจ ท่าทางนั้นราวกับประสบกับความอยุติธรรมมามากหากไม่ใช่เพราะรู้ว่าเขากับฉินจืออี้ทำเรื่องขยะแขยงเหล่านั้น ไม่แน่ว่าจี้อี่หนิงคงจะเชื่อเขาจริงๆเพียงแต่ ตอนนี้เธอไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าตัวเองแอบรวบรวมหลักฐานการนอกใจของเขาเธอหลุบตาลง และกล่าวอย่างขืนใจ "งั้นฉันคงเข้าใจคุณผิด ขอโทษด้วย"เมื่อเห็นท่าทางของเธออ่อนลงมาก เสิ่นเยี่ยนจือก็กล่าวอย่างอ่อนโยน “คุณไม่ต้องห่วง ผมเคยสัญญากับคุณไว้ว่าจะไม่ติดต่อเกี่ยวข้องใดๆ กับเธออีก ก็จะไม่ผิดสัญญา”จี้อี่หนิงขยะแขยงคำพูดนี้ของเขาจนแทบอยากอ้วก ตอนนี้เขาโกหกหน้าด้านๆ ต่อหน้าเธอแล้วเหรอ?เธอไม่เข้าใจเลย ชายหนุ่มที่จริงใจกระตือรือร้นในตอนนั้น ทำไมถึงเปลี่ยนมาเป็นผู้ชายพูดคำโกหกไปเสียได้“อืม วันนี้คุณมามีเรื่องอะไร?”“ผม…ผมแค่อยากมาถามคุณว่า ไปทำงานราบรื่นดีไหม?“จี้อี่หนิงขมวดคิ้ว เขาวิ่งแจ้นมาถึงนี่เพื่อถามไ
"แก!"เฉินเสวี่ยหรงโกรธจนเกือบจะเป็นลม ร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง ชี้นิ้วไปที่เขาแต่พูดอะไรไม่ออกในที่สุด เฉินเสวี่ยหรงก็จากไปด้วยความโกรธวันรุ่งขึ้นตอนเที่ยง จี้อี่หนิงรีบไปที่ร้านอาหาร ทนายหวางมาถึงแล้วเธอเดินอย่างรวดเร็วไปนั่งฝั่งตรงข้ามเขา ใบหน้าแสดงความรู้สึกผิด "ขอโทษค่ะ ห้องปฏิบัติการทำให้ฉันล่าช้านิดหน่อย""ไม่เป็นไร คุณจี้ ลองดูเอกสารนี้ก่อนครับ"รับเอกสารที่ทนายหวางส่งให้ จี้อี่หนิงเปิดดูสักครู่ คิ้วของเธอขมวดโดยไม่รู้ตัวนับตั้งแต่เสิ่นเยี่ยนจือนอกใจ เขาก็เริ่มย้ายทรัพย์สินอย่างจงใจ ทรัพย์สินส่วนใหญ่ตอนนี้อยู่ในชื่อของฉินจืออี้"คุณจี้ ปัญหาสำคัญที่สุดคือ ตอนนี้เสิ่นเยี่ยนจือและฉินจืออี้มีสถานะเป็นสามีภรรยา และตอนที่เขาย้ายทรัพย์สิน เขาน่าจะปรึกษาทนายมาแล้ว ทำได้อย่างไร้ที่ติ การจะเอาทรัพย์สินเหล่านี้กลับคืนมานั้นยากมาก""แล้วฉันจะได้รับส่วนแบ่งประมาณเท่าไหร่?""ห้าล้าน"จี้อี่หนิงไม่รู้สึกประหลาดใจกับจำนวนนี้มากนัก ตอนที่เธอดูเอกสารเมื่อครู่ก็พอเดาได้อยู่แล้ว"ได้ ฉันเข้าใจแล้ว คุณไปเจรจากับทนายของเขาเถอะ"ทนายหวางชะงักไปชั่วขณะ มองเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจ "คุณ
"หากคุณต้องการแจ้งตำรวจ ก็รีบไปแจ้งเลย ถ้าคุณไม่แจ้ง ฉันจะแจ้งแทนคุณเองค่ะ"พูดจบ จี้อี่หนิงก็วางสายในวินาทีถัดมา เธอส่งวิดีโอการตรวจสอบที่ได้คัดลอกไว้ในตอนเช้าให้ทนายหวางโดยตรง และยังอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เฉินเสวี่ยหรงทำ ทนายหวางบอกว่าสามารถฟ้องร้องเฉินเสวี่ยหรงในข้อหาเผยแพร่ข่าวลือเท็จได้จี้อี่หนิงยิ้มมุมปาก แล้วตอบข้อความกลับไป[งั้นก็ฟ้องเลย]แม้ว่าการเผยแพร่ข่าวลือเท็จจะไม่ถึงขั้นทำให้เฉินเสวี่ยหรงต้องติดคุก แต่หลังจากข่าวการถูกฟ้องร้องเรื่องเผยแพร่ข่าวลือเท็จแพร่ออกไป เธอคงจะรู้สึกอับอายอย่างที่สุดไม่ใช่แค่การทำให้คนอื่นรำคาญ ใครๆ ก็ทำได้นี่ทนายหวางตอบกลับว่าตกลง จากนั้นถามจี้อี่หนิงว่าพรุ่งนี้ตอนเที่ยงว่างหรือไม่ เขาอยากพูดคุยกับเธอเกี่ยวกับเรื่องการแบ่งทรัพย์สินกับเสิ่นเยี่ยนจือหลังจากนัดพบกันที่ร้านอาหารใกล้บริษัทในวันพรุ่งนี้ จี้อี่หนิงก็เป่าผมแล้วเข้านอนอีกด้านหนึ่ง เสิ่นเยี่ยนจือนั่งอยู่ในห้องทำงานด้วยสีหน้าเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ ต่อตัวเอง"เธอไม่ยอมพบ"เฉินเสวี่ยหรงกัดฟันพูด "งั้นพรุ่งนี้ฉันจะไปหาเธออีก ต้องทำให้เธอเซ็นหนังสือให้อภัยให้ได้!"
พูดง่ายๆ ก็แค่เธอไม่ได้ชอบเขามากขนาดนั้นแต่ไม่เป็นไร พวกเขายังมีเวลาทั้งชีวิต เขามีความอดทนพอ ที่จะทำให้เธอสักวันต้องพึ่งพาเขาเหมือนที่เคยพึ่งพาเสิ่นเยี่ยนจือ"อืม แต่ผมก็ยังหวังว่า ถ้ามีใครมาหาเรื่องเธอ เธอจะคิดถึงผมก่อน แล้วให้ผมช่วย ไม่ใช่แบกรับทุกอย่างคนเดียวนะ"ท่าทางจริงจังของเขาทำให้หัวใจของจี้อี่หนิงอ่อนยวบลงในทันที"คะ"พอกลับมาที่ห้อง จี้อี่หนิงกำลังจะล้างเครื่องสำอาง แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นสายจากสือเวย"อี่หนิง แม่สามีเก่าของเธอปล่อยข่าวลือไปทั่วว่าเธอลงมือทำร้ายเธอ ตอนนี้เรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วสังคมชั้นสูงของเมืองเซินแล้ว"จี้อี่หนิงหลุบตาลง "ไม่ต้องสนใจ เดี๋ยวเธอก็ได้รับผลกรรมของตัวเอง"สือเวยพูดด้วยน้ำเสียงโกรธจัด "เธอไม่รู้หรอกว่าเธอพูดแย่ขนาดไหน ฉันโกรธจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว"หัวใจของจี้อี่หนิงอบอุ่นขึ้นมาทันที เธอพูดปลอบอีกฝ่ายเบา ๆ "ร่างกายเธอยังไม่หายดี อย่าให้คนแบบนี้มาทำลายอารมณ์เธอเลย""อืม ฉันแค่กลัวว่าเธอจะเสียใจนะ""ช่วงเวลาที่เสียใจที่สุดมันผ่านไปนานแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าเธอหรือเสิ่นเยี่ยนจือจะทำอะไร ฉันก็ไม่สนใจอีกแล้ว"สำหรับเธอในตอนนี้ เฉินเสวี่ยหร
ทั้งสองคนจะเตรียมงานทดลองเสร็จและเลิกงาน ก็ปาเข้าไปสองทุ่มกว่าแล้วจี้อี่หนิงรู้ว่าเสวียนหมิงหมิงอยู่ไกล พอเก็บอุปกรณ์ทดลองเสร็จแล้ว เธอจึงเสนอที่จะไปส่งอีกฝ่ายกลับบ้านคืนนี้ดวงตาของเสวียนหมิงหมิงเป็นประกายทันที "จริงเหรอ? ขอบคุณมากเลยพี่อี่หนิง!""ไม่เป็นไร ตอนกลางคืนเธอเป็นผู้หญิงกลับบ้านคนเดียวมันไม่ปลอดภัย"ทั้งสองพูดคุยกันไปพลาง เก็บอุปกรณ์เข้าที่ไปพลาง พอแน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วก็ลงไปข้างล่างด้วยกันจี้อี่หนิงส่งข้อความถึงเสิ่นซื่ออีกฝ่าย รู้ว่าเธอจะไปส่งเสวียนหมิงหมิงกลับบ้านก็ไม่ได้พูดอะไรแต่พอเสวียนหมิงหมิงเห็นเสิ่นซื่อ กลับรู้สึกประหม่าขึ้นมาพอขึ้นไปนั่งเบาะหลังแล้ว เห็นเสิ่นซื่อนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ เธอยิ่งตกใจจนทำตัวไม่ถูกให้ประธานบริษัทมาเป็นคนขับรถไปส่งเธอกลับบ้าน เรื่องแบบนี้แม้แต่ในฝันเธอก็ไม่กล้าคิด"ประธานเสิ่น ขอบคุณมากนะค่ะ"เสิ่นซื่อพยักหน้าเบา ๆ แล้วหันไปมองจี้อี่หนิง"นำทางหน่อย""คะ"บ้านของเสวียนหมิงหมิงอยู่คนละทางกับวิลล่าของเสิ่นซื่อ ทั้งสองจึงไปส่งเสวียนหมิงหมิงก่อนตลอดทาง เสิ่นซื่อไม่ค่อยพูดอะไร นอกจากคุยกับจี้อี่หนิงเป็นบางครั้งเสวียนหม
ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นหวงอีเหรินเดินเข้าไปในห้องทำงานของเสิ่นซื่อ ยิ้มมองไปที่เขาเขากำลังจัดการกับเอกสาร แสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างตกลงบนตัวเขา ดูเหมือนจะเคลือบเขาด้วยแสงสว่าง ใบหน้าหล่อเหลาทำให้หัวใจเต้นแรงยิ่งขึ้น"ประธานเสิ่น ฉันเตรียมสัญญาไว้พร้อมแล้ว คุณคิดว่าเมื่อไหร่เราจะลงนามกันดี?"เสิ่นซื่อวางเอกสารในมือลงและมองไปที่เธอ ในดวงตาไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย"คุณหวงคุณอาจจะเข้าใจผิด วันนี้ผมพบคุณเพราะอยากบอกว่าชิงหงมีพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจรายอื่นที่สนใจแล้ว คุณหวงไม่ต้องมาอีกแล้วนะ"รอยยิ้มของหวงอีเหรินแข็งค้างบนใบหน้า มองดูเสิ่นซื่อด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ"เธอพูดอะไรนะ?"พวกเขาคุยกันมาหลายครั้งแล้ว ดูเหมือนจะลงนามในสัญญาแล้ว แต่เขากลับเปลี่ยนใจ?แม้จะรู้สึกโกรธในใจ หวงอีเหรินก็พยายามรักษาสีหน้า จ้องมองเสิ่นซื่อแล้วพูดว่า "ฉันอยากทราบเหตุผลได้มั้ย?""คุณหวงรบกวนแฟนผมโดยไม่มีเหตุผล แสดงว่าคุณหวงมีปัญหาด้านความเป็นมืออาชีพ ดังนั้นหลังจากที่ผมพิจารณาแล้ว ผมตัดสินใจชะลอเรื่องความร่วมมือไว้ก่อน"อีกแล้วจี้อี่หนิง!สีหน้าของหวงอีเหรินซีดเขียว มองดูเสิ่นซื่อด้วยความโกรธ "ประธานเ
"ผมจะระมัดระวังการควบคุมตัวเองในอนาคต แต่ถ้าผมควบคุมไม่ได้ คุณก็ไม่สามารถโทษผมได้"จี้อี่หนิง "..."คำพูดของเขาพูดออกมาแล้วมันมีความแตกต่างอะไรกับการไม่พูดเลย?เมื่อเห็นสีหน้าของจี้อี่หนิงที่ดูเคร่งเครียดเล็กน้อย เสิ่นซื่อรู้ว่าถ้าอยู่ต่อไป เธออาจจะระเบิดอารมณ์ เขาจึงรีบพูดว่า "ผมมีประชุมในอีกสักครู่ ตอนเลิกงานส่งข้อความหาผม เราจะกลับด้วยกัน"หลังจากเสิ่นซื่อจากไป จี้อี่หนิงก็ไปที่ห้องปฏิบัติการทันทีเมื่อเสวียนหมิงหมิงเห็นเธอ ดวงตาของเขาวาบขึ้นด้วยความซุกซน "พี่อี่หนิง เมื่อกี้ฉันไปที่ห้องทำงานของพี่ พี่เดาซิว่าฉันเห็นอะไร?""อะไรนะ?"จี้อี่หนิงมีลางสังหรณ์ไม่ดี เขาคงไม่ได้เห็นฉากที่เสิ่นซื่อจูบเธอใช่ไหม?และแล้ว ในวินาทีถัดมาคำพูดของเสวียนหมิงหมิงก็ยืนยันสิ่งที่เธอคาดเดาที่ไหนมีรอยแยกในพื้น ให้เธอคลานเข้าไปเธอกระแอมเบาๆ เพื่อกลบเกลื่อนความอึดอัด "เอาละ รีบทำการทดลองกันเถอะ ไม่อย่างนั้นวันนี้เราต้องทำงานล่วงเวลาแน่""ได้ ฮ่าๆๆ... พี่อี่หนิงไม่คิดว่าจะได้เห็นพี่เขินแบบนี้""..."เวลาช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว การทดลองวันนี้ต้องใช้เวลาเจ็ดชั่วโมง และต้องมีคนคอยเฝ้าดูตลอดเ
สังเกตเห็นว่าเธอมีท่าทีเย็นชาต่อเขา เสิ่นซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย เสียงทุ้มลงนิดหน่อย "มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?"จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย "ไม่มีนะ เป็นอะไรหรือ?""รู้สึกว่าวันนี้อารมณ์ของเธอดูเหมือนจะหม่นหมองไปหน่อย"จี้อี่หนิงส่ายหัว "ไม่มีอะไรหรอก นั่งลงก่อนสิ ฉันจะเปลี่ยนยาให้คุณ"เสิ่นซื่อมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้งขึ้น แต่ไม่ได้ถามต่อ"ครับ"เงียบกันขณะเปลี่ยนยาให้เสิ่นซื่อเสร็จแล้ว จี้อี่หนิงเก็บของที่เปลี่ยนออกมาเรียบร้อยแล้วมองไปที่เขา "คุณกลับไปเถอะ ฉันต้องทำงานแล้ว"เสิ่นซื่อจ้องมองเธอ ผ่านไปหลายวินาทีก่อนจะเอ่ยปาก "เมื่อคืนผมไม่ได้กลับ เธอโกรธผมหรือ?"จี้อี่หนิงชะงักเล็กน้อย "ไม่นะ ทำไมคุณคิดแบบนั้น?""เพราะท่าทีของเธอต่อผมเย็นชามาก น่าจะเป็นเพราะผมทำอะไรไม่ถูกสักอย่าง ทำให้เธอโกรธ"เมื่อสบกับดวงตาอ่อนโยนของเขา จี้อี่หนิงโดยสัญชาตญาณหลบตาไปทางอื่น"ไม่มีอะไรหรอก อาจจะเพราะเมื่อคืนนอนเตียงใหม่ไม่ชิน เลยพักผ่อนไม่ค่อยดี""จริงเหรอ?""อืม เมื่อคืนคุณอยู่ที่บริษัทจัดการงานทั้งคืน คงจะยุ่งมาก และการที่คุณอยู่ในห้องปฏิบัติการนานเกินไปก็ไม่เหมาะ พวกเราควรจะเก็บตัวเ
เฉินเสวี่ยหรงรู้สึกโกรธจนหน้าซีด เงยหน้าขึ้นและต้องการตบจี้อี่หนิงแต่มือของเธอยังไม่ทันได้แตะตัว จี้อี่หนิงก็ถูกจับข้อมือไว้เสียก่อน"ปล่อย!"จี้อี่หนิงยิ้มบางๆ "คุณเฉิน ฉันแนะนำว่าครั้งหน้าที่คุณจะขอร้องใคร ควรปรับทัศนคติให้ถูกต้องก่อน ไม่เช่นนั้นคุณจะกลายเป็นตัวตลก"พูดจบ เธอก็ปล่อยมือของอีกฝ่ายเฉินเสวี่ยหรงยังคงดิ้นรน แต่ไม่คาดคิดว่าจี้อี่หนิงจะปล่อยมือกะทันหัน ทำให้ร่างของเธอเซไปด้านหลังและล้มลงอย่างน่าอับอายประตูลิฟต์เปิดออก จี้อี่หนิงเดินเข้าไปโดยไม่หันกลับมามองเฉินเสวี่ยหรงพยายามจะขวาง แต่เมื่อครู่ตอนล้มเธอได้บิดข้อเท้า ตอนนี้รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง จึงไม่สามารถลุกขึ้นไปตามจี้อี่หนิงได้"หยุดนะ! ไอ้เด็กต่ำช้า! ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ!"ดวงตาของจี้อี่หนิงวาบขึ้นด้วยความเย็นชา หลังจากประตูลิฟต์ปิดลง เธอตรงไปที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดที่ชั้นหนึ่งหลังจากคัดลอกวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเธอกับเฉินเสวี่ยหรงหน้าลิฟต์ไว้แล้ว จี้อี่หนิงจึงออกไปเธอขึ้นไปชั้นบนสุดเพื่อหาเสิ่นซื่อ แต่ได้รับแจ้งว่าเขากำลังประชุมอยู่จี้อี่หนิงส่งยาและผ้าพันแผลให้ซุนสิง"เลขาซุน ช่วยเปลี่ยนยาให้
เมื่อเห็นว่าท่านผู้เฒ่าเสิ่นไม่ได้มอบหมายเรื่องนี้ให้ตนอีกต่อไป ทนายความลุกขึ้นกล่าวว่า "คุณเสิ่นผู้อาวุโส ผมต้องไปหาข้อมูลดูว่ามีวิธีประกันตัวคุณชายใหญ่ออกมาได้หรือไม่ ผมขอตัวก่อน"ท่านผู้เฒ่าเสิ่นพยักหน้า "ไปเถอะ"หลังจากทนายความจากไป ท่านผู้เฒ่าเสิ่นมองไปที่เฉินเสวี่ยหรง"เธอก็กลับไปเถอะ ซื่อเยี่ยนจะออกมาได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะโน้มน้าวจี้อี่หนิงได้หรือไม่"พูดจบ ท่านผู้เฒ่าเสิ่นก็ลุกขึ้นเดินจากไปมองตามแผ่นหลังของเขา เฉินเสวี่ยหรงอดกัดฟันไม่ได้ ดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นดูเหมือนว่าท่านผู้เฒ่าเสิ่นก็พึ่งพาไม่ได้ มีเพียงเธอเท่านั้นที่ห่วงความเป็นความตายของเสิ่นซื่อเยี่ยนหลังจากออกจากบ้านตระกูลเสิ่น เฉินเสวี่ยหรงอัดอั้นตันใจโทรหาเสิ่นเยี่ยนจือ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้อย่างเกินจริง"เยี่ยนจือ ตอนนี้การช่วยพ่อของลูกออกมาขึ้นอยู่กับพวกเราเท่านั้น พรุ่งนี้ฉันจะไปรอที่ด้านล่างของตึกชิงหง ฉันไม่เชื่อว่าจะดักไม่เจอเธอ!"อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเสียงเย็นชาของเสิ่นเยี่ยนจือจึงดังมา "อืม ผมจะหาทางสร้างปัญหาให้บริษัทของอาเล็กผมเล็กน้อย เพื่อให้เขาไม่มีเวลามาดูแลจี้อี่หน