มือของจี้อี่หนิงที่กำลังคีบอาหารอยู่ชะงัก "ไม่มีอะไรที่อยากได้หรอก"เมื่อต้นปีเสิ่นเยี่ยนจือสัญญาว่าจะหาเวลาว่าวันเกิดของเธอในปีนี้เขาจะหาเวลาว่างล่วงหน้าพาเธอไปเที่ยวพักผ่อนที่มัลดีฟส์ซึ่งเป็นที่ที่เธออยากไปมาโดยตลอดตอนนี้เพิ่งผ่านไปได้ไม่กี่เดือน คิดว่าตอนนี้คงลืมไปเสียสนิทหมดแล้วแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เวลาที่เธอแก้แค้นเขาจะได้ไม่ต้องใจอ่อนโดยไม่จำเป็น"งั้นฉันคงต้องตั้งใจคิดหน่อยแล้วว่าจะให้อะไรเธอดี ถ้าอยากได้อะไรก็บอกฉันได้ตลอดเลยนะ""ค่ะ"หลังทานข้าวเสร็จ เสิ่นเยี่ยนจือให้จี้อี่หนิงไปนั่งดูทีวีที่โซฟา แล้วเขาจะเก็บจานเองเมื่อก่อนพวกเขาก็เคยอยู่กันแบบสองต่อสองอยู่บ้างเป็นครั้งคราว จะให้คนรับใช้หยุดงานสองสามวัน และช่วงนั้นจี้อี่หนิงก็จะเป็นคนทำอาหารเองจี้อี่หนิงพยักหน้าแล้วลุกออกไป เมื่อก่อนพอทานข้าวเสร็จเธอมักจะเห็นใจเขาที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้วเลยจะเป็นคนเก็บโต๊ะเองแต่ตอนนี้เธอจะไม่เห็นใจเขาอีกแล้วหลังจากเก็บโต๊ะและเช็ดโต๊ะสะอาดเรียบร้อยแล้ว เสิ่นเยี่ยนจือก็ไปล้างมือที่ห้องครัวก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ จี้อี่หนิงจี้อี่หนิงขยับไปข้างเล็กน้อยเพื่อเว้นระยะห่างของทั้ง
ปลายสายเงียบไปวิหนึ่ง แล้วเสียงของเจี่ยงหรูก็ดังลอดมา"โอเค พรุ่งนี้ตำรวจอาจเรียกเธอไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ อย่าลืมเปิดโทรศัพท์ไว้ละ""ได้ค่ะ งั้นก็รบกวนพี่หรูด้วยนะคะ"เจี่ยงหรูถอนหายใจและพูดอย่างจริงจังว่า "อี่หนิง เธอยังเด็กอยู่ ตัดสินใจอะไรไม่ค่อยมองการไกลเหมือนฉัน แต่บางครั้งการเว้นช่องให้คนอื่นบ้าง ก็เป็นการเว้นช่องให้ตัวเองเหมือนกัน""พี่หรู ฉันรู้ค่ะ แต่เราก็จะใจอ่อนกับทุกคนไม่ได้ วันนี้ถ้าประธานเสิ่นไม่อยู่ด้วย ฉันก็คงเสียโฉมไปแล้ว"อีกอย่างเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานของเธอด้วย หากเธอถูกไล่ออกจากเฉิงหยวนเพราะเรื่องนี้ ต่อไปบริษัทผลิตยาที่ไหนจะรับเธอเข้าทำงาน?ไม่ใช่เธอไม่ยอมปล่อยเจิ้งโหยวโหย่ว แต่อีกฝ่ายต่างหากที่ไม่ยอมปล่อยเธอเมื่อเห็นว่าเกลี้ยกล่อมเธอไม่ได้ เจี่ยงหรูก็วางสายไปไม่ได้พูดอะไรอีกจี้อี่หนิงวางโทรศัพท์ลง แล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องที่เสิ่นซื่อใช้เสื้อสูทปังกรดซัลฟิวริกเข้มข้นให้เธอเมื่อเช้าเมื่อรวมกับครั้งนี้แล้ว เธอทำให้ชุดสูทของเสิ่นซื่อเสียหายสองชุดไปแล้ว งั้นเธอควร... ซื้อชุดสูทสองชุดไปชดเชยให้เขาไหมนะ?จี้อี่หนิงไม่ช
"คุณเจิ้ง เหตุการณ์อุปกรณ์ระเบิดในห้องปฏิบัติการที่เฉิงหยวนในวันนี้ เราต้องการให้คุณให้ความร่วมมือในการสืบสวน เชิญไปกับเราหน่อยครับ"เจิ้งโหยวโหย่วตื่นตระหนก ร่างกายของเธอสั่นอย่างควบคุมไม่ได้"หมายความว่าไง... เรื่องเครื่องมือระเบิดเกี่ยวอะไรกับฉัน? ทำไมฉันต้องให้ความร่วมในการสืบสวนด้วย?""ส่วนเรื่องรายละเอียด เดี๋ยวถึงสถานีตำรวจแล้วคุณเจิ้งก็จะได้รู้ครับ""ฉันไม่ไป ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน อยากถามอะไรก็ถามที่นี่เลยสิ!"เมื่อเห็นท่าทีตื่นตระหนกของเธอ ตำรวจทั้งสองก็สบตากัน และหนึ่งในนั้นก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า "คุณเจิ้ง หากคุณไม่ยอมไปกับเราแต่โดยดี เราก็ต้องใช้มาตรการบังคับ"เมื่อเห็นตำรวจสีหน้าจริงจัง เจิ้งโหยวโหย่วก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยในขณะที่เธอลังเล หลิ่วอี๋หนิงซึ่งอยู่ตรงข้ามพูดขึ้นมาว่า "โหยวโหย่ว แค่ให้ความร่วมมือในการสืบสวนเอง ไปเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ฉันจะไปกับเธอด้วย"เมื่อเห็นท่าทางเย็นชาของหลิ่วอี๋หนิง เจิ้งโหยวโหย่วได้แต่พยักหน้า "งั้นก็ได้"เมื่อพวกเขามาถึงสถานีตำรวจ เจิ้งโหยวโหย่วก็ถูกพาไปสอบปากคำ ตำรวจก็ให้หลิ่วอี๋หนิงรออยู่ข้างนอกเธอจะรออยู่
สายตาของเธอหยุดชะงัก แววตาเย้ยหยัน"คุณนี่ก็พยายามนะ กำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นอยู่แท้ๆ คุณก็ยังหาเวลามาหาฉันที่สถานีตำรวจได้อีก"เสิ่นเยี่ยนจือนิ่งไป เขาขมวดคิ้วถามว่า "หมายความว่าไง?"จี้อี่หนิงสีหน้าเฉยเมย "คราวหน้าถ้าคุณจะแกล้งทำเป็นรักฉัน ก็ช่วยเช็ดรอยลิปสติกบนปกเสื้อออกก่อนแล้วค่อยมาแสดง ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องตลก"พูดจบจี้อี่หนิงก็โบกแท็กซี่ออกไปโดยไม่สนว่าสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือจะเป็นยังไงเสิ่นเยี่ยนจือก้มหน้าลงมองปกเสื้อ พอเห็นรอบริมฝีปากที่ติดอยู่แล้วก็หน้าถอดสีเขาจะโทรไปอธิบายให้จี้อี่หนิงฟัง แต่โทรไปกี่สายก็ไม่รับ สุดท้ายก็กลายเป็นติดสายอยู่ตลอด แสดงว่าเธอบล็อกเขาไปแล้วเมื่อคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเพิ่งผ่อนคลายลงเล็กน้อย แล้วตอนนี้ก็กลับสู่จุดเยือกแข็งอีกครั้ง ดวงตาของเสิ่นเยี่ยนจือก็เย็นเยือกเขาขึ้นรถแล้วขับยังหมู่บ้านที่จี้อี่หนิงอาศัยอยู่อย่างรวดเร็วไป เมื่อเขาไปถึงได้ครึ่งทาง จู่ๆ ก็มีคนโทรมาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร มือที่จับพวงมาลัยอยู่เส้นเลือดปูดโปน สุดท้ายเขาก็กลับรถจี้อี่หนิงเพิ่งกลับถึงบ้าน ไลน์เด้งขึ้นมาหลายข้อความ นักสืบเอกชนที่เธ
"ครับ"หลังจากเดินออกจากห้องทำงาน เมื่อคิดถึงท่าทีที่เสิ่นซื่อมีต่อจี้อี่หนิงแล้วซุนสิงก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้วันนี้พอเขาเห็นเสื้อตัวนี้ปุ๊บ เขาก็ให้เขาไปตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของจี้อี่หนิงแล้วโทรไปถามเธอเองเลย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจที่จี้อี่หนิงต้องการจะตัดสัมพันธ์กับเขาแต่จี้อี่หนิงก็เป็นหลานสะใภ้ในนามของเขา หวังว่าเขาคงจะคิดมากไปเองนะหลังทานมื้อเช้าเสร็จ จี้อี่หนิงก้ตรงไปที่เฉิงหยวนเมื่อคืนนี้หลังจากไปให้ปากคำเสร็จ เจี่ยงหรูก็ส่งข้อความหาเธอบอกเธอว่าวันนี้เธอไปทำงานได้ตามปกติ เรื่องของเจิ้งโหยวโหย่วเดี๋ยวทางบริษัทจะจัดการในภายหลังไม่คิดว่าพอมาถึงหน้าทางเข้าเฉิงหยวนก็โดนผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งมาขวางไว้ใบหน้าของอีกฝ่ายดำคล้ำ ดวงตาของเขาแดงก่ำผมเผ้ายุ่งเหยิงสีหน้าวิงวอน"คุณจี้ปล่อยลูกสาวผมไปเถอะนะ ภรรยาของผมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาล แล้วผมก็ยังหางานทำไม่ได้ ถ้าลูกสาวของผมยังถูกขังอยู่แบบนี้ บ้านเราแย่แน่"จี้อี่หนิงถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัวแล้วขมวดคิ้วผู้ชายคนนี้หน้าคล้ายเจิ้งโหยวโหย่วมาก ดูท่าเขาน่าจะเป็นพ่อของเธอจริงๆแต่ตอนนี้เจิ้งโหยวโหย
คนเราเวลาเผชิญกับอันตราย คนปกติมักจะรีบหลีกเลี่ยงอย่างเร็วที่สุด แต่เสิ่นซื่อกลับพุ่งเข้าไปปกป้องจี้อี่หนิงเมื่อได้ยินแบบนั้น จี้อี่หนิงก็อึ้งไปก่อนจะขมวดคิ้ว"เธอคิดมากไปแล้วล่ะ เขาเป็นอาเล็กของฉัน""อะไรนะ?"จู่ๆ เซี่ยงอวี่ก็เสียงดังขึ้นอย่างแรง ทุกคนในแผนกวิจัยและพัฒนาก็หันมองมาที่เธอ เธอหน้าแดงทันที แล้วก็รีบก็ก้มหน้าลงอย่างรวดเร็วเธอลดเสียงลง "จริงเหรอ? เธอสองคนก็ไม่ได้แซ่เดียวกันสักหน่อย? เธอโกหกฉันใช่ไหมเนี่ย?""ฉันจะโกหกเธอทำไม รายละเอียดฉันไม่สะดวกจะบอก แต่ระหว่างฉันกับเขามันเป็นไปไม่ได้ และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะชอบฉันด้วย"แม้ว่าในใจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ แต่เมื่อเห็นจี้อี่หนิงพูดจาจริงจังแบบนั้น เซี่ยงอวี่ก็ได้แต่พยักหน้า"งั้นเหรอ""เอาล่ะ หยุดเม้าส์แล้วไปทำงานได้แล้ว"จี้อี่หนิงเปิดคอมพิจี้อี่หนิงวเตอร์เข้าสู่ระบบ CNKI และเริ่มอ่านงานวิจัยเวลาช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนใกล้เที่ยง จู่ๆ เวินจิ้งหงก็โทรมาหาจี้อี่หนิง"น้าเวิน มีอะไรเหรอคะ? เกิดอะไรขึ้นกับพ่อหนูหรือเปล่า?"น้ำเสียงอ่อนโยนของเวินจิ้งหงดังลอดสายมา "เปล่าหรอก อาการของเขาค่อนข้างคงที่ วันนี้ตอนเ
หากเภสัชกรรมเหว่ยหงไม่ล้มละลาย เสิ่นเยี่ยนจือคงไม่กล้าพาเมียน้อยของเขาออกมาโชว์ตัวไม่สนใจใครแบบนี้เมื่อนึกถึงตรงนี้ เวินจิ้งหงก็มองจี้อี่หนิงด้วยความรู้สึกผิด "ฉันกับพ่อเธอต้องขอโทษเธอด้วยนะ เธอต้องเจ็บปวดใจขนาดนี้แต่ก็ต้องทนเก็บไว้ในใจ ช่วงที่ผ่านมาเธอคงลำบากมากเลยใช่ไหม?"จี้อี่หนิงส่ายหน้า เธอไม่เศร้ามากเหมือนตอนที่เพิ่งรู้ว่าเสิ่นเยี่ยนจือนอกใจแล้ว"หนูไม่เป็นไรค่ะ ตอนแรกหนูก้แค่พนันว่าว่าเขาจะหักหลังความรักของเราหรือเปล่า ตอนนี้หนูก็แค่แพ้พนันเท่านั้นเอง"เธอไม่เสียใจกับสิ่งที่เธอเลือกตอนนั้น เพราะคนที่เธอเลือกคือเสิ่นเยี่ยนจือคนที่รักเธอ ไม่ใช่ผู้ชายจอมกะล่อนปลิ้นปลอ้นคนนี้"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวต่อไปคงได้เจอคนที่ดีกว่า"จี้อี่หนิงยิ้ม ต่อไปจะได้เจอใครไหมมันก็ไม่สำคัญกับเธอหรอก ตอนนี้เธอแค่อยากจะหย่าและได้แบ่งทรัพย์สินที่เธอสมควรได้รับ"น้าเวิน อย่าเพิ่งบอกพ่อเรื่องที่เขามีชู้นะคะ พ่อไม่ค่อยแข็งแรง หนูกลัวว่าพ่อจะรับไม่ไหว"เวินจิ้งหงพยักน้า "น้ารู้ ไม่ต้องห่วงนะ"หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเสร็จแล้ว ตอนที่จี้อี่หนิงและเวินจิ้งหงกำลังจ่ายเงิน จากในห้องรับรองของเสิ่นเยี่ยนจื
จี้อี่หนิงขมวดคิ้วและมองเขาด้วยท่าทางไม่พอใจ "ฉันจะไปกินข้าวกับใครไม่จำเป็นต้องรายงานให้คุณทราบมั้ง?"สายตาของเสิ่นเยี่ยนจือมืดมน เขาลดเสียงลง"อี่หนิง ผมไม่ได้อยากจะสอดแนมคุณหรอกนะ ผมแค่อยากมีส่วนร่วมในชีวิตของคุณ""ตกลงว่าคุณอยากมีส่วนร่วมในชีวิตของฉันหรือคุณร้อนตัวที่พาฉินจืออี้กินร่วมโต๊ะอาหารวันนี้กันแน่?"นัยน์ตาของเสิ่นเยี่ยนจือหดตัวลงกะทันหัน เขาตรึงเครียดขึ้นมา จี้อี่หนิงเห็นแล้วจริงด้วย"วันนี้ไปเจอลูกค้ามา เขาเป็นลูกค้าที่เธอรับผิดชอบอยู่ก่อนที่จะออกจากงาน เธอรู้สถานการณ์ดีจึงพาเธอไปด้วย ที่ผมไม่ได้บอกคุณเพราะกลัวคุณจะเข้าใจผิด"จี้อี่หนิงยิ้มเล็กน้อย "ความสัมพันธ์ของพวกคุณยังมีอะไรให้เข้าใจผิดอีก?""อี่หนิง ผมรับรองได้เลยว่าตอนนี้ผมไม่มีอะไรเกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว และคนเดียวที่ผมรักก็คือคุณ"เธออยากถามว่าเขาไปเจอลูกค้าคนไหนถึงต้องให้ฉินจืออี้แต่งตัวสวยขนาดนั้น แถมยังต้องควงแขนเขาเข้าไปด้วยกันอีกใครก็ตามที่เห็นฉากนั้นต่างก็ต้องคิดว่าฉินจืออี้เป็นคู่ขาของเขา ไม่ใช่เลขาของเขาไหม?แต่แล้วเธอก็ไม่ได้ถามออกไป เพราะมันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว"เสิ่นเยี่ยนจือ การโกหกหนึ่งค
เงียบไปสักครู่ เสิ่นซื่อเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา: "ผมจะไปหลังจากประชุมเสร็จ"ตอนเที่ยง จี้อี่หนิงเพิ่งขึ้นไปถึงชั้นบนสุด ซุนสิงก็ขวางเธอไว้"คุณจี้ ตอนนี้ประธานเสิ่นไม่อยู่ในห้องทำงานครับ""เขายังอยู่ในที่ประชุมหรือ?"ซุนสิงส่ายหน้า มองเธอพลางพูดว่า: "ไม่ใช่ เช้านี้ท่านผู้เฒ่าเสิ่นโทรหาเขา เขากลับไปบ้านเดิมแล้วยังไม่ได้กลับมาครับ"จี้อี่หนิงรู้สึกใจหายวูบ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องเช้านี้"ฉันเข้าใจแล้ว เลขาซุน ขอบคุณที่บอกฉันเรื่องนี้ค่ะ"เห็นว่าสีหน้าเธอแทบไม่เปลี่ยน ซุนสิงขมวดคิ้ว "คุณจี้ คุณไม่ไปหาเขาหรือ?""ถึงฉันไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร อีกอย่างถ้าคนในตระกูลเสิ่นเห็นฉันตอนนี้ พวกเขาจะยิ่งอารมณ์เสียค่ะ""เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเพราะคุณ คุณไม่ควรจะแบกรับมันไปพร้อมกับประธานเสิ่นหรือ?"ซุนสิงมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจ น้ำเสียงเย็นชาความรู้สึกของเสิ่นซื่อ เขาไม่มีสิทธิ์ถาม แต่ตอนนี้ท่าทีของจี้อี่หนิง ทำให้เขารู้สึกว่าเสิ่นซื่อช่างน่าเสียดายเขาต่อสู้กับตระกูลเสิ่นเพื่อเธอคนเดียว แต่จี้อี่หนิงกลับแค่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเขา ไม่มีท่าทีว่าจะร่วมแบกรับเลยสักนิด"เลขาซุน ถ้าเขาต้อง
"ผมว่าทำไมเธอรีบหย่ากับผม ที่แท้ก็ปีนเกาะอาเล็กของผมนี่เอง จี้อี่หนิงเธอก็ไม่ต่างอะไรจากพวกผู้หญิงไร้ค่าข้างนอกนั่นเลย""เพียะ!"จี้อี่หนิงตบเขาหนึ่งที ทันใดนั้นคนรอบข้างก็หันมามองทั้งหมดเสิ่นเยี่ยนจือไม่เคยรู้สึกอับอายขายหน้าขนาดนี้มาก่อน ดวงตาพ่นไฟ ยื่นมือไปบีบคอของจี้อี่หนิงแต่ยังไม่ทันได้แตะตัวเธอ ก็ถูกเตะหนึ่งที ล้มลงไปกับพื้นเสิ่นซื่อโอบจี้อี่หนิง มองลงมาที่เสิ่นเยี่ยนจือ"เธอเป็นป้าคนใหม่ของนาย ต่อไปพูดจาให้สุภาพหน่อย ไม่งั้นไม่ใช่แค่โดนเตะเท้าเดียวเท่านั้นนะ"เมื่อได้ยินคำว่าป้าคนใหม่ เสิ่นเยี่ยนจือหน้าเขียว"อาเล็ก คุณปู่คุณย่าจะไม่มีวันยอมให้คุณแต่งงานกับผู้หญิงที่หย่าร้างมาแล้ว แล้วการที่คุณอยู่กับเธอ ก็จะกลายเป็นเรื่องตลกของเมืองเซิน!"ยิ่งพูด สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือก็ยิ่งดูภูมิใจท่านผู้เฒ่าเสิ่นและท่านแม่เฒ่าเสิ่นลำเอียงรักเสิ่นซื่อมากขนาดนั้น ผู้หญิงที่แนะนำให้เสิ่นซื่อก็พิถีพิถันคัดสรรมา ไม่คิดว่าสุดท้ายเสิ่นซื่อจะสนใจของมือสอง!"ดูแลตัวเองให้ดีก็พอ นายคิดว่าแต่งงานกับฉินจืออี้ แล้วจะยังมีโอกาสสืบทอดเสิ่นซื่อกรุ๊ปหรือไง?"สีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือแข็งค้าง มือ
จี้อี่หนิงก้มหน้าลง "ได้"เมื่อใกล้ถึงบริษัท จี้อี่หนิงยังคงให้เสิ่นซื่อจอดรถที่ปากทางเหมือนเดิมเขาขมวดคิ้ว สีหน้าแสดงความไม่พอใจ "ฉันน่าอับอายขนาดนั้นเลยหรือ?""ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันเพิ่งหย่ากับเสิ่นเยี่ยนจือ ถ้าตอนนี้มีคนในบริษัทเห็นเราอยู่ด้วยกัน มันจะส่งผลเสียต่อคุณ""ฉันไม่สนใจ""แต่ฉันสนใจ และฉันก็ต้องการเวลาสักพักเพื่อปรับตัวกับความสัมพันธ์ของเรา ดังนั้นเรื่องที่เราคบกันขอให้เป็นความลับก่อนได้ไหม?"จี้อี่หนิงมองเขา ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวังและความระมัดระวังเล็กน้อยเสิ่นซื่อยื่นมือปิดตาเธอ เสียงทุ้มต่ำแหบพร่า "ได้ แต่ฉันต้องเก็บดอกเบี้ยนิดหน่อย"จี้อี่หนิงชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย "ดอกเบี้ยอะไร?"ขนตาปัดฝ่ามือของเสิ่นซื่อส่งความรู้สึกคันเล็กน้อยเขาเอื้อมมือไปรัดเอวเธอ ก้มหน้าลงจูบ"อื้อ..."จี้อี่หนิงชะงักไปครู่หนึ่ง โดยสัญชาตญาณอยากจะหลบหนีเพิ่งจะถอยหลัง หลังก็ชนประตูรถ ไม่มีโอกาสหลบหนีแม้แต่น้อย ได้แต่ปล่อยให้เสิ่นซื่อทำตามใจชอบไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน เสิ่นซื่อก็ปล่อยเธอในที่สุดจี้อี่หนิงหอบหายใจแล้ว ใบหน้าขาวนวลเดิมก็ขึ้นสีแดงระเรื่อเธอจ้อง
เมื่อกลับถึงวิลล่า เสิ่นซื่อให้คนรับใช้พาจี้อี่หนิงไปพักผ่อน ส่วนตัวเองไปที่ห้องทำงานติดต่อซุนสิงเพื่อสืบสวนชายที่ชนกับจี้อี่หนิงคืนนี้"ประธานเสิ่นได้ตรวจสอบแล้ว ชายคนนั้นคือฉินหลางนักแสดงหนุ่มที่กำลังฮอต คืนนี้นัดพบกับแฟนสาวนอกวงการที่ร้านอาหารนั้น หลังจากพบว่ามีปาปารัซซี่ รีบออกมาอย่างรีบร้อนแล้วชนกับคุณจี้"เสิ่นซื่อมีสีหน้าเย็นชา เสียงไร้ความรู้สึก "ให้บทเรียนเขาหน่อย"ซุนสิงตกใจในใจ รู้สึกว่าตนประเมินความสำคัญของจี้อี่หนิงในใจของเสิ่นซื่อต่ำเกินไปหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาเสนอว่า: "งั้นผมจะให้คนเปิดเผยเรื่องที่เขามีแฟนนอกวงการออกไปนะครับ?"พอดีฉินหลางมีละครรักที่กำลังจะออกอากาศ ช่วงนี้กำลังสร้างกระแสคู่จิ้นกับนางเอก ถ้าเปิดเผยเรื่องที่เขามีแฟนตอนนี้ คงจะสร้างผลกระทบเชิงลบไม่น้อย“อืน”อีกด้านหนึ่ง จัวเสี่ยวเทียนกลับถึงสตูดิโอ ดูภาพในกล้อง ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวคืนนี้ถ่ายได้แค่ภาพฉินหลางที่รีบออกจากร้านอาหาร ส่วนแฟนสาวนอกวงการ แม้แต่เงาก็ไม่เห็นและหลังจากคืนนี้ คงจะระวังตัวมากขึ้น ไม่ให้ปาปารัซซี่ถ่ายภาพได้อีก หลายเดือนนี้คงเสียเวลาเปล่าทันใดนั้น ภาพหนึ่งในกล้องดึงดูด
พูดจบ ไม่ให้โอกาสเสิ่นเยี่ยนจือได้พูดอีก จี้อี่หนิงวางสายและบล็อกเขาทันทีไม่นานหลังจากนั้น มีเบอร์ที่ไม่รู้จักโทรเข้ามา จี้อี่หนิงทำเป็นไม่เห็น หลังจากที่โทรมาหลายครั้งก็หยุดไปจี้อี่หนิงนำอาหารที่เธอทำมาวางบนโต๊ะ เพิ่งจะจัดการครัวเสร็จ กริ่งประตูก็ดังขึ้นหลังจากดูแล้วว่าคนที่หน้าประตูคือเสิ่นซื่อ จี้อี่หนิงจึงเปิดประตูได้กลิ่นอาหารหอม ดวงตาของเสิ่นซื่อเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ"คุณทำอาหารหรือ?"จี้อี่หนิงพยักหน้า ถอยข้างๆให้เสิ่นซื่อเข้ามา "อืม เรากินอาหารเย็นก่อน แล้วค่อยไปกัน"เพิ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่น ก็เห็นอาหารสามอย่างกับซุปหนึ่งถ้วยวางอยู่บนโต๊ะ สองจานเป็นเนื้อสัตว์ หนึ่งจานเป็นผัก บวกกับซุปไข่มะเขือเทศ ดูแล้วทั้งสีสัน กลิ่น และรสชาติน่าจะครบถ้วน ชุดอาหารก็จัดไว้เรียบร้อยแล้วหลังจากนั่งลง เสิ่นซื่อพูดขึ้นมาทันทีว่า: "คุณทำอาหารบ่อยเหรอ?"จี้อี่หนิงยิ้มน้อยๆ "ไม่นะ ก่อนหย่ากับเสิ่นเยี่ยนจือ ส่วนใหญ่แม่บ้านเป็นคนทำอาหารค่ะ"“อืน”เสิ่นซื่อไม่พูดอะไรอีก หยิบตะเกียบขึ้นมาชิมอาหารคำหนึ่ง เงียบไปสองวินาที วางตะเกียบลงแล้วยกแก้วน้ำข้างๆขึ้นมาดื่มจากนั้นก็ไม่ยอมแพ้ ห
เมื่อเสิ่นซื่อมาถึง จี้อี่หนิงกำลังนั่งเหม่ออยู่บนโซฟาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เธอเงยหน้ามองไปที่ประตู ดวงตาของเธอแดงก่ำ แววตาเต็มไปด้วยความไร้ที่พึ่งและความกลัว เหมือนกระต่ายน้อยที่ตกใจกลัว"อาเล็ก มาแล้วนะคะ"เสิ่นซื่อเดินมาข้างเธอ พูดเสียงเครียด "มีบาดเจ็บไหม?"จี้อี่หนิงส่ายหน้า "ฉันไม่เป็นไร... ตอนนั้นฉันกับเวยเวยไปดื่มที่บาร์ ไม่ได้อยู่บ้าน... พอกลับมาก็เป็นแบบนี้แล้ว..."เสิ่นซื่อขมวดคิ้ว "แจ้งตำรวจแล้วหรือยัง?""แจ้งแล้วค่ะ ตำรวจน่าจะมาในอีกสักครู่""อืม ที่นี่คงอยู่ไม่ได้แล้ว ผมจะให้ซุนสิงหาบ้านใหม่ให้คุณ""แล้วอีกสองสามวันนี้... ฉันไปพักที่บ้านคุณได้ไหม?"ทันทีที่พูดจบ ทั้งห้องนั่งเล่นก็ตกอยู่ในความเงียบ เงียบจนแทบได้ยินเสียงหายใจของกันและกันดวงตาทั้งสองของเสิ่นซื่อหรี่ลงอย่างอันตราย เขาเอ่ยทีละคำ "คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังพูดอะไร?"สายตาตรงไปตรงมาของเขา ดูเหมือนจะสามารถทะลุทะลวงทุกอย่าง ทำให้จี้อี่หนิงรู้สึกว่าตัวเองไม่มีที่หลบซ่อน ราวกับว่าความคิดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมดของเธอถูกเขามองทะลุเธอบังคับตัวเองให้สบตากับเขา พยักหน้าและพูดว่า "ฉันรู้คะ"เสิ่นซื่อมองเธอ แล้วยิ้ม
พอเพิ่งติดต่อได้ เสียงร้อนรนของเวินจิ้งหงก็ดังมาตามสาย "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? พ่อของเธอไปหาตระกูลเสิ่นเพื่อเธอ แต่กลับถูกกลั่นแกล้ง แล้วเขาดื่มเหล้าเพื่อขอขมาจนต้องเข้าห้องฉุกเฉิน!"จี้อี่หนิงรู้สึกเหมือนมีเสียงระเบิดในหัว เธอยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ และกว่าจะตอบสนองได้ก็ผ่านไปหลายวินาที"ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ!"ขณะที่พูด จี้อี่หนิงตัวสั่นไปทั้งตัวสือเวยก็ตื่นขึ้นมาตอนนั้นพอดี เมื่อเห็นว่าจี้อี่หนิงมีอารมณ์ไม่ปกติ เธอจึงรีบลุกขึ้น "อี่หนิง เกิดอะไรขึ้น?"จี้อี่หนิงเงยหน้ามองเธอ ตาของเธอแดงก่ำ น้ำตาไหลไม่หยุด"พ่อของฉันเกิดเรื่อง ฉันไม่สามารถขับรถได้..."สีหน้าของสือเวยเคร่งขรึมลง เธอคว้ามือของจี้อี่หนิงแล้วพูดเสียงทุ้ม "เมื่อคืนเราดื่มเยอะมาก ตอนนี้เราขับรถไม่ได้เหมือนกัน ให้เราเรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาลกัน"เธอจูงจี้อี่หนิงออกจากบาร์ และเรียกแท็กซี่ที่ริมถนนตรงไปยังโรงพยาบาลเมื่อพวกเธอไปถึงหน้าห้องฉุกเฉิน การผ่าตัดเพิ่งเสร็จสิ้นหมอมีสีหน้าเหนื่อยล้า แต่เมื่อมองไปที่จี้อี่หนิงและเวินจิ้งหงสายตากลับเต็มไปด้วยความโกรธ "ทุกครั้งที่ผมตรวจ ผมก็เตือนว่าคนไข้ห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
เวินจิ้งหงหน้าตาเครียด เลยสะบัดมือพูดว่า "ได้ๆๆ ฉันไม่พูดแล้ว ใครๆ ก็บอกว่าเป็นแม่เลี้ยงนี่ยาก ทำอะไรก็ไม่ถูกใจทั้งสองฝ่าย ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว!"จี้เหว่ยหงขมวดคิ้ว สีหน้าดูจนใจ "ผมไม่ได้มีความคิดแบบนั้น""แล้วคุณหมายความว่ายังไง? สองปีที่คุณป่วยฉันดูแลคุณอย่างเต็มที่ ก็ไม่ได้ทำร้ายลูกสาวคุณด้วย คราวนี้เธอก่อเรื่องใหญ่ ฉันแค่ว่าเธอไปนิดหน่อยก็ทำไม่ได้อีกเหรอ?"เห็นเวินจิ้งหงมีท่าทีรุกเร้า จี้เหว่ยหงรู้สึกหงุดหงิด เขาหันหน้าไปอีกทางไม่พูดอะไรต่อเวินจิ้งหงยิ่งโกรธมากขึ้น เริ่มบ่นพึมพำถึงความลำบากที่ต้องดูแลจี้เหว่ยหงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังจากอดทนฟังอยู่สองสามนาทีจี้เหว่ยหงก็ทนไม่ไหว ตะโกนด้วยความโกรธว่า: "การที่คุณดูแลผมมันเหนื่อยก็จริง แต่ก่อนที่เภสัชกรรมเหว่ยหงจะล้มละลาย ผมให้คุณไม่พอหรือไง? ลูกสาวของผมยังไงก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมาพูดได้!"เวินจิ้งหงหัวเราะเยาะ "ดี งั้นคุณก็ให้เธอมาดูแลคุณแล้วกัน! อย่าให้ฉันดูแลคุณอีกเลย!"พูดจบ เวินจิ้งหงก็หันหลังเดินออกไปด้วยความโกรธเมื่อประตูห้องพยาบาลถูกปิดอย่างแรง ห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้งจี้เหว่ยหงถอนหายใจ หยิบโทรศัพท์ข้างตัวโทรออก
สองคนหันหลังกลับพร้อมกัน โดยไม่รู้ว่าจี้เหว่ยหงตื่นขึ้นมาแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่จี้อี่หนิงรีบเข้าไปช่วยพยุงเขา แต่กลับถูกเขาผลักออกไป"อี่หนิง เธอทำให้พ่อผิดหวังมาก"เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาที่ผิดหวังของจี้เหว่ยหง ร่างของจี้อี่หนิงก็แข็งทื่อไปทั้งตัว"พ่อ... แม้แต่พ่อก็ไม่เข้าใจหนูเหรอ?"ที่เธอทำแบบนี้ ก็เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้เขา เธอคิดว่าถึงแม้ทุกคนจะไม่เข้าใจเธอ อย่างน้อยจี้เหว่ยหงก็น่าจะเข้าใจ"พ่อเข้าใจเธอแล้วจะมีประโยชน์อะไร? เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว เธอขุดมันขึ้นมาใหม่ก็จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของเธอเท่านั้น ชีวิตของเธอยังอีกยาวไกล ถ้าเธอส่งเสิ่นซื่อเยี่ยนเข้าคุก คนในตระกูลเสิ่นจะแก้แค้นเธอยังไง?"ตอนนี้เขาไม่มีความสามารถที่จะปกป้องเธอได้ การที่เธอทำแบบนี้จะทำลายชีวิตของเธอไปตลอดกาล"หรือว่าหนูควรจะทำเป็นไม่รู้อะไรเลย แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่กับเสิ่นเยี่ยนจือต่อไปด้วยความเกลียดชังอย่างนั้นเหรอ?""เธอจะอยู่กับเขาหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เหวยหงล้มละลาย เรื่องนี้ตอนนี้ยังมีทางแก้ไขได้ไหม?"จี้อี่หนิงสูดหายใจลึกๆ "ไม่ได้แล้ว หลักฐานหนูส่งให้ตำรวจไปแล้ว และถึงแม้จะยังแก้ไขได้ หนู