แชร์

บทที่ 49

ผู้เขียน: แสงอรุณฤดูใบไม้ผลิ
เจิ้งโหยวโหย่วกลัวจนมือสั่น พูดเสียงสั่นว่า "เมื่อกี้พี่หรูบอกผมว่า ทางชิงหงส่งทีมงานมา และพบลายนิ้วมือหลายอันบนฉลากของกรดซัลฟิวริกเจือจางและกรดซัลฟิวริกเข้มข้น ตอนบ่ายจะเก็บลายนิ้วมือของพวกเราทุกคนไปเปรียบเทียบกัน"

สายตาของหลิ่วอี๋หนิงจมลง กัดฟันมองเจิ้งโหยวโหย่ว "เจ้าโง่ เวลาเปลี่ยนฉลากไม่รู้ต้องใส่ถุงมือหรือไง?"

"ฉัน... ตอนนั้นฉันตื่นตระหนกเกินไปก็เลยลืมไป. คิดทีหลังก็ไม่ทันแล้ว..."

เจิ้งโหยวโหย่วร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

"อี้หนิง ทํายังไงดี... เธอต้องช่วยฉันนะ..."

หลิ่วอี๋หนิงทําหน้าหมดความอดทน "ฉันจะช่วยเธอได้ยังไง หรือว่าฉันสามารถเปลี่ยนลายนิ้วมือเป็นของคนอื่นได้หรือไง?"

ในเวลานั้นเมื่อขวดที่จี้อี่หนิงทําการทดลองระเบิด เลขาของเสิ่นซื่อก็สั่งให้คนปิดห้องปฏิบัติการและห้องเก็บสารทดลองทันที พวกเขาไม่มีโอกาสเข้าไปเช็ดลายนิ้วมือบนฉลากเลย

ยิ่งไปกว่านั้น หลิ่วอี๋หนิงไม่ได้คิดว่าเจิ้งโหยวโหย่วจะโง่ขนาดทิ้งช่องโหว่ขนาดใหญ่แบบนี้ไว้

"แต่ฉันไม่สามารถไม่มีงานนี้ได้นะ ไม่งั้นค่ารักษาพยาบาลของแม่ฉันคงจะจ่ายไม่ไหว..."

เธอยินดีที่จะทํางานให้กับหลิ่วอี๋หนิงก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 50

    เมื่อเห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของชาแนลในมือของหยางอวี่ ดวงตาของจี้อี่หนิงก็เปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ"ทําไมจู่ๆ เขาถึงซื้อกระเป๋าให้ฉันล่ะ""บอสบอกว่าคุณอารมณ์ไม่ดี เลยอยากมอบของขวัญให้คุณน่ะครับ หวังว่าคุณจะดีใจหน่อย"สําหรับกระเป๋า จี้อี่หนิงไม่ได้มีความปรารถนาอะไร แต่ในเมื่อเสิ่นเยี่ยนจือให้มาแล้ว เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รับเธอพยักหน้าและรับกระเป๋าจากมือของหยางอวี่"ค่ะ งั้นรบกวนคุณช่วยพูดขอบคุณเขาแทนฉันด้วย"เมื่อเห็นว่าจี้อี่หนิงดูเหมือนจะไม่ค่อยดีใจมากเท่าไหร่ หยางอวี่ก็ถามอย่างไม่แน่ใจ "คุณนาย คุณไม่ชอบกระเป๋าเหรอครับ""ก็ชอบนะ แต่เทียบกันแล้ว ฉันชอบทองคำมากกว่าน่ะ"ก็นะ ความสามารถในการแปลงสภาพของทองคํานั้นมีมากกว่ากระเป๋ามาก และเครื่องประดับที่ทําจากทองคําก็มีสไตล์ที่สวยงามด้วยหยางอวี่อึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าความชอบของจี้อี่หนิงจะเป็นแบบนี้อืม...เรียบง่ายไม่โอ้อวด"โอเคครับ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะบอกบอสให้นะครับ งั้นผมกลับไปทํางานก่อนนะครับ"หลังจากส่งหยางอวี่ไปแล้ว จี้อี่หนิงก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่น วางกระเป๋าไว้บนโต๊ะและถ่ายรูปสองสามรูป แล้วส่งให้สือเวยสือเวย:?จี้อี

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 51

    มือของจี้อี่หนิงที่กำลังคีบอาหารอยู่ชะงัก "ไม่มีอะไรที่อยากได้หรอก"เมื่อต้นปีเสิ่นเยี่ยนจือสัญญาว่าจะหาเวลาว่าวันเกิดของเธอในปีนี้เขาจะหาเวลาว่างล่วงหน้าพาเธอไปเที่ยวพักผ่อนที่มัลดีฟส์ซึ่งเป็นที่ที่เธออยากไปมาโดยตลอดตอนนี้เพิ่งผ่านไปได้ไม่กี่เดือน คิดว่าตอนนี้คงลืมไปเสียสนิทหมดแล้วแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เวลาที่เธอแก้แค้นเขาจะได้ไม่ต้องใจอ่อนโดยไม่จำเป็น"งั้นฉันคงต้องตั้งใจคิดหน่อยแล้วว่าจะให้อะไรเธอดี ถ้าอยากได้อะไรก็บอกฉันได้ตลอดเลยนะ""ค่ะ"หลังทานข้าวเสร็จ เสิ่นเยี่ยนจือให้จี้อี่หนิงไปนั่งดูทีวีที่โซฟา แล้วเขาจะเก็บจานเองเมื่อก่อนพวกเขาก็เคยอยู่กันแบบสองต่อสองอยู่บ้างเป็นครั้งคราว จะให้คนรับใช้หยุดงานสองสามวัน และช่วงนั้นจี้อี่หนิงก็จะเป็นคนทำอาหารเองจี้อี่หนิงพยักหน้าแล้วลุกออกไป เมื่อก่อนพอทานข้าวเสร็จเธอมักจะเห็นใจเขาที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้วเลยจะเป็นคนเก็บโต๊ะเองแต่ตอนนี้เธอจะไม่เห็นใจเขาอีกแล้วหลังจากเก็บโต๊ะและเช็ดโต๊ะสะอาดเรียบร้อยแล้ว เสิ่นเยี่ยนจือก็ไปล้างมือที่ห้องครัวก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ จี้อี่หนิงจี้อี่หนิงขยับไปข้างเล็กน้อยเพื่อเว้นระยะห่างของทั้ง

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 52

    ปลายสายเงียบไปวิหนึ่ง แล้วเสียงของเจี่ยงหรูก็ดังลอดมา"โอเค พรุ่งนี้ตำรวจอาจเรียกเธอไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ อย่าลืมเปิดโทรศัพท์ไว้ละ""ได้ค่ะ งั้นก็รบกวนพี่หรูด้วยนะคะ"เจี่ยงหรูถอนหายใจและพูดอย่างจริงจังว่า "อี่หนิง เธอยังเด็กอยู่ ตัดสินใจอะไรไม่ค่อยมองการไกลเหมือนฉัน แต่บางครั้งการเว้นช่องให้คนอื่นบ้าง ก็เป็นการเว้นช่องให้ตัวเองเหมือนกัน""พี่หรู ฉันรู้ค่ะ แต่เราก็จะใจอ่อนกับทุกคนไม่ได้ วันนี้ถ้าประธานเสิ่นไม่อยู่ด้วย ฉันก็คงเสียโฉมไปแล้ว"อีกอย่างเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานของเธอด้วย หากเธอถูกไล่ออกจากเฉิงหยวนเพราะเรื่องนี้ ต่อไปบริษัทผลิตยาที่ไหนจะรับเธอเข้าทำงาน?ไม่ใช่เธอไม่ยอมปล่อยเจิ้งโหยวโหย่ว แต่อีกฝ่ายต่างหากที่ไม่ยอมปล่อยเธอเมื่อเห็นว่าเกลี้ยกล่อมเธอไม่ได้ เจี่ยงหรูก็วางสายไปไม่ได้พูดอะไรอีกจี้อี่หนิงวางโทรศัพท์ลง แล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องที่เสิ่นซื่อใช้เสื้อสูทปังกรดซัลฟิวริกเข้มข้นให้เธอเมื่อเช้าเมื่อรวมกับครั้งนี้แล้ว เธอทำให้ชุดสูทของเสิ่นซื่อเสียหายสองชุดไปแล้ว งั้นเธอควร... ซื้อชุดสูทสองชุดไปชดเชยให้เขาไหมนะ?จี้อี่หนิงไม่ช

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 53

    "คุณเจิ้ง เหตุการณ์อุปกรณ์ระเบิดในห้องปฏิบัติการที่เฉิงหยวนในวันนี้ เราต้องการให้คุณให้ความร่วมมือในการสืบสวน เชิญไปกับเราหน่อยครับ"เจิ้งโหยวโหย่วตื่นตระหนก ร่างกายของเธอสั่นอย่างควบคุมไม่ได้"หมายความว่าไง... เรื่องเครื่องมือระเบิดเกี่ยวอะไรกับฉัน? ทำไมฉันต้องให้ความร่วมในการสืบสวนด้วย?""ส่วนเรื่องรายละเอียด เดี๋ยวถึงสถานีตำรวจแล้วคุณเจิ้งก็จะได้รู้ครับ""ฉันไม่ไป ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน อยากถามอะไรก็ถามที่นี่เลยสิ!"เมื่อเห็นท่าทีตื่นตระหนกของเธอ ตำรวจทั้งสองก็สบตากัน และหนึ่งในนั้นก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า "คุณเจิ้ง หากคุณไม่ยอมไปกับเราแต่โดยดี เราก็ต้องใช้มาตรการบังคับ"เมื่อเห็นตำรวจสีหน้าจริงจัง เจิ้งโหยวโหย่วก็รู้สึกกลัวเล็กน้อยในขณะที่เธอลังเล หลิ่วอี๋หนิงซึ่งอยู่ตรงข้ามพูดขึ้นมาว่า "โหยวโหย่ว แค่ให้ความร่วมมือในการสืบสวนเอง ไปเถอะ ไม่มีอะไรหรอก ฉันจะไปกับเธอด้วย"เมื่อเห็นท่าทางเย็นชาของหลิ่วอี๋หนิง เจิ้งโหยวโหย่วได้แต่พยักหน้า "งั้นก็ได้"เมื่อพวกเขามาถึงสถานีตำรวจ เจิ้งโหยวโหย่วก็ถูกพาไปสอบปากคำ ตำรวจก็ให้หลิ่วอี๋หนิงรออยู่ข้างนอกเธอจะรออยู่

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 54

    สายตาของเธอหยุดชะงัก แววตาเย้ยหยัน"คุณนี่ก็พยายามนะ กำลังนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นอยู่แท้ๆ คุณก็ยังหาเวลามาหาฉันที่สถานีตำรวจได้อีก"เสิ่นเยี่ยนจือนิ่งไป เขาขมวดคิ้วถามว่า "หมายความว่าไง?"จี้อี่หนิงสีหน้าเฉยเมย "คราวหน้าถ้าคุณจะแกล้งทำเป็นรักฉัน ก็ช่วยเช็ดรอยลิปสติกบนปกเสื้อออกก่อนแล้วค่อยมาแสดง ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องตลก"พูดจบจี้อี่หนิงก็โบกแท็กซี่ออกไปโดยไม่สนว่าสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือจะเป็นยังไงเสิ่นเยี่ยนจือก้มหน้าลงมองปกเสื้อ พอเห็นรอบริมฝีปากที่ติดอยู่แล้วก็หน้าถอดสีเขาจะโทรไปอธิบายให้จี้อี่หนิงฟัง แต่โทรไปกี่สายก็ไม่รับ สุดท้ายก็กลายเป็นติดสายอยู่ตลอด แสดงว่าเธอบล็อกเขาไปแล้วเมื่อคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเพิ่งผ่อนคลายลงเล็กน้อย แล้วตอนนี้ก็กลับสู่จุดเยือกแข็งอีกครั้ง ดวงตาของเสิ่นเยี่ยนจือก็เย็นเยือกเขาขึ้นรถแล้วขับยังหมู่บ้านที่จี้อี่หนิงอาศัยอยู่อย่างรวดเร็วไป เมื่อเขาไปถึงได้ครึ่งทาง จู่ๆ ก็มีคนโทรมาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไร มือที่จับพวงมาลัยอยู่เส้นเลือดปูดโปน สุดท้ายเขาก็กลับรถจี้อี่หนิงเพิ่งกลับถึงบ้าน ไลน์เด้งขึ้นมาหลายข้อความ นักสืบเอกชนที่เธ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 55

    "ครับ"หลังจากเดินออกจากห้องทำงาน เมื่อคิดถึงท่าทีที่เสิ่นซื่อมีต่อจี้อี่หนิงแล้วซุนสิงก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้วันนี้พอเขาเห็นเสื้อตัวนี้ปุ๊บ เขาก็ให้เขาไปตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของจี้อี่หนิงแล้วโทรไปถามเธอเองเลย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจที่จี้อี่หนิงต้องการจะตัดสัมพันธ์กับเขาแต่จี้อี่หนิงก็เป็นหลานสะใภ้ในนามของเขา หวังว่าเขาคงจะคิดมากไปเองนะหลังทานมื้อเช้าเสร็จ จี้อี่หนิงก้ตรงไปที่เฉิงหยวนเมื่อคืนนี้หลังจากไปให้ปากคำเสร็จ เจี่ยงหรูก็ส่งข้อความหาเธอบอกเธอว่าวันนี้เธอไปทำงานได้ตามปกติ เรื่องของเจิ้งโหยวโหย่วเดี๋ยวทางบริษัทจะจัดการในภายหลังไม่คิดว่าพอมาถึงหน้าทางเข้าเฉิงหยวนก็โดนผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งมาขวางไว้ใบหน้าของอีกฝ่ายดำคล้ำ ดวงตาของเขาแดงก่ำผมเผ้ายุ่งเหยิงสีหน้าวิงวอน"คุณจี้ปล่อยลูกสาวผมไปเถอะนะ ภรรยาของผมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาล แล้วผมก็ยังหางานทำไม่ได้ ถ้าลูกสาวของผมยังถูกขังอยู่แบบนี้ บ้านเราแย่แน่"จี้อี่หนิงถอยหลังไปสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัวแล้วขมวดคิ้วผู้ชายคนนี้หน้าคล้ายเจิ้งโหยวโหย่วมาก ดูท่าเขาน่าจะเป็นพ่อของเธอจริงๆแต่ตอนนี้เจิ้งโหยวโหย

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 56

    คนเราเวลาเผชิญกับอันตราย คนปกติมักจะรีบหลีกเลี่ยงอย่างเร็วที่สุด แต่เสิ่นซื่อกลับพุ่งเข้าไปปกป้องจี้อี่หนิงเมื่อได้ยินแบบนั้น จี้อี่หนิงก็อึ้งไปก่อนจะขมวดคิ้ว"เธอคิดมากไปแล้วล่ะ เขาเป็นอาเล็กของฉัน""อะไรนะ?"จู่ๆ เซี่ยงอวี่ก็เสียงดังขึ้นอย่างแรง ทุกคนในแผนกวิจัยและพัฒนาก็หันมองมาที่เธอ เธอหน้าแดงทันที แล้วก็รีบก็ก้มหน้าลงอย่างรวดเร็วเธอลดเสียงลง "จริงเหรอ? เธอสองคนก็ไม่ได้แซ่เดียวกันสักหน่อย? เธอโกหกฉันใช่ไหมเนี่ย?""ฉันจะโกหกเธอทำไม รายละเอียดฉันไม่สะดวกจะบอก แต่ระหว่างฉันกับเขามันเป็นไปไม่ได้ และมันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะชอบฉันด้วย"แม้ว่าในใจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ แต่เมื่อเห็นจี้อี่หนิงพูดจาจริงจังแบบนั้น เซี่ยงอวี่ก็ได้แต่พยักหน้า"งั้นเหรอ""เอาล่ะ หยุดเม้าส์แล้วไปทำงานได้แล้ว"จี้อี่หนิงเปิดคอมพิจี้อี่หนิงวเตอร์เข้าสู่ระบบ CNKI และเริ่มอ่านงานวิจัยเวลาช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนใกล้เที่ยง จู่ๆ เวินจิ้งหงก็โทรมาหาจี้อี่หนิง"น้าเวิน มีอะไรเหรอคะ? เกิดอะไรขึ้นกับพ่อหนูหรือเปล่า?"น้ำเสียงอ่อนโยนของเวินจิ้งหงดังลอดสายมา "เปล่าหรอก อาการของเขาค่อนข้างคงที่ วันนี้ตอนเ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 57

    หากเภสัชกรรมเหว่ยหงไม่ล้มละลาย เสิ่นเยี่ยนจือคงไม่กล้าพาเมียน้อยของเขาออกมาโชว์ตัวไม่สนใจใครแบบนี้เมื่อนึกถึงตรงนี้ เวินจิ้งหงก็มองจี้อี่หนิงด้วยความรู้สึกผิด "ฉันกับพ่อเธอต้องขอโทษเธอด้วยนะ เธอต้องเจ็บปวดใจขนาดนี้แต่ก็ต้องทนเก็บไว้ในใจ ช่วงที่ผ่านมาเธอคงลำบากมากเลยใช่ไหม?"จี้อี่หนิงส่ายหน้า เธอไม่เศร้ามากเหมือนตอนที่เพิ่งรู้ว่าเสิ่นเยี่ยนจือนอกใจแล้ว"หนูไม่เป็นไรค่ะ ตอนแรกหนูก้แค่พนันว่าว่าเขาจะหักหลังความรักของเราหรือเปล่า ตอนนี้หนูก็แค่แพ้พนันเท่านั้นเอง"เธอไม่เสียใจกับสิ่งที่เธอเลือกตอนนั้น เพราะคนที่เธอเลือกคือเสิ่นเยี่ยนจือคนที่รักเธอ ไม่ใช่ผู้ชายจอมกะล่อนปลิ้นปลอ้นคนนี้"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวต่อไปคงได้เจอคนที่ดีกว่า"จี้อี่หนิงยิ้ม ต่อไปจะได้เจอใครไหมมันก็ไม่สำคัญกับเธอหรอก ตอนนี้เธอแค่อยากจะหย่าและได้แบ่งทรัพย์สินที่เธอสมควรได้รับ"น้าเวิน อย่าเพิ่งบอกพ่อเรื่องที่เขามีชู้นะคะ พ่อไม่ค่อยแข็งแรง หนูกลัวว่าพ่อจะรับไม่ไหว"เวินจิ้งหงพยักน้า "น้ารู้ ไม่ต้องห่วงนะ"หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเสร็จแล้ว ตอนที่จี้อี่หนิงและเวินจิ้งหงกำลังจ่ายเงิน จากในห้องรับรองของเสิ่นเยี่ยนจื

บทล่าสุด

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 104

    วินาทีที่กริดทะลุเข้าไปบนหลังมือ จี้อี่หนิงหลุดร้องออกมา เจ็บปวดจนใบหน้าขาวซีดเลือดสดๆ รินไหลจากหลังมือของเธอ ดูน่าสยดสยองเป็นอย่างมากหลิ่วอี๋หนิงหัวเราะ แล้วดึงกริดออกมาจนเลือดพุ่งกระฉูดตามไปด้วย จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากอย่างแรง จึงไม่มีเสียงโหยหวนเล็ดลอดออกมาดูสีหน้าอดทนอดกลั้นของเธอแล้ว มุมปากของหลิ่วอี๋หนิงก็ยกยิ้มกว้างขึ้น"ไม่คิดว่ากระดูกของเธอมันจะแข็งเอาเรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่า มันจะแข็งไปได้ถึงเมื่อไหร่"หล่อนชูกริดขึ้นอีกครั้ง เตรียมจะแทงลงไปยังหน้าอกของจี้อี่หนิงสุดแรงเกิดทว่าจังหวะที่กริดอยู่ห่างจากหน้าอกข้างซ้ายของจี้อี่หนิงเพียงไม่กี่เซนติเมตร จู่ๆ ความปวดร้าวก็ส่งตรงมาจากข้อมือ กริดที่กำอยู่ก็ตกลงบนพื้นเช่นกันหลิ่วอี๋หนิงมองลูกดอกที่แทงใส่ข้อมือของหล่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แล้วช้อนสายตาขึ้นมองไปยังทิศทางที่ลูกดอกยิงมาในทันที ก่อนจะเห็นร่างใครบางคนกำลังวิ่งมายังที่หล่อนอยู่แววตาของหล่อนเผยความลนลาน รีบก้มหน้าไปเก็บกริด ทว่าจังหวะที่กำลังก้มหน้าอยู่นั้น หล่อนก็ถูกเตะเข้าตรงลิ้นปี่อย่างรุนแรง จนกระเด็นออกไปทั้งร่างร่างกายของหล่อนกระแทกลงบนพื้นราวกับว่าวที่ด้

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 103

    ตอนนี้หากจี้อี่หนิงตายไป นอกจากอีกฝ่ายจะไม่ให้เงินแล้ว ดีไม่ดีจะโยนขี้ให้เขาว่าเป็นคนฆ่าจี้อี่หนิง เขาไม่มีอำนาจ แถมตอนนี้เจิ้งโหยวโหย่วยังโดนขังอยู่ในคุกอีก เขาจะเอาอะไรไปสู้หลิ่วอี๋หนิงเพราะงั้นเวลานี้การที่จี้อี่หนิงมีชีวิตต่อไป จะเป็นผลดีกับเขามากกว่า"แกเป็นบ้าไปแล้วหรอ? ดีไม่ดีตอนนี้เสิ่นเยี่ยนจือรู้แล้วว่าพวกเราจับตัวหล่อนมา ยิ่งชักช้ายิ่งจะไม่เป็นผลดีกับพวกเรา""ฉันแค่ต้องการเห็นเงินก่อน ถ้าคุณอยากฆ่าเธอผมจะไม่ยุ่ง""ดึกดื่นป่านนี้ ฉันจะไปโอนเงินให้แกได้ยังไง อย่างน้อยๆ ก็ต้องรอพรุ่งนี้เช้า ให้เจ้าหน้าที่ธนาคารเข้างานก่อน!"หลิ่วอี๋หนิงโมโหจนจะบ้า เจิ้งกั๋วอันเหมือนกับเจิ้งโหยวโหย่วไม่มีผิด ร่วมมือกับคนโง่ มีแต่จะพาเธอลงเหวอีกอย่างถึงจะโอนเงิน เธอก็ต้องใช้บัญชีต่างประเทศ ไม่งั้นถึงตอนนั้นเธอจะโดนตรวจพบได้"ฉันไม่สน ฉันจะเอาเงิน"ขณะที่ทั้งสองคนกำลังมีปากเสียงกัน แสงไฟจากที่ไกลๆ ก็เคลื่อนตัวเข้ามาเรื่อยๆสีหน้าของหลิ่วอี๋หนิงเปลี่ยนในทันใด เธอสั่งเสียงเย็นชา "เร็ว รีบพาเธอขึ้นบนดาดฟ้า!"เจิ้งกั๋วอันเองก็ตระหนักได้ถึงความตึงเครียดของสถานการณ์ ก็ไม่ได้โต้เถียงกับหลิ่วอ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 102

    สีหน้าของเสิ่นซื่อเปลี่ยนทันที เขาพูดเสียงเย็น "เกิดอะไรขึ้น?""ในบ้านของคุณจี้เละเทะไปหมด โทรศัพท์ของเธอวางอยู่บนโซฟา แต่เจ้าตัวหายไปครับ""รีบไปสืบเดี๋ยวนี้"ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ซุนสิงก็สืบได้ว่าจี้อี่หนิงถูกลักพาตัวไป จีบรีบรายงานเสิ่นซื่อทันทีรถตู้ไม่ติดป้ายทะเบียนเพิ่งจะเข้าเขตตัวเมืองได้ไม่เท่าไหร่ ก็ถูกกลุ่มคนขวางเอาไว้เมื่อเห็นชายชุดดำสิบกว่าคนยืนล้อมตัวรถ ชายหนุ่มก็ชะงักไป เปิดประตูลงจากรถ ขณะกำลังจะถามว่ามีอะไร ก็ถูกคนถีบเข้าอย่างแรง จนทรุดลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น"โอ๊ย!"เขาโอดครวญอย่างน่าสังเวช ความเจ็บปวดจากหัวเข่าที่แตกทำให้เขาหน้าซีด เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มไปหน้าไม่หยุดซุนสิงมีสีหน้าเย็นยะเยือก "แกลักพาตัวคนไปไว้ที่ไหน?"แววตาของชายหนุ่มเผยความลนลานเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะรีบส่ายหน้า "พวกแกพูดอะไร...ฉันไม่รู้เรื่อง"ซุนสิงแค่นหัวเราะเสียงเย็น "ไม่รู้เรื่องใช่ไหม? งั้นก็จะกระทืบจนกว่าจะรู้"วินาทีที่เขาพูดจบ ชายชุดดำสิบกว่าคนรุมเข้าไป เสียงโอดครวญดังเป็นระลอกๆไม่ถึงห้านาที ชายหนุ่มก็พูดอย่างสังเวช "อย่าทำผมเลย...อย่าทำผมเลย ผมจะบอกแล้ว...ผมจะบอก"ซุนสิงส่งซิ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 101

    "ใครน่ะ?"เมื่อฟังออกว่าเป็นฉินจืออี้ สีหน้าของจี้อี่หนิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย"ฉันคือจี้อี่หนิง ฉันต้องการคุยกับเสิ่นเยี่ยนจือ เอาโทรศัพท์ให้เขา"เสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากปลายสาย "เธอบอกว่าเยี่ยนจือน่ะหรอ เขากำลังอาบน้ำอยู่ เกรงว่าจะไม่ว่างรับสายเธอน่ะสิ คุณจี้ มีธุระอะไรกับเขาบอกฉันได้เลย ฉันจะช่วยบอกเขาให้"จี้อี่หนิงกัดริมฝีปากเล็กน้อย มือที่ทิ้งน้ำหนักลงข้างตัวกำแน่นโดยอัตโนมัติ"ฉินจืออี้ ฉันถูกลักพาตัว..."ยังพูดไม่ทันจบ ฉินจืออี้ก็ตัดบทเธอขึ้นมา "จี้อี่หนิง เธอคิดว่าคำโกหกเงอะงะแบบนี้จะทำให้เยี่ยนจือไปหาเธอได้หรอ? ถ้าเธออยากจะเขาจริงๆ เธอก็มาหาเขาเองสิ แต่คืนนี้เขาต้องอยู่เป็นเพื่อนฉันกับลูก เกรงว่าจะไม่ว่างสนใจเธอหรอก"เวลานี้เหตุการณ์เกี่ยวพันกับชีวิต จี้อี่หนิงจึงไม่มีเวลามาคิดแค้นหล่อน"ฉันโดนลักพาตัวจริงๆ...ขอแค่เธอบอกเขาเรื่องนี้ก็พอ...""ถ้าเธอโดนลักพาตัวจริง งั้นก็ไปตายซะสิ ถ้าไม่มีเธอสักคน ลูกในท้องของฉันก็เชิดหน้าชูตาเกิดมาได้อย่างภาคภูมิ ฉันเองก็จะได้อยู่กับเยี่ยนจือ ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าเธอตายไป ฉันจะเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้ทุกปีเลยล่ะ"น้ำเสียงของฉินจืออี้เต

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 100

    "ต่อให้แกแฉออกไปตอนนี้ฉันก็ไม่มีเงิน อีกอย่างถ้าเรื่องนี้ถูกแฉออกไป แกก็ต้องติดคุกเหมือนกัน!"เสียงถกเถียงของทั้งสองคนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดจี้อี่หนิงก็รู้แล้วว่าคนที่ลักพาตัวตนเองคือพ่อของเจิ้งโหยวโหย่ว เจิ้งกั๋วอันแต่ตัวเธอเคยเขาแค่ครั้งเดียวเอง เขารู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่ไหน? อีกทั้งยังแอบซุ่มอยู่ในบ้านเธออีก...เธอสามารถมั่นใจได้ว่า นี่ไม่ใช่วิธีที่แรงงานเกษตรคิดออกมาได้แน่ ๆ ต้องมีคนคอยบงการเขาอยู่เบื้องหลังแน่นอนและคนคนนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นหลิ่วอี๋หนิงผ่านไปสักพัก เสียงถกเถียงข้างนอกก็หยุดลง ตามมาด้วยเสียงสตาร์ทรถยนต์ และไม่นานบริเวณโดยรอบก็เหลือแต่ความเงียบจี้อี่หนิงหายใจช้า ๆ โดยไม่รู้ตัว ไม่กล้าหอบหายใจเสียงดังทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่ากระเป๋าเดินทางขยับ จากนั้นก็เป็นเสียงล้อลากกับพื้นเมื่อสังเกตได้ว่าอีกฝ่ายกำลังลากตัวเธอไปที่ไหนก็ไม่รู้ ในใจจี้อี่หนิงก็ตื่นตระหนกทันที ครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าจะหนียังไงดีเธอค่อย ๆ รูดซิปบนหัวออก แต่ข้างนอกมืดสนิท มีแค่แสงสว่างเพียงเล็กน้อยคอยส่องทางจากไฟฉายกระบอกหนึ่งในมือของคนข้างหน้าที่ลากกระเป๋าเดินทางจี้อี่หนิงมองไม่ส

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 99

    มีคนแอบซุ่มรอทั้งในห้องนอนและหน้าประตู เห็นทีอีกฝ่ายคงวางแผนมาแล้วเธอลุกขึ้นมาวิ่งไปตรงไปยังห้องครัว แต่เพิ่งเริ่มวิ่งได้สองก้าวก็ถุกคนคว้าแขนเอาไว้ แล้วกระแทกเธอเข้ากับกำแพงอย่างแรง"แกเป็นใคร? ทำไมต้อง...อื้อ..."อีกฝ่ายใช้มือข้างหนึ่งกดจี้อี่หนิงไว้ มืออีกข้างก็ใช้ผ้าผืนหนึ่งอุดจมูกของจี้อี่หนิง ไม่ให้โอกาสจี้อี่หนิงได้พูดเลยสักนิดกลิ่นฉุนเตะจมูก ภาพตรงหน้าของจี้อี่หนิงก็ค่อย ๆ มัวลงช้า ๆผ่านไปไม่นาน ผู้ชายสวมผ้าปิดปากสองคนก็ลากกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งเดินออกไปจากบ้านของจี้อี่หนิงเนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว คนส่วนมาก็เลิกงานกลับบ้านกันหมด ในหมู่บ้านจึงไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตสองคนนี้ไม่นาน ทั้งสองคนก็มาถึงประตูหลังของหมู่บ้าน มีรถตู้ที่ไม่มีป้ายทะเบียนคันหนึ่งจอดอยู่ใต้ต้นไม้ทั้งสองคนเอากระเป๋าเดินทางใส่ไว้ในกระโปรงหลังรถ จากนั้นก็ขับรถมุ่งตรงออกไปยังนอกเมืองทันทีชิงหงกรุ๊ปห้องทำงานประธานซุนสิงถือเอกสารชุดหนึ่งรีบเดินเข้าไปอย่างรีบเร่ง "ประธานเสิ่นครับ เมื่อกี้บริษัทคู่ค้าส่งเอกสารชุดนี้กลับมา บอกว่าข้อมูลการทดลองเหมือนจะมีปัญหา แต่

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 98

    ทันใดนั้น ใบหน้าของเสิ่นเยี่ยนจือก็ปรากฏเป็นรอยฝ่ามือขึ้นมาทันที แววตาของเขาที่มองจี้อี่หนิงก็กลายเปลี่ยนเป็นความเย็นชาอย่างสุดขั้ว“นี่คุณกล้าตบผมเหรอ?!”จี้อี่หนิงเงยหน้าขึ้นสบตากับแววตาโกรธเคืองของเขา แล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ "ทำไมฉันจะตบคุณไม่ได้? คนที่นอกใจคือคุณต่างหาก แต่คุณบังอาจวิ่งแจ้นไปใส่ร้ายฉันต่อหน้าพ่อของฉัน คุณไม่สมควรโดนตบรึไง?"ทันทีที่พูดจบ เสิ่นเยี่ยนจือก็บีบคางเธอและกดเธอไว้กับกำแพงทันที รังสีความโหดฉายออกมาในแววตา"อี่หนิง คุณไม่เชื่อฟังคำสั่งของผมก่อนเอง ถ้าคุณเชื่อฟังผมดี ๆ ผมก็ไม่มาหาพ่อตาหรอก"จี้อี่หนิงแค่นหัวเราะออกมา "ถ้าคุณกล้ามาหาพ่อของฉันอีก ฉันก็จะแฉเรื่องที่คุณนอกใจออกมาให้หมด""ถ้าคุณไม่กลัวว่าพ่อจะได้รับแรงกระตุ้นแล้วอาการแย่ลง คุณจะไปบอกตอนนี้เลยก็ได้"น้ำเสียงไม่แยแสของเสิ่นเยี่ยนจือทำให้ความโกรธของจี้อี่หนิงสุมขึ้นในอก มือที่วางข้างลำตัวก็กำแน่นโดยไม่รู้ตัว"เสิ่นเยี่ยนจือ ทำไมคุณกลายเป็นคนหน้าด้านไร้ยางอายได้ขนาดนี้?!"เสิ่นเยี่ยนจือก้มหน้ามองเธอ เมื่อเห็นความเกลียดชังและความโกรธในแววตาของเธอ ม่านตาของเขาก็หดตัวลงแล้วบีบคางเธอแน่นกว่าเดิ

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 97

    ฝีเท้าของจี้อี่หนิงหยุดชะงักไป ขมวดคิ้วมองเสิ่นเยี่ยนจือที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยแววตาโกรธเคือง"คุณไปพูดอะไรกับพ่อฉัน?!"เสิ่นเยี่ยนจือยังไม่ทันปริปาก จี้เหว่ยหงก็พูดด้วยความเกรี้ยวกราด "เธอยังกล้าคาดคั้นเยี่ยนจืออีก?! เธอกับอาเล็กของเขาแอบกิ๊กกันเธอไม่รู้สึกผิดกับเขาเลยรึไง?"จี้อี่หนิงโมโหจนหน้าซีด แม้แต่ปลายนิ้วยังสั่นระริกเธอไม่คิดเลยว่าเสิ่นเยี่ยนจือจะหน้าไม่อายขนาดนี้ แว้งกัดต่อหน้าจี้เหว่ยหงก่อนซะงั้นสิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงก็ถึง จี้เหว่ยหงกลับเชื่อจริง ๆ"พ่อคะ ในสายตาพ่อหนุเป็นคนแบบนั้นเหรอ? พ่อไม่ถามหนูเลยด้วยซ้ำ แค่คำพูดของเสิ่นเยี่ยนจือฝ่ายเดียวก็คิดว่าหนุหักหลังเขาแล้ว?!"จี้อี่หนิงสูดหายใจลึก ตัดสินใจจะไม่ปิดบังเรื่องที่เสิ่นเยี่ยนจือนอกใจแอีกต่อไปแล้ว"พ่อรู้ไหมว่าเขาแอบ...""อี่หนิง เมื่อกี้พ่อเกือบจะเป็นลมเพราะเรื่องของเธอ หมอบอกว่าห้ามให้เขาถูกกระตุ้นแล้ว เธอต้องทำให้พ่อโมโหจนอกแตกตายก่อนถึงจะพอใจใช่ไหม?"เสียงของเสิ่นเยี่ยนจือดังมากจนกลบเสียงของจี้อี่หนิงไปหมดมือที่วางข้างลำตัวของจี้อี่หนิงกำแน่น ในใจเกลียดเสิ่นเยี่ยนจืออย่างสุดขีด"ในเมื่อคุณรู้ว่าพ่อของฉัน

  • ในวันหย่าร้าง ฉันถูกอาเล็กของอดีตสามีลักพาตัวไปจดทะเบียน   บทที่ 96

    เสิ่นซื่อเงยหน้ามองเขา เอ่ยปากด้วยสีหน้าเย็นชา "รู้แล้ว"เมื่อเห็นสีหน้าของเขาเฉยเมย ซุนสิงก็รู้สึกว่าการที่ตัวเองตั้งใจบอกเขาเรื่องนี้โดยเฉพาะมันไม่จำเป็นเลยพร้อมทั้งเตือนเสิ่นซื่อว่ามีประชุมตอนสิบโมง ซุนสิงก็หมุนตัวออกไปช่วงเที่ยง จี้อี่หนิงถือบัตรอาหารไปที่โรงอาหารเพิ่งเดินเข้าไปก็ต้องอึ้งกับความหรูหราของโรงอาหารชิงหง นี่ไม่ใช่โรงอาหารแล้ว ไม่ต่างอะไรกับร้านอาหารติดดาวเลยสักนิดเมื่อกวาดตามองไปแล้วอาหารทุกช่องล้วนประณีตเป็นอย่างมาก แค่มองก็รู้สึกหิวแล้วอีกทั้งราคาอาหารยังถูกมากเทียบเท่ากับโรงอาหารในมหาวิทยาลัยเลยโรงอาหารมีสามชั้นถ้วน มีอาหารครอบคลุมทุกชนิดทั้งอาหารตะวันตก อาหารจีน อีกทั้งยังมีอาหารประจำชาติเฉพาะกลุ่มประเทศอื่น ๆ อีกจี้อี่หนิงยืนต่อแถวอยู่ที่ช่องอาหารไทย สั่งข้าวผัดสับปะรดหนึ่งจานและต้มยำกุ้งหนึ่งถ้วยแล้วหาที่นั่งมุมหนึ่งนั่งลงเมื่อชิมน้ำซุปไปหนึ่งคำ ความเซอร์ไพรส์ก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ นี่มันอร่อยเหมือนที่เธอเคยกินที่ร้านอาหารห้าดาวเลยก่อนหน้านี้บนโซเชียลมีคนพูดกันว่าเรื่องโรงอาหารของชิงหงเทียบเท่าระดับห้าดาว ตอนนั้นจี้อี่หนิงยังคิดว่ากล่าวเกินจร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status