แชร์

3│ลูกเจี๊ยบไม่เด็กแล้ว (2)

ผู้เขียน: บีวีเหมียว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-22 00:14:26

 ฟังก์ชันบล็อกผลิตมาเพื่อปิดการมองเห็นคนที่ไม่อยากเห็นและไม่อยากให้เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ เขาถึงได้บล็อกพินรีไป เพราะเกรงว่าเธอจะทำตัวยุ่มย่าม อาทิ แสดงความคิดเห็นเชิงลบต่อความรู้สึกของเขา การไม่เห็นเธอในแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นทางออกที่ดีที่สุด

 ชายหนุ่มระบายลมหายใจอย่างคิดไม่ตก “ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอในนั้นนะ”

 “โอเค เฮียจ๋าว่าไงพิก็ว่างั้นค่ะ ไม่ตื้อ”

 หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน “อย่าเรียกแบบนี้”

 “ปลดบล็อก”

 “พิ”

 คนตัวเล็กทำตาแป๋ว “จ๋า”

 มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนหยิบสมาร์ตโฟนออกมา แตะไปที่เฟซบุ๊กเพื่อทำการปลดบล็อก ‘พิ เป็นไก่เน่าทุกทีเยย’

 เสร็จสรรพแล้วจึงยัดมือถือกลับเข้าที่เดิม “ถ้าเธอเรียกแบบนี้อีกฉันจะบล็อกอีกครั้ง”

 หล่อนพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย “รับแอดหน่อยค่ะ”

 “ไม่”

 วสุปฏิเสธเสียงแข็งกับพวกได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา เป็นเหตุให้พินรีทำหน้าหงอย ซึ่งเขาก็หาได้นึกสงสารแต่อย่างใด เด็กพรรค์นี้หากตามใจก็มีแต่จะยิ่งเรียกร้อง อนาคตหากยังต้องอยู่ร่วมกันเขาจะลำบากเอาได้

 “งั้นเรียกเฮียจ๋า”

 “เชิญ แต่บล็อก”

 ว่าจบก็หันมาสนใจข้าวและหน้าจอทีวี ไม่คิดจะง้องอนคนตัวเล็กที่ปั้นหน้าง้ำงอเหมือนเด็กๆ แผลงฤทธิ์ตอนผู้ปกครองไม่ซื้อของเล่นให้ ปกติแล้วเขาก็ไม่ใช่คนใจดีอะไร หนำซ้ำยังติดนิสัยขี้รำคาญ อย่างพินรีถ้าไม่มีมารดาคอยดันหลังคิดว่าเขาจะยอมให้มาป้วนเปี้ยนอยู่ในชีวิตหรือ

 ที่ยอมเพราะมีผลประโยชน์ต่างหาก

 เจ้าหล่อนครหาเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึง “เฮียขี้โกง”

 “โกงอะไร”

 “ไม่ยอมรับแอด พิอุตส่าห์ไม่เรียกเฮียจ๋า”

 “เราตกลงกันแค่เลิกเรียกกับปลดบล็อก ไม่ได้บอกสักคำว่าจะรับแอด” ก่อนพูดเบาๆ “ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนด้วยสักหน่อย”

 แต่พินรีได้ยิน “ไม่อยากเป็นเพื่อน อยากเป็นแฟนว่างั้น”

 วสุมองเจ้าของประโยคบาดหูนิ่งๆ “อยากเหวี่ยงออกนอกหน้าต่างจริงๆ”

 แทนที่พินรีจะสลด หล่อนกลับเปิดปากหัวเราะร่วน สลัดความอึมครึมทิ้งเสียแล้วฉีกยิ้มให้เพื่อนร่วมห้อง คิดในแง่ดีว่าอย่างน้อยก็ทำให้เขาปลดบล็อกได้แล้ว จากแต่ก่อนที่ไร้วี่แววว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น

 สาวเจ้าดึงใบหน้ากลับมาสนใจที่สมาร์ตโฟนของตนเอง กดแอดเฟรนด์ทิ้งไว้พร้อมกดติดตาม เลื่อนหน้าจอดูรูปเขาไปเรื่อยๆ

 “เฮียหล่อจัง”

 ชายหนุ่มได้ยินแต่ไม่คิดตอบโต้ ทำเพียงตักข้าวเข้าปากพร้อมวางสายตาไปที่โทรทัศน์ที่มีการรายงานข่าวความเคลื่อนไหวของการเมือง

 “เฮียหล่อแบบนี้ไม่มีสาวๆ มาขายขนมจีบบ้างเหรอคะ”

 “เยอะแยะ”

 คนฟังปั้นหน้างอ “ห้ามชอบใครนะ”

 “เป็นอะไรกันถึงมาสั่ง”

 “ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แต่อยากเป็น”

 เขาทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงของคนข้างๆ แต่แล้วก็จำเป็นต้องพูด “อย่ามัวแต่เล่นมือถือ กินข้าวก่อน”

 พอพี่ชายเพื่อนพูดเช่นนั้นพินรีก็วางโทรศัพท์ลงอย่างว่าง่าย ก่อนตักอาหารเข้าปาก ระหว่างมื้อหล่อนอมยิ้มกรุ้มกริ่มด้วยความอิ่มเอมใจ ลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของวสุเป็นระยะ ซึ่งเธอค้นพบว่าช่วงเวลาเหล่านี้มันไม่ต่างอะไรกับที่เคยวาดฝันมาตลอด อยากอยู่กับเขา อยากใช้ชีวิตด้วยกัน

 เธอไม่กังวลถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึงว่าหากต้องแยกจากกันจะเป็นอย่างไร หากมารดาของเขาบอกให้เธอกลับบ้านเพราะไม่ต้องอยู่สอดส่องพฤติกรรมลูกชายของท่านแล้ว ในวันนั้นเธอจะรับมือกับมันได้หรือไม่

 ช่างหัวมัน พินรีสนแค่ ณ เวลานี้ได้อยู่กับวสุเป็นพอ

 “พรุ่งนี้พิต้องไปส่งของให้ลูกค้า แล้วจะเลยไปซื้อวัตถุดิบทำอาหารด้วย เฮียมีเมนูที่อยากกินเป็นพิเศษไหมคะ”

 ดวงหน้าคร้ามคมส่ายเล็กน้อยเพื่อปฏิเสธ “พรุ่งนี้ฉันมีธุระ จะกินข้าวนอกบ้าน”

 “โอเคเลย งั้นพิก็จะเก็บท้องไว้รอไปกินข้าวข้างนอกกับเฮีย”

 “บอกตอนไหนว่าให้ไปด้วย”

 คนตัวเล็กยักไหล่สองสามที “ต้องให้บอกด้วยเหรอคะ เราอยู่ด้วยกัน ไปไหนต้องไปกันอยู่แล้วค่ะ ป้าวี่บอกพิว่าถ้ามาอยู่ที่นี่เฮียสี่จะคอยดูแลทุกอย่างเพราะพิไม่เคยอยู่กรุงเทพฯ” สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเธอไม่ได้เข้ามาเรียนในเมืองหลวง แต่ไปเรียนที่ภาคตะวันออก ต่างกับวลีที่เข้ามาเรียนในนี้ ซึ่งเธอก็มีโอกาสได้มาหาอยู่บ้างตามโอกาส

 จึงยอมรับว่าไม่สันทัดชีวิตในเมืองใหญ่เท่าที่ควร

 หล่อนสำทับไปอีกหน “ตอนนี้พิยังมือใหม่ เฮียไปไหนพิก็ขอไปด้วย จะได้รู้เส้นทางไปไหนมาไหนไม่หลงให้วุ่นวาย ลำพังหลงเฮียหัวปักหัวปำหัวใจพิก็ทำงานหนักพอแล้วค่ะ”

 วสุทำหน้าขยาด เขาไม่รู้ว่าพินรีสามารถวกเข้ามาหยอดเขาได้อย่างไร

 “สรุปว่าพิไปด้วยนะคะ แต่พรุ่งนี้ยังไงพิก็จะไปซื้อของมาตุนไว้ก่อน วันหลังจะได้ทำกับข้าวกินเอง” ชายหนุ่มดึงสายตาออกจากดวงหน้าหวาน เทความสนใจไปที่ข่าวสารบ้านเมือง ปล่อยให้พินรีพล่ามตามใจปรารถนา เพราะต่อให้เขาไม่อยากได้ยินก็คงห้ามปากเล็กๆ ที่ขยันพูดไม่ได้ “แต่เฮียแทบไม่มีเครื่องครัวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ปกติเฮียกินแต่ของพรรค์นั้น”

 ว่าจบก็วางช้อนลงในกล่องข้าวแล้วคว้าไอแพดมาถือแทน ก่อนจดโน้ตลงไปถึงสิ่งที่จำเป็นต้องซื้อ

 “อืม พวกเครื่องปรุงพิก็ไม่เห็นว่ามันจะมี เห็นมีแค่ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก เดี๋ยวไปเช็กอีกรอบแล้วกัน ส่วนเนื้อสัตว์เฮียชอบหมูกับไก่ ไม่กินเนื้อวัว ไม่แพ้กุ้ง งั้นพิจะซื้อหมู ไก่ กุ้ง มาแล้วกันค่ะ” ว่าพลางจดลงไปในเครื่องมือสื่อสาร “เฮียไม่กินถั่วงอก ถั่วฝักยาว พิจะไม่ทำเมนูที่มีสองอย่างนี้ แต่จะเน้นแขนงแทน เฮียชอบแขนงที่สุดเลยนี่ แล้วเดี๋ยวนี้มีของที่ชอบนอกจากแขนงไหมคะ เราไม่ค่อยได้คุยกันมานาน บางทีอาจจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง”

 ตาเขาดูทีวี แต่หูได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วชัดถ้อยชัดคำ จึงขยับปากตอบด้วยน้ำเสียงเรียบสนิท

 “ไม่เปลี่ยน อะไรที่ฉันชอบฉันก็ชอบแบบนั้น แต่อะไรที่ฉันไม่ชอบ” ว่าแล้วชำเลืองสายตาไปทางเพื่อนน้องสาว “ยังไงฉันก็ไม่ชอบ”

 คำพูดและแววตาของวสุมีนัยแฝง แต่พินรีกลับฉีกยิ้มกว้าง

 “เหมือนกันเลยค่ะ อะไรที่พิไม่ชอบยังไงก็ไม่ชอบ แต่อะไรที่ชอบให้ตายก็ไม่เลิกชอบค่ะ” พูดพลางชี้นิ้วไปทางร่างหนา “แบบเฮีย นานแค่ไหนพิก็ชอบ”

 เขาทอดถอนลมหายใจพรืดใหญ่ เพียงแค่วันแรกที่ยังเจอกันได้ไม่ถึงวันด้วยซ้ำ แต่เขากลับโดนแม่นี่เล่นงานจนพรุน และวสุรู้ดีว่าพินรีในตอนนี้ไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ ยิ่งเป็นเด็กเส้นของคุณนายวิไลด้วยแล้วเขาก็ยิ่งขยับตัวลำบาก ถ้าแม่นี่ฟ้องแม่ว่าเขาทำตัวไม่ดี มรดกหลายสิบล้านอาจหลุดมือได้

 แล้วทำไมแม่จะต้องเป็นมาดามดันให้เด็กนี่ด้วย มีอะไรดีกันยายเด็กปากไม่มีหูรูดน่ะ

 “ไม่ต้องมาชอบฉันหรอก บอกไปแล้วว่าไม่ชอบเด็ก ที่หมายถึงไม่ชอบเธอ”

 ความรู้สึกปวดหนึบแล่นสู่กลางอก เรื่องนี้เธอรู้มานานมากแล้ว รู้ตั้งแต่เริ่มชอบเขาด้วยซ้ำ แต่ทุกครั้งที่เขาย้ำเตือนว่าไม่ชอบกันมันก็อดหน่วงที่ใจไม่ได้ แต่ก็รีบสลัดมันทิ้งเพราะถึงน้อยใจไปเขาก็ไม่ง้ออยู่ดี เธอมาที่นี่มีเป้าหมายหลักในการมัดใจเขา

 ถ้ายังไม่ได้ใจของวสุมาครอบครอง เธอจะไม่พิสูจน์ความสำคัญของตัวเองให้เสียเปล่า เพราะหากเธอหายไป แน่นอนว่าเขาจะไม่ตามหา

 “รู้ค่ะ”

 “รู้แล้วก็ถอดใจไปเถอะ ฉันมองเธอเป็นน้องจริงๆ นะพิ”

 “แต่เฮียรู้ใช่ไหมคะว่าพิจะไม่ตัดใจแค่เพราะเฮียบอกว่าไม่ชอบกัน ต่อให้เฮียบอกว่าไม่ชอบพิพันครั้ง พิก็จะรอให้ครั้งที่หนึ่งพันหนึ่งเปลี่ยนเป็นเฮียบอกว่าชอบพิ”

 “ครั้งที่หนึ่งพันหนึ่งฉันก็จะพูดว่าไม่ชอบเธอ”

 ริมฝีปากสีระเรื่อเบนออก แววตาไร้ความหมองใจ ยังคงสดใสเหมือนทุกครั้ง “งั้นพิจะรอครั้งที่หนึ่งพันสอง หนึ่งพันสาม หรือหนึ่งพันสี่ มันต้องมีสักครั้งที่เฮียใจอ่อน แต่อย่านานนักนะคะ”

 วสุเพียงมองนิ่งๆ ไม่คิดขยับปากตอบโต้

 “เฮียอายุไม่น้อยแล้ว พิเป็นห่วง”

♡⃛ ──────── ♡⃛

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   3│ลูกเจี๊ยบไม่เด็กแล้ว (3)

    พื้นฐานแล้วพินรีไม่ใช่คนตื่นสาย อาจจะไม่ได้ตื่นเช้าเท่าพ่อและแม่ที่ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพื่อเตรียมตัวเปิดร้านน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ให้ทันคนไปทำงานตอนเช้า ผนวกกับต่างที่จึงทำให้รู้สึกตัวตั้งแต่หกโมงครึ่ง ห้องของเธอไม่มีห้องน้ำในตัว ต่างจากห้องของวสุ พินรีลุกจากเตียง เก็บที่นอนให้เรียบร้อยแล้วคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กมาพาดบ่า ก้าวเดินออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางด้วยสภาพผมฟู หน้ายังไม่ได้ล้าง แลดูมอมแมมสมเป็นไก่เน่า ทว่าเมื่อพาตัวเองออกมาจากห้องนอนกลับพบใครบางคนนั่งอยู่ที่โซฟาพร้อมแก้วกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วบริเวณ ชายร่างสูงทิ้งสายตาไว้ที่หน้าจอสี่เหลี่ยมในมือ แต่เสียงเปิดประตูของเพื่อนร่วมห้องก็เรียกสายตาให้ชำเลืองไปมอง พินรียืนผมฟูฉีกยิ้มให้เขาก่อนเปล่งเสียงหวานให้ลอยมาตามลม “ตื่นเช้าจังเลยค่ะ” “มีงานมีการต้องทำ” “ชอบจังคนตื่นเช้า” เจ้าของห้องปั้นหน้าตึง “ปกติไม่ได้ตื่นเช้าเท่าไร” “ตื่นสายก็ชอบค่ะ” คนตัวใหญ่อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ถ้ายังลามปามมาเล่นหัวฉันไม่เลิก ฉันจะไม่ให้อยู่ด้วยจริงๆ นะพิ” หล่อนไหวไหล่แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำ วสุดึงสายตากลับมาที่เดิม เขายังคงไม่ชินที่มีคนมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   3│ลูกเจี๊ยบไม่เด็กแล้ว (4)

    ไก่เน่าท่านหนึ่งนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ในเอสยูวีสัญชาติญี่ปุ่นเมื่อนึกถึงสิ่งที่เจ้าชายน้ำแข็งเพิ่งทำลงไป พินรีไม่ได้หวังว่าวสุจะใจดี ด้วยที่ผ่านมาเขาก็ทำตัวอย่างกับยักษ์กับมารใส่เธอตลอด แต่อีกฝ่ายกลับทำอย่างที่ลั่นวาจาไว้ด้วยการบอกให้สดายุที่รับหน้าที่ดูแลอัปสราอยู่ที่ชาเฮาส์มารับเธอกลับคอนโดฯ เพราะเจ้าตัวไปต่างจังหวัดกับเจ้านาย ผู้ช่วยสส. ที่ถูกโยกย้ายมาดูแลคนท้องชำเลืองมองสาวน้อยข้างกายพร้อมรอยยิ้มบางๆ บนดวงหน้าคม พินรีก็เหมือนน้องสาวเขาอีกคน “พออยู่ได้ไหม” เจ้าหล่อนผินหน้าไปทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย พยักหน้าติดกันหลายหน “อยู่ได้ค่ะ สบายมาก” สารถียกยิ้มแต่ก็นึกเห็นใจคนที่ตนมองเป็นน้องสาวไม่ได้ “อยู่กับเฮียสี่ต้องทำใจหน่อยนะพิ” “...คะ?” “มันหน้าเลือด ไหนยังเค็มยิ่งกว่าเกลือ” ได้รับคำตอบเช่นนั้นเสียงหัวเราะก็ถูกพ่นออกมาจากปากสีหวาน “ไม่เท่าไรค่ะ พิไหว” เขาถอนหายใจพรืด “เฮียขอเอาใจช่วยเราแล้วกัน มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาได้ตลอดนะ” “ค่ะ” เรื่องพฤติกรรมการใช้เงินของวสุไม่ใช่ปัญหา หากมองอย่างเป็นกลางเขาย่อมทำถูกทุกอย่าง คนอยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน ค่าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   4│ลูกเจี๊ยบเดินเกม (1)

    บทที่ 4ลูกเจี๊ยบเดินเกม... หนุ่มสาวจากชั้นสี่สิบพากันมายังส่วนของลานจอดรถ หลังก่อสงครามประสาทกันอยู่พักใหญ่เพราะเจ้าของห้องไม่ปรารถนาจะให้มีป้ายบาดตาอยู่บนประตู แต่คนทำกลับยืนกรานที่จะติดมันไว้ ลูกดื้อของพินรีนั้นมีเหลือล้น และวสุก็ป่วยการจะเอาชนะ จึงปล่อยให้พวกมือบอนทำตามใจตัวเอง เมื่อมาถึงเอสยูวีที่ชายหนุ่มเป็นเจ้าของ เขาไม่รอช้าที่จะสอดกายเข้าไปด้านในโดยมีคนตัวเล็กตามขึ้นมานั่งที่เบาะข้างคนขับ นัยน์ตาคู่คมถูกทิ้งไปที่ร่างแน่งน้อย เอ่ยเสียงเรียบ “ไปนั่งข้างหลัง” “คะ?” “เดี๋ยวมีคนมานั่งตรงนี้ เธอไปนั่งข้างหลัง” พินรียังคงไม่ขยับเขยื้อนไปตามประโยคแกมสั่งของเขา แต่เลือกที่จะนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมเปิดปากถามในสิ่งที่ตนสงสัย “เราไม่ได้จะไปกันแค่สองคนเหรอคะ” “ตอนแรกจะไปแค่สองคน แต่เธอขอมาด้วยเลยเป็นสาม” หญิงสาวเอียงคอมอง “หมายถึงพิเป็นคนที่สามน่ะเหรอ” เขาแกล้งกระทบกระเทียบ “ฉลาดนี่” ทว่าพินรีไม่หยิบมาใส่ใจ แต่ยิงคำถามไปอีกหน “แล้วคนที่สองคือใครคะ” “ไปนั่งข้างหลังเดี๋ยวก็รู้เอง” “ผู้หญิงผู้ชาย?” บางทีอาจจะเป็นหนึ่งในพลพรรคของเขาก็เป็นได้ ใครสักคนบนชั้นสี่สิบที่เธอยังไม่ค่อยรู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   4│ลูกเจี๊ยบเดินเกม (2)

    พินรีจมกับความคิดของตัวเองอยู่นาน กระทั่งรถแล่นเข้ามายังบ้านหลังใหญ่ที่สามารถดึงความสนใจของหล่อนจากการครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรให้จีบคนอย่างวสุติดภายในหนึ่งเดือน เพื่อหันมาสอดส่องสายตามองดูบ้านหลังงามด้วยความตื่นเต้น ก่อนดึงสายตาไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย “เฮียมารับใครในที่แบบนี้เหรอคะ” “ลูกสาว” ดวงตาสีน้ำตาลเบิกโตด้วยความตกใจ หล่อนอ้าปากพะงาบๆ คล้ายมีสิ่งที่อยากเอ่ยทว่าไม่มีเสียงที่จะเล็ดลอดออกไป กระทั่งรถจอดลงยังส่วนของหน้าบ้าน พินรีถึงได้หาเสียงของตัวเองเจอ “เฮียมีลูกเหรอคะ” คนขี้แกล้งเพียงยิ้มน้อยๆ แต่ไม่ยอมตอบให้กระจ่าง จากนั้นก็เปิดประตูลงไปโดยที่หนนี้ผู้โดยสารไม่ได้ตามลงไปด้วย เธอยังประมวลข้อมูลที่ได้รับมาไม่ครบถ้วนจึงยังอยู่ในสภาพจังงัง เป็นไปได้หรือที่วสุจะมีลูกมีเมียแล้ว ล้อกันเล่นแน่ๆ หากนั่นคือเรื่องจริงคนในครอบครัวย่อมรู้ และวลีก็ต้องรู้ ซึ่งถ้าแม่นั่นรู้มีหรือที่จะไม่บอกเธอ ไหนยังส่งเธอมาอยู่กับพี่ชายตัวเองอีก แต่กรณีที่เขาแอบไข่ทิ้งไว้แล้วไม่บอกใครเลยก็....ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ครู่สั้นๆ ก็มีกลุ่มคนเดินออกมาจากบ้านหลังงาม เป็นหญิงวัยกลางคนท่าทางแลดูภูมิฐา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   4│ลูกเจี๊ยบเดินเกม (3)

    “มาทำงานกับหนูไหมคะ” คำเชื้อเชิญของเด็กสาวเจ้าของ Aroma & Sound ส่งผลให้พินรีนิ่งงันไปหลายวินาที เธอยังคงสับสนกับสถานะของคนทั้งสองว่าจริงๆ แล้วมันมีความเป็นมาเช่นไร เหตุใดวสุต้องบอกว่าเป็นลูกสาว ทั้งที่ดูอย่างไรก็ไม่ใช่พ่อลูก ตัวอิสรีเองก็เรียกชายหนุ่มว่าพี่ หรือเขาแค่หยอกให้เธอใจฝ่อจนอยากยอมแพ้ในการจีบ ต่อให้มีลูกแล้วก็จะจีบเถอะ ถ้ายังยืนยันว่าโสดไม่มีเมียน่ะ พิคนนี้ดับเครื่องชนหมด! เท่าที่สังเกตดูเหมือนอิสรีจะเป็นคนที่วสุเอ็นดูมากพอสมควร ดูได้จากตอบโต้บทสนทนา สายตาที่ใช้มอง ทั้งยังยิ้มให้อย่างอบอุ่น ยิ้มแบบที่เธอก็เคยได้รับตอนยังเป็นเด็กๆ แต่หลังจากทำตัวเป็นกบฏก็ไม่เคยเห็นมันอีกเลย วสุเริ่มเหินห่างไปเรื่อยๆ จนเธอเข้าใจไปว่าเขาเป็นคนยิ้มยาก แต่เขาแค่ไม่มีมันให้เธอเท่านั้น กับคนอื่นก็ยังได้รับเป็นปกติ ความเฉยชาของพี่ชายเพื่อนถูกสงวนไว้ใช้แค่กับเธอคนเดียว ด้วยประการทั้งปวง เธอควรตกลงหากอยากอยู่ใกล้ชิดกับวสุ พินรีต้องการทีมสนับสนุนจำนวนมากเพราะกำแพงน้ำแข็งนั้นทำลายยากจนอาจจะเกินกำลังจะสู้เพียงลำพัง “ทำเกี่ยวกับเทียนหอมอย่างเดียวเลยเหรอคะ” “ค่ะ ทำเทียนหอมขาย” เจ้าของร้านวัยแรกรุ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-22
  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   บทนำ

    บทนำ... ณ บ้านหลังงามของตระกูลพ่อค้าทองคำแห่งเมืองสมุนไพรอย่างโรจนวาณิชย์ บัดนี้เนืองแน่นไปด้วยแขกเหรื่อที่เดินทางมาเพื่อเป็นสักขีพยานรักของลูกสาวคนสุดท้องของบ้าน วลี โรจนวาณิชย์ เจ้าของร้านเครื่องประดับสุดหรูของปราจีนบุรีอย่าง Larimar Jewelry ที่ควงคู่ทายาทร้านอะไหล่จากมิตรภาพยานยนต์เช่น แทนคุณ วงศ์ชวาลา เข้าประตูวิวาห์หลังจากทั้งคู่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เป็นเวลาเก้าปีของบ่าวสาวที่ช่วยกันปลูกต้นรักจนสุกงอมได้ที่ พร้อมผลิดอกออกผลในวันที่ทั้งคู่โตพอจะสร้างครอบครัวด้วยกันอย่างวันนี้ โดยมีใครบางคนที่ปีติไม่ต่างจากบ่าวสาว ใครคนนั้นที่อยู่เคียงข้างคู่รักมาตั้งแต่ในรั้วโรงเรียน ด้วยฝ่ายชายอายุมากกว่าสองปี มีช่วงที่แทนคุณเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยในเมืองหลวง รักทางไกลย่อมมีปัญหาบ้าง ก็ได้ใครคนนั้นช่วยเป็นตัวกลางคอยเชื่อมให้เสมอ วันนี้ใครคนนั้นมาในฐานะเพื่อนเจ้าสาว...พินรี เพื่อนที่ดีที่สุดของน้องเล็กแห่งบ้านพ่อค้าทองคำ เจ้าหล่อนมองดูเพื่อนสนิทในชุดเจ้าสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ด้วยตนเองมีความสุขไม่ต่างจากบ่าวสาวเลย เพราะนอกจากจะได้ส่งเพื่อนรักและรุ่นพี่เข้าประตูวิวาห์แล้วนั้น ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21
  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   1│ลูกเจี๊ยบกับหลุมล่อแมว (1)

    บทที่ 1ลูกเจี๊ยบกับหลุมล่อแมว... “แล้วเฮียมันว่าไง” พินรีถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับคำถามของเจ้าสาวป้ายแดง “บอกว่ายังโตไม่พอ” เรียวคิ้วสวยได้รูปของวลีมุ่นเข้าหากันเป็นปม “ฮะ?” ใบหน้าจิ้มลิ้มพยักขึ้นลงอย่างหมดแรง “อื้อ พอถามว่าแล้วต้องโตแค่ไหนถึงจะพอ เฮียเขาก็บอกว่าไม่มีวันพอ แล้วก็เดินไปเลย” วลีผ่อนลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ ส่ายหน้าไปมาด้วยรู้สึกไม่เข้าท่าขึ้นทุกวัน “พอๆ คบกับหมอขลุ่ยเถอะ ช่างหัวไอ้พวกขี้เก๊ก เล่นตัวอย่างกับหล่อมากอะ” “นั่นเฮียเธอด้วยซ้ำ” “ก็เพราะยังมีคำว่าเฮียค้ำคอถึงพูดแค่นี้ไง ถ้าไม่ได้เป็นพี่น้องกันฉันคงว่าแรงกว่านี้” พินรีก้มหน้าลงไปตอบข้อความลูกค้าที่ส่งเข้ามาเพื่อสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดของน้ำหอม เสร็จสรรพจึงเงยหน้าขึ้นมาต่อบทสนทนากับเพื่อนสนิท “หรือมันเพราะฉันดูไม่โตจริงๆ” “ไม่เกี่ยวกันพิ ที่เฮียมันพูดคือต่อให้เธอโตกว่านี้ เป็นสาวกว่านี้ มันก็ไม่สน อย่าเสียเวลาเลย” เจ้าของ Larimar Jewelry ทราบดีอยู่แล้วว่าต่อให้พูดอย่างไรก็ไม่เข้าหูแม่ค้าน้ำหอม หากเข้า ก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา พูดอะไรไปมิเคยนำพาเพราะพินรีหาทางปีนขึ้นจากหลุมรักของพี่ชายตัวเองไม่ได้ เธอก็อยาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21
  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   1│ลูกเจี๊ยบกับหลุมล่อแมว (2)

    แผนการที่ถูกกลั่นออกจากมันสมองอันเฉลียวฉลาดของน้องสาว ถูกพี่ชายสานต่ออย่างสามัคคี กลายเป็นคู่หูที่ทำงานด้วยกันอย่างเข้าขา แม้ว่าเขาจะถูกน้องรักหยิกจนหลังเขียวก็ตาม หลังเลิกงานพี่ๆ ในกลุ่มก็เดินทางกลับคอนโดมิเนียมเพื่อพักผ่อน เว้นก็แต่รถคันของท่านสส. ที่มีผู้เชี่ยวชาญอย่างพี่ชายแท้ๆ กับพลขับซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตน ที่วนไปส่งเจ้านายที่เพนต์เฮาส์ กับตัวเขาเองที่ถูกโยกมาดูแลความปลอดภัยของเมียเจ้านายที่ร้านชาเฮาส์ เขาเมินข้อความของคมชาญที่ส่งมาถามในกลุ่มว่าคืนนี้จะออกไปไหนไหม เพราะมีเรื่องสำคัญให้ต้องจัดการ ตอนนี้สดายุนั่งอยู่ในมุมหนึ่งของร้านกาแฟ โดยมีอีกสองชีวิตช่วยกันเก็บร้าน เป็นอัปสราและชื่นพธู คนพี่ท้องได้สามเดือนนิดๆ แต่ไม่ยอมลางาน เพราะไม่มีอาการแพ้ท้องที่รุนแรง เขาจึงถูกส่งมาประจำที่นี่แทนที่จะไปช่วยงานสัตรา คนน้องเพิ่งเรียนจบไม่รู้จะทำอะไร อาศัยทักษะการชงเครื่องดื่มที่มีติดตัวมาสมัครงาน เดิมทีชยินซึ่งเป็นเจ้าของร้านหน้าเลือดไม่คิดจะจ้างใครเพิ่ม แต่เพราะอัปสราตั้งครรภ์จึงไม่อยากให้ทำงานหนัก สุดท้ายก็ยอมจ้างชื่นพธู ส่วนตัวเจ้าของวันนี้ไม่ได้เข้ามาที่ร้านอีกเช่นเคย สองสาวพูดคุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21

บทล่าสุด

  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   4│ลูกเจี๊ยบเดินเกม (3)

    “มาทำงานกับหนูไหมคะ” คำเชื้อเชิญของเด็กสาวเจ้าของ Aroma & Sound ส่งผลให้พินรีนิ่งงันไปหลายวินาที เธอยังคงสับสนกับสถานะของคนทั้งสองว่าจริงๆ แล้วมันมีความเป็นมาเช่นไร เหตุใดวสุต้องบอกว่าเป็นลูกสาว ทั้งที่ดูอย่างไรก็ไม่ใช่พ่อลูก ตัวอิสรีเองก็เรียกชายหนุ่มว่าพี่ หรือเขาแค่หยอกให้เธอใจฝ่อจนอยากยอมแพ้ในการจีบ ต่อให้มีลูกแล้วก็จะจีบเถอะ ถ้ายังยืนยันว่าโสดไม่มีเมียน่ะ พิคนนี้ดับเครื่องชนหมด! เท่าที่สังเกตดูเหมือนอิสรีจะเป็นคนที่วสุเอ็นดูมากพอสมควร ดูได้จากตอบโต้บทสนทนา สายตาที่ใช้มอง ทั้งยังยิ้มให้อย่างอบอุ่น ยิ้มแบบที่เธอก็เคยได้รับตอนยังเป็นเด็กๆ แต่หลังจากทำตัวเป็นกบฏก็ไม่เคยเห็นมันอีกเลย วสุเริ่มเหินห่างไปเรื่อยๆ จนเธอเข้าใจไปว่าเขาเป็นคนยิ้มยาก แต่เขาแค่ไม่มีมันให้เธอเท่านั้น กับคนอื่นก็ยังได้รับเป็นปกติ ความเฉยชาของพี่ชายเพื่อนถูกสงวนไว้ใช้แค่กับเธอคนเดียว ด้วยประการทั้งปวง เธอควรตกลงหากอยากอยู่ใกล้ชิดกับวสุ พินรีต้องการทีมสนับสนุนจำนวนมากเพราะกำแพงน้ำแข็งนั้นทำลายยากจนอาจจะเกินกำลังจะสู้เพียงลำพัง “ทำเกี่ยวกับเทียนหอมอย่างเดียวเลยเหรอคะ” “ค่ะ ทำเทียนหอมขาย” เจ้าของร้านวัยแรกรุ่

  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   4│ลูกเจี๊ยบเดินเกม (2)

    พินรีจมกับความคิดของตัวเองอยู่นาน กระทั่งรถแล่นเข้ามายังบ้านหลังใหญ่ที่สามารถดึงความสนใจของหล่อนจากการครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรให้จีบคนอย่างวสุติดภายในหนึ่งเดือน เพื่อหันมาสอดส่องสายตามองดูบ้านหลังงามด้วยความตื่นเต้น ก่อนดึงสายตาไปยังชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย “เฮียมารับใครในที่แบบนี้เหรอคะ” “ลูกสาว” ดวงตาสีน้ำตาลเบิกโตด้วยความตกใจ หล่อนอ้าปากพะงาบๆ คล้ายมีสิ่งที่อยากเอ่ยทว่าไม่มีเสียงที่จะเล็ดลอดออกไป กระทั่งรถจอดลงยังส่วนของหน้าบ้าน พินรีถึงได้หาเสียงของตัวเองเจอ “เฮียมีลูกเหรอคะ” คนขี้แกล้งเพียงยิ้มน้อยๆ แต่ไม่ยอมตอบให้กระจ่าง จากนั้นก็เปิดประตูลงไปโดยที่หนนี้ผู้โดยสารไม่ได้ตามลงไปด้วย เธอยังประมวลข้อมูลที่ได้รับมาไม่ครบถ้วนจึงยังอยู่ในสภาพจังงัง เป็นไปได้หรือที่วสุจะมีลูกมีเมียแล้ว ล้อกันเล่นแน่ๆ หากนั่นคือเรื่องจริงคนในครอบครัวย่อมรู้ และวลีก็ต้องรู้ ซึ่งถ้าแม่นั่นรู้มีหรือที่จะไม่บอกเธอ ไหนยังส่งเธอมาอยู่กับพี่ชายตัวเองอีก แต่กรณีที่เขาแอบไข่ทิ้งไว้แล้วไม่บอกใครเลยก็....ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ครู่สั้นๆ ก็มีกลุ่มคนเดินออกมาจากบ้านหลังงาม เป็นหญิงวัยกลางคนท่าทางแลดูภูมิฐา

  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   4│ลูกเจี๊ยบเดินเกม (1)

    บทที่ 4ลูกเจี๊ยบเดินเกม... หนุ่มสาวจากชั้นสี่สิบพากันมายังส่วนของลานจอดรถ หลังก่อสงครามประสาทกันอยู่พักใหญ่เพราะเจ้าของห้องไม่ปรารถนาจะให้มีป้ายบาดตาอยู่บนประตู แต่คนทำกลับยืนกรานที่จะติดมันไว้ ลูกดื้อของพินรีนั้นมีเหลือล้น และวสุก็ป่วยการจะเอาชนะ จึงปล่อยให้พวกมือบอนทำตามใจตัวเอง เมื่อมาถึงเอสยูวีที่ชายหนุ่มเป็นเจ้าของ เขาไม่รอช้าที่จะสอดกายเข้าไปด้านในโดยมีคนตัวเล็กตามขึ้นมานั่งที่เบาะข้างคนขับ นัยน์ตาคู่คมถูกทิ้งไปที่ร่างแน่งน้อย เอ่ยเสียงเรียบ “ไปนั่งข้างหลัง” “คะ?” “เดี๋ยวมีคนมานั่งตรงนี้ เธอไปนั่งข้างหลัง” พินรียังคงไม่ขยับเขยื้อนไปตามประโยคแกมสั่งของเขา แต่เลือกที่จะนั่งอยู่ที่เดิมพร้อมเปิดปากถามในสิ่งที่ตนสงสัย “เราไม่ได้จะไปกันแค่สองคนเหรอคะ” “ตอนแรกจะไปแค่สองคน แต่เธอขอมาด้วยเลยเป็นสาม” หญิงสาวเอียงคอมอง “หมายถึงพิเป็นคนที่สามน่ะเหรอ” เขาแกล้งกระทบกระเทียบ “ฉลาดนี่” ทว่าพินรีไม่หยิบมาใส่ใจ แต่ยิงคำถามไปอีกหน “แล้วคนที่สองคือใครคะ” “ไปนั่งข้างหลังเดี๋ยวก็รู้เอง” “ผู้หญิงผู้ชาย?” บางทีอาจจะเป็นหนึ่งในพลพรรคของเขาก็เป็นได้ ใครสักคนบนชั้นสี่สิบที่เธอยังไม่ค่อยรู

  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   3│ลูกเจี๊ยบไม่เด็กแล้ว (4)

    ไก่เน่าท่านหนึ่งนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ในเอสยูวีสัญชาติญี่ปุ่นเมื่อนึกถึงสิ่งที่เจ้าชายน้ำแข็งเพิ่งทำลงไป พินรีไม่ได้หวังว่าวสุจะใจดี ด้วยที่ผ่านมาเขาก็ทำตัวอย่างกับยักษ์กับมารใส่เธอตลอด แต่อีกฝ่ายกลับทำอย่างที่ลั่นวาจาไว้ด้วยการบอกให้สดายุที่รับหน้าที่ดูแลอัปสราอยู่ที่ชาเฮาส์มารับเธอกลับคอนโดฯ เพราะเจ้าตัวไปต่างจังหวัดกับเจ้านาย ผู้ช่วยสส. ที่ถูกโยกย้ายมาดูแลคนท้องชำเลืองมองสาวน้อยข้างกายพร้อมรอยยิ้มบางๆ บนดวงหน้าคม พินรีก็เหมือนน้องสาวเขาอีกคน “พออยู่ได้ไหม” เจ้าหล่อนผินหน้าไปทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย พยักหน้าติดกันหลายหน “อยู่ได้ค่ะ สบายมาก” สารถียกยิ้มแต่ก็นึกเห็นใจคนที่ตนมองเป็นน้องสาวไม่ได้ “อยู่กับเฮียสี่ต้องทำใจหน่อยนะพิ” “...คะ?” “มันหน้าเลือด ไหนยังเค็มยิ่งกว่าเกลือ” ได้รับคำตอบเช่นนั้นเสียงหัวเราะก็ถูกพ่นออกมาจากปากสีหวาน “ไม่เท่าไรค่ะ พิไหว” เขาถอนหายใจพรืด “เฮียขอเอาใจช่วยเราแล้วกัน มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาได้ตลอดนะ” “ค่ะ” เรื่องพฤติกรรมการใช้เงินของวสุไม่ใช่ปัญหา หากมองอย่างเป็นกลางเขาย่อมทำถูกทุกอย่าง คนอยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน ค่าน

  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   3│ลูกเจี๊ยบไม่เด็กแล้ว (3)

    พื้นฐานแล้วพินรีไม่ใช่คนตื่นสาย อาจจะไม่ได้ตื่นเช้าเท่าพ่อและแม่ที่ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพื่อเตรียมตัวเปิดร้านน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ให้ทันคนไปทำงานตอนเช้า ผนวกกับต่างที่จึงทำให้รู้สึกตัวตั้งแต่หกโมงครึ่ง ห้องของเธอไม่มีห้องน้ำในตัว ต่างจากห้องของวสุ พินรีลุกจากเตียง เก็บที่นอนให้เรียบร้อยแล้วคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กมาพาดบ่า ก้าวเดินออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางด้วยสภาพผมฟู หน้ายังไม่ได้ล้าง แลดูมอมแมมสมเป็นไก่เน่า ทว่าเมื่อพาตัวเองออกมาจากห้องนอนกลับพบใครบางคนนั่งอยู่ที่โซฟาพร้อมแก้วกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วบริเวณ ชายร่างสูงทิ้งสายตาไว้ที่หน้าจอสี่เหลี่ยมในมือ แต่เสียงเปิดประตูของเพื่อนร่วมห้องก็เรียกสายตาให้ชำเลืองไปมอง พินรียืนผมฟูฉีกยิ้มให้เขาก่อนเปล่งเสียงหวานให้ลอยมาตามลม “ตื่นเช้าจังเลยค่ะ” “มีงานมีการต้องทำ” “ชอบจังคนตื่นเช้า” เจ้าของห้องปั้นหน้าตึง “ปกติไม่ได้ตื่นเช้าเท่าไร” “ตื่นสายก็ชอบค่ะ” คนตัวใหญ่อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ถ้ายังลามปามมาเล่นหัวฉันไม่เลิก ฉันจะไม่ให้อยู่ด้วยจริงๆ นะพิ” หล่อนไหวไหล่แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องน้ำ วสุดึงสายตากลับมาที่เดิม เขายังคงไม่ชินที่มีคนมา

  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   3│ลูกเจี๊ยบไม่เด็กแล้ว (2)

    ฟังก์ชันบล็อกผลิตมาเพื่อปิดการมองเห็นคนที่ไม่อยากเห็นและไม่อยากให้เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ เขาถึงได้บล็อกพินรีไป เพราะเกรงว่าเธอจะทำตัวยุ่มย่าม อาทิ แสดงความคิดเห็นเชิงลบต่อความรู้สึกของเขา การไม่เห็นเธอในแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นทางออกที่ดีที่สุด ชายหนุ่มระบายลมหายใจอย่างคิดไม่ตก “ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอในนั้นนะ” “โอเค เฮียจ๋าว่าไงพิก็ว่างั้นค่ะ ไม่ตื้อ” หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน “อย่าเรียกแบบนี้” “ปลดบล็อก” “พิ” คนตัวเล็กทำตาแป๋ว “จ๋า” มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนหยิบสมาร์ตโฟนออกมา แตะไปที่เฟซบุ๊กเพื่อทำการปลดบล็อก ‘พิ เป็นไก่เน่าทุกทีเยย’ เสร็จสรรพแล้วจึงยัดมือถือกลับเข้าที่เดิม “ถ้าเธอเรียกแบบนี้อีกฉันจะบล็อกอีกครั้ง” หล่อนพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย “รับแอดหน่อยค่ะ” “ไม่” วสุปฏิเสธเสียงแข็งกับพวกได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา เป็นเหตุให้พินรีทำหน้าหงอย ซึ่งเขาก็หาได้นึกสงสารแต่อย่างใด เด็กพรรค์นี้หากตามใจก็มีแต่จะยิ่งเรียกร้อง อนาคตหากยังต้องอยู่ร่วมกันเขาจะลำบากเอาได้ “งั้นเรียกเฮียจ๋า” “เชิญ แต่บล็อก” ว่าจบก็หันมาสนใจข้าวและหน้าจอทีวี ไม่คิดจะง้องอนคนตัวเล็กที่ปั้นหน้

  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   3│ลูกเจี๊ยบไม่เด็กแล้ว (1)

    บทที่ 3ลูกเจี๊ยบไม่เด็กแล้ว... สมาชิกใหม่ของคอนโดมิเนียมราคาแพงก้าวออกจากลิฟต์เมื่อมาถึงชั้นที่หมาย แต่ก็เป็นอันต้องชะงักเท้าไว้อย่างนั้นเมื่อพบกับคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า สองมือบางถูกยกขึ้นแนบอกก่อนค้อมศีรษะลงเพื่อทำความเคารพ ปากสีหวานเบนกว้างอย่างกับมีพระอาทิตย์มาโคจรอยู่ใกล้ๆ เพราะรังสีความสดใสแผ่กระจายทั่วทุกซอกทุกมุม “สวัสดีค่ะ” หล่อนจำได้ว่าพวกผู้ชายตรงหน้าคือคณะทำงานของสส. เซียง เช่นเดียวกับที่สองหนุ่มผู้ชำนาญการอย่างไมยราพและไตรทศก็จำได้ว่าคนตัวเล็กที่เพิ่งเดินออกมาจากลิฟต์คือ ‘ว่าที่พี่สะใภ้’ ของสดายุ ครั้งแรกที่พวกเขาทราบก็ที่งานแต่งเจ้านาย ครั้งแรกที่ได้เจอตัวจริงก็ที่งานแต่งของวลี แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอกันที่นี่อีกครั้ง ดูเหมือนอาจจะมีงานแต่งให้พวกเขาต้องไปร่วมงานในเร็วๆ นี้กระมัง หนุ่มวัยสามสิบสองทั้งคู่ค้อมศีรษะอย่างมีมารยาท “สวัสดีครับ” สิ้นประโยคนั้นพินรีก็เอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตร แม้ว่าจะไม่เคยพูดคุยกันมาก่อนก็ตาม “พิจำพวกคุณได้ค่ะ จำพิได้เหมือนกันใช่ไหมคะ” หล่อนเอียงคอมองด้วยท่าทีใสซื่อ ไตรทศเอ่ย “ครับ ผมตงครับ” แล้วพยักพเยิดไปทางคนข้างกาย “นี่เมือง พวก

  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   2│ลูกเจี๊ยบในเมืองใหญ่ (4)

    “ถ้าพิทำแบบนั้นจะยอมให้เฮียเอาให้ตายเลยค่ะ” สิ้นประโยคของสมาชิกใหม่ หมอนอิงที่อยู่ใกล้มือหนาก็ถูกคว้ามาเคาะกะโหลกแข็งๆ ของผู้พูดจนสาวเจ้าเผลอหลับตาปี๋ “น้อยๆ หน่อยแม่คุณ เป็นสาวเป็นนาง” คนตัวเล็กยกมือมาลูบศีรษะป้อย ๆ หาได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใดเพราะแรงที่วสุใช้นั้นน้อยนิดเหลือคณา “อะไรเล่า เฮียเป็นคนพูดก่อนด้วยซ้ำ” พอโดนย้อนเช่นนั้นชายหนุ่มก็ทำเพียงทิ้งหางตาไปที่ร่างระหง ก่อนยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงโดยที่ครั้งนี้ไม่มีใครรั้งไว้แต่อย่างใด เขาจึงแยกเข้าห้องนอนเพื่อจัดการธุระส่วนตัว ให้หลังเกือบยี่สิบนาทีวสุจึงเดินออกมาด้านนอก ชุดที่สวมใส่ยังคงเป็นชุดทำงาน เพียงแค่ปลดกระดุมเพื่อให้ผ่อนคลายขึ้น แขนเสื้อเชิ้ตถูกพับอยู่แถวข้อศอก มือข้างหนึ่งถือกระเป๋าสตางค์ไว้ สายตาถูกทิ้งไปที่โซฟากลางห้องที่มีร่างแน่งน้อยนั่งก้มหน้าก้มตาสนใจเครื่องมือสื่อสาร ทว่าเมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากเขา ใบหน้านวลก็ค่อยๆ ผินมาหา ริมฝีปากสีหวานเบนกว้างเป็นรอยยิ้ม “ออกมามีอะไรจะคุยกับพิเหรอคะ” เขามุ่นคิ้ว “นี่ห้องฉันด้วยซ้ำ” สาวเจ้าไหวไหล่ “ก็นึกว่าอยากคุยด้วย” “อย่าเพ้อเจ้อ” เขาเองก็ไม่อยากจะแยแสเพื่

  • ใครจะยอมให้คุณเป็นของคนอื่น   2│ลูกเจี๊ยบในเมืองใหญ่ (3)

    ให้หลังเพียงหนึ่งลมหายใจ ร่างแน่งน้อยก็เดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างกาย เขาขยับไปทางขวาเล็กน้อยเพื่อเว้นระยะห่างกับสาวเจ้า แต่อีกฝ่ายกลับขยับตาม เขาขยับหนีอีกครั้ง หล่อนก็ทำเหมือนเดิม ท้ายที่สุดวสุจึงเลิกหลีกหนีแล้วผินหน้าไปหาเพื่อนร่วมห้องที่ส่งยิ้มให้เขาเหมือนพวกที่ลืมวิธีหุบยิ้มก็ไม่ปาน สุ้มเสียงเข้มดังแหวกอากาศไปเข้าหูคู่สนทนา “มีอะไร” ไหล่เล็กไหวพอประมาณ “ไม่มีอะไรค่ะ” “แล้วมานั่งเบียดทำไม ที่ว่างเยอะแยะ” “อยากนั่งใกล้เฮีย” หนุ่มวัยสามสิบกลางๆ ลอบถอนหายใจ ปั้นหน้าจริงจังเพื่อพูดคุยในประเด็นสำคัญกับเพื่อนสนิทของน้องสาว “ถ้าเราจะอยู่ด้วยกันมันต้องมีกฎ” พินรียังคงนั่งยิ้มหน้าระรื่นอยู่ไม่ห่างจากเขานัก พยักหน้าขึ้นลงถี่รัวราวเป็นคนว่าง่าย “ค่ะ” “หนึ่ง เราจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของกันและกัน” สาวเจ้าเงียบไปเกือบสิบวินาที “แต่เฮียรู้เรื่องของพิได้นะคะ พิไม่หวง” “หน้าฉันเหมือนคนอยากรู้เรื่องของเธอนักหรือไง” “แล้วไม่อยากรู้เหรอคะ” คิ้วเข้มเริ่มขมวดเข้าหากัน เขารู้ดีเลยว่าเด็กนี่เป็นคนพูดยากขนาดไหน แต่มันไม่ใช่ปัญหาเมื่อเขาและเธอต่างคนต่างอยู่ เธออยู่ที่บ้านเกิด เขาทำงานในเมืองกรุ

DMCA.com Protection Status