แชร์

บทที่5

ผู้เขียน: มู​๋​สะเต๊ะ​
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-02 18:20:15

"จะกลับยัง" เสียงทุ้มดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงที่เดินมายืนซ้อนหลังเก้าอี้ของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ยัยแนนนี่มองหน้าหล่อๆ จนตาหวานยิ่งกว่าซอสคาราเมลตรงหน้าซะอีก

"โฟว่าจะไปหาข้าวกินกันต่อ"

"อืม ไปสิพี่เป็นเจ้ามือ" เขาพยักหน้าบอกอย่างใจดี เพราะอย่างนี้สิเพื่อนสาวของฉันถึงเอ่ยปากชมไม่หยุด ทั้งที่ตอนเจอกันครั้งแรกพากันกลัวจนตัวสั่นไม่กล้าแม้แต่สบตา

"ไปรถพี่"

"โฟขับรถมา"

"เดี๋ยวแนนนี่กับลูกแพรขับรถยัยโฟไปเองค่ะพี่ติณขา" ฉันละเบื่อความอ้อล้อของยัยแนนนี่จริงๆ เลยเชียว

"จุ้นจ้านมาก"

"หรือแกจะให้ฉันนั่งตักพี่ติณไปละ" เรื่องอะไรฉันจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นละ ยัยแนนนี่ได้จับพี่ติณรวบหัวรวบหางกันพอดีสิ เคยได้ยินมั้ย อย่าฝากปลาย่างไว้กับแมว ยัยแนนนี่เนี่ย แมวยักษ์เลยนะจะบอกให้

พอเราตกลงเลือกร้านกันได้ ยัยแนนนี่ก็แบมือขอกุญแจรถคู่ใจของฉันขับพาลูกแพรไปจองคิวที่ร้านก่อน เพราะร้านที่พวกเราเลือกเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลวิวแม่น้ำเจ้าพระยาคนเลยค่อนข้างมาก ส่วนฉันก็นั่งรอพี่ติณคุยกับพนักงานในร้านต่อ จะว่าไปตั้งแต่มายังไม่ได้ถ่ายรูปเลยนี่นา นึกได้อย่างนั้นก็จัดแจงตั้งกล้องเซลฟี่ห้าวิ และวิ่งไปยืนเผลอๆ จนได้รูปมาสองสามรูป สวยอยู่นะ

"ถ่ายให้มั้ยครับ" สงสัยผู้ชายคนนี้คงสงสารที่ฉันไม่มีตากล้อง เลยเดินมาอาสาถ่ายรูปให้อย่างใจดี แต่ยังไม่ทันได้ปฏิเสธเพราะชอบมุมเมื่อครู่นี้แล้ว เสียงเข้มๆ เรียกชื่อฉันก็ดังขึ้นฟังดูก็รู้ทันทีเลยว่ากำลังหงุดหงิด ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย

"โฟ"

"อะ เอ่อ ขอบคุณค่ะ ไปก่อนนะคะ"

"..." พี่ติณยืนล้วงกระเป๋ากางเกงหน้าพร้อมบวกมาก ส่วนชายแปลกหน้าก็ดูไม่ยอมใครเหมือนกัน ชั่วโมงนี้ฉันต้องรีบคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดให้เร็วที่สุด 

"พี่ติณไปกัน เร็วค่ะ" สองมือเล็กพยายามดึงแขนแกร่งให้เดินตามมาทันที แต่กว่าจะยอมผ่อนแรงเปลี่ยนมาจูงมือบางได้ก็เล่นเอาตัวเล็กเหงื่อตก

รู้อย่างนี้นะ ฉันไปพร้อมเพื่อนๆ ดีกว่า ดีกว่ามานั่งในรถที่บรรยากาศเหมือนฝนกำลังจะตกกับคนขับหน้ายักษ์ไม่ปริปากพูดแม้แต่คำเดียว จะบอกว่าเหนื่อยก็ไม่น่าใช่เพราะมายืนรับลูกค้าแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง แถมแอบอู้เดินมาแย่งขนมฉันกินตั้งหลายรอบ เดี๋ยวจะฟ้องพี่มินินให้จัดการ คอยดูเถอะ! 

"ถ้าพี่ติณหน้าบึ้งขนาดนี้ ส่งโฟเฉยๆ ก็พอค่ะ"

"พี่หิว" เขาพูดอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะพยายามคายปมคิ้วให้เป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่ฉันยื่นคำขาด

"พี่ติณก็กลับไปหาอะไรกินที่คอนโดสิ"

"ไม่เอา"

สุดท้ายแล้วพอรถจอดสนิท ร่างสูงก็เดินอ้อมมาเปิดประตูให้ตัวเล็กลืมบรรยากาศที่เคยอึมครึม หน้านิ่งๆ แต่คิ้วไม่ผูกโบว์เหมือนเมื่อหลายนาทีที่ผ่านมา ยื่นมือไปรับกระเป๋าสะพายมาคล้องแขนแทน และพากันเดินเข้าร้านตรงไปหาเพื่อนที่นั่งจองโต๊ะอยู่ก่อนแล้ว

"อุ้ย" สองมือใหญ่ค่อยๆ รวบผมหนา ดึงยางรัดผมที่ข้อมือมัดผมหางม้าให้คนตัวเล็กราวกับเป็นเรื่องปกติที่ทำกันสองคน แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่มาด้วยเหมือนกำลังดูพระเอกนางเอกในซีรีย์เกาหลีอย่างไงอย่างงั้น

"ลูกแพร แกะกุ้งให้ฉันบ้างสิ" 

"โนจ๊ะ"

สองสาวผลัดกันแซวผมที่กำลังแกะกุ้งแม่น้ำวางเรียงในจานให้คนตัวเล็กเป็นจานที่สอง ส่วนจานแรกเป็นปูม้าที่ถูกแกะเนื้อและกันเชียงปูก้อนใหญ่ไว้พร้อมทาน เพราะตัวเล็กของผมชอบกินอาหารทะเลมาก แต่ก็ไม่ชอบแกะเปลือกมากเหมือนกันเพราะไม่อยากให้กลิ่นติดมือและบอกว่าตัวเองแกะไม่น่ากินเท่าผมแกะให้ ผมก็เลยได้หน้าที่นี้ไปโดยปริยาย

"เราสองคนกินในจานนี้ก็ได้นะ"

"แนนนี่ไม่กล้าหรอกค่ะ"

"หึ"

"โอ้ย อัยโอ" เธอหยิบกุ้งตัวใหญ่ที่สุดในจานยื่นไปใส่ปากเพื่อนสาวของเธอที่กำลังจีบปากจีบคอพูดอย่างไม่ทันตั้งตัว จนเกือบสำลัก ก่อนจะกลับมานั่งหัวเราะจนไหล่สั่นชอบอกชอบใจที่เอาคืนเพื่อนได้

"เกือบแล้ว นนเอ้ย เกือบเป็นข่าวหน้าหนึ่งแล้ว"

"นี่ลูกแพร แนนนี่จ๊ะ"

"ฮ่าๆ/ฮ่าๆ"

"หึ"

นี่เป็นหนึ่งสีสันที่เกิดขึ้นในชีวิตผม จากคนที่ไม่ค่อยชอบคุยกับคนอื่นนอกจากคนใกล้ตัว แต่เพื่อเธอผมก็พยายามปรับตัวเข้าหาเพื่อนๆ เธอด้วย ถึงแม้บางครั้งจะยังรู้สึกไม่ชินอยู่บ้างแต่บรรยากาศแบบนี้ก็ไม่ได้แย่สำหรับผมเท่าไหร่

"พี่ติณ กินหอยนางรมมั้ยคะ แนนนี่สั่งให้"

"กินได้"

"คืนนี้ไม่ได้นอนแน่ยัยโฟ" นี่สินะ คงจะหวังยืมมือผมจัดการตัวเล็กแทน ถึงใจดีชวนผมกินหอยนางรมสด ไอ้เราก็ลืมนึกถึงความลำบากของตัวเองที่จะตามมาไปเลย ถึงได้ตอบรับอย่างมีมารยาทกลับไป

"หึ"

"ทำไมจะไม่ได้นอน ฉันกับพี่ติณอยู่คนละคอนโดจ๊ะ" ตัวเล็กจิ้มปลาหมึกย่างพร้อมน้ำจิ้มป้อนใส่ปากผม ก่อนจะตอบโต้เพื่อนเธอกลับอย่างไม่เคอะเขิน มันก็จริงอย่างที่เธอพูดเพียงแต่คืนนี้ผมจะพาเธอกลับไปนอนด้วยกัน

"ผิดแผนมากเว่อร์" 

"คิกคิก"

"ขอบคุณนะคะพี่ติณ เราสองคนอิ่มมากกก" น้องลูกแพรยืนเอามือลูบท้องตัวเองปอยๆ เป็นการยืนยันคำพูดตัวเองเมื่อครู่

"ครับ"

"พี่ฝากแนนนี่ส่งลูกแพรและเอารถไปจอดที่คอนโดโฟด้วยนะ"

"ห๊ะ อะไรนะพี่ติณ"

"รับทราบค่ะพี่ติณ"

เหมือนแนนนี่จะรู้ว่าผมมัดมือชกเพื่อนของเธอถึงได้รีบดึงมือลูกแพรเดินไปยังรถที่จอดอยู่ข้างกัน ไม่รอให้ตัวเล็กที่กำลังยืนทำหน้างงทันรู้ตัวจนโวยวาย นี่คืออีกหนึ่งข้อที่ทำให้ผมเข้ากับเพื่อนเธอได้ง่าย

 

 

 

 

 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โฟกัสเพียงเธอ   บทที่1

    "จ๊ะเอ๋ ทายสิใครเอ่ย" ร่างบางเล็กสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซ็นติเมตรในชุดนักศึกษาค่อยๆ เดินย่องไปปิดตาพี่ชายสุดหล่อที่กำลังก้มหน้าก้มตาเซ็นต์เอกสารอย่างเคร่งเครียด ทำเสียงเล็กเสียงน้อยในท่าทางซุกซนราวกับพี่ชายคนรองจะทายไม่ถูกแน่"หึ หมูอ้วน" ชายหนุ่มหัวเราะเบาเบาให้กับท่าทางของน้องสาว เพราะเขาจำกลิ่นน้ำหอมหวานหวานได้ตั้งแต่ประตูห้องทำงานเปิดออก เพียงแต่กำลังอ่านเอกสารสำคัญอยู่จึงไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองและใจก็อยากจะรู้ว่าเจ้าลูกหมูตัวเล็กจะแกล้งอะไรอีก ก่อนจะตอบกลับไปด้วยฉายาที่เขาและแฝดใช้เรียกเธอในตอนเด็ก ทำเธอหน้ามุ่ยเดินสะบัดผมกลับไปนั่งเชิดหน้าที่โซฟารับรองแทน"พี่ฟิล์มอะ โฟไม่อ้วนสักหน่อย" ฉันตอบกลับพี่ชายอย่างแง่งอน ทั้งที่เป็นคนค่อนข้างมั่นใจในรูปร่างและเอวเท่ากระดาษเอสี่ แต่พอโดนคนใกล้ตัวเรียกกันแบบนี้ก็อดที่จะเสียเซลฟ์ไม่ได้ แต่ก็รู้แหละว่าพี่ฟิล์มแค่แกล้งเล่นเท่านั้น"มาหาพี่มีอะไรให้รับใช้คะคนสวย" พี่ฟิล์มวางเอกสารในมือและเดินพับแขนเสื้อมาหาฉันด้วยท่าทางสบายๆ หย่อนกายลงบนโซฟาข้างๆ เอ่ยถามฉันอย่างรู้ทัน"เว่อร์ ใครจะกล้าใช้พี่ชายสุดหล่อได้ลง""จริง?" "คืนนี้เพื่อนๆ โฟนัดปา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • โฟกัสเพียงเธอ   บทที่2

    และผมก็ปล่อยให้เธอเดินกลับไปสนุกกับเพื่อนต่อ ในเมื่อเธอบอกว่าจะกลับก็ต่อเมื่อร้านปิด ผมก็ตามใจเธออย่างไม่เรื่องมาก สั่งลูกน้องไปบอกดีเจให้ประกาศว่าวันนี้ร้านปิดห้าทุ่ม และชดเชยโดยการไม่คิดค่ามิกเซอร์และกับแกล้มทุกโต๊ะ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ แต่จะให้ฟรีเลยคงจะไม่ได้เพราะแต่ละโต๊ะสั่งเครื่องดื่มดุดุกันทั้งนั้น ไหนจะค่าแรงพนักงานค่าน้ำค่าไฟที่ต้องจ่ายอีก ทำคนตัวเล็กหันขึ้นมามองห้องทำงานของผมตาขวางทันทีเมื่อได้ยินประกาศ 'หึ' ผมทำผิดตรงไหน ออกจะใจดีกับเธอมากด้วยซ้ำพอห้าทุ่มปุ๊บไฟในร้านก็ปรับแสงลงปั๊บตามคำสั่งของผม ยืนจับตามองคนตัวเล็กอยู่นานกว่าเธอจะเดินขึ้นมาหาผมบนห้องทำงาน ผมเลยกลับมานั่งยกแก้วเหล้าแกว่งไปมาอย่างใจเย็น ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครทำอะไรเธอ เพราะตลอดทางมีลูกน้องของผมคอยจับตาดูแลความปลอดภัยของเธออยู่แล้ว"พี่ฟิล์มละคะ""พี่ให้กลับไปแล้ว""ยุ่งมาก""จะกลับเลยมั้ย พี่ไปส่ง""ก็ร้านปิดแล้วนี่ โฟก็ต้องกลับรึป่าวเอ่ย""..."นั่งมองเด็กดื้อที่เวลานี้ยืนกอดอกกลอกบนไปมาทุกคำที่พูดกับผม แถมยังทำสีหน้าเอาแต่ใจเชิดเชิดเหวี่ยงเหวี่ยงอีก ผมได้แต่กัดฟันมองอย่างอดทนเพี๊ยะ!"พี่ติณโฟเจ็บนะ"

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • โฟกัสเพียงเธอ   บทที่3

    ใช้เวลาไปประมาณสิบห้านาทีในการเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดนอนกระโปรงสีชมพูให้จนเรียบร้อย เป็นสิบห้านาทีที่ยากมากสำหรับผม ทุกครั้งที่มือสัมผัสกับผิวเนียนลื่น ผมได้แต่กัดฟันแน่นข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่ให้เผลอจับอะไรๆ ที่ดูนุ่มมือจนเกินเลย ทั้งที่ใจอยากจะจับอยากจะทำให้ได้มากกว่านี้ แต่ติดที่ผมรับปากกับอานายเอาไว้ว่าจะรอให้น้องเรียนจบก่อน มาถึงตอนนี้ผมถึงได้รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ทรมานมากแค่ไหน นับถือตัวเองเหมือนกันนะ... หลังจากที่พาเธอมานอนบนเตียงเจ้าหญิง ผมก็เข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำและกลับออกมาในชุดนอนสีชมพูขายาวที่ตัวเล็กซื้อให้และถูกบังคับให้ใส่เวลามานอนที่นี่ มันเป็นอะไรที่ขัดกับลุคของผมมากแต่ผมก็ได้แต่ใส่อย่างตามใจ มีเธอคนเดียวเท่านั้นที่จะได้เห็นผมใส่อะไรแบบนี้...คนเดียวจริงๆ"พี่ติณ กอด""..."จุ๊บผมใช้เวลานั่งเช็คอีเมล์ต่ออีกครู่หนึ่ง เสียงงัวเงียสะลึมสะลือก็เรียกผมให้รีบปิดหน้าจอและล้มตัวลงนอน เพื่อที่เธอจะได้ปีนขึ้นมานอนบนตัวผมเหมือนตอนเด็กๆ และเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่เรานอนด้วยกัน ทำให้อะไรต่อมิอะไรของตัวเล็กแนบชิดทุกสัดส่วนที่แข็งแกร่งจนรู้สึกปวดหนึบไปหมด กว่าผมจะข่มตานอนได้ก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02
  • โฟกัสเพียงเธอ   บทที่4

    "พี่ติณ โฟขอยืมข้อมือหน่อยสิ" ตัวเล็กยื่นนาฬิกาสองเรือนมาวางทาบข้อมือใหญ่อย่างลังเล"...""พี่ติณว่า พี่เลนส์พี่ฟิล์มชอบเรือนไหน""เรือนนี้มั้ย บอกเวลาสามประเทศ" ผมเลือกในแบบที่คิดว่าเพื่อนทั้งสองคนชอบและน่าจะเลือกใส่บ่อย อันที่จริงไอ้สองคนนั้นก็ชอบทุกอย่างที่น้องสาวให้นั่นแหละ"เนอะ เดินทางกันบ่อยด้วย""รับเรือนนี้สองเรือนค่ะ" ความเห็นเป็นเอกฉันท์เพราะเราชอบเรือนเดียวกัน เธอจึงหันไปบอกพนักงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"สักครู่นะคะ"ผมยื่นแบล็คการ์ดให้พนักงานก่อนที่คนตัวเล็กจะหยิบบัตรเครดิตในกระเป๋า ทำเธอหน้ามุ้ยเพราะอยากจะเป็นคนจ่ายเงินซื้อของขวัญให้พี่ชายตัวเองเอง แต่สำหรับผมจะเงินผมหรือเงินเธอมันก็เหมือนกัน และที่ผ่านมาผมกับเธอก็ให้ของขวัญไอ้แฝดชิ้นเดียวกันมาตลอด ของมินินและเพื่อนคนอื่นๆ ก็ด้วย"อยากได้อะไรอีกมั้ย" "ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพี่ติณต้องเข้าร้านนี่""ไปด้วยกันมั้ย""โฟอยากดูซีรีย์""ไปดูบนห้องทำงานพี่""ก็ได้ค่ะ ขอกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนได้มั้ย""เสื้อยืดกางเกงยีนส์พอนะ""..." ดูสีหน้าแววตาซุกซนของเธอก็รู้ว่าชุดที่อยากกลับไปเปลี่ยนเป็นชุดแบบไหน ผมเลยต้องพูดดักทางเอาไว้ก่อน ทำเธอแอบหั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-02

บทล่าสุด

  • โฟกัสเพียงเธอ   บทที่5

    "จะกลับยัง" เสียงทุ้มดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงที่เดินมายืนซ้อนหลังเก้าอี้ของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ ยัยแนนนี่มองหน้าหล่อๆ จนตาหวานยิ่งกว่าซอสคาราเมลตรงหน้าซะอีก"โฟว่าจะไปหาข้าวกินกันต่อ""อืม ไปสิพี่เป็นเจ้ามือ" เขาพยักหน้าบอกอย่างใจดี เพราะอย่างนี้สิเพื่อนสาวของฉันถึงเอ่ยปากชมไม่หยุด ทั้งที่ตอนเจอกันครั้งแรกพากันกลัวจนตัวสั่นไม่กล้าแม้แต่สบตา"ไปรถพี่""โฟขับรถมา""เดี๋ยวแนนนี่กับลูกแพรขับรถยัยโฟไปเองค่ะพี่ติณขา" ฉันละเบื่อความอ้อล้อของยัยแนนนี่จริงๆ เลยเชียว"จุ้นจ้านมาก""หรือแกจะให้ฉันนั่งตักพี่ติณไปละ" เรื่องอะไรฉันจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นละ ยัยแนนนี่ได้จับพี่ติณรวบหัวรวบหางกันพอดีสิ เคยได้ยินมั้ย อย่าฝากปลาย่างไว้กับแมว ยัยแนนนี่เนี่ย แมวยักษ์เลยนะจะบอกให้พอเราตกลงเลือกร้านกันได้ ยัยแนนนี่ก็แบมือขอกุญแจรถคู่ใจของฉันขับพาลูกแพรไปจองคิวที่ร้านก่อน เพราะร้านที่พวกเราเลือกเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลวิวแม่น้ำเจ้าพระยาคนเลยค่อนข้างมาก ส่วนฉันก็นั่งรอพี่ติณคุยกับพนักงานในร้านต่อ จะว่าไปตั้งแต่มายังไม่ได้ถ่ายรูปเลยนี่นา นึกได้อย่างนั้นก็จัดแจงตั้งกล้องเซลฟี่ห้าวิ และวิ่งไปยืนเผลอๆ

  • โฟกัสเพียงเธอ   บทที่4

    "พี่ติณ โฟขอยืมข้อมือหน่อยสิ" ตัวเล็กยื่นนาฬิกาสองเรือนมาวางทาบข้อมือใหญ่อย่างลังเล"...""พี่ติณว่า พี่เลนส์พี่ฟิล์มชอบเรือนไหน""เรือนนี้มั้ย บอกเวลาสามประเทศ" ผมเลือกในแบบที่คิดว่าเพื่อนทั้งสองคนชอบและน่าจะเลือกใส่บ่อย อันที่จริงไอ้สองคนนั้นก็ชอบทุกอย่างที่น้องสาวให้นั่นแหละ"เนอะ เดินทางกันบ่อยด้วย""รับเรือนนี้สองเรือนค่ะ" ความเห็นเป็นเอกฉันท์เพราะเราชอบเรือนเดียวกัน เธอจึงหันไปบอกพนักงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"สักครู่นะคะ"ผมยื่นแบล็คการ์ดให้พนักงานก่อนที่คนตัวเล็กจะหยิบบัตรเครดิตในกระเป๋า ทำเธอหน้ามุ้ยเพราะอยากจะเป็นคนจ่ายเงินซื้อของขวัญให้พี่ชายตัวเองเอง แต่สำหรับผมจะเงินผมหรือเงินเธอมันก็เหมือนกัน และที่ผ่านมาผมกับเธอก็ให้ของขวัญไอ้แฝดชิ้นเดียวกันมาตลอด ของมินินและเพื่อนคนอื่นๆ ก็ด้วย"อยากได้อะไรอีกมั้ย" "ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพี่ติณต้องเข้าร้านนี่""ไปด้วยกันมั้ย""โฟอยากดูซีรีย์""ไปดูบนห้องทำงานพี่""ก็ได้ค่ะ ขอกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนได้มั้ย""เสื้อยืดกางเกงยีนส์พอนะ""..." ดูสีหน้าแววตาซุกซนของเธอก็รู้ว่าชุดที่อยากกลับไปเปลี่ยนเป็นชุดแบบไหน ผมเลยต้องพูดดักทางเอาไว้ก่อน ทำเธอแอบหั

  • โฟกัสเพียงเธอ   บทที่3

    ใช้เวลาไปประมาณสิบห้านาทีในการเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดนอนกระโปรงสีชมพูให้จนเรียบร้อย เป็นสิบห้านาทีที่ยากมากสำหรับผม ทุกครั้งที่มือสัมผัสกับผิวเนียนลื่น ผมได้แต่กัดฟันแน่นข่มอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่ให้เผลอจับอะไรๆ ที่ดูนุ่มมือจนเกินเลย ทั้งที่ใจอยากจะจับอยากจะทำให้ได้มากกว่านี้ แต่ติดที่ผมรับปากกับอานายเอาไว้ว่าจะรอให้น้องเรียนจบก่อน มาถึงตอนนี้ผมถึงได้รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ทรมานมากแค่ไหน นับถือตัวเองเหมือนกันนะ... หลังจากที่พาเธอมานอนบนเตียงเจ้าหญิง ผมก็เข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำและกลับออกมาในชุดนอนสีชมพูขายาวที่ตัวเล็กซื้อให้และถูกบังคับให้ใส่เวลามานอนที่นี่ มันเป็นอะไรที่ขัดกับลุคของผมมากแต่ผมก็ได้แต่ใส่อย่างตามใจ มีเธอคนเดียวเท่านั้นที่จะได้เห็นผมใส่อะไรแบบนี้...คนเดียวจริงๆ"พี่ติณ กอด""..."จุ๊บผมใช้เวลานั่งเช็คอีเมล์ต่ออีกครู่หนึ่ง เสียงงัวเงียสะลึมสะลือก็เรียกผมให้รีบปิดหน้าจอและล้มตัวลงนอน เพื่อที่เธอจะได้ปีนขึ้นมานอนบนตัวผมเหมือนตอนเด็กๆ และเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่เรานอนด้วยกัน ทำให้อะไรต่อมิอะไรของตัวเล็กแนบชิดทุกสัดส่วนที่แข็งแกร่งจนรู้สึกปวดหนึบไปหมด กว่าผมจะข่มตานอนได้ก็

  • โฟกัสเพียงเธอ   บทที่2

    และผมก็ปล่อยให้เธอเดินกลับไปสนุกกับเพื่อนต่อ ในเมื่อเธอบอกว่าจะกลับก็ต่อเมื่อร้านปิด ผมก็ตามใจเธออย่างไม่เรื่องมาก สั่งลูกน้องไปบอกดีเจให้ประกาศว่าวันนี้ร้านปิดห้าทุ่ม และชดเชยโดยการไม่คิดค่ามิกเซอร์และกับแกล้มทุกโต๊ะ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ แต่จะให้ฟรีเลยคงจะไม่ได้เพราะแต่ละโต๊ะสั่งเครื่องดื่มดุดุกันทั้งนั้น ไหนจะค่าแรงพนักงานค่าน้ำค่าไฟที่ต้องจ่ายอีก ทำคนตัวเล็กหันขึ้นมามองห้องทำงานของผมตาขวางทันทีเมื่อได้ยินประกาศ 'หึ' ผมทำผิดตรงไหน ออกจะใจดีกับเธอมากด้วยซ้ำพอห้าทุ่มปุ๊บไฟในร้านก็ปรับแสงลงปั๊บตามคำสั่งของผม ยืนจับตามองคนตัวเล็กอยู่นานกว่าเธอจะเดินขึ้นมาหาผมบนห้องทำงาน ผมเลยกลับมานั่งยกแก้วเหล้าแกว่งไปมาอย่างใจเย็น ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครทำอะไรเธอ เพราะตลอดทางมีลูกน้องของผมคอยจับตาดูแลความปลอดภัยของเธออยู่แล้ว"พี่ฟิล์มละคะ""พี่ให้กลับไปแล้ว""ยุ่งมาก""จะกลับเลยมั้ย พี่ไปส่ง""ก็ร้านปิดแล้วนี่ โฟก็ต้องกลับรึป่าวเอ่ย""..."นั่งมองเด็กดื้อที่เวลานี้ยืนกอดอกกลอกบนไปมาทุกคำที่พูดกับผม แถมยังทำสีหน้าเอาแต่ใจเชิดเชิดเหวี่ยงเหวี่ยงอีก ผมได้แต่กัดฟันมองอย่างอดทนเพี๊ยะ!"พี่ติณโฟเจ็บนะ"

  • โฟกัสเพียงเธอ   บทที่1

    "จ๊ะเอ๋ ทายสิใครเอ่ย" ร่างบางเล็กสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซ็นติเมตรในชุดนักศึกษาค่อยๆ เดินย่องไปปิดตาพี่ชายสุดหล่อที่กำลังก้มหน้าก้มตาเซ็นต์เอกสารอย่างเคร่งเครียด ทำเสียงเล็กเสียงน้อยในท่าทางซุกซนราวกับพี่ชายคนรองจะทายไม่ถูกแน่"หึ หมูอ้วน" ชายหนุ่มหัวเราะเบาเบาให้กับท่าทางของน้องสาว เพราะเขาจำกลิ่นน้ำหอมหวานหวานได้ตั้งแต่ประตูห้องทำงานเปิดออก เพียงแต่กำลังอ่านเอกสารสำคัญอยู่จึงไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองและใจก็อยากจะรู้ว่าเจ้าลูกหมูตัวเล็กจะแกล้งอะไรอีก ก่อนจะตอบกลับไปด้วยฉายาที่เขาและแฝดใช้เรียกเธอในตอนเด็ก ทำเธอหน้ามุ่ยเดินสะบัดผมกลับไปนั่งเชิดหน้าที่โซฟารับรองแทน"พี่ฟิล์มอะ โฟไม่อ้วนสักหน่อย" ฉันตอบกลับพี่ชายอย่างแง่งอน ทั้งที่เป็นคนค่อนข้างมั่นใจในรูปร่างและเอวเท่ากระดาษเอสี่ แต่พอโดนคนใกล้ตัวเรียกกันแบบนี้ก็อดที่จะเสียเซลฟ์ไม่ได้ แต่ก็รู้แหละว่าพี่ฟิล์มแค่แกล้งเล่นเท่านั้น"มาหาพี่มีอะไรให้รับใช้คะคนสวย" พี่ฟิล์มวางเอกสารในมือและเดินพับแขนเสื้อมาหาฉันด้วยท่าทางสบายๆ หย่อนกายลงบนโซฟาข้างๆ เอ่ยถามฉันอย่างรู้ทัน"เว่อร์ ใครจะกล้าใช้พี่ชายสุดหล่อได้ลง""จริง?" "คืนนี้เพื่อนๆ โฟนัดปา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status