Share

บทที่ 249

Author: สั่งไม่หยุด
แม้แต่หรงจือจือก็มักจะรู้สึกว่า มีคนยุยงอยู่ระหว่างกลาง แต่หรงซื่อเจ๋อไม่ยอมพูดอะไรเลย และแม้จะมีเรื่องเข้าใจผิด ก็ไม่รู้จะแก้ไขที่ส่วนใดดี

หรงซื่อเจ๋อกล่าวด้วยดวงตาที่มืดมน “ไม่มีอะไรเข้าใจผิดทั้งนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องสกปรกที่เจ้าทำ! ข้าแค่กลัวว่าหากพูดออกไป เจ้าจะอับอายจนถึงแก่ความตายก็เท่านั้น!”

“คำพูดไร้สาระพวกนี้วันหลังไม่จำเป็นต้องพูดขึ้นอีก ทว่าชุดกระโปรงนี่เจ้าแค่บอกมาว่าจะทำหรือไม่แค่นั้น หากไม่ทำ เจ้าอย่ามาโทษที่ข้าไม่ยอมรับเจ้าว่าเป็นพี่หญิงในภายหลังก็แล้วกัน!”

ทันทีที่พูดคำนี้ หรงซื่อเจ๋อก็สะบัดชายเสื้อ และก้าวเท้ายาวจากไป

เจาซีมองหรงจือจืออย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นหรงจือจือรู้สึกหดหู่เล็กน้อย นางไหนเลยจะไม่รู้ว่าคุณหนูกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อก่อนพี่น้องมีความผูกพันที่ลึกซึ้ง แต่ตอนนี้กลับเดินมาถึงจุดนี้

มันจะดีกว่าหากไม่ผูกพันกันตั้งแต่แรก เพราะมันจะยิ่งทำให้เศร้าใจและทรมานมากขึ้น

เจาซีกระซิบถาม “คุณหนู เช่นนั้นเสื้อผ้านี้ ท่าน...จะทำหรือไม่เจ้าคะ?”

นางคิดว่าไม่ควรทำ

แต่เมื่อก่อนคุณหนูดันใส่ใจน้องชายคนนี้มาก ตราบใดที่คุณหนูสามารถทำได้ ก็จะตอบรับคำขออยู่เสมอ

ในน้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 250

    หรงจือจือใส่ใจหรงซื่อเจ๋อคนนี้มากเพียงใด ในใจของหรงจือจือย่อมรู้ชัดแน่นอนตอนเป็นเด็กพี่รองคนนี้ของตน นอกจากท่านย่าที่อยู่ในเรือนแห่งนี้ ยังเป็นเพียงคนเดียวที่เต็มใจใกล้ชิดกับหรงจือจือ ดังนั้นหรงจือจือจึงหวงแหนเขามากเช่นกันเมื่อเห็นหรงซื่อเจ๋อพูดเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นหรงเจียวเจียวเองก็รู้ว่า เรื่องนี้เป็นที่มั่นใจเก้าในสิบแล้ว......เที่ยงของวันรุ่งขึ้นหรงจือจือเห็นเจาซีเข้ามาด้วยด้วยสีหน้าแปลก ๆ และเอ่ยปากรายงานว่า “คุณหนู เจ้าพวกนักเล่านิทานด้านนอกมากมาย พากันพูดเรื่องของท่านกับสกุลฉีมั่วซั่วไปหมดแล้วเจ้าค่ะ...” “เห็นได้ชัดว่าสกุลฉีทำให้ท่านผิดหวัง ภายหลังกลับพูดเหมือนว่าท่านทำผิดต่อสกุลฉีเสียนี่”“บ่าวไม่เข้าใจเลยจริง ๆ เจ้าค่ะ เห็นได้ชัดว่าเมื่อก่อนผู้คนต่างด่าทอคนสกุลฉี แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดตอนนี้ถึงเริ่มด่าท่านแล้ว”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “เพราะข้าในเมื่อก่อน เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของหญิงสาวที่น่าสงสารที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และทนทุกข์อย่างถึงที่สุดในสายตาของชาวโลก พวกเขาจึงเห็นใจข้าบ้างเป็นธรรมดา” “แต่ตอนนี้ข้าหย่าร้างแล้ว ข้าทำให้พวกเขารู้ว่า ตอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 251

    แต่นางเซี่ยไม่ยอมรับในตัวนางหรงจือจือพูด “ต่อไปอย่าพูดเรื่องพวกนี้อีก ในเมื่อข้ารับปากนางเซี่ยไปแล้ว มันก็ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะกลับคำ”“เอาแต่คิดเรื่องพวกนี้ไปก็มีแต่จะเพิ่มความคิดที่ไร้ประโยชน์ให้กับเจ้า หรือหากแพร่งพรายออกไปก็จะกระทบต่อชื่อเสียงของทั้งสองฝ่าย”ไม่รู้ว่าการกระทำของจีอู๋เหิงวันนี้จะทำให้เกิดข่าวลือหรือไม่เจาซีตอบอย่างไม่เต็มใจนัก “บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”มีเพียงสวรรค์ที่รู้ว่าหัวใจของเจาซีกำลังหลั่งโลหิต ที่คุณหนูต้องพลาดจากบุรุษที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้สองนายบ่าวคุยกันถึงแค่ตรงนี้คนเฝ้าประตูเดินเข้ามารายงาน “คุณหนู ฉีอวี่เยียนมาหาขอรับ ร้องโวยวายอยู่ด้านนอกว่าต้องการพบท่าน!”เมื่อนึกถึงยามที่ออกจากสกุลฉีเมื่อวาน ฉีอวี่เยียนข่มขู่ว่าจะฆ่าตัวตายเพื่อบีบให้หรงจือจือทิ้งสินเดิมไว้ ครั้นได้ยินว่าอีกฝ่ายมาหาในวันนี้ หรงจือจือก็ย่อมรู้ว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนเอ่ยปากตอบทันทีว่า “ไม่พบ!”นางนึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าตัวเองออกจากสกุลฉีมาแล้ วแต่ก็ยังจะโดนคนสกุลฉีตามหลอกหลอนไม่เลิกอีก นางคิดว่าตราบใดที่คดีของอวี้ม่านหวายังไต่สวนไม่เสร็จสิ้น สกุลฉีก็น่าจะต้องปวดหัวกับเรื่องน

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 252

    หรงเจียวเจียวฟังถึงตรงนี้ก็รีบพูดตาม “นั่นสิเจ้าคะพี่หญิง อย่าก่อเรื่องอีกเลย รีบตามคุณหนูสามจากสกุลฉีกลับไปเถิด”“การที่นางมารับถึงที่นี่ก็แสดงให้ถึงความจริงใจของสกุลฉี จะเล่นตัวก็เล่นแค่พอเป็นพิธี เล่นมากไปจะหมดความหมาย”นางว่าจบก็ดันฉีอวี่เยียนเบาๆ “ยังไม่รีบพูดจาดีๆ กับพี่หญิงของข้าอีก?”ฉีอวี่เยียนฟังหรงเจียวเจียวพูดแบบนี้แล้ว มีหรือจะเห็นหรงจือจืออยู่ในสายตาอีก มองว่าก็แค่เศษสวะที่อยากตามตัวเองกลับสกุลฉีแต่ชอบวางท่าเล่นตัวพูดเย้ยหยันว่า “หรงจือจือ ข้าพูดในสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว จะกลับหรือไม่กลับก็แล้วแต่! ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด”หรงเจียวเจียวมองหรงจือจือ “ท่านพี่ คุณหนูสามสกุลฉีโมโหแล้วเจ้าค่ะ หากท่านยังไม่รีบกลับไป ทำให้ผลประโยชน์ตกเป็นของสตรีคนอื่นขึ้นมาจะทำอย่างไรเจ้าคะ?”“ข้าเพียงแต่กลัวว่าผลประโยชน์จะตกไปเป็นของผู้อื่น กลัวว่าท่านจะหยิ่งในศักดิ์ศรี ด้วยเหตุนี้จึงต้อนรับนางแทนท่าน”“สกุลฉีเป็นครอบครัวอันเพียบพร้อมที่หาได้ยากยิ่ง พี่เขยเป็นคนดีที่หาได้ยากเช่นกัน แม้ว่าช่วงนี้จะทำผิดพลาดไปเล็กน้อย แต่ข้าก็เชื่อว่าเขาจะแก้ไขปรับปรุงได้อย่างแน่นอน ท่านรีบไปเก็บของเถิด!”

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 253

    หรงจือจือพูดจบก็หันตัวเดินนำเจาซีจากไปหรงเจียวเจียวรีบร้องขึ้น “หรงจือจือ ท่านจะไปไหน? นางมาหาท่านนะ!”ฉีอวี่เยียนเข้ามาคว้าแขนหรงเจียวเจียวเอาไว้ “ไม่ ข้ามาหาเจ้าต่างหาก! จะมาหานางทำไม?”“ความจริงแล้วข้ารู้สึกถูกชะตากับเจ้าตั้งแต่แรกเห็น! จริงสิ ขนาดหรงจือจือยังมีปะการังต้นใหญ่ เจ้าเป็นที่โปรดปรานของครอบครัวขนาดนี้ คิดว่าท่านแม่ของเจ้าน่าจะมอบให้อย่างน้อยสองต้นใช่หรือไม่?”“รอให้ถึงวันที่ข้าแต่งงานออกเรือน เจ้าแบ่งให้ข้าต้นหนึ่งได้หรือไม่? ข้าขอแค่ต้นเดียวเท่านั้น ถือว่าไม่มากเกินไปกระมัง?”“พี่หญิงของเจ้าตระหนี่มาก ตอนนั้นข้าขอร้องจนปากเปียกปากแฉะ แต่นางกลับไม่ยอมยกให้แม้เพียงครึ่งต้น เจ้าทั้งใจกว้างทั้งใจดีขนาดนี้ คิดว่าคงไม่ใจแคบกระมัง?”หรงเจียวเจียว “เจ้า เจ้า…”นางไม่เคยพบเจอคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อน มันทำให้นางโมโหจนไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรต่อดีที่ทำให้นางโมโหหนักเข้าไปอีกก็คือ ฉีอวี่เยียนมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดว่า “แม้ว่ารูปโฉมจะด้อยกว่าพี่หญิงของเจ้าไปบ้างและมีกิริยามารยาทสง่างามไม่เท่านาง แต่ก็ถือว่าสะสวย”“แต่หากครอบครัวพวกข้าต้องมีสะใภ้ที่โดดเด่นไม่เท่าเดิม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 254

    สมัยที่หรงจือจือยังไม่ออกเรือน เมื่อไรที่นางหวังโมโหแบบนี้ หรงจือจือจะมายืนอยู่เบื้องหน้าอย่างเชื่อฟังทุกครั้งไปไม่ว่านางหวังจะสั่งให้นางคุกเข่ายอมรับผิดหรือตบหน้า หรงจือจือก็ไม่เคยบ่นแม้แต่คำเดียวทว่าวันนี้ นางหวังเดินเข้ามาอาละวาดแล้วเห็นหรงจือจือนั่งนิ่งอยู่ในตำแหน่งประธาน ในมือถือถ้วยชาพร้อมกับจิบอย่างสง่างาม ทั้งยังเพียงแค่ปรายตามองไปที่นางหวังอย่างเรียบเฉยสายตาเรียบนิ่งเฉยเมยนี้เกือบทำให้นางหวังเป็นลมหมดสตินางโกรธจนตัวสั่นเทิ้ม ชี้หน้าหรงจือจือว่า “เจ้าเห็นว่าข้าเข้ามาแล้ว เหตุใดยังไม่มาทำความเคารพอีก?”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “เคารพอันใดกัน? บัดนี้ข้าเป็นท่านหญิงขั้นที่สอง แต่ฮูหยินไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลย หากจะทำความเคารพจริงๆ เกรงว่าคงเป็นท่านมากกว่าที่ต้องทำความเคารพข้า!”นางเข้าใจแล้ว ในเมื่อบัดนี้นางเป็นท่านหญิง เช่นนั้นก็ควรใช้ตำแหน่งนี้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเองบ้างนางหวังเกือบต้องโมโหอกแตกตายเพราะคำพูดของหรงจือจือ นั่นเพราะนางไม่ได้มีตำแหน่งฮูหยินตราตั้งขั้นสูง ตำแหน่งฮูหยินตราตั้งขั้นที่หนึ่งที่มีก่อนหน้านี้ถูกมหาราชครูหรงยกให้กับฮูหยินผู้เฒ่า ยังไม่มีโอกาส

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 255

    นางหวังพูดด้วยความรังเกียจ “เสื้อผ้าพวกนี้ถูกทิ้งไว้ที่เรืออี๋เหมยจนแปดเปื้อนไปด้วยความอัปมงคลหมดแล้ว เจียวเจียวของข้าไม่มีทางใส่อีกแน่ ข้าจะสั่งตัดเสื้อผ้าให้นางใหม่ เอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปเผาทิ้งให้หมด!”พูดจบก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองครั้นเห็นนางเดินห่างออกไปไกลเจาซีก็อดบ่นเสียงเบาไม่ได้ว่า “เสื้อผ้าที่หรงเจียวเจียวเคยสวมต่างหากที่อัปมงคล เก็บไว้ที่นี่ไปก็ไม่เป็นมงคลต่อคุณหนูของข้า เผาทิ้งก็ดีเหมือนกัน ถุย!”อวี้หมัวมัวมองนางปราดหนึ่ง “บัดนี้อยู่ที่จวนสกุลหรง ระวังคำพูดและกิริยาด้วย”เจาซีมุ่ยปากแล้วไม่พูดอะไรอีกเมื่ออวี้หมัวมัวหันตัวกลับก็เห็นหรงจือจือมองออกไปนอกหน้าต่าง มองไปยังกำแพงเรือน สายตาราวกับมองผ่านชายคาออกไปยังโลกกว้างด้านนอกจวนสกุลหรง ภาพนี้ทำให้อวี้หมัวมัวตื่นตระหนกไปชั่วขณะและในจังหวะนี้เองที่หรงจือจือสั่งให้คนปิดประตูจากนั้นถามขึ้นว่า “อวี้หมัวมัว หลังจากที่พบตัวผู้สมรู้ร่วมคิดที่ร่วมมือกับนางถานสังหารท่านย่าแล้ว ข้าจะย้ายออกจากจวนไปเริ่มต้นครอบครัวใหม่ของตัวเองดีหรือไม่?”สุดท้าย เรื่องที่อวี้หมัวมัวหวาดกลัวก็มาถึงจนได้นางรีบตอบกลับไป “คุณหนู ไม่ได้เด็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 256

    เฉินเยี่ยนซู “พ่อบ้าน ส่งแขก”หรงซื่อเจ๋อ “?”เดี๋ยวนะ เขาเพิ่งจะพูดไปแค่ประโยคเดียว เหตุใดจึงไล่กันแล้ว? อีกอย่าง เมื่อครู่ท่านราชเลขาธิการยังยิ้มอยู่เลยมิใช่หรือ?พ่อบ้านหวง “คุณชายรองหรง เชิญเถิด”พ่อบ้านหวงทำการแสดงงิ้วเสฉวนให้หรงซื่อเจ๋อดูเช่นกัน—การแสดงเปลี่ยนหน้าใบหน้าเปลี่ยนจากยิ้มแย้มมาเป็นเคร่งขรึมประหนึ่งมีคำหยาบนับหมื่นอยู่ในใจและทำท่าผายมือเชิญให้เขาออกไปหรงซื่อเจ๋อขมวดคิ้วพูด “ท่านราชเลขาธิการ ไม่ทราบว่าข้า…”เขาพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือ?แต่เพิ่งจะพูดได้เพียงครึ่งประโยค เซินเฮ่อก็ทำตัวเหมือนวัวกระทิงก็มิปาน เข้ามาผลักหรงซื่อเจ๋อออกไปด้านนอกด้วยเรี่ยวแรงที่สามารถผลักให้คนลอยกระเด็นได้ “ยังไม่รีบไปอีก! ท่านราชเลขาธิการไล่แล้วนะ!”หรงซื่อเจ๋อสับสนงุนงง “ใต้เท้าเซิน ข้ายังพูดไม่จบเลยนะขอรับ!”เซินเฮ่อ “ยังจะพูดอะไรอีก! ไม่เห็นหรือว่าท่านราชเลขาธิการไม่อยากเห็นหน้าเจ้า? อย่ามารบกวนการพักรักษาตัวของเขา ไม่มีผู้ใดอยากฟังที่เจ้าพูดหรอก!”เหอะๆ น้องภรรยาของท่านราชเลขาธิการไม่รู้จักดูให้ดีแบบนี้ ดีจริงๆ เยี่ยมจริงๆเท่านี้ก็จะเทียบตำแหน่งของเขาภายในใจท่านราชเลขาธิการ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 257

    “แต่ก่อนหน้านี้ท่านพี่ทำตัวไม่ดี นางจึงยังขุ่นเคืองอยู่ก็เท่านั้น”“แท้จริงแล้วนางกำลังรอให้ครอบครัวของเราไปรับตัวกลับมา!”ฉีจื่อฟู่ฟังจบก็ตาเป็นประกาย “เรื่องนี้เป็นความจริงหรือ?”ฉีอวี่เยียนตอบทันที “เรื่องนี้จะเป็นเท็จได้อย่างไร? หากไม่ใช่เพราะแบบนี้ ข้าก็คงไม่ยืนอยู่หน้าจวนสกุลหรงนานขนาดนั้นหรอก พูดไปพูดมา ที่ข้าไปสอบถามมาก็เพราะรู้ว่าท่านปล่อยวางพี่สะใภ้ไม่ได้”ฉีจื่อฟู่รู้สึกว่าหัวใจที่แห้งเหือดของตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งเพราะคำพูดของฉีอวี่เยียน แม้แต่จิตวิญญาณก็ฟื้นกลับมาฉีอวี่เยียนพูดต่อ “ท่านพี่ ข้าว่านะ ท่านให้ผู้อาวุโสไปรับพี่สะใภ้กลับมาด้วยตัวเองเถิด!”“ตัวข้าที่เป็นเพียงน้องสาวสามีไปรับเพียงลำพังนั้นดูเสียมารยาทเล็กน้อย นางจะไม่อยากกลับมากับข้าก็ไม่แปลก”“แต่หากท่านไปด้วยตัวเองจะไม่เหมือนกัน นางจะไม่ยอมไว้หน้าท่านสักหน่อยหรือ? ท่านว่าใช่หรือไม่?”หัวคิ้วของฉีจื่อฟู่ขมวดเข้าด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าเริ่มคล้อยตามแต่เมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้ตัวเองสาบานกับจือจือว่าสกุลฉีของพวกเขาจะผ่านพ้นอุปสรรคครั้งนี้ไปด้วยตัวเอง หากเขาไปหานางตอนนี้ก็อาจจะทำให้นางดูแคลนเขาได้ไม่แ

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 326

    ทว่าฮูหยินหลี่กลับไม่รู้วิธีปฏิบัติและกฎของสกุลดังในเมืองหลวงเลย หนำซ้ำตอนนี้ยังคิดว่าตนจัดงานเลี้ยงได้ดีอย่างยิ่งอีกฉีกยิ้มพร้อมกล่าวกับหรงเจียวเจียวว่า “ข้ายังต้องออกไปรับแขก พวกเจ้าเข้าไปเล่นกันก่อน พวกฮูหยิน พวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ จากแต่ละจวนรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าไปสนุกกันเองเถอะ”ส่วนพวกผู้ใหญ่ พวกบัณฑิต ย่อมอ่านกวีแต่งบทกลอน พูดคุยเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่อีกที่หนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีทางอยู่รวมกับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้งานเลี้ยงเขียนกวีของแคว้นต้าฉี แต่ไหนแต่ไรมาก็จัดเช่นนี้หรงเจียวเจียวฉีกยิ้มหวานพลางตอบกลับ “ท่านป้าไปเถิด พวกข้าจะดูแลตัวเองให้ดีเจ้าค่ะ”ฮูหยินหลี่เรียกหลี่เซียงเหยาบุตรสาวของตนมา “เหยาเหยา เจ้าอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงสามของเจ้าให้ดี อย่าให้คนมาล่วงเกิน จำขึ้นใจหรือยัง?”หลี่เซียงเหยามองหรงจือจือทีหนึ่ง ในตอนนี้ถึงกล่าวว่า “จำเอาไว้แล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่”ครั้นสิ้นเสียง ก็เดินฉีกยิ้มไปกอดแขนของหรงเจียวเจียว ทำทีท่าสนิทกันเป็นอย่างมากตอนหลี่เซียงเหยายังไม่มาเมืองหลวง ก็ได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่ของตนโดดเด่นอย่างไร ในใจของนางโหยหาเป็นอย่างมากแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อตนมา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 325

    เหวินหมัวมัว “นี่...เจ้าค่ะ! บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”นางหวังยังรีบไปกำชับข้างหูนางอีกว่า “ถ้าไม่สะดวกจะเรียกกลับมา ก็อย่าให้พวกนางพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไปเป็นอันขาด”เหวินหมัวมัว “เจ้าค่ะ”นางลุกลี้ลุกลนออกไปจากจวน นางหวังร้อนใจกระวนกระวายดั่งด้ายพันกัน หากไม่ใช่เพราะนึกขึ้นได้ว่าตนกำลังไว้ทุกข์อยู่ ไม่สะดวกจะไปงานเลี้ยงเขียนกวี นางแทบอยากจะรุดหน้าไปด้วยตัวเองแล้ว...ในขณะนี้ จวนสกุลหลี่จวนสกุลหลี่แม้จะเป็นจวนที่ซื้อมาใหม่ ทว่าในหลายวันนี้ก็ซ่อมแซมอย่างดีไปยกหนึ่ง ฮูหยินหลี่เสียแรงตกแต่งไปอย่างมากครั้นเห็นพวกเด็ก ๆ จากสกุลหรงมาถึงท่านลุง ท่านป้าสะใภ้สกุลหลี่ ก็ฉีกยิ้มออกมารับหน้า “ท่านพี่มีใจแล้วจริง ๆ ถึงให้พวกเจ้ามา นับเป็นเกียรติกับเราจริง ๆ”หรงจือจือในฐานะพี่สาวคนโต ย่อมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เป็นสิ่งสมควรเจ้าค่ะ งานเลี้ยงเขียนกวีของจวนท่านป้าสะใภ้ ก็ต้องมาร่วมงานอยู่แล้ว”ฮูหยินหลี่มองนางทีหนึ่ง ทว่าในสายตากลับมีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อยหากไม่ใช่เพราะนางหวังส่งจดหมายมา บอกให้นางให้ความร่วมมือพูดฉีกหน้าหรงจือจือสักครา ทำให้ต่อไปนางไม่กล้าทำตัวบ้าคลั่งต่อหน้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 324

    “ครั้งนี้เจ้าจะได้พูดกับนางให้เข้าใจด้วยพอดี ให้นางพิจารณาตัวเองเสีย เหตุใดเป็นลูกสาวของข้าเช่นกัน พี่สาวนางแต่งงานครั้งที่สองแล้ว อัครมหาเสนาบดีเฉินมาสู่ขอแล้ว แต่นางกลับยังทำให้ข้าไม่รู้จะเอาหน้าเหี่ยว ๆ ไปซุกไว้ที่ไหน!”ครั้นนางหวังได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเพียงราวกับบนหน้าตนถูกคนฟาดสองฉาด เจ็บปวดแสบปวดร้อนไปหมดสิ่งเดียวที่เจียวเจียวกับจือจือแตกต่างกัน ก็คือคนหนึ่งตนอบรมสั่งสอนมาเองกับมือ ส่วนอีกคนฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนอบรมสั่งสอนมานี่ไม่เท่ากับกำลังว่าตนสั่งสอนลูกสาวได้ไม่ดีเท่ายายแก่ที่ตายไปแล้วนั่นหรอกหรือ?มหาราชครูหรงพูดจบ ก็ยังกล่าวต่อทั้งสายตาเคร่งขรึมว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดถูก ในเมื่อจะแต่งงานกับท่านเสนาบดี สินเดิมจะน้อยไม่ได้ ไม่รวมกับสินติดตัวเจ้าสาวที่ท่านแม่ให้จือจือในก่อนหน้านี้ เจ้าก็เตรียมเพิ่มให้นางอีกหน่อยแล้วกัน”นางหวังเดือดดาลจนเสียงหาย “ท่านพี่! การแต่งงานดี ๆ ของเจียวเจียวถูกจือจือแย่งไป ท่านยังให้ข้าเตรียมสินเดิมให้จือจือเพิ่มอีก ท่านอยากบีบเจียวเจียวให้ตายหรืออย่างไร?”มหาราชครูหรง “พอได้แล้ว! พูดจาเพ้อเจ้อแย่งงานแต่งอะไรกัน เจ้าอย่าได้พูดอีกเชียวนะ ลูกสาวท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 323

    เห็นนางหวังดีอกดีใจ และพูดจามั่นอกมั่นใจเช่นนี้คำพูดที่มหาราชครูหรงอยากจะกล่าว แทบจะติดอยู่ที่คอหอยพูดไม่ออกนางหวังยังพูดเป็นต่อยหอย “ท่านพี่ ข้าว่า เราต้องให้สินเดิมเจียวเจียวเพิ่มอีกหน่อย จะให้น้อยกว่าจือจือไม่ได้ อย่างไรก็แต่งงานกับท่านเสนาบดี จะให้คนดูถูกได้อย่างไร...”มหาราชครูหรงอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พอได้แล้ว”นางหวังอึ้งไป ครั้นเห็นว่าสีหน้าของมหาราชครูหรงไม่ดีจริง ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “ท่านพี่ มีอะไรหรือ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?”ในตอนนี้มหาราชครูหรงถึงตอบกลับว่า “จับคู่ผิดแล้ว! คนที่อัครมหาเสนาบดีเฉินอยากแต่งงานด้วย ไม่ใช่เจียวเจียว!”นางหวังฉงนไปเลย “ฮะ? ท่านพี่ ท่านเลอะเลือนไปแล้วหรืออย่างไร ไม่ใช่เจียวเจียวแล้วจะเป็นผู้ใดได้? หรือว่าในใต้หล้านี้ยังมีสตรีที่ดีกว่าเจียวเจียวของเราอีกหรือ?”นางหวังยิ่งกล่าว ก็ยิ่งคิดว่าเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็คลี่ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านพี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่ใช่หรือไม่?”มหาราชครูหรงลูบหว่างคิ้วพลางตอบกลับ “ข้าไม่มีทางเอาเรื่องใหญ่เช่นนี้มาล้อเล่นเป็นอันขาด! คนที่ท่านเสนาบดีต้องการคือจือจือ ไม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 322

    เฉินเยี่ยนซูแทบจะเดือดดาลจนโพล่งขำ “เช่นนั้นท่านมหาราชครูเคยคิดหรือไม่ เป็นบุตรสาวของท่านเหมือนกันแท้ ๆ เหตุใดคนหนึ่งไร้เดียงสาใสซื่อได้ แต่อีกคนกลับไม่เข้มแข็งไม่ได้?”“ท่านหญิงก็เป็นเพียงแม่นางน้อยอายุยี่สิบปีผู้หนึ่ง ผ่านการล้มลุกคลุกคลานมามากมายขนาดนี้ ลำบากมามากมายขนาดนี้ มหาราชครูยังคิดจะให้นางเข้มแข็งอย่างไร?”มหาราชครูหรงพูดไม่ออก ได้แต่เอ่ยขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องว่า “ที่จริงก็เป็นเพราะข้าหวังดีกับท่านเสนาบดี อย่างไรจือจือก็เคยผ่านการหย่ามาก่อน สู้สตรีบริสุทธิ์อย่างเจียวเจียวได้เสียที่ไหน? นี่ถึงได้...”เฉินเยี่ยนซูพูดแทรกขึ้นมา “ท่านมหาราชครู นายหญิงผู้เฒ่าหรงให้ท่านดูแลท่านหญิงให้ดี ข้าคิดว่าที่เรียกว่าดูแล นอกจากเป็นห่วงในด้านการใช้ชีวิตแล้ว ก็น่าจะมีเรื่องการเคารพในด้านตัวตนด้วย”“ในในของท่านดูถูกท่านหญิงแล้ว คิดว่านางสู้คุณหนูสามของจวนท่านไม่ได้ หรือว่านี่ไม่ใช่ความอัปยศอย่างหนึ่งสำหรับนาง?”“นางก็แค่แต่งงานผิดคน ไม่ได้ทำเรื่องผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ตามที่ข้ารู้ การแต่งงานในตอนแรกนั้นนางไม่ได้เป็นคนเลือกด้วยตัวเอง”“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่นางเป็นเหยื่อ และยิ่งเป็นค

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 321

    เฉินเยี่ยนซูราวกับเดือดดาลจนขำ เขาวางจอกชาในมือลง “เยี่ยมจริง ๆ มหาราชครูหรงยกบุตรสาวให้หมั้นหมายกับข้า แล้วก็คิดจะให้นางแต่งงานกับคนอื่นอีกด้วย”“ที่ข้ามาเพราะอยากขอคำอธิบาย มหาราชครูไม่มีเจตนาจะขอโทษไม่พูดถึง แต่ยังจะยัดเยียดบุตรสาวให้ข้าอีก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เราไปตัดสินกันต่อหน้าฝ่าบาทเถอะ!”ครั้นมหาราชครูหรงได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ “จะเรียกว่ายัดเยียดบุตรสาวตามอำเภอใจได้อย่างไร? หรือว่าหากเปลี่ยนเจียวเจียว ท่านเสนาบดีก็ไม่พอใจอีก?”เฉินเยี่ยนซูมองเขาทีหนึ่ง “คนที่ข้าอยากแต่งงานด้วย มีเพียงท่านหญิงแห่งหนานหยางผู้เดียวเท่านั้น”มหาราชครูหรงเริ่มรู้สึกว่า ตนถูกคำของนางหวังหลอกเข้าแล้ว บางทีผู้ที่เฉินเยี่ยนซูต้องการตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นสตรีที่เขาชื่นชม แต่มิใช่สตรีที่มุ่งแต่จะแต่งงานกับเขามหาราชครูหรงที่รู้สึกว่าตนคล้ายตัวตลก ฉีกยิ้มอย่างขมขื่นออกมาทีหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เฉินเยี่ยนซูเอ่ยถามขึ้นว่า “ในเมื่อเข้าใจแล้ว คิดว่าท่านพ่อตาก็คงจะไม่ถอนหมั้นใช่หรือไม่?”การเรียกท่านพ่อตานี้ แสดงถึงความเคารพออกมาอีกสองสามส่วน ทำให้ในใจของมหาราช

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 320

    เขาจงใจพูดไล่หลังหรงจือจือด้วยเสียงดังเพื่อให้นางได้ยินหรงเจียวเจียวหน้าแดงด้วยความเขินอายโดยพลัน นางกระทืบเท้าว่า “ท่านพี่!”แต่หรงจือจือราวกับไม่ได้ยินที่เขาพูด นางไม่แม้แต่จะหันมามองนี่ทำให้หรงซื่อเจ๋อโมโหหนักกว่าเดิม เขากัดฟันว่า “นางมีนิสัยแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่สกุลฉีจะรังเกียจ! คงมีแต่ต้องแต่งงานไปอยู่ตระกูลเล็กๆ และพึ่งพาการปกป้องจากท่านพ่อไปจนตาย ข้ารู้สึกสงสารว่าที่พี่เขยในอนาคตด้วยซ้ำ!”แต่พูดถึงตรงนี้ หรงซื่อเจ๋อก็ต้องสำลักคำพูดตัวเองนั่นเพราะนึกถึงเรื่องที่หรงจือจือบอกให้เขาแต่งงานไปอยู่สกุลฉีเมื่อคราก่อน หากนางได้ยินว่าเขาสงสารฉีจื่อฟู่ เกรงว่าคงพูดแบบนั้นให้ตัวเองสะอิดสะเอียนอีก เขารีบปิดปากเงียบหรงเจียวเจียว “พอแล้วๆ ท่านรีบขึ้นรถม้าเถิด! หากไปสาย ท่านพ่อคงตำหนิว่าพวกเราไม่รู้กฎเกณฑ์”หรงซื่อเจ๋อจำใจต้องขึ้นรถม้าเป็นเพราะแผลที่หลังเขายังไม่หายดีและกลัวว่าท่านพ่อจะโบยตีอีกรอบหรอกนะ มิเช่นนั้นเขาจะด่าหรงจือจือชุดใหญ่……รถม้าของพวกเขาเพิ่งจะออกจากสกุลหรงได้ไม่นานรถม้าของจวนราชเลขาธิการก็มาถึงหน้าจวนสกุลหรง มหาราชครูหรงทราบเรื่องแล้วยังคงออกมาต้อนรับด้วยตัวเอ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 319

    หรงจือจือสะกดกลั้นความโมโหในใจ ตอนนี้นางได้ลิ้มรสความรู้สึกที่มีเพียงคนตรงไปตรงมาแบบเจาซีที่จะมีได้!หากไม่ใช่เพราะยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ มันก็มีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่นางอยากไปที่จวนราชเลขาธิการเดี๋ยวนี้ ไปบอกว่าตัวเองยินดีแต่งงานกับเฉินเยี่ยนซู หรงเจียวเจียวจะได้เลิกเห่าเสียทีนางยกยิ้มมุมปากมองหรงเจียวเจียว “ได้ เช่นนั้นข้าจะรอดูวันที่เจ้าได้แต่งเข้าจวนราชเลขาธิการ น้องสามต้องพยายามเข้าล่ะ อย่าได้พลาดเด็ดขาด”นางอยากรู้เหมือนกันว่าหรงเจียวเจียวจะมีสีหน้าเช่นไรเมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดหรงเจียวเจียวแค่นเสียงเบาและวางท่ามั่นอกมั่นใจ “เช่นนั้นเชิญพี่หญิงเบิกตาดูให้ดีได้เลย!”“ถึงเวลานั้นก็อย่าอิจฉาจนร้องไห้ล่ะ ข้าได้ยินว่าบุรุษที่ท่านพ่อหาให้ท่านเป็นแค่เสมียนกรมเล็กๆ นี่ต่างหากที่น่าขัน!”หรงจือจือพูดอย่างราบเรียบ “หวังว่าพรุ่งนี้ เจ้าจะยังยิ้มออกนะ”ฟังจากที่เฉินเยี่ยนซูพูด เขาจะมาคุยกับท่านพ่อให้ชัดเจนในวันพรุ่งนี้ หลังจากผ่านพรุ่งนี้ไป หรงเจียวเจียวคงทำหน้าเย่อหยิ่งเช่นนี้ไม่ได้อีกหรงเจียวเจียวมีหรือจะรู้ว่าหรงจือจือคิดอะไรอยู่?นางพูดด้วยความดูถูก “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะยิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 318

    “แต่ราชเลขาธิการเฉินผู้นี้ เขาเป็นคนประเภทที่ข้ารู้สึกชื่นชมตั้งแต่ยังไม่แต่งงาน ข้ากลัวว่าหากแต่งงานกับเขาจริงๆ เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ตัวข้าจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ควรมีต่อเขาได้”“ความจริงแล้วเขาเป็นตัวเลือกที่อันตรายสำหรับข้า”“หลังจากที่ท่านย่าจากไป ข้าก็ชอบคิดอยู่เสมอ หากข้าไม่สามารถปกป้องอะไรได้เลย แต่อย่างน้อยก็ต้องปกป้องหัวใจตัวเอง ห้ามให้ผู้ใดมีโอกาสกรีดแทงหัวใจข้าเด็ดขาด ข้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่านี้”ในการพบกันเมื่อสี่ปีก่อน ความจริงแล้วหรงจือจือเคยตะลึงงันกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฉินเยี่ยนซู หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกันสองสามวัน บทสนทนาที่มีร่วมกับเขาก็ทำให้นางประทับใจเช่นกันแต่ตอนนั้นนางรู้ตัวว่าตัวเองมีการหมั้นหมาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกเหนือจากนี้ทว่าบัดนี้นางเป็นอิสระแล้ว ส่วนเขาก็มีเสน่ห์ยิ่งกว่าเมื่อก่อน มีบางครั้งที่นางเผลอมองนานเกินไปโดยไม่รู้ตัว ส่วนวันนี้ก็มีอาการหน้าแดง จะไม่ให้เป็นกังวลได้อย่างไร?เคราะห์ดีที่เฉินเยี่ยนซูต้องการแต่งงานกับนางเพื่อให้ช่วยดูแลอาการป่วย ไม่ใช่เพราะพึงใจในตัวนาง มิเช่นนั้น นาง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status