“คุณ… คุณหมายความแบบนั้นจริงเหรอคะ?” เซลีนมองเซบาสเตียนทั้งน้ำตา"ฉันหมายความว่าแบบนั้น"“แต่คุณไม่ได้รักฉัน คนที่คุณรักคือซาบริน่า ฉันไม่อยากจะบังคับคุณ และฉันก็ไม่ต้องการให้เด็กที่อยู่ในท้องของฉันทำแบบนั้นเช่นกัน ฉันแค่ไม่อยากทำแท้งลูกของฉัน ฉันจะไม่ตอแยให้คุณกลับมา ฉันจะไปให้ไกล” เซลีนส่ายหัวขณะที่เธอร้องไห้“ฉันบอกเธอแล้วไง ว่าฉันจะแต่งงานกับเธอ เธอจะเป็นภรรยาคนเดียวของฉัน เด็กในท้องของเธอจะเป็นผู้สืบทอดในอนาคตของ ฟอร์ด กรุ๊ป” พูดแบบนั้นแล้ว เซบาสเตียนก็อุ้มเธอไปที่ห้องตรวจเซลีนพูดไม่ออก ใบหน้าของเธอยังคงเต็มไปด้วยน้ำตาอย่างไรก็ตาม ในอ้อมกอดของเซบาสเตียน เธอรู้ว่าเธอคือผู้ชนะเธอได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์ข้างหลังพวกเขา ลินคอล์นและเจดสมตาอย่างรู้กันผลลัพธ์หลังจากตรวจร่างกายในแผนกนารีเวชวิทยาได้รับการเปิดเผยหลังจากนั้นไม่นาน เซลีนกำลังตั้งครรภ์จริง ๆ และท้องกว่าสิบเดือนแล้ว มันเกิดขึ้นทันทีหลังจากคืนนั้นเซบาสเตียนใช้เวลาอยู่กับเธอแพทย์แจ้งเซบาสเตียนว่าทารกในครรภ์เจริญเติบโตอย่างดี เขาเสริมว่าร่างกายของมารดาอ่อนแอเล็กน้อยและต้องการการพักผ่อนอย่างเหมาะสม เธอไม่ควรโกรธหรือเส
“เข้าใจแล้วครับ” เซบาสเตียนวางสายหลังจากพูดคำง่าย ๆ ในขณะที่สายตาอันเย็นชาของเขาไปที่ส่งไปยังเซลีน มันอุ่นขึ้นมากและเขาก็ใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนมากขึ้นเช่นกัน “เธอตั้งท้องลูกของฉัน ฉันจะปล่อยให้เธอกลับบ้านได้อย่างไร?”"ไม่ค่ะ!" เซลีนปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ไม่ค่ะ นายน้อย เรายังไม่ได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการ ฉันจึงยังไม่ใช่ภรรยาของคุณ ตอนนี้ฉันรู้ว่าฉันเป็นแม่ ฉันจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกของฉัน ฉันจะไม่สร้างปัญหาให้คุณผู้ชายของฉันด้วย ฉันจะเรียนรู้ที่จะเข้มแข็งขึ้นและมีหลักการ ดังนั้นก่อนที่เราจะแต่งงาน ฉันจะไม่ไปอยู่กับคุณ ไม่ต้องกังวลนะคะ อย่างไรฉันก็จะดูแลลูกของเราอย่างเหมาะสม ฉันจะทำอย่างนั้นอย่างแน่นอนค่ะ”คำพูดของเธอฟังดูแน่วแน่มากเสียจนเซบาสเตียนรู้สึกราวกับว่าเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ในฉับพลันเธอก็มีคุณธรรมประจำใจมากยิ่งขึ้นเซบาสเตียนหยุดครู่หนึ่งก่อนจะตกลง "ก็ได้"เขามองไปที่ลินคอล์นและเจดหลังจากนั้น “กรุณาดูแลเซลีนให้ดี ผมจะแต่งงานกับเธอแน่นอนหลังจากนี้หนึ่งเดือน ในอนาคตเธอจะเป็นผู้หญิงคนเดียวของผม เด็กที่อยู่ในท้องของเธอจะเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของฟอร์ด กรุ๊ป”ลินคอล์นม
“มันนานแล้วตั้งแต่งานเลี้ยงครั้งสุดท้าย แกตัดสินใจแล้วหรือยัง? ว่านายสนใจผู้หญิงจากตระกูลไหน?” เฮนรี่ถามหลานชายของเขาหลานชายของเขาใกล้จะสามสิบสองแล้ว ถ้าเขาเป็นคนธรรมดา ลูกของเซบาสเตียนคงไปโรงเรียนแล้ว!เซบาสเตียนเย็นชาเหมือนเดิมและไม่พูดอะไร เฮนรี่เริ่มหงุดหงิด แต่เพราะเขาค่อนข้างกลัวหลานชายคนนี้ เขาจึงไม่กล้าแสดงความโกรธออกไป เขาเพียงพูดความจริงใจว่า “ทุกวันนี้ มีครอบครัวเพียงไม่กี่ครอบครัวที่สามารถยืนหยัดเพื่อครอบครัวฟอร์ดได้ เจ้าหญิงแห่งสมิธ กรุ๊ป น้องสาวของเซย์นที่มักจะอยู่กับไนเจลเสมอ เธออายุ 22 ปี นอกจากนี้ยังมีตระกูลฮอรสท์จากคีดอน ซิตี้ แต่คนที่ปู่คิดว่าดีที่สุดคือครอบครัวชอว์…”เฮนรี่พูดเยอะมาก แต่เซบาสเตียนไม่แม้แต่จะเลิกคิ้วสงสัยแม้ว่าจะไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็ไม่คัดค้านเช่นกัน เฮนรี่จึงพูดต่อ “หลานสาวของเมลานี ชอว์ นายหญิงแห่งตระกูลชอว์ เธอชื่อมินดี้นะ ปู่คิดว่าแบบนั้น? ครอบครัวแมนน์อาจไม่มีอะไรมากนักในเซ้าท์ ซิตี้ และล่มสลายไปแล้ว แต่มินดี้เติบโตขึ้นมาในตระกูลชอว์และอยู่เคียงข้างแกท่านอาวุโสชอว์มาโดยตลอด เด็กคนนั้นอาจเป็นแมนน์ แต่โดยพื้นฐานแล้วเธอคือหลานสาวของตระกูลชอว
เมื่อเซบาสเตียนจ้องมอง ซาบริน่าก็ยิ้มอย่างเขินอายรอยยิ้มของเธอช่างจริงใจ เปล่งประกายด้วยความมีชีวิตชีวาสำหรับงานวันนี้ของซาบริน่าราบรื่นมาก อาจเป็นเพราะแล็ปท็อปที่เซบาสเตียนมอบให้เธอ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเธอเพิ่มมากขึ้น เมื่อเธอส่งแบบร่างให้นักออกแบบในสำนักงาน พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงจนไม่มีคำใดออกมาจากปากเลยพวกเขาล้วนแต่คิดว่าเธอเป็นคนที่ทำงานธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นอะไร แม้กระทั่งคิดว่าเธอใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะทำงานออกมาได้อย่างมืออาชีพ มันดีมากเสียจนแม้แต่ข้อความแจ้งรายละเอียดด้านข้างก็ดูมีประโยชน์อย่างมากตั้งแต่วันนั้น นักออกแบบต่างก็ไม่กล้าที่จะมีข้อกังขาใด ๆ ต่อซาบริน่าอีกเธอออกจากที่ทำงานก่อนเวลาเลิกงาน และมุ่งหน้าไปที่ห้องผู้ป่วยของป้าเกรซ ขณะที่ทั้งคู่คุยกัน ซาบริน่าบอกเกรซว่าเซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี ตลอดสองวันที่ผ่านมาเขาไม่เพียงซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ ให้เธอเท่านั้น แต่เขายังมอบแล็ปท็อปคุณภาพสูงอันน่าทึ่งเครื่องนี้ให้เธออีกด้วยเกรซดึงมือของซาบริน่าขณะที่เธอยิ้ม “แซบบี้ แม่บอกหนูแล้วว่าลูกชายของแม่เป็นคนดี เขาอาจจะเป็นคนพูดน้อย แต่เขา
นั่นเป็นเหตุผลที่คิงส์ตันไม่สวมถุงมือมาตลอดทั้งปี แม้ว่าในฤดูหนาวจะหนาวที่สุด เขาก็ยังคงไม่ยอมใส่อยู่ดี ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีใครเตรียมที่อุ่นมือเล็ก ๆ ไว้ให้เขาได้อุ่นมือเช่นนี้น้ำใจของหญิงสาวตัวน้อยคนนี้ ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นขึ้นเป็นอย่างมากเขาถึงกับเริ่มสงสัยว่าผู้หญิงแบบนี้ท้องในเรือนจำได้อย่างไร?เธอมีบาดแผลทางจิตใจที่ซ่อนไว้อยู่รึเปล่า?คิงส์ตันสาบานกับตัวเองว่าเขาจะสืบหาอย่างรวดเร็วว่าใครเป็นใคร และช่วยเธอยุติความสัมพันธ์ที่โชคร้ายนี้!เขาเปิดประตูรถอย่างรวดเร็วก่อนจะพูดกับเซบาสเตียนและซาบริน่าว่า “นายน้อย นายหญิง เชิญขึ้นรถครับ”ซาบริน่าหน้าแดงและยิ้มขณะที่เธอพูดว่า “ขอบคุณค่ะ”ภายในรถ เธอมองดูเซบาสเตียนเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อทำงาน เนื่องจากความมีไหวพริบ ซาบริน่าจึงไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ ออกมา หลังจากที่พวกเขากลับมาถึงบ้านแล้ว เธอก็ถามไปว่า “คุณหิวไหมคะ?”เซบาสเตียนมองเธออย่างลังเล “เธอทำอาหารเป็นเหรอ?”“ค่ะ ก็ถ้าขั้นตอนมันไม่ซับซ้อนเกินไป ฉันทำได้ค่ะ คุณฟอร์ด ถ้าคุณหิว ฉันทำอาหารให้คุณทานได้นะคะ” ซาบริน่าดูกระตือรือร้นมากเซบาสเตียนประหลาดใจในช่วงเวลาสั
ซาบริน่าตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาและเหินห่าง “เมื่อไหร่ กี่โมง?”“สี่โมงเย็น!”“ก็ได้ ฉันจะไปที่นั่นตามที่บอก” ซาบริน่าพูด “อย่ารบกวนป้าเกรซ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ใจดีด้วยแน่!”เซลีนหัวเราะอย่างดุร้าย “ฮ่า ฮ่า! ซาบริน่า ดูเหมือนแกจะคิดว่าเกรซเป็นแม่ของแกแล้วจริง ๆ สินะ อย่าลืมว่าแกเป็นแค่ตัวปลอม ส่วนฉันน่ะตัวจริง เกรซเป็นแม่ของคู่หมั้นฉัน ฉันจะทำร้ายเธอได้ยังไงกัน แกอย่ากังวลอะไรไม่เข้าเรื่องเลย?”“ก็ดี ที่เธอยังจำได้ว่าเกรซเป็นแม่สามีเธอ ฉันจะไปถึงตอนสี่โมงเย็น” ซาบริน่าวางสายหลังจากพูดแบบนั้นเมื่อเธอทำความสะอาดสำนักงานจนเรียบร้อย ขณะที่เธอกำลังมองหาที่นั่งเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน โทรศัพท์ของซาบริน่าก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเธอคิดว่าเป็นเซลีนที่โทรเข้ามาอีก เธอก็เริ่มหงุดหงิด อย่างไรก็ตาม เมื่อดูหมายเลขโทรศัพท์แล้ว เธอก็พบว่าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่รู้จัก เธอสงบสติอารมณ์ก่อนจะหยิบมันขึ้นมา “สวัสดีค่ะ นั่นใครคะ?”“นายหญิง” เสียงของคิงส์ตันมาจากอีกด้านหนึ่งซาบริน่าหน้าแดงและน้ำเสียงก็สดใสขึ้นเช่นกัน “คิงส์ตันคะ คุณก็รู้ว่าฉันแค่แกล้งทำไปแบบนั้น คุณไม่จำเป็นต้องเรียกฉันว่านายหญิงหรอก
ห้าจานซาบริน่ามองดูอาหาร ขณะยิ้มพร้อมส่ายศรีษะบ้าไปแล้ว เป็นมื้อที่ฟุ่มเฟือยเสียจริง... เธอจะทานทุกอย่างให้หมดได้อย่างไรกัน? อย่างไรก็ตาม เธอก็รู้สึกว่าหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความสุขเมื่อรับอาหารแล้ว ซาบริน่ายิ้มขณะที่เธอเดินกลับไปที่โรงอาหารของพนักงานเพื่อทานอาหาร ก่อนเข้าไป เธอสะดุดเข้ากับไนเจลและเซย์นเพื่อนของเขา“โย่! ซาบริน่าสองวันที่ผ่านมาคุณมีเสี่ยเลี้ยงแล้วรึไง?” ไนเจลขวางทางเธอไว้ขณะที่เขาถามอย่างไม่ใส่ใจซาบริน่าเงยหน้าขึ้นมอง และยิ้มให้กับไนเจลรอยยิ้มของเธอเปล่งประกายด้วยความสดใสไนเจลตกตะลึงอีกครั้งเป็นครั้งที่สองที่เขาได้เห็นรอยยิ้มนั้นของซาบริน่า ครั้งแรกเมื่อสามวันก่อน ขณะที่เธอรับประทานอาหารมื้อนั้นที่ไซต์ก่อสร้างของบริษัท“ไนเจล สองวันที่ผ่านมาฉันไม่เจอคุณเลย คุณยุ่งเหรอคะ?” ซาบริน่ามองไปที่ไนเจล รอยยิ้มที่ยิ้มแย้มของเธอทำให้คิ้วของเธอโก่งโค้งขึ้นไนเจลพยักหน้าอย่างอ่อนโยน“อืม ไม่ว่าคุณจะยุ่งแค่ไหน อย่าลืมว่าอีกไม่กี่วันฉันก็จะได้เงินเดือนแล้ว ฉันเคยบอกว่าหากฉันได้เงินเดือนแล้ว ฉันจะเลี้ยงข้าวคุณ และคืนเงินให้คุณด้วย ดังนั้นอย่าลืมแล้วกันนะคะ”ไนเจลยั
ด้านหลังของซาบริน่ามีสายตาของเซบาสเตียนจับจ้องมาที่เธอ เมื่อเธอตบเซลีนไปเมื่อครู่นี้ คิงส์ตันก็รู้สึกเหงื่อตกแทนเธอ ผู้หญิงคนนั้นจะโชคร้ายขนาดไหนกัน?คิงส์ตันรู้สึกพอใจเล็กน้อยเมื่อเห็นซาบริน่าตบเซลีน แต่เขาก็รู้เช่นกันว่าในขณะนั้นซาบริน่าอาจจะต้องเจอกับ...ใบหน้าของซาบริน่าเชิดขึ้น น้ำตาไหลขณะที่เธอระบายความในใจออกมาให้เซลีนได้ฟัง “เซลีน ฟังนะ! ฉันยังคงเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเซบาสเตียน! ป้าเกรซชอบฉันมากและเต็มใจที่ยอมรับว่าฉันเป็นลูกสะใภ้เพียงคนเดียวของเธอเท่านั้น! เธอ... สำหรับป้าเกรซแล้ว เธอไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับป้าเกรซเลย! คอยดูตั้งแต่นี้ต่อไปเถอะ หากป้าเกรซจากไปแล้ว ฉันจะเอาเธอไปฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว!“ฉันจะทำอย่างที่พูดแน่!”ซาบริน่าโกรธเซลีนมากเธอเกลียดครอบครัวลินน์มาโดยตลอด ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขา เธอคงไม่ต้องใช้ชีวิตสองปีที่ผ่านมาในเรือนจำ และเธอก็ไม่ต้องมอบร่างกายของเธอให้ชายที่กำลังจะตายและลงเอยด้วยการตั้งท้องแบบนี้ทั้งชีวิตของเธอ อนาคตของเธอ ล้วนถูกคนในตระกูลลินน์ทำลายไม่เพียงเท่านั้น เมื่อแม่ของเธอเสียชีวิต เธอยังไม่สามารถกลับบ้านเกิดเพื่อไปเยี่ยมเธอได้ด้วย