เธอไม่มีความสามารถในการต่อสู้กับสิ่งที่โอบล้อมเธอ สิ่งนั้นปฏิบัติต่อเธอเหมือนของเล่น มด และเศษใบไม้ใบหญ้าเธอเป็นคนไม่มีเงิน ไม่มีอะไรจะถอย และเหนื่อยล้าเธอไม่อยากจะต่อสู้อีกต่อไปหากวันนี้เธอจะถูกทำให้ขายหน้าอีกครั้ง เช่นนั้นเธอก็จะต้องจบชีวิตลง อาจเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้พาลูกของเธอไปพร้อมหน้ากันกับแม่ของเธอทันใดนั้นชายหนุ่มก็ยืนขึ้น หลังจากมองไปที่ซาบริน่าผู้เชื่อฟัง สายตาของเขาที่มองลงไปที่ซาบริน่าก็ยิ่งดูถูกมากขึ้นไปอีก “คนอย่างเซบาสเตียน ฟอร์ด ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่เต็มใจจะขึ้นเตียงนอนกับฉัน! เธอมันตรงกันข้ามเลย เธอไม่คู่ควร!” เซบาสเตียนพูดอย่างเย็นชา “ฟังฉันให้ดี! ในขณะที่ยังมีความสัมพันธ์ในชีวิตสมรสกับฉัน ในช่วงเดือนนี้ เธอควรทำหน้าที่ของภรรยาและอย่าไปยุ่งกับผู้ชายคนไหน! ฉันจะให้โอกาสเธอครั้งนี้เพียงครั้งเดียว!”ชายหนุ่มปล่อยเธอไว้อย่างนั้นและลุกขึ้นจากไปหลังจากพูดอย่างนั้นซาบริน่าพูดไม่ออกเธอไปยุ่งกับผู้ชายเหรอ?เธอเป็นผู้หญิงที่ตั้งท้อง ยากจน และไม่สามารถแม้แต่จะกินได้เพียงพอ เธอจะไปยุ่งกับใครได้?เธอต้องการเพียงให้เกียรติความสัมพันธ์ตามสัญญาของเธอกับเขาอย่
มีชายอีกคนหนึ่งอยู่ในรถของไนเจลซาบริน่าส่ายหัว “ขอบคุณค่ะ นายท่านไนเจล แต่ฉันคิดว่าฉันจะขึ้นรถประจำทาง”"พวกเราไม่กัดหรอก นี่คือเพื่อนรักของฉัน เซย์น! ขึ้นมาเลย!" น้ำเสียงของไนเจลไม่ยอมให้เธอต่อรองใด ๆ และฟังดูเหมือนคำสั่งมากกว่า "ฉันรู้ว่าในแต่ละวันเธอมีงานต้องทำมากมาย ซึ่งเกิดขึ้นกับพนักงานใหม่ทุกคน มันจะดีขึ้น ขึ้นมาเลย เดี๋ยวฉันไปส่งเอง!"ซาบริน่ากัดริมฝีปากของเธออย่างลังเลและในที่สุดก็ยอมแพ้ ผู้ชายอีกคนในรถที่ชื่อเซย์นดูเรียบร้อยและสุภาพ เขานับถือซาบริน่าด้วยความเคารพและกล่าวทักทาย “นายหญิงฟอร์ด ผมได้ยินเกี่ยวกับคุณมาหมดแล้ว”ซาบริน่ายิ้มอย่างอ่อนโยนและก้มศีรษะลง ชายสองคนที่นั่งข้างหน้าเธอมีพื้นฐานที่ร่ำรวย คนแบบที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน เธอไม่รู้เลยว่าพูดคุยกับพวกเขาอย่างไร ไม่ต้องพูดถึงว่าจะดึงดูดพวกเขาอย่างไร เธอจึงตัดสินใจว่าควรเงียบไว้ดีที่สุด“กลับไปบ้านลูกพี่ลูกน้องฉันไหม?” ไนเจลถามโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นก่อนจะรับสาย และเมื่อเธอหยิบมันขึ้นมา มันก็แสดงว่าสายนั้นมาจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก เธอไม่ได้คิดอะไรมากและพูดว่า "สวัสดีค่ะ นี่ใครคะ?"เสียงชายวัยกลางคนผ่านออกมาและตอบว
เธอต้องการเงินอย่างมากในขณะนี้ ไนเจลดูเหมือนจะมองเธอออกและพูดด้วยท่าทีที่ไม่ใส่ใจ “เงินที่เธอถืออยู่น่าจะไม่เกิน 3,000 ดอลลาร์นะ อะไร? เธอกลัวว่าฉันจะใช้เงินนั่นซื้อเธอมานอนเล่นด้วยอย่างนั้นเหรอ? ใจเย็น! ฉันไม่ได้สนใจเธอ! ฉันแค่คิดว่าสาวบ้านนอกอย่างเธอน่าสงสารจริง ๆ ถือว่าเงินนั่นเป็นเงินทำบุญทำทานแล้วกัน ถ้ารับไม่ได้จริง ๆ พอได้เงินเดือนมา ค่อยผ่อนเป็นงวดก็ได้”“ขอบคุณค่ะ” ซาบริน่ายกมือขึ้นรับเงิน“เพราะฉะนั้น! เวลาของฉันมีค่ามากนะ เลิกทำให้ฉันเสียเวลาไปมากกว่าที คราวหน้าที่ฉันบอกว่าฉันจะไปส่งเธอ เธอควรขึ้นรถทันที” ไนเจลพูดหยอกล้อขณะจ้องมองไปยังเงาสะท้อนของซาบริน่าที่หน้าแดงจากกระจกมองหลังในรถของเขา“ตกลงค่ะ” ซาบริน่าพยักหน้าอย่างเชื่อฟังและหันไปมองนอกหน้าต่างอย่างสงบโดยไม่พูดอะไรอีก อีกอย่างเธอพยายามเก็บอาการปั่นปวนที่หมุนวนอยู่ในท้องตลอดนี้อยู่ไม่ว่าธอจะไปที่ไหน ความทุกข์ยากก็รอเธออยู่เสมอ ครอบครัวลินน์ดูหมิ่นวางแผนที่ทำให้เธอทุกข์ทรมาน เซบาสเตียน ฟอร์ดบังคับให้เธอทำในสิ่งที่เธอไม่ต้องการด้วยอำนาจของเขา แม้แต่มาร์คัส ชอว์ซึ่งเคยให้นามบัตรกับเธอพร้อมกับมือที่ช่วยเหลือเธอก้เป็นเพ
เซบาสเตียนมองดูอยู่ในความเงียบ ขณะที่รถของไนเจลแล่นไประยะหนึ่ง คิงส์ตันเอ่ยถามขึ้น "นายท่านเซบาสเตียน รถที่เห็นตอนนี้...ดูเหมือนว่าเป็นของนายท่านไนเจล เขามาเยี่ยมนายหญิงเหรอครับ?" คิงส์ตันจดจ่ออยู่กับการจอดรถและพลาดฉากที่ซาบริน่าก้าวออกจากรถของไนเจลและยิ้มหวานให้เขา“ไนเจลไม่เคยคิดว่าแม่ของฉันเป็นป้า เหตุผลเดียวที่เขาเรียกเธอว่าป้าเพียงเพราะกลัวฉัน” เซบาสเตียนพูดเสียงต่ำก่อนจะตรงไปโรงพยาบาลเพียงลำพัง'เมื่อเร็ว ๆ นี้ แม่ดูมีแรงขึ้นกว่าเดิมมาก มากเสียจนทำให้คำพูดที่บอกว่าเธอจะอยู่ได้อีกเดือนเดียวเป็นเรื่องโกหกขึ้นมาเลย' เขาครุ่นคิดเขารู้ว่าเป็นเพราะความรู้สึกดีในฐานะเพื่อนที่ซาบริน่ามีให้แม่ตนเองมาโดยตลอดปลอบประโลมจิตวิญญาณเธอ และทำให้อาการของเธอรู้สึกดีขึ้นทีละน้อย เขาต้องยอมรับว่าซาบริน่ามีไหวพริบ เธอยังคงเย็นชาและห่างเหินต่อหน้าเขาราวกับว่าเธอไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาอย่างไรก็ตาม เธอแปลงร่างเป็นหญิงสาวผู้อ่อนโยนที่สามารถหาคำที่เหมาะสมที่จะพูดและมอบมันให้แม่ของเขาฟัง และต่อหน้าไนเจล เธอเปลี่ยนไปเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ดูเชื่อฟังซึ่งดูเหมือนจะไม่ต้องการอะไรนอกจากคำอนุญาตเซ
“ฉันรู้น่ะ และฉันไม่ได้อยากให้รู้!” ซาบริน่าตอบอย่างใจเย็น เธอหันกลับมาโดยไม่มองเขาและเดินตรงไปข้างหน้าเพื่อกลับไปที่วอร์ดเธอไม่ได้เป็นหนี้อะไรเซบาสเตียนทั้งนั้น เขาอาจให้ยืมเธอ 50,000 ดอลลาร์ แต่มันสามารถชำระคืนได้เมื่อสัญญาสิ้นสุดลง แม้ว่าจะเคยช่วยชีวิตเธอจากการลักพาตัว แต่เขาทำไปเพื่อแม่ของเขาเท่านั้นไม่จำเป็นที่เธอจะต้องแสดงท่าทีอ่อนน้อมต่อหน้าเขา เพราะรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นหนี้อะไรเขาทั้งนั้น ทั้งหมดที่เธอต้องการคือการเป็นตัวของตัวเองและมอบความสุขสบายให้กับป้าเกรซในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเธอทั้งสองยังคงอยู่ห่างกัน แต่ก็ต่างรู้ว่าพวกเขาต้องแสดงเพื่อเกรซ เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาในห้อง เซบาสเตียนโอบแขนของเขาไว้รอบตัวซาบริน่าตรงประตู และซาบริน่าเอนตัวเข้าไปใกล้ มองดูรักมากกว่าที่เคยเกรซมองดูทั้งสองขณะที่พวกเขาก้าวเข้ามาด้วยความยินดีและกล่าวเตือนลูกชายของเธอ "เซบาสเตียน พวกลูกทั้งสองต้องทำการบ้านให้หนักกว่านี้หน่อยนะเพื่อเจ้าตัวน้อยจะได้มาเกิดสักที"ก่อนที่เซบาสเตียนจะตอบ ซาบริน่ามองกลับมาที่เกรซด้วยรอยยิ้มอันแสนหวานแล้วพูดขึ้น "แม่ไม่ต้องห่วง หนูก็อยากจะมีลูกเป็นของตัวเองเหมือนกัน
เซลีนกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเนื้อจากคำพูดของเขา“เซบาสเตียนที่รัก ฉัน...คุณได้ตัวของฉันไปแล้ว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันสาบานกับตัวเองว่า คุณจะเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิตของฉัน ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่ต้องการฉัน ฉันจะไม่ขออะไรเลย ฉันแค่อยากจะเห็นคุณทุกวัน” เธอพูดขณะมองเซบาสเตียนอย่างโหยหาเซบาสเตียนพยายามระงับความรังเกียจที่เขารู้สึกต่อผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาหมดความอดทน เขาคงกระทืบเธอจนตายไปนานแล้ว ถ้าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เสียสละตัวเองเพื่อช่วยเขา“เซบาสเตียนที่รัก…” เซลีนเรียกเขาอีกครั้ง แต่เซบาสเตียนเอามือไปบีบรอบคอเธออย่างชั่วร้ายก่อนที่เธอจะพูดจบ“ฉันบอกเธอแล้วว่าฉันจะแต่งงานกับเธอ! นั่นหมายความว่าฉันจะแต่งงานกับเธอ! เธอจะเป็นภรรยาของเจ้าของฟอร์ด กรุ๊ป ในอนาคต เธอต้องการอะไรอีก!? ฉันดูแลแม่ของฉันอย่างเต็มที่แล้ว และฉันไม่มีเวลาเหลือที่จะดูแลความรู้สึกของเธอ! ถ้าเธอยังพยายามจะรบกวนแต่ละวันของฉันอีก ฉันไม่ได้รังเกียจรังนอนอะไรเลยที่จะเขียนชื่อเธอลงไปในรายชื่อคนที่ฉันต้องฆ่าอีกสักคน !""..." เซลีนหน้าซีดด้วยความกลัวขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอพยักหน้ารัวและพูดว่า "ฉัน...ฉันเข้าใจ ฉันจะไม
ในขณะเดียวกันซาบริน่าหาความสงบในตัวเธอเลยไม่ได้เลย เธอรู้ว่าเธอติดอยู่กลางวังวนที่มีอันตรายแฝงตัวอยู่ทุกมุม สมาชิกของตระกูลลินน์จะทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าเธอต้องทนทุกข์ทรมานเธอทราบดีว่าไนเจลถือว่าความเมตตาของเขาที่มีต่อเธอเป็นเพียงการทำบุญทำทาน ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเหตุผลที่เซบาสเตียนรั้งเธอไว้ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอตั้งครรภ์ก็เพราะเห็นแก่แม่ของเขาเท่านั้นเธอเป็นผู้หญิงที่ต่ำต้อยอีกคนที่ไม่มีใครให้พึ่งพาในสังคมนี้ เธอทำได้เพียงเตือนตัวเองให้ระมัดระวังครั้งแล้วครั้งเล่า เธอเดินเข้าไปในห้องนอนทันทีที่เข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของเซบาสเตียน และไม่ยอมออกจากห้องเลย ไม่แม้แต่จะกินอาหาร แต่ความจริงแล้ว เธอกำลังหิวโหยเธอรอจนถึงเวลาห้าทุ่ม ก่อนที่ในที่สุดจะออกมาพร้อมกับกะละมังใบหนึ่ง เธอคิดว่าทั้งสองคนจะไม่อยู่ในห้องนั่งเล่นและมุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำเพื่อเอาน้ำอุ่นไปอาบ และเธอก็แปลกใจที่เธอพบเซบาสเตียนนั่งอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นซาบริน่าเดินไปหาเซบาสเตียนอย่างสงบแล้วพูดขึ้น "คุณฟอร์ด คุณไม่ต้องไล่เซลีนไปเพียงเพราะฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะพยายามที่จะไม่ออกจากห้องของฉันเลย ฉันจะไม่ทำตัวเป็นปัญหา"เซบาสเตี
ซาบริน่าจำผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้ว่าเธอคือมินดี้ แต่เธอก็จำมาร์คัสได้ในทันที“ขอโทษค่ะ” เธอกล่าวอย่างสุภาพ ขณะที่ทั้งสองกำลังขวางทางเธอไปที่เคาน์เตอร์ เธอเบียงตัวหลบพวกเขาและเดินไปที่เคาน์เตอร์“ขอโทษนะ ฉันได้รับโทรศัพท์สองสายจากนายท่านตงและฉัน...ฉันมาเพื่อคืนกล้อง...หมายถึงเงินเท่ากับราคากล้องตัวนั้นน่ะค่ะ”“ฉันขอทราบชื่อของคุณได้ไหมคะ?” หญิงสาวตรงแคชเชียร์เอ่ยถาม"ซาบริน่าค่ะ ฉันเช่ากล้องดิจิทัลมูลค่า 1,500 ดอลลาร์จากคุณเมื่อสี่วันก่อน และวันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อคืน...เงินค่าเช่าน่ะค่ะ" ซาบริน่าพูดซ้ำ“ซาบริน่า!” ผู้หญิงคนนั้นดูดีใจที่ได้พบเธอและตอบกลับ “กรุณารอสักครู่ เจ้านายของเราควานหาคุณไปทั่วเลยนะคะ”…ท้องของเธอหวิวเพราะรู้ว่าเธอมาสายไปสามวัน และกังวลว่าเจ้านายจะหาว่าเธอทำผิดเงื่อนไข'มันคงจะไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันมีเงิน 3,000 ดอลลาร์อยู่กับฉันแล้ว เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะจ่ายให้พวกเขา’เมื่อนึกถึงเงิน 3,000 ดอลลาร์ที่เธอถือไว้อีกครั้ง เธอก็รู้สึกซาบซึ้งใจต่อไนเจล เงินกองเล็ก ๆ ที่เขามอบให้เธอเมื่อวันก่อนกลับกลายเป็นเงินที่มากกว่า 3,000 ดอลลาร์ที่ทำให้เธอประหลาดใจเธอยืนเงียบ