เซบาสเตียนมองดูอยู่ในความเงียบ ขณะที่รถของไนเจลแล่นไประยะหนึ่ง คิงส์ตันเอ่ยถามขึ้น "นายท่านเซบาสเตียน รถที่เห็นตอนนี้...ดูเหมือนว่าเป็นของนายท่านไนเจล เขามาเยี่ยมนายหญิงเหรอครับ?" คิงส์ตันจดจ่ออยู่กับการจอดรถและพลาดฉากที่ซาบริน่าก้าวออกจากรถของไนเจลและยิ้มหวานให้เขา“ไนเจลไม่เคยคิดว่าแม่ของฉันเป็นป้า เหตุผลเดียวที่เขาเรียกเธอว่าป้าเพียงเพราะกลัวฉัน” เซบาสเตียนพูดเสียงต่ำก่อนจะตรงไปโรงพยาบาลเพียงลำพัง'เมื่อเร็ว ๆ นี้ แม่ดูมีแรงขึ้นกว่าเดิมมาก มากเสียจนทำให้คำพูดที่บอกว่าเธอจะอยู่ได้อีกเดือนเดียวเป็นเรื่องโกหกขึ้นมาเลย' เขาครุ่นคิดเขารู้ว่าเป็นเพราะความรู้สึกดีในฐานะเพื่อนที่ซาบริน่ามีให้แม่ตนเองมาโดยตลอดปลอบประโลมจิตวิญญาณเธอ และทำให้อาการของเธอรู้สึกดีขึ้นทีละน้อย เขาต้องยอมรับว่าซาบริน่ามีไหวพริบ เธอยังคงเย็นชาและห่างเหินต่อหน้าเขาราวกับว่าเธอไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาอย่างไรก็ตาม เธอแปลงร่างเป็นหญิงสาวผู้อ่อนโยนที่สามารถหาคำที่เหมาะสมที่จะพูดและมอบมันให้แม่ของเขาฟัง และต่อหน้าไนเจล เธอเปลี่ยนไปเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ดูเชื่อฟังซึ่งดูเหมือนจะไม่ต้องการอะไรนอกจากคำอนุญาตเซ
“ฉันรู้น่ะ และฉันไม่ได้อยากให้รู้!” ซาบริน่าตอบอย่างใจเย็น เธอหันกลับมาโดยไม่มองเขาและเดินตรงไปข้างหน้าเพื่อกลับไปที่วอร์ดเธอไม่ได้เป็นหนี้อะไรเซบาสเตียนทั้งนั้น เขาอาจให้ยืมเธอ 50,000 ดอลลาร์ แต่มันสามารถชำระคืนได้เมื่อสัญญาสิ้นสุดลง แม้ว่าจะเคยช่วยชีวิตเธอจากการลักพาตัว แต่เขาทำไปเพื่อแม่ของเขาเท่านั้นไม่จำเป็นที่เธอจะต้องแสดงท่าทีอ่อนน้อมต่อหน้าเขา เพราะรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นหนี้อะไรเขาทั้งนั้น ทั้งหมดที่เธอต้องการคือการเป็นตัวของตัวเองและมอบความสุขสบายให้กับป้าเกรซในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเธอทั้งสองยังคงอยู่ห่างกัน แต่ก็ต่างรู้ว่าพวกเขาต้องแสดงเพื่อเกรซ เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาในห้อง เซบาสเตียนโอบแขนของเขาไว้รอบตัวซาบริน่าตรงประตู และซาบริน่าเอนตัวเข้าไปใกล้ มองดูรักมากกว่าที่เคยเกรซมองดูทั้งสองขณะที่พวกเขาก้าวเข้ามาด้วยความยินดีและกล่าวเตือนลูกชายของเธอ "เซบาสเตียน พวกลูกทั้งสองต้องทำการบ้านให้หนักกว่านี้หน่อยนะเพื่อเจ้าตัวน้อยจะได้มาเกิดสักที"ก่อนที่เซบาสเตียนจะตอบ ซาบริน่ามองกลับมาที่เกรซด้วยรอยยิ้มอันแสนหวานแล้วพูดขึ้น "แม่ไม่ต้องห่วง หนูก็อยากจะมีลูกเป็นของตัวเองเหมือนกัน
เซลีนกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเนื้อจากคำพูดของเขา“เซบาสเตียนที่รัก ฉัน...คุณได้ตัวของฉันไปแล้ว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันสาบานกับตัวเองว่า คุณจะเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิตของฉัน ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่ต้องการฉัน ฉันจะไม่ขออะไรเลย ฉันแค่อยากจะเห็นคุณทุกวัน” เธอพูดขณะมองเซบาสเตียนอย่างโหยหาเซบาสเตียนพยายามระงับความรังเกียจที่เขารู้สึกต่อผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาหมดความอดทน เขาคงกระทืบเธอจนตายไปนานแล้ว ถ้าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เสียสละตัวเองเพื่อช่วยเขา“เซบาสเตียนที่รัก…” เซลีนเรียกเขาอีกครั้ง แต่เซบาสเตียนเอามือไปบีบรอบคอเธออย่างชั่วร้ายก่อนที่เธอจะพูดจบ“ฉันบอกเธอแล้วว่าฉันจะแต่งงานกับเธอ! นั่นหมายความว่าฉันจะแต่งงานกับเธอ! เธอจะเป็นภรรยาของเจ้าของฟอร์ด กรุ๊ป ในอนาคต เธอต้องการอะไรอีก!? ฉันดูแลแม่ของฉันอย่างเต็มที่แล้ว และฉันไม่มีเวลาเหลือที่จะดูแลความรู้สึกของเธอ! ถ้าเธอยังพยายามจะรบกวนแต่ละวันของฉันอีก ฉันไม่ได้รังเกียจรังนอนอะไรเลยที่จะเขียนชื่อเธอลงไปในรายชื่อคนที่ฉันต้องฆ่าอีกสักคน !""..." เซลีนหน้าซีดด้วยความกลัวขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอพยักหน้ารัวและพูดว่า "ฉัน...ฉันเข้าใจ ฉันจะไม
ในขณะเดียวกันซาบริน่าหาความสงบในตัวเธอเลยไม่ได้เลย เธอรู้ว่าเธอติดอยู่กลางวังวนที่มีอันตรายแฝงตัวอยู่ทุกมุม สมาชิกของตระกูลลินน์จะทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าเธอต้องทนทุกข์ทรมานเธอทราบดีว่าไนเจลถือว่าความเมตตาของเขาที่มีต่อเธอเป็นเพียงการทำบุญทำทาน ในที่สุดเธอก็รู้ว่าเหตุผลที่เซบาสเตียนรั้งเธอไว้ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอตั้งครรภ์ก็เพราะเห็นแก่แม่ของเขาเท่านั้นเธอเป็นผู้หญิงที่ต่ำต้อยอีกคนที่ไม่มีใครให้พึ่งพาในสังคมนี้ เธอทำได้เพียงเตือนตัวเองให้ระมัดระวังครั้งแล้วครั้งเล่า เธอเดินเข้าไปในห้องนอนทันทีที่เข้าไปในอพาร์ตเมนต์ของเซบาสเตียน และไม่ยอมออกจากห้องเลย ไม่แม้แต่จะกินอาหาร แต่ความจริงแล้ว เธอกำลังหิวโหยเธอรอจนถึงเวลาห้าทุ่ม ก่อนที่ในที่สุดจะออกมาพร้อมกับกะละมังใบหนึ่ง เธอคิดว่าทั้งสองคนจะไม่อยู่ในห้องนั่งเล่นและมุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำเพื่อเอาน้ำอุ่นไปอาบ และเธอก็แปลกใจที่เธอพบเซบาสเตียนนั่งอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นซาบริน่าเดินไปหาเซบาสเตียนอย่างสงบแล้วพูดขึ้น "คุณฟอร์ด คุณไม่ต้องไล่เซลีนไปเพียงเพราะฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะพยายามที่จะไม่ออกจากห้องของฉันเลย ฉันจะไม่ทำตัวเป็นปัญหา"เซบาสเตี
ซาบริน่าจำผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้ว่าเธอคือมินดี้ แต่เธอก็จำมาร์คัสได้ในทันที“ขอโทษค่ะ” เธอกล่าวอย่างสุภาพ ขณะที่ทั้งสองกำลังขวางทางเธอไปที่เคาน์เตอร์ เธอเบียงตัวหลบพวกเขาและเดินไปที่เคาน์เตอร์“ขอโทษนะ ฉันได้รับโทรศัพท์สองสายจากนายท่านตงและฉัน...ฉันมาเพื่อคืนกล้อง...หมายถึงเงินเท่ากับราคากล้องตัวนั้นน่ะค่ะ”“ฉันขอทราบชื่อของคุณได้ไหมคะ?” หญิงสาวตรงแคชเชียร์เอ่ยถาม"ซาบริน่าค่ะ ฉันเช่ากล้องดิจิทัลมูลค่า 1,500 ดอลลาร์จากคุณเมื่อสี่วันก่อน และวันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อคืน...เงินค่าเช่าน่ะค่ะ" ซาบริน่าพูดซ้ำ“ซาบริน่า!” ผู้หญิงคนนั้นดูดีใจที่ได้พบเธอและตอบกลับ “กรุณารอสักครู่ เจ้านายของเราควานหาคุณไปทั่วเลยนะคะ”…ท้องของเธอหวิวเพราะรู้ว่าเธอมาสายไปสามวัน และกังวลว่าเจ้านายจะหาว่าเธอทำผิดเงื่อนไข'มันคงจะไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันมีเงิน 3,000 ดอลลาร์อยู่กับฉันแล้ว เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะจ่ายให้พวกเขา’เมื่อนึกถึงเงิน 3,000 ดอลลาร์ที่เธอถือไว้อีกครั้ง เธอก็รู้สึกซาบซึ้งใจต่อไนเจล เงินกองเล็ก ๆ ที่เขามอบให้เธอเมื่อวันก่อนกลับกลายเป็นเงินที่มากกว่า 3,000 ดอลลาร์ที่ทำให้เธอประหลาดใจเธอยืนเงียบ
ถ้ากล้องไม่หาย เธอก็ไม่ต้องการเงินที่ยืมมาจากไนเจลอีกต่อไป“งั้น...ฉันไม่ต้องจ่ายใช่ไหมคะ?” ซาบริน่าถามอย่างร่าเริง“ไม่มีแม้แต่ค่าเช่าเลย” นายท่านตงบอก“ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณมากค่ะ ถ้า…ถ้าแบบนั้น ฉันจะไปได้แล้วใช่ไหมคะ?” ซาบริน่ายืนยันอีกครั้งด้วยความโล่งใจ“ได้แน่นอน คุณสก๊อตต์”ซาบริน่าถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกและเดินออกจากลิสซิ่ง เซ็นเตอร์ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าปัญหาทั้งหมดได้ทิ้งไว้อยู่ข้างหลังเธอแล้ว“คุณสก๊อตต์ ผมขอเวลาของคุณสักครู่ได้ไหมครับ” มาร์คัสเรียกจากด้านหลังเธอ เขาตระหนักขึ้นได้ทันทีว่าซาบริน่าขอยืมเงิน 2,000 ดอลลาร์จากเขาตอนกลับมาจากงานปาร์ตี้ เพื่อชดเชยกล้องที่หาย และ 2,000 ดอลลาร์เทียบไม่ได้กับที่มาร์คัสใช้ไปสำหรับอาหารมื้อเดียว“คุณต้องการอะไรคะ คุณชอว์?” ซาบริน่าถาม“คุณยังต้องการเงินอยู่ไหมครับ?” มาร์คัสเอ่ยถามเหมือนกำลังพยายามเริ่มต้นหาหนทางแก้ตัว“อย่างที่คุณเห็นนะคะ ฉัน...ไม่ต้องการแล้วค่ะ” ซาบริน่ายิ้มอย่างอ่อนโยน“ผมเคยคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาหลอกลวงเพื่อหาเงินเท่านั้น ดังนั้นเมื่อวันก่อนคุณโทรหาผม ผม...”“ไม่เป็นไรค่ะ คุณชอว์ คือ...เราไม
จากมุมมองของเซบาสเตียน เธอแค่เล่นตัวต่อมาร์คัส และความคิดนั้นทำให้เขาหน้าบึ้งอย่างไม่มีคำจะพูด“นายท่านชอว์…” คิงส์ตันอุทาน “นายท่านชอว์มาจากครอบครัวที่มีการเล่นดูเข้มงวดมาก นายท่านอาวุโสแห่งตระกูลชอว์จะไม่มีวันยอมให้เขาเข้าไปพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวใด ๆ เลย”“นอกจากนี้ นายท่านชอว์เองก็มีวินัยมากเช่นกัน ทำไมถึง…” คิงส์ตันมองดูเซบาสเตียนและหยุดตัวเองไม่ให้พูดต่อทันที เขาตั้งใจจะบอกว่าซาบริน่ามีไหวพริบเกินกว่าจะผูกมัดตัวเองกับนายท่านเซบาสเตียนสำเร็จได้เท่านั้น แต่ยังสามารถจัดการกับนายท่านไนเจลและชนชั้นสูงที่มีวินัยในตนเองเช่นนายท่านชอว์ได้เธอห่างไกลจากคำว่าผู้หญิงธรรมดาไปไกลโข อย่างไรก็ตาม เขาเลือกที่จะสงบปากสงบคำของตนเมื่อเห็นใบหน้าอันดุร้ายของเซบาสเตียนในขณะเดียวกัน ทั้งซาบริน่าและมาร์คัสไม่รู้ว่าเซบาสเตียนเห็นทุกรายละเอียดของปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาจากที่จอดรถที่จอดอยู่ไม่ไกล“คุณชอว์ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะค่ะ!” เธอขอร้อง สงบสติอารมณ์และมีระยะห่างตลอดเวลาขณะที่เธอมองที่มาร์คัสมาร์คัสดึงเธอกลับมาอีกครั้งแล้วพูดขึ้น “คุณสก๊อตต์ครับ ผม...ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว คุณช่วยยกโทษให้ผมได้ไหม? ผมแ
ลูกชายของเธอมาเยี่ยมตอนเที่ยงและได้นำอาหารแสนอร่อยทุกประเภทที่บำรุงร่างกายมาให้เธอเป็นอาหารกลางวัน ซึ่งเธอรู้สึกเบื่อหน่ายเมื่อมาถึงจุดนี้ เธอไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าอาหารปรุงเองแบบบ้าน ๆ และวันนี้ความปรารถนาของเธอก็เป็นจริง“ลูกสะใภ้ของฉันน่ารักที่สุด” เกรซชมอย่างจริงใจ“ถ้าแม่ชอบมันมากแบบนี้ หนูยิ่งกว่าเต็มใจที่จะเลี้ยงอาหารกลางวันให้แม่ทุกวันด้วยรายได้เล็กน้อยที่หนูได้รับก็น่าจะเพียงพอแล้วที่เราจะกินกันทั้งคู่” ซาบริน่ายิ้มอย่างมีความสุขจากใจ รู้สึกราวกับว่าโชคดีเหมือนเจอเงินตามท้องถนน“ให้แม่บอกความลับเล็กๆ น้อยๆ ให้หนูฟังหน่อยนะ แม่ไม่ได้สนใจอาหารที่ทำโดยพ่อครัวชื่อดังที่ลูกชายของแม่นำมาให้หรอกนะ แม่อยากกินของที่หนูเอามาให้มากกว่านี้ แม่จะห้ามไม่ให้เซบาสเตียนนำมื้อเที่ยงมาให้ และแม่จะกินแต่อาหารที่แซบบี้สุดน่ารักของแม่นำมาให้!" เกรซเลือกที่จะเล่าเรื่องสนุกเกี่ยวกับลูกชายของเธอต่อหน้าซาบริน่าอย่างสนุกสนาน"ตกลงค่ะ!" ซาบริน่ายกมือขึ้นมาปะมือกับเกรซ และทั้งสองก็หัวเราะอย่างร่าเริง พวกเธอไม่รู้ว่าเซบาสเตียนยืนอยู่ข้างประตูตลอดเวลาในที่สุด เซบาสเตียนก็ไอเบา ๆ เพื่อบอกว่าเขาอยู่ตรง