“แกคิดว่าคนอย่างซาบริน่า สก๊อตต์จะกลัวเด็กอมมือที่เอาคุณตามาขู่รึไง?”“ฮ่าฮ่า!” เสียงหัวเราะของเซลีนบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น “ซาบริน่า คุณตาของฉันมีกองทหารเก่าของเขาอยู่ทั่วประเทศ และส่วนใหญ่อยู่ที่ชายแดนเพื่อรักษาความปลอดภัย เมื่อเวลานั้นมาถึง คุณตาของฉันส่งแกไปที่ชายแดนด้วยความโกรธเคือง”“เขาคงจะสั่งอีกสักอย่าง”“แกรู้ไหมว่าแกจะจบลงยังไง?”“มันคือสถานที่ที่ไม่มีใครอยู่ภายใต้กฎหมายเลยแหละ ที่แห่งนี้มีอาชญากรและพวกนอกกฎหมายทุกประเภทอยู่ทุกหนทุกแห่ง แกจะถูกมัดไว้กับต้นไม้และพวกเขาไม่ให้แกใส่แม้แต่เสื้อผ้าเลยด้วยซ้ำ”“จะมีคนหลายร้อยหลายร้อยคนรอเข้าแถวเพื่อเสพสมกับแกทุกวัน”“จนกว่าแกจะเหนื่อยตาหรือเป็นโรคตายไปนั่นแหละ!”ซาบริน่าอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นใบหน้าของเซลีนพึงพอใจมากขึ้นอีกตอนที่เธอเห็นท่าทางของซาบริน่าแม้ซาบริน่าจะมีอาการสั่นเล็กน้อย แต่เธอก็เยาะเย้ยและกล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าคุณตาของแกเอาตัวฉันไปได้ ก็เอาไปเลย! เซลีน แกเคยส่องกระจกดูตัวเองบ้างไหมว่าตอนที่แกกำลังมาทำอวดดีใส่ฉันแบบนี้ แกมีสารรูปยังไง?”“แกก็เหมือนกับเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมที่ไม่มีปัญญาจะเอาชนะคนอื่นได้ไง น
เซลีนหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย “ฮืม! ฉันต้องการอะไรเหรอ? แกกลัวไหม? ซาบริน่า สก๊อตต์! เดาสิว่าฉันจะส่งแกไปให้กับชายอื่นในนาทีต่อไปนี้ดีไหม?”เซลีนมองไปที่ชายร่างสูงทั้งสี่คนที่แต่งตัวดีภายในรถด้วยใบหน้าที่เย็นชาและเคร่งขรึม จากนั้นเธอก็ถามอย่างไร้สาระว่า “อูโน่ ซาห์น ดูโอ ลูอิส เทรส โจนส์ และ ควอทโทร วู้ดส์ พวกนายทั้งสี่คนติดตามคุณตาของฉันมาตลอดชีวิต คุณตาของฉันเข้มงวดกับลูกน้องมาก บางทีพวกนายอาจไม่ได้สนุกกับผู้หญิงในตอนที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเขา ตอนนี้ฉันให้ของขวัญชิ้นใหญ่ให้นายสี่คนด้วย พวกนายคิดว่าไงล่ะ?”บอดี้การ์ดทั้งสี่คนพูดไม่ออกบอดี้การ์ดทั้งสี่คนมีคุณสมบัติส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมและทุกคนต่างก็มีสายตาที่เฉียบแหลมและฉลาด ถ้าไม่ใช่เพราะคุณสมบัติเหล่านั้น พวกเขาก็จะไม่ได้เป็นบอดี้การ์ดที่ได้อยู่รายล้อมนายท่านอาวุโสชอว์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มาจากสังคมชั้นสูง แต่พวกเขาก็อยู่กับนายท่านอาวุโสชอว์มาสิบถึงยี่สิบปีแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในหลาย ๆ อย่างผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวเข้ามาในรถมาจากบ้านระดับไฮเอนต์ของเซบาสเตียน แม้เซบาสเตียนจะพูดเป็นร้อยครั้งว่าเขาต้องการฉี
ตราบใดที่พวกนั้นไม่ฆ่าเธอ และตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ได้เมื่อคิดได้เช่นนั้น ซาบริน่าก็พูดอย่างใจเย็นว่า “ก็ดีนิ ไปกันเลยเถอะ”"ออกรถ!" เซลีนสั่งรถเริ่มเคลื่อนตัว หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง รถก็จอดอยู่นอกประตูสถานที่ระดับไฮเอนด์ราวกับว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาถลุงเงินเล่น ซาบริน่าเดินตามเซลีนเข้าไปข้างใน เมื่อประตูห้องส่วนตัวถูกผลักเปิดออก เธอก็จะได้ยินเสียงเชียร์และเสียงหัวเราะจากภายในห้อง“ลิซ่า ดูเหมือนเธอจะสั่งรองเท้าส้นสูงคู่นี้มาจากต่างประเทศ คู่นี้เป็นคู่เดียวในโลกใช่ไหม?”"เปล่าจ้ะ ฉันสั่งทำพิเศษน่ะ ก็แค่ 383,838 ดอลลาร์เอง"“ฮ่าฮ่า เลขสามกับแปดเป็นเลขนำโชคที่เธอชอบที่สุดนิ ลิซ่า”“ก็ใช่ แต่กระโปรงทรงเอของเธอก็ไม่เลวเหมือนกันนะ ดูเหมือนว่าจะเป็นรุ่นลิมิเต็ดระดับโลกเหมือนกัน มันต้องมีราคาพอสมควรเลยแหละ”“ไม่มากหรอก แค่ 100,000 ดอลลาร์เอง รองเท้าของเธอนี่สามารถซื้อเสื้อผ้าให้ฉันได้สองชุดเลยนะ”“บอกมาเถอะ อย่ามาประจบสอพลอกันที่นี่เลย ไม่ว่าเสื้อผ้าของเราจะเริดแค่ไหน มันก็ยังเทียบไม่ได้กับสร้อยข้อมือมรกตที่หลานสาวของตระกูลชอว์เป็นเจ้าของหรอกจ้ะ ฉันได้ยินมาว่
สาวสังคมทุกคนในห้องส่วนตัวต่างตกตะลึงและมองไปทางประตู คนแรกที่แสดงปฏิกิริยาคนแรกคือเซลีน เธอหัวเราะด้วยท่าทางดูถูกเหยียดหยาม “แหม่ ดูสิใครมา ที่แท้ก็นายท่านไนเจลนี่เอง”ในตอนนี้ ไนเจลได้มาอยู่ตรงหน้าของเซลีนและซาบริน่าแล้ว คิ้วของเขาขมวดแน่นและน้ำเสียงของเขาก็แข็งกร้าวขึ้น "ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!"“นายท่านไนเจล” เซลีนไม่ได้กดหัวของซาบริน่าอีกแล้ว เธอเพียงแต่เยาะเย้ยไนเจลและพูดว่า “แม้ว่าครั้งหนึ่งนายเคยทำกับซาบริน่าราวกับเป็นของเล่น แต่ตอนนี้เธอเป็นนักโทษที่คู่หมั้นของฉันจับตัวกลับมา เธอเป็นของเล่นของทั้งคู่หมั้นฉันและของฉัน ไม่ใช่ของนายอีกแล้ว”“เห็นแก่ที่นายเป็นลูกพี่ลูกน้องของคู่หมั้นฉันนะ ถ้านายอยากจะสนุกด้วย จะเข้ามาก็ไม่ได้ว่าอะไร”“ฉันได้ยินมาว่าตอนนั้นนายอยากสนุกกับซาบริน่านิ”“แถมรูปแบบความสนุกยังน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม แต่เคยได้นะว่าผู้หญิงคนนี้เคยใช้เลือดไก่หลอดหนึ่งเพื่อหลอกนายและคนอื่นๆ ใช่ไหม?”“ฮ่าฮ่าฮ่า!”“นั่นก็ตลกดีนะ”“เอาละ ไนเจล เข้ามาร่วมสนุกกันสิ นายอยากแข่งกับขอทานคนนี้ไหมล่ะ?”“ใช่ ใช่ วิธีนี้น่าตื่นเต้นกว่า ฉันเห็นด้วย!"“นายท่านไนเจล! โชคดีนะ!”“เราเชี
หัวใจของไนเจลเต้นแรงขึ้นเขามองหาซาบริน่า เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ทำ จากนั้นเขาก็จ้องมองสาวสังคมสักเจ็ดหรือแปดคนที่นำโดยเซลีนและพูดด้วยน้ำเสียงท้อใจเล็กน้อยว่า “ครอบครัวคอนเนอร์ล่มสลายไปแล้ว ดังนั้นคนอย่างเธอก็เลยมาดูถูกและล้อเลียนฉัน ฉันก็แค่อับอายเท่านั้น” “แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันมั่นใจนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันยังคงเป็นลูกพี่ลูกน้องของเซบาสเตียนอยู่ ไม่ว่ายังไงหากเป็นฉันแล้ว เซบาสเตียนก็ไม่ยอมอยู่เฉยแน่”“อีกอย่างหนึ่งด้วยนะ เซลีน ลินน์!”เซลีนตำหนิเขาด้วยน้ำเสียงที่แหลม “ไนเจล คอนเนอร์ นายกล้าเรียกชื่อฉันห้วน ๆ เหรอ!”ไนเจลเยาะเย้ยอย่างดูถูก “ฉันไม่สนว่าเธอจะเป็นคู่หมั้นของเซบาสเตียน ญาติของฉันหรอก! ฉันรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้ที่เธอพาตัวมา ซาบริน่าเป็นผู้หญิงที่เซบาสเตียนจับตัวกลับมาได้ ลูกพี่ลูกน้องของฉันเป็นคนค่อนข้างแปลก ตราบใดที่คนคนนั้นเป็นของเขา แม้ว่าจะเป็นนักโทษที่เขานำกลับมา เขาจะไม่มีวันยอมให้ใครแตะต้องตัวนักโทษคนนั้นได้เลย”“มิฉะนั้น ฉันไม่จำเป็นต้องบอกพวกเธอมากนักหรอกเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพวกเธอใช่ไหม?” “เซลีน อย่าเอาแต่พูดว่านี่เป็นนักโทษของเธอกับลูก
ไนเจลตอบว่า “…ซาบริน่า เรื่องนั้นผ่านมาหลายปีแล้ว ตอนนี้เธอยังยกโทษให้ฉันไม่ได้อีกเหรอ?”ซาบริน่ายิ้ม “นายท่านไนเจล ฉันไม่ใช่เด็กสาวอีกแล้วนะ เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งหกปี ตอนนี้ฉันไม่ได้ฝันถึงอะไรแล้ว ไม่มีการให้อภัยระหว่างคุณกับฉัน ฉันไม่เคยเกลียดคุณ ฉันแค่อยากให้คุณพูดตรงไปตรงมากว่านี้ เข้าใจตรงกันนะคะ?”“ซาบริน่า! เชื่อฉันได้ไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉัน ไนเจล คอนเนอร์ จะไม่ทำอะไรก็ตามให้เธออับอายอีกต่อไป…” ไนเจลอดใจไม่ไหวที่จะคว้าข้อมือของซาบริน่าและสัญญากับเธออย่างจริงใจในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มคนหนึ่งออกมาในห้องส่วนตัวที่ไนเจลอยู่ ในชั่วพริบตา เขาเห็นไนเจลดึงมือของซาบริน่า “ไนเจล นายหายมาตั้งนาน ฉันก็คิดอยู่ว่านายทำอะไรอยู่ ปรากฏว่านายกำลังทำเจ้าชู้กับสาวน้อยอยู่นี่เอง ให้ฉันบอกอะไรนายอย่างนะว่าสาว ๆ ในห้องส่วนตัวเกือบจะร้องไห้เพราะรอนายอยู่นะ ถ้าไม่กลับเข้าไป มันจะเกิดเหตุไปมั้ง!”น้ำเสียงของไนเจลหงุดหงิด “ไสหัวออกไปก่อน!”ชายหนุ่มพูดไม่ออกเมื่อเขาต้องการจับไนเจลอีกครั้ง ก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งออกมาจากห้องส่วนตัว และตรงมาที่ไนเจล“ว้าว บ้าจริง! ไนเจล นายไม่ควรทำแบบนี้ มีคนพูดว่า
ซาบริน่าติดอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ มันน่าอึดอัดใจจริง ๆ ที่กำลังฟังพวกเขาล้อเลียนเธอไนเจลเองก็รู้สึกอึดอัดใจไม่ต่างกันพวกเขาสามารถพูดหรือทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ แต่ไนเจลรู้สึกว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าซาบริน่าแล้วเหมือนเป็นการดูถูกชนิดหนึ่งก็ว่าได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมาคือชายร่างสูงหน้าตาดีสองคนที่มาจากด้านหน้าจับซาบริน่าไว้กึ่งกลางทั้งสองและเดินเข้าไปข้างใน“ไม่เอาน่า สาวน้อย! หนูน้อยมาถึงหน้าประตูขนาดนี้เลยนะจ๊ะ แต่กลับไม่เข้ามาข้างในเนี้ยนะ หนูเนี้ยไม่รู้จักทำตามกฎบ้างเลยนะ ว่าแต่เคยได้ยินคำกล่าวดัง ๆ ไหมจ๊ะ แบบทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว แต่ถ้าทำชั่วแต่ได้ดีก็ถึงว่าดีเหมือนกัน? ไม่ว่าน้องหนูอยากจะทำขนาดไหน แต่มันใช้คำว่าความดีกับที่นี่ไม่ได้หรอกนะจ๊ะ ถูกไหมพวกเรา?”“เอามาข้างในก่อนสิจ๊ะ เข้ามาดื่มกินกับพวกพี่ก่อนนะ… ”ซาบริน่าพูดไม่ออกเธอแทบจะขาดอากาศหายใจเพราะชายทั้งสองคนประกบเธอแจเธอต้องการผลักพวกเขาออกไป แต่ด้วยแรงมากมายเพียงใดที่เธอมีก็ไม่ส่งผลใด ๆ เลย เธอเลยจำใจเอ่ยออกไปทั้งที่ร่างกายขัดขืนอยู่เช่นนั้น “ได้สิคะพี่ขา! ไม่มีปัญหาเลยค่ะ! แต่ว่านะ พวกพี่ ๆ ต้องลงชื่อขอร
ไนเจลถึงกับพูดไม่ออกผ่านไปครู่หนึ่ง ไนเจลก็กล่าวว่า “เซบาสเตียนมัวแต่วุ่นอยู่กับงานอยู่ที่บริษัทตลอดทั้งวันเลยนะ”"ก็ใช่""ฮื้ม?"“แต่เราก็ไปที่บริษัทได้นิ” ซาบริน่ากล่าวไนเจลถอนหายใจเบา ๆ “ขึ้นมา ฉันจะขับไปส่งเธอเอง”ซาบริน่าตามไนเจลขึ้นรถไปอย่างใจเย็น หลังจากที่ไนเจลสตาร์ทเครื่องยนต์และขับรถออกไป เขาก็ถามว่า “ซาบริน่า ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอรู้สึกดีกับเซย์นใช่ไหม?”เมื่อพูดถึงเซย์น ซาบริน่าก็ร้องไห้ออกมาทันที เธอหันไปมองไนเจล “ท่านไนเจล ฉัน… ฉันรู้ว่าคุณเห็นฉันเป็นแค่ของเล่น แต่ช่วยล้มเลิกความคิดนั้นไปด้วยเถอะค่ะ คือว่า คุณช่วยฉันตามสืบเรื่องที่อยู่ของพี่ชายหน่อยได้ไหมคะ? เขาตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่กันแน่? แล้วตอนนี้ครอบครัวของเขาอยู่ที่ไหน?”“ถ้ายอมช่วยฉันครั้งนี้นะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อะไรที่คุณขอ ฉันก็ยอมทำตามทั้งนั้น”“ตราบใดที่คุณช่วยฉัน แม้แต่เกมอย่างเมื่อหกปีที่แล้ว ฉันก็ยอมทำตามคำขอนั้นค่ะ! ”“ฉันแค่ต้องการรู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่รึเปล่าเท่านั้น”"นะคะ?"ไนเจลไม่ได้พูดอะไรเส้นเลือดบนมือที่กุมพวงมาลัยปูดขึ้น คำพูดที่ซาบริน่าใช้อ้อนวอนเขาแทรกซึมเข้าไ