ไนเจลถึงกับพูดไม่ออกผ่านไปครู่หนึ่ง ไนเจลก็กล่าวว่า “เซบาสเตียนมัวแต่วุ่นอยู่กับงานอยู่ที่บริษัทตลอดทั้งวันเลยนะ”"ก็ใช่""ฮื้ม?"“แต่เราก็ไปที่บริษัทได้นิ” ซาบริน่ากล่าวไนเจลถอนหายใจเบา ๆ “ขึ้นมา ฉันจะขับไปส่งเธอเอง”ซาบริน่าตามไนเจลขึ้นรถไปอย่างใจเย็น หลังจากที่ไนเจลสตาร์ทเครื่องยนต์และขับรถออกไป เขาก็ถามว่า “ซาบริน่า ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอรู้สึกดีกับเซย์นใช่ไหม?”เมื่อพูดถึงเซย์น ซาบริน่าก็ร้องไห้ออกมาทันที เธอหันไปมองไนเจล “ท่านไนเจล ฉัน… ฉันรู้ว่าคุณเห็นฉันเป็นแค่ของเล่น แต่ช่วยล้มเลิกความคิดนั้นไปด้วยเถอะค่ะ คือว่า คุณช่วยฉันตามสืบเรื่องที่อยู่ของพี่ชายหน่อยได้ไหมคะ? เขาตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่กันแน่? แล้วตอนนี้ครอบครัวของเขาอยู่ที่ไหน?”“ถ้ายอมช่วยฉันครั้งนี้นะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อะไรที่คุณขอ ฉันก็ยอมทำตามทั้งนั้น”“ตราบใดที่คุณช่วยฉัน แม้แต่เกมอย่างเมื่อหกปีที่แล้ว ฉันก็ยอมทำตามคำขอนั้นค่ะ! ”“ฉันแค่ต้องการรู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่รึเปล่าเท่านั้น”"นะคะ?"ไนเจลไม่ได้พูดอะไรเส้นเลือดบนมือที่กุมพวงมาลัยปูดขึ้น คำพูดที่ซาบริน่าใช้อ้อนวอนเขาแทรกซึมเข้าไ
“ท่านไนเจล ทำไมถึงต้องพยายามเป็นเพื่อนกับคนอย่างฉันขนาดนั้นด้วยล่ะ?”“หยุดนะ! หยุดพูดถึงตัวเองแบบนั้นสักที!”“เธอน่ะสูงส่งและบริสุทธิ์ผุดผ่องกว่าใคร ๆ ที่ฉันเคยเจอมาอีกนะ!”“ซาบริน่า หยุดพูดถึงตัวเองแบบนั้นสักทีขอร้อง” ไนเจลสั่งห้ามด้วยความปวดใจ“ยังไงก็ตาม ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำนิคะ” ซาบริน่าพูดด้วยท่าทีเรียบเฉย แล้วเสียงของเธอก็แหบขึ้นเล็กน้อย “ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งกับพวกคนรวย แต่ฉันถูกปฏิบัติเหมือนเป็นของเล่นชิ้นเล็ก ๆ และพร้อมจะโดนรังแกจากทุกคนตลอดสองเดือนเต็ม ฉันก็เป็นพวกเร่ร่อนที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ฉันต้องกะเตงลูกไปด้วยตลอด แล้วฉันจะเอากำลังที่ไหนไปสู้กับพวกคุณไหวล่ะคะ”“ฉันก็เหมือนหนูติดจั่นที่พวกคุณปล่อยตัวลงไปในกรงทองแล้วค่อยหลอกล่อให้ฉันทำตามที่สั่ง”“พอคุณสบโอกาสเพราะว่าฉันหมดแรงที่จะดิ้นรน พวกคุณก็โยนฉันลงไปในกรงเน่า ๆ พร้อมกับติดป้ายราคาขายเอาไว้”“ทั้งหมดนั่นมันไม่สำคัญหรอกค่ะ”“มันไม่สำคัญเลย”“แต่ลูกสาวของฉันล่ะ?”“เธออายุแค่ห้าขวบเองนะ!”“ท่านไนเจล ฉันขอร้องคุณช่วยเร่งความเร็วหน่อยได้ไหมคะ ฉันอยากพบลูกสาวของฉัน!”“ฉันต้องการไปหาลูกสาวของ
ซาบริน่าพูดอย่างเคร่งขรึม “ช่วยนำทางไปหน่อยค่ะ!”พนักงานต้อนรับหญิงพูดไม่ออกนอกจากนี้ ยังมีสตรีผู้สูงศักดิ์วัยห้าสิบซึ่งตำหนิซาบริน่าเมื่อครู่ เมื่อได้ยินว่าเซบาสเตียนให้ซาบรินาเข้าไปพบได้ เธอก็ตกตะลึงในทันที“เธอคือซาบริน่าเหรอ?” สตรีผู้สูงศักดิ์ถามด้วยความสงสัยขณะเข้ามาขวางทางซาบริน่าเอาไว้ซาบริน่าเย้ยหยัน “ดูท่าฉันจะไม่รู้จักคุณมาก่อนนะคะ ฉันพูดถูกไหม? แล้วสรุปว่าฉันจำเป็นต้องตอบคำถามคุณเมื่อครู่นี้ไหมคะเนี้ย?” ตลกเสียไม่มี! ทุกคนในโลกนี้อยากสั่งให้เธอทำอะไรก็ได้ตามใจนึกรึไงนะนี่ซาบริน่า เธอน่ะเป็นหนี้อะไรใครอีกรึเปล่าเนี่ย?เธอไม่ได้เป็นหนี้เซบาสเตียนด้วยซ้ำ!เธอต่างหากล่ะที่ช่วยชีวิตเซบาสเตียนเอาไว้! และยังตั้งท้องลูกของเซบาสเตียนด้วยซ้ำถ้าเซบาสเตียนไม่จับไอโนะมาเป็นตัวประกันไว้ ซาบริน่าก็คงไม่สติเช่นนี้หรอกสตรีผู้สูงศักดิ์วัยกลางคนกล่าวตอบ “เธอ… ”ซาบริน่าจ้องมองไปยังแผนกต้อนรับ จากนั้นพนักงานต้อนรับก็โค้งคำนับและพยักหน้าทันที “คุณสก๊อตต์ เชิญทางนี้ค่ะ”สตรีสูงศักดิ์ผู้อยู่เบื้องหลังก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกทันที “เซบาสเตียน ฉันอยู่ที่แผนกต้อ
พนักงานต้อนรับรีบโค้งคำนับ “ขอบคุณค่ะ คุณพูล” หลังจากขอบคุณเขา พนักงานต้อนรับก็หันหลังและวิ่งออกไปอเล็กซ์มองไปที่หญิงสาวตรงหน้าเขา เธอมีออร่าแห่งความห่างเหินและสงบอยู่รอบตัวเธอ แต่อเล็กซ์เห็นความโกรธที่ไม่สามารถระงับได้ อเล็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “อ่าว พี่สะใภ้ ในที่สุดก็ยอมปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนสักทีสินะ ไอ้เราก็คิดว่าพี่ชายตัวดีจะซ่อนคุณไว้จนสิ้นอายุขัยแล้วนะเนี่ย”ใบหน้าของซาบริน่าแดงเล็กน้อย “ขอโทษนะคะ แต่ฉันไม่ใช่พี่สะใภ้ของคุณค่ะ ฉันมาที่นี่เพราะว่ามาตามหาลูกสาวของฉันก็เท่านั้น”เมื่อพูดเช่นนั้น ซาบริน่าก็มองไปที่เซบาสเตียน “เซบาสเตียน ไอโนะเพิ่งมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้เป็นครั้งแรกนะ ลูกไม่คุ้นเคยกับอาหารและทุกอย่างที่นี่ ตอนนี้ก็เลยบ่ายมาแล้วนะ บอกฉันทีว่าเธออยู่ที่ไหน! ขอร้องแหละบอกมาเถอะ!"เมื่อเธอพูดจบ ร่างคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังเธอ“เซบาสเตียน นี่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อว่าซาบริน่า สก๊อตต์นั่นรึเปล่า?” โรสยืนอยู่ข้างหลังซาบริน่าและพูดด้วยน้ำเสียงแดกดัน“คุณป้าครับ” อเล็กซ์พูดขณะยืนขึ้นและโค้งตัวเล็กน้อย“อืม… ” น้ำเสียงของโรสอ่อนลง “อ่าว นี่นายน้อยรองของตระกูลพูลจ
ซาบริน่าไม่ได้แสดงอาการทันที และโพล่งออกมาว่า “แผลอะไร?”เซบาสเตียนโกรธเคืองผู้หญิงคนนี้เข้าใจเรื่องราวได้ช้าเป็นเต่าจริง ๆ เลย!“ฉันไม่ได้มีอะไรกับเธอมาตั้งหกปีนะ แล้วฉันเอาก็ยัดเข้าไปทั้งอย่างนั้นด้วย ต่อให้ไม่เป็นไร แต่ตรงนั้นมันก็ฉีกได้อยู่ดี! ฉันถึงถามไงว่าแผลน่ะหายแล้วรึยัง?” เซบาสเตียนกล่าวอย่างละเอียด“ฮ่า!” อเล็กซ์ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาไม่สามารถยั้งตัวเองไว้ได้และระเบิดเสียงหัวเราะออกมา หลังจากที่เขาหัวเราะ เขาก็พูดว่า “เซบาสเตียน นายสูงใหญ่แถมรูปร่างดีอีก ดูสิ พี่สะใภ้ฉันตัวแค่เนี้ยเองนะ ช่วยทำอะไรใจเย็น ๆ กว่านี้หน่อยไม่ได้รึไง?”ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดทันที“นี่คุณ… ” เธอเอามือทั้งสองปิดหน้าราวกับว่าจะทำให้ไม่มีใครเห็นใบหน้าสีแดงของเธอได้“ผู้หญิงขี้อายเหมือนพี่สะใภ้หายากขึ้นทุกวันแล้วนะ ไม่แปลกใจแล้วแหละที่นายไม่ยอมพาเธอไปไหนมาไหนด้วย นายกลัวว่าสภาพแวดล้อมจะทำให้ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอต้องแปดเปื้อนสินะ”“แต่ว่านะ เซบาสเตียน…” อเล็กซ์แอบมองเซบาสเตียนในขณะนี้ เซบาสเตียนอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อทำการปรับเปลี่ยนบางอย่างมีจอฉายภาพขนาดเล็กอยู่ที่ผนังฝั่
ซาบริน่าไม่รู้จะตอบไปว่าอย่างไรดีเขาติดหนี้ค่าเลี้ยงดูใช่รึเปล่านะ?ต้องใช่สิ!แต่อีกเแง่หนึ่ง เขาจะยอมจ่ายรึเปล่านะ?เขาไม่มีวันยอมรับไอโนหรอก เขาจะถือว่าไอโนะเป็นความอัปยศของเขาเท่านั้นซาบริน่าบังคับให้ตัวเองกลืนความข่มขืนทั้งหมดลงไป จากนั้นจึงพูดกับไอโนะด้วยรอยยิ้มว่า “ไอโนะ บอกแม่หน่อยว่าตอนนี้หนูอยู่ที่ไหนจ๊ะ? หนูทานอาหารกลางวันแล้วรึยังเอ่ย? อาหารที่นี่ถูกปากหนูไหมจ๊ะ? รู้สึกกลัวหรือคิดถึงแม่จ๋าบ้างไหมลูก?”ไอโนะครุ่นคิดเล็กน้อยและพูดว่า “แม่คะ จริง ๆ แล้วเจ้าตูดหมึกค่อนข้างนิสัยดีกับหนูนะคะ เขาป้อนคัสตาร์ดอร่อย ๆ กับพายฟักทองเป็นมื้อกลางวันให้หนูด้วย ของโปรดหนูทั้งนั้นเลยค่ะ ก็คิดถึงแม่นิดหน่อยนะคะ แม่มาหาหนูเหรอ? หนูอยู่อีกชั้นหนึ่งค่ะ อยู่ชั้นบนห้องทำงานเจ้าตูดหมึกแหละ เอ่ยที่นี่ที่ไหนนะคะ?"ไอโนะหันกลับมามองเด็กหนุ่มที่เธอปาสไลม์ไปก่อนหน้านี้ “พี่คะ ที่นี่ที่ไหนคะ?”เด็กหนุ่มรูปงามตอบทันทีว่า “ขออนุญาตบอกกับเจ้าหญิงนายว่าที่นี่คือส่วนงานของแผนกวางแผนครับ”“หนูอยู่ที่แผนกวางแผนค่ะแม่”'แผนกวางแผน'ซาบริน่าลุกขึ้นและต้องการออกไปโดยไว แต่เซบาสเตียนกลับโอบกอดจากทางด้
สีหน้าของเซบาสเตียนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน "พูดว่าอะไรนะ?"หัวใจของซาบริน่าด้านชา เธอเจอเซลีนทันทีที่ออกจากบ้าน และเธอได้ยินสิ่งที่เซลีนพูดอย่างชัดเจน เซลีนยังคงเป็นคู่หมั้นของเซบาสเตียน ในทางกลับกัน ซาบริน่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือของเขา เครื่องมือเพียงเพื่อสร้างรายได้และเพื่อชำระหนี้เท่านั้น ผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟามีฐานะสูงส่ง หาใช่ผู้ชายเดินดินไม่เขาคนนั้นนั่งอยู่ในห้องทำงานของเซบาสเตียนและเริ่มพูดคุบกับเธอเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาควรจะเป็นหนึ่งในลูกค้าของเซบาสเตียนแน่เซบาสเตียนขอให้เธอเตรียมตัวไปปรนนิบัติแขกคนนั้นแล้วสินะเธอยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นแล้ง ทว่า จุดจบของเรื่องนี้มันอยู่ตรงไหนกันละ? คงเป็นวันที่เธอเน่าเฟะและเหม็นเน่านอนรอความตายนั่นแหละซาบริน่าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารและเศร้าโศกที่โชคชะตาช่างเล่นตลกกับเธอมากขนาดนี้แขนที่โอบกอดไอโนะก็กระชับขึ้นเล็กน้อย “ฉันจะเชื่อฟังทุกคำสั่งของคุณเลย ไม่ว่าจะขอหรือสั่งอะไรมาฉันยอมพลีกายทำให้ทั้งนั้น แต่ของเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น ได้โปรดไว้ชีวิตไอโนะด้วยเถอะนะ ช่วยเห็นแก่ที่เธอเป็นลูกสาวของคุณด้วย ถ้าคุณไม่อยากเลี้ยงเธอห
ชายคนนั้นเยาะเย้ย “นี่คุณผู้หญิง อยากไปอยู่กับผู้ชายมากขนาดนั้นเลยไม่ใช่เหรอเนี้ย? อยากมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”ซาบริน่าตะกุกตะกัก “อะ… อะไรนะคะ?” ฟันของเธอกระทบกันเพราะความกลัว อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นไม่ได้หยุดการกระทำให้เธอกลัวเขาเดินเข้าไปใกล้เธอทีละก้าวซาบริน่าถอยหลังทีละน้อยจนชนเข้ากับโซฟา และตอนนี้ไม่เหลือที่ให้ถอยหนีอีกแล้ว ชายคนนั้นก้าวเท้ายาวและรีบเข้าไปประชิดตัว ด้วยการโค้งตัวแล้วเขาก็อุ้มผู้หญิงคนนั้นไว้ในอ้อมแขน "นี่คุณผู้หญิง! นี่อยากออกไปเริงร่ากับผู้ชายขนาดนั้นเลยเหรอ?”ซาบริน่าตกใจจนน้ำตาแทบไหล “ก็คุณเป็นคนบอกให้ฉันออกไปกับพวกนั้นเองไม่ใช่เหรอ?”“คุณจับลูกสาวของฉันเป็นตัวประกัน!”“ตอนนี้คุณก็พาเธอออกไปไหนมาไหนตามใจ ทีนี้ ก็ช่วยบอกฉันมาทีเถอะค่ะ ว่ามีอะไรให้ฉันทำต่ออีกบ้าง?”“คุณเป็นคำบอกให้ฉันออกไปปรนนิบัติพวกผู้ชายนั้นเอง แล้วค่อย ๆ ปอกลอกเอาเงินจากพวกนั้นเพื่อเอามาชดใช้หนี้ที่ฉันติดคุณอยู่ แต่ตอนนี้คุณกลับมาตั้งคำถามแบบนี้กับฉันเนี้ยนะ”“หรือเป็นเพราะว่าเราทั้งคนแม่ลูกเป็นแค่เด็กกำพร้าพ่อกับแม่เลี้ยงเดียวที่ไม่มีปัญญาตอบโต้อะไรคุณได้ เราก็เลยไม่สมควรแบกหน้ามีชีวิ