Share

 โทษทัณฑ์พิพาทใจ
โทษทัณฑ์พิพาทใจ
Author: ซูซี

บทที่ 1

Author: ซูซี
ก่อนพลบค่ำ ซาบริน่า สก๊อตต์ เดินออกมาจากเรือนจำ

เธอได้รับการประกันตัวออกจากมาชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งวัน

ในมือของเธอกำเอกสารซึ่งระบุที่อยู่แห่งหนึ่งเอาไว้ จากนั้นเธอจึงเดินขึ้นรถที่จอดรออยู่ตรงทางเข้าเรือนจำ เธอมาถึงคฤหาสน์เก่าที่อยู่บนกึ่งกลางภูเขาในเวลาใกล้ค่ำ คนเฝ้าประตูนำทางซาบริน่าไปยังห้องนอน

ทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง เธอพบว่าห้องนอนนั้นมืดสนิท และมีกลิ่นคาวเลือดเตะจมูกอย่างรุนแรง ก่อนที่เธอจะปรับสายตาเพื่อให้เข้ากับความมืดในห้องนั้นได้ แขนอันแข็งแกร่งคู่หนึ่งฉุดรั้งตัวเธอมาไว้ในอ้อมกอด

ลมหายใจที่ร้อนระอุเข้าโจมตีเธอ “เธอคือคนที่พวกเขาส่งมาให้ฉันเล่นสนุก ก่อนที่ถึงเวลาตายสินะ… นังผู้หญิงขายตัว?”

‘หญิง....ขายตัวงั้นเหรอ?’

น้ำตาของซาบริน่าร่วงหล่นลงมาจากดวงตา

ในทันใด เธอรู้สึกหวาดกลัว และเสียงของเธอเริ่มสั่นเครือขึ้นทุกขณะ “คุณ… กำลังจะตายเหรอคะ?”

“ใช่! เธอเสียใจเหรอที่กำลังทำแบบนี้กับฉัน?” ชายคนนั้นหัวเราะเยาะเบา ๆ

“ฉันไม่ได้เสียใจเลยค่ะ” ซาบริน่าพูดออกมาอย่างยากลำบาก

เธอไม่มีที่ว่างให้กับความเสียใจหรอก เพราะแม่ของเธอกำลังรอความช่วยเหลือจากเธออยู่

ห้องนั้นมืดสนิท เธอมองไม่เห็นใบหน้าของชายคนนั้น เธอรู้เพียงว่าชายคนนั้นดูไม่เหมือนคนที่กำลังจะตาย หลังจากผ่านไปสองหรือสามชั่วโมง ชายคนนั้นก็ผล็อยหลับไปในที่สุด

‘เขาตายแล้วเหรอ?’

ซาบริน่าไม่มีเวลาที่จะกลัวอะไรอีก เธอรีบหนีออกจากคฤหาสน์แห่งนั้นทันที

คืนนั้น เต็มไปด้วยฝนหนาเม็ดและอากาศที่เย็นยะเยือก เธอวิ่งท่ามกลางสายฝนไปที่คฤหาสน์ลินน์

ในเวลานี้ เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว และประตูของคฤหาสน์ลินน์ปิดสนิท อย่างไรก็ตาม ซาบริน่าได้ยินเสียงรื่นเริงภายในบ้าน ราวกับว่ามีบางสิ่งที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง

“เปิดประตู! เร็วสิ รีบเปิดประตูและให้เงินฉันเดี๋ยวนี้ ฉันต้องรีบไปช่วยแม่ของฉัน… เปิดประตู! เปิดประตูสิ!”

ประตูยังคงไม่ไหวติ่งแบบเดิม

ในคืนที่พายุกำลังพัดโหมกระหน่ำ ขณะที่กำลังปราถนาให้มีรถสักคันผ่านมา ซาบริน่ารู้สึกเวียนหัวและไม่สามารถยืนอย่างมั่นคงได้ แต่เธอต้องรวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อทุบประตูนั้นให้เกิดเสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ “เปิดประตู! เปิดประตู! เอาเงินมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันต้องไปช่วยแม่ของฉัน… ”

'ปัง!' ประตูถูกผลักเปิดออก และสายตาอันสิ้นหวังของซาบริน่าก็ส่องประกายขึ้นมาในทันใด

คนที่อยู่หลังประตูมองดูซาบริน่าด้วยความรังเกียจและขยะเเขยง

ซาบริน่ารู้ดีว่า ตอนนี้เธอดูแย่ยิ่งกว่าพวกขอทานข้างถนนเสียอีก

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอห่วงภาพลักษณ์ของเธอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เธอโยนตัวตนของเธอทิ้งไป ก่อนที่จะส่งสายตาอ้อนวอนและพูดขึ้น “ฉันทำในสิ่งที่คุณขอให้ทำแล้ว เอาเงินมาให้ฉันเร็ว ชีวิตแม่ของฉันรอมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ได้โปรด… ”

“แม่ของเธอตายแล้ว ดังนั้น เธอไม่จำเป็นต้องใช้เงินอีกต่อไป” คนที่เปิดประตูโยนรูปภาพกรอบสีดำลงไปท่ามกลางสายฝน แล้วปิดประตูอย่างไร้ความปราณี

“อะไรนะ?” ซาบริน่าตกใจพร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายลงมา

ครู่ต่อมา เธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง “แม่… ”

“แม่… หนูมาช้าเกินไปเหรอ? หนูพลาดโอกาสที่จะช่วยชีวิตแม่ไว้ได้แล้วใช่ไหม? แม่ฉันตายแล้ว… แม่ของฉันตายแล้ว… ” ซาบริน่ากอดรูปภาพหน้างานศพของแม่เธอเอาไว้ นอนขดตัวอยู่กลางสายฝน และพึมพำกับตัวเอง

จากนั้นเธอก็คลานขึ้นมา และเริ่มกระแทกประตูเหมือนคนบ้า “โกหก! ฉันทำตามสัญญาแล้ว แต่แกไม่ได้ช่วยแม่ของฉันเลย คืนแม่ฉันมา! ไอ้คนโป้ปด! ทั้งครอบครัวของแกจะต้องตายอย่างน่าอนาถ… ไอ้คนตระบัดสัตย์! ไอ้คนโกหก! แกมันพวกไม่รักษาคำพูด! ฉันขอสาปแช่งให้ทั้งครอบครัวของแกต้องตาย ตกนรกหมกไหม้อยู่ขุมสุดท้าย!”

ซาบริน่าหมดสติอยู่นอกประตูคฤหาสน์ลินน์

เมื่อเธอตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลาที่ผ่านไปแล้วสามวัน และเธอก็อยู่ในเรือนจำอีกครั้ง

เธอถูกส่งตัวไปเข้าพักรักษาตัวที่เรือนพยาบาลเนื่องจากอาการไข้หวัดซึ่งเข้าขั้นวิกฤต หลังจากผ่านไปสามวันอาการของเธอก็ดีขึ้น จากนั้นจึงถูกส่งตัวกลับไปยังพื้นที่ที่คุมขังเช่นเดิม

นักโทษหญิงสองสามคนเข้ามาล้อมเธอไว้

“ฉันคิดว่าเธอได้รับการปล่อยตัว และเป็นอิสระหลังจากได้รับการประกันตัวไปแล้วเสียอีก แต่เธอก็ถูกส่งตัวกลับเข้ามาอีกครั้งหลังจากผ่านไปสามวันแบบนี้เนี้ยนะ?”

“ฉันได้ยินมาว่าเธอถูกยืมไปเป็นของเล่นของใครสักคนหนึ่งคืนไม่ใช่เหรอ?”

หัวหน้าแก๊งผู้หญิงที่มีรูปร่างค่อนข้างดีทิ้งผมของซาบริน่าและระเบิดเสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายออกมา

“นังผู้หญิงคนนี้มันมีชีวิตที่ดีจริง ๆ เลยว่ะ! ดูนี่นะ ฉันจะทุบตีมันให้ตายในวันนี้เลย!”

ซาบริน่าไม่แม้แต่จะลืมตามองด้วยซ้ำ

ปล่อยให้พวกนั้นทุบตีเธอจนตาย ถ้าเธอถูกทุบตีจนตาย คงเป็นเรื่องดีที่เธอจะได้กลับไปหาแม่ของเธออีกครั้ง

ขณะที่พวกผู้หญิงเริ่มเปลื้องเสื้อผ้าของซาบริน่า เสียงแข็งกร้าวพลันดังขึ้นมาจากประตู “พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่?”

หัวหน้าแก๊งผู้หญิงพลันยิ้มออกมาอย่างใสซื่อ และกล่าวคำขอโทษ “ซาบริน่าป่วย เราก็แค่เป็นห่วงเธอ”

เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ไม่ตอบ แต่ตะโกนรหัสเรือนจำของซาบริน่าออกมา “036 ออกมา!”

ซาบริน่าเดินออกไป และถามอย่างเฉยเมยไปว่า “ตอนนี้ ฉันทำอะไรผิดเหรอ?”

“เธอพ้นโทษแล้ว” เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พูดอย่างเรียบเฉย

“อะไรนะ?” ซาบริน่าคิดว่าตัวเธอเองมีอาการประสาทหลอน จนกระทั่งเธอออกจากประตูคุก เธอก็ได้รู้ว่า นี่มันเป็นเรื่องจริง

เธอร้องไห้ฟูมฟายด้วยความดีใจ และพึมพำไปว่า “แม่! หนูไม่สามารถช่วยแม่ได้ แต่แม่จะยกโทษให้หนูได้ไหมคะ? หนูจะไปหาแม่ตอนนี้ แม่นอนหลับอยู่ที่ไหนคะ… ?”

“คุณคือคุณสก๊อตต์ใช่ไหม?” เสียงของชายคนหนึ่งถามอย่างเย็นชา

ชายในชุดสูทยืนอยู่ตรงหน้าซาบริน่า และมีรถสีดำจอดอยู่ข้างหลังเขา มีเงาผู้ชายเลือนรางอีกคนหนึ่งกำลังมองดูเธอจากด้านในของรถ

เธอพยักหน้า “ใช่ ฉันเอง คุณคือ… ”

ชายคนนั้นไม่ตอบ แต่หันกลับไปพูดอย่างสุภาพกับชายผู้ที่นั่งอยู่ในรถ “นายน้อยเซบาสเตียน ใช่เธอครับ”

“พาตัวเธอมา!” ชายที่อยู่ภายใต้เงาสั่งการ

ซาบริน่าที่ยังสับสนอยู่ถูกผลักเข้าไปในรถและนั่งข้างชายผู้ที่อยู่ภายใต้เงาคนนั้น เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งจิตสังหารที่เย็นเยียบจากตัวเขาในทันที

ซาบริน่ารู้สึกว่าชีวิตของเธออยู่ในกำมือของเขา

“เซบาสเตียน ฟอร์ด” ชายคนนั้น แนะนำตัวเองอย่างเย็นชา

ซาบริน่าอดไม่ได้ที่จะสั่นด้วยความกลัว ขณะที่เธอถามอย่างแผ่วเบาไป “ฉันไม่ได้พ้นผิด… แต่ฉันจะต้องได้รับโทษประหารชีวิตแทนใช่ไหมคะ?”

“ฉันจะพาเธอไปจดทะเบียนสมรสต่างหาก!” เซบาสเตียนไม่เต็มใจที่จะมองเธอเท่าไหร่นัก

ในทันใดนั้น ซาบริน่ารู้สึกตัวว่าเสียงของเขาดูคุ้นเคยเหลือเกิน ฟังดูเหมือนชายหนุ่มที่เสียชีวิตในคืนนั้น

อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว

“คุณพูดว่าอะไรนะ?” เธอคิดว่าหูคงฟาดไปแล้วแน่ ๆ

Related chapters

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 2

    เซบาสเตียนไม่ได้มองหน้าซาบริน่าเลย “เธอได้ยินในสิ่งที่ฉันพูดไปแล้วนี่”ซาบริน่าดึงชายเสื้อผ้าที่สกปรกของเธอเล่น และพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลไปว่า “คุณคะ นี่เป็นเรื่องตลกที่ไม่ขำเอาเลยนะคะ”เซบาสเตียนเยาะเย้ย และพูดอย่างฉุนเฉียวไปว่า “เธอมีแผนที่จะแต่งงานกับฉันมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”สายตาของเซบาสเตียนตัดผ่านไปยังใบหน้าผอมบางของซาบริน่าราวกับมีดโกนอันแหลมคม และจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ ซาบริน่าตัวสั่นและเบือนหน้าหนี กระนั้น เซบาสเตียนบีบคางของเธอเอาไว้และบังคับให้มองมาที่เขาจากนั้นซาบริน่าก็ตระหนักได้ว่าลักษณะต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้ของเงานั่น มีโครงร่างที่เท่และสวยงาม เขาจะต้องเป็นลูกรักของพระเจ้าแน่ ๆ เพราะเขาดูหล่อเหลามาก ยิ่งไปกว่านั้น หนวดเคราสีดำที่อยู่บนสันกรามของเขา ยังแสดงออกถึงความเป็นชายที่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ชุดสูทของเขาได้รับการตัดเย็บมาอย่างดีและดูหรูหราซาบริน่าสามารถบอกได้เลยว่า ชายคนนี้ต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดามากแน่ ๆ ในทางตรงกันข้าม เธอสวมเสื้อผ้าที่ปกคลุมไปด้วยเชื้อรา ผมที่ยุ่งเหยิง ใบหน้าสกปรก กลิ่นตัวแรง และไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันทั้งสองคนกำลังจะไปจดทะเบียน

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 3

    “อะไรนะ?” เซบาสเตียนขมวดคิ้วทันที และเขาก็รีบเข้าไปดูด้านในในห้องน้ำไม่มีใครอยู่แล้ว มีเพียงตัวหนังสือบนกำแพงที่เขียนด้วยเลือดไว้ว่า ‘มิสเตอร์ฟอร์ด แม้ว่าเราจะมีโลกแห่งความแตกต่างระหว่างสถานะของเรา แต่ฉันก็ไม่อยากแต่งงานกับคุณ ลาก่อน!'ตัวอักษรที่เขียนด้วยเลือดนี้ดูประณีตและเฉียบคม ซึ่งเผยให้เห็นถึงอารมณ์ที่ไม่ยอมใครง่าย ๆ ของผู้เขียนเซบาสเตียนตะลึงกับสิ่งที่เห็นการสืบสวนเรื่องราวของเธออาจจะไม่ถูกต้องหรือเปล่า?ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็ออกคำสั่งดังลั่น “ออกไปค้นหาด้านหลังของภูเขา เดี๋ยวนี้!”เขาไม่สามารถปล่อยให้แม่ของเขาเสียใจก่อนที่เธอจะเสียชีวิตได้หนามและเถาวัลย์ทุกชนิดที่สามารถพบได้ที่ด้านหลังภูเขากระชากเสื้อผ้าของซาบริน่าขาด แต่เธอทำได้เพียงจับเถาวัลย์เหล่านั้นเพื่อปีนลงมา และพยายามไม่ให้ตัวเธอเองตกลงมาตาย เธอซ่อนตัวอยู่ภายใต้เถาวัลย์อันหนาทึบ และพยายามหลบหนีจากผู้คนในตระกูลฟอร์ดที่กำลังตามหาเธอเธออยู่ที่นั่นจนถึงเวลาค่ำ และตะเกียดตะกายปีนป่ายไปรอบ ๆ ภูเขาเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น เธอไปที่คฤหาสน์ลินน์อีกครั้ง ลินคอล์น ลินน์และเจด ซัลลิแวนตกใจและตื่นตระหนกเมื่อเห็นซาบริน่า

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 4

    เซบาสเตียนตามหาซาบริน่ามาหนึ่งเดือนแล้วเมื่อเขาคิดว่าคงตัดสินใจผิดพลาดไป และซาบริน่าไม่ได้มีมลทินหรือมีเรื่องเสื่อมเสียตามรายงานการสืบสวนของเขา เธอก็กลับมาปรากฏตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ด้านนอกห้องนี่ และกำลังทำงานทุ่มเทเป็นพิเศษให้กับเขาเขาประเมินเธอต่ำไปจริง ๆ“ผู้อำนวยการฟอร์ด… นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ผู้จัดการร้านอาหารที่มากับเซบาสเตียนตัวสั่น เมื่อมองมาที่เขา“เธอมาอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว?” เซบาสเตียนมองผู้จัดการอย่างเย็นชา“ดะ… เดือนนึงแล้วครับ” ผู้จัดการตอบกลับอย่างติดขัดหนึ่งเดือน!เมื่อหนีมาจากตระกูลฟอร์ด จริง ๆ และไม่ได้จะพยายามหลบหนี เธอเพียงแค่ต้องการเพิ่มราคาของตัวเธอเองบ้าเอ้ย!ซาบริน่ามองเซบาสเตียนด้วยความขุ่นเคืองและรู้สึกผิดโลกแคบขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?“ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูด ปล่อยฉันนะ! ถ้าไม่ปล่อยฉัน ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ” เธอพยายามอย่างหนักที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเซบาสเตียน แต่เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย ซาบริน่าเริ่มเจ็บปวดมากขึ้นจนมีเหงื่อบาง ๆ เริ่มก่อตัวบนหน้าผากของเธอผู้จัดการตำหนิซาบริน่าด้วยความตกใจ “ไลลา ยัง มันจะมากเกินไปแล้

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 5

    ถ้าชายที่ยืนอยู่ข้างหลังซาบริน่าไม่ใช่เซบาสเตียน แล้วจะเป็นใครได้อีก?ชายคนนั้นมองดูซาบริน่าด้วยรอยยิ้มจาง ๆ เสียงที่กลมกล่อมและอบอุ่นของเขาทำให้รู้สึกผ่อนคลายจนสามารถทำให้เธอถึงจุดสุดยอดทางโสตประสาทได้เลย “แม่ไม่สบายและต้องการพักผ่อน มีอะไรที่เธอทำไม่ได้ ก็มาหาทางแก้ปัญหากับฉันก็ได้นิ? ทำไมเธอต้องรบกวนแม่ด้วย?”ซาบริน่าตกตะลึงและพูดไม่ออกชายคนนั้นโอบแขนของเธอ และพาเธอออกไปก่อนที่เธอจะทันได้ปฏิเสธ“ลูกแม่ คุยเรื่องงานแต่งงานกับซาบริน่าให้รู้เรื่อง ลูกต้องปฏิบัติต่อซาบริน่าให้ดีนะ” เกรซตะโกนตามหลังพวกเขาไป“อย่ากังวลไปเลยครับแม่” ชายคนนั้นตอบขณะปิดประตูห้องผู้ป่วยซาบริน่าถูกเซบาสเตียนลากและเดินออกมาไกล เมื่อพวกเขามาถึงสุดทางเดิน ใบหน้าอันอบอุ่นของเขาถูกแทนที่ด้วยแสงสะท้อนที่เยือกเย็นและแสงจ้าที่คมชัดชายคนนั้นจับไปที่ต้นคอของซาริน่าอย่างรุนแรงและตรึงเธอไว้กับผนัง สายตาของเขาเหมือนดาบที่หนาวเย็น “นังโจรสาว! เธอได้ทดสอบความอดทนของฉันมาตลอดหนึ่งเดือน และตอนนี้เธอกล้าที่จะปรากฏตัวต่อหน้าแม่ของฉันอีก เธอกล้าหาญเกินไปแล้ว! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับแม่ของฉันแล้วละก็ ฉันจะทำให้เธอได้พบกับ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 6

    เมื่อออกมาจากศาลากลาง ซาบริน่าก็บอกลาเซบาสเตียน “คุณฟอร์ดคะ หมอไม่อนุญาตให้ไปเยี่ยมในตอนบ่าย ดังนั้น ฉันจะไม่ตามคุณกลับไป พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปเยี่ยมป้าเกรซเอง”เธอมีไหวพริบเสมอเมื่อไม่ได้อยู่ต่อหน้าป้าเกรซ เธอก็จะใช้ความคิดริเริ่มเพื่อทำให้ตัวเองห่างเหินออกจากเซบาสเตียน“แล้วแต่เธอ” เซบาสเตียนพูดอย่างเย็นชาและเรียบเฉยซาบริน่าออกจากสถานที่นี้เพียงลำพังในรถ คิงส์ตันถามว่า “นายน้อยเซบาสเตียน คุณไม่กลัวว่าเธอจะหนีเหรอครับ?”เซบาสเตียนเย้ยหยันอย่างดูถูก “หนีเหรอ? ถ้าเธออยากจะหนีจริง ๆ ทำไมเธอถึงทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารที่ฉันมักจะไปบ่อย ๆ ล่ะ? ทำไมถึงมาขอยืมเงินกับแม่ของฉันด้วย? เธอหนีไปสองครั้งนั้นก็เพื่อเพิ่มราคาตัวเองก็เท่านั้น”คิงส์ตันตอบไปว่า “จะเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง…”“ออกรถได้” เซบาสเตียนพูดรถขับผ่านซาบริน่าไป แต่เซบาสเตียนไม่แม้แต่จะมองเธอซาบริน่าลากร่างที่เหนื่อยล้าของเธอกลับมายังที่พักของเธอเธอถูกใครบางคนหยุดไว้ เมื่อเธอมาถึงประตูของเธอ “ซาบริน่า! เธอกำลังซ่อนตัวอยู่แถวนี้จริง ๆ เหรอ?”มันคือ เซลีน!เมื่อสองปีที่แล้ว เหตุเกิดจากชีวิตส่วนตัวที่วุ่นวายขอ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 7

    เซลีนสามารถบอกได้ว่าเซบาสเตียนไม่ชอบเธออย่างมากเธอรู้สึกราวกับว่ามีเข็ม 10,000 เล่ม แทงไปที่หัวใจ มันเจ็บปวด น่าอาย และน่ารำคาญมาก อย่างไรก็ตาม เธอกลัวเซบาสเตียนจับใจเธอกำลังจะพูดอีกสองสามอย่างด้วยน้ำเสียงอันน่ารักที่ตรงข้ามกับความจริงของเธอ แต่สายนั้นก็จบลงอย่างกะทันหันหัวใจของเซลีนจมดิ่งลง “มีอะไรเหรอเซลีน?” เจดรีบถาม“แม่คะ… นายท่านเซบาสเตียน… เขาไม่ตกลงที่จะมาหารือเรื่องการแต่งงานของเรา เขา…คงจะไม่รู้เรื่องนี่ใช่ไหมคะ?”เซลีนเริ่มร้องไห้ด้วยความกลัว “เขาคงไม่รู้ว่าหนูแอบอ้างเป็นซาบริน่าใช่ไหมคะ? แม่คะ เราควรทำอย่างไงกันดี? มือของเซบาสเตียนเปื้อนเลือดของคนนับไม่ถ้วน หนูกลัว… ”ทั้งเจดและลินคอล์นต่างก็หวาดกลัวในความคิดของพวกเขาเช่นกันทั้งครอบครัวใช้เวลาตลอดบ่ายด้วยความหวาดกลัว จนสาวใช้มารายงาน “คุณท่านคะ ซาบริน่ามาแล้วค่ะ เธอบอกว่าเธอมาที่นี่เพื่อเก็บภาพของเธอและแม่ของเธอค่ะ”“บอกมันให้ไสหัวไปซะ!” เซลีนระบายความโกรธของเธอกับซาบริน่าทันทีในขณะนี้ เซลีนทำได้เพียงมุ่งความสนใจไปที่ความหวาดกลัวเท่านั้น จนเธอลืมไปว่า เมื่อวานนี้เธอได้ขอให้ซาบริน่ามาเก็บภาพเก่า ๆ ของแม่ของ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 8

    เซบาสเตียนตกตะลึงเช่นเดียวกัน เมื่อมองไปยังหญิงสาวตรงหน้าร่างกายของซาบริน่าไร้ซึ่งการปกปิดใด ๆ และผิวของเธอแดงเล็กน้อยหลังจากการอาบน้ำ ผมสั้นและเปียกน้ำกระเซอะกระเซิงดูไม่เป็นทรง และใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือปกคลุมไปด้วยละอองหยดน้ำเซบาสเตียนสามารถเห็นทั้งร่างของเธอได้ในชั่วพริบตาเดียวขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้า เธอตัวสั่นและม้วนตัวอย่างช่วยไม่ได้เซบาสเตียนไม่ได้ใส่ใจนักเขามีรูปร่างสูงและแข็งแรง มีกล้ามเนื้อที่คมชัด ผิวคล้ำ ไหล่กว้าง และสะโพกแคบ แขนขวาที่แข็งแรงดุจเหล็กกล้าของเขามีรอยแผลเป็นที่น่ากลัวอยู่สองรอย แต่มันเน้นย้ำถึงความโดดเด่นของความเป็นผู้ชาย และการมีอำนาจที่เหนือกว่าอย่างเต็มที่เมื่อซาบริน่าเห็นรอยแผลเป็นของเขา หัวใจของเธอก็หดเล็กเป็นก้อนลูกบอลด้วยความตกใจกลัวอย่างไรก็ตาม เธอก็ยังอายกับการที่เขาเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของเธอไปเรียบร้อยแล้ว เธอปิดหน้าด้วยความตกใจ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามปกปิดมันอย่างไร บางส่วนก็ยังมองเห็นได้ เธอเอื้อมมือที่สั่นเทาออกไป เพื่อเอื้อมไปหาเสื้อคลุมอาบน้ำ ขณะที่เธอต้องการจะสวมมัน แต่มือของเธอก็สั่นอย่างบ้าคลั่ง“ฉัน… ฉันคิดว่าคุณจะไม่กลับมา ทำไม…

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 9

    หัวใจของซาบริน่าตกลงไปยังตาตุ่มชั่วขณะหนึ่งแน่นอนว่าผู้ชายที่มีเกียรติและมีภูมิหลังที่ดีอย่างเซบาสเตียนจะไม่มีวันขาดคู่ควงไปอย่างแน่นอน เหตุผลที่เซบาสเตียนแต่งงานกับเธอ ก็เพียงเพื่อให้แม่ของเขาที่กำลังจะจากโลกนี้ไป จากไปโดยไม่ต้องเสียใจอย่างไรก็ตาม ซาบริน่าไม่เคยคาดคิดว่าแฟนสาวของเซบาสเตียนจะเป็นเซลีนสำหรับซาบริน่า ชีวิตของเธอเต็มไปการเยาะเย้ยผู้คนที่เคยข่มเหงเธอกลับมีความสุขและมีเกียรติมากขึ้น ในทางกลับกัน ซาบริน่าได้ทำลายอนาคตของเธอเอง เธอตั้งครรภ์ทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน และไม่รู้แม้แต่ชื่อพ่อของลูกเสียด้วยซ้ำซาบริน่ารู้สึกตัวเองเป็นเหมือนตัวตลก เมื่อมองดูคู่รักที่ดูเหมาะสมกันเหมือนอยู่ในสวรรค์ดูเหมือนว่าเซลีนขอให้ซาบริน่ามาเก็บรูปแม่ของเธอเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ความตั้งใจที่แท้จริงของ เซลีน คือการจงใจอวดแฟนหนุ่มของเธอต่อหน้าซาบริน่าหลังจากปกปิดความเศร้าในใจของเธอแล้ว ซาบริน่าก็พูดอย่างใจเย็นไปว่า “ผู้หญิงที่สกปรกอย่างฉันจะหาสามีที่ร่ำรวยได้ยังไง? เมื่อกี้ฉันแค่พูดเล่น เนื่องจากคุณมีแขก ฉันจะไม่รบกวนคุณอีกต่อไป กรุณานำรูปแม่ของฉันมาให้ฉันด้วย แล้วฉันจะไปทันที”เธอไม่ได

Latest chapter

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 330

    คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 329

    “ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 328

    มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 327

    ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 326

    มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 325

    เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 324

    ซาบริน่าไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอย่างไรประโยคนั้นไม่มีเหตุผลเลย!เธอถามว่า “กำไลอะไรคะ? ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คุณซื้อเสื้อผ้าให้ฉันแต่ไม่ได้ซื้อเครื่องประดับเลยนะ”เขาพยายามที่จะขู่กรรโชกเธอเหรอ?เธอไม่ได้ขโมยกำไลของเขามา!น้ำเสียงเยือกเย็นของเซบาสเตียนไม่เปลี่ยนไป “ฉันถามถึงกำไลเมื่อหกปีที่แล้ว!”สิ่งนี้ทำให้ซาบริน่าพูดไม่ออกก่อนจะออกมาจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้เมื่อหกปีที่แล้ว เธอได้ทิ้งกำไลนั้นไว้พร้อมกับร่างของป้าเกรซ ซาบริน่าอยากให้กำไลเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ ดังนั้น เธอจึงทิ้งมันไว้ที่นั่นเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนป้าเกรซ ในตอนนั้น มันคือสิ่งเดียวที่ซาบริน่าสามารถทำได้เพื่อเกรซหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ซาบริน่ากล่าวว่า “ฉันคงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าคุณไม่ได้พูดขึ้นมา ฉันพยายามคืนให้คุณเมื่อหกปีที่แล้ว แต่ในตอนนั้นคุณไม่ยอมรับมันไว้ คุณบอกว่าฉันควรเป็นคนเก็บมันไว้เพราะแม่ของคุณให้ฉัน แล้วทำไมคุณถึงต้องการมันคืนในตอนนี้ล่ะ?”ในขณะนั้น เซบาสเตียนรู้สึกเหมือนเพิ่งถูกซาบริน่าตำหนิและไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรแต่มันยังทำให้เขาโกรธอีกด้วย!ความเข้าใจผิดต่อเซบาสเตียนดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกของเธ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 323

    ไอโนะถามว่า “... ลุงคิงส์ตันคะ ยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?” อย่างไรคำศัพท์ของเด็กหญิงตัวน้อยก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่คิงส์ตันตอบว่า “มันหมายความว่า…” ขณะกำลังจะอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหญิงตัวน้อย เขาสังเกตเห็นการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของนายน้อยจากกระจกมองหลัง เขาหุบปากทันทีคิงส์ตันเรียนรู้วิธีอ่านท่าทางของนายท่านเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้มีทักษะนั้น เมื่อเธอเห็นว่าคิงส์ตันไม่ตอบคำถามของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็หันไปหาพ่อตูดหมึกของเธอ กลอกตาและถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอถามคุณหน่อยเถอะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?”ในตอนนี้ ไอโนะไม่ต้องพึ่งพาอ้อมกอดของพ่อเหมือนที่เธอเคยได้รับที่บ้านเก่าแก่หลังนั้นอีกต่อไป อันที่จริงเธอไม่อยากเรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำเพราะว่ามีแค่พวกเขาสองคน เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าพ่อของเธอจะเป็นคนใจร้าย แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะจับเขาไอโนะเกลียดเรื่องนี้!เมื่อเซบาสเตียนเห็นสีหน้าไม่พอใจของเด็กหญิงตัวน้อย เขาไม่รู้ว่าเธออยากหัวเราะหรือร้องไห้แทนที่จะตอบไอโนะ เขากลับสวนกลับด้วยคำถามอื่น “ทำไมหนูถึ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 322

    ถ้านายท่านอาวุโสชอว์ไม่เอ่ยถึงกำไลนั้น เซบาสเตียนคงลืมมันไปแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอได้มอบกำไลให้ซาบริน่า ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูลอันประเมินค่ามิได้นายท่านอาวุโสชอว์กล่าวต่อ “เซบาสเตียน ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นกำลังวางแผนต่อต้านนายอยู่แน่ ๆ ลองคิดดู เธอทำร้ายไนเจล เซย์นนายน้อยแห่งตระกูลสมิธ หรือแม้แต่มาร์คัสมากแค่ไหน“เธอไม่สามารถเทียบได้กับแม่ของนายได้“ผู้หญิงแบบนั้นจะสามารถสอนลูกของนายให้ถูกต้องได้อย่างไร?”เซบาสเตียนฝืนยิ้ม “ตอนนี้ลูกสาวของผมอยู่กับผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอ?!“นายท่านอาวุโสชอว์ด่วนสรุปเกินไปแล้วนะครับ!“สำหรับการอบรมลูกสาวของผม ผมไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำเช่นนั้น นายท่านอาวุโสชอว์ คุณควรให้ความสำคัญกับการอบรมหลานสาวของคุณเองอย่างเหมาะสม คุณจะได้หยุดดูหมิ่นตัวเองต่อหน้าตระกูลฟอร์ดสักที!”หลังจากพูดอย่างนั้น เซบาสเตียนก็อุ้มไอโนะไว้ในอ้อมแขนและพยายามจะออกจากห้องโถงไป“เซบาสเตียน!” เฮนรี่ตะโกน “จะไปไหน นายบอกว่าเราจะทานข้าวกับไอโนะไม่ใช่เหรอ? ย่าของนายเตรียมของขวัญมากมายไว้ให้เธอแล้วนะ เซบาสเตียน…”เ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status