เซบาสเตียนตามหาซาบริน่ามาหนึ่งเดือนแล้วเมื่อเขาคิดว่าคงตัดสินใจผิดพลาดไป และซาบริน่าไม่ได้มีมลทินหรือมีเรื่องเสื่อมเสียตามรายงานการสืบสวนของเขา เธอก็กลับมาปรากฏตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ด้านนอกห้องนี่ และกำลังทำงานทุ่มเทเป็นพิเศษให้กับเขาเขาประเมินเธอต่ำไปจริง ๆ“ผู้อำนวยการฟอร์ด… นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ผู้จัดการร้านอาหารที่มากับเซบาสเตียนตัวสั่น เมื่อมองมาที่เขา“เธอมาอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว?” เซบาสเตียนมองผู้จัดการอย่างเย็นชา“ดะ… เดือนนึงแล้วครับ” ผู้จัดการตอบกลับอย่างติดขัดหนึ่งเดือน!เมื่อหนีมาจากตระกูลฟอร์ด จริง ๆ และไม่ได้จะพยายามหลบหนี เธอเพียงแค่ต้องการเพิ่มราคาของตัวเธอเองบ้าเอ้ย!ซาบริน่ามองเซบาสเตียนด้วยความขุ่นเคืองและรู้สึกผิดโลกแคบขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?“ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูด ปล่อยฉันนะ! ถ้าไม่ปล่อยฉัน ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ” เธอพยายามอย่างหนักที่จะให้ตัวเองหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเซบาสเตียน แต่เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย ซาบริน่าเริ่มเจ็บปวดมากขึ้นจนมีเหงื่อบาง ๆ เริ่มก่อตัวบนหน้าผากของเธอผู้จัดการตำหนิซาบริน่าด้วยความตกใจ “ไลลา ยัง มันจะมากเกินไปแล้
ถ้าชายที่ยืนอยู่ข้างหลังซาบริน่าไม่ใช่เซบาสเตียน แล้วจะเป็นใครได้อีก?ชายคนนั้นมองดูซาบริน่าด้วยรอยยิ้มจาง ๆ เสียงที่กลมกล่อมและอบอุ่นของเขาทำให้รู้สึกผ่อนคลายจนสามารถทำให้เธอถึงจุดสุดยอดทางโสตประสาทได้เลย “แม่ไม่สบายและต้องการพักผ่อน มีอะไรที่เธอทำไม่ได้ ก็มาหาทางแก้ปัญหากับฉันก็ได้นิ? ทำไมเธอต้องรบกวนแม่ด้วย?”ซาบริน่าตกตะลึงและพูดไม่ออกชายคนนั้นโอบแขนของเธอ และพาเธอออกไปก่อนที่เธอจะทันได้ปฏิเสธ“ลูกแม่ คุยเรื่องงานแต่งงานกับซาบริน่าให้รู้เรื่อง ลูกต้องปฏิบัติต่อซาบริน่าให้ดีนะ” เกรซตะโกนตามหลังพวกเขาไป“อย่ากังวลไปเลยครับแม่” ชายคนนั้นตอบขณะปิดประตูห้องผู้ป่วยซาบริน่าถูกเซบาสเตียนลากและเดินออกมาไกล เมื่อพวกเขามาถึงสุดทางเดิน ใบหน้าอันอบอุ่นของเขาถูกแทนที่ด้วยแสงสะท้อนที่เยือกเย็นและแสงจ้าที่คมชัดชายคนนั้นจับไปที่ต้นคอของซาริน่าอย่างรุนแรงและตรึงเธอไว้กับผนัง สายตาของเขาเหมือนดาบที่หนาวเย็น “นังโจรสาว! เธอได้ทดสอบความอดทนของฉันมาตลอดหนึ่งเดือน และตอนนี้เธอกล้าที่จะปรากฏตัวต่อหน้าแม่ของฉันอีก เธอกล้าหาญเกินไปแล้ว! ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับแม่ของฉันแล้วละก็ ฉันจะทำให้เธอได้พบกับ
เมื่อออกมาจากศาลากลาง ซาบริน่าก็บอกลาเซบาสเตียน “คุณฟอร์ดคะ หมอไม่อนุญาตให้ไปเยี่ยมในตอนบ่าย ดังนั้น ฉันจะไม่ตามคุณกลับไป พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปเยี่ยมป้าเกรซเอง”เธอมีไหวพริบเสมอเมื่อไม่ได้อยู่ต่อหน้าป้าเกรซ เธอก็จะใช้ความคิดริเริ่มเพื่อทำให้ตัวเองห่างเหินออกจากเซบาสเตียน“แล้วแต่เธอ” เซบาสเตียนพูดอย่างเย็นชาและเรียบเฉยซาบริน่าออกจากสถานที่นี้เพียงลำพังในรถ คิงส์ตันถามว่า “นายน้อยเซบาสเตียน คุณไม่กลัวว่าเธอจะหนีเหรอครับ?”เซบาสเตียนเย้ยหยันอย่างดูถูก “หนีเหรอ? ถ้าเธออยากจะหนีจริง ๆ ทำไมเธอถึงทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารที่ฉันมักจะไปบ่อย ๆ ล่ะ? ทำไมถึงมาขอยืมเงินกับแม่ของฉันด้วย? เธอหนีไปสองครั้งนั้นก็เพื่อเพิ่มราคาตัวเองก็เท่านั้น”คิงส์ตันตอบไปว่า “จะเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไง…”“ออกรถได้” เซบาสเตียนพูดรถขับผ่านซาบริน่าไป แต่เซบาสเตียนไม่แม้แต่จะมองเธอซาบริน่าลากร่างที่เหนื่อยล้าของเธอกลับมายังที่พักของเธอเธอถูกใครบางคนหยุดไว้ เมื่อเธอมาถึงประตูของเธอ “ซาบริน่า! เธอกำลังซ่อนตัวอยู่แถวนี้จริง ๆ เหรอ?”มันคือ เซลีน!เมื่อสองปีที่แล้ว เหตุเกิดจากชีวิตส่วนตัวที่วุ่นวายขอ
เซลีนสามารถบอกได้ว่าเซบาสเตียนไม่ชอบเธออย่างมากเธอรู้สึกราวกับว่ามีเข็ม 10,000 เล่ม แทงไปที่หัวใจ มันเจ็บปวด น่าอาย และน่ารำคาญมาก อย่างไรก็ตาม เธอกลัวเซบาสเตียนจับใจเธอกำลังจะพูดอีกสองสามอย่างด้วยน้ำเสียงอันน่ารักที่ตรงข้ามกับความจริงของเธอ แต่สายนั้นก็จบลงอย่างกะทันหันหัวใจของเซลีนจมดิ่งลง “มีอะไรเหรอเซลีน?” เจดรีบถาม“แม่คะ… นายท่านเซบาสเตียน… เขาไม่ตกลงที่จะมาหารือเรื่องการแต่งงานของเรา เขา…คงจะไม่รู้เรื่องนี่ใช่ไหมคะ?”เซลีนเริ่มร้องไห้ด้วยความกลัว “เขาคงไม่รู้ว่าหนูแอบอ้างเป็นซาบริน่าใช่ไหมคะ? แม่คะ เราควรทำอย่างไงกันดี? มือของเซบาสเตียนเปื้อนเลือดของคนนับไม่ถ้วน หนูกลัว… ”ทั้งเจดและลินคอล์นต่างก็หวาดกลัวในความคิดของพวกเขาเช่นกันทั้งครอบครัวใช้เวลาตลอดบ่ายด้วยความหวาดกลัว จนสาวใช้มารายงาน “คุณท่านคะ ซาบริน่ามาแล้วค่ะ เธอบอกว่าเธอมาที่นี่เพื่อเก็บภาพของเธอและแม่ของเธอค่ะ”“บอกมันให้ไสหัวไปซะ!” เซลีนระบายความโกรธของเธอกับซาบริน่าทันทีในขณะนี้ เซลีนทำได้เพียงมุ่งความสนใจไปที่ความหวาดกลัวเท่านั้น จนเธอลืมไปว่า เมื่อวานนี้เธอได้ขอให้ซาบริน่ามาเก็บภาพเก่า ๆ ของแม่ของ
เซบาสเตียนตกตะลึงเช่นเดียวกัน เมื่อมองไปยังหญิงสาวตรงหน้าร่างกายของซาบริน่าไร้ซึ่งการปกปิดใด ๆ และผิวของเธอแดงเล็กน้อยหลังจากการอาบน้ำ ผมสั้นและเปียกน้ำกระเซอะกระเซิงดูไม่เป็นทรง และใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือปกคลุมไปด้วยละอองหยดน้ำเซบาสเตียนสามารถเห็นทั้งร่างของเธอได้ในชั่วพริบตาเดียวขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้า เธอตัวสั่นและม้วนตัวอย่างช่วยไม่ได้เซบาสเตียนไม่ได้ใส่ใจนักเขามีรูปร่างสูงและแข็งแรง มีกล้ามเนื้อที่คมชัด ผิวคล้ำ ไหล่กว้าง และสะโพกแคบ แขนขวาที่แข็งแรงดุจเหล็กกล้าของเขามีรอยแผลเป็นที่น่ากลัวอยู่สองรอย แต่มันเน้นย้ำถึงความโดดเด่นของความเป็นผู้ชาย และการมีอำนาจที่เหนือกว่าอย่างเต็มที่เมื่อซาบริน่าเห็นรอยแผลเป็นของเขา หัวใจของเธอก็หดเล็กเป็นก้อนลูกบอลด้วยความตกใจกลัวอย่างไรก็ตาม เธอก็ยังอายกับการที่เขาเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของเธอไปเรียบร้อยแล้ว เธอปิดหน้าด้วยความตกใจ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามปกปิดมันอย่างไร บางส่วนก็ยังมองเห็นได้ เธอเอื้อมมือที่สั่นเทาออกไป เพื่อเอื้อมไปหาเสื้อคลุมอาบน้ำ ขณะที่เธอต้องการจะสวมมัน แต่มือของเธอก็สั่นอย่างบ้าคลั่ง“ฉัน… ฉันคิดว่าคุณจะไม่กลับมา ทำไม…
หัวใจของซาบริน่าตกลงไปยังตาตุ่มชั่วขณะหนึ่งแน่นอนว่าผู้ชายที่มีเกียรติและมีภูมิหลังที่ดีอย่างเซบาสเตียนจะไม่มีวันขาดคู่ควงไปอย่างแน่นอน เหตุผลที่เซบาสเตียนแต่งงานกับเธอ ก็เพียงเพื่อให้แม่ของเขาที่กำลังจะจากโลกนี้ไป จากไปโดยไม่ต้องเสียใจอย่างไรก็ตาม ซาบริน่าไม่เคยคาดคิดว่าแฟนสาวของเซบาสเตียนจะเป็นเซลีนสำหรับซาบริน่า ชีวิตของเธอเต็มไปการเยาะเย้ยผู้คนที่เคยข่มเหงเธอกลับมีความสุขและมีเกียรติมากขึ้น ในทางกลับกัน ซาบริน่าได้ทำลายอนาคตของเธอเอง เธอตั้งครรภ์ทั้งที่ยังไม่ได้แต่งงาน และไม่รู้แม้แต่ชื่อพ่อของลูกเสียด้วยซ้ำซาบริน่ารู้สึกตัวเองเป็นเหมือนตัวตลก เมื่อมองดูคู่รักที่ดูเหมาะสมกันเหมือนอยู่ในสวรรค์ดูเหมือนว่าเซลีนขอให้ซาบริน่ามาเก็บรูปแม่ของเธอเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ความตั้งใจที่แท้จริงของ เซลีน คือการจงใจอวดแฟนหนุ่มของเธอต่อหน้าซาบริน่าหลังจากปกปิดความเศร้าในใจของเธอแล้ว ซาบริน่าก็พูดอย่างใจเย็นไปว่า “ผู้หญิงที่สกปรกอย่างฉันจะหาสามีที่ร่ำรวยได้ยังไง? เมื่อกี้ฉันแค่พูดเล่น เนื่องจากคุณมีแขก ฉันจะไม่รบกวนคุณอีกต่อไป กรุณานำรูปแม่ของฉันมาให้ฉันด้วย แล้วฉันจะไปทันที”เธอไม่ได
ซาบริน่าชะงักเธอได้ยินการดูถูกของเซลีน เธออยากจะพุ่งตัวเข้าไปกรีดใบหน้าของเซลีนเสียโฉมอย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถทำอะไรหุนหันพลันแล่นได้หากเธอต้องเคลื่อนไหว การต่อสู้ย่อมรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอกลัวว่าเธออาจจะทำร้ายเด็กน้อยในท้องได้เธอหัวเราะและถามไปว่า “เธอสนใจงานประเภทนี้ไหมล่ะ?”“ชิ!” เซลีนยิ้มเย้ยหยัน “ฉันแค่เป็นห่วงสุขภาพของเธอ อย่าติดเชื้อโรคสกปรกมาล่ะ! เธอจะทำให้บ้านของฉันแปดเปื้น และทำให้บรรยากาศแถวนี้เหม็นเน่าไป”“แล้วทำไมถึงชวนฉันมาที่บ้านและยืนยันว่าฉันควรจะอยู่ทานอาหารเย็นด้วย? ฉันคิดว่าเธอสนใจงานประเภทนี้ซะอีก?” ซาบริน่าพูดอย่างใจเย็น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ครอบครัวลินน์ตายได้ ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าในขณะนี้ เซบาสเตียนกำลังจ้องมองซาบริน่าอย่างลึกซึ้งด้วยดวงตาที่เฉียบคมคู่หนึ่งซึ่งฉายรังสีของความเย็นยะเยือกออกมาผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็หยิบกุญแจขึ้นมา ยืนขึ้น และจากไป“เซบาสเตียนที่รัก คุณโกรธ… ” เซลีนวิ่งไล่ตามเขาไป“ถ้าคุณติดต่อกับผู้หญิงประเภทนี้อีก ผมจะชดเชยเงินส่วนหนึ่งให้คุณ และยกเลิกการหมั้นของเรา!” เซบาสเตียนไม่สนใจ และเขาไม่แม้แต่จะหันศีรษะกลับมามอง
“อะไรนะ?” เซบาสเตียนคิดว่าเขาได้ยินผิด“ให้เงินฉัน 50,000 ดอลลาร์! ฉันรับประกันว่าฉันจะไม่รบกวนครอบครัวลินน์อีกเลย” ซาบริน่าใช้น้ำเสียงอันสงบราวกับว่าความตายเป็นเรื่องเล็กน้อยในชีวิตเซบาสเตียนโกรธมาก เขาหัวเราะออกมา'เธอเข้าใจวิธีการเล่นจริง ๆ ด้วย'“เมื่อวานใครสัญญากับฉันว่าจะไม่ขอเงินอีก?” เขาถามเธออย่างเย้ยหยัน“คุณคิดว่าผู้หญิงที่ด่างพร้อยเล่นเกมนี้เพื่อที่จะได้อยู่กับคุณหลายต่อหลายครั้งอย่างฉันจะมีความซื่อตรงเหลืออยู่อีกไหมล่ะ?” เธอตอบอย่างเย้ยหยันเซบาสเตียนพูดไม่ออกเขาเกือบลืมไปแล้วว่าเธอไร้ยางอายเพียงใด เขาเยาะเย้ยเธออย่างไร้ความปราณี “ถ้าฉันสามารถพาเธอออกจากคุกได้ เธอคิดว่าเป็นเรื่องยากมากรึไงที่ฉันจะส่งเธอกลับเข้าไปใหม่?”ซาบริน่าพูดไม่ออกเธอรู้ว่าต้องแพ้แน่ถ้าต้องต่อรองกับเซบาสเตียนในแง่ของความโหดเหี้ยมอย่างไรก็ตาม เธอจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะได้เงินจำนวน 50,000 ดอลลาร์นี้มา เธอไม่สามารถปล่อยให้หลุมฝังศพของแม่ของเธอ ถูกขุดขึ้นมาได้ “ก็พูดถูก” เธอหลับตาลงและยิ้มอย่างไร้เรี่ยวแรง “คุณจะบีบคั้นฉันให้ตายได้ง่าย ๆ ยังไงก็ได้ เหมือนกับที่คุณบีบมดให้ตายนั่นแหละ”พ
คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม
“ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร
มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ
ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค
มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ
เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั
ซาบริน่าไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอย่างไรประโยคนั้นไม่มีเหตุผลเลย!เธอถามว่า “กำไลอะไรคะ? ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ คุณซื้อเสื้อผ้าให้ฉันแต่ไม่ได้ซื้อเครื่องประดับเลยนะ”เขาพยายามที่จะขู่กรรโชกเธอเหรอ?เธอไม่ได้ขโมยกำไลของเขามา!น้ำเสียงเยือกเย็นของเซบาสเตียนไม่เปลี่ยนไป “ฉันถามถึงกำไลเมื่อหกปีที่แล้ว!”สิ่งนี้ทำให้ซาบริน่าพูดไม่ออกก่อนจะออกมาจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้เมื่อหกปีที่แล้ว เธอได้ทิ้งกำไลนั้นไว้พร้อมกับร่างของป้าเกรซ ซาบริน่าอยากให้กำไลเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเธอ ดังนั้น เธอจึงทิ้งมันไว้ที่นั่นเพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนป้าเกรซ ในตอนนั้น มันคือสิ่งเดียวที่ซาบริน่าสามารถทำได้เพื่อเกรซหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง ซาบริน่ากล่าวว่า “ฉันคงจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วถ้าคุณไม่ได้พูดขึ้นมา ฉันพยายามคืนให้คุณเมื่อหกปีที่แล้ว แต่ในตอนนั้นคุณไม่ยอมรับมันไว้ คุณบอกว่าฉันควรเป็นคนเก็บมันไว้เพราะแม่ของคุณให้ฉัน แล้วทำไมคุณถึงต้องการมันคืนในตอนนี้ล่ะ?”ในขณะนั้น เซบาสเตียนรู้สึกเหมือนเพิ่งถูกซาบริน่าตำหนิและไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรแต่มันยังทำให้เขาโกรธอีกด้วย!ความเข้าใจผิดต่อเซบาสเตียนดูเหมือนจะเป็นงานอดิเรกของเธ
ไอโนะถามว่า “... ลุงคิงส์ตันคะ ยิงปืนนัดเดียวได้นักสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?” อย่างไรคำศัพท์ของเด็กหญิงตัวน้อยก็ยังพัฒนาไม่เต็มที่คิงส์ตันตอบว่า “มันหมายความว่า…” ขณะกำลังจะอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหญิงตัวน้อย เขาสังเกตเห็นการแสดงออกที่เย็นชาบนใบหน้าของนายน้อยจากกระจกมองหลัง เขาหุบปากทันทีคิงส์ตันเรียนรู้วิธีอ่านท่าทางของนายท่านเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหญิงจะไม่ได้มีทักษะนั้น เมื่อเธอเห็นว่าคิงส์ตันไม่ตอบคำถามของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็หันไปหาพ่อตูดหมึกของเธอ กลอกตาและถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอถามคุณหน่อยเถอะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหมายความว่าอะไรคะ?”ในตอนนี้ ไอโนะไม่ต้องพึ่งพาอ้อมกอดของพ่อเหมือนที่เธอเคยได้รับที่บ้านเก่าแก่หลังนั้นอีกต่อไป อันที่จริงเธอไม่อยากเรียกเขาว่าพ่อด้วยซ้ำเพราะว่ามีแค่พวกเขาสองคน เธอรู้สึกโกรธเล็กน้อยด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่าพ่อของเธอจะเป็นคนใจร้าย แต่ก็มีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะจับเขาไอโนะเกลียดเรื่องนี้!เมื่อเซบาสเตียนเห็นสีหน้าไม่พอใจของเด็กหญิงตัวน้อย เขาไม่รู้ว่าเธออยากหัวเราะหรือร้องไห้แทนที่จะตอบไอโนะ เขากลับสวนกลับด้วยคำถามอื่น “ทำไมหนูถึ
ถ้านายท่านอาวุโสชอว์ไม่เอ่ยถึงกำไลนั้น เซบาสเตียนคงลืมมันไปแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่แม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ เธอได้มอบกำไลให้ซาบริน่า ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของตระกูลอันประเมินค่ามิได้นายท่านอาวุโสชอว์กล่าวต่อ “เซบาสเตียน ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนั้นกำลังวางแผนต่อต้านนายอยู่แน่ ๆ ลองคิดดู เธอทำร้ายไนเจล เซย์นนายน้อยแห่งตระกูลสมิธ หรือแม้แต่มาร์คัสมากแค่ไหน“เธอไม่สามารถเทียบได้กับแม่ของนายได้“ผู้หญิงแบบนั้นจะสามารถสอนลูกของนายให้ถูกต้องได้อย่างไร?”เซบาสเตียนฝืนยิ้ม “ตอนนี้ลูกสาวของผมอยู่กับผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่ของเธอ?!“นายท่านอาวุโสชอว์ด่วนสรุปเกินไปแล้วนะครับ!“สำหรับการอบรมลูกสาวของผม ผมไม่ต้องการให้บุคคลภายนอกมาแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำเช่นนั้น นายท่านอาวุโสชอว์ คุณควรให้ความสำคัญกับการอบรมหลานสาวของคุณเองอย่างเหมาะสม คุณจะได้หยุดดูหมิ่นตัวเองต่อหน้าตระกูลฟอร์ดสักที!”หลังจากพูดอย่างนั้น เซบาสเตียนก็อุ้มไอโนะไว้ในอ้อมแขนและพยายามจะออกจากห้องโถงไป“เซบาสเตียน!” เฮนรี่ตะโกน “จะไปไหน นายบอกว่าเราจะทานข้าวกับไอโนะไม่ใช่เหรอ? ย่าของนายเตรียมของขวัญมากมายไว้ให้เธอแล้วนะ เซบาสเตียน…”เ