เซบาสเตียนถึงกับอึ้ง ข้างหลังของพวกเขา คิงส์ตันก็อึ้งเช่นกันแม้แต่เซลีนที่ควงแขนเซบาสเตียนก็ยังตกตะลึง เธอต้องการให้ ซาบริน่ามาสร้างสถานการณ์ แต่เมื่อซาบริน่ามาทำเช่นนั้น เซลีนก็กลัว ท้ายที่สุดแล้วความรู้สึกของเซบาสเตียนที่มีต่อซาบริน่าก็ไม่ใช่ความรู้สึกในแง่ลบซาบริน่าไม่ได้ร้องไห้ เธอกำลังคุยเรื่องนี้กับเซบาสเตียนอย่างใจเย็นเซบาสเตียนมองไปที่ซาบริน่าอย่างสงบและมั่นคง แต่น้ำเสียงของเขาเย็นชาจนทำให้พวกเขาสั่นเทา “เธอพูดอะไรน่ะ? เธอพูดอีกทีได้ไหม?”ซาบริน่าคว้าเซบาสเตียนไว้ “เซบาสเตียน ฉันรู้ว่าทำไมคุณถึงแต่งงานกับเซลีน คุณไม่รักเธอใช่ไหม? คุณแต่งงานกับเธอเพียงเพราะเธอใช้ร่างกายช่วยคุณไว้และเธอตั้งท้องลูกของคุณ แต่เซบาสเตียน ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เธอ เป็นฉันเอง ผู้หญิงที่ช่วยชีวิตคุณและตั้งท้องคือฉัน คุณเคยถามฉันไม่ใช่เหรอว่าลูกในท้องของฉันเป็นลูกของใคร? ฉันจะบอกคุณตอนนี้เลย เด็กในท้องของฉันเป็นลูกของคุณ เป็นลูกของคุณ และผู้หญิงในคืนนั้นคือฉัน”“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว!” ในรถที่อยู่ไม่ห่างออกไป เจดเข้ามาคว้าแขนของลินคอล์น เธอไม่สนใจภาพลักษณ์ของเธอ ขณะที่เธอเริ่มด่าว่าซาบริน่า “ซาบริน่า
แม้จะเป็นเช่นนั้น ซาบริน่าก็ไม่ได้สนใจ “เซบาสเตียน คุณจำคืนฝนตกนั้นได้ไหม? คืนที่ฝนตก คุณอยู่ในบ้านที่มืดมิด และคุณถามฉันด้วยท่าทีเย็นชาว่าฉันกำลังขายเรือนร่างของฉันอยู่ใช่ไหม ฉันร้องไห้และฉันก็ปฏิเสธไป คุณยังรู้สึกประหลาดใจและถามฉันด้วยว่านี่เป็นครั้งแรกของฉันรึเปล่า คุณจำได้ใช่ไหม? เซบาสเตียน?”เมื่อถึงจุดนั้น ใบหน้าของซาบริน่าก็แดง เธอไม่สนใจสิ่งอื่นใดแล้ว เธอเพียงต้องการให้เซบาสเตียนรู้ความจริงเท่านั้น เธอไม่สามารถปล่อยให้ลูกของเธอเสียโอกาสที่จะได้รู้จักพ่อของเขา เธอไม่สามารถให้ใครเข้ามาแทนที่เธอได้“พวกตระกูลลินน์… ในตอนนั้นพวกตระกูลลินน์ไม่ได้จะพยายามช่วยคุณเลย พวกเขาต้องการจะฆ่าคุณด้วยซ้ำ พวกเขากังวลว่าถ้าพวกเขาใช้หญิงโสเภณีมาทำเรื่องนี้ พวกเธอจะไม่สามารถเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับได้ ดังนั้น ลินคอล์นจึงไปพบฉันในเรือนจำ ลินคอล์นไม่คาดคิดว่าคุณจะพลิกสถานการณ์แบบนั้นได้ เมื่อเขาเห็นว่าคุณสามารถโต้กลับไปได้ เขาจึงให้ฉันปลอมตัวเป็นลูกสาวของเขา และบอกคุณว่าคนในคืนนั้นคือเซลีน เขาอยากให้คุณติดหนี้บุญคุณตระกูลลินน์ และอยากให้คุณแต่งงานกับเซลีน เซบาสเตียน คุณเป็นคนฉลาดและเด็ดเดี่ยว
ในขณะนั้น ซาบริน่าไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังใด ๆ สิ่งเดียวที่เธอคิดคือเธอต้องทำทุกวิถีทางเพื่อโน้มน้าวเซบาสเตียนให้ได้ นั่นคือความหวังทั้งหมดของเธอ เธอไม่สนใจว่าเธอจะต้องเสียสละชีวิตตนเองไปหรือไม่ เธอต่อสู้ดิ้นรนที่จะหลุดออกมาจากบอดี้การ์ดทั้งสี่คน ซาบริน่ากัดแขนบอดี้การ์ดคนหนึ่ง เขาคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และเผลอปล่อยมือออกซาบริน่าดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง และบอดี้การ์ดคนสุดท้ายก็ไม่สามารถรั้งซาบริน่าไว้ได้เช่นกันซาบริน่าวิ่งตรงไปที่เซบาสเตียน“เซบาสเตียน! คุณจะปล่อยให้ลูกชายคุณเดินตามทางที่คุณเคยเดินใช่ไหม? คุณลืมไปแล้วเหรอว่าในชีวิตของป้าเกรซ เธอต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหน? เซบาสเตียน… ” ซาบริน่าร้องตะโกนออกมาตอนนั้นเองที่เซบาสเตียนโกรธจัด เขาปล่อยมือจากเซลีนแล้วหันกลับไปหาซาบริน่า เท้าของซาบริน่าไม่มั่นคง และเธอก็พิงกระเป๋าเดินทางของเธออยู่ เธอเงยหน้ามองไปที่เซบาสเตียน และพูดอย่างจริงใจว่า “เซบาสเตียน ฉันคือผู้หญิงที่ช่วยคุณไว้… คุณต้องแต่งงานกับฉันนะ เซบาสเตียน…”“เลิกเพ้อเจ้อสักที!” ข้างหลังพวกเขา นายท่านผู้อาวุโสฟอร์ดมาถึงพอดีเมื่อมองไปที่ความพยายามอย่างกล้าหาญของซาบริน่าในกา
“ผู้หญิงที่ไร้ศีลธรรมแบบนี้ ต้องปาไข่เน่าใส่ให้รู้สำนึก!!”“อย่าไปมีเมตตาอะไรกับผู้หญิงแบบนี้เลย นายท่านผู้อาวุโสฟอร์ด การปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ใกล้ ๆ ก็รังแต่จะนำความโชคร้ายเข้ามาเท่านั้น!”แขกเหรื่อในงานแต่งงานต่างพากันเรียกร้องออกมา เฮนรี่มองดูซาบริน่าด้วยความโกรธ ซาบริน่ามองเซบาสเตียนด้วยใบหน้าที่มีความหวัง น้ำเสียงของเซบาสเตียนสงบอย่างน่าประหลาดใจ “ซาบริน่า เธอล้ำเส้นเกินไปแล้ว!”น้ำเสียงของเขาทำให้แขกรับเชิญหนาวสั่นไปตามกัน“ฉัน เซบาสเตียน จะแต่งงานเพียงครั้งเดียวในชีวิต ทำไมเธอถึงพยายามทำลายเรื่องนี้ล่ะ? ตอนที่เธอเซ็นสัญญากับฉัน ฉันสัญญาว่าจะให้เงินก้อนโตกับเธอ แต่เธอบอกว่าอะไร เธอบอกว่าเธอมีมิตรภาพที่แท้จริงกับแม่ของฉัน และไม่ได้ทำเรื่องทั้งหมดนั่นเพื่อเงิน แต่ตอนนี้เธอกำลังพยายามที่จะทำลายงานแต่งงานของฉันอีกเหรอ?”เมื่อซาบริน่าเริ่มพูดขึ้น “เซบาสเตียน…”“ไสหัวไป!” เซบาสเตียนก็ตะโกนขึ้นมาทันทีเสียงนั่นดังมากเสียจนทำให้ชายคนหนึ่งที่อยู่ห่างจากตรงนั้นยี่สิบเมตรซึ่งกำลังบันทึกภาพทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นเกิดอาการสั่นกลัวจนทำกล้องในมือหล่นลงพื้น“ไสหัวไป!” เซบาสเตียนพูดอ
รถบรรทุกขับผ่านซาบริน่าไปทางขวา และซาบริน่าก็กลิ้งไปข้างถนนจากแรงผลักนั้น ซึ่งข้างทางเป็นหน้าผาทันใดนั้น หัวใจของซาบริน่าก็สิ้นหวังอย่างมาก เธอสัมผัสได้ว่าถ้าตกลงไป ไม่เพียงแต่จะสูญเสียลูกน้อยไป แต่เธออาจถึงขั้นเสียชีวิตด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย เธอรู้สึกว่ามีร่างชายคนหนึ่งโอบกอดเธอเอาไว้ชายคนนั้นใช้ร่างกายของตัวเองปกป้องซาบริน่า แขนของเขาปกป้องเธอเอาไว้ เมื่อทั้งสองเริ่มกลิ้งลงจากหน้าผา ซาบริน่าร้องด้วยความตกใจ ชายคนนั้นใช้แขนอย่างชำนาญและรวดเร็วคว้าหินที่แหลมคมเอาไว้ มือข้างหนึ่งก็จับซาบริน่าไว้เช่นกัน ทั้งสองคนจึงไม่ตกลงไปซาบริน่าอ้าปากค้างด้วยความตกใจ จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองและอุทานออกมา “เซย์น คุณเองเหรอ? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”หน้าผากของเซย์นเต็มไปด้วยเหงื่อและคำพูดของเขาก็ติดขัด “ซาบริน่า ฉันได้ยินจากนายน้อยชอว์ระหว่างทางมาที่นี่ เธอ… เด็กในท้องเป็นลูกของเซบาสเตียนใช่ไหม?”ซาบริน่าร้องไห้ออกมา “เขา… เขาไม่ต้องการลูกของฉันอีกแล้ว เขาไม่เชื่ออะไรฉันเลยแม้ว่าจะพูดความจริงทุกอย่างออกไปแล้ว เขาบอกบอดี้การ์ดให้กรีดคอตัวเองทิ้งไปซะ ถ้าฉันยังกล้ากลับไปทำลายงานแต่งง
ซาบริน่ารู้สึกได้ถึงความปลอดภัยจากก้นบึ้งของหัวใจเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าในช่วงสองเดือนที่เธออยู่ในเซ้าท์ ซิตี้ เธอได้รู้จักกับเซบาสเตียน ได้รู้จักกับไนเจล และแม้กระทั่งพยายามยืมเงินจากมาร์คัสมาก่อนคนเดียวที่เธอไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ด้วยก็คือเซย์น ทุกครั้งที่เธอเห็นไนเจล เธอจะเห็นเซย์นอยู่กับเขา และทุกครั้งเซย์นก็จะไม่พูดอะไรกับเธอ เพียงแค่จะยิ้มอย่างแผ่วเบาให้เธอเท่านั้น เธอคาดไม่ถึงว่าคนที่จะช่วยเธอไว้ได้ในวันนี้คือเซย์น“ขอบคุณนะคะ นายน้อยสมิธ… ” ซาบริน่าพูดเบา ๆเซย์นปลอบโยนเธอ “เราจะปลอดภัยหลังจากที่เราออกจากเซ้าท์ ซิตี้ได้แล้ว ถ้ามีโอกาส เราก็จะกลับมาอีกในอนาคตได้”ซาบริน่าส่ายศีรษะด้วยความมุ่งมั่น “ฉันจะไม่กลับมาที่เซ้าท์ ซิตี้อีกแล้วค่ะ คน ๆ นั้น ฉันก็จะไม่ไปพบเขาอีกแล้ว ตอนที่เด็กน้อยเกิดมา ฉันจะบอกว่าพ่อของเขาตายไปแล้ว”ลาก่อนเซ้าท์ ซิตี้! ลาก่อนเซบาสเตียน! เซบาสเตียนก็คงไม่อยากเจอเธออีกเช่นกัน ในขณะนั้น เซบาสเตียนคงกำลังจับมือของเซลีนในงานแต่งงาน น้ำตาได้บดบังการมองเห็นของซาบริน่าไปอย่างสิ้นเชิงแล้วในอีกด้านหนึ่ง เซบาสเตียนไม่ได้เดินเข้าไปในห้องโถงจัดงานแต่งงานกับเซลี
เซลีนพูดไม่ออก ปากของเธออ้าค้างด้วยความตกใจ ดวงตาก็เบิกกว้างมองไปที่เซบาสเตียนที่ไม่แม้แต่จะมองเจ้าสาวเลย “นาย… นายน้อย ทำ… ทำไมถึงพูดออกไปอย่างนั้นละคะ? ทำไม..?”ด้านหลังพวกเขา แขกที่มาร่วมงานต่างตกตะลึงลินคอล์นและเจดที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหลักกำลังตื่นตระหนก วินาทีที่แล้ว พวกเขามีความสุขมาก แต่ในตอนนี้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังดิ่งลงไปในหลุมลึก ทั้งสองคนรู้สึกเหมือนกำลังจะตายเจดรีบถามด้วยน้ำเสียงประชดประชันไปว่า “ทำไมล่ะ นายน้อยเซบาสเตียน? ทำไมคุณถึงทำแบบนี้? เด็กในท้องของเซลีนเป็นลูกของคุณ นั่นคือลูกของคุณนะ!”แม้แต่เฮนรี่ก็ถามด้วยความสงสัย “เซบาสเตียน นี่มันมากเกินไปแล้วนะ งานแต่งงานดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว และหนูลินน์ก็อุ้มท้องลูกของแกไว้ด้วย มันสายเกินไปแล้วนะถ้าจะบอกว่าแกไม่ต้องการแต่งงานตอนนี้!”อย่างไรก็ตาม เฮนรี่รู้ว่ามันเป็นเพียงคำพูด เขารู้ว่าหลานชายจะไม่เชื่อฟังเขาอย่างแน่นอน เซบาสเตียนไม่ฟังใครเลย เซบาสเตียนไม่ได้ให้คำอธิบาย และเพียงบอกกับบาทหลวงไปว่า “ฉันไม่ต้องการแต่งงานกับเธอ”จากนั้น เขาก็หันหลังกลับและจากไป ไม่มีแขกคนใดกล้าพูดอะไรออกมา แต่บางคนก็ยินดี เพราะทั้งเซ้าท์ ซ
“ครับ นายน้อย!” บอดี้การ์ดตอบรับคำสั่งขาของเซลีนสั่นคลอนและเธอเกือบจะล้มลงกับพื้น เหตุผลเดียวที่เธอไม่ล้มลงก็เพราะว่าบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างกายช่วยประคองไว้ บอดี้การ์ดของเซบาสเตียนได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เนื่องจาก เซบาสเตียนสั่งให้พวกเขาดูแลเซลีน และทำให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเด็กในท้องของเซลีน จึงเป็นเรื่องปกติที่บอดี้การ์ดอย่างพวกเขาต้องรับผิดชอบถึงกระนั้น ลินคอล์นและเจดทั้งคู่ต่างก็ล้มพับลงกับพื้น ไร้การตอบสนองจากทั้งสองคนเป็นเวลานาน พวกเขาเพียงแค่เฝ้าดู และตกตะลึงเมื่อเซบาสเตียนเดินจากไป“ไม่นะ…” เจดร้องโหยหวน แล้วก็หมดสติไปในทันทีลินคอล์นจ้องมองภรรยาของตน และบอดี้การ์ดสองคนที่กำลังประคองลูกสาวของเขาอย่างท้อแท้พวกเขาทั้งสามถูกกักขัง และได้รับการปรนนิบัติราวกับอาชญากรหลังจากออกจากห้องโถง เซบาสเตียนเดินมาถึงรถ และคิงส์ตันกำลังรอเขาอยู่ “นายน้อย ซาบริน่าถูกรถบรรทุกชน และตอนนี้ไม่ทราบที่อยู่ของเธอ คนขับก็หนีไปด้วย”เซบาสเตียนตอบไปว่า “เข้าใจแล้ว”“นายน้อย คุณกำลังจะไปไหนตอนนี้?” คิงส์ตันถามด้วยความเป็นห่วงคิงส์ตันพอใจมากที่เซบาสเตียนยกเลิกงานแต่งงาน เขาไม่เคยเห็น