คุณกรกนกได้ฟังน้ำตาเอ่อล้นขอบดวงตากลมโต ก่อนหลั่งไหลออกมาเป็นทาง ความรู้สึกผิดมากมายถาโถมเข้ามาจนปวดหนึบไปทั้งใจเช่นเดียวกับราเชนทร์ที่รู้สึกปวดแน่นหน้าอกไปหมด ร่างกายแข็งทื่อ น้ำตาลูกผู้ชายพลันไหลออกมาอย่างไม่อาย ทุกภาพที่เขาทำร้ายจิตใจเธอและลูกชายเข้ามาในสมอง ภาพแล้วภาพเล่าไม่มีภาพที่เขาจะทำดีกับเธอเลยสักครั้ง"เพื่อนรักที่คุณพี่ว่าคือคุณเอกชัย เพื่อนชาวไทยคนนั้นงั้นเหรอคะ""ใช่แล้ว เอกชัยเคยมีบุญคุณกับผม เพราะเขาเคยช่วยชีวิตผมเอาไว้" เสียงคุณเจสันอ่อนลงอย่างเหนื่อยล้า"แล้วทำไมคุณพี่ ถึงไม่บอกตั้งแต่ต้น ฮึก ปล่อยให้อิฉันกับลูกทำผิดต่อหนูแอมมี่มากมาย ฮึก แล้วแบบนี้ดิฉันกับลูกจะมองหน้าหนูแอมมี่ได้ยังไง" ดวงหน้าที่เคยสวยงามซีดเผือกลงกล่าวเสียงแหบสะอื้น"แล้วคุณกับลูกเคยฟังผมหรือเปล่า นอกจากโวยวายและเกลียดชังหนูแอมมี่ขนาดนั้นตั้งแต่ก้าวแรกที่หนูแอมมี่เข้ามาอยู่ในบ้านนี้""แด๊ดครับ ผมสัญญา ผมจะไปตามเเอมมี่กลับมาเอง และผมจะไม่ทำผิดต่อเธออีก ตอนนี้ผมรู้ใจตัวเองแล้วครับ ว่าผมรักเธอ ถึงแม้มันอาจจะสายไปหน่อย แต่ผมสัญญาครับ หากน้องเเอมมี่ยังรักผมอย่างที่แด๊ดบอก สักวันเธอคงให้อภัยผมได้ ฝากงาน
ทุกคนสีหน้าดีขึ้นยิ้มได้เมื่อได้รับคำชม"เอาล่ะ จบการประชุมได้ ฝ่ายการบัญชีเดี๋ยวเลิกประชุมแล้ว ช่วยเอา บัญชีทั้งหมดตลอดระยะเวลาเดือนที่ผมไม่อยู่ เอาแฟ้มทั้งหมดไปไว้ที่ห้องผมด้วย"" ค่ะท่าน เดี๋ยวดิฉันจะรีบจัดการค่ะ" หญิงสาววัยกลางคนสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงคมดุของท่านประธาน ถึงแม้จะโกนหนวดเครา ออกไปจนเกลี้ยงกราวเต็มไปด้วยความหล่อเหลา จนสาว ๆ เดินใจสั่นไม่เป็นท่า แต่ใคร ๆ ในบริษัทก็รู้ ว่าสำหรับเรื่องงานแล้ว เจ้านายหนุ่มสุดหล่อให้ความสำคัญมากแค่ไหน หากใครทำผิดพลาด หรือคิดคดโกงบริษัท เจ้านายหนุ่มคนนี้ก็ไม่คิดที่จะปล่อยเอาไว้แน่"เจ้านายครับ สายของเรา ทำงานไวกว่าที่คิด นี่ครับข้อมูลคุณแอมมี่ ดูเหมือนคุณแอมจะรู้จักกับคุณสตีฟ นักธุรกิจไฟแรงด้านการส่งออกคนหนึ่งของที่นี่ด้วยครับ" ซองสีน้ำตาลถูกยื่นมาด้านหน้าของราเชนทร์ ชายหนุ่มรับซองสีน้ำตาลหยิบรูปต่าง ๆ ออกมาดูด้วยความหงุดหงิดและรู้สึกขัดใจปนหึงหวง"บ้าชะมัด คิดจะหาพ่อ ให้ลูกของฉันหรือยังไง""เออ ว่าไงนะครับเจ้านาย"ทอมนึกว่าเจ้านายหนุ่มกำลังต่อว่าตนเองจึงกล่าวถาม"แกจะไม่ยุ่งสักเรื่องได้มั้ยทอม แกออกไปเลย ฉันขออยู่เงียบ ๆ""ครับเจ้านาย" ท
ด้านหน้าอพาร์ทเม้นท์ที่มีสภาพเสื่อมโทรม หากเทียบกับเมืองไทยแล้วไม่ต่างกับสลัมดี ๆ นี่เอง“แย่ขนาดนี้ ยังกล้าพาลูกมาอยู่ได้ แอมมี่พี่ต้องทำโทษเธอแน่” ชายหนุ่มคาดโทษหญิงสาว โดยที่ไม่คิดว่าตนเองก็มีส่วนผิดอยู่ด้วย ที่ทำให้หญิงสาวต้องมาตกระกำลำบากเช่นนี้ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้อง ทำให้นิคนึกว่ามารดาคงลืมของอะไรและกลับมาเอาเป็นแน่“เอ๊ะ หรือว่าหม่ามี๊จะลืมของ” หนุ่มน้อยทำหน้าสงสัยพึมพำกับตนเอง ก่อนที่จะเดินไปที่ประตูปลดล็อคค่อย ๆ เงยหน้าเล็กมองสบตาร่างสูงใหญ่โต เมื่อดวงตาของเขาของทั้งสองคนมองสบตากันนิ่ง ก่อนที่หนุ่มน้อยจะรีบดันประตูเพื่อปิด แต่สู้แรงของคนตัวโตกว่าไม่ได้ ราเชนทร์ใช้แรงเพียงน้อยนิด ก็สามารถผลักประตูให้เปิดออกกว้าง จนเด็กน้อยถึงกับร่นถอยหลังไม่เป็นท่าจนเกือบล้ม“คุณมาที่นี่ทำไมฮะ พวกเราไม่ได้นำของมีค่าในบ้านของคุณมาด้วยสักหน่อย” นิคหน้าซีดความกลัวเข้ามาถาโถม“ใครบอก พวกเธอนำของมีค่าในบ้านของฉันไปตั้งสองอย่าง”“ว่าไงนะฮะ เป็นไปไม่ได้หรอกฮะ ขนาดเงินของคุณปู่เจสัน คุณยังยึดไปหมดเลย ผมกับหม่ามี้ก็มีเพียงแค่กระเป๋าเสื้อผ้าเอกสารเดินทางและเงินที่เหลืออีกนิดหน่อย ถึงเราจะ
คำสั่งทรงอำนาจที่ดังขึ้น ทำให้การ์ดทั้งสองคร่อมศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะเดินแยกจากไป ชายหนุ่มค่อย ๆ ดึงประตูปิดเบา ๆ เดินมาหาเด็กน้อยที่กำลังวาดรูปอยู่อย่างตั้งใจ ไม่ยอมเงยหน้ามามองชายหนุ่ม จนชายหนุ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเพียงอากาศความว่างเปล่าไร้ตัวตน จากคนที่ตัวเองคิดว่าต้องเป็นลูกชายเขาแน่"เฮ้ หนุ่มน้อย นายจะไม่คุยกับฉันหน่อยเหรอ""คุณจะหาของในห้องก็หาไปเถอะฮะ" หนุ่มน้อยตอบอย่างเฉยเมย ในหัวใจดวงเล็ก ๆ ปวดหนึบแทบหลั่งเลือด กับคำกล่าวหาที่ว่าตัวเองและแม่เป็นหัวขโมย"ทำไมคุณไม่หาของของคุณสักทีล่ะฮะ เชิญตามสบายนะฮะ ผมง่วง ถ้าคุณออกไปจากห้องนี้ก็อย่าลืมกดล็อคห้องให้ผมด้วยนะฮะ"ร่างเล็กหน้าเศร้าจนดูน่าสงสารลุกขึ้นยืนเดิน เข้าไปในห้องนอนเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ ดันประตูห้องนอนปิดเบา ๆ โดยที่ไม่ล็อคเสียงสะอื้นให้เบา ๆ ที่ดังเล็ดลอดออกมา ทำให้ชายหนุ่มต้องไปแอบแง้มบานประตูมองภาพแสนสะเทือนใจตรงหน้าอย่างรู้สึกผิด ร่างเล็กกำลังนอนคว่ำหน้าบนเตียงกลางเก่ากลางใหม่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเบา ๆ อย่างพยายามเก็บกั้นเสียงสุดกำลังชายหนุ่มหันมามองสำรวจรอบห้องที่แสนคับแคบ มีขนาดยังไม่เท่าห้องนอนของเขาเลย"นี่เรา
"ได้ครับเจ้านาย""ผลตรวจดีเอ็นเอ ฉันต้องการรู้ไวที่สุด" "ครับ" ร่างเล็กของนิคที่หลับไหลไปนานสองชั่วโมงกว่า ค่อย ๆ ขยับตัวด้วยความหิว เพราะต้องประหยัดของกินในห้องให้มากที่สุด เขารู้ฐานะของตนเองและแม่ว่ากำลังจะไม่มีเงินเหลือพอให้ถึงสิ้นเดือนนี้แล้ว กว่าเงินเดือนของมารดาจะออก เขาเองก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองกับแม่จะใช้ชีวิตยังไงต่อไปเพราะมารดาเพิ่งไปทำงานได้เพียงแค่สามวันเท่านั้น ระหว่างเขากับมารดาไม่เคยมีความลับอะไรต่อกันยกเว้นบางเรื่อง ที่เป็นเรื่องน่าหนักใจจนเครียด มารดามักจะเก็บเอาไว้กับตัวเพียงคนเดียว เพราะไม่อยากให้หนูน้อยต้องเคร่งเครียดคิดมาก แต่นิคก็รู้อยู่เสมอถึงความทุกข์ใจของมารดา"ตื่นแล้วเหรอนิค มาสิ มากินอาหาร ฉันซื้อของอร่อยมากมายเชียวนะ"ราเชนทร์แทบอยากจะเรียกนิคว่าลูกสักครั้ง แต่ตอนนี้เขายังไม่มีหลักฐานอะไร จึงทำได้แค่เพียง ใจเย็นก่อนเท่านั้น จนกว่าผลดีเอ็นเอจะออกมา"ทำไมคุณยังไม่ไปอีกล่ะฮะ หรือว่าคุณยังหาของสองชิ้นนั้นไม่เจอ ในห้องนี้ก็มีเพียงเท่านี้ล่ะฮะ แต่ถ้าคุณไม่พอใจ อยากจะทำให้มากกว่านี้ จะแจ้งตำรวจมาจับผมกับแม่ก็ได้นะฮะ จะได้สาแก่ใจของคุณ"หนูน้อยกล่าวอย่างเย็นชาปนสิ
"แน่นอน ตอนนี้แด๊ดรู้แล้วเมื่อกี้แด๊ดพึ่งเปิดดูผลตรวจดีเอ็นเอของเราสองคน แด๊ดโง่มาตั้งนาน แด๊ดน่าจะเอะใจตั้งแต่ลูกไปที่เกาะแล้ว ให้อภัยแด๊ดได้หรือเปล่า"น้ำตาลูกผู้ชายร่วงหล่นอย่างไม่อับอายบุตรชายตัวน้อยตรงหน้า"ต่อให้วันนี้ นายหัวราเชนทร์ จะรู้ว่าผมเป็นลูกชายของคุณจริง ๆ ผมก็คงให้อภัยไม่ได้หรอกฮะ เพราะสิ่งที่คุณทำกับผมและหม่ามี๊ ผมยอมรับไม่ได้จริง ๆ ปล่อยฮะ"นิคดิ้นรนจะออกจากอ้อมแขนแกร่งที่ถูกบิดากอดรัดไว้แน่นอย่างรู้สึกอึดอัดและรังเกียจ ภาพที่นายหัวราเชนทร์รั้งคอเสื้อของเขายกขึ้น จนเขาเกือบจะขาดอากาศหายใจ ยังคงจำติดตาหลอกหลอนทุกครั้งที่เขานึกถึงนายหัวราเชนทร์ผู้เป็นบิดา"นั่นสินะ แด๊ดมันเลวสมควรแล้ว ที่ลูกจะไม่ให้อภัย แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อแดดดี๊ทำผิดกับลูก แด๊ดก็ยินดีที่จะรอ และพร้อมพิสูจน์ตัวเองว่าแด๊ดจะเป็นพ่อที่ดีได้ ขอเพียงให้ลูก กับหม่ามี้ให้โอกาสแด๊ดเท่านั้น"คนตัวโตพยายามกล่าววิงวอนลูกชายตัวเองอย่างมีความหวังและขอความเห็นใจ"ปล่อยผมสิฮะผมอึดอัด" เสียงเล็กโวยวายดิ้นรนขัดขืนอย่างเริ่มเอาเป็นเอาตายด้วยความรังเกียจ กับอ้อมแขนอบอุ่น ที่เขายอมรับอยู่ในใจของตนเอง ว่าเป็นสิ่งที่เขา
"นายหัวไม่สบายหรือเปล่าคะ" เธอมองชายหนุ่มเหมือนเห็นตัวประหลาด ทั้งที่ใจกำลังเจ็บปวดเมื่อเห็นเขาอีกครั้ง รักที่เธอรู้ว่าไม่มีวันได้ครอบครอง"ไม่ พี่สบายดี"คำเรียกตัวเองของราเชนทร์ ทำให้ชนิดาภาทำหน้าเหลอหลาวางตัวไม่ถูกกับความเปลี่ยนไปของร่างสูง กลิ่นน้ำหอมแบรนด์เนมของบุรุษทำให้เธอวิงเวียนเล็กน้อย"หม่ามี๊ฮะ คนพึ่งรู้จักสำนึกผิด หม่ามี้อย่าไปสนใจเลยฮะ"นิคเดินเข้ามายืนแทรกกลางระหว่างทั้งสอง หันหน้าไปหามารดา มือเล็กของนิคเอื้อมมาจับกุมมือของมารดาสบตาแป๋ว กระพริบตาเป็นสัญญาณบางอย่าง แต่หญิงสาวกลับไม่เข้าใจกับสัญญาณที่ลูกชายตัวน้อยส่งให้ รวมถึงคำพูดของลูกน้อยด้วย"สำนึกผิด สำนึกผิดอะไรเหรอลูก""ไม่มีอะไรหรอกฮะ หม่ามี๊ ผมอยากไปเดินเล่นที่สนามสาธารณะด้านหน้าหมู่บ้าน พาไปหน่อยสิฮะผมไม่อยากอยู่ในห้องนี้แล้ว เหมือนห้องนี้มีไอชั่วร้ายยังไงก็ไม่รู้"นิคทำหน้าออดอ้อนชวนมารดาไม่คิดชวนผู้เป็นบิดาเลยสักนิด"ได้สิ ขอหม่ามี๊เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วเราค่อยออกไปกัน"หญิงสาวยิ้มให้ลูกแต่ทำหน้าเย็นชาใส่ชายหนุ่มเดินเลี่ยงร่างสูงที่ยืนตัวแข็ง เพราะไม่คิดว่าเธอจะมีโหมดท่าทางแบบนี้ด้วย สงสัยง้อครั้งนี้คง
"ฉันรู้ค่ะว่าคุณเกลียดฉันมาก ฮึก ฮือ เราสองคนไม่ได้ขโมยของอะไรมาทั้งนั้น ฮึก ต่างคนต่างอยู่เถอะนะคะ อย่ารังควานกันอีกเลย"ร่างบางจูงมือของนิคพาออกเดินตรงไปที่ประตูทั้งน้ำตา อารมณ์คนท้องก็ยิ่งทำให้เธออ่อนแอ"ของสองชิ้นนั้น ก็คือเธอกับนิคไง แอมมี่"เสียงตะโกนบอกไล่หลังเธอกับนิคได้ยินชัดเจน ชื่อที่นายหัวกล่าวเรียกออกมา ทำให้หญิงสาวตกใจหน้าซีดราวกับกระดาษขาวหัวใจเต้นตูมตามไม่เป็นจังหวะร่างกายเย็นเฉียบตัวชาดิกยืนนิ่งอึ้งก้าวขาไม่ออกอยู่ที่หน้าประตู"หมายความว่า นี่คุณรู้แล้วเหรอคะ ว่าฉันคือใคร""พี่ขอโทษแอมมี่ พี่ผิดไปแล้ว ที่จำน้องแอมมี่ไม่ได้"ชายหน้าเดินไปเผชิญหน้ากับเธอ ร่างบางถูกดึงเข้ามาโอบกอดในอ้อมแขนแกร่งอย่างรวดเร็ว ศีรษะทุยสวยที่แนบสนิทกับตำแหน่งหน้าอกหัวใจของชายหนุ่ม เสียงหัวใจเต้นรัวของเขามีสภาพไม่แตกต่างกับเธอเลย"ปล่อยค่ะ ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันไม่ใช่แอมมี่ ผู้หญิงงี่เง่าคนนั้นอีกแล้ว ตอนนี้ฉันคือชนิดาภาหรือแอมที่คุณเกลียดและชิงชังต่างหาก"ดวงตากลมโตที่น้ำตาเอ่อ ขอบตาหลั่งไหลออกมาโชว์ความอ่อนแอของตนเอง ฉายความเจ็บปวดรวดร้าวมากมายภายในนั้นให้ชายหนุ่มเห็น"พี่ปล่อยก็ได้ แต่แค่ครั้ง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า แหม... นายหัวนี่ตลกนะคะ” ป้าแม่บ้านหัวเราะทั้งน้ำตาเช่นเดียวกับคุณกรกนกด้านหน้าโรงพยาบาลสามแม่ลูกพึ่งลงจากรถโดยสารสีหน้าเศร้าสร้อยไร้ซึ่งความสุข ดวงตาของชนิดาภากับนิคยังบวมเบ่งแดงก่ำ“หม่ามี้คุณย่าจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ” นิคเงยหน้าถามในขณะที่กำลังอยู่ในลิฟท์กับมารดา“แน่นอน พวกเราคือกำลังใจของท่าน ต่อไปเราจะไม่กลับไปที่เชียงรายอีก หม่ามี้ตัดสินใจแล้วที่จะขายที่นั่น เราจะอยู่ที่เกาะแก้วมายาเป็นเพื่อนและดูแลคุณย่าของหนู”“เย้ ดีจังเลยครับ ถ้าคุณย่ารู้ต้องดีใจมากแน่”รอยยิ้มดีใจของนิคที่เธอพึ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก ตั้งแต่นิคได้รู้ข่าวของบิดา เขาเศร้าตลอด จนเธอนึกเสียใจที่ตนเองมีส่วนทำลายความสุขของลูกด้วย เธอเองก็เสียใจและเจ็บปวดไม่แพ้นิคกับคนอื่นก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังก่อนเปิดเข้ามา ชนิดาภากับนิคยืนนิ่งราวกับช็อค น้ำตาทั้งสองไหลพล่านจนตัวโยน ความฐิติในใจหญิงสาวหายหมดสิ้น ขอเพียงเขายังมีชีวิตอยู่“แด๊ดยังไม่ตาย หม่ามี้แด๊ดยังไม่ตาย ไชโย” นิควิ่งเข้ากอดบิดาแน่นเช่นเดียวกับราเชนทร์ ที่อ้าแขนรอรับ“แด แด กอด นันนี่ ด้วย”เสียงใสที่ยังพูดไม่ชัดเท่าไหร่นัก กับสองแขนท
“เอ่อ... คือ... เท่าที่ผมรู้ นายหัวประสบอุบัติเหตุขากลับจากเชียงรายจนรถไหม้ทั้งคัน เมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว หลังจากมาพบคุณ”“หมายความว่า... ฮือ ฮือ เขา... เขา... ““ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีมีงานต้องไปจัดการต่อ หากเป็นไปได้รบกวนคุณแอมนำเอกสารของตัวเองและเด็กไปให้ผมด้วยนะครับ ผมจะได้ติดต่อทำเรื่องตามพินัยกรรมให้เสร็จ”“ขอบคุณค่ะที่คุณทนายอุตส่าห์เสียเวลามาที่นี่ตั้งไกล”“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ เอ่อ... ไม่ทราบว่าคุณแอมทราบหรือเปล่าครับ ว่าคุณกรกนกตอนนี้ก็กำลังอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะตรอมใจที่เสียคุณราเชนทร์ ตอนนี้กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”“พรุ่งนี้เราทั้งสามจะไปที่นั่นค่ะ ขอบคุณนะคะ พวกเราไม่เคยรู้มาก่อน อาจเป็นเพราะไม่มีใครรู้ว่าจะติดต่อพวกเราที่ไหน”ทนายความกลับไปแล้ว น้ำตาของเธอยังคงหลั่งไหลเช่นเดิม เป็นเพราะคำพูดของเธอ เขาถึงได้จากไปแบบนี้ชนิดาภานึกโทษตัวเอง ความเจ็บปวดในใจกับการสูญเสียจนนึกอยากตายตามเขาไป หากเธอไม่มีลูกให้ต้องดูแล เธอคงเลือกตามคนรักไปแล้ว เธอไม่คิดว่าเขาจะยกเงินในบัญชีมากมายให้กับเธอ นี่เขารักเธอจริงงั้นเหรอ เธอไม่น่าปฏิเสธเขาเลย “ฮือ ฮือ แอมม
“ปล่อยค่ะ ฉันมีคนรักแล้ว เกิดเขามาเห็นเข้าจะเข้าใจผิดได้นะคะ ฉันหมดรักคุณแล้ว ปล่อยเถอะค่ะ เราเป็นแค่พ่อและแม่ของนิคกับฮันนี่เท่านั้น”อ้อมแขนแกร่งหมดเรี่ยวแรงปล่อยเธอเป็นอิสระ ร่างสูงในตอนนี้เสมือนร่างไร้วิญญาณ มองดูเธออย่างรักหมดใจ น้ำตาที่หญิงสาวไม่เคยเห็นหลั่งลงมาอย่างไม่อาย “ขอบคุณที่เคยรักและจริงใจกับพี่เสมอมา พี่ไม่ดีเอง พี่มันเลว ไม่สมควรจะได้ความรักตอบจากแอมมี่หรอก ตอนนี้พี่รู้ตัวเองแล้ว ว่าพี่มันเลว ต่อให้แก้ไขตัวเองให้ดีในตอนนี้คงไม่มีความหมายสำหรับแอมมี่แล้ว ขอให้ผู้ชายคนนั้นรักแอมมี่ให้มาก ๆ และเอ็นดูลูกของเราเสมือนลูกแท้ ๆ ลาก่อน”รถยนต์วิ่งออกไปนานแล้ว แต่ชนิดาภายังคงยืนนิ่งทั้งน้ำตาอยู่ตรงนั้น ทุกคำพูดของชายหนุ่มเจ้าของหัวใจเธอยังดังก้องในหัวเหมือนคำสั่งลาไม่มีผิด จนใจดวงเล็กรู้สึกเป็นห่วงและสังหรณ์แปลก ๆ ตลอดทั้งคืนเธอนอนแทบไม่หลับ อีกทั้งยังฝันร้ายให้ต้องหวาดผวาหนึ่งเดือนต่อมาเกาะแก้วมายาเต็มไปด้วยความเศร้าเมื่อคุณกรกนกตรอมใจล้มป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล ตั้งแต่ราเชนทร์ขับรถกลับจากเชียงรายในครั้งนั้นประสบอุบัติเหตุรถยนต์ไหม้เกรียมทั้งคัน ตำรวจสันนิฐานว่าเขาตายในกองเพลิ
“เราไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามหนูแอมมี่ได้รู้มั้ย เขาหย่ากับเราตั้งนานแล้ว ตอนนี้มีแค่สถานะพ่อและแม่ของนิคกับฮันนี่เท่านั้น แค่หนูแอมมี่ไม่กีดกันการพบเจอกับลูกแกก็ดีเท่าไหร่แล้ว”คำตอบมารดาทำให้ชายหนุ่มใจห่อเหี่ยวแทบหมดแรงกายแรงใจที่จะสู้ต่อ ขากำยำทั้งสองรู้สึกเหมือนแผ่นดินตรงหน้ากำลังจะทรุดตัวลงหายไป“แต่เธอเป็นเมียผม ถึงจะเป็นเมียที่หย่าไปแล้ว แต่ผมเชื่อว่าที่ผ่านมาเธอมีผมคนเดียวแน่ ผมจะไปตามทุกคนกลับมา ผมจะแต่งงานกับแอมมี่ใหม่ ขอตัวนะครับแม่”ราเชนทร์รีบเดินขึ้นไปบนห้องอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เก็บเสื้อผ้าเข้ากระเป๋าใบเล็ก“เฮ่อ... แม่ขออวยพรให้แกสมหวังนะราเชนทร์”จ. เชียงราย ราเชนทร์เคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง เมื่อหลายปีก่อนตอนที่พัสกรกับแพรลตาจัดงานแต่งงานกัน ชายหนุ่มขับรถมาเพียงคนเดียวด้วยความรีบร้อน แม้ร่างกายยังไม่ได้พักผ่อนเลยสักนิดก็ตาม“อุ้ย พี่ราเชนทร์นั่นเอง แพรนึกว่าใครที่ไหนซะอีกค่ะ เชิญเข้าบ้านก่อนสิคะ”แพรลตายิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าแขกในยามวิกาลใกล้สามทุ่ม“ขอโทษทีนะ ที่พี่มารบกวนในตอนนี้”“รบกวนอะไรกันคะ แพรชวนพี่มาเที่ยวที่นี่ตั้งหลายครั้ง แต่พี่ก็ไม่ยอมมาเลย”“เออ... น้องแพรค
“พี่จะนอนด้วย”“ไม่ค่ะ ออกไปสิคะ”ราเชนทร์ไม่ฟังเดินเลี่ยงร่างบางในชุดนอนน่ารักเหมือนเด็กสาววัยรุ่นลายคิดตี้สีชมพูยาวเหนือหัวเข่า โชว์เรียวขาขาวนวลเนียวสวยจนเขาแอบลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหายหิว อยู่ใกล้กันแต่ไม่อาจจับเธอมากลืนกินได้ ทรมานเขาโดยแท้“แด แด มาแย้ว”มือเล็กกลมป้อมยกชูให้บิดาอุ้มปากเล็กยิ้มกว้างทั้งน้ำตาอาบแก้ม เมื่อเห็นพ่อแม่เดินมาหาตน“มาครับเด็กดี แด๊ดดี้มาแล้ว ขอนอนด้วยคนนะครับ”“นอน นอน นี่ แด้ เหม็น”หนูน้อยย่นจมูกโด่งเรียวเล็ก เมื่อได้กลิ่นเหล้าโชยมาแตะปลายจมูก ราเชนทร์กำลังจะก้มลงหอมแก้มลูกสาวโดยลืมไปว่าเขาพรมเหล้าตามเสื้อผ้าและดื่มมาเล็กน้อยตามแผนการที่หารแนะนำ เพื่อแกล้งเมาเข้าหาเมีย แต่ตอนนี้แผนเสียหมดแล้ว“ขอโทษที แด๊ดไปอาบน้ำก่อน”ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำสักพัก ก่อนออกมาในชุดเสื้อคุมเรียบร้อย ชายหนุ่มมองภาพบนเตียงอึ้งปนอิจฉาลูกสาวตัวน้อย ที่มือเล็กอวบกำลังล้วงจับแตะต้องดอกบัวตูมของมารดาเล่น“แบ่งแด๊ดเล่นด้วยได้หรือเปล่าฮันนี่”ปากกล่าวกับบุตรสาว แต่ดวงตาเร่าร้อนมองสบตาเธอ จนหญิงสาวหน้าร้อนผ่าวเขินอาย ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายครั้งแล้วครั้งเล่า ตอนนี้เขากล้
เกาะแก้วมายาตลอดทั้งอาทิตย์ที่มาอยู่ที่นี่ ชนิดาภาไม่ยอมคุยและคอยหลบหน้านายหัวราเชนทร์เสมอ ส่วนนิคกับมีความสุขกับเพื่อนเก่าบนเกาะ จนลืมความโกรธเคืองที่มีต่อบิดาและคุณย่าหมดแล้ว เขาชอบที่นี่และอยากอยู่ที่นี่ ยิ่งตอนนี้บิดากับคุณย่าเอาใจเขาทุกอย่าง จนความบาดหมางแทบไม่เหลือตามประสาเด็กโกรธง่ายลืมง่าย“นิคมานี่สิลูก” เสียงอ่อนโยนของคุณย่าเรียกขาน“มีอะไรหรือครับคุณย่า โอ้โห เรื่องเพชรเยอะจังเลยครับ”“หลานชอบชุดไหน ย่าจะยกให้ เอาเก็บไว้วันข้างหน้าเวลาหลานไปสู่ขอสาวไงลูก”“เออ... จะดีหรือครับ ตอนนี้พึ่งแปดขวบเองนะครับ อีกนานกว่าผมจะโต”“ดีสิจ๊ะ ถือว่ารับขวัญหลานชายคนโต ส่วนหลานฮันนี่ต้องชุดนี้ หลานว่าสวยมั้ย”“สวยมากครับ งั้นผมเอาก็ได้ครับ ตอนนี้ผมยังเก็บไม่เป็นให้หม่ามี้เก็บให้ได้หรือเปล่าครับคุณย่า”“ได้สิจ๊ะ ชุดใหญ่นี้ย่าจะให้หม่ามี้ของหลาน จะได้มีไว้สวมใส่ออกงานกับพ่อหนู”“คุณย่าไม่เกลียดหม่ามี้แล้วเหรอครับ” คุณกรกนกชะงักอึ้งเล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างกับคำถาม“ตอนนั้นย่าผิดไปแล้วลูก ตอนนี้ย่าปรับปรุงตัวเองแล้ว ย่าน่ะรักแม่หนูเหมือนลูกสาวคนหนึ่งแล้วล่ะ ดีมั้ย”“ดีจังเลยครับที่คุณย่ารักหม่
“คุณพี่คะ หนูแอมกับหลานกลับมาแล้วนะคะ คุณพี่มีหลานเป็นทายาทรุ่นต่อไปจากราเชนทร์แล้วนะคะ ลูกเราจะไม่อยู่โดดเดี่ยวในยามแก่ชราแล้วนะคะ นี่คือหลานสาวของเราเธอน่ารักมาก” เธอกล่าวกับสามีด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตาชนิดาภามองภาพนั้นน้ำตาซึม ไม่คิดว่าผ่านไปหลายปี คุณกรกนกจะเปลี่ยนไปมากเช่นเดียวกับนายหัว“แด๊ดครับ เมียผมกลับมาแล้วครับ” ราเชนทร์ตั้งใจพูดให้ร่างเล็กที่นั่งด้านข้างได้ยิน“นี่คุณ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะคะ”“ก็เป็นความจริงนี่”“หนูแอมบอกคุณลุงสิลูก ว่าหนูจะกลับมาอยู่ที่เกาะแก้วมายา รู้มั้ยลุงเจสันของหนูรักหนูมากแค่ไหน ป้าเองขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา ราเชนทร์รักหนูมากนะ อาจรู้ตัวช้าไปหน่อย แต่ป้าหวังว่าหนูจะให้อภัยป้าและราเชนทร์ อย่าไปไหนอีกเลยนะหนูแอมมี่”ดวงหน้าวิงวอนขอความเห็นใจจากมารดาชายหนุ่มกล่าวทั้งน้ำตาซึม ทำให้หญิงสาวไม่อาจแข็งใจตอบปฏิเสธได้“เอ่อ คือ หนู คงไม่สะดวกกลับมาอยู่ที่เกาะหรอกค่ะ เพราะหนูซื้อบ้านให้ตัวเองแล้ว”“นี่หนูจะปฏิเสธคำสั่งก่อนเสียคุณลุงงั้นเหรอ หากยังมีชีวิตอยู่เจสันคงเสียใจแย่ ฮือ ฮือ คุณพี่คะ คุณพี่ได้ยินมั้ยคะว่าหนูแอมมี่ขัดคำสั่งของคุณพี่ จะพาหลานหนีไปอีกแล้ว ฮือ
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ ไอ้หาญแกมารับแขกแทนฉันที”“ได้ครับนายหัว อุ้ย คุณแอม คุณแอมจริงด้วย สวัสดีครับคุณแอม คุณแอมไปอยู่ที่ไหนมาครับ รู้มั้ยครับนายหัวตามหาคุณแอมมาโดยตลอด คุณท่านทั้งสองก็รอคุณแอมเสมอ” ชนิดาภาทำหน้าไม่ถูกกับสิ่งที่ได้ยิน“มาสิ พี่จะพาเข้าไปกราบคุณพ่อ” มือหนายื่นโอบเอวบางบังคับออกเดิน“ปล่อยมือคุณออกเถอะค่ะ ฉันเดินไม่สะดวก”“ใช่ครับ นายหัวควรปล่อยมือจากเอวหม่ามี้ได้แล้ว”นิคที่วิ่งตามมาทันกล่าวท้วงติง แต่นิคต้องตกใจนอกจากนายหัวไม่ปล่อย ยังเอื้อมมือหนามาจับกุมมือเล็กของเขาจูงเดินไปด้วยกัน ความอุ่นที่มือทำให้ฐิติในใจนิคแทบเลือนหายผู้คนในงานต่างหันมามองภาพตรงหน้า ภาพทั้งสี่บ่งบอกถึงความเป็นครอบครัว หนูน้อยยิ้มสวยราวกับนางแบบโพสท่าไร้เดียงสาอย่างน่าเอ็นดู ทำให้บรรยากาศเศร้าหมองของงานศพเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงซุบซิบอยากรู้เริ่มดังไปทั่วงาน ไม่เว้นแม้แต่นักข่าวแชะ แชะ แชะแสงเฟลซทำให้ชนิดาภายกมือป้องตาหนูน้อยด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าจะมีกองทัพนักข่าวในงานนี้ด้วย ถึงแม้ตระกูลของนายหัวจะมีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับในต่างประเทศ“ใครคะนายหัว ช่วยตอบคำถามหน่อยค่ะ”“ภรรยากับลูกผมเองครับ
วันนี้เป็นงานศพวันสุดท้ายก่อนที่จะเผาในตอนบ่ายสามโมงเย็น คุณเจสันเมื่อก่อนนับถือคริตส์ แต่เมื่อได้แต่งงานกับภรรยาชาวไทย เขาที่ชื่นชอบความเป็นไทยก็เปลี่ยนมานับถือพุทธอย่างถาวรแพรลตากับพัสกรอยู่ช่วยงานศพได้สามวันแล้ว พวกเขาตั้งใจว่าหลังเผาศพเรียบร้อยก็จะกลับเชียงราย เหล่าคนงานทั่วเกาะและในบริษัททุกสาขาล้วนส่งตัวแทนมาช่วยงานอย่างเต็มใจราเชนทร์ที่คอยทำหน้าที่รับแขกทั้งในและนอกสีหน้าเศร้าหมองแทบไร้รอยยิ้มดวงตาคมเหลือบมองรอบงานเสมอด้วยความหวัง ว่าจะเห็นชนิดาภากับลูกบ้าง แต่ความหวังเหล่านั้นคงไม่มีแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเผา โชคดีที่สองหนุ่มน้อยมายืนเป็นเพื่อนคอยชวนคุยสร้างบรรยากาศให้ไม่เศร้าเกินไป“หม่ามี้ฮะ นั่นน้องกายกับน้องสิงห์นี่นา พวกเขารู้จักคุณปู่ด้วยเหรอครับ”นิคทำหน้าสงสัยถามมารดาอย่างตัดสินใจว่าจะเข้าไปเลยดีมั้ย อีกใจก็กลัวจะถูกคุณกรกนกกับนายหัวราเชนทร์ขับไล่ออกมา เขาและแม่กับน้องเหมารถโดยสารจากสนามบินมาที่นี่ และอยู่ในรถมาสักพักแล้วอย่างตัดสินใจไม่ได้“นี่ค่าโดยสารค่ะ ไม่ต้องทอนนะคะ ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”ทั้งสามลงจากท้ายรถโดยสารมุ่งหน้ามาที่น้องกายกับน้องสิงห์ ที่คอยทำหน้าที่รั