แชร์

บทที่ 25  

ผู้เขียน: ฮุยสี่เชว่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-07 13:23:21
จ้าวเฉียนได้รับคำสั่ง ก็รีบสาวเท้าออกไปทันที

อวี๋เหลียงเยว่เม้มปาก กล่าวด้วยเสียงนุ่มนวล “หม่อมฉันไม่เป็นอะไรเพคะ องค์รัชทายาทมิจำเป็นต้องเชิญหมอหลวงมาให้ลำบากถึงเพียงนี้”

“ไม่เป็นอะไร? หากคุกเข่านานกว่านี้ เราคงคิดว่าเจ้าไม่ต้องการหัวเข่าคู่นี้อีกแล้ว” เขาสะบัดเสื้อคลุม สายตาเคร่งขรึม

นางก้มศีรษะลง นัยน์ตารื้น น้ำตาร้อนผ่าวหยดหนึ่งร่วงลงบนชายกระโปรง นางรีบเลื่อนมือไปเช็ดออก

ฉินซือเหิงเห็นนางเป็นเช่นนี้ ความรู้สึกไม่พอใจเล็ก ๆ เมื่อครู่ก็ค่อย ๆ จางหายไป

ถึงอย่างไรอวี๋เหลียงเยว่ก็มีศักดิ์ต่ำกว่าไป๋ซื่อ หากว่าเผลอปะทะกับนางโดยไม่ระวัง ก็นับเป็นการล่วงเกิน

ทว่าเห็นนางดูน่าเวทนาสงสารถึงเพียงนี้ ก็เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจขึ้นมา ถ้อยคำตำหนิเหล่านั้นที่จ่ออยู่ตรงริมฝีปาก ก็มิได้เอื้อนเอ่ยออกมาอีก

อวี๋เหลียงเยว่รูปโฉมงามเพริศพริ้ง อุปนิสัยก็ตรงใจเขาเป็นที่สุด

หากว่าเชื่อฟังทำตามกฎระเบียบ เขาก็ไม่รังเกียจที่จะเอ็นดูมากขึ้นสักหน่อย

หมอหลวงมาถึงแทบจะทันที เพราะถึงอย่างไรอวี๋เหลียงเยว่ก็เป็นสตรี หมอหลวงเป็นบุรุษ ไม่สะดวกให้จับชีพจรโดยตรง จึงพาหมอหลวงหญิงมาด้วยอีกคนหนึ่ง

หมอหล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 26  

    ไม่นานนักตรงอกเสื้อก็เปียกชุ่มด้วยหยาดน้ำตาที่เย็นเยียบเสียแล้ว ฉินซือเหิงอึ้งงันไปครู่หนึ่ง เดิมคิดจะผลักนางออก ครั้นมือเคลื่อนมาถึงกลางอากาศ กลับสังเกตเห็นดรุณีตัวสั่นเทิ้มในอ้อมอกของเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ลงมือไม่ลงจริง ๆ ช่างเถิด… เขาลูบหลังของอวี๋เหลียงเยว่อย่างแผ่วเบา พยายามปลอบโยนนาง เรื่องที่ฉินซือเหิงก็เข้ามาเยี่ยมอวี๋เหลียงเยว่ที่เรือน ภายหลังจากถูกลงโทษคุกเข่า มิหนำซ้ำเขายังค้างที่นั่นด้วยหนึ่งคืนก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งตำหนักบูรพาแล้ว จากนั้นยังมีรางวัลอีกยาวเป็นขบวน ถูกส่งเข้าไปที่หอชมจันทร์ ไป๋ซื่ออดทนข่มโทสะไม่ไหว ฝืนความรู้สึกไม่สบายท้องไว้ ไม่สนเสียงเกลี้ยกล่อมของสาวใช้คนสนิทแล้วทั้งสิ้น ก็ถกกระโปรงขึ้นสืบเท้าเดินฉับ ๆ ตรงไปยังห้องหนังสือของฉินซือเหิงทันที ทันทีที่มาถึงหน้าประตู กลับถูกขัดขวางไว้ จ้าวเฉียนมองนางพลางยิ้มระรื่น “ไป๋เหลียงตี้มีธุระอันใด องค์รัชทายาทบัดนี้กำลังจัดการงานราชการ เกรงว่าจะไม่สะดวกพบผู้ใด” ไป๋เหลียงตี้รู้ดี ไม่ใช่ไม่สะดวกพบ แต่ไม่อยากเจอก็เท่านั้น แต่จ้าวเฉียนเป็นใคร? เขาก็คือผู้อาวุโสที่ติดตามข้างกายฉินซือเหิงมาตั้งแต่เยาว์วัย ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 27  

    แม้แต่ร้องไห้ นางยังไม่ส่งเสียงออกมา พระชายารัชทายาทเห็นบุตรีเป็นเช่นนี้ ก็สะท้อนใจเป็นที่สุด ยกแขนโอบกอดบุตรีอยู่นานครู่ใหญ่ถึงจะทำให้นางยอมกลับไปพักผ่อนได้ นับแต่เสวี่ยถวนไม่อยู่แล้ว บุตรีรู้สึกหวาดหวั่นสะพรึงกลัวอยู่ตลอด ไม่ยอมอยู่ห่างจากนางเลยสักวัน คิดถึงตัวการที่ทำให้บุตรีต้องเป็นเช่นนี้ขึ้นมา แววตาของพระชายารัชทายาทก็เยือกเย็นลง “พระชายารัชทายาท บ่าวเพิ่งได้ยินข่าวเรื่องหนึ่งมาเพคะ” จินจ่านเดินเข้ามา เห็นสีหน้าพระชายารัชทายาทไม่มีความสุข น้ำเสียงก็เจือความระมัดระวังขึ้น “มีเรื่องอันใดหรือ” หมิ่นซื่อชำเลืองมองนางปราดหนึ่ง จินจ่านขยับเข้าไปให้ขึ้นอีกสองก้าว ก่อนจะกระซิบเสียงเบา “พระชายารัชทายาทเพคะ เมื่อสักครู่นี้ไป๋ซื่อไปขอเข้าเฝ้าองค์รัชทายาท แต่ถูกปฏิเสธมิให้ผ่านประตูเพคะ” “หืม? ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ทีเดียว” พระชายารัชทายาทได้ยินเช่นนั้นในที่สุดแววตาก็ขยับเคลื่อนไหวแล้ว “บ่าวเองก็รู้สึกว่าแปลกใหม่เช่นกันเพคะ” ก่อนหน้านี้ในตำหนักบูรพาไป๋ซื่อได้รับความโปรดปรานเอ็นดูตั้งเพียงใดเชียว? ต่อให้รัชทายาทจะมีราชกิจล้นมือสักเพียงใด หากว่านางต้องการเข้าพบ ก็จะหยุดทุกอย่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 28  

    “บ่าวคิดว่า เบื้องหน้านางแสดงออกว่าเคารพยำเกรงพระชายา แต่ลับหลัง ผู้ใดเล่าจะล่วงรู้ว่านางคิดอะไร…” “เจ้านี่นะ จิตใจมนุษย์ซับซ้อน ทำให้สมานฉันท์กันได้แม้เพียงเปลือกนอกก็เพียงพอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นข้าไม่เคยคิดจะแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับพวกนาง ในตำหนักบูรพาแห่งนี้ ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ข้าก็คือพระชายารัชทายาทตลอดไป” จินจ่านมองนางพลางหลุดหัวเราะออกมา “พระชายาความคิดรอบคอบยิ่งนักเพคะ บ่าวเสียเองที่ความคิดตื้นเขิน” “เจ้าเป็นห่วงข้า ภายในหัวใจข้าย่อมรับรู้ เพียงแต่สตรีในตำหนักบูรพาแห่งนี้ก็เหมือนหมู่มวลบุปผาผลิบานในฤดูวสันต์ เด็ดทิ้งไปหนึ่งดอก ก็มีอีกดอกโผล่ขึ้นมาแล้ว เรื่องนี้จะจบสิ้นเมื่อใดหรือ? ข้ากลับคิดว่าปล่อยให้มีคนฉลาดอยู่ในตำหนักบูรพาบ้าง ก็ใช่ว่าจะเลวร้ายเสียทีเดียว” นางละทิ้งความคิดจะไปแย่งชิงความรักความโปรดปรานไปนานแล้ว บัดนี้แม้รัชทายาทจะไร้ซึ่งความเสน่หาในตัวนางแล้ว แต่อย่างน้อยความเคารพยำเกรงและตำแหน่งนางล้วนแต่ได้รับแล้วทั้งสิ้น นางพึงพอใจที่สุดแล้ว ...... ช่วงค่ำ ภายในหอชมจันทร์ “นายหญิง เหตุใดต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยเพคะ ทำแบบนี้มันคุ้มแล้วหรือเพคะ” ชิงหลิ่วมองหัวเข่าขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 29  

    ซู่จิ่นทอดถอนหายใจออกมา ก็เดินเข้าไป ค่อย ๆ เก็บเศษกระเบื้องที่แตกกระจายบนพื้นช้า พลางเอ่ยว่า “เหลียงตี้เพคะ ท่านร้องไห้อาละวาดใหญ่โตเพียงนี้ หากประเดี๋ยวรัชทายาทมาได้ยินเข้า เกรงว่าจะยิ่งโกรธกริ้วเพคะ” ได้ยินวาจานี้ ไป๋ซื่อระงับโทสะทันใด ไม่เขวี้ยงปาทำลายสิ่งของอีกแล้ว เห็นว่าได้ผล ซู่จิ่นก็เอ่ยต่อ “อวี๋ซื่ออยู่ในตำแหน่งใด เหลียงตี้อยู่ในตำแหน่งใด อย่างนางก็ย่ามใจได้แค่ชั่วขณะเท่านั้นเพคะ คิดหรือว่าจะอวดดีลำพองตนไปได้ตลอด? เหลียงตี้แค่จำเป็นต้องสงบเสงี่ยมไว้หน่อย ช้าเร็วอย่างไรองค์รัชทายาทจะต้องคิดถึงความดีของท่านขึ้นมาแน่” ในที่สุดไป๋ซื่อก็สงบสติอารมณ์ได้แล้ว เห็นนางกำลังเก็บกวาดเศษกระเบื้องบนพื้น ก็คล้ายจะมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา “เจ้าพูดมีเหตุผล เพียงแต่…หัวใจของข้า เหตุใดถึงสงบลงไม่ได้เลยก็ไม่รู้” “วันนี้ที่รัชทายาทเย็นชากับข้าก็เพราะนาง เมื่อก่อนตอนที่ข้าพยายามชิงดีชิงเด่นกับยายแก่พระชายารัชทายาทนั่น รัชทายาทยังไม่ทำกับข้าเช่นนี้ แต่บัดนี้…” ซู่จิ่นทราบดี แม้ว่าเหลียงตี้ของตนเองจะมีนิสัยโมโหร้ายหยิ่งผยองลำพองตนไปสักหน่อย แต่ลึก ๆ แล้วก็รักและเทิดทูนองค์รัชทายาทสุดดวงใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 30  

    ทว่านางมองออก อวี๋เหลียงเยว่เป็นคนสบาย ๆ เข้ามาที่แห่งนี้แล้วหลายครั้ง หากนางมิได้ให้ตนกินขนมของว่าง ก็จะเตรียมน้ำชาให้ดื่มเสมอ บ่อยครั้งก็ยังแบ่งสิ่งของที่อยู่ในส่วนของตนเองให้กับพวกนางด้วย หากเป็นเจ้านายคนอื่นยามตกรางวัลให้ใครสักคน มักจะแบ่งเอาส่วนที่เหลือที่ไม่ต้องการแล้วให้ทั้งสิ้น ทว่าทุกครั้งนางล้วนแต่แบ่งส่วนของตนเองให้พวกนางเสมอ ไม่เคยลดคุณค่าใด ๆ เพียงเพราะฐานะของพวกนางเลย นางหลับตาลงคิดถึงเรื่องราวของอวี๋เหลียงเยว่ คงเพราะเป็นคนที่เคยผ่านความลำบากมาก่อน ได้เห็นความทุกข์ยากของโลกมนุษย์มามาก จึงยิ่งเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นมากขึ้นกระมัง นางเก็บข้าวของเรียบร้อยและกำลังเตรียมจะออกไป สายตาเหลือบเห็นบรรดาสาวใช้กำลังกินขนมสดใหม่ แววตาเปี่ยมล้นด้วยความเคารพรักเทิดทูนต่ออวี๋เหลียงเยว่นายหญิงคนนี้ ก็ส่ายหัวอย่างอดไม่ได้ แม้นางจะเป็นคนของฉินมู่ แต่ฉินมู่เองก็บอกแล้ว ให้นางดูแลอวี๋เหลียงเยว่อย่างเต็มที่ หากว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่ต้องส่งข่าวไปให้เขา ดังนั้น นางจึงมองว่าตนเองเป็นคนของอวี๋เหลียงเยว่ไปชั่วคราว ได้ปรนนิบัติรับใช้นายหญิงแบบนี้ พวกนางนับว่ามีวาสนาอย่างไม่ต้องสงสัยเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 31

    ตรงกันข้าม มือกลับออกแรงกดมากขึ้นเล็กน้อย ทำให้ทิ้งรอยแดงไว้บนผิวขาวนวลนั้นอวี๋เหลียงเยว่รู้ว่าเขาไม่มีการยั้งมือในเรื่องบนเตียง จึงทำได้เพียงปรับตัวให้คุ้นชินโดยเร็วที่สุด ทำให้ตัวเองเคลิบเคลิ้มไปกับมัน นางเอาแขนเรียวขาวนวลสองข้างโอบคอฉินซือเหิงไว้ นัยน์ตาปรือหอบหายใจเล็กน้อย เมื่อรู้สึกได้ว่าคนด้านบนออกแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมา เป็นอย่างที่คิดไว้เลย บุรุษล้วนชมชอบเช่นนี้ จ้าวเฉียน ชิงหลิ่ว และคนอื่นที่อยู่ข้างนอกต่างก้มหน้าลงต่ำ ราวกับไม่ได้ยินเสียงภายในห้องเลยแม้แต่น้อย รอจนกระทั่งกะดูว่าได้เวลาพอสมควรแล้ว จ้าวเฉียนจึงสะบัดแส้ปัดในมือ สั่งให้บรรดาสาวใช้เตรียมน้ำร้อนให้เรียบร้อย รอให้บรรดาเจ้านายได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเขาเชยตามองไปยังดอกไม้ที่เบ่งบานอย่างมีชีวิตชีวาในลาน ทันใดนั้นก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาในใจ เกรงว่าวันหน้าหอชมจันทร์มีแต่จะคึกคักขึ้นเรื่อย ๆ แล้วหลังจากที่ความปรารถนาผ่านพ้นไป ฉินซือเหิงมองหญิงสาวที่แก้มแดงเปล่งปลั่งหลับตาผล็อยหลับไปในอ้อมกอด เขาได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในห้องน้ำก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมา อุ้มหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนด้วยความอารมณ์ดีอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 32

    ชิงหลิ่วไม่รู้ว่าเหตุใดจึงถามเช่นนี้ จึงทำได้เพียงพยายามเอ่ยอย่างคลุมเครือให้มากที่สุด ยิ่งเอ่ยมากก็ยิ่งผิดมากฉินซือเหิงเข้าใจกระจ่างแจ้งแล้ว หนึ่งเดือนมานี้มีคนใหม่เข้ามาในตำหนักบูรพา อวี๋เหลียงเยว่จึงอยากพึ่งพิงเขามากขึ้นเล็กน้อย...คิดว่าคงไม่สบายใจ ทว่าเมื่อเกิดการคาดเดาเช่นนี้ขึ้นมา ในใจของเขาก็เกิดความรู้สึกที่ยากจะอธิบายให้ชัดเจนขึ้นมาเล็กน้อยความรู้สึกนี้ดำเนินต่อไปจนกระทั่งเขาเข้าเฝ้าที่ท้องพระโรงถึงค่อย ๆ จางหายไป...... หลังจากเข้าเฝ้าเสร็จสิ้นแล้วกลับมาที่ตำหนักบูรพา จ้าวเฉียนก็มาช่วยเขาเปลี่ยนเป็นสวมชุดฉางฝู ยังไม่ทันนั่งลง สาวใช้ด้านนอกก็มาแจ้งว่าไป๋เหลียงตี้อาเจียนไม่หยุด ขอให้องค์รัชทายาทไปดูความหมายในคำพูดนี้มีไม่น้อยเลยจริง ๆ อาเจียนสินะ เมื่อคำนวณดูแล้วไป๋เหลียงตี้เพิ่งจะตั้งครรภ์นี้ได้แค่หนึ่งเดือน น่าจะยังไม่ถึงช่วงเวลานี้ อีกอย่างการที่สตรีมีครรภ์อาเจียน ปกติแล้วเป็นเพราะว่าได้กลิ่นอะไรบางอย่าง หรือว่ากินอะไรบางอย่าง ไม่ว่าเป็นเพราะอะไร คิดว่าไป๋เหลียงตี้คงจะสร้างเรื่องอีกแล้ว จ้าวเฉียนคิดเช่นนี้ ฉินซือเหิงลูบสร้อยประคำมันเงาบนมือแล้วสั่งการว่า “ไปเช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07
  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 33

    ข่าวที่ชิงหลิ่วส่งออกไปถูกส่งต่อไปถึงมือของฉินมู่ เขามองชื่อที่เขียนบนกระดาษจดหมายแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “สืบประวัติคนผู้นี้แล้วหรือยัง”ที่ปรึกษาใต้บังคับบัญชาพยักหน้า เอ่ยเสียงเบาว่า “กระหม่อมไปสืบแล้วพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบขององค์รัชทายาทมาโดยตลอดจริง ๆ หากเขาอยู่ในกองขนส่งเสบียง กระหม่อมคิดว่าข่าวนี้เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ” ฉินมู่ผงกศีรษะ แนวกรามที่เรียบคมเผยให้เห็นความเย็นชาอำมหิต เขานั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน แสงไฟภายในห้องสลัว ครู่ต่อมาเขาจึงถามอีกว่า “แม่นางอวี๋ในตำหนักบูรพาสบายดีหรือไม่” ที่ปรึกษามองเขาอย่างยากจะสังเกตเห็นแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้ากล่าวออกมาว่า “สบายดีไปหมดทุกอย่างพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อได้ยินคำนี้ แววตาของเขาก็ทะมึนลง จากนั้นก็คลี่ยิ้มหยันออกมา “ดี” ไม่มีใครเห็นว่าบนโต๊ะของเขามีภาพวาดภาพหนึ่ง สตรีบนภาพเลอโฉมเฉิดฉัน ดวงหน้างดงามดุจดังเทพเยนในภาพวาด นัยน์ตาดูเฉลียวฉลาด หางตาและคิ้วมีเสน่ห์เย้ายวนใจราวกับพรายน้ำเขายกมือขึ้นมา นิ้วที่มีข้อต่อชัดเจนลูบไล้แก้มของสตรีในภาพวาด ผ่านไปสักพักก็มีเสียงแผ่วเบาดังมาจากในห้องที่มืดสลัวว่า “เจ้าเป็นของข้า...

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-07

บทล่าสุด

  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 40

    “หม่อมฉันทราบแล้วเพคะ” ชิงหลิ่วตอบกลับ จากนั้นสิ่งที่ตอบรับนางก็คือเสียงลมหายใจของอวี๋เหลียงเยว่ที่หลับไหลไปแล้ว......สถานที่ที่มีสตรีมากมาย เรื่องราวก็ยิ่งมาก ฉากหน้าเป็นพี่น้องที่แสนดี ทุกคนล้วนให้ความเกรงใจกัน สนิมสนมกลมเกลียวกันมากแต่เบื้องหลังกลับแทบอยากจะฉีกหน้าอีกฝ่ายจนเละ ดึงทึ้งเครื่องประดับบนศีรษะของอีกฝ่ายให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ เรื่องราวต่อหน้าและลับหลังเกิดขึ้นในมุมมากมาย......“ได้ข่าวแล้วหรือยัง เหตุใดถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้!” ฉินมู่นั่งอยู่ข้างโต๊ะ จมอยู่ท่ามกลางเงาดำมืด แค่เสียงก็ทำให้คนรู้สึกกลัวจนตัวสั่นสะท้านที่ปรึกษาที่กำลังคุกเข่าอยู่ตัวสั่นระริก หยาดเหงื่อเม็ดใหญ่หยดลงพื้น “กระหม่อมสืบมาแล้ว ถึงได้ข่าวว่าคนผู้นั้น...มีความสัมพันธ์ย่ำแย่กับภรรยาที่บ้านมานานแล้ว ถึงขนาดที่พูดได้ว่า...จงเกลียดจงชัง ดังนั้นเมื่อเราเอาภรรยาของเขามาบีบบังคับ เขาจึงแกล้งรับปาก แต่ความจริงแล้วกลับสืบหาจุดมุ่งหมายและดูลาดเลาของพวกเรา สุดท้ายก็ตลบหลัง ไม่ทำตามที่เราสั่งพ่ะย่ะค่ะ...”นับตั้งแต่ที่ฉินมู่ได้รับข่าวจากทางอวี๋เหลียวเยว่เมื่อครั้งก่อน เขาก็ดำเนินการอย่างรวดเร็วเข

  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 39

    “อวี๋เจาซวิ่น” “น้อมคารวะฉือเฉิงฮุยเพคะ” อวี๋เหลียงเยว่ยิ้มพลางคารวะฉือชิวเยียนรีบส่งสัญญาณให้สาวใช้ไปประคองด้วยความเกรงใจมาก ก่อนจะรีบกล่าวว่า “ข้าไม่ถือเรื่องพวกนี้ ข้าเพิ่งเข้าตำหนักบูรพา ยังมีเรื่องมากมายที่ไม่เข้าใจ วันหน้ายังต้องรบกวนให้อวี๋เจาซวิ่นช่วยดูแลอีกมาก” อวี๋เหลียงเยว่ไม่เปลี่ยนสีหน้า “ฉือเฉิงฮุยกล่าวอันใดกันเพคะ ตำแหน่งของท่านสูงกว่าหม่อมฉัน ชาติตระกูลก็ดี วันหน้าจะต้องก้าวขึ้นตำแหน่งสูงอย่างรวดเร็วแน่นอนเพคะ”นี่เป็นการปฏิเสธคำขอของนางอย่างสุภาพฉือชิวเยียนหน้าทะมึนลง แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง “เจ้าไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวไป พอข้ามาถึงก็ได้ยินว่าเจ้าเข้ามาที่ตำหนักบูรพาก็ได้รับความโปรดปรานจากองค์รัชทายาทมาก ไฉนจะเหมือนกับพวกเราที่ได้ร่วมราตรีเพียงครั้งเดียวก็ไม่มีโอกาสได้พบองค์รัชทายาทอีก” ฉือซื่อพูดพลางทำหน้าหม่นหมองเล็กน้อย“องค์รัชทายาทจะพบใครหรือไม่พบใคร หม่อมฉันก็ไม่สามารถช่วยเรื่องนี้ได้เช่นกัน พี่ฉือเพคะ ตอนนี้หม่อมฉันรู้สึกง่วงเล็กน้อย ขอกลับเรือนก่อนนะเพคะ” อวี๋เหลียงเยว่กล่าวจบก็เดินจากไป ไม่ให้โอกาสฉือชิวเยียนได้พูดคุยต่อเลยคนหน้าเนื้อใจเส

  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 38

    เมื่อสูญเสียบุตรไปแล้ว ฉินซือเหิงได้รับข่าวก็รีบไปที่หอหยกหิมะ เมื่อเผชิญหน้ากับเขา ไป๋ซื่อก็ร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจอีกครั้งราวกับดอกสาลี่ต้องหยาดฝน ช่างน่าสะเทือนใจ ถึงอย่างไรก็เป็นสตรีที่ตอนเคยโปรดปรานมาก่อน เมื่อเห็นนางเสียใจถึงเพียงนี้ เขาเองก็เศร้าใจกับกาสูญเสียบุตรไปเช่นกัน จึงปลอบใจดี ๆ อยู่นาน อีกทั้งยังพำนักอยู่ในเรือนของนางหลายวันต่อมา ไป๋ซื่อรั้งองค์รัชทายาทให้พำนักอยู่ในเรือนของนางทุกคืน หอหยกหิมะที่ก่อนหน้านี้ยังไร้ชีวิตชีวา ไม่นานก็คึกคักขึ้นมาอีกครั้งภายในหอดุจจันทร์ พระชายารัชทายาทลูบสร้อยประคำในมือโดยที่ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร วันนี้ตำแหน่งด้านขวาล่างว่างเปล่าอีกครั้งคนอื่น ๆ มากันครบแล้วใบหน้าของนางดูไม่ออกถึงความรู้สึกใด ๆ อวี๋เหลียงเยว่เริ่มสังเกตสองคนที่มาใหม่อย่างละเอียดอีกครั้ง คนหนึ่งแซ่อวี้ มีนามว่าอวี้หานเซียง ชื่อช่างเหมาะสมกับตัวคน เล่ากันว่าเมื่อเกิดมาก็มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ติดกาย รูปโฉมงดงามแต่ไม่ได้เย้ายวน ตรงกันข้ามใบหน้ากลับให้ความรู้สึกเย็นชานับตั้งแต่ที่เข้ามาในหอดุจจันทร์ อวี๋เหลียงเยวก็สังเกตเห็นว่านางนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางเชิดคางมองตร

  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 37

    ฮวาต้วนก็มองอย่างตะลึงงัน แต่บทเรียนจากหลายครั้งที่ผ่านมาทำให้นางใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว รีบตัดสินใจส่งน้ำแก้วหนึ่งไปที่ริมฝีปากของไป๋ซื่อ “เหลียงตี้เพคะ ท่านรีบดื่มน้ำเถิดเพคะ! อาจจะดีขึ้นบ้าง! ยังต้องใช้เวลาสักพักกว่าหมอหลวงจะมาถึง ท่านไม่ได้เสวยอะไรมาทั้งวัน เวลานี้ก็ไม่มีแรงแล้วด้วย”ไป๋ซื่อกำลังคิดจะบันดาลโทสะ เมื่อได้ยินคำพูดของนางก็รู้สึกว่ามีเหตุผลมาก จึงรับไปดื่มรวดเดียวจนหมดหลังจากดื่มหมดก็เป็นการรอคอนที่แสนยาวนานเวลานี้นางรู้สึกนึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง หมอหลวงกำชับอย่างเด็ดขาดแล้วว่าให้นางพักผ่อนให้ดี อย่าได้มีอารมณ์รุนแรงแต่ว่าตอนนี้นึกเสียใจก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เนื่องจากไม่นานก็มีดอกไม้โลหิตสีสันสดใสเบ่งบานเป็นดวงใหญ่ที่ใต้ชายกระโปรง ย้อมจนเป็นสีแดงผืนใหญ่ เมื่อฮวาต้วนเห็นสีแดงนั้นในดวงตาก็เหมือนกับเห็นกระบี่ที่แย่งชิงชีวิตก็ไม่ปาน ทำให้นางกรีดร้องด้วยความตกใจ!“ใครก็ได้ แย่แล้ว! ใครก็ได้รีบมาที เหลียงตี้แย่แล้ว!” นางเหมือนกับเป็นบ้าไม่สนใจภาพลักษณ์ ปิ่นมุกบนศีรษะก็หลุดรุ่ย ก่อนจะกรีดร้องตะโกนเสียงดังตรงหน้าประตูไม่นานข้ารับใช้ด้านล่างก็รีบกรูกันเข้ามา บ้างก็ไปตามหมอห

  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 36

    “พ่ะย่ะค่ะองค์รัชทายาท กระหม่อมทราบแล้ว” จ้าวเฉียนเดินตามหลัง ข่มกลั้นความตกตะลึงในใจ บังคับตัวเองไม่ให้หันห้าไปมองอวี๋ซื่อ องค์รัชทายาทไม่เคยลุ่มหลงในความงดงามของอิสตรี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเอาใจใส่สตรีนางหนึ่ง อวี๋เจาซวิ่นเพิ่งร่วมราตรีได้ไม่นาน ก็ได้รับความโปรดปรานจากองค์รัชทายาทถึงเพียงนี้ ทำให้เขาตกใจจริง ๆ...แต่ก็เห็นได้ถึง ความเฉียบแหลมของอวี๋เจาซวิ่น“หยกสมปรารถนาชิ้นนั้นเป็นของที่อดีตฮ่องเต้ทรงทิ้งไว้ พระราชทานให้กับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน และฝ่าบาทได้พระราชทานให้องค์รัชทายาท บัดนี้องค์รัชทยาททรงมอบให้อวี๋เจาซวิ่น ช่างเป็นการเอาใจใส่เกินไปหน่อยจริงๆ” พระชายารัชทายาทหยุดพลิกดูสมุดบัญชีในมือ แล้วทำสีหน้าใคร่ครวญออกมาพระชายารัชทายาทชอบดูชอบฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความอวดดีไร้เหตุผลของไป๋ซื่อ ประการแรกเป็นเพราะกำลังสนับสนุนจากตระกูลมารดาของนาง ประการที่สองเป็นเพราะความโปรดปรานจากองค์รัชทายาท อีกทั้งยังให้กำเนิดพระนัดดารัชทายาทเพียงหนึ่งเดียวแต่อวี๋ซื่อผู้นี้ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหรือว่าสิ่งอื่นใดล้วนห่างชั้นจากไป๋ซื่อมากนัก แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมานี้ รู้สึกได้ราง ๆ ว่านางยัง

  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 35

    เขายื่นมือไปโอบเอวบางของอวี๋เหลียงเยว่ ให้นางนั่งตักของเขาแล้วหัวเราะเบา ๆ ว่า “เจ้ามาอยู่ตำหนักบูรพาได้นานพอสมควรแล้ว ได้ยินว่าเจ้าให้ความเคารพต่อพระชายารัชทายาทมาก” ได้รับความโปรดปรานแต่ไม่เย่อหยิ่ง ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่งยามค่ำคืนอวี๋เหลียงเยว่ก็ถอดปิ่นมุกมากมายบนศีรษะออกเช่นกัน เส้มผมสีดำสยายอยู่ด้านหลังศีรษะ มีหลายเส้นตกลงมาบนไหปลาร้าของนางอย่างซุกซน ทำให้ฉินซือเหิงอดมองนานขึ้นไม่ได้ “พระชายาทรงมีเมตตาต่อหม่อมฉันมากมาตลอด หม่อมฉันย่อมเคารพนางเป็นธรรมดาเพคะ”นางกล่าวด้วยใบหน้าไร้เดียงสา จากนั้นก็ยื่นแขนขาวนวลไปโอบคอของรัชทายาทอย่างกล้าหาญมากอีกครั้ง ท่าทางดูพึ่งพิงมาก ทำให้ฉินซือเหิงรู้สึกสบายใจมากเขายกมือขึ้นมาลูบดวงหน้าเล็กนุ่มละมุนของนาง “เจ้ารู้ความ เราย่อมโปรดปรานเจ้ามากยิ่งขึ้น” อวี๋เหลียงเยว่ฟังแล้วก็ปล่อยผ่านไป ไม่ได้เก็บมาใส่ใจแม้แต่น้อย หากชอบเจ้า เจ้าก็จะเป็นของล้ำค่าในดวงใจ ไม่ว่าทำสิ่งใดล้วนดีไปหมด หากชิงชังเจ้า เกรงว่าเจ้าไม่อาจเทียบได้แม้กระทั่งฝุ่นบนพื้น ฝุ่นยังมีคนปัดกวาด ชาติที่แล้วนางไม่ได้รับความโปรดปราน ทำได้เพียงปล่อยให้คนเหยียบย่ำ อวี๋เหลียงเย

  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 34

    หลังจากนี้ต่อให้จับได้ พอถึงตอนนั้นก็สายไปแล้วลองถามดูเถิด ใครเล่าจะเชื่อคำพูดของนักโทษคนหนึ่ง? คำพูดเพ้อเจ้อของนักโทษ หากเชื่อขึ้นมา ตนเองก็คงเป็นคนบ้าเหมือนกันไม่ใช่หรือ? นางหัวเราะเบา ๆ แล้วไม่อธิบายอะไรอีก ก่อนจะแกว่งเท้าเล็ก ๆ ดื่มเครื่องดื่มเย็น ๆ ในชามจนหมดในอึกเดียว จากนั้นก็เงยหน้าเผยให้เห็นความจริงใจเล็กน้อย “ชิงหลิ่วคนดี อีกประเดี๋ยวเจ้านี่ก็หมดแล้ว ไม่สู้...เจ้าช่วยไปที่ห้องเครื่องเอามาให้ข้าอีกสักชามเถิด” นางกล่าวพลางทำทางไร้เดียงสา ชิงหลิ่ว “นายหญิงเพคะ ส่วนของท่านมีแค่ชามเดียว หมดแล้วเพคะ”อวี๋เหลียงเยว่ไม่หลงกล ขณะที่กำลังเตรียมตัวอ้อนวอนต่อ สายตามองไปเห็นเงาดำด้านนอกประตู จึงเปลี่ยนน้ำเสียงในพริบตาว่า “บัดนี้องค์รัชทายาททรงโปรดปรานข้า ข้าขอเครื่องดื่มเย็น ๆ เพิ่มอีกชามคงไม่เป็นไรหรอก! องค์รัชทายาททรงมีความสามารถถึงเพียงนี้ ยังจะถูกข้ากินจนหมดตัวได้อีกหรือ!” “พูดได้ดี เราต้องพยายามเสียแล้ว เพื่อไม่ให้เราโดนเจ้ากินจนหมดตัว”ฉินซือเหิงสาวเท้าเดินเข้ามาอย่างฉับไว ใบหน้ามีรอยยิ้มบาง ๆ แค่เห็นก็รู้ว่าอารมณ์ดีมากปลาติดเบ็ดแล้ว ได้มาอย่างไม่เปลืองแรงเลยแต่สิ่ง

  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 33

    ข่าวที่ชิงหลิ่วส่งออกไปถูกส่งต่อไปถึงมือของฉินมู่ เขามองชื่อที่เขียนบนกระดาษจดหมายแล้วขมวดคิ้วกล่าวว่า “สืบประวัติคนผู้นี้แล้วหรือยัง”ที่ปรึกษาใต้บังคับบัญชาพยักหน้า เอ่ยเสียงเบาว่า “กระหม่อมไปสืบแล้วพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบขององค์รัชทายาทมาโดยตลอดจริง ๆ หากเขาอยู่ในกองขนส่งเสบียง กระหม่อมคิดว่าข่าวนี้เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ” ฉินมู่ผงกศีรษะ แนวกรามที่เรียบคมเผยให้เห็นความเย็นชาอำมหิต เขานั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน แสงไฟภายในห้องสลัว ครู่ต่อมาเขาจึงถามอีกว่า “แม่นางอวี๋ในตำหนักบูรพาสบายดีหรือไม่” ที่ปรึกษามองเขาอย่างยากจะสังเกตเห็นแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้ากล่าวออกมาว่า “สบายดีไปหมดทุกอย่างพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อได้ยินคำนี้ แววตาของเขาก็ทะมึนลง จากนั้นก็คลี่ยิ้มหยันออกมา “ดี” ไม่มีใครเห็นว่าบนโต๊ะของเขามีภาพวาดภาพหนึ่ง สตรีบนภาพเลอโฉมเฉิดฉัน ดวงหน้างดงามดุจดังเทพเยนในภาพวาด นัยน์ตาดูเฉลียวฉลาด หางตาและคิ้วมีเสน่ห์เย้ายวนใจราวกับพรายน้ำเขายกมือขึ้นมา นิ้วที่มีข้อต่อชัดเจนลูบไล้แก้มของสตรีในภาพวาด ผ่านไปสักพักก็มีเสียงแผ่วเบาดังมาจากในห้องที่มืดสลัวว่า “เจ้าเป็นของข้า...

  • โฉมสะคราญไร้ใจ   บทที่ 32

    ชิงหลิ่วไม่รู้ว่าเหตุใดจึงถามเช่นนี้ จึงทำได้เพียงพยายามเอ่ยอย่างคลุมเครือให้มากที่สุด ยิ่งเอ่ยมากก็ยิ่งผิดมากฉินซือเหิงเข้าใจกระจ่างแจ้งแล้ว หนึ่งเดือนมานี้มีคนใหม่เข้ามาในตำหนักบูรพา อวี๋เหลียงเยว่จึงอยากพึ่งพิงเขามากขึ้นเล็กน้อย...คิดว่าคงไม่สบายใจ ทว่าเมื่อเกิดการคาดเดาเช่นนี้ขึ้นมา ในใจของเขาก็เกิดความรู้สึกที่ยากจะอธิบายให้ชัดเจนขึ้นมาเล็กน้อยความรู้สึกนี้ดำเนินต่อไปจนกระทั่งเขาเข้าเฝ้าที่ท้องพระโรงถึงค่อย ๆ จางหายไป...... หลังจากเข้าเฝ้าเสร็จสิ้นแล้วกลับมาที่ตำหนักบูรพา จ้าวเฉียนก็มาช่วยเขาเปลี่ยนเป็นสวมชุดฉางฝู ยังไม่ทันนั่งลง สาวใช้ด้านนอกก็มาแจ้งว่าไป๋เหลียงตี้อาเจียนไม่หยุด ขอให้องค์รัชทายาทไปดูความหมายในคำพูดนี้มีไม่น้อยเลยจริง ๆ อาเจียนสินะ เมื่อคำนวณดูแล้วไป๋เหลียงตี้เพิ่งจะตั้งครรภ์นี้ได้แค่หนึ่งเดือน น่าจะยังไม่ถึงช่วงเวลานี้ อีกอย่างการที่สตรีมีครรภ์อาเจียน ปกติแล้วเป็นเพราะว่าได้กลิ่นอะไรบางอย่าง หรือว่ากินอะไรบางอย่าง ไม่ว่าเป็นเพราะอะไร คิดว่าไป๋เหลียงตี้คงจะสร้างเรื่องอีกแล้ว จ้าวเฉียนคิดเช่นนี้ ฉินซือเหิงลูบสร้อยประคำมันเงาบนมือแล้วสั่งการว่า “ไปเช

DMCA.com Protection Status