พนักงานขายสาวไม่ตอบอะไร แต่ปลายนิ้วของเธอพลันยืดออกกลายเป็นเล็บที่แหลมคมราวกับมีดสั้นพุ่งตรงไปที่ศีรษะของเย่ซิวอย่างไรก็ตาม เมื่อเธอพุ่งเข้าไปหายังเย่ซิวได้เพียงไม่กี่เซนติเมตร ร่างกายของเธอกลับไม่สามารถขยับได้เหมือนถูกตรึงอยู่ในโคลนลึกที่ไร้ทางหลุดพ้นดวงตาของพนักงานสาวหดเกร็งลง “ผู้มีพลังวิเศษ นายเป็นใครกันแน่? ฉันออกจากโครงการนั้นไปแล้วยังจะตามมาฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ?!”เย่ซิวรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที “โครงการอะไร? เล่าให้ฟังหน่อยสิ”พนักงานสาวดูประหลาดใจอย่างยิ่ง “คุณไม่ใช่คนของพวกเขาเหรอ?”“ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายใดของประเทศจ้านอิงตี้ทั้งนั้น” เย่ซิวจ้องมองเธอ“เก็บความคิดฆ่าฟันไปก่อนแล้วมาคุยกันดี ๆ คุณดูเหมือนกำลังเจอปัญหาอะไรบางอย่าง บางทีผมอาจช่วยคุณได้นะ”เมื่อครู่ตอนที่เย่ซิวขอให้เธอติดตามเขาหนึ่งวัน แววตาของหญิงสาวนั้นมีความลังเลอย่างชัดเจน แต่สุดท้ายเธอก็ตอบตกลง นั่นหมายความว่าเธอต้องกำลังเผชิญกับความลำบากบางอย่างแน่“ฉันต้องการเงินจำนวนมาก อย่างน้อยก็หลายร้อยล้าน” เธอหดมือกลับ กำหมัดแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว “ฉันมีหลานสาวคนหนึ่ง อายุเพิ่งจะสิบแปดปี แต่กล้ามเนื้อของเธอกำลังฝ่อและเ
พนักงานสาวไม่ค่อยเชื่อใจเย่ซิวสักเท่าไหร่ และเธอก็ไม่กล้าพาเขาไปเจอหลานสาวของตัวเองด้วยเย่ซิวเองก็ขี้เกียจอธิบายอะไรให้มากความจึงใช้พลังจิตควบคุมร่างกายของเธอแล้วเริ่มขับรถต่อพนักงานสาวตกใจจนแทบสิ้นสติ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามขัดขืนแค่ไหนก็ไม่อาจหลุดพ้นจากการควบคุมของเย่ซิวได้ครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งคู่ก็มาถึงโครงการก่อสร้างร้างที่นั่นมีคนอยู่แล้วและกำลังขนถ่ายสินค้าออกจากรถทีละคันเย่ซิวก้าวลงจากรถ ส่วนพนักงานสาวก็มีความคิดอยากจะหนีไปจากที่นี่ทันทีแต่เมื่อคิดไปคิดมาเธอก็ล้มเลิกความคิดที่จะหนี แล้วยอมลงจากรถอย่างว่าง่ายเย่ซิวพูดคุยกับหัวหน้าผู้ดูแลจากฝั่งโรงงานเพื่อยืนยันจำนวนสินค้าให้เรียบร้อย จากนั้นเขาก็สั่งให้พวกนั้นออกไปจากนั้นเขาก็เก็บรถทั้งหมดเข้าไปในช่องมิติของแหวนผนึกของการกระทำนี้ทำให้พนักงานสาวถึงกับตกตะลึงราวกับโลกทั้งใบของเธอถูกสั่นสะเทือนหลังจากจัดการเก็บรถเสร็จ เย่ซิวก็เอ่ยโดยไม่สนใจสีหน้าตกใจของเธอเลยแม้แต่น้อย “ไปบ้านคุณก่อนผมจะช่วยแก้ปัญหาหลานสาวคุณให้ แล้วหลังจากนั้นคุณค่อยพาผมไปที่ห้องทดลองนั่น”เขาหยุดเล็กน้อยก่อนจะเสริม “ผมมีวิธีมากมายที่จะบังคับให้คุ
เย่ซิวจับชีพจรของเด็กสาวที่ชื่อเสี่ยวเยวี่ยไม่นานนักคิ้วของเขาก็ขมวดแน่นพนักงานสาวเห็นสีหน้าของเย่ซิว ใจเธอก็พลันหล่นวูบ “เสี่ยวเยวี่ยเป็นอะไร? คุณอย่าทำให้ฉันกลัวสิ”“ร่างกายของเธอไม่ใช่อาการกล้ามเนื้อฝ่อลีบ แต่ถูกพิษ”“อะไรนะ? พิษเหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้!”เย่ซิวหันไปเอ่ยกับพนักงานสาว “ไปเอาแก้วน้ำพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งมาหน่อย”เธอรีบวิ่งออกไปทันที ส่วนเย่ซิวก็หยิบเข็มเงินออกมาเมื่อเธอเอาแก้วน้ำมาให้ เย่ซิวก็ใช้เข็มเงินเจาะนิ้วมือของเสี่ยวเยวี่ยเบา ๆ แล้วกดลงเล็กน้อยหยดเลือดสีดำไหลออกมาหยดหนึ่งพร้อมกับกลิ่นเหม็นรุนแรงที่แผ่ออกมาสีหน้าของเย่ซิวจริงจังมาก “นี่เป็นพิษร้ายแรงและมันได้ฝังลึกถึงกระดูกและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว”พนักงานสาวโกรธจนตัวสั่น “ใครกันที่ใจร้ายขนาดนี้ หรือว่าจะเป็นพวกเขา? ทำไมต้องทำร้ายเสี่ยวเยวี่ยด้วย? ถ้ามีปัญหาก็มาเล่นงานฉันสิ!”เย่ซิวลุกขึ้นแล้วเดินไปทางห้องครัวพิษในตัวเสี่ยวเยวี่ยนั้นเป็นพิษสะสม นั่นหมายความว่ามีคนคอยลอบวางยาพิษเธออย่างต่อเนื่องปริมาณพิษที่ให้แต่ละครั้งน้อยมากจนไม่ถึงกับทำให้เสียชีวิตในทันทีเย่ซิวเดินไปที่ห้องครัวและตักน้
ไม่อย่างนั้นข้อมูลที่เขาได้คัดลอกมาจากหลี่อวี่ถงครั้งก่อนก็คงเสียเปล่าเส้นทางที่สำนักโอสถจะเดินในอนาคตจะไม่เหมือนกับประเทศจ้านอิงตี้ที่สร้างสิ่งประหลาดและไร้มนุษยธรรมแต่เป้าหมายคือการพัฒนายาดัดแปลงพันธุกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายมนุษย์ เมื่อผสานกับวรยุทธ์และพลังภายในจะสามารถสร้างยอดฝีมือจำนวนมากขึ้นมาได้ยอดฝีมือเหล่านี้จะมีศักยภาพสูงกว่า ไม่มีผลข้างเคียง และไม่ทำลายความสมดุลของธรรมชาติเย่ซิวมองไปที่พนักงานสาว “ตอนนี้เสี่ยวเยวี่ยต้องการสารอาหารเยอะ ๆ แต่จำไว้ว่าต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันมากเกินไปหลังจากกินอะไรเสร็จแล้วก็ให้ไปพักผ่อน ผมจะค้างที่นี่คืนนี้ดูว่าคนที่วางยาพิษจะปรากฏตัวหรือเปล่า”พนักงานสาวรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของเย่ซิวจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่และกล่าวขอบคุณเขาซ้ำไปซ้ำมาเธอวุ่นอยู่กับการดูแลจนกระทั่งถึงช่วงค่ำหลังจากเสี่ยวเยวี่ยทานอาหารเสร็จแล้วก็ล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะเข้าไปพักผ่อนในห้องสำหรับคนที่เพิ่งหายจากอาการป่วยหนัก การนอนหลับให้เพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อจัดการดูแลให้เสี่ยวเยวี่ยนอนหลับอย่างเรียบร้อยแล้ว พนักงานสาวก็หยิบชุดเปล
เย่ซิวเห็นเธอสวมชุดนอนบางเบาโปร่งใส เผยให้เห็นเรือนร่างiาง ๆ ชวนให้ใจสั่นส่วนชุดที่เธอสวมอยู่ภายใต้ชุดนอนนั้นเป็นแบบที่พบเห็นได้ในภาพยนตร์บางเรื่องเท่านั้น…ถ้าคนที่หัวใจไม่แข็งแรงมาเห็นคงเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นได้ง่าย ๆ แน่ดูเหมือนว่าพนักงานสาวคนนี้เองก็เพิ่งเคยสวมชุดแบบนี้เป็นครั้งแรกเธอดูไม่กล้าสบตาเย่ซิวตรง ๆ แต่ก็ยังรวบรวมความกล้าเดินเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ เขากลิ่นน้ำหอมที่ผสมผสานกับกลิ่นกายของเธอลอยมากระทบจมูกของเย่ซิว ปลุกประสาทบางเส้นของเขาให้ตื่นตัวขึ้นอย่างห้ามไม่ได้พนักงานสาวเอ่ยขึ้น “ขอบคุณที่ช่วยเสี่ยวเยวี่ยนะคะ ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดีสิ่งที่ฉันพอจะมอบให้ได้ก็คือความบริสุทธิ์ที่รักษามานานกว่าสามสิบปีค่ะ”เย่ซิวมองเธอแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย “คืนนี้ไม่ได้ คุณกลับไปพักผ่อนในห้องเถอะ ผมต้องดูว่าคืนนี้จะมีใครมาวางยาอีกหรือเปล่า”เธอเองก็รู้ว่าสิ่งสำคัญต้องมาก่อนจึงไม่เซ้าซี้อีก เธอลุกขึ้นเดินกลับไปที่ห้องพร้อมกับบิดสะโพกเล็กน้อยเย่ซิวนั่งหลับตาบนโซฟาอย่างสงบ ก่อนจะเริ่มบำเพ็ญอย่างเงียบ ๆเวลาผ่านไปทีละนิดจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงราว ๆ ตีหนึ่งกว่าเย่ซิวลืมตาขึ้
เย่ซิวเทน้ำลงบนมือเล็กน้อยแล้วตบใบหน้าของเธอเบา ๆ ไม่นานนัก เธอก็ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นด้วยความมึนงงเมื่อเห็นใบหน้าของเย่ซิวและสภาพแวดล้อมรอบตัว เธอก็ยิ้มออกมา “คุณคงอดใจไม่ไหวแล้วสินะ? ฉันพร้อมให้คุณเดี๋ยวนี้เลย”เธอคิดว่าเย่ซิวเป็นคนพาเธอออกมาเองเย่ซิวเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ฟังทั้งหมดหลังจากที่ฟังจบ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งตกใจ หวาดกลัว และรู้สึกผิดจากนั้นเย่ซิวจึงเอ่ยต่อ “ผมมีวิชาหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณควบคุมบุคลิกที่สองได้ บุคลิกนั้นจะไม่ปรากฏออกมาอีกหากไม่ได้รับอนุญาตจากคุณเอง แต่ต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง”พนักงานสาวมีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที “ถ้ามันช่วยรักษาอาการนี้ได้ ฉันยอมรับทุกเงื่อนไขค่ะ”“เงื่อนไขข้อแรก คุณต้องสาบานว่าจะซื่อสัตย์กับผมตลอดไปข้อที่สอง อีกไม่กี่วันผมจะให้คุณพาเสี่ยวเยวี่ยไปจากประเทศจ้านอิงตี้ไปอยู่ที่อื่นกับผม และตอนนั้นผมจะตั้งห้องทดลองวิจัยชีววิทยาใหม่ขึ้นมาให้คุณเป็นผู้ดูแล”พนักงานสาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอคิดว่าเงื่อนไขจะยากกว่านี้ จากนั้นเธอก็ตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเลเย่ซิวให้เธอสาบานด้วยคำสาบานเลือด จากนั
ภายในฐานทดลองลับแห่งหนึ่งกำลังเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้น หรือจะเรียกว่าเป็นการสังหารอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ผิดนักชายผู้มีรูปลักษณ์แปลกประหลาดกำลังสังหารเหล่านักวิทยาศาสตร์อย่างบ้าคลั่งร่างกายของเขากว่าครึ่งถูกปกคลุมด้วยบางสิ่งที่ดูคล้ายเหล็กดูราวกับว่าเหล็กหลอมเหลวถูกเทลงมาหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขาส่วนที่ไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยเหล็กกลับเป็นผิวหนังที่เน่าเปื่อยและส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงออกมาแม้ว่าการโจมตีมากมายจะพุ่งเข้าใส่เขา แต่กลับไม่สามารถสร้างบาดแผลร้ายแรงได้เลยแม้แต่น้อยบางครั้งอาวุธที่ทรงพลังพอจะทำให้เกิดโพรงบนร่างของเขาได้ แต่เนื้อเยื่อที่…เอาเป็นว่าเรียกว่ากล้ามเนื้อก็แล้วกัน กลับเริ่มบิดตัวไปมาอย่างรวดเร็วและในชั่วพริบตาก็ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติเสียงกรีดร้อง เสียงต่อสู้ และกลิ่นคาวเลือดอบอวลไปทั่วห้องทดลองแห่งนี้มีหลายคนที่ทนไม่ไหวจนสติแตกพยายามวิ่งหนีออกไปสุดชีวิตโฮกกก!!ร่างทดลองตัวนี้แหงนหน้าคำรามเสียงแหลมเสียดแทงหูในขณะเดียวกัน ร่างทดลองในห้องอื่น ๆ ที่ถูกขังไว้ในแคปซูลทดลองก็เริ่มคลุ้มคลั่ง พวกมันพุ่งกระแทกกระจกอย่างบ้าคลั่งจนในที่สุดก็แหกออกมาได้ก่อนจะเข้า
อาวุธปืนทั่วไปไม่มีทางทำอะไรเขาได้แม้แต่น้อยคนอื่น ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนร่างเช่นกัน แม้ว่าสีของพวกเขาจะเข้มไม่เท่าชายคนแรก แต่พลังของพวกเขาก็แข็งแกร่งพอสมควรเย่ซิวถามพวกเขาว่าต้องการติดตามเขาหรือไม่ทุกคนตอบตกลงอย่างเด็ดขาดโดยไม่ลังเลเย่ซิวคือผู้ที่ให้ชีวิตใหม่สำหรับพวกเขายิ่งไปกว่านั้น พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีพันธะผูกพันกับใครต่อให้หนีออกไปตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปที่ไหน แถมอาจต้องเผชิญกับการไล่ล่าอย่างไม่รู้จบด้วยหลังจากนั้น เย่ซิวก็เก็บข้าวของที่มีประโยชน์ภายในห้องทดลองก่อนจะจุดไฟเผาที่นี่จนวอดวายเขาใช้วิชาดำดินระดับสูงและพาทุกคนมุ่งหน้าออกจากที่นี่เมื่อเฉินน่ามองเห็นผู้คนหลายร้อยคนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้า เธอก็ถึงกับตกใจสุดขีดยังไม่ทันที่เธอจะตั้งตัวได้ เย่ซิวก็คว้าตัวเธอแล้วใช้วิชาดำดินอีกครั้งเขาใช้พลังวิญญาณไปจนเกือบหมด นำทุกคนเคลื่อนย้ายไปไกลนับร้อยกิโลเมตรมายังอาคารร้างที่เคยมาเยือนก่อนหน้านี้เย่ซิวหยิบอาหารจำนวนมากออกมาจากแหวนผนึกของแล้วกำชับพวกเขาว่า“พวกนายพักอยู่ที่นี่สักสองสามวันก่อน จำไว้ว่าห้ามเปิดเผยตัวตน ถ้ามีใครผ่านมาให้รีบซ่อนตัวไว้ อีกไม
อาวุธปืนทั่วไปไม่มีทางทำอะไรเขาได้แม้แต่น้อยคนอื่น ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนร่างเช่นกัน แม้ว่าสีของพวกเขาจะเข้มไม่เท่าชายคนแรก แต่พลังของพวกเขาก็แข็งแกร่งพอสมควรเย่ซิวถามพวกเขาว่าต้องการติดตามเขาหรือไม่ทุกคนตอบตกลงอย่างเด็ดขาดโดยไม่ลังเลเย่ซิวคือผู้ที่ให้ชีวิตใหม่สำหรับพวกเขายิ่งไปกว่านั้น พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีพันธะผูกพันกับใครต่อให้หนีออกไปตอนนี้ก็ไม่รู้จะไปที่ไหน แถมอาจต้องเผชิญกับการไล่ล่าอย่างไม่รู้จบด้วยหลังจากนั้น เย่ซิวก็เก็บข้าวของที่มีประโยชน์ภายในห้องทดลองก่อนจะจุดไฟเผาที่นี่จนวอดวายเขาใช้วิชาดำดินระดับสูงและพาทุกคนมุ่งหน้าออกจากที่นี่เมื่อเฉินน่ามองเห็นผู้คนหลายร้อยคนปรากฏตัวขึ้นต่อหน้า เธอก็ถึงกับตกใจสุดขีดยังไม่ทันที่เธอจะตั้งตัวได้ เย่ซิวก็คว้าตัวเธอแล้วใช้วิชาดำดินอีกครั้งเขาใช้พลังวิญญาณไปจนเกือบหมด นำทุกคนเคลื่อนย้ายไปไกลนับร้อยกิโลเมตรมายังอาคารร้างที่เคยมาเยือนก่อนหน้านี้เย่ซิวหยิบอาหารจำนวนมากออกมาจากแหวนผนึกของแล้วกำชับพวกเขาว่า“พวกนายพักอยู่ที่นี่สักสองสามวันก่อน จำไว้ว่าห้ามเปิดเผยตัวตน ถ้ามีใครผ่านมาให้รีบซ่อนตัวไว้ อีกไม
ภายในฐานทดลองลับแห่งหนึ่งกำลังเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดขึ้น หรือจะเรียกว่าเป็นการสังหารอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ผิดนักชายผู้มีรูปลักษณ์แปลกประหลาดกำลังสังหารเหล่านักวิทยาศาสตร์อย่างบ้าคลั่งร่างกายของเขากว่าครึ่งถูกปกคลุมด้วยบางสิ่งที่ดูคล้ายเหล็กดูราวกับว่าเหล็กหลอมเหลวถูกเทลงมาหลอมรวมเข้ากับร่างกายของเขาส่วนที่ไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยเหล็กกลับเป็นผิวหนังที่เน่าเปื่อยและส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงออกมาแม้ว่าการโจมตีมากมายจะพุ่งเข้าใส่เขา แต่กลับไม่สามารถสร้างบาดแผลร้ายแรงได้เลยแม้แต่น้อยบางครั้งอาวุธที่ทรงพลังพอจะทำให้เกิดโพรงบนร่างของเขาได้ แต่เนื้อเยื่อที่…เอาเป็นว่าเรียกว่ากล้ามเนื้อก็แล้วกัน กลับเริ่มบิดตัวไปมาอย่างรวดเร็วและในชั่วพริบตาก็ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติเสียงกรีดร้อง เสียงต่อสู้ และกลิ่นคาวเลือดอบอวลไปทั่วห้องทดลองแห่งนี้มีหลายคนที่ทนไม่ไหวจนสติแตกพยายามวิ่งหนีออกไปสุดชีวิตโฮกกก!!ร่างทดลองตัวนี้แหงนหน้าคำรามเสียงแหลมเสียดแทงหูในขณะเดียวกัน ร่างทดลองในห้องอื่น ๆ ที่ถูกขังไว้ในแคปซูลทดลองก็เริ่มคลุ้มคลั่ง พวกมันพุ่งกระแทกกระจกอย่างบ้าคลั่งจนในที่สุดก็แหกออกมาได้ก่อนจะเข้า
เย่ซิวเทน้ำลงบนมือเล็กน้อยแล้วตบใบหน้าของเธอเบา ๆ ไม่นานนัก เธอก็ค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นด้วยความมึนงงเมื่อเห็นใบหน้าของเย่ซิวและสภาพแวดล้อมรอบตัว เธอก็ยิ้มออกมา “คุณคงอดใจไม่ไหวแล้วสินะ? ฉันพร้อมให้คุณเดี๋ยวนี้เลย”เธอคิดว่าเย่ซิวเป็นคนพาเธอออกมาเองเย่ซิวเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ฟังทั้งหมดหลังจากที่ฟังจบ สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งตกใจ หวาดกลัว และรู้สึกผิดจากนั้นเย่ซิวจึงเอ่ยต่อ “ผมมีวิชาหนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณควบคุมบุคลิกที่สองได้ บุคลิกนั้นจะไม่ปรากฏออกมาอีกหากไม่ได้รับอนุญาตจากคุณเอง แต่ต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง”พนักงานสาวมีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที “ถ้ามันช่วยรักษาอาการนี้ได้ ฉันยอมรับทุกเงื่อนไขค่ะ”“เงื่อนไขข้อแรก คุณต้องสาบานว่าจะซื่อสัตย์กับผมตลอดไปข้อที่สอง อีกไม่กี่วันผมจะให้คุณพาเสี่ยวเยวี่ยไปจากประเทศจ้านอิงตี้ไปอยู่ที่อื่นกับผม และตอนนั้นผมจะตั้งห้องทดลองวิจัยชีววิทยาใหม่ขึ้นมาให้คุณเป็นผู้ดูแล”พนักงานสาวถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอคิดว่าเงื่อนไขจะยากกว่านี้ จากนั้นเธอก็ตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเลเย่ซิวให้เธอสาบานด้วยคำสาบานเลือด จากนั
เย่ซิวเห็นเธอสวมชุดนอนบางเบาโปร่งใส เผยให้เห็นเรือนร่างiาง ๆ ชวนให้ใจสั่นส่วนชุดที่เธอสวมอยู่ภายใต้ชุดนอนนั้นเป็นแบบที่พบเห็นได้ในภาพยนตร์บางเรื่องเท่านั้น…ถ้าคนที่หัวใจไม่แข็งแรงมาเห็นคงเกิดปัญหาบางอย่างขึ้นได้ง่าย ๆ แน่ดูเหมือนว่าพนักงานสาวคนนี้เองก็เพิ่งเคยสวมชุดแบบนี้เป็นครั้งแรกเธอดูไม่กล้าสบตาเย่ซิวตรง ๆ แต่ก็ยังรวบรวมความกล้าเดินเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ เขากลิ่นน้ำหอมที่ผสมผสานกับกลิ่นกายของเธอลอยมากระทบจมูกของเย่ซิว ปลุกประสาทบางเส้นของเขาให้ตื่นตัวขึ้นอย่างห้ามไม่ได้พนักงานสาวเอ่ยขึ้น “ขอบคุณที่ช่วยเสี่ยวเยวี่ยนะคะ ฉันไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงดีสิ่งที่ฉันพอจะมอบให้ได้ก็คือความบริสุทธิ์ที่รักษามานานกว่าสามสิบปีค่ะ”เย่ซิวมองเธอแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย “คืนนี้ไม่ได้ คุณกลับไปพักผ่อนในห้องเถอะ ผมต้องดูว่าคืนนี้จะมีใครมาวางยาอีกหรือเปล่า”เธอเองก็รู้ว่าสิ่งสำคัญต้องมาก่อนจึงไม่เซ้าซี้อีก เธอลุกขึ้นเดินกลับไปที่ห้องพร้อมกับบิดสะโพกเล็กน้อยเย่ซิวนั่งหลับตาบนโซฟาอย่างสงบ ก่อนจะเริ่มบำเพ็ญอย่างเงียบ ๆเวลาผ่านไปทีละนิดจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงราว ๆ ตีหนึ่งกว่าเย่ซิวลืมตาขึ้
ไม่อย่างนั้นข้อมูลที่เขาได้คัดลอกมาจากหลี่อวี่ถงครั้งก่อนก็คงเสียเปล่าเส้นทางที่สำนักโอสถจะเดินในอนาคตจะไม่เหมือนกับประเทศจ้านอิงตี้ที่สร้างสิ่งประหลาดและไร้มนุษยธรรมแต่เป้าหมายคือการพัฒนายาดัดแปลงพันธุกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายมนุษย์ เมื่อผสานกับวรยุทธ์และพลังภายในจะสามารถสร้างยอดฝีมือจำนวนมากขึ้นมาได้ยอดฝีมือเหล่านี้จะมีศักยภาพสูงกว่า ไม่มีผลข้างเคียง และไม่ทำลายความสมดุลของธรรมชาติเย่ซิวมองไปที่พนักงานสาว “ตอนนี้เสี่ยวเยวี่ยต้องการสารอาหารเยอะ ๆ แต่จำไว้ว่าต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันมากเกินไปหลังจากกินอะไรเสร็จแล้วก็ให้ไปพักผ่อน ผมจะค้างที่นี่คืนนี้ดูว่าคนที่วางยาพิษจะปรากฏตัวหรือเปล่า”พนักงานสาวรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของเย่ซิวจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่และกล่าวขอบคุณเขาซ้ำไปซ้ำมาเธอวุ่นอยู่กับการดูแลจนกระทั่งถึงช่วงค่ำหลังจากเสี่ยวเยวี่ยทานอาหารเสร็จแล้วก็ล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะเข้าไปพักผ่อนในห้องสำหรับคนที่เพิ่งหายจากอาการป่วยหนัก การนอนหลับให้เพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อจัดการดูแลให้เสี่ยวเยวี่ยนอนหลับอย่างเรียบร้อยแล้ว พนักงานสาวก็หยิบชุดเปล
เย่ซิวจับชีพจรของเด็กสาวที่ชื่อเสี่ยวเยวี่ยไม่นานนักคิ้วของเขาก็ขมวดแน่นพนักงานสาวเห็นสีหน้าของเย่ซิว ใจเธอก็พลันหล่นวูบ “เสี่ยวเยวี่ยเป็นอะไร? คุณอย่าทำให้ฉันกลัวสิ”“ร่างกายของเธอไม่ใช่อาการกล้ามเนื้อฝ่อลีบ แต่ถูกพิษ”“อะไรนะ? พิษเหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นไปได้!”เย่ซิวหันไปเอ่ยกับพนักงานสาว “ไปเอาแก้วน้ำพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งมาหน่อย”เธอรีบวิ่งออกไปทันที ส่วนเย่ซิวก็หยิบเข็มเงินออกมาเมื่อเธอเอาแก้วน้ำมาให้ เย่ซิวก็ใช้เข็มเงินเจาะนิ้วมือของเสี่ยวเยวี่ยเบา ๆ แล้วกดลงเล็กน้อยหยดเลือดสีดำไหลออกมาหยดหนึ่งพร้อมกับกลิ่นเหม็นรุนแรงที่แผ่ออกมาสีหน้าของเย่ซิวจริงจังมาก “นี่เป็นพิษร้ายแรงและมันได้ฝังลึกถึงกระดูกและระบบไหลเวียนโลหิตแล้ว”พนักงานสาวโกรธจนตัวสั่น “ใครกันที่ใจร้ายขนาดนี้ หรือว่าจะเป็นพวกเขา? ทำไมต้องทำร้ายเสี่ยวเยวี่ยด้วย? ถ้ามีปัญหาก็มาเล่นงานฉันสิ!”เย่ซิวลุกขึ้นแล้วเดินไปทางห้องครัวพิษในตัวเสี่ยวเยวี่ยนั้นเป็นพิษสะสม นั่นหมายความว่ามีคนคอยลอบวางยาพิษเธออย่างต่อเนื่องปริมาณพิษที่ให้แต่ละครั้งน้อยมากจนไม่ถึงกับทำให้เสียชีวิตในทันทีเย่ซิวเดินไปที่ห้องครัวและตักน้
พนักงานสาวไม่ค่อยเชื่อใจเย่ซิวสักเท่าไหร่ และเธอก็ไม่กล้าพาเขาไปเจอหลานสาวของตัวเองด้วยเย่ซิวเองก็ขี้เกียจอธิบายอะไรให้มากความจึงใช้พลังจิตควบคุมร่างกายของเธอแล้วเริ่มขับรถต่อพนักงานสาวตกใจจนแทบสิ้นสติ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามขัดขืนแค่ไหนก็ไม่อาจหลุดพ้นจากการควบคุมของเย่ซิวได้ครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งคู่ก็มาถึงโครงการก่อสร้างร้างที่นั่นมีคนอยู่แล้วและกำลังขนถ่ายสินค้าออกจากรถทีละคันเย่ซิวก้าวลงจากรถ ส่วนพนักงานสาวก็มีความคิดอยากจะหนีไปจากที่นี่ทันทีแต่เมื่อคิดไปคิดมาเธอก็ล้มเลิกความคิดที่จะหนี แล้วยอมลงจากรถอย่างว่าง่ายเย่ซิวพูดคุยกับหัวหน้าผู้ดูแลจากฝั่งโรงงานเพื่อยืนยันจำนวนสินค้าให้เรียบร้อย จากนั้นเขาก็สั่งให้พวกนั้นออกไปจากนั้นเขาก็เก็บรถทั้งหมดเข้าไปในช่องมิติของแหวนผนึกของการกระทำนี้ทำให้พนักงานสาวถึงกับตกตะลึงราวกับโลกทั้งใบของเธอถูกสั่นสะเทือนหลังจากจัดการเก็บรถเสร็จ เย่ซิวก็เอ่ยโดยไม่สนใจสีหน้าตกใจของเธอเลยแม้แต่น้อย “ไปบ้านคุณก่อนผมจะช่วยแก้ปัญหาหลานสาวคุณให้ แล้วหลังจากนั้นคุณค่อยพาผมไปที่ห้องทดลองนั่น”เขาหยุดเล็กน้อยก่อนจะเสริม “ผมมีวิธีมากมายที่จะบังคับให้คุ
พนักงานขายสาวไม่ตอบอะไร แต่ปลายนิ้วของเธอพลันยืดออกกลายเป็นเล็บที่แหลมคมราวกับมีดสั้นพุ่งตรงไปที่ศีรษะของเย่ซิวอย่างไรก็ตาม เมื่อเธอพุ่งเข้าไปหายังเย่ซิวได้เพียงไม่กี่เซนติเมตร ร่างกายของเธอกลับไม่สามารถขยับได้เหมือนถูกตรึงอยู่ในโคลนลึกที่ไร้ทางหลุดพ้นดวงตาของพนักงานสาวหดเกร็งลง “ผู้มีพลังวิเศษ นายเป็นใครกันแน่? ฉันออกจากโครงการนั้นไปแล้วยังจะตามมาฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ?!”เย่ซิวรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที “โครงการอะไร? เล่าให้ฟังหน่อยสิ”พนักงานสาวดูประหลาดใจอย่างยิ่ง “คุณไม่ใช่คนของพวกเขาเหรอ?”“ผมไม่ได้อยู่ฝ่ายใดของประเทศจ้านอิงตี้ทั้งนั้น” เย่ซิวจ้องมองเธอ“เก็บความคิดฆ่าฟันไปก่อนแล้วมาคุยกันดี ๆ คุณดูเหมือนกำลังเจอปัญหาอะไรบางอย่าง บางทีผมอาจช่วยคุณได้นะ”เมื่อครู่ตอนที่เย่ซิวขอให้เธอติดตามเขาหนึ่งวัน แววตาของหญิงสาวนั้นมีความลังเลอย่างชัดเจน แต่สุดท้ายเธอก็ตอบตกลง นั่นหมายความว่าเธอต้องกำลังเผชิญกับความลำบากบางอย่างแน่“ฉันต้องการเงินจำนวนมาก อย่างน้อยก็หลายร้อยล้าน” เธอหดมือกลับ กำหมัดแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว “ฉันมีหลานสาวคนหนึ่ง อายุเพิ่งจะสิบแปดปี แต่กล้ามเนื้อของเธอกำลังฝ่อและเ
เมื่อผู้จัดการสาวเห็นดวงตาของเย่ซิวเปล่งประกายก็รีบเดินเข้ามาด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย “คุณลูกค้าคะ ฉันเป็นผู้จัดการของที่นี่ฉันติดต่อกับสำนักงานใหญ่เรียบร้อยแล้ว กรุณาชำระเงินก่อนนะคะ หากระยะทางในการขนส่งไม่เกินหนึ่งร้อยกิโลเมตร เรามีบริการส่งฟรีค่ะ”เย่ซิวยื่นบัตรให้เธอพร้อมแจ้งที่อยู่ สถานที่นั้นอยู่ชานเมือง เป็นโครงการก่อสร้างที่ถูกทิ้งร้างเขาเคยผ่านไปเห็นโดยบังเอิญและสังเกตว่ามีพื้นที่กว้างขวางมากพอที่จะใช้ประโยชน์ได้หลังจากที่รูดบัตรชำระเงินเรียบร้อย ใบหน้าของผู้จัดการหญิงก็ยิ่งฉีกยิ้มมากขึ้นกว่าเดิม สายตาที่มองเย่ซิวเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงคนที่สามารถซื้อรถจำนวนมากโดยไม่กะพริบตาแบบนี้ต้องเป็นคนที่รวยมากแน่ ๆถ้าเธอสามารถจับเขาไว้ได้ก็ไม่ต้องทนลำบากทำงานขายแบบนี้อีกต่อไปแม้ว่าเธอจะเป็นผู้จัดการ แต่บางครั้งเธอก็ต้องยอมขึ้นเตียงกับผู้ชายแก่ ๆ และหน้าตาน่าเกลียดเพื่อให้ได้ยอดขายอยู่เสมอเย่ซิวอาจจะดู ‘ธรรมดา’ ในแง่หน้าตา แต่ดูจากอายุแล้วก็ยังหนุ่มแน่นอยู่การได้อยู่กับผู้ชายแบบนี้อย่างน้อยก็ดีกว่าพวกเฒ่าหัวงูที่ทั้งตัวเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่าเยอะเลยด้วยอุดมการณ์นี้จึงทำให้