นักวิทยาศาสตร์อีกคนหนึ่งตอบว่า “ความคืบหน้าก็น่าจะพอ ๆ กัน แต่ดูเหมือนน้องสาวคนสวยของคุณจะไม่ชอบให้มีนักวิทยาศาสตร์ชายคอยมองตอนเธอเปลี่ยนร่าง ดังนั้นพวกเราก็ไม่รู้รายละเอียดเหมือนกันแต่ดูจากเวลาแล้ว อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็น่าจะรู้ผลแล้วล่ะ”ในห้องทดลองข้าง ๆ กำลังมีเหตุการณ์คล้าย ๆ กันเกิดขึ้น เพียงแต่ครั้งนี้เป้าหมายของการทดลองเป็นผู้หญิงเธอเป็นผู้หญิงที่สูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร รูปร่างสูงโปร่งเป็นอย่างมาก ส่วนที่ควรจะโค้งก็โค้งเว้าได้อย่างสมบูรณ์แบบมีผมยาวลอนใหญ่สีทองเป็นประกายและที่สะดุดตาที่สุดคือผิวของเธอขาวเนียนจนดูเหมือนมีแสงเปล่งประกายออกมาได้ใบหน้าของเธอสวยงามชนิดที่หาได้ยากยิ่ง พอเห็นเธอแล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำว่า ‘งามล่มเมือง’ สามคำนี้มีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วฉีดยีนเข้าไปในแขนทั้งสองข้างของเธอ จากนั้นก็รีบถอยออกไปไม่นานนัก ร่างกายของเธอก็เริ่มเปลี่ยนแปลง ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วเธอแตกต่างจากพี่ชาย ร่างของเธอหลังจากการแปลงร่างมีรูปร่างที่เพรียวยาวกว่า และขนที่งอกขึ้นมาก็เป็นสีเงิน ทำให้ดูสูงส่งยิ่งขึ้นนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่อยู่นอกห้อ
"เป็นไปได้มากว่าเขาอาจจะซ่อนตัวอยู่ที่นั่นด้วย เราแอบไปตรวจสอบดูหน่อยดีกว่าถ้าเย่ซิวซ่อนตัวอยู่ที่นั่นจริง เราก็ฆ่าเขาเสียเลย ผู้ชายคนนั้นมีความลับอยู่มากมายเกิน ฉันสนใจเขามาก"พูทเบ้ปากแล้วพูดว่า "ก็ได้ ถ้าน้องสาวสุดที่รักของฉันพูดอย่างนั้น งั้นเราก็ไปกันเดี๋ยวนี้เลย"......ในห้องลับ เย่ซิวจัดเตรียมวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการสร้างร่างแยกทองคำทั้งหมดวางไว้ตรงหน้าข้าง ๆ กันมีเตาหลอมยาตั้งอยู่เขาเริ่มด้วยการใช้พลังกระตุ้นเตาหลอม หลอมละลายวัตถุดิบแต่ละอย่างและทำให้พวกมันบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นขั้นตอนการรวมวัตถุดิบเหล่านี้เข้าด้วยกันค่อนข้างยากเพราะคุณสมบัติของวัตถุดิบแต่ละชนิดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เขาต้องกระตุ้นเปลวไฟของเตาหลอมอย่างต่อเนื่อง ใช้อุณหภูมิสูงบังคับให้วัตถุดิบหลอมรวมเข้าด้วยกันขั้นตอนที่สองคือการใช้พลังจิตหล่อวัตถุดิบเหล่านี้ให้เป็นรูปร่างเหมือนตัวเขาเองทุกประการเขาใช้เวลาถึงสองวันเต็มจึงสำเร็จรูปปั้นที่มีรูปร่างและหน้าตาเหมือนเย่ซิวทุกกระเบียดนิ้วปรากฏขึ้นตรงหน้าเย่ซิวนวดหัวด้วยความอ่อนล้า การใช้พลังจิตสร้างรูปร่างตลอดสองวันทำให้พลังจิตของเขาหมดเกลี้ยงเขาไม่
ตอนนี้ประสาทสัมผัสของเย่ซิวไวเป็นพิเศษ ทันทีที่ออกมา เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งสองสายที่ห่างออกไปทางทิศเหนือราวสองร้อยลี้แม้ว่าพวกเขาเหมือนจะมีวิธีซ่อนพลังของตนอยู่ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นจากการรับรู้ของเย่ซิวได้“น่าสนใจ เป็นไปได้ว่ามหาอำนาจเหล่านั้นพบอะไรบางอย่างแล้วเลยส่งยอดฝีมือมา” เย่ซิวยิ้มมุมปาก และมุ่งหน้าไปยังจุดที่พลังทั้งสองอยู่ตอนนี้เป็นเวลาประมาณห้าทุ่มกว่าด้วยความพยายามของเฉินหลานและหวังซวง ยามค่ำคืนของสำนักโอสถในตอนนี้จึงมีชีวิตชีวามากพวกเขาเปิดทั้งบาร์ คาราโอเกะ และร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่แต่ทั้งหมดเป็นสถานที่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เย่ซิวไม่อนุญาตให้มีสิ่งไม่เหมาะสมเกิดขึ้นในสถานที่สาธารณะเหล่านี้เย่ซิวเปลี่ยนรูปลักษณ์เล็กน้อยก่อนเดินเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับบาร์ในประเทศอื่น ๆ บาร์ที่นี่เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นไม่มีผู้หญิงที่สวมผ้าน้อยชิ้นเต้นยั่วยวนบนเวที ดูยังค่อนข้างอนุรักษนิยมเย่ซิวกวาดสายตาไปรอบ ๆ บาร์อย่างรวดเร็ว และล็อกเป้าหมายได้ในทันทีชายหนึ่งคน หญิงหนึ่งคนชายคนนั้นเอนกายอยู่บนโซฟา มือข้างหนึ่งถือแก้วเหล้า อีกข้างโอบผู้หญิงที่แต่
เขาอยากจะดูว่าไอ้หน้าอ่อนตรงหน้านี้จะดื่มเหล้าแรงหกสิบดีกรีนี้ได้รึเปฃ่า?!เย่ซิวหยิบแก้วขึ้นมาดมเล็กน้อย จากนั้นก็ยกดื่มรวดเดียวจนหมด ทำให้พรีเอลล์มีความรู้สึกดีต่อเย่ซิวเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยคนจากประเทศจ้านฉงตี้ชอบดื่มเหล้ากันมาตั้งแต่เด็ก พวกเขาแต่ละคนมีความสามารถในการดื่มเหล้าที่ยอดเยี่ยมมากคนที่ดื่มเหล้าไม่เป็นจะถูกพวกเขามองด้วยสายตาดูถูก“เอาเหล้าแรง ๆ มาอีกสิบแก้ว!” พรีเอลล์มองเย่ซิวด้วยความสนใจ อยากจะดูว่าผู้ชายคนนี้จะดื่มได้มากแค่ไหนเย่ซิวมองหญิงสาวที่มีรูปลักษณ์ติดอันดับหนึ่งในสามอันดับแรกจากบรรดาผู้หญิงทุกคนที่เขารู้จัก แล้วถามไปว่า “ถ้าผมสามารถดื่มเหล้าแรง ๆ สิบแก้วนี้หมด จะได้อะไรเป็นรางวัลล่ะ?”เธอเลิกคิ้วเล็กน้อย “ถ้าคุณดื่มหมดแล้วเดินออกจากบาร์ได้เอง คืนนี้ฉันจะเป็นของคุณ”ภาพเลิกคิ้วนั้นช่างเย้ายวนใจริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อย เหมือนจะรอให้ใครบางคนมาลิ้มรสมัน หรืออาจเป็นการท้าทายเย่ซิวกลาย ๆเย่ซิวส่ายหัวเบา ๆ หญิงสาวคนนี้ดูถูกเขาเกินไป อย่าว่าแต่เหล้าหกสิบดีกรีเลย ต่อให้เป็นร้อยดีกรี เขาก็ดื่มได้เป็นสิบถังอย่างไม่สะทกสะท้านบาร์เทนเดอร์ที่อิจฉาอย่างม
ประเทศหลงเถิง ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าโบราณทางตอนเหนือ“อาจารย์ ผมกลับมาแล้ว มื้อเย็นวันนี้เป็นเนื้อกระต่ายแหละ”ณ ส่วนลึกของป่าโบราณมีบ้านไม้หลายหลังตั้งอยู่เห็นเพียงเด็กหนุ่มอายุราวสิบหกหรือสิบเจ็ดปีคนหนึ่ง ในมือหิ้วกระต่ายตัวอวบอ้วนมาด้วยหลายตัว เขากระโดดขึ้นไปบนโขดหินตะปุ่มตะป่ำขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ดีดตัวเพียงไม่กี่ครั้งก็มาถึงหน้าบ้านไม้เขาชื่อเย่ซิว อาศัยอยู่ที่นี่กับอาจารย์ของเขามาตั้งแต่ยังเด็กแล้วติดตามอาจารย์เพื่อฝึกฝนวรยุทธ เก็บสมุนไพร เรียนการแพทย์ และเรียนรู้ด้านการอ่านเขียนเอี๊ยดเย่ซิวผลักประตูแล้วเดินเข้าไป วินาทีต่อมาสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือกระต่ายในมือถูกทิ้งลงกับพื้นเห็นเพียงชายชราคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนฟูก ศีรษะตกลงมา ไม่มีลมหายใจเหลืออยู่แล้ว“อาจารย์ อาจารย์ครับ เป็นยังไงบ้าง?!”เย่ซิวตกใจมากรีบรุดขึ้นไปแล้วตรวจชีพจรของเขาก่อน จึงได้พบว่าไม่มีการเต้นของชีพจรแล้วจากนั้นเขาก็รีบหยิบเข็มเงินออกมาแล้วฝังเข็มลงไปไม่มีประโยชน์!เขาถ่ายทอดพลังปราณอันทรงพลังของตัวเองไปให้ แต่ก็ยังคงไร้ผลใด ๆความโศกเศร้าครั้งใหญ่เข้
“ไปให้พ้น แกไอ้คนเถื่อนตัวเหม็น อย่าเข้ามาในรถของฉันนะ และห้ามแตะต้องคุณปู่ของฉันด้วย!”เซี่ยชิงชิงแยกเขี้ยวยิงฟัน กางกรงเล็บของเธอเหมือนกับลูกแมวขี้โมโหเย่ซิวโกรธแล้ว ‘หญิงคนนี้คงไม่ปกติสินะ?!’เขาคว้าข้อมือของเซี่ยชิงชิง ออกแรงแล้วลากเธอออกมาเซี่ยชิงชิงพยายามดิ้นอย่างหนัก "กรี๊ดดด ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้นักเลงตัวเหม็น!"เพียะ เพียะ!เย่ซิวไม่ตามใจเธออยู่แล้ว จับเอวเธอขึ้นมาโดยตรงแล้วตีแรง ๆ สองทีร่างอ้อนแอ้นของเซี่ยชิงชิงชะงักกึก เธอหันไปมองเย่ซิวด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ "นาย...นายถึงกับ…!"เย่ซิวโยนเซี่ยชิงชิงลงกับพื้น ขู่เธออย่างดุร้ายว่า "หุบปากไปเลย ไม่งั้นฉันจะจัดการเธอตรงนี้แหละ! ในที่รกร้างห่างไกลแบบนี้ เธอหนีไม่รอดหรอก แม้แต่สัตว์ร้ายก็ยังเอาชนะฉันไม่ได้ ลองคิดดูเอาเองก็แล้วกัน!"เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันทีเย่ซิวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเธออีก เขาหันหลังแล้วกลับเข้าไปในรถเขาตรวจชีพจรของชายชราก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นพยักหน้าเล็กน้อย หยิบเข็มเงินออกมา หลังฆ่าเชื้อแล้ว จึงฝังเข็มลงไปบนจุดชีพจรของชายชราอย่างรวดเร็วแต่เดิมชายชรามีอาการหายใจติดขัดแต่หลังจา
เพียะ!หนึ่งฝ่ามือหนัก ๆ ฟาดไปที่หน้าของเซี่ยชิงชิงใบหน้าที่ขาวผ่องและเนียนละเอียดของเธอบวมขึ้นในทันทีนั้นเสียงตบที่คมชัด ดังก้องอยู่ในหูของทุกคน ทำให้เซี่ยเจี๋ยเบิกตากว้าง บอดี้การ์ดทั้งสองคนเองก็ตกตะลึงเช่นกันเซี่ยชิงชิงยกมือขึ้นกุมหน้า ความรู้สึกเจ็บและร้อนผ่าว รวมถึงความอัปยศอดสูอย่างถึงที่สุดทำเอาเธอแทบบ้าคลั่งเสียงกรีดร้องแหลมดังขึ้นทันที "กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด แกกล้าตบหน้าฉันเหรอ?!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเธอ มองไปที่เซี่ยเจี๋ยแล้วพูด “หลานสาวของคุณกำเริบเสิบสาน ไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส ผมก็เลยช่วยสั่งสอนเธอแทนให้ มีปัญหาอะไรไหมครับ?"เซี่ยเจี๋ยยิ้มอย่างขมขื่น "ฉันไม่กล้ามีปัญหาหรอก หลานสาวฉันคนนี้ หยิ่งผยองมากเกินไปแล้วจริง ๆ"“คุณปู่ ฆ่าเขา รีบฆ่าเขาเดี๋ยวนี้เลย!” เซี่ยชิงชิงตีโพยตีพาย คนทั้งคนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกตบหน้า“หุบปาก!”เซี่ยเจี๋ยตะคอก เขาปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธออกมานิดหน่อย “ดูเหมือนว่าปกติปู่จะตามใจหลานจนเสียคนแล้วจริง ๆ รีบขอโทษผู้มีพระคุณเย่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปจนกระทั่งหลานเรียนจบ อย่าคิดว่าจะได้
จ้าวเฉียนเดินเข้ามาพร้อมกับเลขาฯ เมื่อเห็นฉากนี้เขาก็ตะโกนทันที "หยุดเดี๋ยวนี้!"ชายฉกรรจ์หลายสิบคนยั้งมือ“พ่อ?” จ้าวเฟิงตกตะลึง “พ่อมาทำอะไรที่นี่?”จ้าวเฉียนถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"จ้าวเฟิงอธิบายเหตุการณ์ให้จ้าวเฉียนฟังด้วยเสียงทุ้มต่ำดวงตาของจ้าวเฉียนเป็นประกาย ความคิดของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็วเขาเข้าใจสถานการณ์อย่างคร่าว ๆ แล้ว น่าจะเป็นเย่ซิวคนนี้ที่บังเอิญช่วยเซี่ยเจี๋ย แต่ขณะเดียวกันก็ดันไปทำให้เซี่ยชิงชิงขุ่นเคืองใจ จึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นต้องบอกว่าจ้าวเฉียนสมกับที่เป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆเขาโบกมือ "อย่างนั้นก็ลงมือเถอะ"แต่ในตอนนี้เอง จู่ ๆ เย่ซิวก็โพล่งขึ้น "คุณคือจ้าวเฉียนงั้นเหรอ?"ที่นี่คืออาคารของบริษัทเหิงหยวนกรุ๊ป และในพินัยกรรมที่อาจารย์ทิ้งไว้ให้นั้น ยังได้ทิ้งข้อมูลคร่าว ๆ เกี่ยวกับจ้าวเฉียนเอาไว้ด้วยจ้าวเฟิงโกรธมาก "ชื่อของพ่อฉัน แกอยากจะเรียกก็เรียกได้หรือไง? ไอ้คนเถื่อน!"เย่ซิวเพิกเฉยต่อเขา "เป็นคุณจริง ๆ เยี่ยมเลย ผมมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะ"“โอ้?” จ้าวเฉียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "คนเถื่อนที่เพิ่งลงมาจากเขาอย่างนาย มีธุระอะไรกับฉ
เขาอยากจะดูว่าไอ้หน้าอ่อนตรงหน้านี้จะดื่มเหล้าแรงหกสิบดีกรีนี้ได้รึเปฃ่า?!เย่ซิวหยิบแก้วขึ้นมาดมเล็กน้อย จากนั้นก็ยกดื่มรวดเดียวจนหมด ทำให้พรีเอลล์มีความรู้สึกดีต่อเย่ซิวเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยคนจากประเทศจ้านฉงตี้ชอบดื่มเหล้ากันมาตั้งแต่เด็ก พวกเขาแต่ละคนมีความสามารถในการดื่มเหล้าที่ยอดเยี่ยมมากคนที่ดื่มเหล้าไม่เป็นจะถูกพวกเขามองด้วยสายตาดูถูก“เอาเหล้าแรง ๆ มาอีกสิบแก้ว!” พรีเอลล์มองเย่ซิวด้วยความสนใจ อยากจะดูว่าผู้ชายคนนี้จะดื่มได้มากแค่ไหนเย่ซิวมองหญิงสาวที่มีรูปลักษณ์ติดอันดับหนึ่งในสามอันดับแรกจากบรรดาผู้หญิงทุกคนที่เขารู้จัก แล้วถามไปว่า “ถ้าผมสามารถดื่มเหล้าแรง ๆ สิบแก้วนี้หมด จะได้อะไรเป็นรางวัลล่ะ?”เธอเลิกคิ้วเล็กน้อย “ถ้าคุณดื่มหมดแล้วเดินออกจากบาร์ได้เอง คืนนี้ฉันจะเป็นของคุณ”ภาพเลิกคิ้วนั้นช่างเย้ายวนใจริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อย เหมือนจะรอให้ใครบางคนมาลิ้มรสมัน หรืออาจเป็นการท้าทายเย่ซิวกลาย ๆเย่ซิวส่ายหัวเบา ๆ หญิงสาวคนนี้ดูถูกเขาเกินไป อย่าว่าแต่เหล้าหกสิบดีกรีเลย ต่อให้เป็นร้อยดีกรี เขาก็ดื่มได้เป็นสิบถังอย่างไม่สะทกสะท้านบาร์เทนเดอร์ที่อิจฉาอย่างม
ตอนนี้ประสาทสัมผัสของเย่ซิวไวเป็นพิเศษ ทันทีที่ออกมา เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งสองสายที่ห่างออกไปทางทิศเหนือราวสองร้อยลี้แม้ว่าพวกเขาเหมือนจะมีวิธีซ่อนพลังของตนอยู่ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นจากการรับรู้ของเย่ซิวได้“น่าสนใจ เป็นไปได้ว่ามหาอำนาจเหล่านั้นพบอะไรบางอย่างแล้วเลยส่งยอดฝีมือมา” เย่ซิวยิ้มมุมปาก และมุ่งหน้าไปยังจุดที่พลังทั้งสองอยู่ตอนนี้เป็นเวลาประมาณห้าทุ่มกว่าด้วยความพยายามของเฉินหลานและหวังซวง ยามค่ำคืนของสำนักโอสถในตอนนี้จึงมีชีวิตชีวามากพวกเขาเปิดทั้งบาร์ คาราโอเกะ และร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่แต่ทั้งหมดเป็นสถานที่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เย่ซิวไม่อนุญาตให้มีสิ่งไม่เหมาะสมเกิดขึ้นในสถานที่สาธารณะเหล่านี้เย่ซิวเปลี่ยนรูปลักษณ์เล็กน้อยก่อนเดินเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับบาร์ในประเทศอื่น ๆ บาร์ที่นี่เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นไม่มีผู้หญิงที่สวมผ้าน้อยชิ้นเต้นยั่วยวนบนเวที ดูยังค่อนข้างอนุรักษนิยมเย่ซิวกวาดสายตาไปรอบ ๆ บาร์อย่างรวดเร็ว และล็อกเป้าหมายได้ในทันทีชายหนึ่งคน หญิงหนึ่งคนชายคนนั้นเอนกายอยู่บนโซฟา มือข้างหนึ่งถือแก้วเหล้า อีกข้างโอบผู้หญิงที่แต่
"เป็นไปได้มากว่าเขาอาจจะซ่อนตัวอยู่ที่นั่นด้วย เราแอบไปตรวจสอบดูหน่อยดีกว่าถ้าเย่ซิวซ่อนตัวอยู่ที่นั่นจริง เราก็ฆ่าเขาเสียเลย ผู้ชายคนนั้นมีความลับอยู่มากมายเกิน ฉันสนใจเขามาก"พูทเบ้ปากแล้วพูดว่า "ก็ได้ ถ้าน้องสาวสุดที่รักของฉันพูดอย่างนั้น งั้นเราก็ไปกันเดี๋ยวนี้เลย"......ในห้องลับ เย่ซิวจัดเตรียมวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการสร้างร่างแยกทองคำทั้งหมดวางไว้ตรงหน้าข้าง ๆ กันมีเตาหลอมยาตั้งอยู่เขาเริ่มด้วยการใช้พลังกระตุ้นเตาหลอม หลอมละลายวัตถุดิบแต่ละอย่างและทำให้พวกมันบริสุทธิ์ยิ่งขึ้นขั้นตอนการรวมวัตถุดิบเหล่านี้เข้าด้วยกันค่อนข้างยากเพราะคุณสมบัติของวัตถุดิบแต่ละชนิดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เขาต้องกระตุ้นเปลวไฟของเตาหลอมอย่างต่อเนื่อง ใช้อุณหภูมิสูงบังคับให้วัตถุดิบหลอมรวมเข้าด้วยกันขั้นตอนที่สองคือการใช้พลังจิตหล่อวัตถุดิบเหล่านี้ให้เป็นรูปร่างเหมือนตัวเขาเองทุกประการเขาใช้เวลาถึงสองวันเต็มจึงสำเร็จรูปปั้นที่มีรูปร่างและหน้าตาเหมือนเย่ซิวทุกกระเบียดนิ้วปรากฏขึ้นตรงหน้าเย่ซิวนวดหัวด้วยความอ่อนล้า การใช้พลังจิตสร้างรูปร่างตลอดสองวันทำให้พลังจิตของเขาหมดเกลี้ยงเขาไม่
นักวิทยาศาสตร์อีกคนหนึ่งตอบว่า “ความคืบหน้าก็น่าจะพอ ๆ กัน แต่ดูเหมือนน้องสาวคนสวยของคุณจะไม่ชอบให้มีนักวิทยาศาสตร์ชายคอยมองตอนเธอเปลี่ยนร่าง ดังนั้นพวกเราก็ไม่รู้รายละเอียดเหมือนกันแต่ดูจากเวลาแล้ว อีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็น่าจะรู้ผลแล้วล่ะ”ในห้องทดลองข้าง ๆ กำลังมีเหตุการณ์คล้าย ๆ กันเกิดขึ้น เพียงแต่ครั้งนี้เป้าหมายของการทดลองเป็นผู้หญิงเธอเป็นผู้หญิงที่สูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร รูปร่างสูงโปร่งเป็นอย่างมาก ส่วนที่ควรจะโค้งก็โค้งเว้าได้อย่างสมบูรณ์แบบมีผมยาวลอนใหญ่สีทองเป็นประกายและที่สะดุดตาที่สุดคือผิวของเธอขาวเนียนจนดูเหมือนมีแสงเปล่งประกายออกมาได้ใบหน้าของเธอสวยงามชนิดที่หาได้ยากยิ่ง พอเห็นเธอแล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำว่า ‘งามล่มเมือง’ สามคำนี้มีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วฉีดยีนเข้าไปในแขนทั้งสองข้างของเธอ จากนั้นก็รีบถอยออกไปไม่นานนัก ร่างกายของเธอก็เริ่มเปลี่ยนแปลง ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วเธอแตกต่างจากพี่ชาย ร่างของเธอหลังจากการแปลงร่างมีรูปร่างที่เพรียวยาวกว่า และขนที่งอกขึ้นมาก็เป็นสีเงิน ทำให้ดูสูงส่งยิ่งขึ้นนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่อยู่นอกห้อ
แต่นี่ก็ถือว่าเป็นโชคที่คาดไม่ถึง การส่งกระทิงคลั่งออกมานับว่าไม่ได้เสียเปล่าเย่ซิวบอกตำแหน่งของเหมืองถ่านหินให้กระทิงคลั่ง จากนั้นก็ให้หวังซวงและเฉินหลานจัดการส่งคนเข้ายึดพื้นที่นี้ส่วนพวกชาวบ้านของชนเผ่าเหล่านี้ จะถูกผนวกรวมเข้ากับสำนักโอสถและค่อย ๆ ทำการอบรมสอนพวกเขาในภายหลังจากนั้นเย่ซิวก็รีบรุดกลับไปยังห้องลับเพื่อเตรียมสร้างร่างแยกทองคำ......ใต้ผืนทะเลทรายแห่งหนึ่งในประเทศจ้านฉงตี้ มีห้องทดลองชีวภาพขนาดใหญ่อยู่สถานที่แห่งนี้ถูกป้องกันอย่างแน่นหนา แม้จะเป็นกองทัพหนึ่งแสนคนก็ยากที่จะโจมตีเข้ามาภายในเวลาไม่กี่วัน“โฮก โฮก โฮก!”เสียงคำรามอันน่าหวาดกลัวดังก้องจากส่วนที่ลึกที่สุดของห้องทดลอง เสียงนั้นดังเหมือนกับฟ้าผ่าที่ชวนให้แสบแก้วหูเห็นเพียงชายร่างใหญ่คนหนึ่งสูงราวสองเมตรกำลังแหงนหน้าคำรามอย่างบ้าคลั่ง เส้นเลือดที่ผิวหนังปูดโปนขึ้นราวกับงูยักษ์ที่ขยับไปมา ดูน่ากลัวอย่างยิ่งทั่วร่างของเขาปกคลุมไปด้วยขนสีดำที่งอกยาวออกมาและร่างกายก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น เขี้ยวยาวโผล่ออกมา เขากลายร่างเป็นหมีดำยักษ์ที่สูงหกถึงเจ็ดเมตรพื้นเหล็กใต้เท้าของเขา วินาทีนี้แตกร้าวกระจัดกระ
"ผมไปเจอเหมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเผ่านั้นครับ"สีหน้าของเย่ซิวเปลี่ยนไปเล็กน้อย "นายพบมันได้ยังไง?"ชนเผ่านั้นเขารู้จักดี เป็นสถานที่ที่ยากจนมาก จนยิ่งกว่าสถานการณ์ของสำนักโอสถในอดีตเสียอีกอย่าว่าแต่เหมืองเลย แม้แต่ตาน้ำพุยังมีแค่ไม่กี่แห่งกระทิงคลั่งตอบว่า "ตอนผมไล่ตามหัวหน้าเผ่าของพวกเขาใช้ระเบิดไปสองลูก พอดีจุดที่ระเบิดเป็นพื้นที่ซึ่งดินค่อนข้างร่วนจากนั้นบริเวณนั้นก็ถล่มลงไป พอผมเข้าไปดูก็พบว่ามันเป็นเหมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง"เย่ซิวรู้สึกเหลือเชื่อ โชคดีขนาดนี้เชียวเหรอ?เขาจึงถามต่อว่า "เหมืองนั้นเป็นยังไงบ้าง?""ข้างในมีแร่ที่เหมือนทองคำอยู่ แต่มีจุดสีดำปะปน ไม่แน่ใจว่าเป็นแร่ชนิดไหน""มีจุดสีดำปะปนอย่างนั้นเหรอ?!" เย่ซิวดีใจมาก "นายแน่ใจนะว่าไม่ได้มองผิด?""แน่ใจครับ ผมเห็นมันแบบนั้นจริง ๆ""ดีมาก! นายเฝ้าที่นั่นไว้ อย่าไปไหนเด็ดขาด ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!"หลังจากวางสาย เย่ซิวก็ไม่เสียเวลาแม้แต่น้อยถ้าสิ่งที่กระทิงคลั่งบรรยายมาให้ฟังเป็นเรื่องจริง เหมืองเล็ก ๆ ที่พบนั่น มีความเป็นไปได้เกือบแปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะเป็นแร่ทองคำดำแร่ชนิดนี้ล้ำค่าอย่างมาก แ
......ทางตอนใต้ของสำนักโอสถมีประเทศเล็ก ๆ แห่งหนึ่งชื่อว่ากวาจีแม้จะเรียกว่าประเทศ แต่ความจริงแล้วมันก็เป็นการยกยอเกินไปพื้นที่ทั้งหมดของที่นี่มีเพียงประมาณสามพันตารางเมตร ซึ่งเทียบได้กับอำเภอขนาดใหญ่อำเภอหนึ่งของประเทศหลงเถิงประชากรรวมทั้งหมดมีเพียงหกแสนกว่าคน และค่าจีดีพีต่อหัวก็ต่ำมาก ราว ๆ สี่พันห้าร้อยบาทเท่านั้นผู้คนที่นี่อาศัยอยู่เป็นเผ่าต่าง ๆนี่คือสถานที่เล็ก ๆ ที่แม้แต่บนแผนที่โลกก็ยังไม่มีการระบุไว้ผู้ปกครองที่ควบคุมพวกเขาเรียกว่าหัวหน้าเผ่าหัวหน้าเผ่าคนปัจจุบันเพิ่งขึ้นดำรงตำแหน่งได้เพียงสองปี และกำลังต้องการทำการปฏิรูปครั้งใหญ่เพื่อพิสูจน์ความสามารถของตนแต่อุปสรรคใหญ่ที่ต้องเผชิญ คือไม่มีเงินต่อให้มีความทะเยอทะยานแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีเงิน ทุกอย่างก็เป็นไปไม่ได้และสำหรับสถานที่เล็ก ๆ แบบนี้ที่ไม่มีทั้งทรัพยากรแร่ธาตุหรือน้ำมัน จะไปขอยืมเงินจากใครก็คงไม่มีใครยอมให้ยืมประเทศที่ยากจนขนาดนี้ ใครจะอยากเสี่ยงลงทุนด้วยดังนั้นหัวหน้าเผ่าจึงมุ่งเป้าหมายไปที่สำนักโอสถในขณะนี้ เขากำลังเรียกประชุมเหล่าผู้นำระดับสูงของเผ่าทั้งหมดเพื่อหารือ“ตอนนี้พวกเราต้องการพ
“ให้ประเทศปิงจือทำการค้าขายอย่างใกล้ชิดกับสำนักโอสถพัฒนาโครงการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองฝ่าย และยกเว้นค่าธรรมเนียมการเข้าประเทศจากนั้นให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันลงทุนสร้างทางด่วนที่ชายแดนของสองประเทศในอนาคตให้พัฒนาเส้นทางรถไฟเพิ่มเติม เนื่องจากฝ่ายสำนักโอสถมีผู้หญิงอยู่เป็นจำนวนมาก จึงสามารถส่งเสริมการแต่งงานข้ามประเทศระหว่างคนของทั้งสองฝ่ายได้”หวังลี่มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เธอนึกถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากแผนการนี้อีกไม่นาน ประชาชนของทั้งสองฝ่ายก็จะกลายเป็นหนึ่งเดียวกันจนแยกไม่ออก และเมื่อถึงตอนนั้นประเทศปิงจือทั้งหมดก็จะตกมาอยู่ในมือของเย่ซิวเธออดไม่ได้ เงยหน้าขึ้นมองหนานกงเสวี่ยและหนานกงอวี่สองพี่น้องดูเหมือนจะคาดการณ์เอาไว้แล้ว สีหน้าของพวกเธอจึงไม่ได้แสดงถึงความแปลกใจใด ๆพวกเธอคิดตกแล้วแทนที่จะยึดติดกับการปกป้องประเทศปิงจือที่เป็นเพียงประเทศเล็ก ๆ ไม่สู้ร่วมมือกับเย่ซิวเพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าในอนาคต อาจจะสามารถขยายอาณาเขตของประเทศให้ใหญ่ขึ้นหลายเท่าตัว หรือแม้กระทั่งสิบเท่าตัวเย่ซิวตบต้นขาของหนานกงเสวี่ยเบา ๆ พร้อมกับพูดว่า “พวกคุณไปทำงานเถอะ แล้วรีบเสนอแผนงานมาให
หวังลี่ถอยหลังไปหลายก้าวอย่างหยุดไม่อยู่ "จะเป็นไปได้ยังไง! พวกคุณกำลังล้อฉันเล่นอยู่ใช่ไหมคะ? บนโลกนี้จะมีผู้ชายคนไหนที่คู่ควรกับพวกคุณ?"ในสายตาของเธอ หนานกงเสวี่ยและหนานกงอวี่เปรียบเสมือนเทพเซียนบนสวรรค์ แล้วคนธรรมดาทั่วไปจะมีสิทธิ์คู่ควรกับพวกเธอได้อย่างไร?นานกงเสวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่พอใจต่อปฏิกิริยาของหวังลี่ "ยังยืนอึ้งอะไรอยู่อีก? รีบมาคารวะคุณเย่เดี๋ยวนี้!"“ฉันไม่เชื่อว่าไอ้หน้าละอ่อนคนนี้จะได้รับความโปรดปรานจากอาจารย์และอาจารย์อา เขาไม่คู่ควร!” หวังลี่ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นพลังปราณสั่นสะเทือน ร่างของเธอก็พุ่งเข้าหาเย่ซิวดั่งเสือดาว ดวงตาของเธอฉายแววอาฆาต “ไอ้หน้าอ่อน ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่านายใช้เล่ห์กลอะไรถึงหลอกพวกเธอได้!”สองพี่น้องหนานกงทั้งตกใจและโกรธจัด พวกเธอไม่คาดคิดเลยว่าหวังลี่จะไร้เหตุผลถึงเพียงนี้แต่ยังไม่ทันที่พวกเธอจะลงมือ เย่ซิวก็ชิงลงมือก่อนแล้วเพียงเห็นเขาค่อย ๆ ยกมือขวาขึ้นอย่างช้า ๆ พลังที่มองไม่เห็นก็กระทบเข้ากับร่างของหวังลี่ร่างของเธอที่พุ่งเข้ามาจู่ ๆ ก็หยุดค้างกลางอากาศ เวลาราวกับหยุดนิ่งในชั่วพริบตาทั้งสามคนในสถานที่นั้นล้วนแสดงสีหน