หลังจากเย่ซิวตรวจสอบค่ายกลนี้อย่างละเอียดก็พบว่ามันมีกลไกทำลายตัวเองติดตั้งอยู่ด้วยจริง ๆถ้าถูกโจมตีอย่างรุนแรงจากภายนอก มันจะทำลายทุกสิ่งที่อยู่ภายในให้สิ้นซากแต่สิ่งที่ทำให้เย่ซิวตกตะลึงไม่ใช่เรื่องนี้ที่เขาตกใจเพราะแหล่งพลังงานที่ใช้ขับเคลื่อนค่ายกลนี้ไม่ใช่หินวิญญาณ หรือสิ่งที่มีพลังงานอันทรงพลังหากแต่เป็นเครื่องยนต์เครื่องยนต์ขนาดมหึมาที่ฝังอยู่ใต้ดินสูงกว่าร้อยเมตรและกว้างถึงห้าสิบเมตรเย่ซิวขยี้ตาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกปวดตาอย่างมากเนื่องจากต้องมองทะลวงผ่านพื้นดินและค่ายกลทำให้เขาต้องใช้พลังสายตามากจนแทบเกินรับไหว“คนพวกนี้ตัวเล็กแต่สมองใหญ่จริง ๆ ทำได้ยังไงกันนะ?”ค่ายกลควรจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากหินวิญญาณหรือแหล่งพลังงานอื่น ๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานดวงจันทร์แต่สิ่งที่เขาเห็นตอนนี้คือมันถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเย่ซิวยอมรับเลยว่าเขาประเมินคนในประเทศนี้ต่ำเกินไปจริง ๆ ถ้าพวกเขาสามารถคิดค้นสิ่งนี้ขึ้นมาเองได้ก็นับว่าเหนือจินตนาการอยู่เย่ซิวสำรวจดูรอบ ๆ แต่ก็ไม่พบช่องทางใด ๆ ที่จะเจาะเข้าไปได้เลยเขาจึงตัดสินใจรออยู่ที่เดิมเพื่อดูว่าจะมีใครโผล
ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีเด็กที่ตายจากการถูกเธอเฆี่ยนตีไปไม่น้อยหญิงหน้าตาน่าเกลียดนั่งกินอาหารพลางมองเด็กสาวไปด้วย “ไอ้เด็กต่ำต้อย ดูจากลักษณะของแกแล้วไม่น่าจะเป็นคนของประเทศอ่ายเหรินใช่ไหมแกน่าจะมาจากประเทศหลงเถิงใช่ไหมล่ะ? บอกฉันมาว่าแกมานี่ได้ยังไง?”เด็กหญิงก้มหน้าลงด้วยแววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างชัดเจน เธอดูไม่อยากพูดอะไรมากนัก แต่ด้วยความกลัวว่าจะถูกลงโทษอีกจึงเอ่ยออกมาเบา ๆ“ฉันถูกเพื่อนของพ่อจับตัวมา แล้วถูกขายมาที่นี่เพื่อเป็นลูกบุญธรรมให้คนอื่น”“อย่างนี้นี่เอง งั้นเรียกแกว่าเด็กต่ำต้อยก็ถูกแล้ว”หญิงหน้าตาน่าเกลียดหยิบขาไก่ขึ้นมาเตรียมจะกินแต่ทันทีที่ขาไก่แตะริมฝีปาก ร่างกายของเธอก็แข็งทื่อไปทันทีเธอรู้สึกได้ถึงจิตสังหารอันน่าสะพรึงที่ปกคลุมรอบตัว มันเป็นพลังที่เธอไม่อาจต้านทานได้เธอค่อย ๆ หันกลับไปด้วยความยากลำบาก แล้วก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอย่างไม่น่าเชื่อยืนอยู่ด้านหลัง สายตาที่เขามองเธอมาเหมือนกำลังมองมดตัวหนึ่งเย่ซิวไม่ได้เสียเวลาพูดอะไรให้มากความ “ฉันถาม เธอตอบ ถ้าพูดอะไรไร้สาระก็รอรับผลที่ตามมาได้เลย”น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยอำนาจอันเย็นยะเยือกทำให
เด็กหญิงมีใบหน้าคล้ายกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เย่ซิวรู้จักถึงเจ็ดส่วน ดูยังไงก็น่าจะเป็นพี่น้องกันเย่ซิวมองเธอ “ในเมื่อเธอจำได้ว่าตัวเองเคยอยู่ที่ไหน แล้วทำไมถึงจำชื่อตัวเองไม่ได้?”เด็กหญิงส่ายหัว “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คิดถึงเรื่องนี้ทีไรมันจะปวดหัวอย่างหนักทุกทีเลยค่ะ”เย่ซิวเข้าใจทันที เธอคงถูกลบความทรงจำบางส่วนด้วยคาถาสะกดจิตขั้นสูงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสมองและวิญญาณแบบนี้ เย่ซิวเองก็ช่วยอะไรไม่ได้เขาทำได้เพียงพาเด็กคนนี้กลับไปแล้วให้ผู้หญิงคนนั้นช่วยดู เผื่อจะจำอะไรได้บ้าง“ตอนนี้เธอรออยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวฉันจะพาเธอออกไปด้วยกัน ตกลงไหม?”เด็กหญิงพยักหน้าอย่างเชื่อฟังเย่ซิวลุกขึ้นเดินไปที่แท่นหินกลางห้องบนแท่นนั้นมีของสามสิ่งวางอยู่ ซึ่งก็คือสมบัติล้ำค่าทั้งสามของประเทศอ่ายเหรินตามที่เฟยอวี่บอกแสงสีทองเจิดจ้าฉายผ่านแววตาของเขา ก่อนที่สมบัติสามสิ่งตรงหน้าจะเปลี่ยนไปทันทีสมบัติทั้งสามถูกห่อหุ้มด้วยไอสีทองเข้มข้นมันคือโชคชะตาของชาติโชคชะตาของชาติหมายถึงพลังศรัทธาและความผูกพันที่ประชาชนมีต่อประเทศของตัวเองยิ่งโชคชะตาของชาติแข็งแกร่ง ประเทศนั้นก็จะยิ่งทรงพลัง ต่อให้เผ
แสงเย็นวาบสะท้อนจากกระบี่ทำให้เย่ซิวรู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อยที่ผิวหนัง แสดงให้เห็นว่าความคมของมันไม่ด้อยไปกว่ากระบี่หงส์โบยบินเลยขณะที่เขาถือกระบี่เล่มนี้ไว้ กระบี่หงส์โบยบินที่เก็บไว้ในจุดตันเถียนของเขาก็เริ่มสั่นสะท้านแต่เมื่อรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจเล็กน้อยของเย่ซิว มันก็เริ่มสงบลงบนกระบี่มีจุดแสงเจ็ดจุดที่เริ่มส่องสว่างขึ้นทีละจุดจนกลายเป็นรูปร่างคล้ายช้อนเย่ซิวเงยหน้าขึ้นทันทีด้วยพลังของกระบี่เล่มนี้ จิตสำนึกของเขาพุ่งทะยานขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด ทะลุชั้นบรรยากาศขึ้นไปยังห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ซิวได้สัมผัสประสบการณ์เช่นนี้ เขารู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมากพลังจิตของเขากลายเป็นสิ่งที่เปราะบางอย่างมากในห้วงอวกาศนั้นหากไม่ได้รับการปกป้องจากพลังของกระบี่ดาวตก จิตสำนึกของเขาคงพังทลายและเขาอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสเย่ซิวไม่กล้าอยู่นานจึงรีบกลับเข้าร่างตามเส้นทางเดิมทันทีเมื่อจิตสำนึกย้อนกลับมา เย่ซิวก็ก้มมองกระบี่ในมือด้วยความประหลาดใจ “กระบี่เล่มนี้สามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มดาวเหนือทั้งเจ็ดดวงได้ น่าอัศจรรย์จริง ๆ”สำหรับเย่ซิวแล้ว กระบี่เล่มนี้มีคุณค่าไม่ด้อยไป
“นายท่าน ท่านต้องการลูกศิษย์ไหมขอรับ? ดูข้าสิ ทั้งว่านอนสอนง่าย เชื่อฟัง ซื่อสัตย์เป็นที่สุด ท่านจะให้ข้าทำอะไรข้าก็ยอมทำทุกอย่างเลยขอรับ”เมื่อครู่นี้ยังดูน่าเกรงขามราวกับจอมมารอันดับหนึ่งของจักรวาลอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน กลายเป็นคนประจบสอพลอราวกับลูกหมาตัวน้อยทันทีสมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นจอมมารของแท้จริง ๆ นิสัยและการกระทำลไม่เหมือนคนทั่วไปเลยสักนิดเย่ซิวส่ายหัวอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่อยากเสียเวลาไปกับหมอนี่มากนัก “พูดมาสิว่าเจ้าธงหมื่นวิญญาณนี่มันมีประโยชน์อะไร?”“นี่มันสุดยอดสมบัติเลยนะ!” จอมมารโลหิตตื่นเต้น “พลังและระดับของเจ้าธงนี่ขึ้นอยู่กับจำนวนวิญญาณที่เก็บสะสมไว้ได้ ยิ่งเก็บได้เยอะ ก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นหากสะสมวิญญาณระดับอมตะได้ถึงหมื่นดวงล่ะก็ มันคงเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว รับรองเลยว่าแค่ปล่อยออกมาทั้งหมดทีเดียว ประเทศระดับกลางจะถูกกวาดล้างหายไปได้ในวันเดียว”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเพ้อฝันเย่ซิวรู้สึกขำเล็กน้อย “นายฝันกลางวันอยู่หรือเปล่า ตอนนี้อย่าว่าแต่ระดับอมตะเลย ขนาดระดับจินตานในโลกทั้งใบนี้ก็มีแค่ฉันคนเดียว ระดั
“โอเค งั้นเราไปกันเถอะ”เย่ซิวพาเด็กสาวออกไปจากที่นั่นเมื่อเดินออกมานอกพระราชวัง ด้านนอกก็เต็มไปด้วยความโกลาหลไปหมดมีคนเจอร่างของกษัตริย์ที่ตายแล้ว ทำให้พระราชวังทั้งหลังเต็มไปด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด บรรยากาศรอบตัวอัดแน่นไปด้วยความกดดันราวกับคลื่นความโกรธที่โหมกระหน่ำเด็กสาวมีสีหน้าซีดเซียว มือเล็ก ๆ เผลอกำชายเสื้อของเย่ซิวเอาไว้แน่นโดยไม่รู้ตัวแต่แล้วเธอก็รู้สึกตัว ก่อนจะรีบปล่อยมือออกและก้มหน้าลงด้วยท่าทางเหมือนทำผิดตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอคงผ่านความเจ็บปวดมาไม่น้อย จนจิตใจของเธอเปราะบางถึงขั้นนี้พอเห็นแบบนี้ทำให้เขานึกถึงจวงเสี่ยวหยิงที่มีชะตากรรมไม่ต่างกันนักความโกรธแค้นที่มีต่อสำนักสหัสธารก็เพิ่มขึ้นอีกระดับบนท้องฟ้าด้านบนมีโดรนมากกว่าพันตัวบินวนอยู่เย่ซิวพาเธอหลบออกไปได้อย่างง่ายดายไม่นานนัก ค่ายกลที่ไม่มีเครื่องยนต์คอยเสริมพลังอย่างต่อเนื่องก็พังทลายลงหลังออกจากพระราชวังไป เย่ซิวก็เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตัวเองและเด็กสาวเล็กน้อยเขาพาเธอไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่สองสามชุดให้เธอ จากนั้นก็พาไปหาอะไรอร่อย ๆ กินให้อิ่มต่อมาเขาก็หาโร
“เอ๊ะ?” เด็กสาวทำหน้าอึดอัด “ฉันไม่กล้าหรอกค่ะ แถมประตูบานนี้ยังทำจากเหล็กอีก ฉันถีบยังไงก็ไม่พังแน่ ๆ”เย่ซิวยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ทำตามที่ฉันบอกก็พอ”หน้าประตูมีบอดี้การ์ดยืนเรียงรายกันเป็นสองแถว แต่ตอนนี้พวกเขากลับขยับตัวไม่ได้เลยเด็กสาวมองรอยยิ้มของเย่ซิว ไม่รู้ทำไมจู่ ๆ ก็รู้สึกมีความมั่นใจขึ้นมาเธอสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเดินไปที่หน้าประตูใหญ่ หลับตาแน่นแล้วยกขาขวาถีบออกไปสำหรับเด็กสาวธรรมดาที่ไม่เคยบำเพ็ญอะไรมาก่อน แรงถีบย่อมไม่มากอยู่แล้วแต่ทันทีที่เธอยกเท้าถีบออกไป เย่ซิวก็ดีดนิ้วเบา ๆโครม!ประตูเหล็กขนาดใหญ่ล้มลงด้วยแรงถีบของเด็กสาวทันที เธอเองก็ถึงกับยืนนิ่งค้างด้วยความตกตะลึง“ใครวะ? กล้าดียังไงถึงมาป่วนที่นี่”ชายวัยกลางคนหน้าตาน่ารังเกียจคนหนึ่งวิ่งออกมาจากข้างใน เขามองดูประตูที่ล้มลงก่อนจะหันมามองเด็กสาวหลังจากชะงักไปชั่วครู่ แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นโลภอย่างชัดเจน “อ้อ นางเด็กเลว นึกไม่ถึงว่าโตขึ้นมาจะงดงามขนาดนี้ มานี่ซะดี ๆ ฉันจะส่งเธอไปให้เจ้าสำนัก เขาต้องให้รางวัลฉันอย่างงามแน่”พูดจบเขาก็ยื่นมือหมายจะคว้าบ่าเด็กสาวไว้ปัง!เย่ซิวมองเห็นไอสีดำที่ลอยวน
ทันใดนั้นดวงตาของเชียนหลิวอี้เจี้ยนก็วาวโรจน์ด้วยประกายเย็นเยียบ “ข้างนอกมีแขกไม่ได้รับเชิญ ไป๋หลี่ ออกไปจัดการซะ”ชายที่ถูกเรียกว่าไป๋หลี่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนหมุนตัวออกไปเขาผลักประตูเดินออกมาก่อนจะพบกับเย่ซิวและเด็กสาวสองคน ไป๋หลี่หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วจับจ้องไปที่เย่ซิวทันทีเขาสัมผัสได้ว่าชายตรงหน้าคนนี้ไม่ธรรมดาเพราะเย่ซิวเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองไปแล้ว ไป๋หลี่จึงไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคือศัตรูตัวฉกาจที่สุดของประเทศอ่ายเหรินในตอนนี้“แกเป็นใคร? ทำไมถึงบุกรุกเข้ามาโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้”ไป๋หลี่ยังไม่เคลื่อนไหวเพราะยังไม่รู้ถึงพลังที่แท้จริงและแรงจูงใจของชายตรงหน้าขณะนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น มีหญิงสาวคนหนึ่งในชุดกระโปรงสีดำเดินเข้ามาเธอเป็นหญิงร่างอวบ สูงเพียงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบเซนติเมตรหน้าตาจัดได้ว่าพอประมาณ ให้คะแนนสักเจ็ดเต็มสิบ แต่กลับมีเสน่ห์แบบเย้ายวนที่เพิ่มความน่าสนใจให้เธอมากขึ้นเด็กสาวถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว ผู้หญิงคนนี้คือแม่บุญธรรมของเธอที่มักจะดุด่าว่ากล่าวและทำร้ายเธอบ่อยอยู่ครั้งเมื่อฝ่ายหญิงเห็นเด็กสาว เธอก็สำรวจดูตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยิ้มเยาะ “นึ
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ
พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ
เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ
ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่