อาจารย์ต่างชาติเดินจากไป และไม่ได้กลับมาอีกคาดว่าคงไม่มีหน้ากลับมาแล้วคาบเรียนนี้จึงดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่มีใครมารบกวนเขาด้วยเสียงออดดังขึ้น และทุกคนก็ยังคงไม่ขยับเมื่อเห็นว่าเย่ซิวยังอยู่ที่นั่น พวกเขาก็ไม่กล้าออกไปทันใดนั้นใบหน้าที่งดงามก็โผล่เข้ามาจากนอกประตูผมสีดำยาวตรงของเธอตกลงมา นับเป็นภาพที่สวยงามมากฉากนี้ทำให้นักศึกษาทุกคนในห้องตะลึงทันทีสายตาที่เฉียบแหลมของลู่เสวี่ยเอ๋อร์กวาดไปรอบ ๆ ห้องเรียน และเมื่อเธอเห็นเย่ซิว ใบหน้าของเธอก็ดูมีความสุขขึ้นมาทันทีเธอวิ่งเข้าไปนั่งข้างเย่ซิ่ว และวางขวดนมเปรี้ยวลงบนโต๊ะของเขา“เพื่อนนักศึกษาเย่ เรียนคาบหนึ่งแล้วนายคงจะคอแห้งใช่ไหม? ดื่มนี่สิ”เย่ซิวเงยหน้าขึ้นมองเธอแล้วยิ้ม จากนั้นก็ลูบศีรษะเธอเบา ๆ “เด็กดี” เขาตั้งใจจะให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์อยู่ในฐานะภรรยาของเขา ดังนั้นเขาจึงลูบศีรษะเธอได้อย่างเป็นธรรมชาติแต่การกระทำนี้ทำให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์กระสับกระส่าย ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นแดงราวกับลูกแอปเปิล“เอ่อ...ฉัน...ยังมีธุระอื่น...ขอตัวก่อนนะ...”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ตะกุกตะกักเล็กน้อย พูดจบก็ก้มหัวต่ำไม่กล้ามองเย่ซิว ก่อนจะรีบออก
ทุกคนในห้องเรียนต่างก็รู้สึกชาไปทั้งตัวเซี่ยซิ่วซิ่วก็มาหาเย่ซิวอย่างไม่ต้องแปลกใจแม้ว่าตอนนี้รูปร่างและหน้าตาของเซี่ยซิ่วซิ่วจะด้อยกว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลิ่วเมิ่งอิ๋นเล็กน้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอก็เป็นสาวงามชั้นยอดด้วยเช่นกันเซี่ยซิ่วซิ่วมานั่งข้างเย่ซิวพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน “ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอทั้งสองคนจะต้องแช่น้ำสมุนไพรไปอีกสักพัก หากต้องการสมุนไพรอะไรบอกฉันนั ฉันจะให้คนไปซื้อมาให้”“ไม่เป็นไร ใช้แค่สมุนไพรทั่วไป เดี๋ยวผมไปซื้อเองหลังเลิกเรียน”รอยยิ้มของเซี่ยซิ่วซิ่วยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “แต่ฉันคิดว่าหากใช้สมุนไพรที่ดีกว่า ผลลัพธ์ก็จะดียิ่งขึ้น และมันก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อพวกเธอด้วยไม่ใช่เหรอ”“ฉันบังเอิญรู้จักร้านยาสมุนไพรเก่าแก่ร้านหนึ่งพอดี ที่นั่นมีสมุนไพรมากมายหลายชนิด”ดวงตาของเย่ซิวหรี่ลงเล็กน้อย พร้อมกับจ้องด้วยสายตาเฉียบคมราวกับจะมองทะลุเซี่ยซิ่วซิ่วไป “ดูเหมือนคุณจะใจดีกับผมมากเกินไปแล้ว”เซี่ยซิ่วซิ่วรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ภายใต้สายตาของเย่ซิว ราวกับว่าเธอสูญเสียเสื้อผ้าไปหมดทั้งตัว เปิดเผยทุกสิ่งต่อหน้าเขา แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วและยิ้มหว
มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจและส่งผลกระทบต่อเขาอย่างมากเขากำหนดเป้าหมายได้ในทันทีเขาตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องได้ตัวเธอมาและคนที่เขาสนใจก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากหลิ่วเมิ่งอิ๋นกระโปรงที่เธอใส่วันนี้ค่อนข้างหลวมมากแล้วแต่ด้วยรูปร่างที่ดีเยี่ยม ทำให้ยังคงสะดุดตา ไม่ว่าจะไปที่ใดก็กลายเป็นจุดเด่นเมื่อมาถึงสนามกีฬา อาจารย์ชาวต่างชาติคนนี้ก็ตั้งใจสอนอย่างจริงจัง และไม่ได้แสดงเจตนาชั่วร้ายใด ๆต่อหลิ่วเมิ่งอิ๋นเลยวิธีการของเขาแยบยลมาก หลังจากกำหนดเป้าหมายแล้ว ก็ไม่แสดงท่าทีผิดปกติใด ๆ แต่จะค่อย ๆ เข้าหาอย่างระมัดระวัง พอได้จังหวะเหมาะ ๆ ก็จะเข้าตะครุบเมื่อเรียนไปได้ครึ่งคาบ เขาก็ประกาศยุติการเรียนการสอน ปล่อยให้นักศึกษาทำกิจกรรมกันได้อย่างอิสระหลิ่วเมิ่งอิ๋นโดดเดี่ยว ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากเล่นกับเธอเธอดึงดูดสายตามากเกินไป จนไม่ว่าเด็กผู้หญิงคนไหนมายืนข้างเธอ ก็กลายเป็นเพียงตัวประกอบไปทันทีอาจารย์ชาวต่างชาติเดินเข้าไปหาหลิ่วเมิ่งอิ๋นด้วยท่าทีสบาย ๆ ส่งยิ้มที่คิดว่าตัวเองหล่อเหลาที่สุดออกไป“นักศึกษา เธอเป็นเด็กใหม่เหรอ? ชื่ออะไร?”“สวัสดีค่ะ อาจารย์เควิน ฉันชื่อหลิ่วเมิ่งอิ๋น
“ร้องเลยสิ!” เควินพูดอย่างไม่แยแส “ห้องพักครูเก็บเสียงดีมาก ต่อให้เธอตะโกนใส่ไมโครโฟน ข้างนอกก็ไม่ได้ยินอยู่ดี”หลิ่วเมิ่งอิ๋นถอยห่างออกไปทีละน้อย มือจับโทรศัพท์ไว้ เตรียมจะกดโทรออก“เธอนี่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณเอาเสียเลย คนอย่างฉันสนใจเธอถือว่าเป็นเกียรติแค่ไหนแล้ว!”เควินโกรธมาก รู้สึกเหมือนตัวเองโดนดูถูกเด็กผู้หญิงเหล่านั้นแทบรอไม่ไหวที่จะกระโดดใส่เขา แต่หลิ่วเมิ่งอิ๋นกลับมีท่าทีรังเกียจเขา จะให้เขาทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไรเขาพุ่งเข้าหาหลิ่วเมิ่งอิ๋นเหมือนหมาป่าหิวโหยหัวใจของหลิ่วเมิ่งอิ๋นเต้นเร็วขึ้น และหลบไปด้านข้างอัตโนมัติ เควินที่กระโดดไปเจอเพียงความว่างเปล่า ตกตะลึงไปครู่หนึ่งหลิ่วเมิ่งอิ๋นก็ตกตะลึงเช่นกันความเร็วของเธอเมื่อครู่ มันเร็วมากจากนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง และตระหนักได้ว่านี่ต้องเป็นเพราะเย่ซิวช่วยเธอเมื่อคืนนี้แน่ ๆ“ดูเหมือนเธอจะไม่ธรรมดานะ!”เควินยกยิ้มและเริ่มสนใจมากขึ้นไปอีกเขายังคงพุ่งเข้าหาหลิ่วเมิ่งอิ๋นต่อไปหลิ่วเมิ่งอิ๋นตระหนักได้ว่าตอนนี้เธอไม่ใช่คนธรรมดาอีกแล้ว ความกลัวในใจเธอจึงหดหายไปมากขณะที่หลบหลีกเควิน เธอก็เปิดโหมดบันทึกวิดีโอ
เหตุการณ์ตรงหน้านี้ ไม่ว่าใครก็มองออกว่าใครถูกใครผิดมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกันเควินพูดกับเหมยฮวาอย่างดุเดือด “เธอบันทึกวิดีโอไว้ รีบแย่งโทรศัพท์มา!”เหมยฮวาตกใจ ก่อนจะเดินไปหาหลิ่วเมิ่งอิ๋นด้วยมีสีหน้าเคร่งขรึม “เธอกล้าดียังไงอัดวิดีโอไว้ เธอรู้ไหมว่านี่การถ่ายภาพบุคคลเป็นการละเมิดสิทธิกัน? รีบเอาโทรศัพท์มาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”ห้องพักครูไม่ได้กว้างมากนักเมื่อมีเหมยฮวาเพิ่มเข้ามา และทั้งสองก็โจมตีหลิ่วเมิ่งอิ๋น พื้นที่ในการเคลื่อนไหวจึงลดลงอย่างมากในไม่ช้า เหมยฮวาก็กอดเอวของหลิ่วเมิ่งอิ๋นไว้ได้ และเควินก็หยิบโทรศัพท์ไปจากเธอเขาลบวีดีโออย่างรวดเร็ว และถอดการ์ดหน่วยความจำออกจากโทรศัพท์ของเธอทันทีหลิ่วเมิ่งอิ๋นตกตะลึงหากไม่มีหลักฐาน สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปอาจไม่ดีสำหรับเธอมาถึงตอนนี้ ก็หมดคาบเรียนแล้ว และอาจารย์คนอื่น ๆ ก็ทยอยกลับมาที่ห้องพักครูกันทีละคนเมื่อเห็นฉากนี้พวกเขาก็ตกตะลึง“เกิดอะไรขึ้น?” อาจารย์อาวุโสท่านหนึ่งถามขึ้น“อาจารย์คะ ฉัน...”หลิ่วเมิ่งอิ๋นพึ่งจะเปิดปาก ก็ถูกเหมยฮวาขัดจังหวะทันที“อาจารย์จาง ผู้หญิงคนนี
หลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกหนาวไปทั้งตัวในหัวของเธอมีภาพของเย่ซิวปรากฏขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวในสถานการณ์นี้ เขาเป็นคนเดียวที่เธอคิดว่าจะช่วยเธอได้เหมยฮวาคว้าหมับเข้าที่แขนของหลิ่วเมิ่งอิ๋นแล้วพูดตะโกนอย่างดุดัน “ไป ไปห้องอธิการบดีกับฉัน!”หลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกชาไปทั้งตัว ปล่อยให้อีกฝ่ายดึงไปตามใจชอบเควินหัวเราะเยาะในใจ แต่ยังคงต้องเสแสร้งต่อให้จบ เขาจึงพยายามห้ามเหมยฮวาทั้งสองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย โยนความผิดและข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลทั้งหมดไปที่หลิ่วเมิ่งอิ๋นและหลิ่วเมิ่งอิ๋นก็ถูกลากไปที่ห้องอธิการบดีทั้งแบบนั้นแน่นอนว่าตลอดทางก็ถูกเหล่านักเรียนคนอื่นพบเห็นเหมยฮวาจงใจตะโกนเสียงดัง ดังนั้นในไม่ช้าเรื่องก็แพร่กระจายไปราวกับพายุหมุนนักเรียนหญิงหลายคนถ่ายรูปกันอย่างบ้าคลั่ง และโพสต์ลงในเว็บบอร์ดต่าง ๆ พวกเธอไม่ชอบหลิ่วเมิ่งอิ๋นที่หน้าตาใสซื่อ แต่มีรูปร่างเย้ายวนมานานแล้ว ตอนนี้เมื่อมีโอกาสที่จะได้เหยียบซ้ำ แน่นอนว่าพวกเธอจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป ส่วนพวกผู้ชายต่างก็รู้สึกอกหักกันเป็นแถบ หลายคนไม่เชื่อว่าหลิ่วเมิ่งอิ๋นจะทำเรื่องแบบนี้ในไม่ช้าบนเว็บบอร์ดก็เต็มไปด้วยข้อถกเถียง ขณ
คราวนี้หลิ่วเมิ่งอิ๋นสงบลงและพูดขึ้นอย่างหนักแน่น “ฉันถูกใส่ร้ายค่ะ ฉันไม่เคยทำเรื่องแบบนั้น!”“ไม่มีใครเชื่อสิ่งที่เธอพูด อีกอย่างหลักฐานก็ไม่มี” อธิการบดีพูดขึ้นเงียบ ๆ“ฉันเชื่อเธอค่ะ!”“ฉันก็เชื่อเธอเหมือนกันค่ะ!”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเซี่ยซิ่วซิ่วผลักประตูเข้ามา แสดงความคิดเห็นของตัวเองทีละคน ก่อนจะเข้าไปยืนข้าง ๆ หลิ่วเมิ่งอิ๋นเมื่อเห็นทั้งสองคนเข้ามา อธิการบดีก็รู้สึกตกใจ และรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วใบหน้าที่มืดมนแสดงรอยยิ้มออกมาทันที “ทำไมเธอทั้งสองถึงมาที่นี่ล่ะ? รีบเข้ามานั่งก่อนสิ”ไม่แปลกใจที่อธิการบดีจะมีท่าทีแบบนั้นต่อพวกเธอเพราะในแต่ละปีครอบครัวของทั้งสองมอบเงินสนับสนุนจำนวนเงินมหาศาลให้มหาวิทยาลัยเจียงเฉิงสีหน้าของทั้งสองเย็นชา ไม่มีท่าทีจะนั่งลง เควินมองดูหญิงสาวทั้งสองคน แววตาของเขาลุกเป็นไฟแน่นอนว่าเขาจำลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเซี่ยซิ่วซิ่วได้เพียงแต่สองคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาจะแตะต้องได้ และก็ไม่กล้าทำอะไรโดยพลการ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นพวกเธอปกป้องหลิ่วเมิ่งอิ๋น จู่ ๆ ก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา เซี่ยซิ่วซิ่วแสดงลักษณะอันน่าเกรงขามของลูกสาวตระกูลเซี่ย “ท่านอธ
สภาพของเหมยฮวาตอนนี้ ทำให้นักเรียนข้างนอกรู้สึกตกใจตอนนี้เธอดูเหมือนถูกสะกดจิตนี่เป็นวิธีการที่คล้ายคลึงกับการสะกดจิตจริง ๆเพียงแต่ว่าวิชาฝังเข็มอู่ตี๋นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการสะกดจิตทั่วไปหลายเท่าคนที่โดนจะไม่หลงเหลือความระมัดระวังเลยแม้แต่น้อย และจะตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาเมื่อถูกถามคำถามแรก เหมยฮวาก็ตอบอย่างไม่ลังเลทันที“หลิ่วเมิ่งอิ๋นไม่ได้ยั่วยวนเควิน!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา นักเรียนที่อยู่ข้างนอกก็ตกตะลึงหัวใจของเควินสั่นไหว ทันใดนั้นเขาก็คำรามและเตะเหมยฮวา “แกใช้วิชามารอะไรทำร้ายอาจารย์เหมย?!”แน่นอนว่าเขาเตะไม่โดนเหมยฮวา และถูกเย่ซิวชกเข้าที่หน้าอกเขาเซไปข้างหลังหลายก้าว ก่อนจะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ผู้ชายคนนี้พึ่งได้รับบทเรียนเล็ก ๆ ในคาบเรียนที่แล้วไป ไม่คิดเลยว่าคาบเรียนต่อมาจะลงมือกับคนรอบตัวเขาอีก เขาถูกเย่ซิวตัดสินประหารชีวิตในใจไปแล้วเย่ซิวยังคงถามต่อ “ในเมื่อหลิ่วเมิ่งอิ๋นไม่ได้ยั่วยวนเควิน แล้วทำไมคุณถึงใส่ร้ายเธอล่ะ?!”“เพราะฉันอยากเป็นคบหากับเควิน และแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะได้กรีนการ์ด”“มีใครบ้างไม่อยากมีสถานะทางสังคมที่สูงขึ้น? หา
ชายคนหนึ่งในกลุ่มมองสลับไปมาระหว่างเย่ซิวกับอลิสด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิง แฟนของคุณไม่ใช่เอ็ดเหรอ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่เขานี่”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นในทันทีอลิสเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเหรอ ฉันนอกใจไงล่ะ”ผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนถึงกับอึ้งไปในทันทีนี่พูดเรื่องนอกใจได้เต็มปากขนาดนี้เลยเหรอ?อลิสยืดอกด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ฉันขอเตือนไว้ก่อน จะค้นก็เชิญค้นไป แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่คำเดียว ไม่อย่างนั้นฉันไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่อีกอย่าง ฉันจะบอกให้นะว่าพ่อของฉันเป็นประธานแห่งซีเรียสกรุ๊ป”ซีเรียสกรุ๊ปเป็นหนึ่งในห้าสิบบริษัทใหญ่ของประเทศจ้านอิงตี้ มีอำนาจมหาศาลและยังมียอดฝีมือ ผู้มีพลังวิเศษ และทหารดัดแปลงอยู่ในมืออีกมากมายผู้มีพลังวิเศษทั้งสี่คนเปลี่ยนสีหน้ากลายเป็นจริงจังและเคารพอลิสมากขึ้นซีเรียสกรุ๊ปเป็นองค์กรที่พวกเขาไม่มีวันกล้าหาเรื่องแน่ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่คนจึงไม่กล้าสร้างปัญหาให้เย่ซิวอีกและเริ่มตรวจค้นบ้านต่อไปห้องนอนของเธอถูกตรวจสอบโดยผู้มีพลังพิเศษหญิงคนหนึ่ง โดยพวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้อลิสโกรธไม่
อลิสเข้าใจความหมายในสายตาของเย่ซิวทันที จึงเปลี่ยนคำพูดของตัวเองไปว่า “โอเค เดี๋ยวฉันไป แล้วฉันพาคนไปด้วยได้ไหม?”เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย อลิสก็ตัดสายโทรศัพท์ทันทีเธอโยนโทรศัพท์ลงแล้วใช้สองมือโอบคอเย่ซิว “นายสนใจสมาคมผู้มีพลังวิเศษงั้นเหรอ?”แฟนเก่าเธอเองก็เป็นผู้มีพลังวิเศษ แต่อยู่ในระดับต่ำสุดคือระดับหนึ่ง เขาเข้าร่วมองค์กรผู้มีพลังวิเศษกึ่งทางการกึ่งเอกชนแห่งหนึ่งเมื่อครู่นี้เขาโทรมาหาเธอบอกว่าพรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีการจัดงานเลี้ยงและชวนเธอไปร่วมงานด้วยไม่ว่าจะเป็นหน้าตา รูปร่าง หรือบุคลิกของอลิสล้วนไม่แพ้บรรดาดาราหญิงที่กำลังโด่งดัง แถมครอบครัวเธอยังร่ำรวยอีกด้วยเย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยองค์กรแบบนี้ทำให้เขารู้สึกสนใจไม่น้อยถ้าเขาสามารถจับปลาตัวใหญ่มาสักสองสามตัวได้ก็คงจะดียิ่งขึ้น“ฉันช่วยนายหาที่นั่งในงานได้ นายจะขอบคุณฉันยังไงดี?” อลิสเอ่ยด้วยสายตาเร่าร้อนพลางจ้องมองเย่ซิว “มาเป็นแฟนของฉันดีไหม? ฉันจะยกทุกอย่างให้นายเลย ทั้งตัวฉันและทรัพย์สินของฉัน”บางคนก็เป็นแบบนี้ แค่ได้พบกันเพียงไม่นานก็ทำให้รู้สึกว่าเขาคือคนที่คู่ควรจะฝากชีวิตไว้ด้วยเย่ซิวส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไ
หัวใจของอลิสเต้นเร็วขึ้น พร้อมกับความรู้สึกสะใจเหมือนได้แก้แค้นในเมื่อนายสามารถทรยศฉันได้ แล้วทำไมฉันถึงจะทรยศนายบ้างไม่ได้ล่ะ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของอลิสก็เผยความบ้าคลั่งออกมาเล็กน้อยเธอก็อยากจะปลดปล่อยตัวเองให้เต็มที่สักครั้งเหมือนกัน“อย่าไปเลยนะ คืนนี้อยู่กับฉันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว”เย่ซิวตั้งใจจะผลักเธอออก แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเขาอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกในทันทีเดิมทีเขาตั้งใจจะออกไปแล้ว แต่จู่ ๆ พลังจิตของเขาก็สัมผัสได้ว่ามีผู้ใช้พลังพิเศษจำนวนมากอยู่ข้างนอก และพวกนั้นก็กำลังตรวจค้นรอบบ้านในบริเวณกว้างนอกจากนี้ บนท้องฟ้ายังมีโดรนจำนวนมากบินวนไม่หยุดและพวกนี้ไม่ใช่โดรนธรรมดาสำหรับถ่ายภาพวิวที่ขายตามท้องตลาด แต่เป็นโดรนทางการทหารที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงนับคร่าว ๆ ก็มีอย่างน้อยหนึ่งหมื่นลำบินวนอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองในสถานการณ์เช่นนี้ หากเย่ซิวถูกพบตัว แม้ว่าเขาจะหนีรอดได้ หรือถ้าหากเขาเอาจริงก็สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้แต่ราคาที่เขาต้องจ่ายก็คงมหาศาลตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะปะทะกับพวกนั้นโดยตรงทางที่ดีที่สุดคือค่อย ๆ พัฒนาตัวเองไปเรื่
อันที่จริงเย่ซิวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาดำดินมากนักตอนที่ฝ่าวงล้อมเขาก็ไม่ได้ปล่อยพลังจิตออกมามากเกินไปเหตุผลข้อแรกคือ เมื่ออยู่ใต้ดิน การปล่อยพลังจิตออกไปข้างนอกจะสูญเสียพลังมากกว่าตอนอยู่บนพื้นดินหลายเท่าข้อที่สองคือเขากังวลว่าหากประเทศจ้านอิงตี้ได้พัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับพลังจิตได้ ตัวเขาเองก็จะถูกเปิดโปงได้ง่ายด้วยเหตุนี้เขาจึงมุ่งหน้าไปอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาหลายนาทีโดยไม่ได้รับรู้ถึงอันตรายใด ๆ ในบริเวณนั้น จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือพอเขาโผล่ขึ้นมาก็เจอเข้ากับสถานที่ที่เต็มไปด้วยไอหมอกเขาดันบังเอิญเข้าไปในห้องน้ำของบ้านใครบางคนโดยไม่ได้ตั้งใจท่ามกลางไอน้ำที่พร่ามัว เขาเห็นเงาร่างหญิงสาวคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดร่างกายของตัวเองอยู่เธอเป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างสูงโปร่ง สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรรูปร่างงดงามราวกับปีศาจ แต่มาพร้อมใบหน้าสวยงามประดุจเทพธิดาอารมณ์ของอลิสในตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอมีแฟนที่คบกันมาหลายปี และทั้งคู่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกันแต่เมื่อวานนี้เธอเพิ่งจับได้ว่าแฟนของเธอนอกใจคนที่แฟนของเธอนอกใจด้วยกลับเป็น
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ
พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ
เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ
ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่