“ร้องเลยสิ!” เควินพูดอย่างไม่แยแส “ห้องพักครูเก็บเสียงดีมาก ต่อให้เธอตะโกนใส่ไมโครโฟน ข้างนอกก็ไม่ได้ยินอยู่ดี”หลิ่วเมิ่งอิ๋นถอยห่างออกไปทีละน้อย มือจับโทรศัพท์ไว้ เตรียมจะกดโทรออก“เธอนี่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณเอาเสียเลย คนอย่างฉันสนใจเธอถือว่าเป็นเกียรติแค่ไหนแล้ว!”เควินโกรธมาก รู้สึกเหมือนตัวเองโดนดูถูกเด็กผู้หญิงเหล่านั้นแทบรอไม่ไหวที่จะกระโดดใส่เขา แต่หลิ่วเมิ่งอิ๋นกลับมีท่าทีรังเกียจเขา จะให้เขาทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไรเขาพุ่งเข้าหาหลิ่วเมิ่งอิ๋นเหมือนหมาป่าหิวโหยหัวใจของหลิ่วเมิ่งอิ๋นเต้นเร็วขึ้น และหลบไปด้านข้างอัตโนมัติ เควินที่กระโดดไปเจอเพียงความว่างเปล่า ตกตะลึงไปครู่หนึ่งหลิ่วเมิ่งอิ๋นก็ตกตะลึงเช่นกันความเร็วของเธอเมื่อครู่ มันเร็วมากจากนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง และตระหนักได้ว่านี่ต้องเป็นเพราะเย่ซิวช่วยเธอเมื่อคืนนี้แน่ ๆ“ดูเหมือนเธอจะไม่ธรรมดานะ!”เควินยกยิ้มและเริ่มสนใจมากขึ้นไปอีกเขายังคงพุ่งเข้าหาหลิ่วเมิ่งอิ๋นต่อไปหลิ่วเมิ่งอิ๋นตระหนักได้ว่าตอนนี้เธอไม่ใช่คนธรรมดาอีกแล้ว ความกลัวในใจเธอจึงหดหายไปมากขณะที่หลบหลีกเควิน เธอก็เปิดโหมดบันทึกวิดีโอ
เหตุการณ์ตรงหน้านี้ ไม่ว่าใครก็มองออกว่าใครถูกใครผิดมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น นั่นก็คือทั้งสองคนสมรู้ร่วมคิดกันเควินพูดกับเหมยฮวาอย่างดุเดือด “เธอบันทึกวิดีโอไว้ รีบแย่งโทรศัพท์มา!”เหมยฮวาตกใจ ก่อนจะเดินไปหาหลิ่วเมิ่งอิ๋นด้วยมีสีหน้าเคร่งขรึม “เธอกล้าดียังไงอัดวิดีโอไว้ เธอรู้ไหมว่านี่การถ่ายภาพบุคคลเป็นการละเมิดสิทธิกัน? รีบเอาโทรศัพท์มาให้ฉันเดี๋ยวนี้!”ห้องพักครูไม่ได้กว้างมากนักเมื่อมีเหมยฮวาเพิ่มเข้ามา และทั้งสองก็โจมตีหลิ่วเมิ่งอิ๋น พื้นที่ในการเคลื่อนไหวจึงลดลงอย่างมากในไม่ช้า เหมยฮวาก็กอดเอวของหลิ่วเมิ่งอิ๋นไว้ได้ และเควินก็หยิบโทรศัพท์ไปจากเธอเขาลบวีดีโออย่างรวดเร็ว และถอดการ์ดหน่วยความจำออกจากโทรศัพท์ของเธอทันทีหลิ่วเมิ่งอิ๋นตกตะลึงหากไม่มีหลักฐาน สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปอาจไม่ดีสำหรับเธอมาถึงตอนนี้ ก็หมดคาบเรียนแล้ว และอาจารย์คนอื่น ๆ ก็ทยอยกลับมาที่ห้องพักครูกันทีละคนเมื่อเห็นฉากนี้พวกเขาก็ตกตะลึง“เกิดอะไรขึ้น?” อาจารย์อาวุโสท่านหนึ่งถามขึ้น“อาจารย์คะ ฉัน...”หลิ่วเมิ่งอิ๋นพึ่งจะเปิดปาก ก็ถูกเหมยฮวาขัดจังหวะทันที“อาจารย์จาง ผู้หญิงคนนี
หลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกหนาวไปทั้งตัวในหัวของเธอมีภาพของเย่ซิวปรากฏขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวในสถานการณ์นี้ เขาเป็นคนเดียวที่เธอคิดว่าจะช่วยเธอได้เหมยฮวาคว้าหมับเข้าที่แขนของหลิ่วเมิ่งอิ๋นแล้วพูดตะโกนอย่างดุดัน “ไป ไปห้องอธิการบดีกับฉัน!”หลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกชาไปทั้งตัว ปล่อยให้อีกฝ่ายดึงไปตามใจชอบเควินหัวเราะเยาะในใจ แต่ยังคงต้องเสแสร้งต่อให้จบ เขาจึงพยายามห้ามเหมยฮวาทั้งสองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย โยนความผิดและข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลทั้งหมดไปที่หลิ่วเมิ่งอิ๋นและหลิ่วเมิ่งอิ๋นก็ถูกลากไปที่ห้องอธิการบดีทั้งแบบนั้นแน่นอนว่าตลอดทางก็ถูกเหล่านักเรียนคนอื่นพบเห็นเหมยฮวาจงใจตะโกนเสียงดัง ดังนั้นในไม่ช้าเรื่องก็แพร่กระจายไปราวกับพายุหมุนนักเรียนหญิงหลายคนถ่ายรูปกันอย่างบ้าคลั่ง และโพสต์ลงในเว็บบอร์ดต่าง ๆ พวกเธอไม่ชอบหลิ่วเมิ่งอิ๋นที่หน้าตาใสซื่อ แต่มีรูปร่างเย้ายวนมานานแล้ว ตอนนี้เมื่อมีโอกาสที่จะได้เหยียบซ้ำ แน่นอนว่าพวกเธอจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไป ส่วนพวกผู้ชายต่างก็รู้สึกอกหักกันเป็นแถบ หลายคนไม่เชื่อว่าหลิ่วเมิ่งอิ๋นจะทำเรื่องแบบนี้ในไม่ช้าบนเว็บบอร์ดก็เต็มไปด้วยข้อถกเถียง ขณ
คราวนี้หลิ่วเมิ่งอิ๋นสงบลงและพูดขึ้นอย่างหนักแน่น “ฉันถูกใส่ร้ายค่ะ ฉันไม่เคยทำเรื่องแบบนั้น!”“ไม่มีใครเชื่อสิ่งที่เธอพูด อีกอย่างหลักฐานก็ไม่มี” อธิการบดีพูดขึ้นเงียบ ๆ“ฉันเชื่อเธอค่ะ!”“ฉันก็เชื่อเธอเหมือนกันค่ะ!”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเซี่ยซิ่วซิ่วผลักประตูเข้ามา แสดงความคิดเห็นของตัวเองทีละคน ก่อนจะเข้าไปยืนข้าง ๆ หลิ่วเมิ่งอิ๋นเมื่อเห็นทั้งสองคนเข้ามา อธิการบดีก็รู้สึกตกใจ และรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วใบหน้าที่มืดมนแสดงรอยยิ้มออกมาทันที “ทำไมเธอทั้งสองถึงมาที่นี่ล่ะ? รีบเข้ามานั่งก่อนสิ”ไม่แปลกใจที่อธิการบดีจะมีท่าทีแบบนั้นต่อพวกเธอเพราะในแต่ละปีครอบครัวของทั้งสองมอบเงินสนับสนุนจำนวนเงินมหาศาลให้มหาวิทยาลัยเจียงเฉิงสีหน้าของทั้งสองเย็นชา ไม่มีท่าทีจะนั่งลง เควินมองดูหญิงสาวทั้งสองคน แววตาของเขาลุกเป็นไฟแน่นอนว่าเขาจำลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเซี่ยซิ่วซิ่วได้เพียงแต่สองคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาจะแตะต้องได้ และก็ไม่กล้าทำอะไรโดยพลการ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นพวกเธอปกป้องหลิ่วเมิ่งอิ๋น จู่ ๆ ก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา เซี่ยซิ่วซิ่วแสดงลักษณะอันน่าเกรงขามของลูกสาวตระกูลเซี่ย “ท่านอธ
สภาพของเหมยฮวาตอนนี้ ทำให้นักเรียนข้างนอกรู้สึกตกใจตอนนี้เธอดูเหมือนถูกสะกดจิตนี่เป็นวิธีการที่คล้ายคลึงกับการสะกดจิตจริง ๆเพียงแต่ว่าวิชาฝังเข็มอู่ตี๋นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการสะกดจิตทั่วไปหลายเท่าคนที่โดนจะไม่หลงเหลือความระมัดระวังเลยแม้แต่น้อย และจะตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมาเมื่อถูกถามคำถามแรก เหมยฮวาก็ตอบอย่างไม่ลังเลทันที“หลิ่วเมิ่งอิ๋นไม่ได้ยั่วยวนเควิน!”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา นักเรียนที่อยู่ข้างนอกก็ตกตะลึงหัวใจของเควินสั่นไหว ทันใดนั้นเขาก็คำรามและเตะเหมยฮวา “แกใช้วิชามารอะไรทำร้ายอาจารย์เหมย?!”แน่นอนว่าเขาเตะไม่โดนเหมยฮวา และถูกเย่ซิวชกเข้าที่หน้าอกเขาเซไปข้างหลังหลายก้าว ก่อนจะทรุดตัวลงบนเก้าอี้ผู้ชายคนนี้พึ่งได้รับบทเรียนเล็ก ๆ ในคาบเรียนที่แล้วไป ไม่คิดเลยว่าคาบเรียนต่อมาจะลงมือกับคนรอบตัวเขาอีก เขาถูกเย่ซิวตัดสินประหารชีวิตในใจไปแล้วเย่ซิวยังคงถามต่อ “ในเมื่อหลิ่วเมิ่งอิ๋นไม่ได้ยั่วยวนเควิน แล้วทำไมคุณถึงใส่ร้ายเธอล่ะ?!”“เพราะฉันอยากเป็นคบหากับเควิน และแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะได้กรีนการ์ด”“มีใครบ้างไม่อยากมีสถานะทางสังคมที่สูงขึ้น? หา
เสียงเพียะดังอย่างชัดเจน ใบหน้าซีกหนึ่งของเควินก็บวมขึ้น ฟันสองสามซี่ก็ร่วงหลุดเขาโกรธมากและตะโกนใส่อธิการบดีว่า “ถ้าคุณยังไม่ห้ามเขา หากมีอะไรเกิดขึ้นกับผม คุณลองไปคิดให้ดีแล้วกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศจะมีปัญหาหรือไม่”ประเทศจ้านอิงตี้มีอำนาจเหนือกว่ามาโดยตลอดแม้ว่าคนของตัวเองจะเป็นคนก่อเรื่องขึ้นก่อน พวกเขาก็จะปกป้อง ถึงขนาดให้คนของประเทศที่ถูกรังแกต้องมาขอโทษและชดใช้ให้ในประวัติศาสตร์ เรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้วอธิการบดีรู้สึกลำบากใจเล็กน้อยและมองไปทางเย่ซิว “นักศึกษา เขาพูดถูกแล้ว หยุดเถอะ หากชกเขาอีกอาจทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างสองประเทศได้”เมื่อเห็นอธิการบดียอมแพ้ เควินก็หัวเราะเยาะออกมา และมองเย่ซิวอย่างหยิ่งยโส “ได้ยินแล้วใช่ไหม? หากนายกล้าแตะต้องฉันอีก นายจบไม่สวยแน่ ในประเทศจ้านอิงตี้ของฉันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ใครจะกล้าหาเรื่องฉัน?!”แม้ว่าทุกคนจะโกรธ แต่พวกเขาก็ต้องยอมรับว่าคือสิ่งที่เขาพูดนั้นคือความจริงประเทศจ้านอิงตี้เป็นอันดับหนึ่งของโลกทั้งด้านการทหาร การเงิน วิทยาศาสตร์ และการศึกษา ไม่มีประเทศใดเทียบเคียงได้แน่นอนว่านั่นมันเป็นเรื่อง
“เธอไม่ได้ยั่วฉัน ฉันเห็นว่าเธอสวยมาก เลยจงใจหลอกเธอให้มาที่ห้องพักครู”“ฉันกะจะใช้กำลังบีบบังคับให้เธอยอมจำนน แต่ใครจะไปรู้ว่าเธอไวมากขนาดนั้น ดึงเวลาลากยาวจนถึงหมดคาบเรียน”“ผู้หญิงคนนี้ยังบันทึกวิดีโอไว้ แต่โชคดีที่มีผู้หญิงโง่ ๆ อย่างเหมยฮวาช่วยแย่งเอาโทรศัพท์ของเธอมาได้”“ไม่เพียงหยุดยั้งความซวยไว้ได้ แต่ยังทำให้ผู้หญิงคนนี้ถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัยได้อีกต่างหาก”“พอเธอออกจากมหาวิทยาลัย ฉันก็จะโทรหาเพื่อน ๆ ของฉันให้ไปจับตัวเธอเอาไว้ ถึงตอนนั้นเราจะทำอะไรกับเธอก็ได้!”เขาเปิดเผยความคิดที่แท้จริงออกมาอย่างไม่ลังเลทุกคนในสถานที่นั้นตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธเพื่อนร่วมชั้นชายบางคนอดไม่ได้ที่จะพุ่งออกไปตบหัวหมอนั่นแววตาของเย่ซิวยิ่งเหี้ยมเกรียมขึ้นอีก เขายังคงถามต่อไปว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ คุณทำร้ายผู้หญิงไปแล้วกี่คน!”“ไม่รู้สิ อาจมีประมาณสองสามร้อยคนได้ล่ะมั้ง ฮ่า ๆ!” เขาหัวเราะไม่หยุด “ผู้หญิงในประเทศหลงเถิงง่ายจะตาย พูดหวาน ๆ สักสองสามคำ พวกหล่อนก็ตามนายต้อย ๆ แล้ว”“มีบางคนหัวแข็งไม่เล่นด้วย ฉันก็ใช้แผนเด็ดอย่างถ่ายคลิปเอาไว้ แล้วเอาไปขู่พวกเธอไม่ให้ไปบอกคนอื่น!”
เย่ซิวดึงเข็มเงินออกมาจากทั้งสองคนแล้วโยนทิ้งลงถังขยะทั้งสองทั้งสองค่อยๆ ฟื้นคืนสติ สับสนงุนงงเล็กน้อยเหมยฮวาลุกขึ้นจากพื้น ชี้ไปที่เย่ซิวแล้วตะคอกออกมา “หนุ่มน้อย แกทำอะไรกับฉัน?!”เย่ซิวมองเธออย่างเย็นชาและไม่ตอบอะไร“ถอยไป ถอยไปให้หมด!”“ตำรวจกำลังทำงาน ห้ามทุกคนถ่ายรูป!”เมื่อตำรวจมาถึง เควินและเย่เหมยฮวาก็ยังไม่รู้ถึงความร้ายแรงของสถานการณ์จนกระทั่งถูกใส่กุญแจมือแล้วถึงรู้สึกตัวเควินทั้งโกรธและตกใจ “พวกคุณบ้าไปแล้วเหรอ? มาจับผมทำไม? ผมเป็นพลเมืองของประเทศจ้านอิงตี้ พวกคุณมาจับผมแบบนี้ คิดถึงผลที่จะตามมาบ้างไหม?!”เหมยฮวาตะโกนกรีดร้องไม่หยุด “คุณมาจับฉันทำไม? ควรไปจับนางสารเลวนั่นสิ ฉันเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเจียงเฉิงนะ พวกคุณจับผิดคนแล้ว!"ไม่มีใครสนใจเสียงตะโกนกรีดร้องของพวกเขา ตำรวจพาพวกเขาออกไปจากที่นี่ทันทีหลังจากที่พวกเขาออกไป ทุกคนก็ส่งเสียงไชโยหลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกตื้นตันใจมากจนไม่สนผู้คนที่อยู่ที่นี่ และรีบวิ่งไปหาเย่ซิวแต่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ที่มือไวตาไวคว้าตัวเธอมากอดไว้ก่อน “น้องหลิว ดีใจมากที่เธอไม่เป็นไร เมื่อกี้ทำฉันตกใจกลัวแทบตาย”หลิ่วเมิ่งอิ๋นพูดไ
ที่นี่กลายเป็นเหมือนนรกบนดินเย่ซิวพุ่งขึ้นมาจากก้นทะเลในตอนนี้เขาดูโทรมมาก เสื้อผ้าที่สวมอยู่ขาดรุ่งริ่ง แถมยังมีบาดแผลทั้งใหญ่และเล็กนับร้อยจุดทั่วร่างนี่เป็นการบาดเจ็บที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมา มันแทบจะทำลายรากฐานของเขาแม้ว่าตอนนี้เขาจะดูสงบมาก แต่ในดวงตากลับเต็มไปด้วยความอาฆาตและเดือดดาลชนิดที่ยากจะข่มพวกนั้นช่างโหดร้ายอย่างเหลือเชื่อหากการระเบิดนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ของพวกเขาเอง อย่างน้อยหนึ่งหรือสองเมืองคงได้กลายเป็นนรกภูมิ ตอนนั้นไม่รู้ว่าจะมีวิญญาณผู้บริสุทธิ์จำนวนเท่าไหร่โชคดีที่เย่ซิวเพิ่งทะลวงเข้าสู่ระดับจินตานขั้นกลาง มิฉะนั้นชีวิตของเขาจะตกอยู่ในอันตรายแน่นอนเขาหยิบน้ำเต้าออกมา แล้วดื่มน้ำพุวิญญาณลงไปรวดเดียวหลายกิโลกรัมร่างกายของเขาฟื้นตัวจากบาดแผลอย่างรวดเร็วแสงของจินตานห้าสีที่สลัว ๆ ในตันเถียน เริ่มกลับมาส่องประกายสดใสอีกครั้งเขาไม่กล้าล่าช้า รีบกลับไปอย่างรวดเร็วเด็กสาวสองคนยังอยู่ที่นั่น เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรขึ้นเหล่าเจ้าชายได้เริ่มเตรียมแชมเปญเพื่อเฉลิมฉลองแล้วพวกเขาคิดว่าไม่ว่าเย่ซิวจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็คงไม่รอดจากการระเบิดระด
ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดที่ควบคุมเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อเห็นเย่ซิวชักกระบี่ยาวออกมา ใบหน้าของเขาก็มืดครึ้มลง พลางพูดว่า "คุณคิดจะดึงดันกับพวกเราจนถึงที่สุดจริง ๆ เหรอ? คุณไม่กลัวว่ามันจะนำไปสู่สงครามระหว่างสองประเทศเลยหรือไง!""ฮ่า ๆ ๆ!"เย่ซิวหัวเราะเสียงดังอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก ผู้บัญชาการสูงสุดมีสีหน้าบึ้งตึง "คุณหัวเราะอะไร?!""ก็หัวเราะที่พวกคุณไม่รู้จักประมาณตน หลงตัวเองไงพวกคุณคู่ควรที่จะเป็นศัตรูกับประเทศหลงเถิงของผมด้วยเหรอ?ถ้าไม่ใช่เพราะพวกคุณยอมรับประเทศจ้านอิงตี้เป็นนายเหนือหัว ใช้เวลาไม่เกินสามวัน พวกคุณก็จะถูกกำจัดไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เป็นสุนัขแล้วยังกล้ามาทำตัวหยิ่งผยองอีก!"คำพูดที่ไม่ปรานีนี้ได้ยั่วยุคนของประเทศอ่ายเหรินทั้งหมดแล้วพวกเขาต่างมองเย่ซิวด้วยสายตาที่เดือดดาลเย่ซิวไม่ได้เริ่มต่อสู้ทันที ส่วนหนึ่งเพราะเขาต้องการให้ชาวบ้านทั่วไปมีเวลาอพยพเขาไม่ต้องการให้ผู้บริสุทธิ์ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องผู้บัญชาการสูงสุดหัวเราะด้วยความโกรธ "ดีมาก! ปากคอเราะรายดีจริง ๆ! อยากจะรู้นักว่าคุณมีความสามารถมากแค่ไหน! ลงมือ! โจมตีให้เต็มที่เลย!"เขาถอยไปอยู่ด้านหล
ขณะที่พวกเขากำลังโต้เถียงกันอย่างดุเดือด รายงานลับฉบับหนึ่งก็ถูกส่งมาวางไว้ตรงหน้าพวกเขาเมื่อพวกเขาอ่านเนื้อหาในรายงานจบ ต่างก็ลุกพรวดขึ้นด้วยความตกตะลึง“เป็นไปไม่ได้!”“เขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง”“เด็กสาวที่อยู่ข้าง ๆ เขาคนนั้นไม่ใช่...เป็นเขา! เขาคือคนที่ฆ่าเสด็จพ่อ!”“จะปล่อยเขาให้หนีไปง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”“เรื่องของเราพักไว้ก่อนชั่วคราว มาร่วมมือกันกำจัดเขาก่อน!”เหล่าเจ้าชายตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว จับมือกันเพื่อเผชิญหน้าศัตรูภายนอก เพราะความหวาดกลัวที่เย่ซิวนำมาสู่พวกเขานั้นมันลึกซึ้งเกินไปยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองฝ่ายไม่มีทางที่จะหวนคืนสู่จุดเดิมได้แล้ว จำเป็นต้องมีฝ่ายหนึ่งล้มลงเท่านั้น“ส่งกองทหารรักษาพระองค์ไปสกัดเขา!”“ส่งหน่วยอารักขาของฉันไปด้วย!”“พลังธรรมดาเหล่านี้อาจไม่เพียงพอ เราต้องใช้ทั้งจรวดความเร็วเหนือเสียงและขีปนาวุธประเภทดีล็อกเป้าหมายเขาไว้ด้วย!”“ตอนนี้ไม่มีเวลามากังวลว่าอาวุธใหม่ของเราจะถูกเปิดเผยอีกแล้ว ใช้ทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ต้องรั้งเขาไว้ให้ได้!”…… คำสั่งต่าง ๆ ถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว และดำเนินการโดยเร็วที่สุด
เมื่อเย่ซิวเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่ามีผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งอยู่ในห้องนี้ด้วยเธออายุประมาณสามสิบกว่าปีได้ใบหน้าสวยมาก รูปร่างอวบอิ่ม สวมชุดที่ค่อนข้างน้อยชิ้นเธอกำลังทำท่าออกกำลังกายที่เรียกเลือดกำเดาได้ง่าย ๆจวงเสี่ยวหยิงกับสาวน้อยกำลังทำท่าตามเธอเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ทั้งสามคนก็หยุดลงพร้อมกันผู้หญิงคนนั้นมองเย่ซิวด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เบิกตากว้างเธอจำเย่ซิวได้"ในข่าวบอกว่าคุณหนีไปแล้วไม่ใช่เหรอ?""พี่ชาย!""พี่กลับมาแล้ว!"หญิงสาวสองคนวิ่งเข้ามาเย่ซิวเผยรอยยิ้มที่มุมปาก มองผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นแล้วถามว่า "เธอเป็นใคร?"จวงเสี่ยวหยิงอธิบายว่า "พี่สาวคนนี้อยู่ห้องข้าง ๆ เราค่ะ เมื่อกี้นี้เราเห็นเธอออกกำลังกายอยู่ที่ระเบียงก็เลยชวนมาคุยกัน แล้วก็ให้เธอมาช่วยสอนเราด้วย"เย่ซิวพยักหน้า ยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้นอย่างเป็นมิตรผู้หญิงคนนั้นลุกขึ้นจากพื้นรูปร่างของเธอดีมาก แถมยังสวมเสื้อผ้าที่ทั้งวาบหวิวและรัดรูป ชวนให้มองแล้วแทบจะเลือดกำเดาไหล"สะ...สวัสดีค่ะ ตัวจริงคุณหล่อกว่าที่เห็นในทีวีเยอะเลย"ผู้หญิงคนนั้นดูประหม่าเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่ซิว
ฐานทัพทหารทั้งหมดของประเทศอ่ายเหรินถูกทำลายจนราบเป็นหน้ากลองในชั่วพริบตาภาพเหตุการณ์นี้ถูกดาวเทียมบนท้องฟ้าจับไว้ได้ และส่งต่อไปยังห้องควบคุมของประเทศมหาอำนาจทั้งหลายในทันทีใบหน้าของคนเหล่านั้นเปลี่ยนสีด้วยความตกใจ พวกเขาลุกพรวดขึ้นแล้วรายงานภาพที่เห็นให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ“แค่ก ๆ ๆ...”ชายชราไออย่างหนัก ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าไม่ละสายตาเบื้องหน้าที่ม่านหมอกปกคลุมอยู่ มีร่างของเย่ซิวยืนถือกระบี่เดินออกมาด้วยลมหายใจที่มั่นคง เขาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย“ความสามารถไม่เลว แต่คุณกระทั่งทำให้ผมบาดเจ็บก็ยังไม่มีปัญญา แล้วยังกล้าโลภในร่างกายของผม โง่จริง ๆ”“หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่เธอครอบครองเนตรจักรพรรดิ” ชายชราหัวเราะเสียงเย็น “แต่ว่านะ ชัยชนะก็ยังคงเป็นของฉันอยู่ดี”พูดจบ เขาก็หยิบเข็มทิศออกมาจากอกเสื้ออย่างรวดเร็ว แล้วโยนมันลงพื้นเย่ซิวรู้สึกถึงอันตราย จึงรีบถอยหลังโดยไม่หยุดคิดสักนิดแต่ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าวเข็มทิศขยายตัวขึ้นอย่างเร็วมาก พร้อมปลดปล่อยลำแสงออกมาจนก่อตัวเป็นค่ายกลที่แน่นหนา ปิดล้อมเย่ซิวไว้ด้านในจากนั้นเถาวัลย์นับไม่ถ้วนก็เ
“นั่นใคร”ทันทีเชื่อมต่อสาย น้ำเสียงเย็นชาของหงอีก็ดังขึ้นที่ปลายสาย ฟังแล้วชวนให้รู้สึกขนลุกมาก“ฉันเอง” เย่ซิวตอบด้วยเสียงเรียบปลายสายเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งว่า “มีเรื่องอะไร?”“เธอรู้จักเฟยอวี่ใช่ไหม พวกเธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่และกำลังร่วมมือกันทำอะไรอยู่”“ไม่เกี่ยวกับนาย มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีฉันจะวางสายแล้ว”ท่าทีของผู้หญิงคนนี้เย็นชามาก ไม่ได้มองเลยว่าเย่ซิวเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเธอไว้ตู๊ด... ตู๊ด...เย่ซิวยังไม่ทันจะได้พูดต่อ หงอีก็ชิงตัดสายไปก่อนเย่ซิวหัวเราะอย่างโกรธเคือง “ผู้หญิงคนนี้โอหังจริง ๆ”ผู้หญิงคนนี้พลิกลิ้นแสดงให้เห็นถึงการเนรคุณคนได้อย่างชัดเจนแต่เย่ซิวก็สงบอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วหงอีนับว่าเป็นคนที่เขาฝึกฝนขึ้นมาเองก็ได้ เขาไม่ได้กังวลว่าเธอจะหลุดพ้นจากการควบคุมของเขาไปโดยสมบูรณ์ตอนนี้ปล่อยให้เธอหยิ่งผยองไปก่อน ในอนาคตยังมีโอกาสจัดการกับเธออีกมากเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า เย่ซิวก็ยืดตัวแล้วพุ่งทะยานขึ้นฟ้าครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็มาถึงหน้าฐานทัพแห่งหนึ่งของประเทศอ่ายเหรินเมื่อร่างร่อนลงถึงพื้น เขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่
ความรู้สึกนี้ช่างน่าพึงพอใจเสียจนทำให้เถียนเถียนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยอ่างสมุนไพรที่แต่เดิมสีสันสดใสค่อย ๆ กลายเป็นใสกระจ่างอย่างรวดเร็วร่างกายของเถียนเถียนเองก็พัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่งจากนั้น เย่ซิวก็วางมือลงบนหน้าผากของเธอ พลังจิตหลั่งไหลเข้าสู่ภายในในไม่ช้าเขาก็พบจุดที่หงอีใช้ควบคุมเธอ มันเป็นตราสีแดงซึ่งประทับอยู่บริเวณหัวใจตราหนึ่งเย่ซิวไม่ได้ทำลายตรานั้น แต่ใช้พลังจิตสร้างเกราะไร้รูปปกคลุมตราไว้ด้วยวิธีนี้ หงอีจะไม่สามารถใช้ความคิดควบคุมความเป็นความตายของเถียนเถียนได้เพียงแต่แค่นี้ยังไม่พอเย่ซิวใช้พลังจิตกวาดสำรวจร่างกายของเถียนเถียนทั้งภายในและภายนอกทำให้เธออดไม่ได้ที่จะสะดุ้ง ร่างกายเกิดขนลุกขึ้นมาทันที รู้สึกว่าความลับทั้งหมดของเธอถูกเปิดเผยต่อหน้าชายคนนี้แล้วไม่นานเย่ซิวก็ตรวจพบว่าร่างกายของเถียนเถียนมีคุณสมบัติที่เอนเอียงไปทางธาตุน้ำเขาจึงดึงพลังวิญญาณธาตุน้ำของตัวเองออกมาแล้วส่งเข้าไปในร่างของเธอการเสริมความแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ ทำให้เธอสามารถรองรับพลังวิญญาณของเย่ซิวได้เป็นอย่างดี ทำให้ความแข็งแกร่งของเธอเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมากหนึ่งชั่วโมงต่
“ฉันรู้ค่ะ ผู้หญิงคนนั้นชื่อเฟยอวี่ใช่ไหม เมื่อวานฉันเพิ่งเจอเธอมา”เย่ซิวมองอย่างเคร่งขรึม “เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง”เถียนเถียนตอบ “เหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะไปประเทศจ้านอิงตี้เมื่อไม่นานนี้ แล้วบังเอิญเจอกับราชินีหลังจากนั้นพวกเธอน่าจะทำข้อตกลงบางอย่างกัน ครั้งนี้ที่ราชินีส่งฉันมา ก็เพื่อให้เอาของบางอย่างมาให้เธอแต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร”เย่ซิวครุ่นคิดอยู่ในใจ สายตาพลันก็จับจ้องไปที่เถียนเถียนสายตาที่เต็มไปด้วยความกดดันนี้ ทำให้เถียนเถียนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอบิดตัวไปมาอย่างไม่สบายใจ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างระมัดระวังว่า“คุณเย่คะ คุณต้องการให้ฉันรับใช้คุณหรือเปล่า ไปที่อื่นกันเถอะ”อย่ามองว่าผู้หญิงคนนี้แสดงออกอย่างเชี่ยวชาญ แต่ความจริงแล้วเธอยังไร้เดียงสามากด้วยทัศนคติที่เย่อหยิ่งของหงอีแบบนั้น คนที่เธอจะยอมให้กอดครั้งแรกนั้น ย่อมต้องสะอาดบริสุทธิ์เท่านั้นการแสดงท่าทางยั่วยวนของเธอ ก็เป็นเพียงแค่การอำพรางตัวเพื่อการล่าเหยื่อเย่ซิวส่ายหัว “เธอคิดมากเกินไปแล้ว ฉันไม่ได้สนใจเรือนร่างของเธอ”เถียนเถียนดูเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อย ผู้ชายแบบเย่ซิว ใครบ้างล่ะจะไม่อยากมีอะไรกับเข
ไม่มีการเคลื่อนไหวที่หวือหวาเกินไป เพียงแค่ฟันไปข้างหน้าเบา ๆคลื่นปราณกระบี่ทรงกลมก็ระเบิดออกมา จากนั้นก็ไม่มีหลังจากนั้นอีกแล้วทั้งห้องเงียบสงัด นอกจากเย่ซิวกับเถียนเถียนที่ยังคงยืนอยู่ คนอื่น ๆ ล้วนตายหมดปึก!เถียนเถียนถึงกับเข่าทรุด ล้มลงไปนั่งกับพื้นด้วยความหวาดกลัว ในหัวเต็มไปด้วยคำถามนับไม่ถ้วน ร่างกายสั่นสะท้าน แม้แต่ฟันก็ยังสั่นกึก ๆเธอมองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดผวานี่เป็นการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวแบบไหน?เพียงหนึ่งดาบก็สามารถฆ่าผู้มีพลังวิเศษ นักเวท และนักรบยีนกว่าร้อยชีวิตได้ในพริบตา!"ท่านเป็นใครกันแน่?"เถียนเถียนเงยหน้าขึ้น มองไปที่เย่ซิวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกตะลึงรูปร่างและหน้าตาของเย่ซิวนั้นซิวบิดเบี้ยวไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับคืนสู่รูปโฉมดั้งเดิมเมื่อเห็นใบหน้านี้ เถียนเถียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกหนัก ๆ"ที่แท้ก็เป็นท่าน ท่านยังไม่ตาย ราชินีพูดไว้ไม่ผิดจริง ๆ"หัวใจของเย่ซิวไหววูบ "หงอีเดาได้แล้วงั้นเหรอ?"เถียนเถียนพยักหน้า "ใช่ค่ะ ตอนนั้นฉันไปรายงานข่าวนี้กับราชินี เธอก็พูดว่าท่านไม่มีทางตายไปง่าย ๆตอนนั้นฉันยังคิดเลยว่าใคร