เย่ซิวหันหน้าไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลัง เธอสูงเกือบเท่าไหล่ของเขา ดูฉลาดและน่ารัก ผมของเธอรวบเป็นทรงหางม้า อกอิ่มโดดเด่น เอวเพรียวบาง ขาเรียวเล็ก ความประทับใจแรกพบของเธอนั้นสะดุดตาและน่าทึ่งมาก ผู้ชายหลายคนมองดูเธออย่างหลงใหลและอยากจะกลืนกินเธอลงไปทันทีเย่ซิวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า "น้องสาวมีอะไรให้ช่วยเหรอ?"ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างเขินอาย "ตอนที่ออกมาฉันลืมหยิบเงินมาด้วย คุณให้ฉันยืมสักสองพันห้าร้อยได้ไหม ฉันอยากซื้อหินก้อนนั้น"เธอชี้ไปที่หินที่ไม่เด่นบนแผงลอยเย่ซิวใช้วิชาเนตรเทวะเพื่อดูอย่างเงียบ ๆก้อนหินนั้นไม่มีอะไรเลย เขาจึงแนะนำว่า "น้องสาว คุณควรตั้งใจเรียนนะ อย่าเล่นอะไรพวกนี้เลย การพนันมีแต่จะขาดทุนทั้งนั้น"ผู้หญิงคนนั้นมุ่ย "พี่ชาย ปีนี้ฉันอายุยี่สิบปีแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันจะคืนเงินให้คุณแน่นอน งั้นเรามาเพิ่มเพื่อนในไลน์กันดีกว่า"ไม่ใช่ว่าเย่ซิวไม่เต็มใจที่จะให้ยืมเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ แต่เขาไม่รู้จักอีกฝ่ายเลย ไม่ว่าเธอจะสวยมากแค่ไหน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะให้ยืมเงินง่าย ๆ ดังนั้นเขาจึงส่ายหัวและปฏิเสธดวงตาของผู้หญิงคนนั้นสว่างขึ้นเล
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที และเธอคงคิดไปเอง“หืม ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายขี้เหนียวขนาดนี้มาก่อนเลย แค่สองพันห้ายังไม่ให้ยืมด้วยซ้ำ!”เสียงที่ไม่พึงประสงค์ดังขึ้นชายคนหนึ่งแต่งตัวหรูหราเดินเข้ามาพร้อมบอดี้การ์ดหลายคนชายคนนี้ดูเหมือนอายุสี่สิบเศษ อ้วนท้วน และมีดวงตาเล็กคล้ายถั่วเขียวที่ส่อแววหื่นกามเขาเดินเข้าไปด้วยร่างกระเพื่อมย้วยและมองไปด้านข้างของเย่ซิว "ดูสิว่าแกยาจกขนาดไหน น้องสาวสุดสวยคนนี้ขอยืมแค่เงินสองพันห้าแกยังไม่ให้เลย แล้วยังมีหน้ากล้ามาเสี่ยงโชคกับหินอีกเหรอ?!"หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็หันไปมองอาชูร่าแล้วหัวเราะซุกซน "น้องสาว พี่ชายคนนี้จะให้เธอยืมเอง ถ้าเธอชอบหยกชิ้นไหน ฉันจะซื้อให้หมดเลย"อาชูร่ายิ้ม "ขอบคุณมากนะคะ ฉันอยากได้อันนี้ แล้วก็อันนั้น..."เธอเลือกหินแปดเก้าก้อนติดต่อกัน รวมแล้วมูลค่ามหาศาลชายอ้วนโบกมือใหญ่ เขาซื้อมันโดยไม่ลังเลเลยเย่ซิวมองดูอาชูร่าอย่างลึกซึ้ง จากนั้นจึงหันหลังกลับไปยังแผงอื่นส่วนชายอ้วนคนนั้นเขาก็ไม่สนใจมังกรจะสนใจเสียงกบเสียงเขียดได้อย่างไร?แน่นอนว่าหากเขากล้ายั่วยุอีก จุดจบก็มีแต่ความอนาถเท่านั้นเย
ชายอ้วนจงใจอวดตัวต่อหน้าอาชูร่า เมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาก็เยาะเย้ยและพูดว่า “แน่นอน ฉันย่อมรักษาคำพูด! แต่ถ้านายไม่สามารถตัดของดีออกมาได้ งั้นนายก็ต้องคุกเข่าลงแล้วเรียกฉันว่า 'พ่อ' สามครั้ง!”อาชูร่าทำทีไร้เดียงสา มองไปที่ชายอ้วนด้วยไฟโทสะ แทบอยากจะฆ่าเขาเสียเดี๋ยวนี้ความขัดแย้งระหว่างทั้งสอง ดึงดูดผู้คนมากมายให้เข้ามามุงดูไม่ว่าเมื่อใด ความขัดแย้งที่เกิดโดยมีหญิงงามเป็นตัวตั้ง ก็ดึงดูดสายตาผู้คนได้เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นเย่ซิวซึ่งเป็นคนธรรมดากำลังซื้อ 'หินขยะ' สามก้อนในคราวเดียว ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเขา แอบนินทาเขาลับหลังว่าสมองคงถูกลาเตะจนไม่สมประกอบ มีเงินเยอะเกินไปเลยไม่รู้จะเอาไปใช้ที่ไหนการพนันหินย่อมมีผู้เชี่ยวชาญในการตัดหินผู้คนมารวมตัวกันที่แผงขายมากขึ้นเรื่อย ๆชายวัยกลางคนสิบคนที่รับหน้าที่ตัดหิน กำลังถือเครื่องมือและตัดตามคำแนะนำของเย่ซิว โดยตัดหินก้อนที่เล็กที่สุดในบรรดาหินทั้งสามก้อนก่อนหลังจากตัดออกแล้ว ภายในและภายนอกยังคงเหมือนกันทุกประการฉับพลันเสียงโห่ก็ดังขึ้นชายอ้วนหัวเราะลั่น ใบหน้าเข้าเต็มไปด้วยการเสียดสี "ฉันบอกแล้วไง ไม่มีทางเป็นขอ
ในอดีตมีหลายกรณีที่การตัดหินในครั้งแรกเจอหยกที่สวยงาม แต่เมื่อตัดครั้งที่สอง หินนั้นก็กลายเป็นหินขยะก้อนหนึ่ง“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นเราก็ตัดหินก้อนนี้ออกเป็นเก้าส่วนเท่า ๆ กัน” เย่ซิวพูดคิดที่จะปรับพื้นที่อันตรายนั้น ใช้หยกสีม่วงเก้าชิ้นก็เพียงพอแล้วช่างตัดหินพยักหน้าหนัก ๆ สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมากขึ้นทำงานอยู่ที่นี่มาก็หลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาตัดเจอหยกสีม่วง!ขณะที่เขาตัดหินอย่างระมัดระวัง ทุกคนก็พากันกลั้นหายใจทั่วทั้งสนาม เหลือเพียงเสียงเครื่องตัดเสียงเดียวเท่านั้นเมื่อหินก้อนแรกถูกตัดออกมา สีม่วงที่กว้างใหญ่นั้นก็ทำให้ทุกคนแทบหยุดหายใจแม้ว่าหินก้อนส่วนอื่น ๆ จะกลายเป็นหินขยะทั้งหมด แต่แค่ชิ้นนี้ชิ้นเดียวก็มีมูลค่ากว่าหลายพันล้านแล้ว!ชายอ้วนเบิกตากว้าง ใบหน้าของเขาซีดลงดวงตาของอาชูร่าเป็นประกาย เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่ซิวซ้ำ ๆ ในดวงตา ประกายบางอย่างที่ยากจะอธิบายเป็นคำพูดวาบผ่านเย่ซิวสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของเธอ จึงหันกลับมาและมองตอบไปด้วยรอยยิ้มอาชูร่าก้มหน้างุดอย่างเขินอาย ดูน่าเอ็นดูในเวลาเดียวกันหินหยกสีม่วง ค่อย ๆ ถูกตัดออกมาทั้งหมดหินหลาย
“คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร คู่ควรกับที่ผมจะมอบหยกสีม่วงให้ด้วยเหรอ?!”ทุกคนในที่เกิดเหตุ มองเย่ซิวด้วยสายตาที่ตกตะลึงอย่างมากพวกเขาทั้งหมดมองเขาเหมือนกำลังมองคนงี่เง่า“หมอนี่ไม่รู้จริง ๆ เหรอว่า 'หนานหวัง' หมายถึงอะไร?”“บ้า เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ!”ชายอ้วนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งแต่เสียงหัวเราะนั้นเย็นชามาก "ไอ้เดรัจฉานน้อย แกกล้ามาก ใครก็ได้ มาหักมือและเท้าของมันแล้วเทปูนเข้าไปในปากของมันซะ ฉันอยากให้มันตายอย่างทรมานที่สุด!"ด้านหลังชายอ้วน มีบอดี้การ์ดร่างกำยำสองคนเดินออกมาด้วยสีหน้าดุร้ายพวกเขาไม่เสียเวลา ซัดหมัดที่ใหญ่เท่ากับหม้อต้มไปทางเย่ซิวทันทีหลายคนเบือนหน้าหนี ทนมองเหตุการณ์นองเลือดที่จะตามมาไม่ไหวชายอ้วนมีแต่รอยยิ้มโหดร้ายบนใบหน้าของเขาแต่รอยยิ้มนั้น กลับกลายเป็นความตื่นตะลึงในวินาทีต่อมาเมื่อพิจารณาจากขนาดตัวของทั้งสองฝ่าย ความแข็งแกร่งของพวกเขาเห็นได้ชัดว่าไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันแต่ผลลัพธ์ก็คือบอดี้การ์ดทั้งสอง ถูกคนที่ชื่อเย่ซิวคนนี้หักมือและเตะจนกระเด็นออกไปฉากนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงอีกครั้งเย่ซิวเดินไปหาชายอ้วนด้วยใบหน้
แต่บรรยากาศรอบตัวเธอนั้นเปลี่ยนไปอย่างน่าตกใจมาก กลายเป็นราชินีผู้โดดเดี่ยวที่สามารถกุมชะตาชีวิตของผู้คนนับพันนับหมื่นในอดีต ทุกครั้งที่เธอปลดปล่อยจิตสังหารออกมา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครก็มักจะแสดงสีหน้าหวาดกลัวอยู่เสมออย่างไรก็ตาม เย่ซิวกลับสงบมากตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆ ต่อจิตสังหารจากตัวเธอเลยไม่ว่าจิตสังหารของเธอจะรุนแรงแค่ไหน ก็ไม่อาจเทียบกับสิ่งที่เย่ซิวสั่งสมจากการสังหารศัตรูนับไม่ถ้วนในสนามรบได้เมื่อเห็นเย่ซิ่วสงบมาก เวินหว่านเอ๋อร์ก็กัดฟันและปลดปล่อยจิตสังหารของเธอทั้งหมดคราวเดียวราวกับคลื่นยักษ์กระเพื่อมขึ้นจากพื้นราบ โหมซัดและร้องคำราม หวังจะกลืนกินเย่ซิวและลากเขาลงไปสู่ก้นบึ้งแต่เขาก็ยังเป็นเหมือนเสาค้ำสมุทร ไม่ว่าคลื่นทะเลจะรุนแรงแค่ไหน เขาก็ยังคงไม่ไหวติงจิตสังหาร ค่อย ๆ ถูกลบหายไปเวินหว่านเอ๋อร์ฉีกยิ้มมีเสน่ห์ เธอพูดไปด้วยเสียงหวาน "ฉันแค่ล้อเล่นกับคุณน่ะ ได้ยินมาว่าคืนนี้คุณจะไปเข้าร่วมงานเลี้ยง พาฉันไปด้วยได้ไหมคะ?"เหตุผลหลัก ๆ ที่เธอมาติดต่อกับเย่ซิว ก็เพราะหอการค้าไป๋ชวนเธออยากจะเข้าร่วมมานานแล้วแต่เนื่องจากสถานะของตัวเอง จะบีบตัวเข้าไป
“ฉันจะฆ่าไอ้เดรัจฉานน้อยนั่นด้วยมือของฉันเองให้ได้!”ภายในตรอก ชายอ้วนคนหนึ่งเดินกะโผลกกะเผลกไปพร้อมกับบอดี้การ์ดที่ได้รับบาดเจ็บสองคน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธผู้หญิงที่เอวเพรียวและหุ่นร้อนแรงมากคนหนึ่งในชุดกางเกงขาสั้นเดินมาหาเขาชายอ้วนกลืนน้ำลายทันที เขาหยุดหญิงสาวแล้วหัวเราะ "สาวน้อย ไปเล่นกับพี่ชายสักคืนสิ"พรวด!ผู้หญิงคนนี้คล้ายกับไม่ได้เคลื่อนไหวใด ๆ แต่กลับมีเลือดสามสายพุ่งออกมาพร้อมกัน ร่างสามร่างล้มลงต่อหน้าเธอและเสียชีวิตคาที่หญิงหุ่นร้อนแรงคนนี้ เดินบิดเอวราวกับงูน้ำอันเย้ายวนแล้วจากไปอย่างสงบ……เวินหว่านเอ๋อร์ซึ่งถูกเอาเปรียบ โกรธมากจนต้องกำหมัดแน่น "คุณคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าคุณจริง ๆ?"เย่ซิวยิ้มอย่างไม่ยี่หระ เพียงหันหลังแล้วเดินจากไปแผ่นหลังเขาโล่งไร้ซึ่งการป้องกันเวินหว่านเอ๋อร์เตรียมพร้อมที่จะลงมือจัดการแล้วตลอดทั้งชีวิตของเธอ ไม่เคยถูกใครดูหมิ่นเช่นนี้มาก่อนขณะที่เธอกำลังจะสั่งสอนบทเรียนให้แก่เย่ซิว หักกระดูกของเขาสักสองสามท่อน ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็เผยให้เห็นถึงความตกใจเย่ซิวเหมือนจะไร้การป้องกัน แผ่นหลังเปิดโล่ง มีจุดให้ลงมือหลายจุดมาก แต
ยิ่งมีเส้นชีพจรปฐพีทั้งเก้าเส้นมารวมตัวกัน ซึ่งก็ถูกเย่ซิวดูดซับไว้ทั้งหมดร่างกายและกำลังภายในของเขาแข็งแกร่งขึ้นไปอีกระดับ อีกเพียงแค่หนึ่งก้าวกำลังภายในก็จะตกผลึกและก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น!เวินหว่านเอ๋อร์ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลจากเย่ซิวนักก็ได้รับพรบางอย่างไปเช่นกันพลังยุทธของเธอหยุดนิ่งอยู่กับที่มานานหลายปีแล้ว ตอนนี้เองถึงเพิ่งจะคลายตัวลง จากนั้นก็ค่อย ๆ ทะลวงเข้าสู่จอมยุทธ์ขั้นกลางระดับเจ็ดอย่างเป็นธรรมชาติ!เวินหว่านเอ๋อร์ทั้งประหลาดใจและเต็มไปด้วยความยินดี คราวนี้สายตาที่เธอมองไปทางเย่ซิว หลงเหลือเพียงความเคารพและหวาดกลัวอย่างสุดซึ้งเท่านั้นความคิดหมุนวนไป ทันใดนั้นเธอก็ก้าวขึ้นไปคุกเข่าลงตรงหน้าชายหนุ่ม พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างมากว่า "ดิฉันเวินหว่านเอ๋อร์ ยินดีที่จะติดตามเป็นสาวใช้คอยยกน้ำชาและปรนนิบัติของคุณชายเย่ค่ะ!"เธอเองก็เป็นคนที่เด็ดเดี่ยวไม่น้อยหลังจากที่ได้เห็นความแข็งแกร่งและความสามารถอันน่าสะพรึงกลัวของเย่ซิว เธอก็ตัดสินใจได้ในพริบตายินดีจะละทิ้งสถานะราชินีของโลกใต้ดิน และคุกเข่าลงตรงหน้าเขาโดยไม่ลังเลเย่ซิวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ นี่คือผลลัพธ์ที่เขาต้องการ
อาวุธในมือของพวกนั้นล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นอาวุธเลเซอร์ที่ยังไม่ถูกปล่อยออกสู่ตลาดและมีระยะการโจมตีไกลถึงห้ากิโลเมตรเย่ซิวหลบหลีกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับอดชื่นชมไม่ได้ว่ากำลังรบของประเทศจ้านอิงตี้นั้นไม่ธรรมดาหากเขาถูกโจมตีโดยอาวุธเลเซอร์เหล่านี้มากเกินไปก็อาจจะได้รับผลกระทบไม่น้อยหน่วยรบเขี้ยวพิษกว่าหกสิบเปอร์เซ็นต์ พุ่งตรงมาไล่ล่าเย่ซิวพวกเขาต่างมองออกว่าเย่ซิวแข็งแกร่งกว่าพรีเอลล์มากเย่ซิวคิดในใจก่อนจะปล่อยจอมมารโลหิตออกมา ทันทีที่ปรากฏตัว จอมมารโลหิตก็ส่งเสียงคำรามลั่นก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทันทีเพียงไม่นานก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นหมวกที่หน่วยรบเขี้ยวพิษสวมใส่ปล่อยคลื่นสมองพิเศษที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจอมมารโลหิตเขารีบกลับมาหาเย่ซิวด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นมันอะไรน่ะ วิญญาณที่ข้ากลืนไปเมื่อกี้นี้เสียเปล่าหมดเลย”เย่ซิวมีสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อยกลุ่มศัตรูพวกนี้มีอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงขั้นมีวิธีรับมือกับพลังวิญญาณโดยเฉพาะด้วยแต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรเย่ซิวสะบัดมือเหวี่ยงหอกยาวในมือออกไปอย่างแรงหอกนั้นเปล่งประกายเจิดจ้าพร้อมด้วยพลังจิตที่เขาแฝงไ
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?!”ผู้รับผิดชอบฐานลับถอยออกมาจากวงต่อสู้ยืนมองเย่ซิวกับพรีเอลล์ที่กำลังถล่มศัตรูอย่างดุเดือด ทำให้ใจเขารู้สึกสั่นสะท้านแต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมทันที “ยังไงซะ พวกแกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกไปได้เลย”สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ปุ่มอีกอันหนึ่งที่พกติดตัวอยู่ปุ่มนี้คือสวิตช์สำหรับทำลายล้างตัวเองของฐานลับนี้!ใต้ดินมีการฝังระเบิดจำนวนมากไว้ เมื่อกดปุ่มจะเกิดการระเบิดที่รุนแรงจนสามารถเขย่าฟ้าสะเทือนดินได้เขาประเมินสถานการณ์ในใจด้วยพลังการต่อสู้ที่สองคนนี้แสดงออกมา แม้ระเบิดทั้งหมดจะถูกจุดชนวนก็อาจจะยังไม่สามารถฆ่าพวกเขาได้แต่ถึงตายก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้เก็บเกี่ยวเลยอย่างน้อยแค่เก็บตัวอย่างเลือดหรือชิ้นส่วนเนื้อเยื่อมาเพื่อการวิจัยก็เพียงพอแล้วเมื่อคิดได้ดังนั้น เขาก็หันหลังวิ่งออกไปทันทีก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่เขาเร่งเครื่องจนสุด ขี่ออกไปด้วยความเร็วสูงจนเสียงเครื่องยนต์คำรามก้อง เมื่ออยู่ห่างออกมาราวยี่สิบกิโลเมตรแล้ว เขาก็หยิบสวิตช์ระเบิดขึ้นมากดอย่างแรงตูม! ตูม! ตูม!เสียงระเบิดดังสนั่นจนแก้วหูแทบ
พรีเอลล์เห็นว่าเย่ซิวไม่ได้คิดจะแย่งสร้อยไปจากเธอจึงแอบถอนหายใจโล่งอกเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากใต้หน้ากากจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตูม!ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งเรือก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอาคมป้องกันด้านนอกถูกทำลายลงแล้วและก็เป็นจังหวะที่พวกเขาหาของมีค่าทั้งหมดในห้องเสร็จพอดีเย่ซิวโยนหอกยาวเล่มหนึ่งให้พรีเอลล์ ส่วนตัวเองก็คว้าหอกอีกเล่มเอาไว้ก่อนจะพุ่งออกไปพร้อมกันพวกเขาเจอกับกลุ่มทหารชุดแรกที่เพิ่งบุกเข้ามาทั้งสองฝ่ายเริ่มการต่อสู้ทันทีโดยไม่มีคำพูดใด ๆ “พวกแกเป็น…”“อ๊าก!!”ทั้งสองพุ่งเข้าใส่โดยไม่รอให้ใครพูดจบเสียงไซเรนดังสนั่นไปทั่วด้านนอกทหารฝีมือดีจำนวนมากรีบวิ่งเข้ามาพร้อมใช้อาวุธในมือยิงโจมตีไม่ยั้งชายชราในกลุ่มผู้บังคับบัญชาผู้มีผมสีขาวแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์มองพวกเขาด้วยสายตาตื่นตะลึง “เป็นไปได้ยังไง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมในเรือถึงยังมีคนรอดชีวิตได้?”ผู้รับผิดชอบฐานลับร้องตะโกนพลางถอยหลัง พร้อมกับหยิบอุปกรณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยออกมากดอย่างแรง“อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ แม้ต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดพวกมันไว้ พวกมันอาจมีความลับเกี่ยวกับการมีชีวิตอมตะก็เป็นได้”พวกเ
เย่ซิวใช้เวลาสองสามนาทีในการถอดรหัสอักขระบนประตู ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้องเป็นคนแรกทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นผู้หญิงสองคนยืนเผชิญหน้ากันอยู่กลางห้องผู้หญิงคนหนึ่งกำลังใช้มีดสั้นแทงเข้าไปในท้องของอีกคน ส่วนอีกคนก็เสียบมือทะลุเข้าไปในหัวใจของเธอพรีเอลล์รีบวิ่งไปดูใกล้ ๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียดผู้หญิงทั้งสองคนดูสวยมาก และจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นเจ้าหญิงแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่พวกเธอก็ยังคงแผ่รัศมีความสง่างามตามธรรมชาติออกมา“นี่มันอะไรกัน?”พรีเอลล์หยิบของที่คล้ายเข็มทิศออกมาจากมือของผู้หญิงคนหนึ่ง มันเต็มไปด้วยอักขระที่ซับซ้อนเย่ซิวเหลือบมองแค่ครั้งเดียวก็เอ่ยขึ้น “นี่น่าจะเป็นศูนย์ควบคุมของทั้งเรือลำนี้คาดว่าตอนที่เจ้าของเรือลำนี้ถูกเล่นงาน และตอนที่กำลังจะตาย เขาน่าจะเปิดใช้งานอาคมของเรือ ทำให้เรือล่มทั้งลำไปพร้อมกัน”พรีเอลล์มองเขาด้วยสายตาชื่นชม ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว นายนี่เก่งจริง ๆ สุดยอด ฉันชอบนายมากเลย”เย่ซิวยังคงสีหน้าราบเรียบ “ประจบไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงของที่ได้มาก็ต้องแบ่งตามที่ตกลงกันไว้”เขารู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ถึงแ
ทุกคนต่างดีใจเป็นอย่างมาก“โชคดีมากที่เจอวัสดุแบบนี้”หลังจากเปิดห้องติดต่อกันสิบกว่าห้องโดยไม่มีอะไรเลย ในที่สุดเย่ซิวก็พบของในห้องหนึ่งที่ดูหรูหรากว่าห้องอื่น ๆเจ้าของห้องนี้น่าจะมีสถานะค่อนข้างสูงดูได้จากขนาดห้องและการตกแต่งภายในเจ้าของห้องเป็นชายวัยกลางคน บนนิ้วมีแหวนผนึกของสวมอยู่แต่แหวนนี้มีขนาดเล็กกว่าแหวนของเย่ซิว มีพื้นที่เพียงหนึ่งลูกบาศก์เมตรเท่านั้นในแหวนผนึกของมีอุปกรณ์เวทมนตร์อยู่หลายชิ้นและยังมีวัสดุอีกจำนวนไม่น้อย โดยของที่มีมูลค่าสูงที่สุดคือแร่สีเหลืองดินขนาดเท่าฝ่ามือชิ้นหนึ่งแร่ชนิดนี้เป็นวัสดุสำคัญมากชนิดหนึ่งในการหลอมสร้างร่างแยกธาตุดินพรีเอลล์มองแหวนผนึกของด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยด้วยสายตาปิ๊ง ๆ “ให้ฉันได้ไหม”“ไว้ค่อยคุยกันตอนออกไปข้างนอก” เย่ซิวตอบแบบขอไปที ของล้ำค่าแบบนี้จะให้เธอได้ยังไงล่ะ?หากมีแหวนผนึกของแบบนี้มากขึ้น ในอนาคตเวลามีการต่อสู้ เขาจะสามารถแอบส่งอุปกรณ์พวกนี้ไปที่สนามรบได้โดยไม่มีใครรู้และปล่อยออกมาในครั้งเดียวโดยไม่ให้ศัตรูรู้ตัว รับรองได้เลยว่าจะทำให้ศัตรูประหลาดใจอย่างแน่นอน“ไม่เอาน่า เอามาให้ฉันเถอะนะ” พรีเอลล์เอ่
ภายในเรือลำใหญ่ไม่ได้มืดมิดอย่างที่คิดไว้ แต่กลับสว่างไสวอย่างมากบนเพดานเรือประดับด้วยไข่มุกราตรีขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงสว่างนิรันดร์ไม่เคยดับพวกเขาเห็นนักรบที่สวมเกราะหรูหรา ถือหอกยาว ยืนอยู่ตามตำแหน่งเฉพาะแม้พวกเขาจะเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว แต่ยังคงแผ่รังสีแห่งพลังอันแข็งแกร่ง ทำให้ผู้คนรู้สึกเกรงกลัวเพียงแค่ได้มองเมื่อพรีเอลล์เห็นภาพเบื้องหน้า เธอก็กรีดร้องด้วยความตื่นเต้นก่อนจะพุ่งเข้าไปทันที และเอื้อมมือไปสัมผัสชุดเกราะเบา ๆ “นี่คือเกราะเวทมนตร์ที่ทำจากมิธริล[footnoteRef:0]ซึ่งเป็นวัสดุหายากล้ำค่า [0: เป็นโลหะในจินตนาการจากนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง] ฉันเคยเห็นเกราะเวทมนตร์ที่ไม่สมบูรณ์ชิ้นหนึ่งในงานประมูลและมันถูกประมูลไปในราคาหลายหมื่นล้านแต่ที่นี่มีเกราะที่สมบูรณ์กว่าร้อยชุด ถ้านำไปขายจะได้เงินเท่าไหร่กันนะ”แม้ว่าครอบครัวของเธอจะร่ำรวย แต่เธอก็ไม่อาจมองข้ามทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลนี้ได้ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นเพียงส่วนที่อยู่ด้านนอกเท่านั้น หากเดินเข้าไปข้างในอาจมีของล้ำค่าอีกมากมาย ไม่แปลกเลยที่เธอจะแสดงอาการตื่นเต้นจนเกินตัวเย่ซิวเดินไปที่ร่างของนักรบคนหนึ่งก่อนจะใช้
พวกเขามีขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่ยิงได้ไกลสุดหนึ่งหมื่นเก้าพันกิโลเมตรและนี่คือข้อมูลที่เปิดเผยออกมา ใครจะรู้ว่าพวกเขาอาจมีอาวุธที่ทรงพลังยิ่งกว่านี้ซ่อนอยู่ในเงามืดก็เป็นได้ด้วยพลังของเย่ซิวในตอนนี้ เขาสามารถเดินทางได้ถึงวันละสามพันกิโลเมตรจนกระทั่งเช้าวันต่อมา ทั้งสองก็มาถึงป่าทึบแห่งหนึ่งทันทีที่ถึงพื้น เย่ซิวก็จับตัวพรีเอลล์ไว้แน่นก่อนหน้านี้บนกระบี่หงส์โบยบิน เธอเอาแต่พูดจายั่วโมโหไม่หยุดจนทำให้เขาเสียสมาธิเย่ซิวจึงอดทนไว้ตลอดทางเพื่อจะเดินทางได้ต่อ แต่ตอนนี้ถึงเวลาหยุดพักแล้ว และก็ถึงเวลาที่เขาจะสั่งสอนเธอให้รู้จักบทเรียนที่ลืมไม่ลงจากนั้นพื้นที่โดยรอบก็สั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวสองชั่วโมงผ่านไป เย่ซิวก็ฟื้นฟูพลังกลับมาเต็มที่ส่วนพรีเอลล์ตอนนี้สภาพกลายเป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วไร้เรี่ยวแรงเย่ซิวอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินทางต่อไปอีกหนึ่งวันครึ่งต่อมา พวกเขาก็มาถึงประเทศจ้านอิงตี้พรีเอลล์ที่ดูเหมือนจะกลับมามีเรี่ยวแรงแล้ว แต่ท่าทางของเธอดูเรียบร้อยกว่าตอนก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัดผู้หญิงคนนี้สมควรโดนปราบให้เข็ดจริง ๆ หลังจากโดนเย่ซิวสั่งสอนอย่างหนักหน่วง เธอก็
พูทเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจระหว่างเดินปากก็พึมพำไม่หยุดว่าพอน้องสาวโตแล้วก็อยู่ด้วยไม่ได้ พอมีแฟนก็ไม่สนใจพี่ชายตัวเองเลยพรีเอลล์โมโหจนกัดฟันแล้วเตะเขาไปหนึ่งทีหลังจากก้างขวางคอชิ้นใหญ่จากไป พรีเอลล์ก็มองเย่ซิวด้วยสายตาท้าทาย “เมื่อกี้ไม่นับ มาสู้กันใหม่อีกรอบ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะชนะนายไม่ได้”จากท่าทางของเธอก็พอมองออกว่าพรีเอลล์เป็นคนที่มีจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันสูงมากและอยากเป็นที่หนึ่งในทุกเรื่องเย่ซิวดูเวลา “ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้เป้าหมายหลักของเราคือไปดูสถานการณ์ของเรือลำนั้นก่อน”“ไม่ได้ ต้องรู้ผลแพ้ชนะก่อน ไม่งั้นฉันจะหงุดหงิด ”เย่ซิวจึงต้องยอมทำตามที่เธอต้องการอย่างจนปัญญาเพื่อไม่ให้เสียเวลา เย่ซิวจึงใช้พลังเต็มที่ตั้งแต่เริ่ม ทำให้พรีเอลล์โดนจัดการจนแทบไม่เหลือแรงจะสู้เพียงแค่สิบนาทีเธอก็ยอมแพ้“ฉันไม่เอาแล้ว”“ทำไมนายถึงเก่งขนาดนี้?”“พี่ชายฉันผิดไปแล้ว ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันเถอะ”……ถ้าพูทมาเห็นฉากนี้ เขาคงจะอ้าปากค้างด้วยความตกใจน้องสาวคนนี้เป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเห็นเธอยอมใครง่าย ๆ มาก่อนเลยแต่ตอนนี้กลับถูกเย่ซิวจัดการจ
มีลักษณะคล้ายกับแผนภาพแปดทิศแต่ดูซับซ้อนกว่ามากจากนั้นจึงเขียนเนื้อหาของสัญญาไว้ด้านข้าง เย่ซิวมองสองพี่น้องที่ดูประหลาดใจพลางอธิบายว่า “แค่พวกคุณหยดเลือดลงไปบนนี้ สัญญาก็จะเสร็จสมบูรณ์ ถ้าเกิดละเมิดสัญญาขึ้นมา เบาหน่อยก็จะกลายเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต ถ้าหนักหน่อยก็ตายคาที่”“มันมีพลังถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?” พรีเอลล์เอ่ยถาม“แน่นอน”พี่น้องสองคนยังคงลังเลแต่ก็ยอมหยดเลือดลงบนสัญญา จากนั้นเย่ซิวก็ทำตามเช่นกันสัญญาส่งแสงแปลกประหลาดออกมาโดยแยกเป็นสามส่วน ก่อนจะซึมเข้าสู่ร่างกายของทั้งสามคนในใจพวกเขาก็เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งขึ้นมาโดยทันที หากละเมิดขึ้นมาจะต้องจ่ายค่าตอบแทนมหาศาลสองพี่น้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขอแค่สร้างความเชื่อใจกันได้ก็เพียงพอแล้วพรีเอลล์มองไปยังพี่ชายของเธอ “พี่ว่าเราบอกเรื่องนั้นเขาไปดีไหม อาจจะได้อะไรกลับมาก็ได้”พูทดวงตาเป็นประกาย ก่อนจะเอ่ยกับเย่ซิว “มีโอกาสครั้งใหญ่รออยู่ ขึ้นอยู่กับว่านายจะมีความสามารถพอที่จะคว้ามันไว้ได้หรือเปล่าเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอดของประเทศจ้านอิงตี้เลยนะ ถ้าตระกูลเราไม่มีพื้นฐานดีก็คงไม่มีทางรู้ได้”เย่ซิวเผยสีหน้าสนใจในทั