แชร์

บทที่ 33

ผู้แต่ง: เฉิงกวงโฮ่วถู่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เย่ซิวหัวเราะเมื่อถูกหญิงสาวทั้งสามมองอย่างสงสัย แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรมาก

รอจนอาหารเสร็จแล้ว พวกเธอก็จะรู้เอง

หลังจากหยิบพวงกุญแจ เย่ซิวก็ออกไปที่ตลาดสดชั้นล่างเพื่อซื้อวัตถุดิบ

เขาไม่ได้เลือกซื้อของที่แพงเกินไป เพียงแค่ซื้อวัตถุดิบธรรมดา ๆ ที่มีราคารวมประมาณสองร้อยสามสิบหยวนเท่านั้น

เมื่อครู่เขาสำรวจในอะพาร์ตเมนต์แล้ว และพบว่ามีอุปกรณ์ครัวครบครัน

เครื่องปรุงรสก็มีครบ ขาดเพียงข้าวกับเส้นบะหมี่

เขาซื้อข้าวสองถุงและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งกล่อง จากนั้นก็ขนกลับไปอย่างสบาย ๆ

หญิงสาวทั้งสามกำลังทำความสะอาดห้อง

แม้ว่าเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์จะเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่พวกเธอก็ทำงานได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

การที่ได้พบกับหญิงสาวเช่นนี้สักคนก็นับว่าโชคดีมากแล้ว และเย่ซิวกลับพบพร้อมกันถึงสองคน

เย่ซิวไม่ได้เข้าไปรบกวนพวกเธอ เขาเอาของเข้าไปเก็บในห้องครัว แล้วเริ่มลงมือทำอาหาร

เขาเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ในไม่ช้าห้องครัวก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมอันเย้ายวนที่ชวนให้น้ำลายสอ

โชคดีที่ประตูห้องครัวปิดอยู่ ไม่อย่างนั้นกลิ่นนี้คงลอยออกไปข้างนอกจนทำให้สามสาวไม่เป็นอันทำความสะอาดห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 34

    “พี่เย่สุดยอดมากเลย หลังจากได้กินอาหารที่พี่ทำแล้ว ฉันก็กินอาหารของคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว”เย่ซิวหัวเราะ นี่ยังไม่ใช่จานเด็ดของเขา อาหารที่ทำวันนี้เป็นเพียงอาหารธรรมดาทั่วไปเท่านั้นหากเขาทำสุดความสามารถและใช้วัตถุดิบชั้นดีในการปรุงอาหารแล้วล่ะก็ จะต้องทำให้พวกเธอกินอาหารคนอื่นไม่ได้อีกเป็นเวลานานอย่างแน่นอน เย่ซิวรับผิดชอบทำความสะอาดอาหารบนโต๊ะ หลังจากทานเสร็จ หลิ่วเมิ่งอิ๋นก็อาสาลุกขึ้นไปล้างจานส่วนเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ไปทำงานที่เหลือต่อให้เสร็จหากพ่อแม่ของพวกเธอได้มาเห็นภาพนี้ พวกท่านคงจะต้องตกใจมากแน่ ๆ ลูกสาวสุดที่รักของพวกเขาทำความสะอาดบ้านอย่างขะมักเขม้นเพื่อผู้ชายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันจนกระทั่งเวลาสองทุ่ม ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และเซี่ยซิ่วซิ่วถึงลุกขึ้นและกล่าวคำอำลาเมื่อเดินออกมาถึงนอกหมู่บ้าน บอดี้การ์ดหญิงของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ยืนรอเธออยู่ที่ประตู เมื่อมองไปที่บอดี้การ์ดหญิง จู่ ๆ ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็เกิดความคิดกล้าหาญขึ้นมาเธอวิ่งเหยาะ ๆ ไปหา ก่อนจะจับมือบอดี้การ์ดหญิง แล้วพูดอย่างออดอ้อน “พี่หมิ่นหมิ่น ฉันอยากย้ายบ้าน”ทั้งสองสนิทกันมาก และหมิ่นหมิ่นก็

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 35

    เมื่อเปิดประตูก็เห็นลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างน่ารัก ข้างหลังเธอมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่หลายใบวางอยู่“เพื่อนนักศึกษาลู่ นี่คุณ?”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์มีสีหน้าเขินอายเล็กน้อย “เอ่อ... อาหารที่เพื่อนนักศึกษาเย่ทำนั้นอร่อยมาก ฉันกลับไปแล้วพอคิดว่าจะไม่ได้กินอีกก็รู้สึกเศร้ามาก”“ฉันเลยอยากย้ายมาอยู่กับพวกเธอ จะได้เป็นเพื่อนกับน้องหลิ่วด้วย พวกนายชายหญิงอยู่ด้วยกันสองคนจะถูกนินทาได้ง่าย”“สำหรับผู้หญิงแล้วชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้น...เพื่อนนักศึกษาเย่ให้ฉันย้ายมาอยู่ด้วยได้ไหม ฉันจะจ่ายค่าเช่าส่วนหนึ่ง และทำความสะอาดบ้านให้ด้วย”พูดจบ เธอก็กะพริบตากลมโต มองเย่ซิวอย่างประหม่าและคาดหวังเล็กน้อยเหตุผลของลู่เสวี่ยเอ๋อร์นั้นฟังดูสมเหตุสมผล เย่ซิวไม่สามารถหาข้อตำหนิใด ๆ ได้และนี่ก็สอดคล้องกับแผนการต่อไปของเย่ซิวด้วยในเมื่อลู่เสวี่ยเอ๋อร์เสนอตัวจะมาอยู่ร่วมกัน ดังนั้นเขาก็จะสามารถสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับหญิงสาวทั้งสองคนพร้อมกันได้“ได้สิ ไม่มีปัญหา เดี๋ยวผมช่วยคุณขนของเข้ามาก็แล้วกัน”คำตอบของเย่ซิวทำให้ดวงตาของลู่เสวี่ยเอ๋อร์สดใสขึ้นทันที“ขอบคุณนะเพื่อนนักศึกษาเย่ จากน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 36

    กลิ่นครีมอาบน้ำหอมฟุ้งลอยแตะจมูก เย่ซิวเงยหน้าขึ้นเนื่องจากมุมมองที่พอดี บวกกับที่หลิ่วเมิ่งอิ๋นโน้มตัวลงมาข้างหน้า คอเสื้อของเธอจึงเปิดกว้าง พอหันไปมอง เย่ซิวก็รู้สึกเลือดลมสูบฉีดทันทีหลิ่วเมิ่งอิ๋นเธอไม่ได้สวม…มันสร้างผลกระทบทางสายตาต่อเย่ซิวอย่างหนักเมื่อเห็นว่าเย่ซิวเอาแต่มองตัวเองเหม่อลอย เธอจึงก้มศีรษะลงโดยไม่รู้ตัวจากนั้นก็อุทานเสียงหลงทันที ก่อนจะรีบนั่งตัวตรง ยกมือขึ้นปิดคอเสื้อตัวเองไว้ ใบหน้าของเธอแดงก่ำเห่อร้อนแทบระเหยเป็นไอเย่ซิวเองก็กระอักกระอ่วน และพูดขึ้นอย่างเขินอาย “ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่เห็นอะไรเลย”เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาพูดอะไรขัดต่อความรู้สึกของตัวเองหลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกอายมากเช่นกัน เธอก้มหน้างุด ไม่กล้ามองเขาโชคดีที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เปิดประตูเดินออกมาพอดี นั่นช่วยคลายบรรยากาศกระอักกระอ่วนลงได้บ้างหลิ่วเมิ่งอิ๋นเมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวก็เงยหน้าขึ้น และตกตะลึงทันที “พี่เสวี่ยเอ๋อร์ ทำไมพี่ถึงอยู่ที่นี่ได้?”เย่ซิวก็เงยหน้าขึ้นมองเช่นกัน หัวใจของเขาก็เต้นเร็วขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นลู่เสวี่ยเอ๋อร์สวมสายเดี๋ยวที่ดูเย็นสบายในท่อนบน ส

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 37

    เย่ซิวรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี และนึกในใจว่า ‘คงไม่ใช่ ใช่ไหม?’สายตาของสองสาวก็จับจ้องไปที่ประตูเช่นกัน“ฉันไปเปิดเองค่ะ” หลิ่วเมิ่งอิ๋นลุกขึ้นจากโซฟา และเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่องผ่านตาแมวออกไปจากนั้นเธอก็นิ่งอึ้ง “เป็นพี่ซิ่วซิ่ว”สีหน้าของลู่เสวี่ยเอ๋อร์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ราวกับว่าเธอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น?เย่ซิวเองก็มีสีหน้าแปลก ๆ หลิ่วเมิ่งอิ๋นเปิดประตู เซี่ยซิ่วซิ่วที่ยืนอยู่นอกประตูใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “น้องหลิ่ว เจอกันอีกแล้วนะ”ข้าง ๆ เซี่ยซิ่วซิ่วมีกระเป๋าเดินทางสองใบหลิ่วเมิ่งอิ๋นถามขึ้น “พี่ซิ่วซิ่ว นี่พี่…”เย่ซิวและลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็เดินมาที่ประตูรอยยิ้มของเซี่ยซิ่วซิ่วยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เธอทักทายทั้งสองคนแล้วพูดว่า “เป็นเพราะอาหารที่เพื่อนนักศึกษาเย่ทำเมื่อครู่ กลับไปแล้วยังติดใจอยู่เลย บางทีฉันอาจไม่สามารถกินอาหารที่คนอื่นทำได้แล้วน่ะสิ”“อีกอย่าง น้องหลิ่วอาศัยอยู่ตามลำพังกับเพื่อนนักศึกษาเย่ เธอเป็นเด็กสาว ดังนั้นจะถูกคนอื่นนินทาได้ง่าย”“ตามคำกล่าวที่ว่าหนึ่งเดียวสู่ทั้งปวง ทั้งปวงสู่หนึ่งเดียว ฉันจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่กับพวกนายด้วย”“ไม่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 38

    กล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างกายของเธอเกร็งขึ้น ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เข้ามาครอบงำเธอ“ผ่อนคลาย”เสียงของเย่ซิวดูเหมือนจะมีมนตร์สะกดลู่เสวี่ยเอ๋อร์มองเข้าไปในดวงตาของเขาโดยไม่รู้ตัวดวงตาของเขานั้นแจ่มชัดมาก ซึ่งจู่ ๆ ก็ทำให้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกว่าตัวเองคิดมากเกินไป จิตใจของเธอไม่บริสุทธิ์เหมือนกับเพื่อนนักศึกษาเย่เธอค่อย ๆ ผ่อนคลายแม้ว่าขณะยืดกระดูกและเส้นลมปราณจะเจ็บมาก แต่เธอก็ยังทนได้ ไม่นานร่างกายท่อนบนก็ยืดเสร็จ สายตาของเย่ซิวจ้องลงไปที่ขาเรียวงามของเธอที่ภายใต้ถุงน่องสีดำหัวใจมีระลอกคลื่นเล็ก ๆ แต่ก็กลับมานิ่งเฉยอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวางมือทั้งสองลงบนนั้นสองนาทีต่อมา เส้นลมปราณและกระดูกของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็ถูกยืดอีกครั้งเย่ซิวเช็ดเหงื่อ งานนี้ต้องใช้พละกำลังมหาศาลส่วนลู่เสวี่ยเอ๋อร์อ่อนปวกเปียกอยู่ตรงนั้น ไม่มีแม้แต่แรงที่จะกะพริบตาตอนนี้หากเย่ซิวคิดจะทำอะไรกับเธอ เธอก็คงไม่มีแรงจะต่อต้านเลยแม้แต่น้อยหลังจากหายใจเข้าลึก เย่ซิวก็ช่วยพยุงลู่เสวี่ยเอ๋อร์ลุกขึ้นนั่ง เอนตัวพิงหัวเตียง ก่อนจะจับมือทั้งสองของเธอ ประกบเข้าหากัน ค่อย ๆ ส่งพลังงานภายในของตัวเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 39

    เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดของหลิ่วเมิ่งอิ๋นทำให้หัวใจของเซี่ยซิ่วซิ่วสั่นสะท้านความประทับใจที่มีต่อเย่ซิวหายไปแทบจะทันที“น่ารังเกียจ เขาทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!”เธอผลักประตูเข้าไปด้วยความโกรธ และกำลังจะด่าเย่ซิวแต่ทันทีที่ประตูเปิดออก ภาพที่เห็นกลับทำให้เซี่ยซิ่วซิ่วพูดไม่ออก นี่ไม่ใช่ภาพที่เธอจินตนาการไว้ทั้งสามยังคงสวมใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้น เย่ซิวกำลังจัดท่าทางแปลก ๆ ให้กับร่างกายของหลิ่วเมิ่งอิ๋นนี่เป็นท่ายากมาก เพียงแค่มองดู เธอก็รู้สึกปวดตัวแทนแล้วเย่ซิวไม่ได้สนใจเซี่ยซิ่วซิ่ว เขามุ่งความสนใจไปที่การยืดเหยียดร่างกายของหลิ่วเมิ่งอิ๋นเท่านั้นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์โชยมาจากร่างกายของลู่เสวี่ยเอ๋อร์ พร้อมกับสารสีดำบางอย่างนี่คือสิ่งสกปรกที่ถูกขับออกมาจากร่างกายเธอและร่างกายของเธอก็ดูผอมลงไปมากเมื่อเห็นเซี่ยซิ่วซิ่วเข้ามา ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็อุทานพร้อมกับปีนลงจากเตียง และรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปร่างกายของเธอมีกลิ่นเหม็นมาก จนเธอรู้สึกอยากอาเจียนเซี่ยซิ่วซิ่วตกตะลึงทันที “นี่พวกเธอกำลังทำอะไรกัน?”หลิ่วเมิ่งอิ๋นกำลังเจ็บปวด ส่วนเย่ซิวก็กำลังมีสมาธิมาก จนไม่มีใครให้คำตอบเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 40

    หลังจากที่ทั้งสามได้เห็นหลิ่วเมิ่งอิ๋น ก็มีความคิดที่แตกต่างกันในใจเซี่ยซิ่วซิ่วและลู่เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกตกตะลึงส่วนสิ่งที่ลอยเข้ามาในหัวของเย่ซิวคือ ‘แม่พันธุ์ที่ดี’เซี่ยซิ่วซิ่วรีบลงจากโซฟา ก่อนเข้าไปบีบจับลูบคลำร่างกายของหลิ่วเมิ่งอิ๋นด้วยความอิจฉา“ผิวเธอดีมากเลย แถมยังสูงขึ้นด้วย ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนที่เตี้ยที่สุดในสี่คนแล้ว”ที่จริงเธอไม่ได้ถือว่าเตี้ย เพราะเธอสูงถึงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองเซนติเมตร แต่ตอนนี้ลู่เสวี่ยเอ๋อร์สูงประมาณหนึ่งร้อยเจ็ดสิบหกเซนติเมตรหลิ่วเมิ่งอิ๋นสูงเกือบหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตรเดิมทีทั้งสามคนมีความสูงเท่ากัน แต่ภายในไม่กี่ชั่วโมง เซี่ยซิ่วซิ่วก็ถูกทิ้งห่างในทุกด้านนอกจากช่องว่างขนาดใหญ่ทางจิตใจแล้ว ยังมีความกดดันอีกด้วยหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เย่ซิวจะต้องหลงใหลพวกเธออย่างแน่นอน และเธอก็จะไม่มีโอกาสเอาชนะใจเขาได้เลยหลิ่วเมิ่งอิ๋นรู้สึกอายที่ถูกเซี่ยซิ่วซิ่วทำอย่างนั้น ในขณะเดียวกันก็เหลือบมองเย่ซิวด้วยหางตาเมื่อเห็นว่าเย่ซิวก็มองมาที่ตัวเอง แถมสายตาของเขายังไปหยุดอยู่ที่จุดนั้น หลิ่วเมิ่งอิ๋นก็รู้สึกทั้งเขินและดีใจในเวลาเดียวกัน‘พี่เย่ก็

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 41

    พวกเขาแวะซื้อซาลาเปาริมถนนลุงคนขายซาลาเปาถูกพวกหลิ่วเมิ่งอิ๋นดึงดูดทันทีภรรยาที่อยู่ด้านข้างดึงหูของเขาด้วยความโกรธ จนคุณลุงร้องออกมาเสียงดัง ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาหัวเราะลั่นเย่ซิวส่ายหัวก่อนจะหยิบซาลาเปามา และเซี่ยซิ่วซิ่วก็ออกตัวจ่ายเงินตอนนี้เธอถูกลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลิ่วเมิ่งอิ๋นแย่งแสงไปหมดแล้ว ในระยะเวลาสั้น ๆ รูปร่างภายนอกของเธอไม่สามารถแข่งกับทั้งสองคนได้ ดังนั้นเซี่ยซิ่วซิ่วจึงต้องทำตัวดี ๆ ให้มากพอ เพื่อที่เย่ซิวจะได้หันมามองเธอด้วยสายตาที่ต่างออกไป ทั้งสี่คนเดินไปยังมหาวิทยาลัยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและทำให้เกิดการจราจรติดขัดตลอดทางผู้ชายที่มีแฟนอยู่แล้วต่างก็จับจ้องมาที่ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลิ่วเมิ่งอิ๋นทำเอาเหล่าคู่ควงของพวกเขาโกรธเคืองจนต้องหยิกเนื้อพวกเขาแรง ๆ เมื่อไปถึงประตูมหาวิทยาลัย ก็ยิ่งอึกทึกครึกโครมยิ่งขึ้นไปอีกทั้งชายและหญิงต่างก็คลั่งไคล้กันไปหมดลู่เสวี่ยเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ถูกล้อมจนไร้ทางไป“พระเจ้า สวยมาก!”“โลกนี้มีผู้หญิงที่สวยและหุ่นดีขนาดนี้ได้ยังไง เหมือนนางฟ้าลงมาจากสวรรค์เลย!”“เมื่อก่อนลู่เสวี่ยเอ๋อร์ก็สวยอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ดูเปล่

บทล่าสุด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 574

    ชีวิตของเธอในตอนนี้เรียบง่ายมากบางครั้งก็เรียน บางครั้งก็ไปฝึกงานที่บริษัท ชีวิตดูเต็มไปด้วยคุณค่าและมีความหมายมากเย่ซิวลูบหัวเธอเบา ๆ “มาดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”สายตาของเขามองไปที่ศาลาตรงนั้นมีหญิงสาวที่ดูราวกับนางฟ้ากำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจมองจากมุมนี้ ใบหน้าด้านข้างของเธอสวยไร้ที่ติ ทำให้คนใจเต้นแรงแม้เพียงพบเห็น แต่ก็ไม่กล้าคิดลามกกับเธอเธอคือผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างน่าอัศจรรย์คนหนึ่งเลยทีเดียวดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกถึงสายตาของเย่ซิว เธอจึงหันมองมาแล้วพยักหน้าเบา ๆ พร้อมกับยกมุมปากยิ้มบางเย่ซิวยิ้มตอบจวงเสี่ยวหยิงยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหึงหวง “ที่แท้ก็ไม่ได้มองแค่ฉันนี่นา”เย่ซิวหัวเราะ “เด็กน้อย ยังจะหึงอีกนะ ไปซื้อน้ำให้ฉันหน่อยสิ”“ค่ะ…”จวงเสี่ยวหยิงยู่ปากแต่ก็เดินออกไปอย่างว่าง่ายเย่ซิวเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงตรงหน้าชิงเสวี่ยแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “คุณรู้จักที่มาที่ไปของคุณลี่หรือเปล่า?”ชิงเสวี่ยวางหนังสือลง มองเย่ซิวด้วยดวงตากลมโต พลางส่ายหัวเบา ๆ “ไม่เคยได้ยินมาก่อนค่ะ”เย่ซิวจ้องมองเธอด้วยสายตาตรงไปตรงมา จิตใจมั่นคงไม่หวั่นไหว ทำให้รู้ว่าเธอไม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 573

    ต่อจากนี้จะเป็นการบรรยายยาวกว่าหนึ่งแสนคำครั้งที่แล้วเย่ซิวเป็นฝ่ายเริ่มบำเพ็ญตนกับหลินโหรวก่อนแต่ครั้งนี้หลินโหรวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน สรุปง่าย ๆ เลยสามคำ เธอเก่งมากคงเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการอยู่กับสาวผมเหลืองก่อนหน้านี้“ผมต้องไปแล้ว” เย่ซิวจิบเครื่องดื่มพลางเอ่ยกับหลินโหรวหลินโหรวปาดเหงื่อหอมบนหน้าผาก พลางมองเย่ซิวด้วยสายตาอ่อนหวาน “ฉัน…พอจะเป็นแฟนคุณได้ไหม?”เย่ซิวใช้นิ้วเชยคางขาวเนียนของเธอขึ้น แล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือเปล่าล่ะ?”สายตาของหลินโหรวหม่นลงในทันที ใช่แล้ว ตอนนี้เธอไม่คู่ควรกับเขาจริง ๆแต่เธอก็รีบกลับมาฮึดสู้อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้ฉันอาจจะทำตัวเหลวไหลไปหน่อย แต่จากนี้ไป ฉันจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น”“อืม ความสามารถของเธอก็ไม่เลวนะ” เย่ซิวพยักหน้า “ตอนนี้คุณยังไม่มีงานทำใช่ไหม”“ยังค่ะ”เย่ซิวเกิดความคิดหนึ่งขึ้น เขาเอ่ยกับเธอว่า “ผมจะลงทุนให้คุณห้าพันล้าน ไปตั้งบริษัทการจัดการระหว่างประเทศสักแห่ง แล้วดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีมเยอะ ๆ”หลินโหรวทำหน้าจริงจัง “ค่ะ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ห้าพันล้านนี้จะทำกำไรให้คุณสิบเท่า ยี่สิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 572

    ยาที่อยู่ในมือเธอหล่นลงบนพื้นทันที “นายเป็นใคร เข้ามาได้ยังไง!”เย่ซิวเดินตรงเข้าไปหาเธอด้วยสีหน้าเย็นชา “พูดมาว่าใครเป็นคนสั่งให้เธอมาเล่นงานฉัน”“เล่นงานนาย? หมายความว่าไง?”สีหน้าของสาวผมทองดูไม่เหมือนคนโกหก นั่นหมายความว่าเธอเพียงแค่ถูกใครบางคนใช้เงินจ้างมาเท่านั้นเย่ซิวจึงเปลี่ยนวิธีถาม “ใครเป็นคนให้ยานี้กับเธอ หน้าตาเป็นยังไง?”“ฉันไม่รู้ว่านายพูดถึงอะไร” สาวผมทองพยายามปฏิเสธสุดกำลังเย่ซิวคว้าคอเธอไว้แล้วค่อย ๆ ยกขึ้นสาวผมทองดิ้นรนสุดชีวิต ดวงตาเบิกโพลง ลิ้นยื่นออกมายาวความรู้สึกหวาดกลัวอย่างรุนแรงพุ่งขึ้นมาจับใจเธอ ผู้ชายที่ดูหล่อเหลาจนน่าตะลึงคนนี้กล้าฆ่าเธอจริง!“ฉัน…ยอมบอกแล้ว…”ปึก!เย่ซิวโยนเธอลงกับพื้นแล้วนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะถือโอกาสหยิบยาขึ้นมาสาวผมทองไออย่างหนัก เธอรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างกาย สายตาที่มองเย่ซิวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ฉันก็ไม่รู้จักเขาหรอก อยู่ ๆ เขาก็มาหาฉัน ให้เงินมาก้อนหนึ่ง แล้วบอกให้ฉันเอายาให้หลินโหรว…แค่นั้นแหละ”“หน้าตาเขาเป็นยังไง?”“ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัด เขาใส่เสื้อโค้ตสีดำ สวมหน้ากาก ยานี้เขาให้มาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว”เย่ซิ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 571

    “เสี่ยวโหรว อย่าไปเลยนะ ได้ไหม?”“ปล่อยฉันนะ ตอนนั้นเธอเป็นคนบอกเลิกฉันเอง แล้วตอนนี้กลับมาวุ่นวายอะไรกับฉันอีก!”“ตอนนั้นฉันเองที่เสียสติ แต่หลังจากนั้นฉันก็รู้ว่าขาดเธอไม่ได้จริง ๆ”“หึหึ ตอนนั้นฉันพยายามมากแค่ไหนเพื่อรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ใจแข็งใส่ฉัน ตอนนี้ต่อให้พูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์แล้ว”“เสี่ยวโหรว ฉันรู้นะว่าเธอยังรักฉันอยู่”“เพ้อเจ้อ! ตอนนี้ฉันหันมาชอบผู้ชายแบบปกติแล้ว และเธอก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉันอีก!”……มีสาวสวยสองคนกำลังทะเลาะกันบนถนนคนหนึ่งย้อมผมสีเหลือง ใส่เสื้อเอวลอย ทรวดทรงเย้ายวนอีกคนสวมเดรสยาวสีขาวกับรองเท้าผ้าใบ ดูสะอาดบริสุทธิ์ฝูงชนที่มุงดูพลอยเข้าใจเรื่องราวจากบทสนทนาของทั้งคู่ ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายที่แท้สองคนนี้ก็เป็นหญิงรักหญิง ความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาจึงลุกโชนขึ้นมาทันทีเย่ซิวเองก็ไม่คิดว่าจะได้เจอพวกเธอที่นี่อีกครั้งอดีตแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของหลินโหรวยังคงเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแต่หลินโหรวนั้นเปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียวไม่มีความหยิ่งยโสและอวดดีเหมือนแต่ก่อน กลับดูอ่อนโยนขึ้นมากดูเหมือนว่า ‘การปรับเปลี่ยน’ ของเขาในตอนนั้นจะได้

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 570

    เป็นที่รู้กันดีว่าเมื่อเสื้อยืดสีขาวเปียกน้ำแล้วจะดูโปร่งแสงเล็กน้อย ดังนั้นถังเขอเข่อในตอนนี้จึงดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างบอกไม่ถูกถังเขอเข่อกอดอกตัวเองไว้ด้วยความอับอายและหงุดหงิด “อย่ามองสิ หันหลังไปเลยนะ ฉันไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ก็เลยต้องใส่ชุดเดิมนี่แหละ”เย่ซิวโบกมือเรียกเธอ “มานี่ เดี๋ยวผมช่วยทำให้เสื้อผ้าคุณแห้งเอง”“ไม่เอา…”เธอกลับถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เธอรู้ดีว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ จะส่งผลต่อผู้ชายมากแค่ไหนเธอกลัวว่าเย่ซิวจะควบคุมตัวเองไม่ไหว แล้วก็…เย่ซิวชูมือขึ้นแล้วส่งพลังดูดมหาศาลออกมาใส่ถังเขอเข่อ“กรี๊ด!” ถังเขอเข่อร้องเสียงหลง ร่างกายของเธอลอยลิ่วเข้ามาหาเย่ซิวอย่างไม่ตั้งใจ เธอดิ้นไปมาพลางกรีดร้องไม่หยุด “ปล่อยนะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำตามใจหรอก ฉันยังไม่เคยมีแฟนเลย ไม่ได้นะ…เอ๊ะ ทำไมอุ่นจัง”ในขณะที่กำลังดิ้นพล่าน ถังเขอเข่อก็หยุดทันที ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความสงสัย สถานการณ์ดูไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้เลยสักนิด เย่ซิวเพียงแค่ปล่อยพลังไฟออกมาเบา ๆ เพื่อช่วยให้เสื้อผ้าของเธอแห้งเท่านั้นเอง“นี่มันอะไรน่ะ?!” ถังเขอเข่อตกใจจนพูดไม่ออก “มายากลเหรอ?”

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 569

    “นี่มันไม่เหมาะสมนะ ไอ้คนผีทะเล ปล่อยฉัน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะ!”ถังเขอเข่อพยายามดิ้นสุดชีวิต ปลายผมมัดแกละทั้งสองข้างสะบัดไปมาอย่างแรงโครม!เย่ซิววางเธอลงบนโซฟาเบา ๆ ด้วยสีหน้าเอือมระอา “เงียบได้แล้ว คุณนี่เล่นใหญ่จริง ๆ ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณสักหน่อย”ถังเขอเข่อขดตัวพลางมองเย่ซิวด้วยสายตาหวาดระแวง “ยังจะบอกว่าไม่คิดอะไรอีกเหรอ สายตาคุณมันฟ้องถึงความหื่นกระหายลึก ๆ ในใจคุณหมดแล้วคุณอยากได้ฉันล่ะสิ ฮือฮือฮือ คุณปู่ช่วยหนูด้วย”เย่ซิวได้แต่ยกมือกุมขมับพลางถอนหายใจ ก่อนหยิบขวดยาโยนให้เธอ “คุณรู้จักจอมยุทธ์ใช่ไหม?”ถังเขอเข่อพยักหน้า “รู้สิ”“โอสถนี่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย คุณกินมันตอนนี้เลย เดี๋ยวผมจะช่วยคุณบำเพ็ญและซึมซับยาให้ไวขึ้น ถ้าคุณไม่มีพลังป้องกันตัวเลย การถือสิทธิบัตรสำคัญในมือแบบนี้มันอันตรายเกินไป”ถังเขอเข่อรับขวดยามาด้วยความสงสัย “แค่กินยาไม่กี่เม็ดจะทำให้ฉันกลายเป็นจอมยุทธ์ยอดฝีมือได้เลยเหรอ?”“แน่นอนว่าไม่ได้” เย่ซิวตอบเรียบ ๆ “แต่จะทำให้คุณหุ่นดีขึ้น ผิวขาวขึ้น เส้นผมก็เงางามขึ้นด้วย”เย่ซิวรู้เรื่องนี้มาได้สักพักแล้วถ้าอยากให้ผู้หญิงหันมาสน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 568

    ถังเขอเข่อมองเย่ซิวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “เมื่อกี้นี้ฉันรบกวนคุณหรือเปล่านะ”เย่ซิวตอบกลับ “ถูกต้อง แล้วคุณจะชดเชยยังไงดีล่ะ?”ถังเขอเข่อตกใจก่อนจะรีบถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความระวัง “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายแบบนั้นนะ”เย่ซิวหัวเราะลั่น “ไม่ล้อคุณแล้ว รีบพาผมไปดูผลงานเถอะ”หากหุ่นยนต์นี้ทำสำเร็จ เขาก็จะสามารถเริ่มต้นแผนการที่ยิ่งใหญ่ของเขาได้ทันทีถังเขอเข่อพาเย่ซิวเข้าไปในโรงงาน มุ่งหน้าไปยังส่วนที่ใช้สำหรับผลิตแบตเตอรี่รุ่นใหม่เย่ซิวเห็นแบตเตอรี่สีดำรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าจำนวนมาก โดยที่ปลายด้านหนึ่งมีสายเชื่อมต่ออยู่ ส่วนอีกด้านหนึ่งเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ถังเขอเข่ออธิบาย “อย่าดูถูกเจ้าแบตเตอรี่นี่เพราะมันขนาดเล็กเชียว ถ้าเอาไปติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้า มันจะสามารถวิ่งได้ไกลถึงห้าร้อยกิโลเมตรเลยล่ะ”เย่ซิวหรี่ตาอย่างไม่เชื่อแบตเตอรี่อันแค่นี้จะทำให้รถวิ่งไกลขนาดนั้นได้จริงเหรอ?เมื่อเห็นสายตาของเย่ซิว ถังเขอเข่อก็รู้ว่าเขายังไม่เชื่อ เธอจึงเอ่ย “ฉันให้ติดตั้งแบตเตอรี่ในหุ่นยนต์แล้ว ลองดูไหมล่ะ?”เย่ซิวพยักหน้าถังเขอเข่อปีนขึ้นไปบนหุ่นยนต์และเริ่มใช้งานอย่างคล่องแคล่วครั้งนี้ไม่มี

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 567

    “ฉันก็อยากบำเพ็ญตนกับนายบ้าง” หลิวอวิ้นเอ่ยพร้อมกับส่งสายตายั่วยวน“อืม…” เย่ซิวแสร้งทำเป็นลังเล “ต้องดูว่าคุณจะทำให้ผมประทับใจได้ยังไง”หลิวอวิ้นบิดเอวอย่างเซ็กซี่ พลางเดินเข้าหาเย่ซิวทีละก้าวเอวของเธอไม่ได้บางเฉียบ ดูมีเนื้อมีหนัง แต่ไม่อ้วนเกินไปและสมส่วนพอดี ผู้หญิงในวัยนี้แหละที่มีเสน่ห์ที่สุดเธอเริ่มเต้นโพลแดนซ์โดยไม่มีเสาอยู่ตรงหน้าเย่ซิวใครที่รู้จักโพลแดนซ์ก็คงเข้าใจดีว่ามันเป็นการเต้นแบบไหนเย่ซิวไม่คิดเลยว่าหลิวอวิ้นจะยอมไปเรียนเต้นแบบนี้เพื่อทำให้เขาประทับใจร่างกายของเธอยืดหยุ่นและนุ่มนวล ราวกับงูน้ำที่เลื้อยอย่างไร้ข้อต่อหลิวอวิ้นเลื้อยมาถึงตัวเขา ก่อนกระซิบข้างหูเบา ๆ “ฉันมีความคิดที่บ้าบิ่นนิดหน่อย นายกล้าลองไหมล่ะ?”เย่ซิวเลิกคิ้ว “ไหนว่ามาสิ”หลิวอวิ้นยิ้มขำ “ให้ฉันบำเพ็ญตนกับนายพร้อมกับเสวี่ยเอ๋อร์ไงล่ะ”“คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” เย่ซิวมองเธออย่างไม่อยากเชื่อ “ถ้าเธอรู้เข้า ความสัมพันธ์ของพวกคุณได้พังแน่”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ยอมให้เขาบำเพ็ญตนกับสาว ๆ คนอื่นได้ แต่คงไม่มีทางยอมบำเพ็ญตนพร้อมกับหลิวอวิ้นแน่นอนแต่สิ่งที่เธอพูดก็ทำให้เขาตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อเห็นใบ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 566

    เมื่อควบคุมพิษในตัวได้แล้ว ก็โทรหาพี่สาวแล้วบอกเธอว่าคิดถึง ตอนนี้พี่สาวเธอเป็นหนึ่งในคนสำคัญของเย่ซิวแล้วขอแค่ลดทิฐิลงสักนิดและกลับไปอย่างว่าง่าย จากนั้นก็ค่อยหาโอกาสเข้าใกล้เย่ซิว แล้วเรื่องวางยาพิษจะกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ”คำพูดนี้ทำให้เซี่ยชิงชิงรู้สึกหวั่นไหว“ตกลง ฉันจะทำ!”คิดเพียงไม่นานเธอก็ตอบตกลงในทันที ในช่วงเวลาที่อยู่กับสำนักเบญจพิษ ความแค้นของเธอที่มีต่อเย่ซิวก็เริ่มสะสมขึ้นเรื่อย ๆตอนนี้ก็มีโอกาสได้แก้แค้นแล้ว เธอไม่คิดจะปล่อยให้หลุดมือไปแน่นอน“ดี งั้นฉันขอให้เธอประสบความสำเร็จเร็ว ๆ ก็แล้วกัน!”สายลมพัดผ่านอีกครั้ง คุณลี่ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยเซี่ยชิงชิงกำยาพิษในมือแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความอาฆาต “เย่ซิว เราจะได้เห็นดีกัน!”……คืนนี้สาว ๆ หลายคนกลับมาที่บ้านกันหมดส่วนเย่ซิวก็กลับมาถึงบ้านเร็วกว่าปกติหนึ่งชั่วโมง พอเห็นเขาอยู่ที่ห้องนั่งเล่น สาว ๆ ต่างทิ้งท่าทีสำรวมและมาล้อมรอบเขากลิ่นหอมจากร่างกายของพวกเธอลอยมาแตะจมูกทันที กระตุ้นให้เลือดในกายเย่ซิวสูบฉีดเร็วขึ้นระหว่างที่กลับบ้าน เย่ซิวได้แวะไปสวนสมุนไพรเพื่อเก็บเครื่องยาสมุนไพรจำนวนมากมากลั่นเ

DMCA.com Protection Status