Share

บทที่ 275

Penulis: เฉิงกวงโฮ่วถู่
เซี่ยซิ่วซิ่วผละตัวออกจากอ้อมแขนของเย่ซิว และพยักหน้าเบา ๆ “อืม โอเคแล้ว ต้องขอบคุณนายเลยนะ”

เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อย

ตอนนั้นเองที่เธอตระหนักได้ว่า ตัวเองยังอยู่ในบริษัท และการกระทำอันอาจหาญเมื่อครู่นี้ก็มีคนเห็นมากมาย

เย่ซิวไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้ เขาจับมือของเซี่ยซิ่วซิ่วและขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องทำงาน

ปัจจุบันบริษัทได้เข้าสู่ขั้นตอนของการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

วิกฤติได้รับการแก้ไขชั่วคราวแล้ว ดังนั้น เซี่ยซิ่วซิ่วจึงได้พักสักหน่อย

ในช่วงนี้เซี่ยซิ่วซิ่วเองก็ทำงานหนักมากเช่นกัน

หลังจากที่ทั้งสองมาถึงห้องทำงาน เย่ซิวก็ปิดประตูอย่างแน่นหนา ดึงม่านลง และมอบรางวัลพิเศษให้กับเซี่ยซิ่วซิ่ว

หนึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งสองก็ออกมา

บนแก้มของเซี่ยซิ่วซิ่วมีสีแดงเล็กน้อย และขาของเธออ่อนแรงนิดหน่อย…

ทั้งสองเลิกงานก่อนเวลาและกลับบ้าน

เย่ซิวหยิบดอกบัวสีเลือดออกมา

ผ่านไปกว่าครึ่งเดือนแล้ว และพลังงานของเนื้องูในทั้งสามนั้นถูกดูดซับแล้ว และสามารถ 'เติมเต็ม' ต่อไปได้

หลังจากผ่านไปกว่าครึ่งเดือน พลังงานจากเนื้องูในร่างกายของพวกเขาก็ถูกดูดซึมจนหมดแล้ว และยังสามารถ 'บำรุงร่างกาย' ต่อไปได้

เขามาที่ห้องครัว ป
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 276

    ลู่เสวี่ยเอ๋อร์และหลิวอวิ้นแม่ของเธอเพิ่งเตรียมพร้อมเสร็จ เมื่อเดินออกมา คนของตระกูลเย่ก็มาถึงแล้ว มีคนประมาณสามสิบกว่าคน น่าเกรงขามเยี่ยงพยัคฆ์ สง่างามดุจมังกรลู่เจิ้นเฟิงก้มพร้อมก้าวไปข้างหน้า และพูดด้วยท่าทีประจบประแจง “ผมเคยได้พบกับคนของพวกคุณมาบ้างแล้วครับ ผมลู่เจิ้นเฟิง”ผู้ที่ยืนนำอยู่เบื้องหน้าเป็นชายที่ดูมีอายุราวห้าสิบปีชื่อของเขาคือเซียวหง และเขาเป็นจอมยุทธขั้นกลางระดับหก!แม้ว่าเขาจะดูเหมือนอายุเพียงห้าสิบปีเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงเขาอายุเกือบแปดสิบปีแล้วเมื่อคุณไปถึงปรมาจารย์ ตราบใดที่คุณไม่ได้รับบาดเจ็บ การมีชีวิตอยู่ถึงหนึ่งร้อยสิบสองปีก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากเขามองไปที่ลู่เจิ้นเฟิงด้วยสีหน้าไม่แยแส “คนอยู่ไหนล่ะ?”ลู่เจิ้นเฟิงตอบอย่างรวดเร็ว “มาแล้วครับ”เมื่อหันไปมองสองแม่ลูกที่กำลังเดินออกมา เขาก็ดุว่า “มาเร็ว ๆ เข้าสิ!”ดวงตาของเซียวหงเป็นประกายสว่างขึ้นเมื่อมองไปที่แม่และลูกสาวสองคนนั้นลู่เสวี่ยเอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไรหลังจากที่ได้รับการปรับปรุงสมรรถภาพทางกายจากเย่ซิว และกินเนื้องูไปมาก รูปร่างหน้าตาและความงามของเธอถือได้ว่าไม่มีใครเทียบได้ในโลกเลยท

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 277

    เย่ซิวตกอยู่ในสถานที่แห่งความนุ่มนวลและอ่อนโยนจิตวิญญาณรวมเป็นหนึ่งเซี่ยซิ่วซิ่วพอใจในตัวเย่ซิวมาก ดังนั้นบางสิ่งจึงไม่สามารถซ่อนจากเธอได้อีกต่อไปเขายังเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างลู่เสวี่ยเอ๋อร์กับตัวเขาเองด้วยเย่ซิวมองไปที่เซี่ยซิ่วซิ่วที่กำลังแนบแก้มลงบนหน้าอกของเขา “ผมต้องแต่งงานกับเสวี่ยเอ๋อร์ สถานะของคุณสองคนจะเท่าเทียมกัน คุณเต็มใจไหม?”“เต็มใจสิ” เซี่ยซิ่วซิ่วตอบเบา ๆ “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับนาย ตราบใดที่นายมีฉันอยู่ในใจ ฉันก็พอใจแล้ว”เธอยอมรับเรื่องนี้มานานแล้วเย่ซิวโดดเด่นมากจนไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกที่จะสามารถครอบครองเขาแต่ผู้เดียวได้การได้รู้จักเขาก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียง และการที่ได้สร้างความสัมพันธ์อันลึกซึ้งเช่นนี้นั้นถือเป็นพรอย่างยิ่งแล้วก็ควรจะพอใจแล้วทั้งสองแสดงความรักกันมาพักหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหลิ่วเมิ่งอิ๋นกำลังจะกลับมาแล้วพวกเขารีบก็ลุกขึ้นแต่งตัวเซี่ยซิ่วซิ่วไปทำอาหารไม่นานหลังจากนั้นหลิ่วเมิ่งอิ๋นก็กลับมา“โอ้!”ทันทีที่เธอเห็นเย่ซิว เธอก็สูญเสียความสงบและกรีดร้องพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาเขา“พี่ชาย พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”เธอรู้ส

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 278

    เธอรู้สึกว่าเธอได้สัมผัสสิ่งต้องห้ามบางอย่าง และร่างกายของเธอก็สั่นเล็กน้อยเย่ซิวหยิบผ้าห่มจากด้านข้างขึ้นมาคลุมหลิวอวิ้นแล้วถามว่า “เสวี่ยเอ๋อร์อยู่ที่ไหน ทำไมผมถึงติดต่อเธอไม่ได้ มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”หลิวอวิ้นกลับมามีสติอีกครั้งและถอนหายใจ “อย่าถามเรื่องนี้เลย มันจะไม่ช่วยอะไรนายหรอก”เย่ซิวเผยเจตนาสังหารออกมาจาง ๆ พร้อมกับจ้องมองไปที่หลิวอวิ้น “ผมจะถามเป็นครั้งสุดท้าย เธอไปอยู่ไหน!”หลิวอวิ้นพลันตัวสั่นในทันใดในขณะนี้ ดูเหมือนว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับเสือดุร้ายที่พร้อมจะเขมือบเธอ และรู้สึกราวกับว่าตัวเธอเองกำลังตกลงไปในห้องใต้ดินน้ำแข็ง“เธอ... ไปแต่งงานกับคู่หมั้นของเธอที่เมืองหลวง”เจตนาสังหารของเขาแผ่กระจายยิ่งขึ้น เขาหรี่ตาลง “ไม่ใช่เวลานี้นี่”หลิวอวิ้นเหลือบมองเย่ซิวอย่างหวาดกลัว เธอส่ายหัวและพูดว่า “เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่รู้ จู่ ๆ พวกเขาก็มาพาเสวี่ยเอ๋อร์ออกไป”“ส่วนเรื่องที่นายติดต่อเธอไม่ได้ คงจะเป็นเพราะเธอกลัวว่า นายจะไปตามหาเธอและจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เธอถึงได้บล็อกการติดต่อนายไป”เย่ซิวถามว่า “ตระกูลไหนในเมืองหลวง?”“ตระกูลชนชั้นสูง ตระกูลเย่ คนที

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 279

    ในเวลาเพียงไม่กี่นาที บอดี้การ์ดทั้งหมดในวิลล่าของเธอก็ล้มลงกับพื้น และไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก“โอ้พระเจ้า นี่เขามีความแข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรือ?” หลิวอวิ้นอุทาน แต่แล้วเธอก็ยังส่ายหัว “เขาค่อนข้างมีฝีมือ แต่เมื่อเทียบกับผู้ชายคนนั้นแล้วก็ยังไม่เพียงพอ เฮ่อ…”“แกนี่เอง!”ลู่เจิ้นเฟิงได้ยินเสียงดังจึงวิ่งออกไป เมื่อเขาเห็นว่าเป็นเย่ซิว เขาก็ทั้งตกใจและโกรธจัด เขาชี้หน้าเย่ซิวและคำราม “เด็กสารเลว แกอยากตายนักใช่ไหม!”เย่ซิวเดินเข้าไปสองสามก้าว และตบเข้าที่ใบหน้าของเขาเขาควบคุมพลังไว้พอควรมันจะไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตของลู่เจิ้นเฟิง ทว่าจะทำให้เขาเจ็บปวดไปอีกนาน“อ๊ากกก!!!”ลู่เจิ้นเฟิงยกมือกุมครึ่งหน้า และร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดผลัวะเย่ซิวเตะเขาลงกับพื้น และเหยียบหน้าอกของเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “คุณไม่คู่ควรที่จะเป็นมนุษย์เลยจริง ๆ แม้แต่ลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองคุณยังขายได้!”“คุณควรจะขอบคุณที่คุณเป็นพ่อของเธอ ไม่อย่างนั้นคุณได้เป็นศพไปแล้ว”พูดจบเขาก็ออกแรงที่เท้าเล็กน้อย และซี่โครงหลายซี่ของลู่เจิ้นเฟิงก็แตกหัก จากนั้นก็สลบไปจากความเจ็บปวดเมื่อระบายโทสะออกมาเต็มที่แล้วเย่ซิวก็

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 280

    เย่ซิวเองก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปด้านหลังชายสูงอายุนอนอยู่บนพื้น ใบหน้าของเขาซีดผิดธรรมชาติ และดวงตาของเขาลึกโปน“หลีกทางหน่อยค่ะ หลีกทางด้วยค่ะ อย่าล้อมเขา ให้อากาศถ่ายเทก่อนค่ะ”น่าหลันเหยียนหรานตะโกนให้ทุกคนที่ล้อมอยู่ถอยออกไป เธอนั่งยอง ๆ ตรวจอาหารให้แก่ชายชรา จากนั้นก็เริ่มกดที่หัวใจของเขาอย่างไรก็ตาม อาการของชายชราเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และหัวใจของเขาก็เต้นช้าลงน่าหลันเหยียนหรานตื่นตระหนก เธอสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตของชายชราที่จางหายไปอย่างรวดเร็วเธอเพิ่มแรงมากขึ้นแต่ก็ยังไร้ผล“จะทำยังไงดี? ถ้าไม่มีอุปกรณ์การแพทย์ฉันก็ช่วยเขาไม่ได้!”ดวงตาของน่าหลันเหยียนหรานแดงก่ำ และรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์มาก“ฉันจัดการเอง”ในขณะที่เธอรู้สึกสิ้นหวัง เสียงที่สงบและทรงพลังก็ดังขึ้น ทำให้เธอรู้สึกสงบลงได้ในทันทีเมื่อหันกลับมา เธอก็เห็นเย่ซิวที่กำลังนั่งยอง ๆ อยู่ดวงตาของน่าหลันเหยียนหรานสว่างขึ้น เธอจำได้ว่าเย่ซิวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์“คุณชายเย่ รีบช่วยเขาทีเถอะค่ะ”เย่ซิวตรวจสอบชีพจรของชายชรา จากนั้นก็รีบหยิบเข็มเงินออกมา และเตรียมที่จะฝังเข็มแต่ทันใดนั้น ชาย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 281

    “พวกคุณดูสิ ชายชราฟื้นแล้ว!”……เมื่อเย่ซิวฝังเข็มเล่มสุดท้าย ชายชราก็ฟื้นขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ และมีอาการมึนงงเล็กน้อยน่าหลันเยียนหรานมองไปที่เย่ซิวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพเลื่อมใส และหัวใจที่เต้นรัวเธอยอมรับว่า ในแง่ของทักษะการแพทย์ ระหว่างคนทั้งสองมีความแตกต่างกันมากขณะนี้ เย่ซิวดูเหมือนว่าได้ส่องแสงอยู่ในดวงตาของน่าหลันเยียนหรานแต่ชายหนุ่มคนนั้นกลับมองเย่ซิวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นเย่ซิวเงยหน้าขึ้นมอง และแก้มัดให้เขาชายหนุ่มสามารถขยับร่างกายได้แล้ว เขานั่งยอง ๆ ลงทันที และแสดงสีหน้านึกกลัวในภายหลัง "ปู่ ดีใจที่ปู่ไม่เป็นอะไร เมื่อสักครู่นี้ทำหลานตกใจหมดเลย"ชายชราขมวดคิ้ว พร้อมเปล่งเสียงแหบเล็กน้อย "โรคหัวใจของปู่อาการกำเริบ เมื่อสักครู่นี้เกิดอะไรขึ้น?"ชายหนุ่มพูดว่า "ไม่มีอะไร หลานแค่ป้อนยาโรคหัวใจที่ออกฤทธิ์เร็วให้ปู่ทาน แล้วปู่ก็ตื่น"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป น่าหลันเยียนหรานก็โมโหทันที และพูดด้วยความโกรธว่า "นี่คุณ คุณพูดแบบนี้จะมากเกินไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นเพื่อนของฉันที่ช่วยปู่ของคุณไว้ พูดบิดเบือนข้อเท็จจริงได้ยังไง?"ชายหนุ่มตะคอก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 282

    “คุณเย่ ช่วยทิ้งเบอร์โทรศัพท์คุณไว้ให้ฉันได้ไหม?”ใบหน้าของน่าหลันเยียนหรานร้อนผ่าว เธอรู้สึกเขินอายมากโตมาขนาดนี้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอขอเบอร์ติดต่อของผู้ชายเพราะว่าตั้งแต่เล็กจนโต เธอเป็นคนสวยและโดดเด่นที่สุดในชั้นเรียนมีเพียงผู้ชายเท่านั้นที่พยายามเข้าหาเธอและใช้ทุกวิถีทางเพื่อขอเบอร์ติดต่อจากเธอหัวใจของเธอเต้นแรง กลัวว่าเย่ซิวจะเข้าใจผิด ดังนั้นเธอจึงกล่าวเสริมไปอีกประโยค“ฉันไม่ได้มีความหมายอย่างอื่น แค่คิดว่าหากหลังจากนี้มีอะไรที่ฉันไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องทางการแพทย์ ฉันจะได้สามารถถามคุณเย่ได้”เย่ซิวพยักหน้าเล็กน้อยและให้เบอร์โทรศัพท์ของเขาแก่เธอหากเธอกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ เย่ซิวก็ไม่รังเกียจที่จะมอบความรู้ให้เธอท้ายที่สุดแล้ว การมีคนที่มีความรู้ความสามารถทางการแพทย์เพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่งในโลกนี้ ก็สามารถเป็นประโยชน์ต่อผู้คนหลายสิบ หลายร้อย หรือมากกว่านั้น“อ้า เยี่ยมไปเลย ขอบคุณนะ!”น่าหลันเยียนหรานมีความสุขมาก แต่แล้วเธอก็ตระหนักได้ว่าตนเองเสียมารยาทเล็กน้อย จึงแลบลิ้นออกมาด้วยความเขินอายเย่ซิวโบกมือลาแล้วเดินออกไปข้างนอกนอกสนามบินมีคนเรียกผู้โดยสารม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 283

    คนอื่น ๆ เพิ่งจะรู้สึกตัว จึงพากันปล่อยหมัดและอาวุธสารพัด เข้าโจมตีเย่ซิวซึ่ง ๆ หน้าเย่ซิวเตะชายหนุ่มคนนั้นทรุดไปกองที่พื้น จากนั้นจึงลงมือเตะต่อย ทุกการเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้าหนึ่งนาทีต่อมา ทุกคนต่างก็ลงไปกองที่พื้น ร้องครวญครางระงมมีร่องรอยของความหวาดกลัวปรากฏอยู่ในดวงตาของชายหนุ่ม เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าเย่ซิวจะแข็งแกร่งได้ขนาดนี้แต่ไม่นานเขาก็คิดอะไรบางอย่างได้ ท่าท่างของเขากลับมาเย่อหยิ่งอีกครั้ง“แกเสร็จแน่ แกไม่รอดแน่ แกรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร!”เย่ซิวไม่สนใจเสียงร้องโหยหวนของมดปลวกเช่นนี้ตอนนี้เขาแค่ต้องการตามหาลู่เสวี่ยเอ๋อร์โดยเร็วที่สุดจึงหันหลังเดินไปทางแท็กซี่เมื่อชายหนุ่มเห็นเย่ซิวเพิกเฉยต่อเขา เขาก็โกรธจัดและตะโกนไปว่า "แกตายแน่ ฉันเป็นคนของตระกูลเย่ แม้ว่าแกจะหนีไปสุดขอบโลกก็ไม่อาจรอดพ้นไปจากความตายได้!"เย่ซิวที่กำลังจะก้าวขึ้นรถชะงักกึก เขาเดินกลับไปหาอีกฝ่ายอีกครั้งชายหนุ่มคิดว่าเย่ซิวหวาดกลัว เขาจึงพูดด้วยรอยยิ้มที่ดุร้ายว่า "แกกลัวแล้วล่ะสิ คุกเข่าขอโทษข้าเดี๋ยวนี้ บางทีฉันอาจจะไว้ชีวิตแก...อ๊าก!"เย่ซิวเหยียบมือขวาของเขาจนกระดูกแหลกละเอีย

Bab terbaru

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1054

    หญิงสาวไม่ได้ตอบคำถาม แต่กลับนั่งลงและเริ่มชงชาท่วงท่าของเธอลื่นไหลราวสายน้ำ ทำได้อย่างรวดเร็วเพียงครู่เดียว ถ้วยชาก็ถูกวางลงตรงหน้าเย่ซิว "ดื่มชาก่อน แล้วค่อยคุยกัน"เย่ซิวไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นศัตรูจากหญิงสาวคนนี้ จึงระงับความสงสัยในใจชั่วคราวและนั่งลงกลิ่นหอมของชาไป๋หลิงที่ลอยออกมาไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ แม้แต่เขาที่อยู่ในระดับวิญญาณก่อกำเนิดก็ยังรู้สึกเคลิบเคลิ้มเย่ซิวไม่กังวลว่าชานี้จะมีปัญหาภายในระดับวิญญาณก่อกำเนิดของเขามีสัตว์วิญญาณกิเลนและกระบี่หายนะคอยปกป้องอยู่ต่อให้มีพิษ ก็จะถูกขจัดออกไป ดังนั้นเขาจึงดื่มลงไปในรวดเดียวทันใดนั้นระดับวิญญาณก่อกำเนิดของเขาพลันก็เปล่งประกายแสงห้าสีสว่างจ้าพลังของมันแน่นหนาขึ้น และยังขยายตัวขึ้นกว่าเดิมดวงตาของเย่ซิวเป็นประกาย ด้วยความรู้สึกที่ชัดเจนว่าระดับพลังของเขาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งร้อยปีถ้าได้ดื่มแบบนี้อีกสักห้าสิบครั้ง เขาก็จะสามารถก้าวเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดขั้นกลางได้แล้วใช่แล้ว ยิ่งระดับพลังสูงขึ้น ทรัพยากรที่ต้องใช้ในการทะลวงผ่านไปยังระดับถัดไปก็จะยิ่งมหาศาลขึ้นหลังจากดื่มชาเสร็จ เย่ซิวจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า "ตอนน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1053

    เมดูซ่ายืนอยู่ตรงนั้นราวกับเป็นขุนเขาสูงใหญ่ที่ไม่มีใครสามารถก้าวข้ามไปได้ทำให้ใจของทุกคนในสำนักโอสถรู้สึกหนักอึ้งผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียวหรือตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เธอยังไม่ได้ขยับแม้แต่ก้าวเดียว แค่ใช้สายตาก็สามารถเอาชนะทุกคนได้หมดแล้วณ ประเทศจ้านอิงตี้จักรพรรดิอินทรีครามเมื่อเห็นฉากนี้ ก็หัวเราะออกมาอย่างสะใจ “ฮ่าฮ่าฮ่า! สมกับเป็นเมดูซ่าในตำนาน แข็งแกร่งสมคำร่ำลือ! ต่อให้เย่ซิวมาเองก็ต้องตาย!”เขาเริ่มจินตนาการถึงวันที่ตัวเองจะสามารถรวมโลกให้เป็นหนึ่ง และเหยียบทุกคนไว้ใต้ฝ่าเท้า“ฉันจะเป็นคู่มือให้เธอเอง”เย่หลิงที่กอดกระบี่ยาวไว้ในอ้อมแขนก้าวออกมาสองร่างแยกในเงามืด หนึ่งในนั้นก็เตรียมพร้อมจะลงมือเช่นกันพลังของเมดูซ่านั้นร้ายกาจอย่างแท้จริงอีกทั้งระดับพลังของเธอก็บรรลุถึงระดับจินตานขั้นสมบูรณ์ หากต้องการเอาชนะเธอ มีเพียงร่างแยกเท่านั้นที่สามารถลงมือได้แต่ในขณะนั้นเอง สองร่างแยกกลับเปลี่ยนสีหน้าอย่างฉับพลัน โดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้นก็พุ่งตรงไปยังห้องลับร่างหลักตกอยู่ในอันตราย!เมดูซ่ามองไปที่เย่หลิง แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปาก “พวกขยะพวกนั้นไม่มีค่าอะไ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1052

    “ดีมาก” เมดูซ่าจ้องมองเย่หลิงด้วยสายตาราวกับมองเหยื่อ “ของอร่อยย่อมต้องเก็บไว้กินทีหลัง”เย่หลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกอยากลงมือ แต่สุดท้ายก็อดกลั้นไว้เมดูซ่าหันไปมองลู่เสวี่ยเอ๋อร์อีกครั้ง “เย่ซิวล่ะ? ให้เขาไสหัวออกมารับความตายซะ”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์ไม่ถ่อมตัวแต่ก็ไม่โอหัง “ถ้าแค่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังต้องให้เขาออกมาเอง งั้นศักดิ์ศรีของเขาก็คงไร้ค่าเกินไปแล้ว”ความหมายโดยนัยก็คือพวกแกไม่คู่ควรให้เย่ซิวต้องออกมาสู้ด้วยเมดูซ่ามีสีหน้าเย็นชา “ดีมาก งั้นฉันจะจัดการพวกเธอก่อน มาดูกันว่าเขาจะยังเป็นเต่าหดหัวอยู่หรือเปล่าไม่ต้องมีพิธีรีตองมากมาย ทั้งสองฝ่ายส่งคนขึ้นไปประลองตัวต่อตัวใครแพ้ก็ลงมา จนกว่าจะไม่มีใครกล้าขึ้นไปอีก”ลู่เสวี่ยเอ๋อร์เอ่ยถาม “แล้วเดิมพันคืออะไร?”“ชีวิตของพวกเธอไง”ทันทีที่คำพูดนี้ดังขึ้น ทุกคนก็รู้สึกถึงไอสังหารเย็นยะเยือกที่พุ่งเข้าใส่แม้ว่าลู่เสวี่ยเอ๋อร์จะยังคงสีหน้าปกติ แต่ในใจกลับลังเลนี่เป็นการเดิมพันที่ใหญ่เกินไปแต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลาคิดอะไรมากแล้ว เธอกัดฟันตอบ “ตกลง พวกเรายอมเดิมพัน”ทั้งสองฝ่ายจัดขบวนเตรียมพร้อมประลองฝั่งสำนักโอสถส่งเฉินหลา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1051

    หลังจากลองวิธีต่าง ๆ แล้วไม่ได้ผล เย่ซิวก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เขายื่นมือขาวเนียนเล็ก ๆ ออกไปแตะที่ม่านพลัง ก่อนจะกระตุ้นวิชาแปรมังกรอย่างไม่ลังเลทันใดนั้น พลังอันมหาศาลก็ไหลทะลักเข้าสู่ระดับวิญญาณก่อกำเนิดของเย่ซิวอย่างบ้าคลั่งทำให้ทั้งระดับวิญญาณก่อกำเนิดเข้าสู่สภาวะมังกรแปลงร่างของเขาเริ่มงอกเกล็ดมังกร หางมังกร และกรงเล็บมังกรออกมาหญิงสาวเผยแววตื่นตะลึงในดวงตา “วิชายุทธ์ช่างแข็งแกร่งนัก ถึงกับสามารถกลืนพลังของค่ายกลนี้ได้”เธอไม่ปล่อยให้เย่ซิวดูดกลืนพลังต่อไป เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานกว่านี้ ค่ายกลต้องพังทลายแน่นอนเธอโบกมือครั้งหนึ่ง ค่ายกลจึงเปิดช่องออก “เข้ามาสิ”เย่ซิวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขากำลังสนุกกับการดูดกลืนพลังอยู่แท้ ๆแต่หญิงสาวตรงหน้าก็ไม่ได้แสดงท่าทีเป็นศัตรูอย่างน้อยก็ในตอนนี้เย่ซิวย่อมไม่อาจทำตัวเหมือนโจรได้“ขอบคุณแม่นาง”เย่ซิวพุ่งเข้าไปข้างในหญิงสาวเดินนำหน้าไปอย่างสง่างาม เอวบางอ้อนแอ้นของเธอบิดไหวเล็กน้อย ดูแล้วชวนให้เพลินตาทันทีที่เย่ซิวก้าวเข้ามาข้างใน สีหน้าของเขาพลันก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึง......แม้ว่าเย่ซิวจะอยู่บนดวงจันทร์ได้ไม่นา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1050

    ยังมีม้าศึกเพลิงน้ำแข็ง อีกทั้งลู่เสวี่ยเอ๋อร์และพวกเธอล้วนมีระดับพลังอย่างน้อยอยู่ในช่วงสร้างพื้นฐานขั้นกลางบวกกับจักรกลมังกรดำ ทำให้พวกเขาเริ่มมีเค้าลางของมหาอำนาจสิ่งเดียวที่ขาดไปคืออุตสาหกรรมเศรษฐกิจระดับล่าง ซึ่งยังไม่สามารถยกระดับขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”“จริงสิ” เซี่ยซิ่วซิ่วพูดขึ้นอีกประโยค “ส่งคำเชิญไปให้ประเทศหลงเถิงด้วย ถ้ามีพวกเขาช่วย ประเทศจ้านอิงตี้ก็คงไม่กล้าเล่นตุกติก”เฉินหลานกับหวังซวงตาเป็นประกาย พวกเขาเกือบลืมไปเลยว่าประเทศหลงเถิงเป็นแบ็กอัพที่แข็งแกร่งไม่นาน ข่าวนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วโลกดึงดูดสื่อมากมายนับไม่ถ้วนให้พากันรีบไปที่สำนักโอสถแม้แต่นักเดินทางเดียวดายบางคนก็เริ่มเตรียมตัวเดินทางไปเงียบ ๆนี่คือมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดคนที่มองการณ์ไกลล้วนมองออกว่าประเทศจ้านอิงตี้ไม่ได้มาด้วยเจตนาดีทั้งที่รู้ว่าเย่ซิวแข็งแกร่งขนาดนั้น แต่ยังกล้าเป็นฝ่ายริเริ่มเปิดการเจรจาแบบนี้ แสดงว่าพวกเขาต้องมีอะไรให้พึ่งพาทางด้านประเทศหลงเถิง หลังจากได้รับข่าวอัครมหาเสนาบดีกับผู้นำก็หารือกันว่าจะส่งใครไปเข้าร่วมนายกรัฐมนตรีเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1049

    เส้นผมของหวังซวงยังคงเปียกชื้นเธอสวมชุดนอนผ้าไหมที่แนบสนิทไปกับร่างกาย เผยให้เห็นสัดส่วนอันเย้ายวนของเธอเห็นได้ชัดว่าเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จเธอนั่งอยู่บนเตียง มือซ้ายถือรูปของเย่ซิว จ้องมองมันด้วยสายตาหลงใหล“อาจารย์ อาจารย์รู้ไหมว่าฉันชอบอาจารย์อาจารย์ช่างหล่อเหลา พลังของท่านก็แข็งแกร่ง ร่างกายของอาจารย์ยังสมบูรณ์แบบ แข็งแกร่งมาก...อาจารย์รู้ไหม? ทุกค่ำคืนฉันมักจะฝันถึงอาจารย์ ในความฝันฉันได้...กับอาจารย์”เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความปรารถนาเย่ซิวไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเด็กคนนี้จะมีความคิดเช่นนี้กับตนเองเขาส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะหมุนตัวจากไปตอนนี้ผู้หญิงรอบตัวเขามีมากพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องรับเข้ามาเพิ่มอีกคนเย่ซิวลอยขึ้นไปเหนือสำนักโอสถเขาเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่แขวนอยู่บนท้องฟ้า พลันเกิดความคิดที่บ้าบิ่นขึ้นมา“บนดวงจันทร์มีอะไรอยู่กันแน่?”แม้ว่าในอดีตจะมีหลายประเทศที่ส่งยานอวกาศพร้อมมนุษย์ขึ้นไปสำรวจ และมีคนจริง ๆขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้แล้วแต่ขอบเขตที่พวกเขาเดินทางไปได้นั้นยังมีจำกัดยังมีพื้นที่อันลี้ลับบนดวงจันทร์ที่ไม่เคยถูกค้นพบที่สำคัญ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1048

    ภายในห้องลับ เย่ซิวไม่อาจรับรู้ถึงการไหลผ่านของกาลเวลาได้เลยจิตวิญญาณทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่กับการหลอมรวมระดับวิญญาณก่อกำเนิดด้วยรากฐานอันแข็งแกร่งและการเตรียมพร้อมที่เพียงพอ การทะลวงระดับของเขาจึงราบรื่นไร้อุปสรรคในวันที่แปดของการปิดด่าน เขาสามารถควบแน่นระดับวิญญาณก่อกำเนิดได้สำเร็จระดับวิญญาณก่อกำเนิดของเขามีห้าสีเช่นกันยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของมันยังใหญ่กว่าระดับวิญญาณก่อกำเนิดขั้นต้นทั่วไปอยู่หนึ่งเท่าพลังวิญญาณเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพอีกครั้งหากเปรียบพลังวิญญาณของเขาในอดีตเป็นเพียงตะปู ตอนนี้มันกลับกลายเป็นกระบี่ยาวเล่มหนึ่งแล้วการเพิ่มพูนของพลัง ส่งผลสะท้อนกลับเข้าสู่ร่างกายโลหิตและกล้ามเนื้อของเย่ซิวเปล่งประกายราวกับอัญมณี ดวงตาของเขาส่องแสงเจิดจ้าดุจตะวันดวงน้อยเพียงแค่คิด ระดับวิญญาณก่อกำเนิดก็แยกออกจากร่าง ลอยขึ้นสำรวจโดยรอบความรู้สึกนี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนักระดับวิญญาณก่อกำเนิดคือผลรวมของจินตานและจิตวิญญาณที่หลอมรวมกันก่อนที่จะทะลวงระดับ หากจิตวิญญาณของเย่ซิวออกจากร่าง มันจะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงแม้แต่พลังของเขาก็ไม่อาจยื้อเวลาให้อยู่นอกกาย

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1047

    ยังคงเป็นที่ห้องทดลองชีวภาพหมายเลขเก้าในประเทศจ้านอิงตี้หลังจากที่ประเทศจ้านอิงตี้ทุ่มเททุกวิถีทางในการเพาะเลี้ยงมาตลอดช่วงเวลานี้นักรบยีนสิบคนกับสิ่งมีชีวิตโบราณก็ได้หลอมรวมจนถึงระดับแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เพียงแค่แรงกดดันที่แผ่ออกมาจากพวกเขา ก็ทำให้พื้นของห้องทดลองแทบจะรับไม่ไหว เกิดรอยร้าวมากมายเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่อยู่นอกห้องทดลองมองดูพวกเขาด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจแต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะดำเนินการขั้นตอนต่อไป ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจู่ ๆ นักรบยีนทั้งสิบคนก็เข้าห้ำหั่นกันเอง เลือดสาดกระจายไปทั่ว ราวกับนรกบนดินนักวิทยาศาสตร์ภายนอกรีบฉีดสเปรย์สารควบคุมชนิดต่าง ๆ เข้าไป แต่กลับไม่มีผลใด ๆ“แย่แล้ว! รีบเข้าสู่สถานะเตือนภัยด่วน!”เหล่านักวิทยาศาสตร์ตกตะลึงสุดขีด รู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มเกินกว่าการควบคุมตู้ม!ทันใดนั้น พลังงานบางอย่างปะทุขึ้น ทำให้ทั้งห้องทดลองสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายจากนั้น ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งก็ก้าวออกมาจากข้างในเธอมีใบหน้าที่งดงามสะกดสายตา อีกทั้งรูปร่างยังเย้ายวนเกินต้านทานแต่สิ่งที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป ก็คือเส้นผมของเธอทั้งหมดกลับเป็นอส

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 1046

    ในขณะเดียวกัน เสียงของเย่ซิวก็ดังขึ้นข้างหูเขา "สถานที่แห่งนี้ ห้ามฟื้นฟูขึ้นใหม่ภายในหนึ่งร้อยปี มิเช่นนั้นประเทศจ้านฉงตี้จะต้องหายไปจากโลกใบนี้"นี่เป็นทั้งการดูแคลน และยังเป็นการเหยียดหยามอย่างถึงที่สุดให้พวกเขาต้องเผชิญกับความอัปยศนี้ทุกขณะในช่วงเวลาหนึ่งร้อยปีถือเป็นการโต้กลับอย่างแข็งแกร่งของเย่ซิว หลังจากประเทศจ้านฉงตี้พยายามเล่นงานเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจักรพรรดิหมีเหล็กกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน ความอัปยศอันรุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วร่างใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธแต่ในความโกรธแค้นนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความรู้สึกหมดหนทางอย่างลึกล้ำเพียงชั่วพริบตาเดียวราวกับว่าเขาแก่ลงไปอีกหลายสิบปีเดิมทีเส้นผมของเขายังมีสีดำเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับขาวโพลนทั้งหมดผู้ช่วยที่อยู่ข้างกาย มองดูสภาพของเขาด้วยความสงสาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา "ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? จะยิงจรวดออกไปอีกไหม?""ไม่ต้องแล้ว ไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก"จักรพรรดิหมีเหล็กส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยล้า สายตามองไปยังร่องรอยของกระบี่อันใหญ่โตเบื้องหน้า "ดูเหมือนว่า ถึงเวลาที่ฉันจะต้องหาผู้สืบทอดแล้ว"……ม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status