Share

บทที่ 241

Author: เฉิงกวงโฮ่วถู่
“แกเป็นใคร? ไอ้หนู เห็นพี่หนานแล้วยังนั่งนิ่งไม่ขยับอีก รีบลุกขึ้นมาสิวะ!”

ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังพี่หนานเห็นเย่ซิวนั่งนิ่งสงบอย่างนั้นก็ตำหนิเขาทันที

เย่ซิวมองไปที่พี่หนานด้วยสายตาที่ล้ำลึก “คุณคงทำเรื่องเลวร้ายมาไม่น้อยเลยสินะ ในที่อย่างหวู่เฉิง คุณทำตัวอวดดีได้ขนาดนี้ แสดงว่าจะต้องมีคนหนุนหลังคุณ”

“นี่” พี่หนานเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมา เขามองเย่ซิวตั้งแต่หัวจรดเท้า “ไอ้หนู ดูไม่คุ้นเคยเลยนะ แกมาจากแก๊งไหนล่ะ?”

“คุณไม่คู่ควรที่จะรู้หรอก”

คำพูดของเย่ซิวทำให้ลูกน้องของพี่หนานมีอารมณ์ขึ้นทีละคน พวกเขาพับแขนเสื้อขึ้นแล้วพุ่งเข้าไปหาเย่ซิว

“ให้ตายเถอะ ไอ้เด็กนี่ แกกล้ามากนะ กล้าดียังไงมาพูดกับพี่หนานแบบนี้วะ!”

“คอยดูเถอะ ฉันจะจัดการกับแกด้วยตัวเอง!”

…..

กลิ่นอายของพวกเขาดุร้าย ดวงตาของพวกเขาฉายแววโหดเหี้ยม

หลัวอีอีกรีดร้อง เธอไม่เคยผ่านประสบการณ์การต่อสู้เช่นนี้มาก่อน และใบหน้าของเธอก็ซีดลงด้วยความหวาดกลัว

ดวงตาของวัยรุ่นสองสามคนเบิกกว้าง พวกเขาอยากจะดูว่า เย่ซิวจะจัดการคนที่แข็งแรงกว่าพวกนี้อย่างไร

เย่ซิวนั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น เมื่อคนเหล่านี้กำลังจะเข้ามาใกล้ วินาทีนั้น เขาเ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 242

    หลัวอีอีส่ายหน้าอย่างรุนแรง “ฉันอยากตามคุณไป ไม่ว่าคุณไปไหนฉันก็จะไปด้วย”เย่ซิวในตอนนี้เหมือนเป็นที่พึ่งพาสำหรับเธอ และมีเพียงการติดตามเขาเท่านั้นที่เธอรู้สึกปลอดภัยเย่ซิวพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ผมจะไปต่อยตีกับคนอื่น คุณยังจะตามมาอีกไหม?”“ฉันอยู่ให้กำลังใจคุณได้ค่ะ” หลัวอีอีมองเย่ซิวด้วยท่าทีน่าสงสารพร้อมสองมือประสานวิงวอน“นะคะ ๆ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถ้าฉันเกิดเจอเรื่องไม่ดีระหว่างทางกลับบ้านขึ้นมาล่ะ?”“สาวน้อยน่ารักและเป็นที่รักของทุกคนอย่างฉันต้องตกเป็นเป้าพวกวิตถารได้ง่าย ๆ แน่”“ช่างเถอะ ถ้าคุณอยากจะตามมานักก็ตามมา ถ้าฝันร้ายทีหลังก็อย่าหาว่าผมไม่เตือนแล้วกัน”เนื่องจากเธอยืนกรานที่จะติดตามเขา เย่ซิวจึงไม่ปฏิเสธเพื่อให้เธอมีโอกาสได้เห็นด้านหนึ่งของสังคมที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก และหวังว่าเธอจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้นในอนาคตหลังจากที่เย่ซิวยอมให้ไปด้วยแล้ว หลัวอีอีก็กระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้นดีใจพี่หนานรีบเปิดประตูรถแล้วเชิญทั้งสองเข้าไป จากนั้นก็ขับรถออกไปในรถ หลัวอีอีพูดพล่ามไปเรื่อยและถามคำถามต่าง ๆ กับเย่ซิวมากมาย“คุณแข็งแกร่งมากเลย คุณเป็นยอดฝีมือในยุทธภพอย่างนั้นเ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 243

    พี่หนานตะโกนและกำลังจะวิ่งไปหาพี่เฟิงแต่เย่ซิวนั้นเร็วกว่า หมัดเร็วพุ่งชนเข้าที่หน้าท้องของพี่หนานอย่างจังพี่หนานกรีดร้องและขดตัวงอเป็นกุ้งไปแล้ว ใบหน้าของเขาซีดด้วยความกลัว และจ้องมองเย่ซิวอย่างแค้นเคือง “แกทำลายจุดตันเถียน[footnoteRef:0]ของฉัน!” [0: จุดตันเถียน จุดศูนย์กลางของพลังงานภายในร่างกาย ศูนย์รวมพลังลมปราณ] หากตันเถียนของจอมยุทธถูกทำลาย ก็จะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ และจะไม่สามารถฝึกวิทยายุทธได้อีกในชีวิตนี้“ทุกคนต้องได้ชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป และนี่คือสิ่งที่คุณสมควรได้รับ”พูดจบเย่ซิวก็เตะเขาออกไปคนผู้นี้ทำร้ายผู้หญิงบริสุทธิ์นับไม่ถ้วน เย่ซิวไม่ฆ่าเขาก็ถือเป็นการแสดงความเมตตาอันยิ่งใหญ่แล้วพี่เฟิงยังคงนั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าที่สงบนิ่งและไม่รู้สึกโกรธเลย “ขอถามหน่อยได้ไหมว่าคุณเป็นใคร ถ้ามีเรื่องจะพูด ก็นั่งคุยกันดี ๆ จะดีกว่านะ ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้ความรุนแรงเลย”เย่ซิวอดไม่ได้ที่จะมองเขาอีกครั้งควรจะเป็นบุคลิกของคนที่ทำสิ่งยิ่งใหญ่ เขามีท่าทางที่น่ายกย่อง แต่วันนี้เขาจะได้สัมผัสผลของมันด้วยตัวเอง “ผมได้ยินมาว่าคุณเป็นคนของหวังซง ถูกไหม?”“ใช่แล้ว ผมทำงานให

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 244

    ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะตกใจขนาดนี้แม้ว่าเขาจะต้องการแต่เขาก็พบว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะล้มบอดี้การ์ดร่างกำยำพร้อมติดอาวุธพวกนี้ภายในเวลาอันสั้น และยังทำให้พวกเขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปทันที ดวงตาของหลัวอีอีเป็นประกาย เธอมองดูเย่ซิวด้วยความชื่นชม“โอ้ คุณพระ พี่ชายหล่อเท่สุด ๆ ไปเลยค่ะ นี่สินะยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้ พี่ชายสู้ ๆ พี่ชายสุดยอดเลย!”ท้ายที่สุดแล้ว เธอเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ และเธอก็ไม่เคยเห็นฉากที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้มาก่อนนอกจากนี้ เธอยังดื้อรั้นมาก ความชื่นชมของเธอที่มีต่อเย่ซิวก็ถึงระดับที่ลึกซึ้งมากในทันทีเย่ซิวยืนอยู่ตรงกลางกลุ่มบอดี้การ์ดที่ล้มลงไปกองกับพื้น เขาดูโดดเด่นสะดุดตาราวกับดวงอาทิตย์ที่แผดเผาเขาจ้องมองไปที่พี่เฟิงด้วยสีหน้าสงบ “ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง ส่งหลักฐานอาชญากรรมของหวังซงมาแล้วผมจะปล่อยคุณไป”ใบหน้าของพี่เฟิงทั้งซีดทั้งระคนทุกข์ และหันไปจ้องเย่ซิวด้วยสีหน้าจริงจัง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นเมื่อคิดว่าตนท่องอยู่ในยุทธภพมานานหลายสิบปี แต่ก็ไม่เคยเจอใครที่ประหลาดและน่าขนลุกเท่าเย่ซิวมาก่อนเลยเขารู้สึกอยากจะล่าถอย และไม

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 245

    และปรมาจารย์หนุ่มขนาดนี้ก็ยิ่งทำให้สิ้นหวังมากขึ้นไปอีกในขณะนี้ เขาไม่กล้าคิดที่จะแก้แค้นอีกแม้แต่น้อยในใจของเขารู้สึกเสียใจมากยิ่งขึ้นและสงสัยว่าทำไมตนถึงยั่วยุเทพแห่งความตายที่น่ากลัวอย่างเย่ซิวได้ ตุ้บ!พี่เฟิงคุกเข่าลงต่อหน้าเย่ซิวแล้วคำนับสามครั้งจากนั้นเขาก็พูดด้วยความเคารพ “ผมจะให้หลักฐานอาชญากรรมของหวังซงกับคุณ ช่วยปล่อยผมไปเถอะครับ”เย่ซิวทอดสายตาลงมองเขาด้วยสีหน้าไม่แยแส “นำทางไปสิ!”พี่เฟิงอดทนต่อความเจ็บปวดที่ฝ่ามือ และลุกขึ้นเดินไปที่ห้องของเขาเย่ซิวตามไป“รอฉันด้วยสิพี่ชาย”หลัวอีอีรีบวิ่งตามไป ดวงตาของเธอเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น “พี่ชาย คุณสุดยอดจริง ๆ คุณสอนฉันฝึกยุทธด้วยได้ไหม? ฉันก็อยากเป็นฮีโร่หญิงด้วยเหมือนกัน”เย่ซิวพูดอย่างใจเย็น “ไม่”หลัวอีอีขมวดคิ้วด้วยความเสียใจเล็กน้อย “ทำไมล่ะ?”“คุณไม่มีพรสวรรค์”“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่มีพรสวรรค์? คุณยังไม่เคยเห็นเลยนะ ฉันเห็นในโทรทัศน์ว่าต้องสัมผัสกระดูกถึงจะรู้ไม่ใช่เหรอ?”“ไม่จำเป็น มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นกระต่ายหรือเหยี่ยว”ในความเป็นจริง เมื่อกี้เย่ซิวได้เห็นแล้วและพบว่าพรสวรรค์ของหลัวอีอีนั

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 246

    เส้นเลือดปรากฏบนหน้าผากของเย่ซิวแม้เขาจะฝนตนเองมาอย่างดี แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึง “เจตนาสังหาร” ต่อเด็กสาวช่างจ้ออย่างหลัวอีอี ดังนั้น เขาจึงฟาดไปที่หลังคอของหลัวอีอีราวกับสายฟ้าทันใดนั้น ร่างกายของเธอก็อ่อนแรงและยวบลงกับพื้นเย่ซิวจับเธอไว้ก่อนจะอุ้มเธอขึ้นมาในอ้อมแขนแล้วเดินไปที่โซฟาในห้องอ่านหนังสือร่างกายของหลัวอีอีนั้นนุ่มมากเหมือนกับก้อนสำลี การได้กอดเธอไว้ในอ้อมแขนเช่นนี้ช่างให้ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยเนื้อสัมผัสค่อย ๆ วางเธอบนโซฟา เย่ซิวมองดูใบหน้าที่บอบบางและไร้เครื่องสำอางของเธอ แล้วส่ายหัวเล็กน้อยสาวสวยขนาดนี้ น่าเสียดายที่ปากยื่นปากยาวเสียจริงโลกทั้งโลกก็เงียบลงเย่ซิวหันไปมองพี่เฟิงขั้นแรก เขาหยิบเอกสารจำนวนหนึ่งออกมาจากตู้เซฟและมอบให้เย่ซิวด้วยความเคารพ “ท่านครับ นี่เป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานทางอาญาของหวังซงที่ผมได้รวบรวมไว้ครับ”“รวมทั้งเรื่องที่เขาปรับปรุงอาคารที่พักอาศัย การใช้วิธีอันน่ารังเกียจเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน เรื่องติดสินบนเจ้าหน้าที่คนสำคัญของรัฐบาล แล้วก็ยังมีข้อมูลบางส่วนที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ด้วยครับ”เย่ซิวรับเอกสารมาแล้วทอดสายตามองเนื

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 247

    ใบหน้าของพี่เฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ผมได้ยินมาว่า มันเป็นโอสถที่ทรงพลังมาก มีสองเม็ด เม็ดหนึ่งสำหรับชีวิตและอีกเม็ดสำหรับความตาย”“จอมยุทธระดับที่ห้าที่ใช้โอสถชีวาอาสัญครั้งแรกจะไปถึงขั้นสูงสุดของระดับห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ”“ถ้าอย่างนั้น แสดงว่า การใช้โอสถสามารถทำให้ทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้ แต่ว่ากันว่าโอสถประเภทนี้มีข้อจำกัด”“การกลั่นโอสถต้องใช้เลือดของผู้กลั่นโอสถ ดังนั้น หากมีใครกินโอสถนั้นเข้าไป คนผู้นั้นก็จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้กลั่นโอสถไปตลอดชีวิต”“ยิ่งกว่านั้น ตลอดชีวิตนี้ ระดับวิทยายุทธของผมไม่สามารถทะลวงไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว หรือว่า… ท่าน!!!”จู่ ๆ พี่เฟิงก็ตระหนักได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง ทั้งความคิดและจิตใจของเขาสั่นคลอนอย่างรุนแรงเย่ซิวพยักหน้า “คุณเดาได้ถูกแล้ว ผมรู้วิธีกลั่นโอสถชีวาอาสัญ แล้วคุณยินดีที่จะเป็นสุนัขรับใช้เคียงข้างผมไหมล่ะ?”นี่คือการตัดสินใจของเย่ซิวในนาทีสุดท้ายรอบตัวเขานั้นมีปรมาจารย์อยู่น้อยเกินไปเมื่อต้องเผชิญกับเรื่องยุ่งยากบางอย่าง เขาก็ต้องจัดการเรื่องเหล่านั้นด้วยตัวเองพี่เฟิงคนนี้เป็นจอมยุทธระดับห้า และโดยเนื้อแท้ของเขาก็ไม่ใช่

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 248

    แม้ว่าหลัวอีอีจะเรียนมัธยมปลายเท่านั้น แต่เธอก็อายุเต็มสิบแปดปีแล้วเธอเติบโตมาอย่างดีและมีทุนทรัพย์เพียบพร้อมอย่างไรก็ตาม เย่ซิวไม่มีเจตนาร้ายอะไรต่อเธอ เขาก้าวไปข้างหน้าและตบร่างกายของเธอเบา ๆ เพื่อปลุกเธอให้ตื่นหลัวอีอีตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย เธอลืมตาขึ้น ดูสับสนมึนงงเล็กน้อยฉันเป็นใคร ฉันอยู่ที่ไหน ฉันทำอะไรอยู่?ไม่นาน หลังจากนั้นเธอก็ตั้งสติได้ เธอเงยหน้าขึ้นมองเย่ซิว และอุทานว่า “ฉันจำได้ ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นคนที่ทำให้ฉันหมดสติ คนชั่ว คุณทำอะไรฉันใช่ไหม?”“ฮือ ฮือ ฮือ ฉันเพิ่งอายุสิบแปดปีเองนะ ทั้งบริสุทธิ์ทั้งบอบบางขนาดนี้ คุณจะทนไม่ลงมือทำได้ยังไง”“จิตสำนึกคุณมีปัญหาใช่ไหม?”เย่ซิวกลอกตามองเธอและหันหลังเดินออกไปเด็กผู้หญิงคนนี้นี่ช่างเป็นเจ้าแม่การละครเสียจริง“นี่ อย่าเพิ่งไป คุณต้องรับผิดชอบฉัน”หลัวอีอีรีบลงไปและตามเขาไปอย่างรวดเร็วเขายืนอยู่บนราวบันได เบื้องล่างมองเห็นเหล่าบอดี้การ์ดที่ถูกเขาคว่ำไปอยู่บนพื้นบางคนเริ่มกลับมาได้สติมีเรี่ยวแรงก็พยายามหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาขอความช่วยเหลือเย่ซิวสะบัดนิ้ว กระแสกำลังภายในที่อัดแน่นไปด้วยพลังเข้าโจมตีอย่างแม่นยำ ท

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 249

    เย่ซิวเมินเฉยต่อเธอเขาคลายมือที่โอบเอวนั้นออก และทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุสลบไปอีกครั้ง จากนั้นก็เดินออกไปข้างนอกเขาขับรถพาหลัวอีอีออกไปอย่างสบาย ๆในรถ ร่างช่างพูดของหลัวอีอีก็โผล่ออกมาอีกแล้วและพูดไม่หยุด“เราจะไปไหนเหรอ?”“จะกลับแล้วเหรอ?”“คุณจะพาฉันไปเปิดห้องเหรอ? ว่าแล้วเชียว ผู้ชายก็เป็นเหมือนกันหมด หึ ฉันไม่ไปด้วยหรอกนะ ฉันไม่ใช่คนใจง่ายอยู่แล้ว”คราวนี้เย่ซิวได้เรียนรู้บทเรียนเป็นอย่างดีแล้ว เขาจึงสกัดจุดหูทั้งสองข้างของเขา ดังนั้นไม่ว่าเธอจะพูดมากแค่ไหนเขาก็ไม่ได้ยินแม้แต่คำเดียวผ่านไปประมาณสี่สิบนาที รถก็หยุดจอดเย่ซิวเปิดประตูรถแล้วเดินออกไปที่นี่คือตลาดผักตอนนี้เป็นเวลาตีสี่แล้วหลายคนก็เริ่มทำงานแล้วเช่นกันหลัวอีอีเองก็ลงจากรถมาด้วย ลมหนาวพัดมา และเธอก็กอดรัดร่างตัวเองตามสัญชาตญาณแต่เมื่อเธอเห็นตลาดผักขนาดใหญ่เธอก็ตะลึงเธอเห็นคนมากมายทำงานหนักเพื่อขนส่งสินค้าและยังเห็นคุณตาคุณยายอายุหกสิบเจ็ดสิบปีคอยดูแลแผงขายผักด้วยใบหน้าของพวกเขาแดงด้วยความหนาวเย็นของลมหนาวที่กัดกิน ในขณะนี้ จิตใจของหลัวอีอีได้รับผลกระทบอย่างมากนี่เป็นอีกด้านหนึ่งของเ

Latest chapter

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 974

    “ตอนนี้เราดำเนินการผลิตเต็มกำลัง สามารถผลิตจักรกลมังกรดำได้วันละสองร้อยชุด ตอนนี้ผลิตเสร็จแล้วแปดร้อยชุด”เย่ซิวเอ่ยชมด้วยความประทับใจ สมกับที่เป็นประเทศหลงเถิง มีประสิทธิภาพน่าตื่นตะลึงจริง ๆจักรกลมังกรดำแปดร้อยชุดนี้สามารถสร้างพลังการข่มขู่ที่แข็งแกร่งและทรงอำนาจอย่างมากหลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีก็เสนอให้กระชับความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายมากขึ้นพร้อมทั้งยื่นข้อเสนอที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา รวมถึงเปิดโรงงานและสาขาย่อยที่สำนักโอสถเย่ซิวเข้าใจได้ทันทีว่าข้อเสนอนี้คือการที่ประเทศหลงเถิงยื่นมือเข้ามาช่วยสำนักโอสถโดยตรงนี่ถือว่าเป็นโอกาสสำคัญที่จะทำให้สำนักโอสถทะยานขึ้นอย่างก้าวกระโดดไม่มีเหตุผลอะไรเย่ซิวที่จะปฏิเสธข้อเสนอนี้อย่างแน่นอนหลังจากจบการสนทนากับนายกรัฐมนตรี เย่ซิวก็เดินทางไปยังสายการผลิตเป้าหมายต่อไปของเขาคือเพิ่มจักรกลมังกรดำให้ถึงสามสิบชุด และยังต้องรับสมัครผู้ควบคุมเกราะกลไกเพิ่มอีกขณะเดียวกันทางฝั่งประเทศจ้านฉงตี้ ประเทศจ้านอิงตี้ และประเทศใหญ่อื่น ๆ รวมถึงประเทศขนาดกลางและเล็กอีกนับร้อยต่างก็จัดประชุมลับอีกครั้งจักรพรรดิอินทรีครามเป็นคนเริ่มพูดก

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 973

    เย่ซิวชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงเก็บสิ่งที่หล่นลงมาจากตัวเด็กหญิงมันคือจี้ชิ้นหนึ่งที่ไม่สามารถบอกได้ว่าทำจากวัสดุอะไร ผิวด้านนอกเต็มไปด้วยรอยร้าวมากมายเย่ซิวพลิกดูซ้ายขวาแต่ก็ไม่พบสิ่งใดที่ดูน่าสนใจเป็นพิเศษ แต่ในขณะที่เขากำลังจะวางมันกลับคืนไปบนตัวเด็กหญิงนั้นทันทีที่จี้เข้าใกล้ตัวเธอ รอยร้าวบนจี้กลับเพิ่มขึ้นอีกหลายเส้นเย่ซิวหรี่ตาลงพิจารณาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจเก็บจี้นี้ไว้กับตัวเองก่อนจากนั้นเขาก็เดินทางไปยังสวนยา แบ่งสมุนไพรที่เหลือออกเป็นหมวดหมู่และปลูกไว้ในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างเป็นระเบียบพร้อมทั้งเก็บสมุนไพรที่โตเต็มที่ไว้บางส่วนเพื่อเตรียมใช้งานในอนาคตหลังจากจัดการที่สวนยาเสร็จ เย่ซิวก็เดินไปยังค่ายทหาร เขามีแผนจะคัดเลือกทหารจำนวนหนึ่งพันสองร้อยนายเพื่อจัดตั้งกองกำลังพิเศษเกณฑ์ในการคัดเลือกของเขาไม่ใช่การเลือกคนที่เก่งที่สุด แต่กลับเลือกคนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มเพราะเขาเชื่อว่าเมื่อคนเหล่านี้แข็งแกร่งขึ้นมา พวกเขาจะรู้สึกซาบซึ้งและภักดีต่อเขามากกว่าเดิมหลังจากคัดเลือกทหารได้ครบหนึ่งพันสองร้อยนายแล้ว ยังต้องมีการทดสอบเรื่องความภักดี การป้องกันสายลับ และกา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 972

    เย่ซิวครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก็เข้าใจได้ทันทีมันน่าจะเกิดจากตอนที่เขาวางค่ายกลและใช้เลือดตัวเองหยดลงบนจี้หยกเดิมทีเขาตั้งใจจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้จี้หยกและเสริมพลังของค่ายกลตอนที่มันเสร็จสมบูรณ์เพราะตอนนี้เลือดของเขามีค่ามากมายมหาศาลแต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือการทำเช่นนี้กลับทำให้พลังหายนะเชื่อมโยงกับเขาในแบบที่อธิบายไม่ได้เย่ซิวไม่แน่ใจว่านี่คือเรื่องดีหรือร้าย เขายื่นมือออกไปอย่างระมัดระวังค่อย ๆ เข้าใกล้กระบี่เล่มนั้นในขณะเดียวกันก็คอยเฝ้าสังเกตดวงชะตาของตัวเอง ถ้ารู้สึกถึงการกัดกร่อนจะถอยออกมาทันทีแต่สิ่งที่เขากังวลกลับไม่เกิดขึ้นและสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากก็คือในวินาทีที่เขากำกระบี่เล่มนั้นไว้ ดวงชะตาที่เคยถูกกัดกร่อนก็ฟื้นคืนกลับมากระบี่เล่มนี้ไม่ได้ทำอันตรายต่อเขาอีกต่อไปในวินาทีที่จับกระบี่ไว้ เย่ซิวก็รับรู้ถึงความสามารถของมันได้ทันทีกระบี่นี้มีไว้เพื่อทำลายล้างพลังบำเพ็ญของผู้อื่นไม่ใช่เพื่อสังหารคนโดยตรงและเมื่อฟันออกไป มันสามารถตัดทอนพลังบำเพ็ญของเป้าหมายได้ถึงหนึ่งส่วน สองส่วน หรืออาจมากกว่านั้นอีกทั้งส่วนหนึ่งของพลังที่ถูกทำลายจะถูกส่งกลับคืนมาใ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 971

    ค่ายกลมรณะ!เย่ซิวไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ตอนนี้ถึงได้เชื่อมโยงสองเรื่องนี้เข้าด้วยกันค่ายกลแบบนี้ต้องใช้ของที่ทั้งอำมหิตและชั่วร้ายสุด ๆ เป็นแกนกลางในการวางค่ายกลพลังทำลายล้างไม่ต้องพูดถึงเพราะมันเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เย่ซิวเคยเห็นค่ายกลนี้ในหอตำราของสำนักหุ่นเชิดมาก่อนในอดีตค่ายกลนี้ถือเป็นค่ายกลต้องห้ามเขาไม่กล้าเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว ก่อนจะพยายามนึกถึงขั้นตอนการวางค่ายกลในหัวอย่างเร่งรีบจากนั้นก็หยิบจี้หยกออกมาหลายชิ้น ก่อนจะป้ายเลือดของตัวเองไปที่แต่ละชิ้นและจัดวางตามตำแหน่งที่กำหนดไว้เขาหันไปเอ่ยกับเด็กหญิงว่า “ไม่ต้องกลัว ฉันจะไม่ทำร้ายเธอ หลับตาไว้ก่อนนะ พอฉันบอกให้ลืมตาค่อยลืมตา”เด็กหญิงเงยหน้ามองเย่ซิว ก่อนจะพยักหน้าอย่างว่าง่ายและหลับตาลงเย่ซิวใช้เธอเป็นศูนย์กลางของค่ายกล จากนั้นเขาก็รีบวางค่ายกลจนเสร็จสมบูรณ์ในวินาทีที่ค่ายกลเสร็จสิ้น ท้องฟ้าทั้งผืนพลันถูกปกคลุมด้วยเมฆดำหนาทึบพร้อมกับเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่ากึกก้องพลังแห่งความหายนะในตัวเด็กหญิงเริ่มปั่นป่วนอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับถูกค่ายกลดูดซับเข้าไปเหนือศีรษะของเธอปรากฏดวงดาวดวงหนึ่งด

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 970

    จากนั้นเย่ซิวก็ปล่อยปราณกระบี่ออกมาหลายสาย ผนึกพื้นที่รอบตัวเด็กหญิงไว้ เด็กหญิงมองเย่ซิวด้วยสายตาที่น่าสงสาร เธอรู้ดีว่าตัวเองเป็นดาวหายนะ พ่อแม่และครอบครัวของเธอทั้งหมดล้วนต้องตายไปเพราะเธอ หลังจากนั้นเธอก็ถูกขังไว้ในกรงพิเศษ ไม่เคยเห็นแสงเดือนแสงตะวันเลย จนกระทั่งถูกปล่อยตัวออกมาในตอนนี้ เย่ซิวมองแววตาของเธอ ก็รู้ได้ทันทีว่าเธอเป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ร่างกายที่เป็นอยู่เกิดจากชะตาฟ้าลิขิต เธอเองไม่อาจควบคุมได้ และไม่มีทางเลือกเลยแม้แต่น้อย เย่ซิวเองก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้อย่างบุ่มบ่ามพลังหายนะของเธอนั้นน่ากลัวเกินไป หากพลาดพลั้งแม้เพียงเล้กน้อย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่เกินจะจินตนาการได้ หลังจากครุ่นคิด เขาก็ร่ายอาคม สร้างเหยี่ยวตัวหนึ่งให้ก่อตัวขึ้น แล้วให้มันบินไปเกี่ยวตัวเด็กหญิงขึ้นมา เตรียมจะพาขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ยังไม่ทันจะบินขึ้น เหยี่ยวกลับสลายตัวไปในพริบตาเย่ซิวลองหาวิธีอื่นอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ ไม่สามารถพาตัวเธอออกไปจากที่นี่ได้เลยเย่ซิวรู้สึกปวดหัวไปหมด เขาจึงตัดสินใจปลอบเด็กหญิงก่อน แล้วโยนอาหารไปให้เธอจากระยะไกลไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธ

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 969

    เย่ซิวเดินออกจากห้องลับ แล้วพบว่าโลกทั้งใบที่อยู่ตรงหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างดูชัดเจนขึ้น และเต็มไปด้วยสีสันมากขึ้น เฉินหลานเพิ่งกลับมาจากข้างนอก พอเห็นเย่ซิวก็ยิ้มหวานออกมา "สวัสดีค่ะ นายท่าน" เย่ซิวโบกมือไปมา "ต่อไปไม่ต้องเรียกนายท่านแล้ว เรียกว่าท่านเจ้าสำนักเถอะ" เฉินหลานมองเขาด้วยดวงตาชุ่มฉ่ำ ก่อนจะพยักหน้าขานรับอืมเบา ๆเรียกว่าเจ้าสำนักดูจะเป็นกันเองกว่าการเรียกว่านายท่าน "สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?" เย่ซิวถาม "ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ หลังจากจบศึกครั้งนี้ คนในสำนักโอสถก็ยิ่งให้ความไว้วางใจกับพวกเรามากขึ้น งานในด้านอื่น ๆ ก็ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น" "แล้วในระดับนานาชาติล่ะ?" "บรรดาทูตจากนานาชาติมาถึงประเทศหลงเถิงตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ เดิมทีพวกเขาต้องการเริ่มการเจรจาทันที แต่รัฐบาลหลงเถิงกลับจัดเตรียมอาหารเลิศรส และการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจให้พวกเขา โดยให้เหตุผลว่าประเทศของตนให้ความสำคัญกับมารยาทมากที่สุด เมื่อลูกค้ามาเยือนก็ต้องให้การต้อนรับอย่างดี จากนั้นจึงค่อยพูดคุยเรื่องอื่น บรรดาทูตก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยอมเพลิดเพลินไปกับกา

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 968

    หลังจากที่ฝึกฝนความสามารถใหม่ของร่างกายจนคุ้นเคยแล้ว เย่ซิวก็กลับมาทำการหลอมโอสถต่อมีโอสถอีกหลายประเภทที่ต้องหลอมเช่นโอสถยอดเพชร โอสถต้นกำเนิด โอสถร้อยพิษไม่กล้ำกรายและอื่น ๆนอกจากเตรียมโอสถสำหรับสร้างกองกำลังสุดยอดแล้ว ยังมีบางส่วนที่เย่ซิวตั้งใจจะเตรียมไว้ใช้เอง รวมถึงให้คนใกล้ตัวของเขาหลังจากที่ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น ประสิทธิภาพในการหลอมยาก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอัตราการฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขาหลังจากใช้งานก็เร็วขึ้นหลายเท่าตัวสองวันต่อมา ประเทศจ้านส่งสมุนไพรมาเป็นค่าชดเชย ซึ่งถูกใช้ไปแล้วกว่าเก้าหมื่นต้น ผลลัพธ์คือโอสถชนิดต่าง ๆ ถูกหลอมออกมามากกว่าห้าหมื่นเม็ดเมื่อหลอมยาเสร็จ เย่ซิวก็หยุดการหลอม เก็บเตาโอสถกลับไปแล้วหันไปมองผู้หญิงที่อยู่บนเตียงน้ำแข็งทันใดนั้นภาพถ่ายที่พรีเอลล์เคยส่งให้ก็ลอยเข้ามาในความคิดของเขาเธอเคยพูดถึงโซเฟียลูกพี่ลูกน้องของเธอเย่ซิวหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูภาพถ่าย แล้วเดินไปเปรียบเทียบกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ารูปร่างหน้าตาอาจจะแตกต่างกัน แต่บรรยากาศและพลังบางอย่างที่แผ่ออกมานั้นคล้ายกันมากมันให้ความรู้สึกเหมือนประชาชนของมหาอำนาจประเทศหนึ่ง กับคน

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 967

    ตอนนี้เย่ซิวกำลังหลอมโอสถยอดเพชรโอสถชนิดนี้สามารถเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้น หากรับประทานในปริมาณที่มากพอ อาจทำให้ร่างกายกลายเป็นกายาวัชระได้ ซึ่งเป็นกายาอันแข็งแกร่งที่ได้รับการยอมรับในหมู่พุทธศาสนา นี่คือโอสถที่เย่ซิวเตรียมไว้สำหรับกองกำลังพิเศษในอนาคตของเขา ในเมื่อเป็นกองกำลังระดับสุดยอด ก็ต้องมีความสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นพลังต่อสู้ การป้องกัน การลอบสังหาร ทุกอย่างต้องอยู่ในระดับที่สมบูรณ์แบบ ไม่สามารถมีจุดอ่อนได้ ภายในเตาหลอมโอสถ ตอนนี้มีโอสถยอดเพชรกว่ายี่สิบเม็ด แต่ท่ามกลางโอสถเหล่านั้น มีอยู่เม็ดหนึ่งที่แตกต่างจากเม็ดอื่นโดยสิ้นเชิง มันเป็นสีขาวบริสุทธิ์และมีแสงสีทองระยิบระยับไหลเวียนอยู่ภายใน ดวงตาของเย่ซิวหดแคบลงทันที นี่มันหรือว่าจะเป็นโอสถกลายพันธุ์ในตำนาน? บางครั้งในการหลอมโอสถ นักปรุงยาอาจพบกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้โอสถเกิดการกลายพันธุ์ขึ้นมา โอสถกลายพันธุ์เหล่านี้ บางครั้งอาจไร้ประโยชน์ หรือร้ายแรงถึงขั้นมีพิษรุนแรง แต่ในบางกรณี มันอาจมีสรรพคุณสูงกว่าโอสถทั่วไปหลายสิบเท่า และในบางครั้งโอสถกลายพันธุ์เหล่านี

  • โคตรคนยอดปรมาจารย์   บทที่ 966

    นอกจากนี้เย่ซิวยังมีฐานปลูกสมุนไพรอีกแห่งหนึ่งที่ประเทศหลงเถิง เมื่อรวมกันแล้ว ฐานทั้งสองแห่งสามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับการหลอมยาได้เป็นจำนวนมหาศาล ต่อไปเมื่อเขาสามารถหลอมยาได้มากพอ ก็จะสามารถใช้โอสถเหล่านั้นสร้างกองกำลังสุดแกร่งขึ้นมาได้ เป็นกองกำลังที่สามารถทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง เย่ซิวมีแนวคิดเกี่ยวกับกองกำลังนี้มานานแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะเริ่มดำเนินการ สำหรับแกนหลักของกองกำลัง เย่ซิววางแผนให้สมาชิกของหน่วยกองกำลังหมาป่าราตรีเป็นผู้รับผิดชอบ พวกเขามีทั้งพลังและประสบการณ์มากพอที่จะทำให้ทุกคนยอมรับ หลังจากเสร็จสิ้นการแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายกันไป เย่ซิวมอบหมายให้หวังซวงเป็นผู้จัดการเรื่องรถถังและทองคำ โดยทองคำบางส่วนจะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเสบียงและทรัพยากร ก่อนจะส่งไปให้ถังอวิ้น การพัฒนาของประเทศสุ่ยจือยังคงต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องกังวลมากนักก็คือ ประเทศสุ่ยจือมีภูเขาล้อมรอบทั้งสามด้าน แนวภูเขาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ทำให้เป็นปราการธรรมชาติที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ประเทศนี้จะถูกโจมตีนั้นค่อนข้างต่ำ อีกทั้งตอนนี้สภาพของที

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status