“ผมอยากจะซื้อตึกนี้”“ผมอยากได้ตึกนี้”“ผมขอตึกนี้”“เอิ่ม งั้นผมจะเอาตึกนี้ละกัน”ชายทั้งสี่คนกล่าวอย่างกระตือรือร้นโดยไม่ใช้เวลาแม้แต่ครู่เดียวเพื่อตัดสินใจไซล่า เควสเริ่มสงสัยกับสิ่งที่เธอกำลังเห็น เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเช้านี้ถึงมีคนมากมายอยากที่จะซื้อตึกตาม ๆ กัน?ทำไมเหล่าเศรษฐีถึงมารวมตัวกันที่นี่ในวันนี้? เป็นเพราะว่าโปรโมชั่นดีมาก ๆ ประกอบกับการโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของพวกเขาอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์งั้นเหรอ? ทำไมบรรดาเศรษฐีทั้งหลายก็เลยอยากที่จะลงทุนในโครงการของพวกเขาใช่ไหม?นี่คือสิ่งที่เป็นไปได้เท่าที่ไซล่าจะนึกออกในขณะที่ไซล่าตั้งคำถามเหล่านี้ในหัว เธอแนะนำชายเหล่านั้นเพื่อรับการเซ็นสัญญา หลังจากนั้น ชายเหล่านั้นชำระเงินและออกไปอย่างไม่ลังเลเอมิลี่ เควสสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ต่อหน้าต่อตา เธอโกรธมากจนพูดไม่ออกภายในเวลาอันสั้น เอมิลี่เห็นไซล่าขายสิบเก้าตึกอย่างราบรื่น ไซล่าก้าวหน้าไปอย่างมากและตอนนี้ก็ใกล้ถึงเป้าหมายมากแล้วไซล่าอยากที่จะทำให้เอมิลี่ขายหน้าจริง ๆ ใช่ไหม? ทำโชคชะตะถึงขัดขวางเอมิลี่?หลังจากที่ไซล่าเห็นชายเหล่านั้นออกไป เธอจึงกลับไปที่ล็อบบี้
เมื่อเมย์ คอนเนอร์เห็นสิ่งที่เอมิลี่ทำ เธอจึงรีบฉวยแก้วไวน์จากเอมิลี่ไป เมย์ตีไปที่แขนของเอมิลี่ “ลูกแม่ ลูกบ้ารึเปล่า? ตอนนี้ลูกกำลังแกล้งทำเป็นท้องอยู่ ลูกก็ควรทำตัวให้ดีหน่อย ลูกดื่มทำไม? ถ้าเกิดพ่อของลูกหรือคนอื่น ๆ เห็นลูกเข้าล่ะ?”เอมิลี่ขมวดคิ้วอย่างเป็นทุกข์ก่อนที่จะมองไปรอบ ๆ “มันดึกแล้วนะคะ ทุกคนนอนไปนอนกันแล้ว ใครจะเห็นหนูงั้นเหรอ? อีกอย่าง หนูก็ไม่ได้โชคร้ายขนาดนั้น”“ระวังหน่อยสิ!” เมย์กล่าวอย่างจริงจัง “หนูรู้ค่ะ” เอมิลี่พ่นลมหายใจอย่างเยือกเย็น เธอดูมั่นใจอย่างเต็มที่รถมาเซราติสีแดงคันหนึ่งก็เข้ามาจอดในลานด้านนอก ไซล่า เควสที่รู้สึกเหนื่อยล้าหยิกหน้าผากตัวเองก่อนที่จะปลดเข็มขัดนิรภัยอย่างไรก็ตาม แทนที่จะออกจากรถในทันที เธอกลับล้มตัวลงบนที่นั่งและเสียการทรงตัวไปตั้งแต่การเตรียมการสำหรับการเปิดสินทรัพย์เริ่มขึ้น เธอทำงานล่วงเวลามาโดยตลอดเธอผลักดันตัวเองเพื่อให้ทำงานอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้เธอได้บรรลุเป้าหลายและเหนื่อยล้าอย่างที่สุด เธอดูแทบจะเหมือนกับบอลลูนที่ถูกปล่อยออกจนหมดเนื่องจากการซื้อขายเป็นไปได้ด้วยดีในวันนี้ เธอจึงฉลองกับทีมของเธอ หลังจากที่ด
เจเรมีไม่สนใจที่จะโต้ตอบกับเมย์ คอนเนอร์ กลับกัน เขามองไปที่ไซล่าต่ออย่างเสน่หา “ไซล่า ไปนอนเถอะลูก อ๋อ จริงด้วย พ่อได้โอนหุ้นห้าเปอร์เซ็นของเอมิลี่ไปบัญชีของลูกแล้วนะ.“รับทราบค่ะ ขอบคุณนะคะ คุณพ่อ” ไซล่าหัวเราะพลางยืนเขย่งเท้าเพื่อหยิกแก้มของเจเรมี่ หลังจากนั้น เธอหาทางขึ้นไปชั้นบนอย่างเหนื่อยล้าหลังจากที่เจเรมี่จ้องมองภรรยาและลูกสาวคนเล็กของเขา เขาจึงเดินขึ้นชั้นบนไปอย่างฉุนเฉียว“ถ้าไซล่ายังคงทำตัวเด่นต่อไป ธุรกิจของตระกูลเควสก็จะตกอยู่ในมือของเธอแน่!” เอมิลี่กล่าวอย่างบ้าคลั่ง“เพราะฉะนั้น เราต้องทำอะไรบางอย่างที่รุนแรงกว่าเดิมกับเธอ” เมย์แสดงสีหน้าเจ้าเล่ห์“ที่แม่ขอให้ลูกเช็คดูบางอย่างก่อนหน้านี้ เป็นไงบ้าง?” เมย์ถาม“หนูยังคงดูอยู่ค่ะ”…“นายน้อยห้าครับ นี่คือใบเสร็จจากนายท่านอาร์มสตรอง นายท่านเลคและนายท่านเบรนานด์ครับ”สแตนลีย์จมอยู่ในกองงานจำนวนมากหน้าโต๊ะทำงานไฮคลาสที่ทำมาจากไม้นารา จากนั้นเขาค่อย ๆ เงยหน้ามองไปที่แซ็ค แคสซิดี้แซ็คดันแว่นตากรอบทองคำขึ้นบนสันจมูกอย่างระมัดระวังก่อนที่จะวางใบเสร็จปึกหนึ่งอย่างเร่งรีบบนโต๊ะทำงานของนายน้อย“พวกนั้นให้ฉันทำไม?” สแตน
“ถ้างั้น ก็ยังมีเงินที่ฉันติดหนี้นายเรื่องรถอยู่นะ ฉันต้องคืนให้นายจริง ๆ นะ” ไซล่า เควสพูดเสริมชายคนนั้นหยุดตอบกลับหาเธอไซล่ารู้สึกหัวเสียเล็กน้อย แตะที่ชื่อของไฟฟ์บนหน้าจอ “นายนี่มันประหลาดคนจริง ๆ”หลังจากนั้น ไซล่าก็โอนเงินสองแสนดอลลาร์ให้กับสแตนลีย์ทางวีแชท และบันทึกโน๊ตเสียงว่า “ในเมื่อนายไม่ให้เลขบัญชีกับฉัน ฉันจะโอนสองแสนให้กับนายทุกวันจนกว่าจะครบจำนวนก็แล้วกัน”ก่อนที่เธอจะพูดจบ เขาได้โอนเงินทั้งหมดคืนให้กับเธอไซล่าโกรธมากจนเธอส่งอิโมจิรูปมีดให้กับเขาหลังจากห้านาทีต่อมาโดยประมาณ เขาตอบกลับ “เป็นเด็กดีนะ เงียบ ๆ ไว้”คำพูดชวนเสน่หาของเขาทำให้ไซล่าไม่ทันตั้งตัวเธอส่งอิโมจิรูปมีดไปอีกอัน “ฉันไม่ชอบเป็นหนี้คนอื่น”อย่างไรก็ตาม สแตนลีย์ไม่ตอบกลับเธออีกแล้ว เมื่อเธอเปิดเพจโซเชียลมีเดียของเขา ก็ไม่มีโพสต์ใหม่ในนั้นเลยโพสต์ล่าสุดคือข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่เขากลับมาโพสต์ใหม่เมื่อหนึ่งปีก่อนหลังจากหลายนาที เมื่อไซล่ารู้ตัวว่าเขาคงจะไม่ตอบกลับมาหาเธอแล้ว เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ถ้าเธอได้เจอคน ๆ นี้อีกครั้ง เธอคงจะบังคับให้เขารับเงินของเธอ…เช้าวันต่อมา เอมิลี่ เคว
เนื่องจากมันยากที่เธอจะรู้สึกผ่อนคลายแบบนี้ ไซล่า เควสจึงตัดสินใจที่จะไม่ตั้งนาฬิกาปลุกตอนที่เธอลืมตาตื่น มันก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้วหลังจากที่มองดูเวลา ไซล่าเหยียดแขนและค่อย ๆ คลายและลุกขึ้นมานั่ง ขณะที่พระอาทิตย์ส่องแสงกระทบใบหน้าที่งดงามของเธอ ผิวพรรณสวยเปล่งปลั่งจนดูเป็นประกายก๊อก ก๊อก ก๊อกไซล่ากำลังจะสวมรองเท้าแตะและลงจากเตียง ทันใดนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน เสียงของคนรับใช้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น “คุณหนูคะ คุณท่านอยากให้คุณหนูลงไปข้างล่างค่ะ”“เข้าใจแล้วจ่ะ”หลังจากนั้น ไซล่ารีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำให้สดชื่น หลังจากที่ทาผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหน้าแล้วหนึ่งชั้น เธอจึงสวมชุดคลุมนอนผ้าไหมทับชุดนอนและรีบลงมายังชั้นล่างเมื่อเธอมาถึง เจเรมี่ เควส เมย์ คอนเนอร์และเอมิลี่ เควสต่างอยู่พร้อมหน้าในขณะที่เจเรมี่นั่งจิบกาแฟอยู่บนโซฟาเดี่ยว เอมิลี่และเมย์ก็นั่งอยู่ข้างกันบนโซฟายาวด้านข้างเขา และดูเหมือนกำลังจะคุยอะไรกันอยู่ ช่างเป็นช่วงเวลาที่เอื่อยเฉื่อยหลังจากที่ไซล่าเหลือบมองไปที่เมย์และเอมิลี่อย่างเยือกเย็นแล้ว เธอรีบเดินไปที่โซฟาที่อยู่ตรงกันข้ามกับเจเรมี่และน
“ไซล่า เรื่องนี้จริงไหมลูก?” เจเรมี่ เควสพยายามอย่างหนักที่จะข่มความโกรธขณะที่จับจ้องไปยังไซล่าเขาหวังว่าทุกอย่างเกี่ยวเรื่องนี้เป็นเพียงแค่นิยายเพ้อฝันเท่านั้นอย่างไรก็ตาม ไซล่าไม่พูดแต่กลับพยักหน้าอย่างอ่อนโยนแทนก่อนที่เธอจะจิบชาต่อ“ลูกแต่งงานที่ต่างประเทศจริง ๆ ใช่ไหม? มันเป็นเรื่องใหญ่มาก ทำไมลูกไม่เห็นบอกเรื่องนี้กับพ่อมาก่อนเลยล่ะ?”“ลูกพยายามจะทำอะไร? ลูกอยากจะต่อต้านพ่อใช่ไหม?” เส้นเลือดบนคอของเจเรมี่ปูดโปนอย่างชัดเจน หลังจากนั้น เขาโยนเอกสารลงบนโต๊ะกาแฟอย่างเดือดดาลทันใดนั้น อุณหภูมิในห้องนั่งเล่นก็ลดลง มันรู้สึกราวกับว่าอากาศกำลังถูกบีบอัด เจเรมี่ฝากความหวังไว้กับไซล่าอย่างมาก ในตอนแรก เขาวางแผนที่จะสรรหาชายเหนือชายให้รับหน้าที่เป็นสามีของไซล่ากระนั้น เขาไม่คิดว่าเธอจะรีบแต่งงานอย่างหุนหันพลันแล่นโดยไม่ปรึกษาเขาก่อนเลยเธอปิดบังเรื่องสำคัญเช่นนี้จากพ่อของเธอได้อย่างไร? เธอคิดว่าเขาเป็นพ่อของเธออยู่รึเปล่า?“ทำไมน่ะเหรอคะ? ก็ต้องเป็นเพราะว่าสามีของเธอเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า คุณพ่อคะ หนูพนันได้เลยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพวกอันธพาล ไม่ก็อะไรสักอย่างแน่ค่ะ” เอมิลี่ เควส
ไซล่า เควสไม่กล้าที่จะบอกความจริงทั้งหมดให้กับพ่อของตนฟังเนื่องจากเจเรมี่ เควสเป็นชายที่ยึดถือขนบธรรมเนียมอย่างหนัก เขาคงจะโกรธมากหากรู้ว่าไซล่าแต่งงานกับคนแปลกหน้าก็เพื่อฟื้นคืนรูปโฉมของตน ที่สำคัญไปมากกว่านั้น ยังเป็นเรื่องที่เกียวกับว่าเธอยังคงแต่งงานอยู่ซึ่งขาดรากฐานความมั่นคงและอาจจบลงด้วยการหย่าร้างด้วยซ้ำบางที เจเรมี่อาจจะคิดว่าไซล่าไม่รักตัวเองและเป็นผู้หญิงไม่รักนวลสงวนตัวแทนที่จะบอกความจริงซึ่งอาจทำให้เข้าหัวเสีย ไซล่าคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีกว่าที่จะสร้างเรื่องที่เธอและสามีของเธอกำลังใช้ชีวิตแต่งงานอย่างมีควาสุข นี่คงจะทำให้เจเรมี่รู้สึกดีกว่ามากดังนั้น ไซล่าจำเป็นต้องแน่ใจว่าเรื่องนั้นเป็นตรรกะที่สมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้น เธอต้องดูมีความสุขมากกับเรื่องนี้หลังจากที่พูดจบประโยค ทันใดนั้นไซล่ายืนขึ้นและคุกเข่าลงต่อหน้าเจเรมี่ “หนูขอโทษค่ะ คุณพ่อ หนูไม่ควรทำเรื่องแบบนี้ลับหลังคุณพ่อเลย” เธอมีสีหน้าที่จริงจังไซล่ากำลังพูดคำเหล่านั้นจากก้นบึ้งของหัวใจ พูดตามตรงคือ เธอรู้สึกผิดที่ปิดบังเรื่องเช่นนี้จากพ่อมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น เธอไม่มีทางเลือกอื่นเลยถ้าไซล
“เขาบอกว่าเขาอยากพึ่งพาตัวเองน่ะค่ะ” ไซล่ากล่าวแววตาของเจเรมี่เต็มไปด้วยความเห็นชอบ “เขาดูเป็นชายหนุ่มแสนดีนะ ครั้งหน้า พาเขามาที่บ้านสิลูก พ่อจะได้เจอเขา”“ได้ค่ะ”เอมิลี่แทรก “เมื่อไหร่เหรอ?”เพื่อสืบค้นดูว่าไซล่ากำลังโกหกอยู่หรือไม่ เอมิลี่คงต้องสอบปากคนที่เธอเรียกว่าสามีเมื่อเวลานั้นมาถึง ถ้าชายคนนั้นไม่มีความรู้ทางการแพทย์ นั่นจะหมายความว่าเขาโกหก ไซล่าก็คงจะจบเห่เป็นแน่!เธอเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าวันที่ไซล่าจะทำลายตัวเองอย่างโง่ ๆ ใกล้เข้ามาแล้ว“ทำไมไม่พาพี่เขยมาร่วมงานแต่งงานฉันด้วยล่ะ? งานแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตของน้องสาวตัวเองเลยนะ คงไม่มีเหตุผลอื่นที่ไม่พาพี่เขยมาร่วมงานหรอก ใช่ไหม?” เอมิลี่กดดันและไม่ปล่อยให้ไซล่ามีโอกาสที่จะปัดเรื่องนี้ตกไปไซล่าตอบอย่างสบาย ๆ “เอาสิ”“เอาล่ะ ถ้างั้น พ่อจะตรงไปที่บริษัทก่อนนะ” เจเรมี่กล่าว เขาตบมือของไซล่าอย่างเสน่หาก่อนที่ออกจากบ้านไซล่าไม่มีเวลาเหลือให้กับคู่หูแม่ลูกเช่นกัน เธอยืนขึ้นและกำลังจะขึ้นไปชั้นบน จากนั้น จัดของให้เรียบร้อยก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังอิมพีเรียล ไพรม์ ต่อไปก็ที่เอ็กซ์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทันทีที่เธอกำลังจะยืนข
ความคิดเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับไซล่า เควสเริ่มรุนแรงมากขึ้นในสิบชั่วโมงต่อมา แม้ว่าไซล่าจะไม่แน่ใจว่ามีกี่คนที่ได้รับสินบนเพื่อเขียนเรื่องพวกนี้ขึ้น และมีกี่คนที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เธอก็มั่นใจมากว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่ได้รับเงินสินบนมา พวกเขาบางคนคงได้รับอิทธิพลจากคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมด้วย ไม่แน่ คนเหล่านี้มักจะวิจารณ์คนอื่นอยู่เสมอและเพียงแค่ใช้โอกาสนี้เพื่อระบายความเกลียดชังก็เท่านั้นก็ได้ พวกเขาก็คงเป็นแฟนคลับของจอช แบตตันเช่นกันเนื่องจากคนต่างประเภทที่เข้ามาเกี่ยวข้องและความคิดเห็นแง่ลบมากมาย ไซล่าก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธออ่านนั้นช่างน่ารังเกียจมักมีกลุ่มคนในโลกนี้ที่ได้ความสุขมากจากการพูดทำร้ายคนอื่นผ่านความคิดเห็นแง่ลบบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอสำหรับคนพวกนี้แล้ว คีย์บอร์ดเป็นเหมือนอาวุธชนิดหนึ่งของพวกเขา พวกเขาชอบระบายความรู้สึกแง่ลบผ่านทางทัศนคติและตรรกะที่ถูกจำกัดและขัดเกลามาจากโลกความเป็นจริงหลังจากที่ดูความคิดเห็นผ่าน ๆ ไซล่าก็ออกจากหัวข้อนั้นจากนั้น สายตาของเธอก็หันไปยังพาดหัวข่าวรองบนรายการหัวข้อยอดนิยมสูงสุด ‘#ไซล่าเควสฮี่ฮี่#’...ไซล่ารู้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะน่ารังเกีย
“ชื่อคุณเพราะมากเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์กล่าว“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” มอร์ตี้ เวย์นกล่าว“คุณอายุเท่าไหร่คะ?” จอร์จจี้ถาม“สิบเก้าครับ ตอนนี้ผมกำลังเรียนดนตรีคลาสสิกที่วิทยาลัยดนตรีแอตแลนติส ผมอยู่ปีสามครับ” มอร์ตี้ตอบตามความจริง“เพิ่มเพื่อนกับฉันทางวีแชทได้เลยนะคะ ถ้าคุณเต็มใจมาร่วมงานกับทางเรา คุณสามารถติดต่อฉันผ่านทางวีแชทได้เลยนะคะ ไม่แน่ คุณอาจสงสัยอยู่หลายอย่างเกี่ยวกับบริษัทของเรา คุณสามารถถามเรื่องพวกนั้นผ่านทางวีแชทได้เช่นกันค่ะ เบอร์โทรศัพท์บนนามบัตรของฉันคือหมายเลขวีแชทค่ะ” จอร์จจี้กล่าว“ครับ” มอร์ตี้กล่าวพลางพยักหน้าอย่างว่าง่าย“อีกเดี๋ยว ผมจะแอดคุณไปนะครับ” เขากล่าวและยิ้มอย่างเป็นสุข ลักยิ้มของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง “ได้ค่ะ งั้นกลับไปทำงานเถอะค่ะ” จอร์จจี้กล่าวพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย“เอาละครับ ผมจะต้องไปแล้วตอนนี้ หัวหน้าเคลเมนไทน์” มอร์ตี้พยักหน้าอย่างนอบน้อมให้กับจอร์จจี้อีกครั้งหลังจากกล่าวจบ มอร์ตี้ก็ส่งยิ้มก่อนจะหันหลังจากไปนอกจากรอยยิ้มของจอช แบตตันแล้ว นี่เป็นรอยยิ้มที่งดงามที่สุดที่จอร์จจี้เคยเห็นมอร์ตี้มีรูปร่างท
ขณะที่แมรี่พูด รอยมือบนใบหน้าของเธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น และก็เริ่มบวมในทันทีอย่างไรก็ตาม ไซล่า เควสไม่สนใจจะทะเลาะกับเธอต่อ ไซล่าดึงมือของจอร์จจี้ เคลเมนไทน์และเริ่มเดินเข้าไปในร้านอาหาร เสียงรองเท้าส้นสูงซึ่งกระทบกับพื้นอย่างชัดเจนได้ประกาศถึงการเดินจากไปของเธอในขณะเดียวกัน แมรี่ก็ตัดสินใจที่จะวิ่งตามพวกเธอไปเมื่อจอร์จจี้เห็นภาพสะท้อนของแมรี่ในผนังกระจก เธอก็รับหันหลังและจ้องแมรี่พร้อมเงื้อหมัดขึ้นแมรี่หยุดในทันทีและไม่วิ่งตามพวกเธออีก กลับกัน เธอกระทืบเท้าบนพื้นอย่างเดือดดาล“ไซล่า เควส แกมันจบสิ้นแล้ว! ฉันล่ะมีความสุขจริง ๆ เลย!” แมรี่ตะโกนอย่างไรก็ตาม ไซล่าก็เมินเธอไปอย่างสิ้นเชิง“ปี๊บ ปี๊บ ปี๊บ一” ทันใดนั้น โทรศัพท์ของแมรี่ก็ดังขึ้น เมื่อแมรี่เห็นว่ามันเป็นหมายเลขที่คุ้นเคย เธอก็รีบขึ้นรถและรับสายด้วยความสงสัย“สวัสดีค่ะ” เธอกล่าว“ผมจัดการทุกอย่างตามที่คุณขอแล้วครับ” เสียงอันเยือกเย็นของผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากปลายสาย“เข้าใจแล้ว ฉันจะโอนเงินให้คุณค่ะ” แมรี่กล่าวก่อนจะวางสายทันทีหลังจากที่ไซล่าและจอร์จจี้เข้าไปในร้านอาหาร พวกเธอก็นั่งโต๊ะข้างหน้าต่างมีเปียโนตั้ง
“เธอดูเหมือนกับสาวบริสุทธิ์ แต่ว่านะ เธอทำเรื่องที่น่าขายหน้ามากขนาดนี้ได้ไงเหรอ? เธอทำให้ประชากรหญิงอับอายขายหน้า แม้แต่ตอนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ ฉันยังรู้สึกเลยว่าเธอช่างน่าขยะแขยง โชคยังดีที่โรคซิฟิลิสและเอดส์ไม่ใช่โรคติดต่อทางการหายใจ ไม่อย่างงั้น ฉันคงจะกลัวไปมากกว่า” แมรี่ ซัลลิแวนกล่าวก่อนจะกลอกตาไปยังไซล่า เควสจากนั้น แมรี่ก็ถอยหลังและรีบส่ายหน้าพร้อมกับทำเสียงน่ารำคาญ เมื่อไซล่าเห็นหน้าของแมรี่ เธอก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นอีกครั้งแมรี่ไร้ยางอายมากเท่าใดถึงเยาะเย้ยเหยื่อของตัวเองหลังจากที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ทรมานของคนคนนั้นได้นะ? แมรี่ปฏิบัติตัวราวกับว่าเธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย“ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนที่ปั้นน้ำเป็นตัวปล่อยข่าวลือเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของฉันเสียงหายล่ะก็ ฉันจะให้พวกมันชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยค่อยดู” ไซล่ากล่าวอย่างเยือกเย็น“ฮ่าฮ่าฮ่า ข่าวลืองั้นเหรอ? เธอนี่มันตลกจริง ๆ ใครจะเป็นคนคิดข่าวลือแบบนั้นได้?” แมรี่หัวเราะเสียงดังในทันที“ก็เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนที่ว่างมากเสียจนไม่มีเรื่องดี ๆ ให้ทำ ฉันเชื่อนะว่าคนใจสกปรกพวกนั้นต้องไม่ตายดีแน่ ๆ เลยแหละ” ไซล่ากล่าวด้วยสาย
“เราต้องรอไปก่อนนะ ฉันคิดว่าคงไม่ใช่แค่แมรี่ ซัลลิแวนบังคับให้คนพวกนั้นแหกปากตะโกนเรื่องพรรค์นั้นออกมาอย่างเดียวหรอก ไม่แน่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่โดนนางแมรี่เอาเงินฟาดหัวก็ได้ บางคนอาจไม่ชอบฉันแต่แรก นี่อาจเป็นโอกาสงาม ๆ ที่ทำให้พวกเขาไปเปิดตัวออกมาก็ได้นะ” ไซล่ากล่าวก่อนจะเผยรอยยิ้มแสนขมขื่น“ฟังดูสมเหตุสมผลนะคะ พูดตามตรง คนบางคนเกลียดคนอื่นได้โดยไม่มีเหตุผลด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะว่าคุณดูมีชีวิตแสนสุขสบาย บวกกับชีวิตของคนพวกนั้นไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น คนพวกนั้นก็เลยเลือกคุณเป็นเป้าหมายที่ใช้ระบายอารมณ์พวกเขาก็ได้นะคะ มนุษย์นี่แย่จริง ๆ แม้บางคนจะบอกว่าปีศาจน่าสะพรึงกลัว แต่ฉันกลับคิดว่าหัวใจของมนุษย์ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด” จอร์จจี้กล่าว“ใช่ จิตใจของคนมันซับซ้อนจริง ๆ จอร์จจี้ ว่าแต่ เธอกินข้าวเช้ามายัง?” ไซล่าหันไปมองจอร์จจี้“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่ได้ทานเลย ไปทานด้วยกันดีไหมคะ? คุณอาจรู้สึกดีขึ้นมาก็ได้นะ” จอร์จจี้กล่าวขณะจับมือของไซล่าไซล่าพยักหน้าก่อนจะขับออกไปเนื่องด้วยความโกลาหลก่อนหน้า ไซล่าจึงอารมณ์ไม่ค่อยดีในตอนนี้เธอรู้สึกว่าจำเป็นต้องระบายอารมณ์แม้ว่าไซล่าจะกลับไปที่สำนักงานในทั
“ไซล่า เควส แกคิดว่าฉันจะฆ่าแกไม่ได้ใช่ไหม?” ฉับพลัน หญิงสาวคนหนึ่งก็ตะโกนขณะที่วิ่งมาข้างหน้าและชี้หน้าของไซล่าหลังจากนั้น หญิงคนนั้นก็เงื้อมือขึ้นและจะตบไซล่า กระนั้น ไซล่าก็คว้ามือของผู้หญิงคนนั้นทันเวลาและทุ่มเธอลงกับพื้นข้ามไหล่เธอไปโดยไม่พูดอะไรหรือมีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใดการกระทำของไซล่าทำให้คนรอบ ๆ ตัวเธอเริ่มหวาดกลัว พวกเขาพากันตกตะลึงกับสิ่งที่เธอทำ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนหญิงสาวคนนั้นไม่สามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีในตอนที่หญิงสาวคนนั้นตั้งสติได้ เธอก็เริ่มปวดไปทั่วร่างกาย“แก...แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน?” เธอชี้ไซล่าขณะพยายามดันตัวเองขึ้น“นั่นเรียกว่าการป้องกันตัว เธอไม่มีปัญญาฆ่าฉันหรอก” ไซล่ากล่าวขณะก้มมองหญิงสาวคนนั้นอย่างสงบ“มีใครอยากจะทำร้ายฉันอีกไหม? เข้ามาสิ ฉันพร้อมสู้พวกคุณคนไหนก็ได้” ไซล่ากล่าวพร้อมขึ้นเสียงขณะจ้องมองดูคนรอบ ๆ ตัวเธออย่างมั่นใจในขณะเดียวกัน คนเหล่านั้นก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่มีใครกล้าขยับด้วยซ้ำ“พวกขี้ขลาดเอ๊ย” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์เปล่งเสียงทางจมูกอย่างเยือกเย็น“วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ一”ในตอนนั้น เสียงไซเรนของรถตำรวจก็ดังขึ้นโดย
เมื่อไซล่า เควสได้ยินคำหยาบมากมาย เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่าคนพวกนี้กำลังปล่อยหมัดใส่ศีรษะเธอไม่ยั้งขณะมองไปยังใบหน้าที่โหดเหี้ยมรอบ ๆ ตัว เธอก็คิดว่ามันคงไร้ประโยชน์ที่จะปกป้องตัวเองด้วยสิ่งที่เรียกว่าหลักเหตุและผลความรู้สึกเช่นนี้ทำให้ไซล่าอึดอัดไม่มีเหตุผลที่จะต้องอธิบายตัวเองให้กับคนพวกนี้เพราะพวกเขาไม่ใช่คนปกติดีดังนั้น ไซล่าดันจอร์จจี้ไปข้าง ๆ ก่อนจะยืนตรงหน้าหญิงวัยกลางคนนั้น“มีกล้องวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าของบริษัทของเรา วิดีโอจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน รถของฉันไม่ได้ราคาถูก แค่กระโปรงรถอย่างเดียวมีค่าอย่างน้อยก็หลายแสนดอลลาร์ คุณจะจ่ายฉันด้วยเงินสด หรือจะให้ฉันฟ้องเรียกค่าเสียหายก่อนล่ะ?” ไซล่าถามหญิงวัยกลางคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซล่ากล่าว“หลายแสนดอลลาร์งั้นเหรอ? แกจะปล้นฉันรึไง? จ่ายเงินให้แกงั้นเหรอ? ไม่มีวัน” หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากกลืนน้ำลาย“ก็ได้ค่ะ งั้นก็ไม่เป็นไร พอคุณติดคุกแล้ว ฉันจะปล่อยให้กฎหมายจัดการทั้งหมดต่อเอง นอกจากจะต้องติดคุกแล้ว คุณก็จะติดบัญชีดำด้วย ในตอนนั้น ทุกอย่างที่คุณทำในประเทศนี้จะได้รับผลกระทบ คิดให้ดี ๆ นะคะ” ไซล่ากล่
เนื่องจากไซล่า เควสไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ได้ เธอจึงตัดสินใจจะเลี่ยงพวกเขาแทน ขณะที่ไซล่ากำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ทันใดนั้น หญิงวัยกลางคนอ้วนคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นหน้ารถเธอและเริ่มใช้ไม้ยาวทุบฝากระโปรงรถ“ปัง ปัง ปัง…”“ไซล่า เควส นางผู้หญิงหน้าไม่อาย แกกล้าดียังไงมาแตะต้องหนุ่มคนโปรดของฉัน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน? ฉันจะฆ่าแก นางแพศยา! ฉันจะฆ่าแก!” หญิงคนนั้นโวยวายขณะที่ยังคงทุบรถของไซล่าต่อไปรอยบุบเริ่มปรากฏขึ้นบนฝากระโปรงรถของไซล่าไซล่าอ้าปากค้างกับภาพที่ได้เห็น แม้ว่าเธอประสบพบเจอคนที่ประสาทไม่ดีมากมาย แต่เธอก็แทบไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อนเลยเมื่อไซล่าเห็นท่าสีหน้าที่เดือดดาลและเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนนั้น เลือดของเธอก็เริ่มเดือด “นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย? หล่อนมาจากไหน? โรงพยาบาลบ้างั้นเหรอ?” จอร์จจี้ เคลเมนไทน์สาปส่งภายใต้ลมหายใจของเธอในขณะเดียวกัน ไซล่าไม่พูดอะไร สีหน้าของเธอเริ่มเยือกเย็น เธอค่อย ๆ ลงจากรถและเข้าหาผู้หญิงคนนั้นรูปลักษณ์ที่ขัดกันของพวกเธอทำให้ภายนั้นดูโดดเด่นเป็นพิเศษแม้ไซล่าจะดูนิ่ง แต่สายตาของเธอกลับเยือกเย็นมาก“ใครเป็นคนส่งคุณมาทำเรื่องแบบนี้? คุ
หลังจากรับประทานมื้อเช้าเสร็จ ไซล่า เควสก็ขึ้นรถมาเซราติคันสีแดงและขับไปยังสำนักงานใหญ่ของเควส กรุ๊ปเธอเห็นได้ถึงบรรดาชายและหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันหน้าทางเข้าหลักของสำนักงานจากระยะไกลคนกลุ่มนั้นมีโปสเตอร์คัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่มีคำว่า ‘คว่ำบาตรไซล่า เควส’ เขียนไว้ในทุกป้าย“ไซล่า เควส ออกมาอธิบายกับพวกเราเดี๋ยวนี้นะ” พวกเขาตะโกนขณะชูโปสเตอร์ขึ้นกลางอากาศไซล่าคาดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าเรื่องแย่ ๆ อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากเท่าใดก็ตาม แต่ไซล่าก็คงไม่ประหลาดใจ แต่กระนั้น ไซล่ารู้สึกมึนงงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงของเธอ มันเห็นได้ชัดว่า แมรี่ ซัลลิแวนได้ติดสินบนคนส่วนใหญ่เหล่านี้เพื่อสร้างความวุ่นวายที่นี่แมรี่ไม่มีความสามารถพอที่จะทำให้เรื่องมาไกลขนาดนี้ด้วยกลุ่มของแฟนคลับพวกนั้นเพียงอย่างเดียว ในตอนแรก ไซล่าคิดว่ามันคงจะวุ่นวายแค่ในอินเทอร์เน็ต เธอไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องต่าง ๆ จะเลวร้ายจนถึงขั้นเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความจริงเช่นนี้เมื่อเห็นความคิดเห็นแง่ลบและเห็นเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ช่างเป็นสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเมื่อ