“ถ้างั้น ก็ยังมีเงินที่ฉันติดหนี้นายเรื่องรถอยู่นะ ฉันต้องคืนให้นายจริง ๆ นะ” ไซล่า เควสพูดเสริมชายคนนั้นหยุดตอบกลับหาเธอไซล่ารู้สึกหัวเสียเล็กน้อย แตะที่ชื่อของไฟฟ์บนหน้าจอ “นายนี่มันประหลาดคนจริง ๆ”หลังจากนั้น ไซล่าก็โอนเงินสองแสนดอลลาร์ให้กับสแตนลีย์ทางวีแชท และบันทึกโน๊ตเสียงว่า “ในเมื่อนายไม่ให้เลขบัญชีกับฉัน ฉันจะโอนสองแสนให้กับนายทุกวันจนกว่าจะครบจำนวนก็แล้วกัน”ก่อนที่เธอจะพูดจบ เขาได้โอนเงินทั้งหมดคืนให้กับเธอไซล่าโกรธมากจนเธอส่งอิโมจิรูปมีดให้กับเขาหลังจากห้านาทีต่อมาโดยประมาณ เขาตอบกลับ “เป็นเด็กดีนะ เงียบ ๆ ไว้”คำพูดชวนเสน่หาของเขาทำให้ไซล่าไม่ทันตั้งตัวเธอส่งอิโมจิรูปมีดไปอีกอัน “ฉันไม่ชอบเป็นหนี้คนอื่น”อย่างไรก็ตาม สแตนลีย์ไม่ตอบกลับเธออีกแล้ว เมื่อเธอเปิดเพจโซเชียลมีเดียของเขา ก็ไม่มีโพสต์ใหม่ในนั้นเลยโพสต์ล่าสุดคือข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่เขากลับมาโพสต์ใหม่เมื่อหนึ่งปีก่อนหลังจากหลายนาที เมื่อไซล่ารู้ตัวว่าเขาคงจะไม่ตอบกลับมาหาเธอแล้ว เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ถ้าเธอได้เจอคน ๆ นี้อีกครั้ง เธอคงจะบังคับให้เขารับเงินของเธอ…เช้าวันต่อมา เอมิลี่ เคว
เนื่องจากมันยากที่เธอจะรู้สึกผ่อนคลายแบบนี้ ไซล่า เควสจึงตัดสินใจที่จะไม่ตั้งนาฬิกาปลุกตอนที่เธอลืมตาตื่น มันก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้วหลังจากที่มองดูเวลา ไซล่าเหยียดแขนและค่อย ๆ คลายและลุกขึ้นมานั่ง ขณะที่พระอาทิตย์ส่องแสงกระทบใบหน้าที่งดงามของเธอ ผิวพรรณสวยเปล่งปลั่งจนดูเป็นประกายก๊อก ก๊อก ก๊อกไซล่ากำลังจะสวมรองเท้าแตะและลงจากเตียง ทันใดนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน เสียงของคนรับใช้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น “คุณหนูคะ คุณท่านอยากให้คุณหนูลงไปข้างล่างค่ะ”“เข้าใจแล้วจ่ะ”หลังจากนั้น ไซล่ารีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำให้สดชื่น หลังจากที่ทาผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหน้าแล้วหนึ่งชั้น เธอจึงสวมชุดคลุมนอนผ้าไหมทับชุดนอนและรีบลงมายังชั้นล่างเมื่อเธอมาถึง เจเรมี่ เควส เมย์ คอนเนอร์และเอมิลี่ เควสต่างอยู่พร้อมหน้าในขณะที่เจเรมี่นั่งจิบกาแฟอยู่บนโซฟาเดี่ยว เอมิลี่และเมย์ก็นั่งอยู่ข้างกันบนโซฟายาวด้านข้างเขา และดูเหมือนกำลังจะคุยอะไรกันอยู่ ช่างเป็นช่วงเวลาที่เอื่อยเฉื่อยหลังจากที่ไซล่าเหลือบมองไปที่เมย์และเอมิลี่อย่างเยือกเย็นแล้ว เธอรีบเดินไปที่โซฟาที่อยู่ตรงกันข้ามกับเจเรมี่และน
“ไซล่า เรื่องนี้จริงไหมลูก?” เจเรมี่ เควสพยายามอย่างหนักที่จะข่มความโกรธขณะที่จับจ้องไปยังไซล่าเขาหวังว่าทุกอย่างเกี่ยวเรื่องนี้เป็นเพียงแค่นิยายเพ้อฝันเท่านั้นอย่างไรก็ตาม ไซล่าไม่พูดแต่กลับพยักหน้าอย่างอ่อนโยนแทนก่อนที่เธอจะจิบชาต่อ“ลูกแต่งงานที่ต่างประเทศจริง ๆ ใช่ไหม? มันเป็นเรื่องใหญ่มาก ทำไมลูกไม่เห็นบอกเรื่องนี้กับพ่อมาก่อนเลยล่ะ?”“ลูกพยายามจะทำอะไร? ลูกอยากจะต่อต้านพ่อใช่ไหม?” เส้นเลือดบนคอของเจเรมี่ปูดโปนอย่างชัดเจน หลังจากนั้น เขาโยนเอกสารลงบนโต๊ะกาแฟอย่างเดือดดาลทันใดนั้น อุณหภูมิในห้องนั่งเล่นก็ลดลง มันรู้สึกราวกับว่าอากาศกำลังถูกบีบอัด เจเรมี่ฝากความหวังไว้กับไซล่าอย่างมาก ในตอนแรก เขาวางแผนที่จะสรรหาชายเหนือชายให้รับหน้าที่เป็นสามีของไซล่ากระนั้น เขาไม่คิดว่าเธอจะรีบแต่งงานอย่างหุนหันพลันแล่นโดยไม่ปรึกษาเขาก่อนเลยเธอปิดบังเรื่องสำคัญเช่นนี้จากพ่อของเธอได้อย่างไร? เธอคิดว่าเขาเป็นพ่อของเธออยู่รึเปล่า?“ทำไมน่ะเหรอคะ? ก็ต้องเป็นเพราะว่าสามีของเธอเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า คุณพ่อคะ หนูพนันได้เลยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพวกอันธพาล ไม่ก็อะไรสักอย่างแน่ค่ะ” เอมิลี่ เควส
ไซล่า เควสไม่กล้าที่จะบอกความจริงทั้งหมดให้กับพ่อของตนฟังเนื่องจากเจเรมี่ เควสเป็นชายที่ยึดถือขนบธรรมเนียมอย่างหนัก เขาคงจะโกรธมากหากรู้ว่าไซล่าแต่งงานกับคนแปลกหน้าก็เพื่อฟื้นคืนรูปโฉมของตน ที่สำคัญไปมากกว่านั้น ยังเป็นเรื่องที่เกียวกับว่าเธอยังคงแต่งงานอยู่ซึ่งขาดรากฐานความมั่นคงและอาจจบลงด้วยการหย่าร้างด้วยซ้ำบางที เจเรมี่อาจจะคิดว่าไซล่าไม่รักตัวเองและเป็นผู้หญิงไม่รักนวลสงวนตัวแทนที่จะบอกความจริงซึ่งอาจทำให้เข้าหัวเสีย ไซล่าคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีกว่าที่จะสร้างเรื่องที่เธอและสามีของเธอกำลังใช้ชีวิตแต่งงานอย่างมีควาสุข นี่คงจะทำให้เจเรมี่รู้สึกดีกว่ามากดังนั้น ไซล่าจำเป็นต้องแน่ใจว่าเรื่องนั้นเป็นตรรกะที่สมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้น เธอต้องดูมีความสุขมากกับเรื่องนี้หลังจากที่พูดจบประโยค ทันใดนั้นไซล่ายืนขึ้นและคุกเข่าลงต่อหน้าเจเรมี่ “หนูขอโทษค่ะ คุณพ่อ หนูไม่ควรทำเรื่องแบบนี้ลับหลังคุณพ่อเลย” เธอมีสีหน้าที่จริงจังไซล่ากำลังพูดคำเหล่านั้นจากก้นบึ้งของหัวใจ พูดตามตรงคือ เธอรู้สึกผิดที่ปิดบังเรื่องเช่นนี้จากพ่อมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น เธอไม่มีทางเลือกอื่นเลยถ้าไซล
“เขาบอกว่าเขาอยากพึ่งพาตัวเองน่ะค่ะ” ไซล่ากล่าวแววตาของเจเรมี่เต็มไปด้วยความเห็นชอบ “เขาดูเป็นชายหนุ่มแสนดีนะ ครั้งหน้า พาเขามาที่บ้านสิลูก พ่อจะได้เจอเขา”“ได้ค่ะ”เอมิลี่แทรก “เมื่อไหร่เหรอ?”เพื่อสืบค้นดูว่าไซล่ากำลังโกหกอยู่หรือไม่ เอมิลี่คงต้องสอบปากคนที่เธอเรียกว่าสามีเมื่อเวลานั้นมาถึง ถ้าชายคนนั้นไม่มีความรู้ทางการแพทย์ นั่นจะหมายความว่าเขาโกหก ไซล่าก็คงจะจบเห่เป็นแน่!เธอเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าวันที่ไซล่าจะทำลายตัวเองอย่างโง่ ๆ ใกล้เข้ามาแล้ว“ทำไมไม่พาพี่เขยมาร่วมงานแต่งงานฉันด้วยล่ะ? งานแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตของน้องสาวตัวเองเลยนะ คงไม่มีเหตุผลอื่นที่ไม่พาพี่เขยมาร่วมงานหรอก ใช่ไหม?” เอมิลี่กดดันและไม่ปล่อยให้ไซล่ามีโอกาสที่จะปัดเรื่องนี้ตกไปไซล่าตอบอย่างสบาย ๆ “เอาสิ”“เอาล่ะ ถ้างั้น พ่อจะตรงไปที่บริษัทก่อนนะ” เจเรมี่กล่าว เขาตบมือของไซล่าอย่างเสน่หาก่อนที่ออกจากบ้านไซล่าไม่มีเวลาเหลือให้กับคู่หูแม่ลูกเช่นกัน เธอยืนขึ้นและกำลังจะขึ้นไปชั้นบน จากนั้น จัดของให้เรียบร้อยก่อนจะขับรถมุ่งหน้าไปยังอิมพีเรียล ไพรม์ ต่อไปก็ที่เอ็กซ์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทันทีที่เธอกำลังจะยืนข
หัวใจของไซล่าบีบคั้นอย่างเจ็บปวด แววตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อย้อนกลับไปตอนนั้น น้องชายของจอร์จจี้ศึกษาอยู่ที่ประเทศวายพร้อมกับพวกเขา แม้ว่าจะเรียนอยู่ต่างโรงเรียน พวกเขาก็จะใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ร่วมกัน เขาเป็นเด็กที่ร่าเริงและฉลาด ไซล่ามักจะคิดว่าเขาเป็นน้องชายแท้ ๆ ของเธอเอง ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เขาได้ส่งข้อความหาเธอทางวีแชทเพื่อเตือนให้เธอดูแลสุขภาพอยู่เลยตัวตนที่สดใสเช่นนี้จากไปได้อย่างไร?น้ำตาเริ่มไหลรินจากดวงตาของไซล่าในทันที “ได้สิ ฉันจะให้เธอลาหนึ่งเดือน ตอนนี้อยู่ไหน? ฉันจะไปหาเธอ”“มีหลายอย่างในบริษัทที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณนะคะ เพราะงั้นไม่ต้องมาหรอกค่ะ ฉันจะจุดธูปอีกสองสามดอกให้น้องชายฉันแทนคุณเอง” ขณะที่เธอพูด เสียงของจอร์จจี้ก็ค่อยจืดจางไปเป็นเสียงคร่ำครวญ“อยู่ที่ไหนกันแน่?” ไซล่าเอ่ยถามอีกครั้ง“ท่านประธานไซล่าคะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะทำตามอำเภอใจนะคะ ฟังฉันสิ...ขอร้องแหละ?”“หยุดพูดอะไรไม่เข้าท่าสักที บอกฉันมาว่าเธออยู่ที่ไหน”“อยู่ที่บ้านค่ะ”ด้วยเหตุนั้น ไซล่าจึงวางสายในทันที เก็บกระเป๋าและรีบออกจากบ้านไป…เวลาบ่ายสองโมง ไซล่าและจอร์จจี้ม
“ที่จริงแล้ว ความรู้ทางการแพทย์เป็นเรื่องรอง ฉันสามารถทำให้เขาจำทฤษฎีและเนื้อหาทางการแพทย์อย่างง่าย ๆ ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาต้องดูเพียบพร้อม และต้องไม่เคยมีใครเห็นหน้าเขามาก่อน”ด้วยเหตุนี้ ความคิดของไซล่าเริ่มปั่นป่วน ไม่ว่าเธอจะระดมความคิดมากแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถหาคนแบบนี้ได้ในวงการได้เลย ซึ่งทำให้เธอปวดหัว“ไม่เคยมีคนเห็น...และต้องดูเพียบพร้อม...เราจะเอาใครดี?” จอร์จจี้รำพึง หัวของเธอก็เริ่มปวดด้วยเช่นกันฉับพลัน ไซล่าก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา “ฉันรู้แล้ว!”“ใคร?”“ไฟฟ์ แบตตันนั่นไง...”เมื่อนึกถึงเขา แววตาของไซล่าก็เป็นประกาย แม้ว่าเธอไม่คุยเคยกับเขานานเท่าไหร่ สัญชาตญานก็บอกกับเธอว่าผู้ชายคนนี้เชื่อถือได้ อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้เขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเธอเชียวนะ แม้ว่าตัวตนของเขาดูเป็นเอกลักษณ์เล็กน้อย เธอก็ไม่รู้สึกถึงความเย่อหยิ่งหรือพฤติกรรมที่หยาบคายจากเขา ยิ่งไปกว่านั้น ชายคนนี้ไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่อัธยาศัยโดยแท้จริง ที่สำคัญที่สุดคือ เขาหล่อเหลาและมีรัศมีแห่งความสง่างาม“ไม่มีอะไรที่จะติเรื่องรูปลักษณ์ของเขาได้ก็จริง แต่เธอบ
เขาค่อย ๆ หยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากที่อ่านเนื้อหาของข้อความแอพวีแชท หน้าผากของเขาก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย สีหน้าที่เย็นชาของเขาดูเหมือนจะอบอุ่นขึ้นด้วยเช่นกันภายใต้การพิเคราะห์ของทุกคน เขาจึงตอบกลับข้อความทางวีแชทด้วยคำว่า ‘โอเค’ทุกคนมองหน้ากันอย่างไม่อยากเชื่อ นับตั้งแต่ที่สแตนลีย์เข้ามายังบริษัท เขาได้ตั้งกฎที่ว่าการใช้โทรศัพท์เป็นเรื่องต้องห้ามระหว่างการประชุม กฏข้อนี้มีผลกับเขาเช่นกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาจะวางสายในทันทีหรือไม่ก็เมินมันไปดังนั้น เกิดอะไรขึ้นกับเขาในวันนี้?อีกด้านหนึ่ง ไซล่ารู้สึกตื่นเต้นเมื่อเธอได้รับการตอบกลับของเขาดังนั้น เธอจึงส่งข้อความเสียงให้กับเขาง่าย ๆ ว่า “เราเจอกันที่ร้านอาหารแกรนด์วิว เวสเทิร์นคืนนี้ตอนหนึ่งทุ่มไหม?” เสียงของเธอช่างอ่อนโยนและไพเราะเหมือนเช่นเคยสแตนลีย์ค่อย ๆ วางโทรศัพท์ไว้ใกล้หูและฟังอย่างตั้งใจ หลังจากนั้นก็ตอบกลับไปอีกว่า ‘โอเค’ไซล่าส่งอีกข้อความเสียงว่า “ฉันจะส่งข้อความทางวีแชทหานายตอนที่จองห้องเสร็จแล้วนะ”‘โอเค’ เขาตอบกลับอีกครั้งก่อนที่จะใส่โทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าชั้นในเสื้ออย่างเ