หัวใจของไซล่าบีบคั้นอย่างเจ็บปวด แววตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อย้อนกลับไปตอนนั้น น้องชายของจอร์จจี้ศึกษาอยู่ที่ประเทศวายพร้อมกับพวกเขา แม้ว่าจะเรียนอยู่ต่างโรงเรียน พวกเขาก็จะใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ร่วมกัน เขาเป็นเด็กที่ร่าเริงและฉลาด ไซล่ามักจะคิดว่าเขาเป็นน้องชายแท้ ๆ ของเธอเอง ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เขาได้ส่งข้อความหาเธอทางวีแชทเพื่อเตือนให้เธอดูแลสุขภาพอยู่เลยตัวตนที่สดใสเช่นนี้จากไปได้อย่างไร?น้ำตาเริ่มไหลรินจากดวงตาของไซล่าในทันที “ได้สิ ฉันจะให้เธอลาหนึ่งเดือน ตอนนี้อยู่ไหน? ฉันจะไปหาเธอ”“มีหลายอย่างในบริษัทที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณนะคะ เพราะงั้นไม่ต้องมาหรอกค่ะ ฉันจะจุดธูปอีกสองสามดอกให้น้องชายฉันแทนคุณเอง” ขณะที่เธอพูด เสียงของจอร์จจี้ก็ค่อยจืดจางไปเป็นเสียงคร่ำครวญ“อยู่ที่ไหนกันแน่?” ไซล่าเอ่ยถามอีกครั้ง“ท่านประธานไซล่าคะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะทำตามอำเภอใจนะคะ ฟังฉันสิ...ขอร้องแหละ?”“หยุดพูดอะไรไม่เข้าท่าสักที บอกฉันมาว่าเธออยู่ที่ไหน”“อยู่ที่บ้านค่ะ”ด้วยเหตุนั้น ไซล่าจึงวางสายในทันที เก็บกระเป๋าและรีบออกจากบ้านไป…เวลาบ่ายสองโมง ไซล่าและจอร์จจี้ม
“ที่จริงแล้ว ความรู้ทางการแพทย์เป็นเรื่องรอง ฉันสามารถทำให้เขาจำทฤษฎีและเนื้อหาทางการแพทย์อย่างง่าย ๆ ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาต้องดูเพียบพร้อม และต้องไม่เคยมีใครเห็นหน้าเขามาก่อน”ด้วยเหตุนี้ ความคิดของไซล่าเริ่มปั่นป่วน ไม่ว่าเธอจะระดมความคิดมากแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถหาคนแบบนี้ได้ในวงการได้เลย ซึ่งทำให้เธอปวดหัว“ไม่เคยมีคนเห็น...และต้องดูเพียบพร้อม...เราจะเอาใครดี?” จอร์จจี้รำพึง หัวของเธอก็เริ่มปวดด้วยเช่นกันฉับพลัน ไซล่าก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา “ฉันรู้แล้ว!”“ใคร?”“ไฟฟ์ แบตตันนั่นไง...”เมื่อนึกถึงเขา แววตาของไซล่าก็เป็นประกาย แม้ว่าเธอไม่คุยเคยกับเขานานเท่าไหร่ สัญชาตญานก็บอกกับเธอว่าผู้ชายคนนี้เชื่อถือได้ อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้เขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเธอเชียวนะ แม้ว่าตัวตนของเขาดูเป็นเอกลักษณ์เล็กน้อย เธอก็ไม่รู้สึกถึงความเย่อหยิ่งหรือพฤติกรรมที่หยาบคายจากเขา ยิ่งไปกว่านั้น ชายคนนี้ไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่อัธยาศัยโดยแท้จริง ที่สำคัญที่สุดคือ เขาหล่อเหลาและมีรัศมีแห่งความสง่างาม“ไม่มีอะไรที่จะติเรื่องรูปลักษณ์ของเขาได้ก็จริง แต่เธอบ
เขาค่อย ๆ หยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากที่อ่านเนื้อหาของข้อความแอพวีแชท หน้าผากของเขาก็ค่อย ๆ ผ่อนคลาย สีหน้าที่เย็นชาของเขาดูเหมือนจะอบอุ่นขึ้นด้วยเช่นกันภายใต้การพิเคราะห์ของทุกคน เขาจึงตอบกลับข้อความทางวีแชทด้วยคำว่า ‘โอเค’ทุกคนมองหน้ากันอย่างไม่อยากเชื่อ นับตั้งแต่ที่สแตนลีย์เข้ามายังบริษัท เขาได้ตั้งกฎที่ว่าการใช้โทรศัพท์เป็นเรื่องต้องห้ามระหว่างการประชุม กฏข้อนี้มีผลกับเขาเช่นกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาจะวางสายในทันทีหรือไม่ก็เมินมันไปดังนั้น เกิดอะไรขึ้นกับเขาในวันนี้?อีกด้านหนึ่ง ไซล่ารู้สึกตื่นเต้นเมื่อเธอได้รับการตอบกลับของเขาดังนั้น เธอจึงส่งข้อความเสียงให้กับเขาง่าย ๆ ว่า “เราเจอกันที่ร้านอาหารแกรนด์วิว เวสเทิร์นคืนนี้ตอนหนึ่งทุ่มไหม?” เสียงของเธอช่างอ่อนโยนและไพเราะเหมือนเช่นเคยสแตนลีย์ค่อย ๆ วางโทรศัพท์ไว้ใกล้หูและฟังอย่างตั้งใจ หลังจากนั้นก็ตอบกลับไปอีกว่า ‘โอเค’ไซล่าส่งอีกข้อความเสียงว่า “ฉันจะส่งข้อความทางวีแชทหานายตอนที่จองห้องเสร็จแล้วนะ”‘โอเค’ เขาตอบกลับอีกครั้งก่อนที่จะใส่โทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าชั้นในเสื้ออย่างเ
“คือว่า...ที่จริงฉันแต่งงานแล้วน่ะ แต่ฉันไม่รู้ว่าสามีของฉันหน้าตาเป็นยังไง ไม่รู้แม้กระทั้งหน้าที่การงานของเขา ฉันรู้แค่ว่าเขาชื่อสแตนลีย์ แบตตัน ข้อมูลเฉพาะก็ซับซ้อนมาก เพราะงั้นฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายกับนายยังไงดี แต่ตอนนั้นฉันแค่สัญญาว่าจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้เพื่อทำบางอย่างให้สำเร็จ” ไซล่าอธิบายอย่างจริงจัง“แล้วไงต่อ?” สแตนลีย์ถามไซล่าเริ่มเล่าให้เขาฟังเรื่องที่เธอถูกเอมิลี่เปิดโปงเมื่อไม่กี่วันก่อน และเรื่องตัวแทนที่เธอวางแผนไว้ล่วงหน้าได้จากไปอย่างไร เธอพูดอย่างจริงจังในขณะที่เขาก็ฟังอย่างตั้งใจและพยักหน้าระหว่างที่ฟังเล็กน้อยหลังจากที่ได้ยินเรื่องราวของเธอ เขาพูดอย่างไม่ลังเลว่า “ได้สิ”ความเมินเฉยของเขานั้นเกินกว่าความคาดหวังของไซล่า ดังนั้นจึงทำให้เธอตกใจเล็กน้อย“จริงเหรอ?”“จริงสิ”“ฉันไม่ให้นายทำงานฟรีหรอกนะ เดี๋ยวจ่ายเงินให้นะ รับรองเลยว่านายจะได้เงินมากกว่าปกติอีก”สแตนลีย์ค่อย ๆ เลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่เธอ “เท่าไหร่ล่ะ?”“สองแสนต่อเดือนเป็นไง?”“สองแสนต่อเดือนเหรอ?” สแตนลีย์พูดซ้ำอย่างขบขัน เขาหาเงินได้มากกว่านั้นภายในหนึ่งนาที“แบบนั้นเป็นไง?” ไซล่าถามอย่างมั
“โอเค รีบกลับบ้านเถอะ”เมื่อพูดแบบนั้น สแตนลีย์ก็แหวกหิมะและเดินไปที่ริมถนนอย่างรวดเร็ว ไฟถนนทอดยาวเงาของเขา ไซล่ากำลังมองเขาเดินไป ความอบอุ่นพลันแผ่ซ่านเข้าสู่หัวใจของเธอหลังจากที่ถอดเสื้อโค้ทออก เธอจึงรีบตามเขาไปและยัดใส่มือของเขา “สวมนี่สิ ฉันไม่หนาวหรอก ให้ฉันไปส่งกลับบ้านไม่ดีกว่าเหรอ? ไม่เห็นจำเป็นต้องรบกวนเพื่อนของนายเลยนิ”“เดี๋ยว เพื่อนฉันก็มารับแล้ว” เขากล่าวขณะที่เตรียมจะคลุมเสื้อโค้ทที่ไหล่เธออีกครั้ง ไซล่าหลบอย่างว่องไวก่อนที่จะวิ่งไปที่รถมาเซราติคันสีแดงของเธออย่างรวดเร็วโดยไม่ให้เขามีโอกาสเลย เมื่อจ้องไปที่เงาเรียวยาวนั่น ปากที่หนาวสั่นของสแตนลีย์ก็ยกขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ไซล่าขึ้นรถ เธอจึงหายไปในยามค่ำคืนหลังจากที่เธอออกไปไม่นาน ก็มีรถโรลส์ รอยส์สีดำมาหยุดตรงหน้าสแตนลีย์ เห็นได้ว่าแซ็คกำลังเดินนำกลุ่มของชายชุดดำขณะที่พวกเขายืนโค้งคำนับต่อหน้าสแตนลีย์อย่างเคารพแซ็คเปิดประตูรถให้กับสแตนลีย์ที่เหลือบมองเขาอย่างเฉยเมยก่อนที่จะเข้าไปข้างในอย่างสง่างาม เขาเอนตัวพิงพนักพิงหนังแท้แสนนุ่มสีดำ เขานั่งไขว้ขวาและเปิดหนังสือ ‘พื้นฐานทางการแพทย์’ อ่านแซ็ครีบขึ้นรถ เมื่อเ
‘ถ้าเรื่องนี้ไม่ถูกเปิดโปงและมีใครย้ายเข้าไป พวกคุณจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นไหม? คว่ำบาตรอสังหาริมทรัพย์ตระกูลเควส! คว่ำบาตรอิมพีเรียล ไพรม์’‘อิมพีเรียล ไรม์งั้นเหรอ? ฉันคิดว่ามันควรจะเป็นไพรม์หลอกลวงแทน! พวกหน้าไม่อาย พวกแกกล้าดียังไงถึงทำงานชุ่ย ๆ แบบนี้! ตระกูลเควสที่ผิดศีลธรรมควรจะล้มลายไปเดี๋ยวนี้!’‘จอช แบตตันต้องเป็นโรคจิตแน่ ๆ ถึงสนับสนุนพวกมันได้! ถ้าบางอย่างเกิดขึ้นจริง ๆ ในตอนที่ผู้อยู่อาศัยย้ายเข้า พวกแกจะรับผิดชอบไหม? แบบนั้นเหรอที่พวกแกเรียกว่าคุณภาพดี? เหลวไหลสิ้นดี!’ตอนนี้ ไม่ใช่แค่ตระกูลเควสกำลังลุกเป็นไฟ แม้แต่แอมบาสเดอร์ของพวกเขาเอง จอช แบตตันก็ถูกลากเข้ามาในเรื่องนี้ด้วยเรื่องทั้งหมดนี้ทำให้ไซล่าโกรธมาก คิดว่าตอนนี้ตระกูลคงรู้แล้ว เธอจึงรีบลงจากรถและรีบเข้าไปยังห้องนั่งเล่นบรรยากาศที่บ้านช่างมืดมน ในตอนนั้น เจเรมี่ เอมิลี่และเมย์ต่างนั่งอยู่เป็นแถวบนโซฟายาว ท่าทีของเจเรมี่มืดมน ขณะที่สีหน้าของเอมิลี่และแม่ของเธอก็ดูแย่พอกันไซล่ารีบเข้าไปและนั่งข้าง ๆ เจเรมี่ “หนูเห็นข่าวแล้วค่ะ คุณพ่อคะ คุณพ่อโทรหาใครเพื่อลบผลการค้นหานั่นรึยังคะ? เราจำเป็นต้องปิดข่าวน
ไซล่าขึ้นไปชั้นบนโดยไม่เหลือบมองเอมิลี่เลยแม้แต่น้อยความรู้สึกของการถูกเมินนี้ทำให้เอมิลี่หงุดหงิดมาก เธอยืนขึ้นอย่างพรวดพราดและตะโกนตามหลังไซล่าอย่างเสียงดังว่า “ไม่ว่าแกจะพยายามทำตัวใจเย็นแค่ไหน แต่ข้างในของแกก็ยังคงกังวลนั่นอยู่ดี!”เธอเยาะเย้ยไซล่าต่อและพูดว่า “เพื่อที่จะให้ทุกคนรู้สึกซาบซึ้ง แกก็เลยเต็มใจที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ใช่ไหม? แกไม่กลัวว่าจะจัดการเรื่องวุ่นวายนี้ไม่ได้ และในท้ายที่สุดก็ลงเอยด้วยการทำลายตัวเธอเองเลยใช่ไหม? โง่เสียจริง! ดวงตกงั้นเหรอ? แกเกิดมาตอนที่ดวงอัปมงคลโคจรมาพอดีรึเปล่านะ? ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นได้ในช่วงที่เธอรับช่วงต่อโครงการล่ะ?”คำพูดของเอมิลี่เป็นเหมือนกับเข็มที่กำลังทิ่มแทงเข้าไปในหูของไซล่า ถึงกระนั้น ไซล่าไม่ต้องการเสียเวลากับเธอ เธอค่อนข้างจะต้องใช้พลังงานในการแก้ปัญหาที่รบกวนเธออยู่ตอนนี้เช่นนั้น เอมิลี่ก็ยืนอยู่ตรงที่เดิม ขณะที่เงาของไซล่าค่อย ๆ หายไปจากสายตาของเธอ ความเฉยเมยและการเมินเฉยของไซล่าทำให้เอมิลี่เดือดดาล!เธอกระทืบเท้าอย่างหนักขณะที่กำหมัดและพูดพลางกัดฟันว่า “ไซล่า เควส แก นางแพศยา! ชีวิตแกจะต้องพังไม่เป็นท่าแน่!”
เหตุการณ์ครั้งนี้คงจะเป็นสาเหตุของความโกลหลทั้งหมด เมื่อไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งเควส กรุ๊ปคงจะล่มสลายไปกับมันเป็นแน่ทันใดนั้น ไซล่าโทรหาจอร์จจี้ และปลายสายก็ตอบรับอย่างรวดเร็ว“ท่านประธานไซล่า ฉันกำลังลังจะโทรหาคุณแต่คุณก็โทรหาฉันก่อนแล้ว” จอร์จจี้กล่าวด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย“จอร์จจี้ ฉันจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง และฉันก็เสนอตัวเองจัดการทุกอย่างเองด้วย”“ฉันรู้ว่าคุณคงทำเรื่องนี้แน่ ดูเหมือนว่านี่เป็นวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่เช่นกัน ถ้าคุณสามารถจัดการณ์กับสถานการณ์นี้ได้ดี คุณลุงเควสจะมั่นใจในตัวคุณมากขึ้นอย่างแน่นอน มันเหมือนกับคำพูดที่ว่า ก้าวแรกสู่ความมั่งคั่งมักมาจากความเสี่ยงนั่นเอง” จอร์จจี้ตอบจอร์จจี้เป็นแบบนี้สมอ ไซล่าไม่จำเป็นต้องอธิบายมากมายให้จอร์จจี้เข้าใจเธอ และไซล่ารู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีมือขวาสาวสวยมากความสามารถเช่นนี้“ท่านประท่านไซล่าคะ ฉันคิดว่าตอนนี้ อย่างแรกที่เราควรทำคือระงับเหตุการณ์ครั้งนี้ ก่อนที่จะได้หลักฐาน เราจะปล่อยให้เรื่องนี้สร้างความเสียหายไปต่อเควส กรุ๊ปไปมากกว่านี้ไม่ได้ ส่วนเรื่องจอช แบตตัน เมื่อสถานการณ์สง