แชร์

บทที่ 646

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-09 17:00:00
สิ่งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเขียนภายในจดหมายนั้น เป็นเพียงการเล่าสถานการณ์คร่าว ๆ เท่านั้น ในยามนี้จึงได้โอกาสเล่ารายละเอียดขอ

งเหตุการณ์ให้กับฮูหยินเฟิ่งได้ฟังเสียที

หลังจากนั้น ทั้งสามแม่ลูกก็พากันหารือว่าควรจะจัดการกับความสัมพันธ์ของตระกูลซ่งอย่างไร

เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงแนะนำออกไปว่า: “สิ่งที่สำคัญที่สุดในยามนี้คือการเปิดเผยเรื่องรางให้ทั้งสองฝั่งได้ทราบ หากพวกท่านมิมีความเห็นอันใดละก็ ข้าจักได้จัดเตรียมรถม้าไปหาตระกูลซ่งที่จางโจวเลย เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจของฝั่งพวกเรา”

ฮูหยินเฟิ่งพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“เจ้าพูดถูก พวกเราต้องไปหาตระกูลซ่ง”

“แล้วท่านพ่อ...” เวยเฉียงเอ่ยเสียงเบาถึงคนที่ถูกละเลยออกมา

ใบหน้าของฮูหยินเฟิ่งดูไม่พอใจเล็กน้อย

เมื่อคิดไปถึงสิ่งที่เขาทำนั้น นางอยากจะบีบคอเขาให้ตายเสียด้วยซ้ำ

เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงเป็นคนกล่าวออกมาว่า: “ข้าจะไปคุยกับท่านพ่อเอง”

ห้องข้าง ๆ

นายท่านเฟิ่งร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางเอ่ยถามเฟิ่งจิ่วเหยียน

“แทนที่จะให้ตระกูลซ่งมาหาพวกเราแทน เหตุใดพวกเราต้องไปจางโจวด้วย? ข้าไม่ไป! บุตรสาวของข้ายังต้องกังวลด้วยหรือว่าจะแต่งออกไปไม่ได้? ในเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (9)
goodnovel comment avatar
Koi Koi
สงสารตัวเองอ่านมาหกร้อยกว่าตอนได้ครึ่งเรื่องรึยังไม่รู้ 5555 ได้โปรดบูม20 ตอนเถอะจ๊ะ
goodnovel comment avatar
Laa Laa
ลูกสาวตระกูลเฟี่งจะแต่งงานทั้งที่ไม่ธรรมดาเลยนะ มีเรื่องตลอด ให้เวยเฉียงสมหวังเถอะจิ๋วเหยียนจะได้หมดห่วง มีเวลาไปจัดการชิวิตรักของตัวเองกับเต้เสียที เต้ก็ทุ่มเทขนาดไหนเพื่อจะได้อยู่กับจิ๋วเหยียน ให้พระนางได้ยู่ด้วยกันได้แล้วต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นให้พวกเขาจับมือฝ่าฟันไปด้วยกัน
goodnovel comment avatar
Nichaphat
ฮองเต้ น่าจะมาช่วยแน่นอน ใครจะขัดพี่เต้ได้ พี่เต้ออกโรงเอาใจหญิงแล้วละ แต่ต้วนเจิ้งเป็นบุตรบุญธรรม ก็เป็นไปได้ เพราะตะกูลต้วนเก่งทางการแพทย์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 647

    พ่อซ่งแม่ซ่งต่างก็หันมามองดูเฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นตาเดียว อดีตฮองเฮาผู้นี้เฟิ่งจิ่วเหยียนเอ่ยออกมาด้วยท่าทีอย่างจริงจัง“ข้าได้ยินมาว่าท่านหมอซ่งกำลงได้วิจัยยาปกป้องทารกในครรภ์ ซึ่งสามารถรักษาอาการของทารกในครรภ์ได้ เช่นนี้ทั้งสองท่านก็สามารถให้กำเนิดทายาทอีกคนขึ้นมาได้แล้ว”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้เอ่ยออกมานั้น ทำเอาทุกคนถึงกับตกตะลึงพูดไม่ออกไปในทันทีใบหน้าของแม่ซ่งพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่อนจะซีดเผือดออกมานายท่านเฟิ่งพลางหันมาเอ่ยดุในทันที: “เรื่องของบุตรีในตระกูล เจ้ายังไปยุ่งเรื่องของทายาทบ้านอื่นอีก? รีบไปเดี๋ยวนี้!”แม่ซ่งพลางหันไปมองสามีของตนเองด้วยความลังเลใจที่จะพูดทุกอย่างล้วนแต่อยู่ในสายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนนางมิยอมสู้กับสิ่งที่ตนเองมิได้เตรียมพร้อมมาก่อนหรอกก่อนที่จะมาตระกูลซ่งนั้น นางขอให้อู๋ไป๋ไปสืบเรื่องนี้มาพ่อซ่งหาได้มีงานอดิเรกใด ๆ ไม่ เขาเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับการแพทย์ อีกทั้งเขายังชอบขลุกอยู่ในโรงหมอของตนเองอีกต่างหาก ทั้งยังละเลยฮูหยินและบุตรชายของตนเองเป็นเวลาหลายปีเขากลับจวนมานับครั้งได้ มิต้องเอ่ยถึงการร่วมหอเลยเนื่องจากความไม่สมดุลของหยินหยาง หลายปีที่ผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 648

    ตกกลางคืนโรงหมอตระกูลซ่งยามนี้ แทบจะมิมีคนไข้มาแล้วพ่อซ่งกำลังยุ่งวุ่นวายกับการจัดสมุนไพรอยู่นั้น เขาเอาแต่ใจจดใจจ่อจนมิรู้ว่ามีเงามืดสะท้อนอยู่บนผนัง...ผลัก!เพียงพริบตาเดียว เขาถูกตีด้วยไม้จนเป็นลมล้มพับหมดสติไปในทันที ยามที่ล้มนั้น หัวยังมุดเข้าไปในหม้อยาอีก...ยามที่พ่อซ่งฟื้นขึ้นมานั้น กลับพบว่าตนเองถูกผูกมัดเอาไว้ที่เตียงแล้ว!อีกทั้ง ยังอยู่ในห้องของตนเองอีกด้วยไม่ว่าเขาจะตะโกนเรียกคนมากเท่าใด ก็หาได้มีผู้ใดตอบกลับมาไม่เขามิรู้เลยว่า เหล่าข้ารับใช้ในโรงหมอนั้นได้ถูกคนพาตัวออกไปหมดแล้วเอี๊ยด!เมื่อประตูถูกเปิดออกนั้นในที่สุดก็มีคนมาเสียทีพ่อซ่งรีบยืดคอออกมา ยามที่เห็นว่าผู้ที่เดินเข้ามาเป็นภรรยาของตนเองนั้น“ฮูหยิน เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่!”เขานึกประหลาดใจยิ่งนัก อีกทั้งยังรู้สึกโล่งใจไปในคราเดียวกันนับว่าโชคดีที่เป็นฮูหยิน เขาคิดว่าตัวเองโดนโจรขโมยลักพาตัวไปเสียแล้วฮูหยินซ่งพลันมีสีหน้าเย็นชา นางหาได้มองมาที่เขา ทั้งยังมิได้ตอบอันใดกับเขาอีก พลางเดินไปที่โต๊ะทำงานก่อนจะจุดธูปหอมอย่างชำนาญจากนั้น นางพลันออกคำสั่ง ก่อนที่จะมีสตรีหลายนางพากันเดินเข้ามา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 649

    หลังจากที่ซ่งหลีออกจากห้องโถงบรรพบุรุษมาแล้วนั้น เขาราวกับรู้สึกเหมือนว่าตนเองอยู่ในห้วงความฝัน -คนจากตระกูลเฟิ่งมาที่นี่ ทั้งยังมาเอ่ยหารือกับบิดามารดาของเขาเรื่องงานแต่งของเขาอีกด้วยก่อนที่จะได้พบพ่อตากับแม่ยายในอนาคตอย่างเป็นทางการนั้น ซ่งหลีพลันรีบไปเช็ดตัวและผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ภายใต้การดูแลของข้ารับใช้ในทันทีเขาเดินออกมาจากนอกเรือน ก่อนจะมองไปยังเฟิ่งจิ่วเหยียนที่คล้ายกับว่าจะรั้งรอเขาอยู่นานแล้ว“ซู...” ในยามนี้เขามิรู้ว่าจะเอ่ยเรียกนางว่าอะไรดีเฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองเขาด้วยท่าทีเฉยเทย พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับว่าสนใจเขาทั้งมิสนใจในคราวเดียวกัน “บาดเจ็บหรือ?”ซ่งหลีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่นางมีท่าทีใส่ใจผู้คนเช่นนี้ถึงแม้ว่า ทั้งนางและเวยเฉียงจะเป็นพี่น้องฝาแฝด แต่นิสัยของพวกนางกลับแตกต่างกันมากเวยเฉียงใจดีมีเมตตา ทั้งยังอ่อนหวานเอาใจใส่ผู้คนสำหรับซูฮ่วนนั้น นางเกลียดความโง่งมและความอ่อนแอ สำหรับผู้คนที่เป็นตัวถ่วงของนางนั้น นางหาได้นึกใส่ใจไม่เขายังจำได้ว่า ยามที่พวกเขาถูกข้าศึกปิดล้อมในปีนั้น เพียงแค่เขาวิ่งช้าไปเล็กน้อย กลับถูกซูฮ่วนหันมาถลึงตาใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 650

    ภายในลานจวนตระกูลซ่งนั้น ทั้งตระกูลซ่งและตระกูลเฟิ่งต่างก็มารวมตัวกันเพื่อฟังคำพระราชโองการพร้อมกัน“ฝ่าบาทมีพระราชโองการ สตรีนามเวยเฉียง ท่วงท่างดงามอ่อนหวาน เราที่เห็นใจถึงชีวิตที่พบเจอประสบเคราะห์ร้าย ดังนั้นจึงได้มีการปรึกษากับท่านแม่ทัพเมิ่ง ให้รับนางเข้ามาเป็นบุตรีบุญธรรม โดยใช้สกุล ‘เมิ่ง’ ”เมื่อได้ยินราชโองการออกมาเช่นนี้ ต่างคนต่างพากันมีสีหน้าประหลาดใจออกมานายท่านเฟิ่งทั้งรู้สึกหงุดหงิดแล้วไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่งบุตรสาวคนหนึ่งของเขาก็มอบให้กับเมิ่งฉวีไปแล้ว เหตุใดเขาถึงต้องมอบบุตรีของตนเองให้กับตระกูลเมิ่งอีกคนด้วยเล่า!ก่อนหน้านี้ ฝ่าบาทได้ประกาศการหย่าร้างออกมา ทั้งยังขโมยฮูหยินไปเช่นนี้ ในยามนี้ยังมาขโมยบุตรสาวของเขาไปอีกหรือ!อีกด้านหนึ่งเขารู้สึกหวาดกลัวยิ่งนักฝ่าบาทหาได้มีสิ่งใดที่ไม่รู้ไม่ หรือว่าตลอดทางที่ผ่านมานั้นเขาถูกลอบติดตามมาโดยตลอดเช่นนั้นหรือ?เมื่อคิดเช่นนี้ เหงื่อเย็น ๆ พลันไหลออกมาเต็มหลังในทันทีฮูหยินเฟิ่งหาได้สนใจว่านางจักสกุลใดไม่ เมื่อพระราชโองการออกมาเช่นนี้แล้ว เวยเฉียงก็จักได้มีหน้ามีตาอย่างเหมาะสมเสียที ตระกูลซ่งเองก็ดีใจเช่นกันพวก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 651

    เฟิ่งจิ่วเหยียนมุ่นคิ้ว ขณะที่มองดูของหมั้นเหล่านั้น ฮูหยินเมิ่งที่อยู่ด้านข้างเอ่ย “ผู้มาส่งของได้กำชับไว้เป็นพิเศษ นี่เป็นของหมั้นสำหรับฮองเฮาในอนาคต และอีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาสามเดือนที่ตกลงกันแล้ว ดูเหมือนฝ่าบาทมั่นใจว่าเจ้าจะต้องแต่งงานกับเขาแน่” เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าสงบนิ่ง ก่อนจะคำนับอาจารย์หญิงอย่างรู้สึกผิด “ทำให้ท่านกับอาจารย์ต้องลำบากแล้วเจ้าค่ะ” พูดจบ ก็มีเสียงคนเอ่ยรายงานจากด้านนอก “ฮูหยิน มีคนมาขอพบคุณชายซูขอรับ” เฟิ่งจิ่วเหยียนรู้สึกหวั่นไหวในใจ เสมือนสายลมพัดผ่านผิวน้ำ สร้างระลอกคลื่นเล็ก ๆ ทีละน้อย…… ณ จวนแม่ทัพ ห้องโถงส่วนหน้า เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นว่า ผู้มาเยือนเป็นชายสวมหน้ากากในเครื่องแบบเน้นความคล่องตัวคนหนึ่ง เขาคารวะให้นางด้วยความเคารพ “ข้าน้อยหยิ่นลิ่ว ได้รับบัญชาจากฝ่าบาท มาส่งของสิ่งหนึ่งให้ท่านขอรับ” จากนั้น ชายคนนั้นพลันหยิบกล่องผ้าไหมทรงยาวใบหนึ่ง มอบให้นาง นางมิได้รับ นางระแวดระวังอย่างมาก ถึงแม้คนผู้นี้จะอ้างว่าเป็นคนของเซียวอวี้ ก็หาได้ปักใจเชื่อทันทีไม่ คนผู้นั้นเมื่อเห็นเช่นนี้ จึงเปิดก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 652

    ภายใต้แสงจันทรา สีหน้าของเฟิ่งเวยเฉียงเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งประหลาดใจ ตื่นเต้น และเสียใจที่รู้ความจริงช้าไป... พี่สาวเข้าพิธีสมรสกับฝ่าบาทในนามของนาง และได้หย่าร้างกับฝ่าบาทอีก!? ราวกับนางกำลังฟังคนเล่านิทาน “ท่านพี่ ท่านหย่าร้าง เพราะไม่ชอบฝ่าบาทหรือ?” ตอนนี้นางได้พบกับชายที่นางชอบแล้ว จึงหวังว่าพี่สาวจะได้มีความสุขเช่นกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูจันทราบนนภา และเอ่ยอย่างเยือกเย็น “ในตอนแรกก็ไม่ชอบหรอก...” ทันใดนั้น เมฆาเคลื่อนคล้อย บดบังแสงจันทรา ณ เมืองหลวง ในพระราชวัง อุทยานหลวง หรงเฟยเข้ามายืนขวางรุ่ยอ๋องที่กำลังจะออกจากวัง และซักถามเขา “ฝ่าบาทเสด็จไปที่ใด?” แววตาที่อ่อนโยนของรุ่ยอ๋องไร้ระลอกคลื่น “ก่อนหน้านี้เกิดกบฏในเมืองเซวียน และมีการจัดสรรเบี้ยหวัดทหารใหม่ ฝ่าบาทไม่วางพระทัย จึงเสด็จไปตรวจสอบที่เมืองเซวียนด้วยพระองค์เอง เพื่อให้แน่ใจว่าเบี้ยหวัดจะถึงมือของทหารทุกนาย นอกจากนี้ ยังเป็นการตรวจสอบการทำงานของขุนนางชุดใหม่ในเมืองเซวียนด้วย “เรื่องเหล่านี้ พระสนมมิใช่ทราบอยู่แล้วหรือ? เหตุใดมาถามอีก”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 653

    ยามเข้าสู่ต้นคิมหันต์ เซียวอวี้สวมเสื้อคลุมยาวครึ่งตัวผ้าโปร่งสีม่วงเข้ม แสงตะวันสาดส่องลงมา ยิ่งสง่างามเลิศล้ำ ทุกคนในลานกว้างก็เข้ามาทำความเคารพตามแม่ทัพเมิ่ง ไม่เว้นฮูหยินเมิ่งด้วยเช่นกัน เฟิ่งจิ่วเหยียนได้สติเป็นคนสุดท้าย จึงก้มลงทำมือคารวะ “ถวายบังคมฝ่าบาท” นางไม่คาดคิดว่า เซียวอวี้จะมาเยือน โดยเฉพาะตอนนี้นางเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องหยางเหลียนซั่วกับพรรคเทียนหลง การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเขา จึงทำให้นางรับมือไม่ทัน... “ไม่ต้องมากพิธี” เซียวอวี้ก้าวไปข้างหน้า พลันช่วยประคองเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยตนเอง ครั้นนางยืดกายขึ้น เขาจึงถือโอกาสกระซิบข้างหูนาง “ครบกำหนดสามเดือน เจ้าควรจะให้คำตอบแก่เราแล้ว” สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่แปรเปลี่ยน “เพคะ” แม่ทัพเมิ่งย่นคิ้วเบา ๆ เหตุใดฝ่าบาทจึงเสด็จมายังชายแดนเหนืออีกแล้ว? ทรงไม่ไว้วางใจเขามากขนาดนั้นเชียวหรือ? เซียวอวี้ยังต้องการจะพูดคุยกับเฟิ่งจิ่วเหยียนต่อ เมิ่งฉวีพลันก้าวไปข้างหน้า และทูลรายงานอย่างจริงจังเคร่งครัด “ฝ่าบาท เรื่องความวุ่นวายในเมืองเซวียนนั้น กระหม่อมขอบังอาจแสดงความเห็น เพี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 654

    ใบหน้าที่หล่อเหลาของเซียวอวี้ถูกปกคลุมด้วยความอดกลั้นและยับยั้งชั่งใจ เขายัดพิมพ์เขียวปืนมังกรไฟใส่มือของนางคืนทันที “เราไม่ต้องการ! “เราทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเจ้า ไม่เคยคิดที่จะให้เจ้ามาตอบแทน “ถึงแม้เจ้าไม่อยากแต่งงานกับเรา ก็มิจำเป็นต้องเอาสิ่งใดมาแลกกับอิสรภาพ “เฟิ่งจิ่วเหยียน เจ้าเป็นอิสระตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” เฟิ่งจิ่วเหยียนก้มศีรษะลงมองกระบอกไม้ไผ่ส่งสาส์นในมือตนเอง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้าอีกครั้ง นางเอ่ยด้วยท่าทางจริงจัง “หม่อมฉันถูกทอดทิ้งตั้งแต่เกิด และเป็นอาจารย์กับอาจารย์หญิงคอยเลี้ยงดูหม่อมฉันขึ้นมา “ดังนั้น หม่อมฉันควรจัดเตรียมสินเดิมด้วยตนเอง “ทว่ารายได้ตลอดหลายปีของหม่อมฉัน ได้นำไปซื้อเซียวเหยาจวีหมดแล้ว ส่วนที่เหลือก็เก็บไว้เป็นสินเดิมของเวยเฉียง “ดังนั้น หม่อมฉันจึงเหลือเงินเก็บไม่มากนักเพคะ” เซียวอวี้ยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจ “เจ้าต้องการจะพูดอันใดกันแน่?” เดิมเขาไม่ใช่คนโง่เขลา ทว่าในขณะนี้ สมองของเขาอย่างไรก็ไม่สามารถทำงานได้เลย และเข้าใจได้เฉพาะถ้อยคำที่ชัดเจนตรงไปตรงมาเท่านั้น ใบหน้าของเฟิ่งจิ่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-09

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 668

    เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ปิดบังแล้วนางพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา“ท่านดูไม่ออกหรือ ข้าไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนั้น?”ตลก ผู้ลี้ภัย ลิงผอมตัวดำ! ตอนกลางวันเขาพูดว่านางเช่นนี้ !นางอยากยอมรับสิแปลก!เวลานี้ เซียวอวี้ก็คิดขึ้นมาได้ นางกำลังไม่พอใจอะไรที่แท้ก็อยากรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากยอมรับว่านางคือลิงน้อยคนนั้นเขาเสียใจอย่างมาก รีบพูดขอโทษขึ้นมา“เราผิดไปแล้ว ตอนนั้น...เรากลัวว่าเจ้าจะเข้าใจผิด จึงตั้งใจพูดแบบนั้น ความจริงแล้ว เราจดจำเจ้ามาตลอด วีรชนน้อย”เฟิ่งจิ่วเหยียนเอียงศีรษะเล็กน้อย มองดูเขาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเซียวอวี้จูบบนหน้าผากของนาง จากนั้นก็หยิบผ้าแห้งผืนนั้นมา เช็ดผมที่เปียกให้กับนางด้วยตนเอง กระทำอยู่อย่างอ่อนโยน ราวกับในมือถือสิ่งของล้ำค่าเอาไว้“ปีนั้นเมืองซีซิ่นเกิดทุพภิกขภัย เราเพิ่งเข้าเมืองมาก็ถูกปล้นแล้ว ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายประชาชน โชคดีที่เจ้ามาปรากฏ เวลานี้เราพูดความจริง เจ้าในตอนนั้นถึงแม้ยังเด็ก ทว่าท่าทีขี่ม้า ดูสง่างามยิ่งกว่าบุรุษจริงๆ”“ไม่ใช่ตลกหรอกหรือ?” นางยังคงไม่ยิ้มแย้ม คำพูดแฝงไปด้วยความเหน็บแ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 667

    เซียวอวี้จำได้ดี ตอนนั้น ขนมเกาลัดที่ยัยเด็กคนนั้นให้เขา ก็ละเอียดแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ กระทั่งละเอียดเป็นเศษกลับอร่อยมากเขารู้สึกหัวใจเต้นราวกับตีกลอง พร้อมลองถามฮูหยินเมิ่ง“มีเพียงนางที่กินแบบนี้?”ฮูหยินเมิ่งผงกหัวอย่างยิ้มแย้ม“ก็ใช่นะสิ มีแค่นางคนเดียว เพราะตอนอายุห้าขวบเคยสำลัก ทั้งรักทั้งเกลียดขนมเกาลัด คิดว่าทุบแล้วค่อยกิน เหมือนอย่างกับมันจะเชื่อฟังขึ้น ภายหลังจึงเคยชิน กินแบบนี้มาตลอด”คิดถึงจิ่วเหยียนตอนเด็กที่น่ารักดื้อรั้น และยังมีท่าทีดุร้าย บนใบหน้าฮูหยินเมิ่งปรากฏความอ่อนโยนของความเป็นแม่ “เด็กคนนั้น พริบตาเดียวก็โตขนาดนี้แล้ว...”เมื่อพูดเสร็จ แววตาฮูหยินเมิ่งก็กลายเป็นเฉียบคมขึ้นมาทันที ทุบฝ่ามือลงไป ผ่านบนไม้กระดาน ขนมเกาลัดชิ้นหนึ่งถูกทุบจนแบนเฉินจี๋ : ! ! !ฝ่ามือของฮูหยินเมิ่ง ดุเดือดมากเวลานี้ สีหน้าเซียวอวี้แข็งทื่อใช่ !อยู่ดี ๆ ใครจะทุบขนมเกาลัดที่เป็นชิ้นสมบูรณ์ให้แหลก !และปีนั้น ยัยเด็กคนนั้นอายุเพียงสิบขวบ เมื่อนับดูแล้ว ก็อายุไม่ต่างอะไรกับเฟิ่งจิ่วเหยียนบังเอิญบวกกับบังเอิญ นั่นก็จะไม่ใช่ความบังเอิญแล้ว !แล้วก็คิดถึงความผิดปกติของนาง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 666

    เมื่อครู่เซียวอวี้วู่ว่ามไปหน่อย เวลานี้สงบสติลง ก็รู้ตัวว่าตนเองตื่นตระหนกตื่นตูมไปแล้วพวกนางปรึกษาเรื่องตั้งกองกำลังหญิง คำนึงถึงแผ่นดินราษฎรเขากลับใจแคบ ยอมรับไม่ได้ ช่างเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีเอาเสียเลยเมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาดับความขุ่นเคืองในใจด้วยตนเองหลังจากนั้นก็ล้วงเอาขนมเกาลัดออกมาหลายชิ้น พวกมันถูกกระดาษมันห่อเป็นชั้น ๆ ยังร้อนอยู่เลย“ขนมเกาลัดที่ฮูหยินเมิ่งเพิ่งทำวันนี้ ข้าเอามาให้เจ้ากิน”สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ยังยืนยันคำพูดเดิม “ข้าไม่ชอบกิน”เซียวอวี้ดึงมือของนางมา วางขนมเกาลัดไว้บนฝ่ามือของนาง“ยังคิดจะโกหกข้า?“อาจารย์กับอาจารย์หญิงของเจ้าก็พูดแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าชอบทานขนมเกาลัดที่สุด“เรารู้ ทำไมเจ้าถึงโกหกเรา”เฟิ่งจิ่วเหยียนเงยหน้าขึ้นมาเขารู้?หลังจากนั้น เซียวอวี้ก็พูดขึ้นมาอย่างมั่นใจในตนเอง“เจ้าถือสาเรื่องที่เราพูดถึง รู้สึกไม่พอใจ ใช่หรือไม่”เฟิ่งจิ่วเหยียน : ...เซียวอวี้อธิบายให้นางฟังอย่างจริงจัง“เราจำได้จนถึงตอนนี้ แค่ขนมเกาลัดชิ้นเดียว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนที่ให้ขนมเกาลัดเลย“เจ้าไม่รู้ ยัยเด็กคนนั้นป่าเถื่อนมาก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 665

    เห็นเฟิ่งจิ่วเหยียนอึ้ง เซียวอวี้ถามขึ้นมาด้วยเสียงเบา“ทำไมหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนได้สติกลับมา สายตาจ้องบนใบหน้าของเขา “ไม่เป็นไร"เซียวอวี้นึกว่านางยังเข้าใจผิดอยู่ จึงพูดขึ้นมาอีก“ไม่ได้โกหกเจ้า เป็นยัยเด็กคนนั้นจริง ๆ “ตัวผอม ๆ บนใบหน้าเปื้อนไปด้วยฝุ่น ไม่รู้ว่าลี้ภัยมาจากไหน...”“ตลกมากใช่ไหม” เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขัดจังหวะเขา พร้อมถามขึ้นมาด้วยเสียงต่ำเซียวอวี้ผงกหัว“อืม”เฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองข้างนอกรถม้า ไม่พูดอะไรอีกทว่า แอบกำหมัดแน่นไม่นาน เฉินจี๋ซื้อขนมเกาลัดกลับมาแล้วเซียวอวี้ยื่นมาให้เฟิ่งจิ่วเหยียนหนึ่งชิ้น นางส่ายหัวพร้อมพูดขึ้นมา “ขอบพระทัย ทว่าข้าไม่ชอบทานสิ่งนี้”ตอนที่พูดประโยคนี้ นางไม่ได้มองดูเขาแต่ละคนชอบทานไม่เหมือนกัน เซียวอวี้ไม่สงสัยว่ามีอะไรระหว่างทาง เฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นร้านขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป จึงสั่งให้หยุดรถม้าอาจารย์หญิงพูดไม่ผิด จะแต่งตัวเป็นชายอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ ควรที่จะซื้อชุดสตรีบ้างแล้ว“ข้าขอทำธุระส่วนตัว ท่านกลับไปก่อน”พูดเสร็จ นางก็กระโดดลงจากรถม้าเซียวอวี้เปิดม่าน มองเงาแผ่นหลังของนาง แล้วก็ย้อนครุ่นคิดเขาทำอะไรผิด พ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 664

    “พี่สาว...”เฟิ่งเวยเฉียงเพิ่งวิ่งมาหา ก็เห็นบุรุษด้านข้างพี่สาวคนผู้นั้นสวมชุดผ้าแพรสีม่วง ดูออกว่าเขาพยายามที่จะไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจ ทว่าก็ยังคงไม่สามารถปกปิด ความสูงศักดิ์อย่างไม่ธรรมดารอบตัวเขาโดยเฉพาะใบหน้าเผด็จการน่าเกรงขาม ดูก็รู้ว่ามีสถานะสูงส่ง ไม่ให้มีการฝ่าฝืน“ข้าน้อยถวายบังคมฝ่าบาท” เฟิ่งเวยเฉียงก้มศีรษะลงทันที ไม่กล้ามองอีกฝ่ายสาวใช้ไฉ่เยว่ ก็รีบถวายความเคารพตามได้เห็นพระพักตร์จักรพรรดิ พูดว่าไม่ตื่นเต้นนั้นเป็นความเท็จ ฝ่ามือของนางเหงื่อไหลชุ่มฝ่าบาทแตกต่างจากที่นางคิดไว้ไม่มาก...สูงส่งเย็นชา ยากที่จะคาดเดาว่ารู้สึกอย่างไรไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า คุณหนูจิ่วเหยียนเคยชินกับการอยู่ข้างกายเขาได้อย่างไรเมื่อเซียวอวี้เห็นเฟิ่งเวยเฉียง ก็รู้ว่านางกับเฟิ่งจิ่วเหยียน สมกับที่เป็นฝาแฝดกัน ใบหน้าเหมือนกันเลยทว่าลักษณะนิสัย ดูก็รู้ว่าไม่เหมือนกันนางเพียงยืนอยู่ไม่พูดอะไร เขาก็สามารถมองทะลุถึงใจนาง เป็นคนไร้เดียงสา เป็นสตรีที่ไม่หวั่นไหวกับเรื่องทางโลกคนหนึ่ง“ครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธี” เซียวอวี้พยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่า เฟิ่งเวยเฉียงยังคงรู้สึกว่าเขาเยือ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 663

    ในมุ้งบนเตียง บนผ้าห่ม มือสองข้างใหญ่ข้างหนึ่งเล็กข้างหนึ่ง นิ้วทั้งสิบนิ้วประสานกัน พัวพันแนบแน่นเซียวอวี้ยิ่งจูบยิ่งร้อนแรงเฟิ่งจิ่วเหยียนแทบทนไม่ไหว พยายามดิ้นรนหาช่องว่างเพื่อหายใจเวลาต่อมา เขาล้มทับบนตัวนาง หายใจอย่างหนัก ลมหายใจร้อนผ่าวรดข้างหู แก้มด้านข้างของนางนางถูก “ย่าง” จนเหงื่อไหลชุ่ม เอียงศีรษะไปฝ่ายชายยกตัวขึ้นมาเล็กน้อย จับปลายคางของนาง ดวงตาแดงสลัว จ้องริมฝีปากแดงระเรื่อสดใสของนางอย่างลึกซึ้งริมฝีปากแดง ทำให้สีหน้าขาวใสมากขึ้นสายตาของเขามองเลื่อนขึ้น มองความเร่าร้อนในดวงตาของนางที่กำลังจะจางหายไป อยากจดจำภาพนี้ไว้ตลอดกาลจดจำภาพที่นางหวั่นไหวเพื่อเขาจดจำภาพที่ในสายตานางมีเพียงเขา ในกระแสเลือด ในร่างกายก็มีเพียงเขาเจิดจ้ายิ่งกว่าดอกไม้ไฟ สว่างไสวยิ่งกว่าดวงดาว ลานตายิ่งกว่าแสงอาทิตย์...งดงามจริงๆ !ทุกครั้งในเวลานี้ แม้นางต้องการชีวิตเขา เขาก็จะให้เขาคิดว่า เขารักนางอย่างที่สุดจริง ๆหากชั่วชีวิตที่เหลือนี้ไม่สามารถได้ครอบครองนาง เขาจะเสียใจขนาดไหนมือของเขาเลื่อนมาถึงด้านหน้าลำตัวของนาง ลูบไล้รอยสักรูปเปลวเพลิงสีแดง“รอยสักของเจ้านี้ เพื่อปกปิด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 662

    สีหน้าเซียวอวี้จากดำกลายเป็นขาวสิ่งของที่อยู่ในกล่อง...เขาเคยเห็นในตำรานี่คือถุงยาง ใช้สำหรับผู้ชายทว่า จักรพรรดิไม่จำเป็นต้องสวมสิ่งนี้ หากไม่อยากให้นางสนมตั้งครรภ์ ประทานน้ำแกงป้องกันการมีบุตรก็พอดังนั้น ในวังไม่เคยมีสิ่งนี้ เขาก็ไม่เคยเห็นของจริงมาก่อนยิ่งคิดไม่ถึง เฟิ่งจิ่วเหยียนจะมอบสิ่งนี้ให้กับเขาจนเขาไม่รู้จะพูดนางว่าอะไรดีพัฟ !เขาปิดกล่องไม้ ท่าทีราวกับตาไม่เห็นไม่กวนใจ“สิ่งนี้ เราไม่ชอบ”เขาปฏิเสธทันทีเขาอยากที่จะมีลูกกับนางมากมาย จะใช้สิ่งนี้ได้อย่างไรเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง“ข้าเห็นว่า มีบุตรก่อนแต่งงาน ไร้ชื่อไร้สถานะ ไม่แตกต่างอะไรกับบุตรนอกสมรส”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเข้มนางหมายความว่า ก่อนแต่งงานสามารถ...บอกตั้งแต่แรกสิ ! เวลาต่อมา เซียวอวี้ไม่พูดอะไร ลุกขึ้นมาอุ้มนางทันที“เจ้าพูดถูก คืนนี้ลองใช้สิ่งนี้เลย” เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้ว “แขนของท่าน...”“ไม่เป็นไร” ดวงตาของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม อารมณ์ดี ยังจะสนใจบาดแผลที่ไหนกันยิ่งไปกว่านั้น ก็แค่บาดแผลภายนอกในมุ้งบนเตียงเสื้อผ้าหลุดออกส่งเสียงกรอบแกรบ ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ราวกับสองค

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 661

    ภายในเรือนหลักคืนนี้แม่ทัพเมิ่งต้องออกไปลาดตระเวน หากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทอยู่ในจวน เขาก็คงหาอะไรทานอยู่ในค่ายทหารแล้วเวลานี้เขาจึงกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อกลับไปยังค่ายทหารเฟิ่งจิ่วเหยียนกับอาจารย์หญิงมาด้วยกัน เห็นไฟในห้องสว่างอยู่ “อาจารย์อยู่ข้างใน ข้าไม่เข้าไปแล้ว”ฮูหยินเมิ่งอมยิ้มแย้ม “รออยู่ที่นี่ ข้าไปเอามาให้เจ้า"เมื่อนางเข้าไปในห้อง ก็เห็นสามีนั่งอยู่ข้างโต๊ะ สีหน้าประหลาด บอกไม่ถูกว่าดีใจ และก็ไม่ถือว่าโกรธ ทว่าดูเหมือนคับข้องใจเมิ่งฉวีลุกขึ้นยืน ถามขึ้นมาอย่างหยั่งเชิง“ฮูหยิน ช่วงนี้ข้ายุ่งกับงานในค่ายทหาร เพิกเฉยต่อเจ้า เจ้าโกรธข้าหรือไม่?”ฮูหยินเมิ่งตอบตามความจริง“ท่านต้องทำตามหน้าที่ ข้าไม่มีทางโกรธเพราะสาเหตุนี้”ทันใดนั้น สีหน้าเมิ่งฉวีบูดบึ้งลงเขายกมือขึ้นมาอย่างสั่นเทา ชี้ไปยังกล่องไม้บนหัวเตียง“นั่น...ข้างในนั้นคืออะไร?”สีหน้าฮูหยินเมิ่งเคร่งขรึมขึ้นมา“ท่านได้เปิดดูหรือ? ! ”เมิ่งฉวีเห็นนางตื่นเต้นขนาดนี้ ก็โกรธขึ้นมาทันที“ฮูหยิน ! ต่อให้เจ้าโกรธ ก็ไม่ควรทำกับข้าเช่นนี้ ! บอกมา ! คนนั้นคือใคร ! ”ของสิ่งนั้นทำไม่ง่าย ฮูหยินไม่ได้ทำมา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 660

    ทันทีที่เจินเจินก้าวเข้ามาในจวนแม่ทัพ ก็ได้เห็นชายหนุ่มรูปงามที่ยืนอยู่ข้างฮูหยินเมิ่ง บางทีอาจเป็นเพราะกลับจากค่ายทหาร และเห็นผู้ชายหยาบกระด้างเหล่านั้นจนชินตา คุณชายท่านนี้จึงทำให้ดวงตาของนางเป็นประกาย ปากแดงฟันขาว กลับมิสูญเสียบุคลิกองอาจผึ่งผาย สายตาเช่นนั้นที่จ้องมองมา มิได้ให้ความรู้สึกหยาบคาย ดูเหมือนจะมีเพียงความชื่นชม หาได้มีความคิดชั่วร้ายใด ๆ ไม่ ช่างเป็นดวงตาคู่หนึ่งที่สะอาด และซื่อตรง หัวใจของเจินเจินสั่นไหวอย่างไม่รู้ตัว ถึงแม้จะอยู่ต่อหน้าบุรุษผู้สูงศักดิ์และหล่อเหลาเช่นฝ่าบาท นางยังไม่เคยมีความรู้สึกแปลก ๆ เช่นนี้มาก่อน ราวกับในจุดหนึ่งของหัวใจกำลังมีดอกท้อผลิบาน... ครั้นฮูหยินเมิ่งได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในดวงตาของเจินเจิน ย่อมตระหนักถึงบางสิ่งได้ทันที เพื่อป้องกันมิให้จิ่วเหยียนก่อหนี้รักขึ้นอีก นางจึงออกหน้า แกล้งทำเป็นตำหนิเฟิ่งจิ่วเหยียน “บอกกี่ครั้งแล้ว เป็นผู้หญิงดี ๆ ก็ควรสวมอาภรณ์ของสตรี ดูสิ ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอีกแล้วมิใช่หรือ?” เจินเจินได้ยินเช่นนั้น หัวใจที่เต้นรัวพลันแตกสลายทันที ผู้หญิง?!! แม้เฟิ่งจ

DMCA.com Protection Status