เฟิ่งจิ่วเหยียนสะดุ้งลุกขึ้นมานั่ง จ้องมองดูเซียวอวี้ด้วยสีหน้างุนงงเซียวอวี้ดูเหมือนไม่ง่วงเลย เอ่ยถามอย่างเรียบเฉย “ทำไมถึงตื่นแล้วล่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนยกมือข้างหนึ่งกุมหน้าผาก“ทำไมท่านถึงยังไม่บรรทม?”“เรากำลังครุ่นคิดเรื่องที่จะบุกโจมตีในวันพรุ่งนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียน: งั้นก็ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้นี่ตื่นขึ้นมากลางดึก หัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ……กองกำลังค่ายทหารเป่ยเยี่ยนรัชทายาทเยี่ยนส่งคนมาสืบข่าว จึงได้รู้ว่าเสบียงอาหารแคว้นหนานฉีมาถึงแล้วมิน่าคืนนี้พวกเขามีแรงร้องเพลงอาลัย!แต่เส้นทางลำเลียงเสบียงของแคว้นหนานฉี ถูกทหารเยี่ยนควบคุมอยู่ เสบียงพวกนี้ขนส่งเข้ามาได้อย่างไร?ไม่นาน ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ให้คำตอบ“รายงาน! รัชทายาท มีข่าวแจ้งมาว่า คนแคว้นฉียึดเส้นทางเสบียงอาหารกลับคืนไปแล้ว! ยังได้ฆ่าคนของเราทั้งหมด!”รัชทายาทเยี่ยนนั่งอยู่ด้านข้างเตียง สีหน้าดุร้าย เย็นชาใบหน้าของเขาที่แยกไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชายนั้น ฉายแววไอสังหารอย่างไม่ปกปิด“ค่ายทหารแคว้นหนานฉี ถูกทหารของเราควบคุม แล้วจะแย่งเส้นทางลำเลียงเสบียงไปได้อย่างไร!”พูดใต้บังคับบัญชารายงานต่อ“ในที่เกิดเหต
ชะตาฟ้ากำหนด สีหน้าองค์หญิงหนานเจียงมองไปด้วยสายตาไม่อาจเชื่อ เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจและความโกรธนางมาช้าไปเพียงหนึ่งวัน!หากนางนำเสบียงอาหารมาส่งเมื่อวาน ก็จะได้อภิเษกกับฮ่องเต้ฉีแล้ว!เมื่อครู่องค์หญิงหนานเจียงยังวางอำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงคน คิดว่าตนเองมีอำนาจ เวลานี้เป็นเหมือนมะเขือโดนน้ำค้าง กลับไปด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยเฉินจี๋แอบปาดเหงื่อโชคดีที่เมื่อคืนฮองเฮามาทันเวลา ไม่เช่นนั้น ฝ่าบาทอาจจะได้กลายเป็นพระราชบุตรเขยของหนานเจียงแล้วแววตาเซียวอวี้ลึกล้ำเยือกเย็นองค์หญิงหนานเจียงคนนี้ พฤติกรรมเสียโดยกำเนิดจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร……“องค์หญิงหนานเจียง?” ภายในกระโจม เฟิ่งจิ่วเหยียนฟัง เซียวอวี้เล่าให้ฟังแล้วก็แปลกใจด้วยความไม่รู้ตัว นางได้พูดความในใจออกมา“ได้ยินมาว่านางเป็นคนหัวสูง ทำไมถึงได้ชอบท่าน?”เซียวอวี้: ?“เราด้อยตรงไหนกัน!” เขาไม่ควรเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หาเรื่องให้ตนเองขายหน้าชัด ๆ!คนปกติไม่ควรที่จะพูดว่า องค์หญิงหนานเจียงไม่รู้จักเจียมตัวหรือ!เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบายขึ้นมาอย่างเชื่องช้า“ใช่ว่าท่านไม่ดีพอ ความจริงคือองค์หญิงหนานเจียงรักษาขนบธรรมเนียมเ
ที่สูงบนหุบเขามรณะเฉินจี๋กลับมาจากกองหน้า ยกมือประสานกราบทูลรายงาน“ฝ่าบาท! ทหารเยี่ยนเคลื่อน‘ปืนมังกรไฟ’ออกมาแล้ว ! ”ด้านข้างเซียวอวี้มีขุนพลยืนอยู่หลายคน หนึ่งในนั้น ซุนเต๋อฟางได้ยินคำพูดนี้ ก็รีบพูดกล่อมขึ้นมา“ฝ่าบาท ทั้งสองฝ่ายไม่ใช้พระแสงปืน ถึงจะสมดุล”“พวกเราให้ปืนหอกไฟ เป่ยเยี่ยนก็ต้องใช้‘ปืนมังกรไฟ’!”“ขอร้องท่านรีบมีรับสั่ง ถอนปืนหอกไฟกลับมา ! ”เซียวอวี้พูดขึ้นมาอย่างเด็ดขาด“เดินหน้าต่อไป!”ซุนเต๋อฟางถอดถอนหายใจเกรงว่ารัชทายาทเยี่ยนบ้าคลั่งคนนั้น ใช้ปืนมังกรไฟขึ้นมาจริง ๆ แล้วก็พินาศตายไปด้วยกัน!ก็มีขุนพลที่ไม่เห็นด้วยไม่มีผู้ใดไม่กลัวตาย“ปืนมังกรไฟ” ยิงขึ้นมา ภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ ไร้คนรอด ระยะการยิงก็อยู่ภายในระยะสิบลี้ ตอนนี้ทหารเยี่ยนอยู่ห่างพวกเขาเพียงสิบกว่าลี้ ดังนั้นหากพวกเขาใช้ปืนมังกรไฟ ก็ล้วนอย่าคิดมีชีวิตรอดและแล้ว รอแล้วรอเล่า ก็ไม่เห็นได้ข่าวร้ายนี้ขึ้นมาจนหลังจากผ่านไปสี่ชั่วยาม ได้รับข่าวดีแห่งชัยชนะมาจากกองหน้า เหล่าขุนพลค่อยโล่งอกขึ้นมาจริง ๆ ……ศึกในหุบเขามรณะ ทหารเยี่ยนบาดเจ็บล้มตายกว่าครึ่ง เดิมควรที่จะล่าถอยออกมาจากหุบเขามรณ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม รุ่ยอ๋องออกมาจากห้องลับ คิ้วที่อ่อนโยนถูกปกคลุมด้วยสีหม่นหมองเล็กน้อย บนคอยังมีรอยข่วนแดงหลายแผลหลิวหวา รีบก้มศีรษะลงอย่างเคารพนอบน้อมรุ่ยอ๋องจัดรอยยับบนเสื้อผ้า น้ำเสียงยังคงสงบสุขุม“นางไม่อยากทาน ก็ให้นางอดสักสองวัน”“ขอรับ”……ชายแดนใต้อู๋ไป๋ลอบเข้าไปในค่ายเป่ยเยี่ยน กลับสืบไม่รู้ตำแหน่งของปืนมังกรไฟหากยังอยู่ต่อไป เขาจะถูกจับได้ จึงต้องกลับมารายงานก่อนท่าทีเฟิ่งจิ่วเหยียนเคร่งขรึมสิ่งที่อันตรายที่สุดของเป่ยเยี่ยน ไม่ใช่รัชทายาทเยี่ยน แต่เป็นรัชทายาทเยี่ยนที่มีปืนมังกรไฟตอนนี้แคว้นหนานฉีอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น สามารถตอบโต้ได้ในระดับเล็กน้อยเท่านั้น ไม่กล้าที่จะใช้กำลังทหารทั้งหมด ก็เพราะสาเหตุนี้ดังนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงมีความคิดที่กล้าหาญ“ไม่ได้!” เซียวอวี้ฟังแผนการของนางเสร็จ ก็ไม่เห็นด้วยขึ้นมาทันทีพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เราจะให้เจ้าไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้!”เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเย็นเหมือนปกติ แฝงไปด้วยความเพียรพยายามของนาง“เป่ยเยี่ยนแข็งแกร่งวางอำนาจบาตรใหญ่ได้ ก็เพราะอาศัย‘ปืนมังกรไฟ’“ก่อนหน้านี้มันถูกเป่ยเยี่ยนซ่อน
เมื่อรัชทายาทเยี่ยนออกคำสั่ง องครักษ์ก็ชักดาบเผชิญหน้ากับเฟิ่งจิ่วเหยียนทว่ายามที่กำลังจะเข้าโจมตี กลับเห็นนางโยนอะไรบางอย่างลงบนพื้น ทันใดนั้นหมอกควันสีขาวก็พวยพุ่งออกมาหมอกควันนี้บดบังสายตาของพวกเขา ทำให้พวกเขามองเห็นไม่ชัดรอจนกระทั่งควันถูกพัดออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนก็หนีไปนานแล้วคนที่จากไปไกลยังคงส่งเสียงผ่านอากาศไปถึงรัชทายาทเยี่ยนว่า“ในเมื่อองค์รัชทายาทไม่มีใจจะเป็นพันธมิตรกัน เช่นนั้นพวกเราก็จะไม่เกรงใจเรื่อง ‘ปืนมังกรไฟ’ แล้ว”รัชทายาทเยี่ยนพุ่งออกไปนอกกระโจมด้วยสายตาดำทะมึน เขามองไปรอบทิศ พบเพียงความมืดมิดไหนเลยจะมีเงาร่างของราชทูตหนานเจียง!ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความโกรธ “ตามไป! จับคนกลับมาให้ได้! อยู่ต้องเห็นคน ตายต้องเห็นศพ!”“พ่ะย่ะค่ะ”จากนั้นเขาก็คว้าตัวองครักษ์ที่ตนเชื่อใจมาแล้วกล่าวเสียงเบา“เจ้าไปดูด้านหลังด้วยตนเอง หากมีผิดพลาดกับ ‘ปืนมังกรไฟ’ แม้แต่น้อย ข้าจะลงโทษเจ้าประหารเก้าชั่วโคตร!”องครักษ์รับคำสั่งทันทีหารู้ไม่ว่า ทันทีที่เขาเพิ่งเดินออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตามไปอย่างเงียบ ๆ แล้วนางไม่ได้จากไป เพียงแอบซุ่มหลบอยู่เท่านั้นแผนโยนหินถามทางตอ
‘ปืนมังกรไฟ’ ดี ๆ ได้พังไปเกินครึ่ง!ฐานยิงที่เปราะบางที่สุดแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ไปเช่นนี้ ถึงตัวกระบอกจะยังอยู่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว...คิดไม่ถึงเลยว่าอาวุธอันทรงพลังของเขาจะถูกทำลายไปเช่นนี้!ข้างกายรัชทายาทเยี่ยนมีองครักษ์ประจำตัวที่เป็นยอดฝีมืออยู่ พอเขาออกคำสั่งยอดฝีมือผู้นั้นก็ไล่ตามเฟิ่งจิ่วเหยียนไปเฟิ่งจิ่วเหยียนมีวิชาตัวเบาที่ยอดเยี่ยม ทว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้ายามที่นางเพิ่งจะข้ามชายแดนมา นักฆ่าด้านหลังก็ประชิดเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆยามที่เห็นว่าเขากำลังจะตามนางทันนี้เอง ทันใดนั้น...ฟิ้ว!ลูกธนูคมกริบยิงมาจากระยะไกลตรงเข้ากลางหน้าผากของนักฆ่าผู้นั้น!ลูกธนูนี้ยากที่จะป้องกัน ทั้งรวดเร็วและแม่นยำ นักฆ่าเสียชีวิตในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองศพของนักฆ่าผู้นั้นก่อน จากนั้นหันกลับมาก็มองเห็นเซียวอวี้เขายืนอยู่บนมุมสูงของหุบเขามรณะ ค่อย ๆ วางคันธนูในมือลง......ณ ค่ายหนานต้านอกกระโจมของฮ่องเต้และฮองเฮา อู๋ไป๋และเฉินจี๋คอยเฝ้าระวังอย่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งยังไม่มองอีกฝ่ายซักครั้งภายในกระโจมเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ทันจะอธิบายอะไรให้เซียวอวี้ฟังก่อน นางรีบวาดภาพแบบร่างที่
“แม่ทัพน้อย สารด่วนที่สุด! คุณหนูใหญ่ได้รับความอัปยศจนปลิดชีพตัวเอง นายหญิงต้องการให้ท่านกลับโดยเร็วที่สุด เพื่ออภิเษกสมรสแทนคุณหนูใหญ่!”ชายแดนแคว้นหนานฉี เกือกม้าย่ำผ่านลำธารที่เพิ่งละลาย หยดน้ำกระเซ็นซ่านเฟิ่งจิ่วเหยียนควบม้านำอยู่หน้าสุด นางสวมอาภรณ์เรียบง่ายแขนสอบสีดำ ใช้ปิ่นไม้อันเดียวรวบผมดำขลับ เส้นผมและชายชุดสะบัดพลิ้ว ในความองอาจเหนือคนนั้นแฝงไว้ซึ่งอารมณ์อันคุกรุ่นนางกับเฟิ่งเวยเฉียงน้องสาวเป็นฝาแฝดกัน แต่เนื่องจากการมีฝาแฝดไม่เป็นมงคล นางจึงถูกเลี้ยงดูอยู่ข้างนอกมาตั้งแต่เล็กเวยเฉียงมีนิสัยอ่อนโยนอ่อนหวาน ไม่เคยผูกความแค้นกับใครนางไม่เข้าใจเลย ใครจะทำร้ายคนที่บริสุทธิ์ดีงามเช่นนั้นนางจะจับคนผู้นั้นมาถลกหนังเลาะกระดูก สับเป็นชิ้น ๆ ป้อนให้สุนัขกินเสีย!องครักษ์เห็นว่าจะตามไม่ทันความเร็วของนางแล้วจึงตะโกนว่า“แม่ทัพน้อย ตอนนี้ควบม้าตายไปสองตัวแล้ว ข้างหน้ามีโรงเตี๊ยม แวะพักก่อนดีหรือไม่...”เฟิ่งจิ่วเหยียนสะบัดแส้ม้า“ตามไม่ทันก็ไสหัวกลับค่ายทหาร! ย่าห์!”โง่เง่า! มีเวลามาพักผ่อนเสียที่ไหน!สิ่งที่นางแบกรับอยู่ตอนนี้คือหนึ่งร้อยกว่าชีวิตในตระกูลเฟิ่ง!องคร
เฟิ่งจิ่วเหยียนที่อยู่ในห้องหรี่ดวงเนตรงามลงเล็กน้อยวันนี้ไม่ว่าผลตรวจร่างกายเป็นเช่นไร ก็ล้วนแต่ไม่เป็นผลดีต่อตระกูลเฟิ่งทั้งสิ้นหวงกุ้ยเฟยจะต้องตัดสินว่าบุตรีตระกูลเฟิ่งไม่บริสุทธิ์เป็นแน่ จากนั้นก็ใช้เหตุนี้สร้างเรื่องตามมาถ้าคนที่มาสวมรอยแทนอย่างนางถูกตรวจร่างกายได้ผลว่ายังบริสุทธิ์ ถึงจะสามารถป้องกันแผนร้ายของหวงกุ้ยเฟย แต่ก็คงจะทำให้หวงกุ้ยเฟยนึกสงสัยขึ้นมาทันทีที่เรื่องสวมรอยแต่งงานมีพิรุธปรากฏ ถึงยามนั้นโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงก็เพียงพอให้ตระกูลเฟิ่งประสบหายนะได้แล้ว!สายตาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองตรงไปข้างหน้า ใช้มือที่จับทวนมาจนชินนั้นแต้มบุปผาตรงหว่างคิ้วของตนเองอย่างหนักแน่นสิ่งที่อาจารย์สั่งสอนนางมีเพียงหลักพิชัยสงครามและหลักการเป็นขุนนางอาจารย์หญิงเคยสอนหลักการครองเรือนให้นาง ในนั้นย่อมมีธรรมเนียมปฏิบัติในวังหลวงด้วยเช่นกัน ยามนั้นแม้นางได้เรียนรู้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้นำมาใช้งานเพราะปณิธานของนางอยู่ที่ใต้หล้า ไม่ต้องการถูกคุมขังไว้ในเรือน เป็นเพียงภรรยาตัวน้อยที่โอนอ่อนผ่อนตามสามีคิดไม่ถึงว่าคนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิตนอกห้องขันทีผู้นั้นเดินนำนางกำนัลจากในวังหลวงตรงมา
‘ปืนมังกรไฟ’ ดี ๆ ได้พังไปเกินครึ่ง!ฐานยิงที่เปราะบางที่สุดแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ไปเช่นนี้ ถึงตัวกระบอกจะยังอยู่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว...คิดไม่ถึงเลยว่าอาวุธอันทรงพลังของเขาจะถูกทำลายไปเช่นนี้!ข้างกายรัชทายาทเยี่ยนมีองครักษ์ประจำตัวที่เป็นยอดฝีมืออยู่ พอเขาออกคำสั่งยอดฝีมือผู้นั้นก็ไล่ตามเฟิ่งจิ่วเหยียนไปเฟิ่งจิ่วเหยียนมีวิชาตัวเบาที่ยอดเยี่ยม ทว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้ายามที่นางเพิ่งจะข้ามชายแดนมา นักฆ่าด้านหลังก็ประชิดเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆยามที่เห็นว่าเขากำลังจะตามนางทันนี้เอง ทันใดนั้น...ฟิ้ว!ลูกธนูคมกริบยิงมาจากระยะไกลตรงเข้ากลางหน้าผากของนักฆ่าผู้นั้น!ลูกธนูนี้ยากที่จะป้องกัน ทั้งรวดเร็วและแม่นยำ นักฆ่าเสียชีวิตในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองศพของนักฆ่าผู้นั้นก่อน จากนั้นหันกลับมาก็มองเห็นเซียวอวี้เขายืนอยู่บนมุมสูงของหุบเขามรณะ ค่อย ๆ วางคันธนูในมือลง......ณ ค่ายหนานต้านอกกระโจมของฮ่องเต้และฮองเฮา อู๋ไป๋และเฉินจี๋คอยเฝ้าระวังอย่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งยังไม่มองอีกฝ่ายซักครั้งภายในกระโจมเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ทันจะอธิบายอะไรให้เซียวอวี้ฟังก่อน นางรีบวาดภาพแบบร่างที่
เมื่อรัชทายาทเยี่ยนออกคำสั่ง องครักษ์ก็ชักดาบเผชิญหน้ากับเฟิ่งจิ่วเหยียนทว่ายามที่กำลังจะเข้าโจมตี กลับเห็นนางโยนอะไรบางอย่างลงบนพื้น ทันใดนั้นหมอกควันสีขาวก็พวยพุ่งออกมาหมอกควันนี้บดบังสายตาของพวกเขา ทำให้พวกเขามองเห็นไม่ชัดรอจนกระทั่งควันถูกพัดออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนก็หนีไปนานแล้วคนที่จากไปไกลยังคงส่งเสียงผ่านอากาศไปถึงรัชทายาทเยี่ยนว่า“ในเมื่อองค์รัชทายาทไม่มีใจจะเป็นพันธมิตรกัน เช่นนั้นพวกเราก็จะไม่เกรงใจเรื่อง ‘ปืนมังกรไฟ’ แล้ว”รัชทายาทเยี่ยนพุ่งออกไปนอกกระโจมด้วยสายตาดำทะมึน เขามองไปรอบทิศ พบเพียงความมืดมิดไหนเลยจะมีเงาร่างของราชทูตหนานเจียง!ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความโกรธ “ตามไป! จับคนกลับมาให้ได้! อยู่ต้องเห็นคน ตายต้องเห็นศพ!”“พ่ะย่ะค่ะ”จากนั้นเขาก็คว้าตัวองครักษ์ที่ตนเชื่อใจมาแล้วกล่าวเสียงเบา“เจ้าไปดูด้านหลังด้วยตนเอง หากมีผิดพลาดกับ ‘ปืนมังกรไฟ’ แม้แต่น้อย ข้าจะลงโทษเจ้าประหารเก้าชั่วโคตร!”องครักษ์รับคำสั่งทันทีหารู้ไม่ว่า ทันทีที่เขาเพิ่งเดินออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตามไปอย่างเงียบ ๆ แล้วนางไม่ได้จากไป เพียงแอบซุ่มหลบอยู่เท่านั้นแผนโยนหินถามทางตอ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม รุ่ยอ๋องออกมาจากห้องลับ คิ้วที่อ่อนโยนถูกปกคลุมด้วยสีหม่นหมองเล็กน้อย บนคอยังมีรอยข่วนแดงหลายแผลหลิวหวา รีบก้มศีรษะลงอย่างเคารพนอบน้อมรุ่ยอ๋องจัดรอยยับบนเสื้อผ้า น้ำเสียงยังคงสงบสุขุม“นางไม่อยากทาน ก็ให้นางอดสักสองวัน”“ขอรับ”……ชายแดนใต้อู๋ไป๋ลอบเข้าไปในค่ายเป่ยเยี่ยน กลับสืบไม่รู้ตำแหน่งของปืนมังกรไฟหากยังอยู่ต่อไป เขาจะถูกจับได้ จึงต้องกลับมารายงานก่อนท่าทีเฟิ่งจิ่วเหยียนเคร่งขรึมสิ่งที่อันตรายที่สุดของเป่ยเยี่ยน ไม่ใช่รัชทายาทเยี่ยน แต่เป็นรัชทายาทเยี่ยนที่มีปืนมังกรไฟตอนนี้แคว้นหนานฉีอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น สามารถตอบโต้ได้ในระดับเล็กน้อยเท่านั้น ไม่กล้าที่จะใช้กำลังทหารทั้งหมด ก็เพราะสาเหตุนี้ดังนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงมีความคิดที่กล้าหาญ“ไม่ได้!” เซียวอวี้ฟังแผนการของนางเสร็จ ก็ไม่เห็นด้วยขึ้นมาทันทีพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เราจะให้เจ้าไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้!”เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเย็นเหมือนปกติ แฝงไปด้วยความเพียรพยายามของนาง“เป่ยเยี่ยนแข็งแกร่งวางอำนาจบาตรใหญ่ได้ ก็เพราะอาศัย‘ปืนมังกรไฟ’“ก่อนหน้านี้มันถูกเป่ยเยี่ยนซ่อน
ที่สูงบนหุบเขามรณะเฉินจี๋กลับมาจากกองหน้า ยกมือประสานกราบทูลรายงาน“ฝ่าบาท! ทหารเยี่ยนเคลื่อน‘ปืนมังกรไฟ’ออกมาแล้ว ! ”ด้านข้างเซียวอวี้มีขุนพลยืนอยู่หลายคน หนึ่งในนั้น ซุนเต๋อฟางได้ยินคำพูดนี้ ก็รีบพูดกล่อมขึ้นมา“ฝ่าบาท ทั้งสองฝ่ายไม่ใช้พระแสงปืน ถึงจะสมดุล”“พวกเราให้ปืนหอกไฟ เป่ยเยี่ยนก็ต้องใช้‘ปืนมังกรไฟ’!”“ขอร้องท่านรีบมีรับสั่ง ถอนปืนหอกไฟกลับมา ! ”เซียวอวี้พูดขึ้นมาอย่างเด็ดขาด“เดินหน้าต่อไป!”ซุนเต๋อฟางถอดถอนหายใจเกรงว่ารัชทายาทเยี่ยนบ้าคลั่งคนนั้น ใช้ปืนมังกรไฟขึ้นมาจริง ๆ แล้วก็พินาศตายไปด้วยกัน!ก็มีขุนพลที่ไม่เห็นด้วยไม่มีผู้ใดไม่กลัวตาย“ปืนมังกรไฟ” ยิงขึ้นมา ภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ ไร้คนรอด ระยะการยิงก็อยู่ภายในระยะสิบลี้ ตอนนี้ทหารเยี่ยนอยู่ห่างพวกเขาเพียงสิบกว่าลี้ ดังนั้นหากพวกเขาใช้ปืนมังกรไฟ ก็ล้วนอย่าคิดมีชีวิตรอดและแล้ว รอแล้วรอเล่า ก็ไม่เห็นได้ข่าวร้ายนี้ขึ้นมาจนหลังจากผ่านไปสี่ชั่วยาม ได้รับข่าวดีแห่งชัยชนะมาจากกองหน้า เหล่าขุนพลค่อยโล่งอกขึ้นมาจริง ๆ ……ศึกในหุบเขามรณะ ทหารเยี่ยนบาดเจ็บล้มตายกว่าครึ่ง เดิมควรที่จะล่าถอยออกมาจากหุบเขามรณ
ชะตาฟ้ากำหนด สีหน้าองค์หญิงหนานเจียงมองไปด้วยสายตาไม่อาจเชื่อ เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจและความโกรธนางมาช้าไปเพียงหนึ่งวัน!หากนางนำเสบียงอาหารมาส่งเมื่อวาน ก็จะได้อภิเษกกับฮ่องเต้ฉีแล้ว!เมื่อครู่องค์หญิงหนานเจียงยังวางอำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงคน คิดว่าตนเองมีอำนาจ เวลานี้เป็นเหมือนมะเขือโดนน้ำค้าง กลับไปด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยเฉินจี๋แอบปาดเหงื่อโชคดีที่เมื่อคืนฮองเฮามาทันเวลา ไม่เช่นนั้น ฝ่าบาทอาจจะได้กลายเป็นพระราชบุตรเขยของหนานเจียงแล้วแววตาเซียวอวี้ลึกล้ำเยือกเย็นองค์หญิงหนานเจียงคนนี้ พฤติกรรมเสียโดยกำเนิดจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร……“องค์หญิงหนานเจียง?” ภายในกระโจม เฟิ่งจิ่วเหยียนฟัง เซียวอวี้เล่าให้ฟังแล้วก็แปลกใจด้วยความไม่รู้ตัว นางได้พูดความในใจออกมา“ได้ยินมาว่านางเป็นคนหัวสูง ทำไมถึงได้ชอบท่าน?”เซียวอวี้: ?“เราด้อยตรงไหนกัน!” เขาไม่ควรเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หาเรื่องให้ตนเองขายหน้าชัด ๆ!คนปกติไม่ควรที่จะพูดว่า องค์หญิงหนานเจียงไม่รู้จักเจียมตัวหรือ!เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบายขึ้นมาอย่างเชื่องช้า“ใช่ว่าท่านไม่ดีพอ ความจริงคือองค์หญิงหนานเจียงรักษาขนบธรรมเนียมเ
เฟิ่งจิ่วเหยียนสะดุ้งลุกขึ้นมานั่ง จ้องมองดูเซียวอวี้ด้วยสีหน้างุนงงเซียวอวี้ดูเหมือนไม่ง่วงเลย เอ่ยถามอย่างเรียบเฉย “ทำไมถึงตื่นแล้วล่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนยกมือข้างหนึ่งกุมหน้าผาก“ทำไมท่านถึงยังไม่บรรทม?”“เรากำลังครุ่นคิดเรื่องที่จะบุกโจมตีในวันพรุ่งนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียน: งั้นก็ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้นี่ตื่นขึ้นมากลางดึก หัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ……กองกำลังค่ายทหารเป่ยเยี่ยนรัชทายาทเยี่ยนส่งคนมาสืบข่าว จึงได้รู้ว่าเสบียงอาหารแคว้นหนานฉีมาถึงแล้วมิน่าคืนนี้พวกเขามีแรงร้องเพลงอาลัย!แต่เส้นทางลำเลียงเสบียงของแคว้นหนานฉี ถูกทหารเยี่ยนควบคุมอยู่ เสบียงพวกนี้ขนส่งเข้ามาได้อย่างไร?ไม่นาน ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ให้คำตอบ“รายงาน! รัชทายาท มีข่าวแจ้งมาว่า คนแคว้นฉียึดเส้นทางเสบียงอาหารกลับคืนไปแล้ว! ยังได้ฆ่าคนของเราทั้งหมด!”รัชทายาทเยี่ยนนั่งอยู่ด้านข้างเตียง สีหน้าดุร้าย เย็นชาใบหน้าของเขาที่แยกไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชายนั้น ฉายแววไอสังหารอย่างไม่ปกปิด“ค่ายทหารแคว้นหนานฉี ถูกทหารของเราควบคุม แล้วจะแย่งเส้นทางลำเลียงเสบียงไปได้อย่างไร!”พูดใต้บังคับบัญชารายงานต่อ“ในที่เกิดเหต
แคว้นหนานฉีกับเป่ยเยี่ยนสองกองทัพเผชิญหน้ากัน คั่นกลางด้วยหุบเขามรณะอันกว้างใหญ่หุบเขามรณะนี้เส้นทางขรุขระ ไม่มีใบหญ้าเติบโตตลอดทั้งปีหากฝ่ายใดสามารถข้ามผ่านหุบเขามรณะ ชัยชนะก็จะอยู่เพียงแค่เอื้อมแคว้นหนานฉีเฝ้าป้องกันเป็นหลัก เป่ยเยี่ยนกลับใช้วิธีสู้รบด้วยคนจำนวนมากเมื่อเทียบกันแล้ว เป่ยเยี่ยนได้เปรียบกว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้ยืนอยู่ที่ลับ สามารถมองเห็นทหารเยี่ยน เข้าไปปักหลักในหุบเขามรณะแล้วลมในหุบเขาผสานไปด้วยไอร้อน เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูธงของทหารเยี่ยน พร้อมพูดขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชา“อย่างน้อยก็ต้องถ่วงเวลาทหารเยี่ยนหนึ่งเดือน”เซียวอวี้หันมามองหน้านาง “หมายความว่าอย่างไร?”เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบายให้เขาฟัง“ก่อนที่จะคุมเสบียงอาหารมา ข้าได้ส่งคนไปยังเป่ยเยี่ยน“สาเหตุการศึกในครั้งนี้มาจากรัชทายาทเยี่ยน“คนที่สามารถควบคุมเขาได้ มีเพียงฮ่องเต้เยี่ยน”“เจ้าคิดอยากให้ฮ่องเต้เยี่ยน เรียกตัวรัชทายาทกลับไป?” เซียวอวี้ไม่เห็นด้วย “ฮ่องเต้เยี่ยนป่วยหนัก คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ไม่เช่นนั้นคงไม่ให้รัชทายาทเยี่ยน นำทหารเยี่ยนสามแสนคนออกมาล้อเล่น”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดในสิ่งท
เมื่อเห็นคนอยู่ตรงหน้า สีหน้าเซียวอวี้ไม่สงบใจเย็นเหมือนที่ผ่านมาดวงตาสีดำเข้มของเขาเบิกโต แล้วก็ยิ่งโต“ฮองเฮา! เจ้า...”เฉินจี๋ก็อึ้งตะลึงอย่างมากฮองเฮามาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?ทันใดนั้น ก็มีเงาร่างหนึ่งผ่านสายตาไปมองดูอีกที ฝ่าบาทได้ก้าวเดินไปแล้ว คว้าโอบกอดฮองเฮาไว้แนบอกเฉินจี๋เห็นดังนี้ ก็ถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้กอดคนในอ้อมอกไว้แน่น สัมผัสความอบอุ่นของนางนี่เป็นการทำศึกที่ไม่มีความมั่นใจที่สุด เท่าที่เขาเคยต่อสู้มารัชทายาทเยี่ยนคนนั้น ไม่ทำตามกลยุทธ์ทางทหาร ใช้แต่แผนการชั่วช้าเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังเอื้อมมือผลักเขา ก็ได้ยินเสียงเขาพูดขึ้นมา “ให้เรากอดครู่หนึ่ง เรา...หนาว”ช่วงเดือนกันยายน เมืองหลวงอาจอากาศกำลังเริ่มเย็น ทว่าชายแดนใต้ไม่หนาว ยังร้อนด้วยซ้ำเฟิ่งจิ่วเหยียนผลักเขาออก“ทานอาหารก่อน”เขาไม่หิว ทว่านางหิวแล้วเมื่อคืนนางฆ่าทหารศัตรูไปมากมายทั้งคืน จึงสามารถแย่งเส้นทางส่งเสบียงมาได้กลางวันนี้ก็เร่งเดินทางนำเสบียงมาส่ง ไม่ได้หยุดพักเลยเซียวอวี้คิดขึ้นมาได้ทันที“พวกเขาให้เจ้าเป็นผู้มาส่งเสบียงได้อย่างไร!”สมควรตาย!แคว้นหนานฉีไม่มี
ด้วยความโกรธโมโห เฉินอ๋องฟาดนกในกรงไปที่พื้นนกที่อยู่ข้างในกระพือปีกบินออกไป บินชนที่ผนัง หมดสติหล่นตกพื้นเฉินอ๋องไม่มีความสงสาร ใช้เท้าเหยียบลงไป“ปืนหอกไฟนี้ เซียวอวี้หวงแหนอย่างมาก เพื่อไม่ให้มันถูกแคว้นศัตรูได้ไป ไม่ยอมให้ใครแตะต้อง อย่าว่าแต่ให้คนนำออกไปใช้ป้องกันตัวเลย”“ฮองเฮาสามารถนำไปได้อย่างไร?“รุ่ยอ๋องกับกรมศัสตราวุธ ยามนี้ไยพวกเขาไม่รักษากฎปฏิบัติของฮ่องเต้!“ทหาร ตามข้าไปจวนรุ่ยอ๋อง!”จวนรุ่ยอ๋องรุ่ยอ๋องคาดรู้ว่าเฉินอ๋องจะต้องมาก่อเรื่องวุ่นวายแต่แรก จึงเตรียมพร้อมรอแล้ว“ปืนหอกไฟหรือ? ข้าไม่รู้เรื่อง เฉินอ๋องรู้เรื่องได้อย่างไร?” รุ่ยอ๋องยิ้มแย้มอ่อนโยน ราวกับไม่เคยโกรธโมโหเฉินอ๋องตบโต๊ะอย่างขุ่นเคือง“เจ้าให้ฮองเฮานำปืนหอกไฟไป หากตกอยู่ในมือของแคว้นศัตรู ความผิดนี้ เจ้ารับผิดชอบไหวหรือไม่!“ตอนนี้รีบไปตามเอาปืนหอกไฟกลับมา!”รุ่ยอ๋องดื่มน้ำชาอยู่อย่างนิ่งสงบ“ข้ารู้แล้ว เรื่องนี้ ข้าจะสืบความให้แน่ชัด หากเป็นความจริง เช่นนั้นปืนหอกไฟ ยังไงก็ต้องเอากลับมา”เฉินอ๋องเห็นเขาใจเย็นเช่นนี้ ก็ร้อนใจอย่างยิ่ง “ส่งคนไปตามเดี๋ยวนี้เลย!”รุ่ยอ๋องพูดขึ้นมาอย่าง