แชร์

บทที่ 457

ผู้เขียน: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 16:43:04
เซียวอวี้วางถ้วยชาลง ดูเหมือนมีจิตใจสบายดังก้อนเมฆที่ล่องลอยอยู่ แต่ก็แฝงไปด้วยความคิดอันล้ำลึก มีความมั่นใจเต็มอก

“มิใช่เรา แต่เป็นท่าน

“อ๋องแห่งหนานเจียงมีความคิดล้ำเลิศ ถึงแม้จะเป็นชนเผ่าเล็ก ๆ ทว่ามีความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับเป่ยเยี่ยน ด้วยวิธีที่ท่านหลอกให้กองทัพใหญ่เป่ยเยี่ยนช่วยท่านโจมตีหนานฉีก่อน แท้จริงแล้วกำลังแอบแสดงไมตรีต่อหนานฉีของเรา ดังนั้นหนานฉีจะมอบปืนหอกไฟหนึ่งร้อยกระบอก เพื่อช่วยเหลือหนานเจียงของท่าน ในการทำลายล้างกองทัพเยี่ยนทั้งห้าหมื่นนาย

“จากนี้ไป หนานเจียงจะมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วหล้า ถึงอย่างไร ยังไม่มีผู้ใดกล้าเล่นงานเป่ยเยี่ยนอยู่หมัดได้ อ๋องแห่งหนานเจียง ท่านเป็นผู้กล้าคนแรกของใต้หล้านี้”

ถ้อยคำของเขาพูดอยู่นั้น ผิดแผกกับสถานการณ์จริงโดยสิ้นเชิง

ทว่า อ๋องแห่งหนานเจียงฟังออก นี่คือการแสดงที่อีกฝ่ายจัดเตรียมให้เขา

การแสดงนี้อาจทำให้หนานเจียงเอาชนะเป่ยเยี่ยนได้อย่างงดงาม และทำให้ทั่วหล้ามองมาอย่างประทับใจ!

ในอนาคต แว่นแคว้นใดคิดโจมตีพวกเขา คงจะต้องชั่งน้ำหนักถึงผลได้ผลเสียให้ดีก่อน...

ทว่า แผนการนี้ก็มีผลลัพธ์ที่อาจจะประเมิน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 458

    อู๋ไป๋กล่าวรายงานเบาะแสที่สืบพบ อย่างฉะฉาน “เมื่อแรกเริ่มก่อตั้งพรรคเทียนหลง ก็ได้รับหยกล้ำค่ามาหนึ่งชุด ขุนพลอาวุโสทั้งหลายของพรรคจึงใช้หยกนั้นทำเป็นแหวนน้าว และฝังด้วยอัญมณีหลากสีสัน “คนเหล่านั้นเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของพรรคเทียนหลง มิเคยเปิดเผยโฉมหน้าแท้จริงให้ผู้อื่นเห็น และไม่ค่อยปรากฏตัว ดังนั้น มีเพียงข่าวลือในยุทธภพ กลับไม่เคยมีผู้ใดได้เห็นพวกเขาจริง ๆ “แหวนน้าวนี้ จึงใช้เวลาสืบสอบนานมาก กว่าจะได้พบเบาะแสพ่ะย่ะค่ะ” แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็นเป็นพิเศษ ที่แท้ก็เป็นคนของพรรคเทียนหลง พวกเขาไม่ได้ถูกสังหารทั้งหมด ในการศึกครั้งใหญ่เมื่อหลายปีก่อนหรือ นางสงสัยว่า ที่ชายแดนเหนือปีนั้น คนที่พวกเขาต้องการสังหารคือแม่ทัพน้อยเมิ่ง หรือซูฮ่วน? ซูฮ่วนและพรรคเทียนหลงมีความบาดหมางต่อกัน ส่วนแม่ทัพน้อยเมิ่งไม่มี... เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงสั่งให้อู๋ไป๋ส่งข้อความ แจ้งทุกคนในพันธมิตรอู่หลินคอยระแวดระวัง บางที พรรคเทียนหลงอาจกำลังลอบวางแผนฟื้นคืนความรุ่งโรจน์ หลังกลับถึงพระราชวังแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนเขียนอธิบายเรื่องนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 459

    รุ่ยอ๋องยืนอยู่ต่อหน้าขุนนางทั้งหมด และเผชิญหน้ากับพวกเขา ด้วยคำถามเดิม “มีผู้ใดอยากเป็นเจ้าหน้าที่กำกับการขนส่งเสบียงหรือไม่” โดยปกติเขามักจะอ่อนโยนสง่างามดุจหยกล้ำค่า พูดคุยเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน ทว่าหลายวันนี้ เขาค่อนข้างกระวนกระวายใจ เมื่อเห็นว่าฝ่าบาทเผชิญปัญหาอยู่ที่ชายแดนใต้ กลับไม่มีผู้ใดใช้งานได้เลย หากเขาไม่ต้องคอยบริหารบ้านเมืองอยู่ที่เมืองหลวง ก็จะออกสู่สนามรบด้วยตนเองแล้ว! “ท่านอ๋อง เจ้าหน้าที่กำกับการขนส่งเสบียงเสียชีวิตหลายราย ดังนั้นภารกิจเร่งด่วนที่สุด คือกำจัดพวกโจรที่ปล้นเสบียงอาหาร มิฉะนั้นพวกเราส่งไปอีกชุด ก็ถูกปล้นอีกชุด ไม่มีความหมายพ่ะย่ะค่ะ!” รุ่ยอ๋องย่อมทราบหลักการนี้โดยธรรมชาติ เขาได้ส่งกองกำลังออกไปปราบปรามแล้ว ทว่าจนถึงยามนี้ก็ยังไม่ได้รับข่าวที่เชื่อถือได้เลย อย่างไรก็ตามไม่สามารถรอได้อีกต่อไปแล้ว ในสงครามนั้นกองทัพต้องเดินด้วยท้อง ตอนนี้เสบียงที่ส่งไปยังชายแดนใต้เกิดความล่าช้า และยิ่งล่าช้ามากเท่าไร ฝ่าบาทกับทหาร ก็จะเผชิญกับอันตรายมากขึ้นเท่านั้น “แม่ทัพซ่ง...” รุ่ยอ๋องเรียกชื่อด้วยตนเอง แม่ทัพซ่งก้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 460

    เฉินอ๋องเดินยืดอกเชิดหน้าเข้ามาในท้องพระโรง โดยมีองครักษ์สองคนติดตามมาทางด้านหลัง เมื่อเหล่าขุนนางได้เห็นเขาแล้ว พลันมีปฏิกิริยาแตกต่างกันออกไป มีทั้งมองอย่างประจบสอพลอหมายจะพึ่งพิง และมีทั้งแปลกใจระคนสับสน นัยน์ตาของรุ่ยอ๋องเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เฉินอ๋อง ท่านควรอยู่ในเมืองซวีโจว ไม่ถูกเรียกตัวไม่อนุญาตให้เข้าเมืองหลวง” เฉินอ๋องมีอายุสามสิบกว่าปี และเป็นโอรสองค์โตของฮ่องเต้พระองค์ก่อน หลังฝ่าบาทเสด็จขึ้นครองราชย์ ได้ใช้นโยบายเลือดเหล็กกับพี่น้อง โดยหากไม่ได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้ เหล่าอ๋องสามารถอยู่ได้เฉพาะในเมืองศักดินาเท่านั้น เวลานี้ฮ่องเต้มีภัยอยู่ที่ชายแดนใต้ เฉินอ๋องจึงกระตือรือร้นอย่างออกนอกหน้า รุ่ยอ๋องระแวดระวังบุคคลนี้ยิ่งนัก เฉินอ๋องยกมือลูบตอหนวดใต้คาง เต็มไปด้วยความมั่นใจที่ถูกต้อง “เป็นคำสั่งของไทฮองไทเฮา!” หัวใจของรุ่ยอ๋องจมลงเล็กน้อย เฉินอ๋องก้าวเดินขึ้นไปหารุ่ยอ๋อง เสมือนสัตว์ป่า ที่พร้อมตะครุบเหยื่อเหล่านั้น เขามองดูรุ่ยอ๋องตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างมุ่งร้าย และเย้ยหยัน “ฝ่าบาทตกอยู่ในอันตราย ไทฮองไทเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 461

    ภายในตำหนักหย่งเหอรุ่ยอ๋องยืนพูดกับฮองเฮาที่นั่งอยู่ข้างในผ่านแผ่นกั้น“…เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้ พี่สะใภ้ เฉินอ๋องบีบคั้นกดดัน พวกเราขี่หลังเสือแล้วลงยาก”“การลำเลียงเสบียงอาหารไปส่งในครั้งนี้ สำคัญเป็นอย่างยิ่ง“พี่สะใภ้ต้องการลูกน้องเท่าไหร่ บอกมาได้เลย“พวกเราต้องรับประกันว่า เสบียงอาหารชุดนี้จะสามารถนำไปส่งถึงชายแดนใต้อย่างราบรื่น”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย“จำนวนคนไม่ต้องมาก ขอเพียงพวกเขาเชื่อถือได้ และเชื่อฟังพอ”รุ่ยอ๋องไม่เห็นด้วย“ข้ารู้ว่าท่านมีวรยุทธ ทว่าก็ต้องระมัดระวัง เรือที่แล่นด้วยความระมัดระวังจึงจะอยู่ได้ยาวนาน ข้าสงสัย เหตุการณ์ที่มีการปล้นเสบียงที่ส่งไปหลายคราก่อนหน้านี้ เป็นไปได้อย่างมากที่มีเฉินอ๋องวางแผนอยู่เบื้องหลัง“เขาเล็งท่านไว้แล้ว ก็จะไม่ให้ท่านไปถึงชายแดนใต้อย่างราบรื่นแน่นอน พาคนไปมากหน่อยจะดีกว่า”เฟิ่งจิ่วเหยียนมีความคิดเป็นของตนเอง“ในเมื่อท่านเจ้ารู้ว่าเฉินอ๋องมีปัญหา ฉะนั้นก็ควรสืบให้ดี“ส่วนเรื่องการลำเลียงขนส่งเสบียง ข้ามีแผนของตนเอง”รุ่ยอ๋องกดคางลง“พ่ะย่ะค่ะ”……วันรุ่งขึ้นเหล่านางสนมมารวมตัวกันที่ตำหนักหย่งเหอ“

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 462

    ที่มู่หรงฉานมาในครั้งนี้ ก็เพื่อช่วยคนหนึ่ง“สาวใช้ของหม่อมฉัน หลิวซวี่...ตอนนั้น นางยอมรับผิดแทนหม่อมฉัน ถึงถูกลงโทษถูกส่งไปยังหน่วยลงทัณฑ์”“หม่อมฉันมาในวันนี้ เพื่อสารภาพความผิด ขอร้องท่าน...ขอร้องให้ท่านปล่อยหลิวซวี่”แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนเรียบเฉย“เจ้ารู้หรือไม่ มีความผิดต้องได้รับโทษ?”มู่หรงฉานหลุบตาลง“รู้เพคะ หม่อมฉันยอมถูกทำโทษ ทว่าหลิวซวี่ไม่มีความผิดอะไร“นับจากที่หม่อมฉันเขาวัง ก็ถูกจิตใจมารของตนเองครอบงำมาตลอด“ตอนนี้ หม่อมฉันอยากช่วยตนเอง”แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนนิ่งสงบ“ข้าให้เจ้าได้สมปรารถนา”มู่หรงฉานค่อยโล่งอก จากนั้นก็คุกเข่าลง หันไปถวายความเคารพเฟิ่งจิ่วเหยียนอย่างเป็นทางการ“ฮองเฮา หม่อมฉันเคยคิดที่จะล้มท่านมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท เป็นความผิดของหม่อมฉัน”“ท่านไม่ถือสา ยังดีกับหม่อมฉัน...”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดแทรกนางขึ้นมา“เจ้าเข้าใจเรื่องนี้ผิด”มู่หรงฉานเงยหน้าขึ้นมา มองดูนางด้วยความสับสนเฟิ่งจิ่วเหยียนพูดขึ้นมาอย่างนิ่งสงบเป็นพิเศษ“เดิมข้าไม่อยากพูดความจริงออกมา ทว่าตอนนี้ ข้าคิดว่าเจ้าควรรับรู้”“คำขอร้องของเจ้า มาส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 463

    ก่อนที่จะออกเดินทางขนส่งเสบียง อู๋ไป๋ได้สืบมาหมดแล้วเจ้าเมืองเมืองซี เป็นอุปสรรคหนึ่งในการขนส่งเสบียงเขาอ้างการตรวจค้น แอบยึดเสบียงทหารไว้ส่วนหนึ่ง เป็นการกระทำที่น่ารังเกียจมากเฟิ่งจิ่วเหยียนบอกเป็นนัยให้องครักษ์นำหนังสือนำทางไปให้ดูก่อนองครักษ์พูดกับทหารทางการที่เป็นหัวหน้า “พวกเราล้วนเป็นพ่อค้าสุจริต นี่คือศาสน์ของรุ่ยอ๋อง...”ไม่คาดคิดว่า ทหารทางการกลับปัดศาสน์นำทางหล่นตก ด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง“คนของรุ่ยอ๋อง ก็ต้องทำตามกฎปฏิบัติ! มาถึงเมืองซี ก็ต้องทำตามกฎปฏิบัติของเมืองซี!”องครักษ์ส่งเสียงดุขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว“บังอาจ! ศาสน์ของรุ่ยอ๋อง จะให้พวกเจ้าเมาทำไร้มารยาทเช่นนี้ไม่ได้!”พัฟ!ทหารทางการฟาดตบหน้าเขาหนึ่งที“เจ้าต่างหากที่บังอาจ! เชื่อหรือไม่ เพียงข้าสั่งประโยคเดียว รับรองว่าพวกเจ้าออกจากประตูเมืองไม่ได้!”คนที่ติดตามเฟิ่งจิ่วเหยียนนั้น ล้วนเป็นองครักษ์วังหลวง เป็นคนที่ฮ่องเต้ไว้วางใจ ก่อนที่ฮ่องเต้จะออกไปทำศึกได้ตรัสสั่งพวกเขาไว้ จะต้องคอยปกป้องฮองเฮาให้ดี ทุกอย่างล้วนฟังคำสั่งของนางเมื่อสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตรของอีกฝ่าย ปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณของพวกเขาคือก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 464

    ด้วยความโกรธโมโห เฉินอ๋องฟาดนกในกรงไปที่พื้นนกที่อยู่ข้างในกระพือปีกบินออกไป บินชนที่ผนัง หมดสติหล่นตกพื้นเฉินอ๋องไม่มีความสงสาร ใช้เท้าเหยียบลงไป“ปืนหอกไฟนี้ เซียวอวี้หวงแหนอย่างมาก เพื่อไม่ให้มันถูกแคว้นศัตรูได้ไป ไม่ยอมให้ใครแตะต้อง อย่าว่าแต่ให้คนนำออกไปใช้ป้องกันตัวเลย”“ฮองเฮาสามารถนำไปได้อย่างไร?“รุ่ยอ๋องกับกรมศัสตราวุธ ยามนี้ไยพวกเขาไม่รักษากฎปฏิบัติของฮ่องเต้!“ทหาร ตามข้าไปจวนรุ่ยอ๋อง!”จวนรุ่ยอ๋องรุ่ยอ๋องคาดรู้ว่าเฉินอ๋องจะต้องมาก่อเรื่องวุ่นวายแต่แรก จึงเตรียมพร้อมรอแล้ว“ปืนหอกไฟหรือ? ข้าไม่รู้เรื่อง เฉินอ๋องรู้เรื่องได้อย่างไร?” รุ่ยอ๋องยิ้มแย้มอ่อนโยน ราวกับไม่เคยโกรธโมโหเฉินอ๋องตบโต๊ะอย่างขุ่นเคือง“เจ้าให้ฮองเฮานำปืนหอกไฟไป หากตกอยู่ในมือของแคว้นศัตรู ความผิดนี้ เจ้ารับผิดชอบไหวหรือไม่!“ตอนนี้รีบไปตามเอาปืนหอกไฟกลับมา!”รุ่ยอ๋องดื่มน้ำชาอยู่อย่างนิ่งสงบ“ข้ารู้แล้ว เรื่องนี้ ข้าจะสืบความให้แน่ชัด หากเป็นความจริง เช่นนั้นปืนหอกไฟ ยังไงก็ต้องเอากลับมา”เฉินอ๋องเห็นเขาใจเย็นเช่นนี้ ก็ร้อนใจอย่างยิ่ง “ส่งคนไปตามเดี๋ยวนี้เลย!”รุ่ยอ๋องพูดขึ้นมาอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 465

    เมื่อเห็นคนอยู่ตรงหน้า สีหน้าเซียวอวี้ไม่สงบใจเย็นเหมือนที่ผ่านมาดวงตาสีดำเข้มของเขาเบิกโต แล้วก็ยิ่งโต“ฮองเฮา! เจ้า...”เฉินจี๋ก็อึ้งตะลึงอย่างมากฮองเฮามาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?ทันใดนั้น ก็มีเงาร่างหนึ่งผ่านสายตาไปมองดูอีกที ฝ่าบาทได้ก้าวเดินไปแล้ว คว้าโอบกอดฮองเฮาไว้แนบอกเฉินจี๋เห็นดังนี้ ก็ถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้กอดคนในอ้อมอกไว้แน่น สัมผัสความอบอุ่นของนางนี่เป็นการทำศึกที่ไม่มีความมั่นใจที่สุด เท่าที่เขาเคยต่อสู้มารัชทายาทเยี่ยนคนนั้น ไม่ทำตามกลยุทธ์ทางทหาร ใช้แต่แผนการชั่วช้าเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังเอื้อมมือผลักเขา ก็ได้ยินเสียงเขาพูดขึ้นมา “ให้เรากอดครู่หนึ่ง เรา...หนาว”ช่วงเดือนกันยายน เมืองหลวงอาจอากาศกำลังเริ่มเย็น ทว่าชายแดนใต้ไม่หนาว ยังร้อนด้วยซ้ำเฟิ่งจิ่วเหยียนผลักเขาออก“ทานอาหารก่อน”เขาไม่หิว ทว่านางหิวแล้วเมื่อคืนนางฆ่าทหารศัตรูไปมากมายทั้งคืน จึงสามารถแย่งเส้นทางส่งเสบียงมาได้กลางวันนี้ก็เร่งเดินทางนำเสบียงมาส่ง ไม่ได้หยุดพักเลยเซียวอวี้คิดขึ้นมาได้ทันที“พวกเขาให้เจ้าเป็นผู้มาส่งเสบียงได้อย่างไร!”สมควรตาย!แคว้นหนานฉีไม่มี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 472

    ‘ปืนมังกรไฟ’ ดี ๆ ได้พังไปเกินครึ่ง!ฐานยิงที่เปราะบางที่สุดแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ไปเช่นนี้ ถึงตัวกระบอกจะยังอยู่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว...คิดไม่ถึงเลยว่าอาวุธอันทรงพลังของเขาจะถูกทำลายไปเช่นนี้!ข้างกายรัชทายาทเยี่ยนมีองครักษ์ประจำตัวที่เป็นยอดฝีมืออยู่ พอเขาออกคำสั่งยอดฝีมือผู้นั้นก็ไล่ตามเฟิ่งจิ่วเหยียนไปเฟิ่งจิ่วเหยียนมีวิชาตัวเบาที่ยอดเยี่ยม ทว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้ายามที่นางเพิ่งจะข้ามชายแดนมา นักฆ่าด้านหลังก็ประชิดเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆยามที่เห็นว่าเขากำลังจะตามนางทันนี้เอง ทันใดนั้น...ฟิ้ว!ลูกธนูคมกริบยิงมาจากระยะไกลตรงเข้ากลางหน้าผากของนักฆ่าผู้นั้น!ลูกธนูนี้ยากที่จะป้องกัน ทั้งรวดเร็วและแม่นยำ นักฆ่าเสียชีวิตในทันทีเฟิ่งจิ่วเหยียนหันไปมองศพของนักฆ่าผู้นั้นก่อน จากนั้นหันกลับมาก็มองเห็นเซียวอวี้เขายืนอยู่บนมุมสูงของหุบเขามรณะ ค่อย ๆ วางคันธนูในมือลง......ณ ค่ายหนานต้านอกกระโจมของฮ่องเต้และฮองเฮา อู๋ไป๋และเฉินจี๋คอยเฝ้าระวังอย่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งยังไม่มองอีกฝ่ายซักครั้งภายในกระโจมเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ทันจะอธิบายอะไรให้เซียวอวี้ฟังก่อน นางรีบวาดภาพแบบร่างที่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 471

    เมื่อรัชทายาทเยี่ยนออกคำสั่ง องครักษ์ก็ชักดาบเผชิญหน้ากับเฟิ่งจิ่วเหยียนทว่ายามที่กำลังจะเข้าโจมตี กลับเห็นนางโยนอะไรบางอย่างลงบนพื้น ทันใดนั้นหมอกควันสีขาวก็พวยพุ่งออกมาหมอกควันนี้บดบังสายตาของพวกเขา ทำให้พวกเขามองเห็นไม่ชัดรอจนกระทั่งควันถูกพัดออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนก็หนีไปนานแล้วคนที่จากไปไกลยังคงส่งเสียงผ่านอากาศไปถึงรัชทายาทเยี่ยนว่า“ในเมื่อองค์รัชทายาทไม่มีใจจะเป็นพันธมิตรกัน เช่นนั้นพวกเราก็จะไม่เกรงใจเรื่อง ‘ปืนมังกรไฟ’ แล้ว”รัชทายาทเยี่ยนพุ่งออกไปนอกกระโจมด้วยสายตาดำทะมึน เขามองไปรอบทิศ พบเพียงความมืดมิดไหนเลยจะมีเงาร่างของราชทูตหนานเจียง!ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความโกรธ “ตามไป! จับคนกลับมาให้ได้! อยู่ต้องเห็นคน ตายต้องเห็นศพ!”“พ่ะย่ะค่ะ”จากนั้นเขาก็คว้าตัวองครักษ์ที่ตนเชื่อใจมาแล้วกล่าวเสียงเบา“เจ้าไปดูด้านหลังด้วยตนเอง หากมีผิดพลาดกับ ‘ปืนมังกรไฟ’ แม้แต่น้อย ข้าจะลงโทษเจ้าประหารเก้าชั่วโคตร!”องครักษ์รับคำสั่งทันทีหารู้ไม่ว่า ทันทีที่เขาเพิ่งเดินออกไป เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ตามไปอย่างเงียบ ๆ แล้วนางไม่ได้จากไป เพียงแอบซุ่มหลบอยู่เท่านั้นแผนโยนหินถามทางตอ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 470

    หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม รุ่ยอ๋องออกมาจากห้องลับ คิ้วที่อ่อนโยนถูกปกคลุมด้วยสีหม่นหมองเล็กน้อย บนคอยังมีรอยข่วนแดงหลายแผลหลิวหวา รีบก้มศีรษะลงอย่างเคารพนอบน้อมรุ่ยอ๋องจัดรอยยับบนเสื้อผ้า น้ำเสียงยังคงสงบสุขุม“นางไม่อยากทาน ก็ให้นางอดสักสองวัน”“ขอรับ”……ชายแดนใต้อู๋ไป๋ลอบเข้าไปในค่ายเป่ยเยี่ยน กลับสืบไม่รู้ตำแหน่งของปืนมังกรไฟหากยังอยู่ต่อไป เขาจะถูกจับได้ จึงต้องกลับมารายงานก่อนท่าทีเฟิ่งจิ่วเหยียนเคร่งขรึมสิ่งที่อันตรายที่สุดของเป่ยเยี่ยน ไม่ใช่รัชทายาทเยี่ยน แต่เป็นรัชทายาทเยี่ยนที่มีปืนมังกรไฟตอนนี้แคว้นหนานฉีอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น สามารถตอบโต้ได้ในระดับเล็กน้อยเท่านั้น ไม่กล้าที่จะใช้กำลังทหารทั้งหมด ก็เพราะสาเหตุนี้ดังนั้นเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงมีความคิดที่กล้าหาญ“ไม่ได้!” เซียวอวี้ฟังแผนการของนางเสร็จ ก็ไม่เห็นด้วยขึ้นมาทันทีพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เราจะให้เจ้าไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้!”เฟิ่งจิ่วเหยียนใจเย็นเหมือนปกติ แฝงไปด้วยความเพียรพยายามของนาง“เป่ยเยี่ยนแข็งแกร่งวางอำนาจบาตรใหญ่ได้ ก็เพราะอาศัย‘ปืนมังกรไฟ’“ก่อนหน้านี้มันถูกเป่ยเยี่ยนซ่อน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 469

    ที่สูงบนหุบเขามรณะเฉินจี๋กลับมาจากกองหน้า ยกมือประสานกราบทูลรายงาน“ฝ่าบาท! ทหารเยี่ยนเคลื่อน‘ปืนมังกรไฟ’ออกมาแล้ว ! ”ด้านข้างเซียวอวี้มีขุนพลยืนอยู่หลายคน หนึ่งในนั้น ซุนเต๋อฟางได้ยินคำพูดนี้ ก็รีบพูดกล่อมขึ้นมา“ฝ่าบาท ทั้งสองฝ่ายไม่ใช้พระแสงปืน ถึงจะสมดุล”“พวกเราให้ปืนหอกไฟ เป่ยเยี่ยนก็ต้องใช้‘ปืนมังกรไฟ’!”“ขอร้องท่านรีบมีรับสั่ง ถอนปืนหอกไฟกลับมา ! ”เซียวอวี้พูดขึ้นมาอย่างเด็ดขาด“เดินหน้าต่อไป!”ซุนเต๋อฟางถอดถอนหายใจเกรงว่ารัชทายาทเยี่ยนบ้าคลั่งคนนั้น ใช้ปืนมังกรไฟขึ้นมาจริง ๆ แล้วก็พินาศตายไปด้วยกัน!ก็มีขุนพลที่ไม่เห็นด้วยไม่มีผู้ใดไม่กลัวตาย“ปืนมังกรไฟ” ยิงขึ้นมา ภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ ไร้คนรอด ระยะการยิงก็อยู่ภายในระยะสิบลี้ ตอนนี้ทหารเยี่ยนอยู่ห่างพวกเขาเพียงสิบกว่าลี้ ดังนั้นหากพวกเขาใช้ปืนมังกรไฟ ก็ล้วนอย่าคิดมีชีวิตรอดและแล้ว รอแล้วรอเล่า ก็ไม่เห็นได้ข่าวร้ายนี้ขึ้นมาจนหลังจากผ่านไปสี่ชั่วยาม ได้รับข่าวดีแห่งชัยชนะมาจากกองหน้า เหล่าขุนพลค่อยโล่งอกขึ้นมาจริง ๆ ……ศึกในหุบเขามรณะ ทหารเยี่ยนบาดเจ็บล้มตายกว่าครึ่ง เดิมควรที่จะล่าถอยออกมาจากหุบเขามรณ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 468

    ชะตาฟ้ากำหนด สีหน้าองค์หญิงหนานเจียงมองไปด้วยสายตาไม่อาจเชื่อ เต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจและความโกรธนางมาช้าไปเพียงหนึ่งวัน!หากนางนำเสบียงอาหารมาส่งเมื่อวาน ก็จะได้อภิเษกกับฮ่องเต้ฉีแล้ว!เมื่อครู่องค์หญิงหนานเจียงยังวางอำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงคน คิดว่าตนเองมีอำนาจ เวลานี้เป็นเหมือนมะเขือโดนน้ำค้าง กลับไปด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยเฉินจี๋แอบปาดเหงื่อโชคดีที่เมื่อคืนฮองเฮามาทันเวลา ไม่เช่นนั้น ฝ่าบาทอาจจะได้กลายเป็นพระราชบุตรเขยของหนานเจียงแล้วแววตาเซียวอวี้ลึกล้ำเยือกเย็นองค์หญิงหนานเจียงคนนี้ พฤติกรรมเสียโดยกำเนิดจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร……“องค์หญิงหนานเจียง?” ภายในกระโจม เฟิ่งจิ่วเหยียนฟัง เซียวอวี้เล่าให้ฟังแล้วก็แปลกใจด้วยความไม่รู้ตัว นางได้พูดความในใจออกมา“ได้ยินมาว่านางเป็นคนหัวสูง ทำไมถึงได้ชอบท่าน?”เซียวอวี้: ?“เราด้อยตรงไหนกัน!” เขาไม่ควรเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หาเรื่องให้ตนเองขายหน้าชัด ๆ!คนปกติไม่ควรที่จะพูดว่า องค์หญิงหนานเจียงไม่รู้จักเจียมตัวหรือ!เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบายขึ้นมาอย่างเชื่องช้า“ใช่ว่าท่านไม่ดีพอ ความจริงคือองค์หญิงหนานเจียงรักษาขนบธรรมเนียมเ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 467

    เฟิ่งจิ่วเหยียนสะดุ้งลุกขึ้นมานั่ง จ้องมองดูเซียวอวี้ด้วยสีหน้างุนงงเซียวอวี้ดูเหมือนไม่ง่วงเลย เอ่ยถามอย่างเรียบเฉย “ทำไมถึงตื่นแล้วล่ะ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนยกมือข้างหนึ่งกุมหน้าผาก“ทำไมท่านถึงยังไม่บรรทม?”“เรากำลังครุ่นคิดเรื่องที่จะบุกโจมตีในวันพรุ่งนี้”เฟิ่งจิ่วเหยียน: งั้นก็ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้นี่ตื่นขึ้นมากลางดึก หัวใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ……กองกำลังค่ายทหารเป่ยเยี่ยนรัชทายาทเยี่ยนส่งคนมาสืบข่าว จึงได้รู้ว่าเสบียงอาหารแคว้นหนานฉีมาถึงแล้วมิน่าคืนนี้พวกเขามีแรงร้องเพลงอาลัย!แต่เส้นทางลำเลียงเสบียงของแคว้นหนานฉี ถูกทหารเยี่ยนควบคุมอยู่ เสบียงพวกนี้ขนส่งเข้ามาได้อย่างไร?ไม่นาน ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ให้คำตอบ“รายงาน! รัชทายาท มีข่าวแจ้งมาว่า คนแคว้นฉียึดเส้นทางเสบียงอาหารกลับคืนไปแล้ว! ยังได้ฆ่าคนของเราทั้งหมด!”รัชทายาทเยี่ยนนั่งอยู่ด้านข้างเตียง สีหน้าดุร้าย เย็นชาใบหน้าของเขาที่แยกไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือชายนั้น ฉายแววไอสังหารอย่างไม่ปกปิด“ค่ายทหารแคว้นหนานฉี ถูกทหารของเราควบคุม แล้วจะแย่งเส้นทางลำเลียงเสบียงไปได้อย่างไร!”พูดใต้บังคับบัญชารายงานต่อ“ในที่เกิดเหต

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 466

    แคว้นหนานฉีกับเป่ยเยี่ยนสองกองทัพเผชิญหน้ากัน คั่นกลางด้วยหุบเขามรณะอันกว้างใหญ่หุบเขามรณะนี้เส้นทางขรุขระ ไม่มีใบหญ้าเติบโตตลอดทั้งปีหากฝ่ายใดสามารถข้ามผ่านหุบเขามรณะ ชัยชนะก็จะอยู่เพียงแค่เอื้อมแคว้นหนานฉีเฝ้าป้องกันเป็นหลัก เป่ยเยี่ยนกลับใช้วิธีสู้รบด้วยคนจำนวนมากเมื่อเทียบกันแล้ว เป่ยเยี่ยนได้เปรียบกว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนกับเซียวอวี้ยืนอยู่ที่ลับ สามารถมองเห็นทหารเยี่ยน เข้าไปปักหลักในหุบเขามรณะแล้วลมในหุบเขาผสานไปด้วยไอร้อน เฟิ่งจิ่วเหยียนมองดูธงของทหารเยี่ยน พร้อมพูดขึ้นมาด้วยเสียงเย็นชา“อย่างน้อยก็ต้องถ่วงเวลาทหารเยี่ยนหนึ่งเดือน”เซียวอวี้หันมามองหน้านาง “หมายความว่าอย่างไร?”เฟิ่งจิ่วเหยียนอธิบายให้เขาฟัง“ก่อนที่จะคุมเสบียงอาหารมา ข้าได้ส่งคนไปยังเป่ยเยี่ยน“สาเหตุการศึกในครั้งนี้มาจากรัชทายาทเยี่ยน“คนที่สามารถควบคุมเขาได้ มีเพียงฮ่องเต้เยี่ยน”“เจ้าคิดอยากให้ฮ่องเต้เยี่ยน เรียกตัวรัชทายาทกลับไป?” เซียวอวี้ไม่เห็นด้วย “ฮ่องเต้เยี่ยนป่วยหนัก คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ไม่เช่นนั้นคงไม่ให้รัชทายาทเยี่ยน นำทหารเยี่ยนสามแสนคนออกมาล้อเล่น”เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดในสิ่งท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 465

    เมื่อเห็นคนอยู่ตรงหน้า สีหน้าเซียวอวี้ไม่สงบใจเย็นเหมือนที่ผ่านมาดวงตาสีดำเข้มของเขาเบิกโต แล้วก็ยิ่งโต“ฮองเฮา! เจ้า...”เฉินจี๋ก็อึ้งตะลึงอย่างมากฮองเฮามาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?ทันใดนั้น ก็มีเงาร่างหนึ่งผ่านสายตาไปมองดูอีกที ฝ่าบาทได้ก้าวเดินไปแล้ว คว้าโอบกอดฮองเฮาไว้แนบอกเฉินจี๋เห็นดังนี้ ก็ถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ เซียวอวี้กอดคนในอ้อมอกไว้แน่น สัมผัสความอบอุ่นของนางนี่เป็นการทำศึกที่ไม่มีความมั่นใจที่สุด เท่าที่เขาเคยต่อสู้มารัชทายาทเยี่ยนคนนั้น ไม่ทำตามกลยุทธ์ทางทหาร ใช้แต่แผนการชั่วช้าเฟิ่งจิ่วเหยียนกำลังเอื้อมมือผลักเขา ก็ได้ยินเสียงเขาพูดขึ้นมา “ให้เรากอดครู่หนึ่ง เรา...หนาว”ช่วงเดือนกันยายน เมืองหลวงอาจอากาศกำลังเริ่มเย็น ทว่าชายแดนใต้ไม่หนาว ยังร้อนด้วยซ้ำเฟิ่งจิ่วเหยียนผลักเขาออก“ทานอาหารก่อน”เขาไม่หิว ทว่านางหิวแล้วเมื่อคืนนางฆ่าทหารศัตรูไปมากมายทั้งคืน จึงสามารถแย่งเส้นทางส่งเสบียงมาได้กลางวันนี้ก็เร่งเดินทางนำเสบียงมาส่ง ไม่ได้หยุดพักเลยเซียวอวี้คิดขึ้นมาได้ทันที“พวกเขาให้เจ้าเป็นผู้มาส่งเสบียงได้อย่างไร!”สมควรตาย!แคว้นหนานฉีไม่มี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 464

    ด้วยความโกรธโมโห เฉินอ๋องฟาดนกในกรงไปที่พื้นนกที่อยู่ข้างในกระพือปีกบินออกไป บินชนที่ผนัง หมดสติหล่นตกพื้นเฉินอ๋องไม่มีความสงสาร ใช้เท้าเหยียบลงไป“ปืนหอกไฟนี้ เซียวอวี้หวงแหนอย่างมาก เพื่อไม่ให้มันถูกแคว้นศัตรูได้ไป ไม่ยอมให้ใครแตะต้อง อย่าว่าแต่ให้คนนำออกไปใช้ป้องกันตัวเลย”“ฮองเฮาสามารถนำไปได้อย่างไร?“รุ่ยอ๋องกับกรมศัสตราวุธ ยามนี้ไยพวกเขาไม่รักษากฎปฏิบัติของฮ่องเต้!“ทหาร ตามข้าไปจวนรุ่ยอ๋อง!”จวนรุ่ยอ๋องรุ่ยอ๋องคาดรู้ว่าเฉินอ๋องจะต้องมาก่อเรื่องวุ่นวายแต่แรก จึงเตรียมพร้อมรอแล้ว“ปืนหอกไฟหรือ? ข้าไม่รู้เรื่อง เฉินอ๋องรู้เรื่องได้อย่างไร?” รุ่ยอ๋องยิ้มแย้มอ่อนโยน ราวกับไม่เคยโกรธโมโหเฉินอ๋องตบโต๊ะอย่างขุ่นเคือง“เจ้าให้ฮองเฮานำปืนหอกไฟไป หากตกอยู่ในมือของแคว้นศัตรู ความผิดนี้ เจ้ารับผิดชอบไหวหรือไม่!“ตอนนี้รีบไปตามเอาปืนหอกไฟกลับมา!”รุ่ยอ๋องดื่มน้ำชาอยู่อย่างนิ่งสงบ“ข้ารู้แล้ว เรื่องนี้ ข้าจะสืบความให้แน่ชัด หากเป็นความจริง เช่นนั้นปืนหอกไฟ ยังไงก็ต้องเอากลับมา”เฉินอ๋องเห็นเขาใจเย็นเช่นนี้ ก็ร้อนใจอย่างยิ่ง “ส่งคนไปตามเดี๋ยวนี้เลย!”รุ่ยอ๋องพูดขึ้นมาอย่าง

DMCA.com Protection Status