แชร์

บทที่ 353

ผู้แต่ง: อี้ซัวเยียนอวี่
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-27 18:37:33
แม้ว่าใบหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้เผยอารมณ์นึกคิดมากนัก เซียวอวี้ก็สามารถมองเห็นว่านางอารมณ์ไม่ดี เพราะเรื่องที่เขาสั่งให้ปล่อยตัวเมิ่งเฉียวม่อก่อนกำหนด

หลังจากที่องค์หญิงใหญ่เดินออกไปแล้ว เซียวอวี้เดินลงจากที่นั่งตำแหน่งสูง แล้วมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียน มิได้เผยรัศมีของฮ่องเต้ เพียงเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

“ในช่วงปีที่เราเพิ่งจะขึ้นครองบัลลังก์นั้น ต้องเผชิญทั้งศึกภายในและศึกภายนอก เสด็จพี่หญิงจึงเสียสละตัวเอง เพื่ออภิเษกเชื่อมสัมพันธ์กับแคว้นต้าเซี่ย

“เราติดค้างนางอยู่”

“เพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนลดสายตาลงมองไปที่อิฐปูพื้น สีหน้าไม่เผยความรู้สึก

นางมีปฏิกิริยาที่ดูเรียบเรื่อยขนาดนี้ เซียวอวี้กลับรู้สึกว่านางไม่เข้าใจเขาเลย

ดังนั้น เขาจึงกล่าวต่ออีก

“เช่นนั้นก็ถือว่าเราไม่รักษาสัจจะเถิด

“และเราได้ไตร่ตรองดูแล้ว เมิ่งเฉียวม่อถูกจำคุกมาหลายวันแล้ว นั่นถือว่าเพียงพอ

“เจ้ามีฐานะเป็นฮองเฮา สมควรมีความใจกว้างบ้าง

“ในเวลานั้นนางเปิดเผยที่อยู่ของเจ้า สำหรับเจ้าคือการไม่รักษาสัจจะ ทว่าในฐานะที่นางเป็นขุนนาง การรายงานที่อยู่ของฮองเฮ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 354

    ณ ตำหนักฉือหนิง ไทเฮากำลังตระกองกอดพระธิดาโดยสายเลือดซึ่งมิได้พบหน้ามานานหลายปี ด้วยน้ำตาคลอหน่วย “ฉีเอ๋อร์! ลูกของข้า ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว...แม่เฝ้าคิดถึงเจ้าทั้งวันทั้งคืน สวรรค์เห็นแล้วคงจะเมตตา และส่งเจ้ากลับคืนมาแล้ว...” หนิงเฟยก็นั่งอยู่ด้านข้างด้วยความสุขใจมากล้น พลางยกมือเช็ดน้ำตาอย่างตื้นตันใจ “พี่หญิง ท่านป้าคิดคำนึงถึงท่านทุกวันคืน เฝ้าแต่นับวันรอคอย ท่านควรจะกลับมาตั้งนานแล้ว ท่านป้าเป็นห่วงท่านเสียจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ข้าก็เป็นห่วงท่าน กลัวว่าแคว้นต้าเซี่ยจะผิดสัญญาคืนคำ...โชคดีที่ท่านกลับมาได้อย่างปลอดภัย” องค์หญิงใหญ่ยืดหลังตั้งตรง ดวงตาเป็นสีแดงระเรื่อ ทว่ามิได้หลั่งน้ำตามากนัก ระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาในแคว้นต้าเซี่ย น้ำตาของนางได้เหือดแห้งไปนานแล้ว “เสด็จแม่เพคะ หลังจากที่ฮ่องเต้ชราของต้าเซี่ยสิ้นพระชนม์ โอรสของเขาขึ้นครองราชย์แทน หม่อมฉันกลายเป็นพระสนมของอดีตฮ่องเต้ กลับกลายเป็นว่าเดรัจฉานนั้น...เขายังต้องการครอบครองหม่อมฉันด้วย!” เมื่อไทเฮาได้ยินเช่นนั้น พลันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ว่าอันใดนะ! เขาไร้ยางอายและทำตัวขัดหลัก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 355

    ย่ำสนธยามาเยือน องค์หญิงใหญ่ได้พบกับสตรีนางหนึ่งระหว่างทาง สตรีนางนั้นดูไม่เหมือนกับเป็นคนในวังเลย นางกำลังเร่งรีบไปที่ห้องทรงพระอักษร จึงมิได้เห็นคนผู้นี้อยู่ในสายตา ทว่าอีกฝ่ายกลับเข้ามาคำนับทักทายนาง ก่อนจะกล่าว “หม่อมฉันเมิ่งเฉียวม่อ ถวายบังคมองค์หญิงใหญ่” องค์หญิงใหญ่พลันตัวแข็งทื่อ จากนั้นก็มองดูคนตรงหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ความคิดของนางย้อนกลับไปในปีนั้น... ครั้งแรกที่นางเดินทางถึงแคว้นต้าเซี่ย ฮ่องเต้ผู้เฒ่าทรงโปรดปรานนางมาก ทว่าในเวลาไม่ถึงสองเดือน เขาก็เปลี่ยนไปโปรดปรานคนใหม่ ในพระราชวัง หากมิได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ และไม่รู้วิธีสร้างเส้นสายกับผู้อื่น ผลลัพธ์นั้นสามารถจินตนาการได้เลย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ นางต้องทรมานแสนสาหัสจากความอัปยศนานัปการ ในภายหลัง นางทนไม่ไหวอีกแล้ว จึงลงมือสังหารนางสนมรักของอดีตฮ่องเต้ แล้วหลบหนีออกจากแคว้นต้าเซี่ยโดยมีองครักษ์คนสนิทให้การอารักขา นางรู้ว่าการกระทำวู่วามของตน อาจจะเป็นภัยต่อแคว้นหนานฉี ทว่าในยามนั้นนางแค่อยากจะมีชีวิตรอดต่อไป หลังจากหลบหนีไปถึง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 356

    เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ผล็อยหลับไปในห้องทรงพระอักษรโดยไม่รู้ตัวเลยจริง ๆ นางย่อกายคำนับให้เซียวอวี้ “ฝ่าบาท หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ สำหรับคำพูดขององค์หญิงใหญ่เมื่อครู่นี้ นางแค่แกล้งทำเป็นว่าไม่ได้ยิน เซียวอวี้มองดูนางด้วยท่าทางอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด สุดท้ายก็ปล่อยให้นางกลับออกไป องค์หญิงใหญ่รอจนนางเดินออกไปแล้ว ก็เอ่ยวาจาที่ชอบธรรม “ฝ่าบาท ได้โปรดให้เวลาข้าสักหน่อย แล้วข้าจะต้องหาหลักฐานที่นางใส่ร้ายป้ายสีแม่ทัพน้อยเมิ่งได้แน่!” งูมีวิถีของงูฉันใด หนูก็มีเส้นทางของหนูฉันนั้น เป็นไปไม่ได้เลยว่าฮองเฮาจะเป็นผู้บริสุทธิ์! จักต้องทำให้ฝ่าบาทได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง เพื่อป้องกันมิให้นางประทุษร้ายต่อแม่ทัพน้อยเมิ่งอีกครั้ง ณ จวนองครักษ์อารักขาประตู หลังจากที่เฉียวม่อได้ตามสืบจากหลายช่องทาง ก็ได้ล่วงรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนั้น นางพึมพำอยู่กับตัวเอง “ที่แท้ ก็เป็นบุญคุณช่วยชีวิต...” เฉียวม่อพ่นลมหายใจผ่านจมูกอย่างเย็นชา ศิษย์พี่ชอบช่วยชีวิตผู้คนมากจริง ๆ ทว่า ศิษย์พี่ที่เย็นชาไม่กล้าเอ่ยความจริงกับอง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 357

    ภายใต้การซักถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าขององค์หญิงใหญ่ เฉียวม่อจึงต้อง “ฝืนใจ” บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่ฮองเฮาหลบหนีออกไปครานั้น องค์หญิงใหญ่ได้ยินเช่นนั้นแล้วไซร้ พลันตกตะลึงไม่น้อย “มีเรื่องแบบนั้นด้วยหรือ!?” เป็นเรื่องที่เหลวไหลสิ้นดี! เฉียวม่อแสร้งทำเป็นช่วยอธิบายเสียหน่อย “ฮองเฮาทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบเพคะ เนื่องจากโกรธที่ฝ่าบาทมิเคยลืมเลือนหรงเฟยผู้ล่วงลับไปเลย ขึ้นชื่อว่าสตรี ย่อมมีความอิจฉาริษยาไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว” องค์หญิงใหญ่ยิ้มเยาะด้วยความโกรธ “นางเอาแต่ใจตัวเองเกินไป เห็นฝ่าบาทเป็นอะไร มองเกียรติยศของฮองเฮานั้นเป็นอย่างไร? ทำตัวเสมือนพวกนางสนมน้อยใหญ่เหล่านั้น ช่างน่าอับอายขายหน้ายิ่งนัก!” เฉียวม่อเร่งรีบหันมองไปรอบ ๆ และเอ่ยอย่างระมัดระวัง “องค์หญิงเพคะ เรื่องนี้มีน้อยคนที่รู้ อีกทั้งฝ่าบาทยังมีคำสั่งกับผู้ที่รู้เรื่องว่า ห้ามแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด...โทษหม่อมฉันเอง มิควรพูดมากกับท่านเลย” องค์หญิงใหญ่ยกมือตบไหล่นางเบา ๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นขุนนางผู้จงรักภักดี เกรงว่าฮองเฮาจะมองแค่เจ้าเป็นสตรี ทว่ากลับได้รับความนับถืออย่างสูงจากฝ่

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 358

    ความผิดที่เฉียวม่อได้กระทำต่อเวยเฉียงและกองทัพมังกรพยัคฆ์นั้น ไม่อาจมีอะไรมาลบล้างความผิดได้ และเฟิ่งจิ่วเหยียนจะไม่มีวันให้อภัย ทว่าเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมือง มิอาจให้เรื่องส่วนตัวมาทำให้เสียการใหญ่ได้ หากว่าเฉียวม่อพ่ายแพ้การประลอง มันจะกลายเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของแคว้นหนานฉี ก่อนการประลองจะเริ่มขึ้น เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ส่งเหลียนซวงไปเตือนเฉียวม่อให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะดาบคู่ที่ชาวซีหนี่ว์ชำนาญ เฉียวม่อไม่ได้เห็นเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจัง “กลับไปทูลฮองเฮาเถอะ นางไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะข้าจะต้องได้ชัยชนะอย่างแน่นอน” ศิษย์พี่ประเมินนางต่ำเกินไปแล้ว ในช่วงบ่าย ใกล้ถึงเวลาเริ่มการประลอง เหล่าขุนนางอำมาตย์ของหนานฉีอยู่พร้อมหน้า และมีราชทูตจากหลายแคว้นร่วมเป็นสักขีพยาน เฟิ่งจิ่วเหยียนและองค์หญิงใหญ่ก็ไม่พลาดงานนี้ เซียวอวี้มิได้แปลกใจเลยที่เห็นว่าองค์หญิงใหญ่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เพียงแค่ไม่คาดคิดว่าฮองเฮาก็ใส่ใจมากเช่นกัน เขาสั่งให้คนจัดเตรียมที่นั่ง และให้เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งเคียงข้างกาย เฟิ่งจิ่วเหยียนพุ่งความสนใจท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 359

    หลังจากที่ราชทูตแคว้นซีหนี่ว์หงายหลังล้มลง เฉียวม่อก็รีบพุ่งเข้ามาตระครุบอีกฝ่าย แล้วใช้พลังงานทั้งหมดในร่างกาย ตีศอกใส่หน้าท้องของคู่ต่อสู้ราชทูตพลันกระอักโลหิตจำนวนมากออกมา ลำตัวทั้งสองข้างกระดอนขึ้นมาตามแรงศอกตี แล้วล้มลงอีกทันทีพร้อมกับดาบที่หลุดออกจากมือ... บริเวณโดยรอบเงียบงันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ตะโกนออกมาก่อน “ชนะ...ชนะแล้ว!” องค์หญิงใหญ่ก็ผ่อนคลายลงเช่นกัน นางมองไปที่เฉียวม่อด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข อีกฝ่ายไม่ทำให้นางผิดหวังจริง ๆ เหล่าขุนนางอำมาตย์ของหนานฉีทุกคนก็ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “คิดว่าจะแพ้เสียแล้ว ทำเอาข้าใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเอาเสียเลย” “จักแพ้ได้อย่างไรเล่า นั่นคือเมิ่งสิงโจวเชียวนะ!” เฉียวม่อยืนอยู่บนเวทีประลองพลางยกมือขึ้นเพื่อแสดงว่านางชนะแล้ว นางหันไปยังทิศทางของเฟิ่งจิ่วเหยียน ด้วยรูปลักษณ์ของผู้ที่เป็นหนึ่ง ในยามนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็มองนางด้วยประกายแสงสีเข้มที่วาวโรจน์อยู่ในดวงตา เพลงหมัดของเฉียวม่อนั้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้คนผู้หนึ่งล้มลงได้ เช่นนี้ จึงเหลือสมมติฐานที่เป็นไป

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 360

    บนที่นั่งสูง ฮ่องเต้ประทับอยู่ด้วยท่วงท่าสง่างาม ดวงเนตรของเขาฉายความดูแคลนใต้หล้า และเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “วันนี้แม่ทัพหญิงนามเมิ่งเฉียวม่อ ผู้ซึ่งผ่านสิบสามสมรภูมิโดยไร้พ่ายแพ้ วีรสตรีผู้สร้างคุณูปการให้แก่บ้านเมืองเช่นนี้ เราจะมอบป้ายทองไว้ชีวิตให้เป็นรางวัล “นอกจากนี้ ให้ถ่ายทอดคำสั่งของเราลงไป ทหารแคว้นหนานฉีของเรานั้น หากผู้ใดมีความสามารถย่อมไม่สนชาติกำเนิดหรือเพศชายหญิง สมควรยึดถือเมิ่งเฉียวม่อเป็นแบบอย่าง มุมานะเพื่อตนเอง ขุนนางแม่ทัพไม่ขึ้นอยู่กับชาติกำเนิด!” เฉียวม่อดีใจอย่างมาก พลันรีบขอบคุณด้วยกลัวว่าฮ่องเต้จะนึกเปลี่ยนพระทัย “หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาท!” องค์หญิงใหญ่ก็ยินดีกับนางด้วยใจจริง ไม่ลืมยืนขึ้นและยิ้มอย่างพอใจไปทางเซียวอวี้ด้วย “ฝ่าบาททรงพระปรีชา! เชื่อว่าเหล่าทัพทหารได้รับความสบายใจเช่นนี้ ย่อมยินดีรับใช้ท่าน และสละชีวิตเพื่อแคว้นหนานฉี!” ตรงที่นั่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสายตาเย็นชา และไร้ซึ่งรอยยิ้ม องค์หญิงใหญ่เห็นปฏิกิริยาที่แปลกของนางได้อย่างชัดเจน “ฮองเฮา ท่านไม่พอใจหรือไร หรือว่าท่านกำลังนึกคัดค้านพระบัญชาของฝ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 361

    สำนักหมอหลวง หลังจากแคว้นซีหนี่ว์ตื่นขึ้นมา แววตาเต็มไปด้วยความเศร้านางแพ้แล้ว...เวลาต่อมา นางก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจทั้งที่สามารถเอาชนะได้!นางลุกขึ้นมานั่ง กลับเห็นองครักษ์คนหนึ่งยืนอยู่ปลายเตียง ในมือถือดาบไว้เล่มหนึ่ง ราวกับรอนางอยู่นานแล้วนางรู้ว่า ต่อจากนี้ตนเองควรทำอย่างไรการที่พ่ายแพ้การประลองนั้น ไม่เพียงต้องยกเหมืองหินทองแดงดำให้แคว้นหนานฉีห้าร้อยชั่ง ยังต้องตัดมือทั้งคู่ของนางช่างมันเถอะนางกลายเป็นคนบาปของแคว้นซีหนี่ว์แล้วมือราชทูตแคว้นซีหนี่ว์สั่นเทา หยิบดาบเล่มนั้นมา...ห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้กำลังตรวจอ่านพระราชฎีกา เฉินจี๋เข้ามารายงาน“ฝ่าบาท ราชทูตแคว้นซีหนี่ว์คนนั้น ปาดคอฆ่าตัวตายแล้ว!”เซียวอวี้แสดงท่าทีเมินเฉยเขาไม่เห็นใจราชทูตคนนั้น พูดขึ้นมาอย่างค่อนข้างโหดร้าย“ตัดมือของนางทั้งสองข้าง แล้วนำศพส่งกลับไปยังแคว้นซีหนี่ว์”เฉินจี๋ยกมือประสาน น้อมรับคำสั่งหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยามตำหนักหย่งเหอหมอหลวงท่านหนึ่งมาตรวจชีพจรเฟิ่งจิ่วเหยียนเอามือวางไว้บนโต๊ะ หมอหลวงตรวจชีพจรให้นางไปด้วย พร้อมพูดไปด้วย“ฮองเฮา กระหม่อมทำตามที่ท่านรับสั่ง แอบ

บทล่าสุด

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 368

    จิ้งเฟยยังดิ้นรนอยู่ในน้ำ กลับไม่มีใครลงไปช่วยนางองค์หญิงใหญ่คว้าจับเฟิ่งจิ่วเหยียนไว้อย่างแข็งกร้าว“ผู้ใดเป็นคนผลัก ผู้นั้นก็ลงไปช่วย!”ที่นี่เป็นตำหนักฉือหนิง องครักษ์ สาวใช้ในบริเวณโดยรอบนี้ ล้วนเป็นคนขององค์หญิงใหญ่พูดเสร็จ นางก็จะผลักเฟิ่งจิ่วเหยียนลงไปในน้ำช่วงเดือนมีนาคม น้ำในสระเยือกเย็นไปถึงกระดูกเฟิ่งจิ่วเหยียนขยับไปด้านข้าง หลบเลี่ยงการผลักขององค์หญิงใหญ่ได้แววตาองค์หญิงใหญ่โกรธจัด“ฮองเฮา เจ้า...”ที่ไหนได้ ถึงแม้เฟิ่งจิ่วเหยียนหลบเลี่ยงนางได้ ทว่าพริบตาเดียวก็กระโดดลงไปในน้ำแล้วองค์หญิงใหญ่โกรธจัดจนขำหัวเราะ“ช่วย...ช่วยข้า...” จิ้งเฟยว่ายน้ำไม่เป็น อาภรณ์เครื่องประดับบนตัวทั้งหนาทั้งหนัก ผูกมัดแขนขาของนางไว้นางผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ในน้ำ ดื่มน้ำเข้าไปเป็นจำนวนมาก สิ้นหวังอย่างที่สุดเมื่ออยู่ต่อหน้าความตาย นางยากที่จะสงบสติอารมณ์และมีสติได้“ช่วยข้า...”ในขณะที่นางไม่มีเรี่ยวแรงจะดิ้นรนอีก ครั้นกำลังจะจมลงไป ก็มีมือข้างหนึ่งคว้าจับนางไว้วินาทีนั้น เหมือนแสงแดดส่องลงสู่ในสระน้ำอันเยือกเย็นทันใดนั้นก็เหมือนนางสามารถยืนมั่นคงอยู่ในน้ำได้ฮ่าว...ศีรษ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 367

    “อะไรนะ...ฮองเฮาไม่ใช่ฮองเฮาตัวจริง? !”องค์หญิงใหญ่ตกตะลึงตาโตเฉียวม่อแลดูซื่อตรง แววตาปกคลุมไปด้วยความบึ้งตึง“ข้าก็เพิ่งสืบรู้“ความจริงตระกูลเฟิ่งมีลูกสาวฝาแฝด พี่สาวถูกเลี้ยงอยู่ข้างนอกมาตลอด“คนที่จะต้องอภิเษกเข้าวังตัวจริง คือน้องสาวเฟิ่งเวยเฉียง“แต่ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุใด น้องสาวหายตัวไป ตระกูลเฟิ่งจึงตามพี่สาวมาอภิเษกแทน”สีหน้าองค์หญิงใหญ่เดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาวมีเรื่องแบบนี้ด้วย!ช่างไม่เคยได้ยินมาก่อนจริง!ยิ่งไปกว่านั้นยังเกิดขึ้นในราชวงศ์!“นี่ถือเป็นการหลอกลวงเบื้องสูง! ตระกูลเฟิ่งกล้าทำได้อย่างไร!”ในฐานะที่องค์หญิงใหญ่เป็นคนในราชวงศ์ พี่สาวของฝ่าบาท ทนรับการโกหกแบบนี้ไม่ได้เฉียวม่อพูดเสริมขึ้นมาอย่างเป็นกังวล“ตระกูลเฟิ่งกระทำเช่นนี้ เจตนาที่แท้จริงนั้นยากแก่การหยั่งรู้”แววตาองค์หญิงใหญ่เยือกเย็น“ข้าจะไปกราบทูลฝ่าบาทเดี๋ยวนี้!”เฉียวม่อรีบรั้งนางไว้“ไม่ได้เพคะ องค์หญิง ตอนนี้ไม่มีหลักฐาน ฝ่าบาทไม่มีทางเชื่อแน่นอน“สู้รอหาหลักฐานให้ได้ก่อน ค่อยเปิดเผยแผนการชั่วของตระกูลเฟิ่ง”องค์หญิงใหญ่คิดดูดี ๆ นางพูดถูก จะต้องมีหลักฐานเสียก่อนแต่จะไปหาหลักฐาน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 366

    ณ เมืองหลวงชายแดนทั้งสี่ทิศเกิดศึกต่อสู้อย่างต่อเนื่อง เซียวอวี้มีราชกิจยุ่งจนไม่มีเวลามาวังหลังจิ้งเฟยมายังห้องทรงพระอักษรบ่อยครั้ง แต่ก็ได้เจอฝ่าบาทน้อยครั้งมากกลางปลายเดือนมีนาคม เฟิ่งจิ่วเหยียนได้รับข่าวจากอู๋ไป๋สิ่งที่นางต้องการ ถูกส่งมาจากชายแดนเหนือแล้วศพของทหารกองทัพมังกรพยัคฆ์หลายคนนั้น ถูกเก็บไว้ในสถานที่เก็บศพชั่วคราวคืนวันนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากวังไปตรวจสอบด้วยตนเองบนใบหน้าของนางปกคลุมไปด้วยความเยือกเย็นเฉียวม่อทำเพื่อความเห็นแก่ตัวของตนเอง ทำร้ายคนตายตั้งมากมายขนาดนี้พวกเขาจำนวนมาก ไม่ได้ตายอยู่ในมือกองทัพรัฐเหลียง แต่ถูกเฉียวม่อวางแผนชั่วช้าไว้ก่อนแล้วอู๋ไป๋รู้ความจริงแล้ว โกรธโมโหอย่างมาก“แม่ทัพน้อย จะต้องให้เฉียวม่อชดใช้ด้วยเลือด ถึงค่อยสามารถปลอบโยนวิญญาณของพี่น้องเราในสวรรค์ได้!”ทำไมนางถึงได้โหดเหี้ยมขนาดนี้!แววตาเฟิ่งจิ่วเหยียนหนักหน่วง เปียกโชกไปด้วยความหนาวเหน็บ“การศึกทางชายแดนเหนือเป็นอย่างไรบ้าง”อู๋ไป๋ตอบนาง “แม่ทัพน้อยวางใจ แคว้นจ้าวสู้ฝ่ามาไม่ได้ แผนที่ป้องกันประเทศนั้นเป็นของปลอม ตอนนี้ทหารจ้าวพ่ายแพ้ล่าถอยอย่างต่อเนื่อง”เฟิ่ง

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 365

    นายท่านเฟิ่งโกรธจนปวดแน่นหน้าอก เขาระบายความโกรธกับอู๋ไป๋“เจ้า เจ้าไสหัวไปเดี๋ยวนี้! ไสหัวกลับชายแดนเหนือ! ไปบอกตาเฒ่าเมิ่งฉวี อย่าคิดส่งคนมาทำร้ายลูกสาวของข้า! !”ฮองเฮาดี ๆ ไม่อยากเป็น จะไปแย่งตำแหน่งแม่ทัพน้อยอะไรนั่น เป็นบ้าอะไร!นี่ล้วนเป็นเพราะถูกเมิ่งฉวีเสี้ยมสอนมา!ตอนนั้นแทนที่เขาจะให้เด็กคนนั้นอดตาย ฟาดตาย ก็ไม่ควรที่จะยกให้เมิ่งฉวีส่งผลทำให้ตอนนี้เขาต้องอกสั่นขวัญแขวนทุกวี่วัน ศีรษะของคนทั้งตระกูลล้วนแขวนอยู่บนดาบนายท่านเฟิ่งพูดโน้มน้าวเฟิ่งจิ่วเหยียนมิได้ จึงให้ฮูหยินเฟิ่งไปแต่เมื่อฮูหยินเฟิ่งเขาวัง ก็มิได้เจอฮองเฮาเฟิ่งจิ่วเหยียนตั้งใจที่จะหลบเลี่ยงนอกจากสั่งให้อู๋ไป๋จัดการคนทางด้านตระกูลเฟิ่ง นางยังเขียนจดหมายให้อาจารย์หญิงหลายวันต่อมา ทางด้านชายแดนเหนือได้รับจดหมายแม่ทัพเมิ่งเป็นกังวลอย่างมาก ถามขึ้นมาอย่างร้อนใจ“ในจดหมาย จิ่วเหยียนพูดอย่างไรบ้าง?”“นางให้นำศพพร้อมเข็มเงินส่งกลับไป อีกอย่าง หากมีคนถาม ก็ให้ยืนยันว่าไม่รู้เรื่องที่นางอภิเษกแทน”“แล้วข้าล่ะ?” แม่ทัพเมิ่งชี้ตนเอง“นางขอป้ายทองไว้ชีวิตให้กับเจ้า”แม่ทัพเมิ่งสองสามีภรรยา คาดเดาได้แล้ว

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 364

    องค์หญิงใหญ่พูดโน้มน้าว “เมิ่งเฉียวม่อควรได้รับการให้ความสำคัญ ตอนนี้เป็นเพียงองครักษ์อารักขาประตูคนหนึ่ง เป็นการใช้คนไม่เหมาะกับความรู้ความสามารถ”เซียวอวี้ครุ่นคิดครู่หนึ่งจากนั้น เขาพูดขึ้นมา“หากเพียงให้นางก่อตั้งกองกำลังหญิง ก็ถือเป็นการสิ้นเปลืองความสามารถของนาง”องค์หญิงใหญ่ถามว่า“ฉะนั้นฝ่าบาทหมายความว่า ควรให้ตำแหน่งอะไรแก่นาง?”……จวนองครักษ์อารักขาประตูมีพระราชโองการ เฉียวม่อได้รับแต่งตั้งมอบหมายหน้าที่สำคัญนางดีใจอย่างยิ่งฝ่าบาทแต่งตั้งให้นางเป็นแม่ทัพกรมปกป้องเมือง!นางยังคิดว่า จะต้องเป็นองครักษ์อารักขาประตูครบหนึ่งปี ค่อยสามารถเลื่อนตำแหน่งตอนนี้ นางถือว่าทุกข์สิ้นสุด สุขบังเกิดแล้วหรือ?“แม่ทัพเมิ่ง รับพระราชโองการ!”เฉียวม่อรีบรับพระราชโองการมาด้วยมือทั้งคู่ ตาคิ้วยิ้มแย้มยินดีวันนั้น องค์หญิงใหญ่นำของขวัญมาแสดงความยินดีด้วยตนเอง“ข้าแค่พูดเสนอฝ่าบาท ให้เจ้าก่อตั้งกองกำลังหญิง ไม่คิดว่าฝ่าบาทจะมีความคิดอื่น ยกตำแหน่งแม่ทัพกรมปกป้องเมืองให้เจ้าโดยตรง”“เห็นทีฝ่าบาทค่อนข้างเห็นความสำคัญของเจ้า การที่ให้เจ้าเป็นองครักษ์อารักขาประตู เพียงเพื่อฝึกฝนนิ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 363

    ท่ามกลางความมืด ล้วนอาศัยการลูบคลำ เซียวอวี้ฉีกอาภรณ์ ดึงสายรัดเอวของนางอาภรณ์เสียดสีกัน ส่งเสียงดังกรอบแกรบราวกับมีไฟลุกไหม้อยู่ในตัวเขา แผดเผาไปทั่วทั้งตัวดูดดื่มด้วยสัญชาตญาณ จูบอยู่อย่างลึกล้ำคืนวันส่งท้ายปีเก่า นางเมามายอย่างไร้สติ กลับรู้จักตอบสนองเขาแต่ครั้งนี้ นางมีสติอยู่ เขากลับสัมผัสได้ถึงความไม่คล้อยตาม ความต่อต้านของนางแต่ความต่อต้านนี้ ยิ่งกระตุ้นความโหยหาของเขา เพิ่มยิ่งขึ้นเรื่อย...ความคิดเฟิ่งจิ่วเหยียนสับสนวุ่นวายด้านข้างหูเป็นเสียงหายใจหอบอย่างหนักหน่วงของชายหนุ่มจูบของเขาเลื่อนลงไปตามคอของนาง ไปถึงหน้าอกของนางร่างกายของนางแข็งทื่อ ทำอะไรไม่ได้เลยทันใดนั้น ชายหนุ่มคว้าจับมือของนาง คลายนิ้วทั้งห้าของนางออก แทรกระหว่างนิ้ว ผสานสิบนิ้วของนางไว้เขาเป็นเหมือนคลื่นอบอุ่น ห่อหุ้มนางไว้ทั้งตัวดูเหมือนนาง...ไม่มีทางหนีรอดแล้วจู่ ๆ ตามด้วยผ้าชิ้นสุดท้ายถูกดึงหลุด ในใจนางเยือกเย็นถึงที่สุดเสียงแหบแห้งที่สุดของชายหนุ่ม ดังขึ้นมาด้านข้างหูเขากัดติ่งหูของนางเบาๆ ลูกกระเดือกกลิ้งขึ้นลง เหมือนนักเดินทางมองหาน้ำดื่มดับกระหายลมหายใจแรง กระทบข้างหูของน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 362

    สีหน้าเฟิ่งจิ่วเหยียนเงียบสงบ หายใจหนักเล็กน้อยนางกำหมัดในแขนเสื้อไว้แน่น ตอบอย่างนอบน้อม“เพคะ”เหลียนซวงขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ในใจกระสับกระส่ายอย่างซับซ้อนนางเป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยคนหนึ่ง ตายไปก็ช่างเถอะ ฮองเฮาไม่ควรที่จะเผื่อเส้นทางให้กับนางเซียวอวี้ส่งเสียงเมิน“นายบ่าวรักกันลึกซึ้งเหลือเกิน”ยามนี้ ซุนหมัวมัวที่ไม่รู้เรื่องอะไรเดินเข้ามาเอ่ยถาม “ฝ่าบาท ฮองเฮา จะรับประทานอาหารค่ำหรือยังเพคะ?”ซุนหมัวมัวยิ้มแย้มอย่างเอาใจ เหลือบเห็นเหลียนซวงคุกเข่าอยู่บนพื้น ยังคิดว่ายัยเด็กคนนี้ทำอะไรผิดอีก พลันเกิดความรู้สึกที่ดั่งหัวอกเดียวกัน รอยยิ้มกลายเป็นหวาดกลัวไม่เป็นสุขขึ้นมาทันทีทว่าเห็นว่า ฝ่าบาทแลดูอารมณ์ดีอย่างไม่น้อย ลุกขึ้นมาจับมือฮองเฮา แววตาที่ปกติเคร่งขรึมเฉียบคม แลดูอมยิ้ม“ตั้งสำหรับ”เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้ปัดมือของเขา แต่ก็ไม่มีกะจิตกะใจทานข้าวนางพูดกับเหลียนซวง “เตรียมเก็บข้าวของ ออกจากวังพรุ่งนี้”เหลียนซวงทำใจไม่ได้“เพคะ ฮองเฮา”นางกำลังจะไป จู่ๆ เซียวอวี้ก็พูดขึ้นมา“ยังไงก็เป็นนางข้าหลวงใหญ่ข้างกายฮองเฮา พรุ่งนี้เราให้องครักษ์ส่งเจ้ากลับบ้านเกิด”

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 361

    สำนักหมอหลวง หลังจากแคว้นซีหนี่ว์ตื่นขึ้นมา แววตาเต็มไปด้วยความเศร้านางแพ้แล้ว...เวลาต่อมา นางก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจทั้งที่สามารถเอาชนะได้!นางลุกขึ้นมานั่ง กลับเห็นองครักษ์คนหนึ่งยืนอยู่ปลายเตียง ในมือถือดาบไว้เล่มหนึ่ง ราวกับรอนางอยู่นานแล้วนางรู้ว่า ต่อจากนี้ตนเองควรทำอย่างไรการที่พ่ายแพ้การประลองนั้น ไม่เพียงต้องยกเหมืองหินทองแดงดำให้แคว้นหนานฉีห้าร้อยชั่ง ยังต้องตัดมือทั้งคู่ของนางช่างมันเถอะนางกลายเป็นคนบาปของแคว้นซีหนี่ว์แล้วมือราชทูตแคว้นซีหนี่ว์สั่นเทา หยิบดาบเล่มนั้นมา...ห้องทรงพระอักษรเซียวอวี้กำลังตรวจอ่านพระราชฎีกา เฉินจี๋เข้ามารายงาน“ฝ่าบาท ราชทูตแคว้นซีหนี่ว์คนนั้น ปาดคอฆ่าตัวตายแล้ว!”เซียวอวี้แสดงท่าทีเมินเฉยเขาไม่เห็นใจราชทูตคนนั้น พูดขึ้นมาอย่างค่อนข้างโหดร้าย“ตัดมือของนางทั้งสองข้าง แล้วนำศพส่งกลับไปยังแคว้นซีหนี่ว์”เฉินจี๋ยกมือประสาน น้อมรับคำสั่งหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยามตำหนักหย่งเหอหมอหลวงท่านหนึ่งมาตรวจชีพจรเฟิ่งจิ่วเหยียนเอามือวางไว้บนโต๊ะ หมอหลวงตรวจชีพจรให้นางไปด้วย พร้อมพูดไปด้วย“ฮองเฮา กระหม่อมทำตามที่ท่านรับสั่ง แอบ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 360

    บนที่นั่งสูง ฮ่องเต้ประทับอยู่ด้วยท่วงท่าสง่างาม ดวงเนตรของเขาฉายความดูแคลนใต้หล้า และเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “วันนี้แม่ทัพหญิงนามเมิ่งเฉียวม่อ ผู้ซึ่งผ่านสิบสามสมรภูมิโดยไร้พ่ายแพ้ วีรสตรีผู้สร้างคุณูปการให้แก่บ้านเมืองเช่นนี้ เราจะมอบป้ายทองไว้ชีวิตให้เป็นรางวัล “นอกจากนี้ ให้ถ่ายทอดคำสั่งของเราลงไป ทหารแคว้นหนานฉีของเรานั้น หากผู้ใดมีความสามารถย่อมไม่สนชาติกำเนิดหรือเพศชายหญิง สมควรยึดถือเมิ่งเฉียวม่อเป็นแบบอย่าง มุมานะเพื่อตนเอง ขุนนางแม่ทัพไม่ขึ้นอยู่กับชาติกำเนิด!” เฉียวม่อดีใจอย่างมาก พลันรีบขอบคุณด้วยกลัวว่าฮ่องเต้จะนึกเปลี่ยนพระทัย “หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาท!” องค์หญิงใหญ่ก็ยินดีกับนางด้วยใจจริง ไม่ลืมยืนขึ้นและยิ้มอย่างพอใจไปทางเซียวอวี้ด้วย “ฝ่าบาททรงพระปรีชา! เชื่อว่าเหล่าทัพทหารได้รับความสบายใจเช่นนี้ ย่อมยินดีรับใช้ท่าน และสละชีวิตเพื่อแคว้นหนานฉี!” ตรงที่นั่ง เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสายตาเย็นชา และไร้ซึ่งรอยยิ้ม องค์หญิงใหญ่เห็นปฏิกิริยาที่แปลกของนางได้อย่างชัดเจน “ฮองเฮา ท่านไม่พอใจหรือไร หรือว่าท่านกำลังนึกคัดค้านพระบัญชาของฝ

DMCA.com Protection Status