Share

บทที่ 1119

Author: อี้ซัวเยียนอวี่
“ฝ่าบาท หากท่านเหนื่อย พักก่อนก็ได้นะ” เสียงอ่อนหวานของหญิงสาว ทำให้ห้องทรงพระอักษรอบอุ่นขึ้นมา

เซียวอวี้ล้ามากเกินไป แต่ก็ยังพยายามฝืนเปิดเปลือกตา

เมื่อเพ่งมอง คนตรงหน้าอยู่ในเครื่องแบบนางกำนัล ทว่าหน้าตาคล้ายจิ่วเหยียน

เป็นฮ่องเต้ จึงเคยพบเจอเสน่ห์ยั่วยวนมาหลายรูปแบบ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการแย่งชิงความโปรดปรานในวังหลัง

เขารู้ในทันทีว่ามันคือแผนการอะไร ชั่ววินาทีนั้นความง่วงงุนพลันมลายหายไป เขาตะโกนด้วยเสียงดุดัน

“หลิวซื่อเหลียง ไสหัวเจ้าเข้ามา!”

กลับเห็นขันทีน้อยที่หลับอยู่ข้างเสาสะดุ้งตื่น คลานมาข้างโต๊ะทรงงาน พร้อมโขกหัวติดต่อกัน

“ทูลฝ่าบาท ท่านพ่อบุญธรรมป่วย คืนนี้เป็นบ่าวมารับใช้ฝ่าบาทแทน บ่าวสมควรตาย ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิต!”

เขาหลับไปได้อย่างไร?

ทำเช่นนี้เท่ากับหาเรื่องให้หัวขาดชัด ๆ!

ต่อมา นางกำนัลผู้นั้นก็คุกเข่าลง

“ฝ่าบาททรงอย่าพิโรธ…”

แววตาของเซียวอวี้เยือกเย็น ไม่แม้แต่จะชายตามองนางกำนัลคนนั้น

“ลากตัวออกไป สอบสวนมาให้ชัดเจน ว่ามาจากไหน”

นางกำนัลมีท่าทางเหมือนไม่รู้เรื่อง ร้องไห้น้ำตาไหลพรากออกมา

“ฝ่าบาท…”

“ลากตัวออกไปเดี๋ยวนี้!” เซียวอวี้อารมณ์เสีย เริ่มทนรำคาญ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1120

    คืนนี้ เซียวอวี้นอนหลับสนิทกว่าคืนไหน ๆเมื่อลืมตาตื่นในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็มองคนในอ้อมกอด พลันรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นหลายเท่า“เราจะไปว่าการเช้าแล้ว” เขากระซิบข้างหูนางเสียงเบา“อืม” เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้ากึ่งหลับกึ่งตื่นเมื่อเซียวอวี้เดินออกมานอกห้อง ก็เห็นอู๋ไป๋เข้ามาในเรือนพอดี“ถวายบังคมฝ่าบาท!” อู๋ไป๋ดูเร่งรีบเซียวอวี้หยุดยืนนิ่ง ๆ แล้วถามเขา“ไปไหนมา”เมื่อคืนเขาไม่เห็นอู๋ไป๋ในฐานะเป็นองครักษ์ข้างกายของฮองเฮา ก็ต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของฮองเฮาเป็นอันดับหนึ่ง แล้วเหตุใดถึงได้นึกอยากจะไปไหนก็ไปเช่นนี้?อู๋ไป๋บอกตามความจริง“พระนางให้กระหม่อมไปสืบเรื่องตระกูลมู่หรง ตอนนี้เริ่มจับทางได้แล้ว ฝ่าบาท ตระกูลมู่หรงน่าสงสัยมากพ่ะย่ะค่ะ!”ตั้งแต่ที่จับบุคคลน่าสงสัยในตระกูลมู่หรงได้ เขาก็ทำตามที่ฮองเฮาสั่ง ไม่ได้เร่งสอบสวนในทันที แต่นำไปขังไว้ก่อนสักระยะตระกูลมู่หรงเริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างที่คาดการณ์ไว้ เริ่มส่งคนออกตามหาแล้วและเขาก็หามู่หรงฉานที่อาศัยอยู่ในชนบทเจอคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เบาะแสสำคัญเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง“ฝ่าบาท มู่หรงฉานผู้นั้นกล่าวว่า นางไม่ได้ป่วย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1121

    ไทฮองไทเฮาไม่ทันสังเกต ว่าทหารบุกเข้ามาในหอบรรพบุรุษตระกูลมู่หรงคนในตระกูลมู่หรงที่ยืนอยู่ในเรือนต่างถูกคุมตัวไว้หมด ไม่ปล่อยให้พวกเขาเคลื่อนไหวใด ๆทุกคนต่างหวาดหวั่น มองหน้ากันไปมา“อะไรกัน? ทหารมาที่หอบรรพบุรุษทำไม?”หมอเทวดาเหยียนและหมอหลวงที่รับผิดชอบคดีมนุษย์โอสถ ถูกพาตัวมาข้างหลังเรือน เพื่อสังเกตุหญ้าพิษในสถานที่จริงผ่านไปครู่หนึ่ง หมอหลวงทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกัน ว่าหญ้าพิษในที่แห่งนี้ กอปรกับหญ้าบัวแดง สามารถนำมาผสมเป็นพิษมนุษย์โอสถได้จริง ๆคราวนี้ จับได้ทั้งคนและของกลางคนตระกูลมู่หรงถูกจับกุม โดยเฉพาะเหล่าบุรุษที่มีสิทธิ์มากราบไหว้บรรพบุรุษไทฮองไทเฮาเห็นเช่นนี้ พลันเข้าใจในทันทีที่แท้ ฝ่าบาทให้นางมาที่หอบรรพบุรุษ ก็เพื่อหาหลักฐานความผิดเขาช่างไม่คิดถึงความรู้สึกของเสด็จย่าอย่างนางเลย!ไทฮองไทเฮาจ้องเหล่าทหารอย่างโมโห“หยุดนะ! พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!“ไม่อย่างนั้นพวกเจ้ามาจับข้าไปด้วยให้รู้แล้วรู้รอดสิ!”สิ้นเสียงคำพูดของนาง ทหารทางการก็เข้ามา “ไทฮองไทเฮา ข้าน้อยได้รับคำสั่งให้มาเชิญตัวท่านไปที่ศาลต้าหลี่ เพื่อให้ความร่วมมือในการสอบสวนคดีมนุษย์โอสถ!”ไทฮ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1122

    จากรายชื่อที่บันทึกในวงศ์ตระกูลมู่หรง คนที่ไม่ถูกบันทึกรายชื่อ แต่มีตัวตนอยู่จริง ๆ ในรุ่นก่อนหน้าล้วนลาลับไปหมดแล้วคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน คือลูกคนที่เจ็ดของท่านผู้เฒ่า——มู่หรงสวี้ยึดตามลำดับญาติ  มู่หรงสวี้ผู้นี้คือน้าเจ็ดของมู่หรงหลันคนผู้นี้ใช้ชีวิตอย่างลับ ๆ ยามปกติไม่ค่อยมารวมตัวกับตระกูลมู่หรงเท่าไรแม้แต่พิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษในแต่ละปี  เขาก็ไม่เคยเข้าร่วมเลยสักครั้งคนในตระกูลมู่หรงแทบจะลืมเลือนการมีอยู่ของคนผู้นี้ไปช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ ครอบครัวของบุตรคนโตได้รับการดูแลจากคนผู้นี้ และมักจะได้รับการช่วยเหลือด้านการเงินจากคนผู้นี้เมื่อพูดถึงนายท่านคนที่เจ็ดของตระกูลมู่หรง หลาย ๆ คนในครอบครัวต่างนิ่งงัน“มีคนนี้อยู่ด้วยหรือ?” “อ้อ ข้านึกออกแล้ว เหมือนจะมีน้าเจ็ดอยู่คนหนึ่ง…”“น่าจะเป็นน้าเจ็ดที่ทำค้าขายอยู่ข้างนอกกระมัง?”“คงเป็นน้าเจ็ดที่บาดเจ็บเพราะถูกไฟไหม้หรือไม่?”ทุกคนล้วนมีปฏิกิริยาแตกต่างกันไป ความทรงจำที่มีเกี่ยวกับนายท่านเจ็ดไม่ค่อยมีมากเท่าไรอันซื่อผู้เป็นสะใภ้ครอบครัวของบุตรคนโตพูดอย่างตรงไปตรงมา“หลังจากสามีของข้าตาย น้องเจ็ดเคยช่วยเหลือพ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1123

    ที่ทำการหลักของกลุ่มค้ามนุษย์โอสถแถวชานเมืองตะวันออกของเมืองหลวงถูกยึดไว้ได้แล้ว สมาชิกของกลุ่มค้ามนุษย์โอสถก็ถูกจับกุมทั้งหมด ภายใต้การสอบสวนด้วยการลงโทษอย่างรุนแรง พวกเขาก็เปิดเผยทุกอย่างที่รู้หลายปีที่ผ่านมากลุ่มค้ามนุษย์โอสถได้สร้างมนุษย์โอสถอย่างต่อเนื่อง และส่งขายไปยังที่ต่าง ๆ รวมถึงพรรคเทียนหลงที่เคยก่อกบฏในครั้งนั้น และแคว้นตงซานด้วยเจ้าหน้าที่ที่ทำการสอบสวนจึงถามต่อ“ตระกูลเซวียมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับคดีนี้ ใต้เท้าเซวียผู้นั้นถูกพวกเจ้าฆ่าปิดปากใช่หรือไม่!”“ใช่...เป็นพวกเราทำเอง หลังจากเสียนเฟยถูกจับไปเป็นครั้งที่สอง นายท่านก็ตัดสินใจจะกำจัดตระกูลเซวียแล้ว เขาสั่งให้พวกเราจับตาดูตระกูลเซวียไว้ วันนั้นเมื่อใต้เท้าเซวียออกจากจวน พวกเราก็ลงมือเลย”“ใต้เท้าเซวียต้องการจะแจ้งความพวกเจ้า ใช่หรือไม่?”คนที่ถูกสอบสวนตอบ: “ใช่ ทว่า...ต่อให้เขาแจ้งความ นายท่านก็ดูแลตัวเองให้รอดพ้นได้ ถึงอย่างไร หลายปีที่ผ่านมา เขาก็รู้แค่เรื่องของหญ้าบัวแดง เพื่อจะช่วยเหลือบุตรสาว เขาจึงต้องรักษาความลับไว้”“ใต้เท้าเซวียรู้อะไรบ้าง” เจ้าหน้าที่ถามอย่างดุดันคนผู้นั้นเอ่ยช้า ๆ“ในตอนน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1124

    นอกพระราชวัง ที่จื้อจ้ายจวีวันนี้เซียวอวี้มีเวลาว่างอย่างหาได้ยาก จึงมาที่นี่เพื่อทานมื้อค่ำร่วมกับเฟิ่งจิ่วเหยียนทว่ากลับเห็นนางนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน บนโต๊ะมีหนังสือวางกองอยู่หลายเล่มนางกำลังอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจเซียวอวี้เดินเข้าไปใกล้แล้ว นางถึงเงยหน้าขึ้นมองเขา“ท่านมาได้อย่างไรเพคะ?”เซียวอวี้ได้ยินเช่นนี้ ก็อดที่จะรู้สึกผิดหวังไม่ได้“เจ้าไม่อยากให้เรามาหรือ?”ขณะที่พูด เขาก็อุ้มนางขึ้นมาจากเก้าอี้ ตนเองก็นั่งลงไป ส่วนนางก็นั่งอยู่บนตักเขาเซียวอวี้ลูบที่ท้องของนางเบา ๆ เอ่ยตัดพ้อกับบุตรโดยแสร้งทำเป็นโมโห“ฟังแม่เจ้าพูดสิ ช่างเป็นสตรีที่ใจร้าย พ่อจะมาหาพวกเจ้า แต่นางกลับรังเกียจพ่อ”เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงมือของเขาออก สีหน้าเต็มไปด้วยความจนใจ“ไม่ได้รังเกียจท่าน แค่กังวลว่าท่านจะอ่านฎีกาไม่แล้วเสร็จ จนต้องอดหลับอดนอนอีก”เซียวอวี้จับที่มือของนาง นำมาวางข้างริมฝีปากและจุมพิตเบา ๆ ในแววตาเต็มไปด้วยความอบอุ่นและลึกซึ้ง“ที่แท้เจ้าก็ยังรู้จักเป็นห่วงเรา”จากนั้นเขากวาดสายตามองไปยังหนังสือบนโต๊ะ “กำลังอ่านอะไรอยู่?”“หม่อมฉันให้หยิ่นลิ่วไปนำมาจากวัง เพราะอยากรู้เกี่ยวกับ

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1125

    ไม่มีผู้ใดเคยคิดว่า รุ่ยอ๋องจะตกเป็นเป้าสายตาเซียวอวี้จึงรีบสั่งให้คนไปเฝ้าประตูเมืองทุกที่อย่างเข้มงวด และสืบหาตำแหน่งของรุ่ยอ๋องขณะเดียวกันก็ยังปิดประกาศ ให้ชาวบ้านในเมืองแจ้งเบาะแสหลังเกิดเหตุ องครักษ์ในจวนรุ่ยอ๋องก็พากันสำรวจค้นหาไปตามที่ต่าง ๆวันต่อมา คนกลุ่มหนึ่งพบเจอหลิวหวาที่บาดเจ็บสาหัสนอนอยู่บนพื้นแถวชานเมืองหลิวหวาเป็นองครักษ์คนสนิทของรุ่ยอ๋อง วันก่อนขณะที่รุ่ยอ๋องถูกหลอกพาตัวไป หลิวหวาก็อยู่ข้างกายรุ่ยอ๋องหลังจากเขาฟื้นขึ้นมา ก็บอกกับทุกคน“...รถม้าวิ่งไปถึงกลางทาง ท่านอ๋องสังเกตว่าทิศทางไม่ถูกต้อง ข้าพยายามบังคับให้หยุดรถม้า กลับถูกคนขับถีบลงจากรถม้า“ในขณะนั้นพระชายาก็ตามมาถึง เห็นเพียงพระชายากระโดดขึ้นรถม้าอย่างคล่องแคล่ว ส่วนเหตุการณ์หลังจากนั้น ข้าก็ไม่อาจรู้ได้แล้ว ทว่ายังพอจำได้ว่า เส้นทางรถม้ามุ่งไปทางตะวันตก”จากนั้นหลิวหวาจึงถามทันทีว่า: “เรื่องที่ท่านอ๋องประสบเหตุ ฝ่าบาททรงทราบหรือไม่? มีการส่งคนไปช่วยเหลือแล้วหรือไม่?”ณ พระราชวังเซียวอวี้สีหน้าดูเคร่งเครียดเขาไม่แน่ใจว่า คนที่จับตัวรุ่ยอ๋องไป แท้จริงเป็นผู้ใด และมีจุดประสงค์ใดถึงแม้จะมีควา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1126

    ตอนนี้หร่วนฝูอวี้รู้สึกหงุดหงิดใจอยู่บ้างเป็นเพราะนางประมาทศัตรู ถึงต้องตกอยู่ในสภาพ “พลาดท่าอย่างสิ้นเชิง”รุ่ยอ๋องเป็นเพียงสามีในนามของนางเท่านั้น ไม่ว่าจะตายหรือมีชีวิตอยู่ ก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับนางมากนักเพื่อช่วยเหลือเขา ตอนนี้แม้แต่นางเองก็ต้องเผชิญอันตรายด้วยช่างไม่คุ้มค่าจริง ๆทว่าต่อให้มีเงินทองมากมายก็ไม่อาจซื้อยาแก้โรคเสียใจภายหลังได้สิ่งที่เร่งด่วนตอนนี้คือการหนีออกจากที่แห่งนี้หร่วนฝูอวี้ลดเสียงเบาลง เอ่ยกับรุ่ยอ๋อง“ข้าฟื้นก่อนเจ้าหน่อย สถานที่เลวร้ายแห่งนี้มีกลไกซับซ้อน กลางดึกยังได้ยินเสียงภูตผีร้องโหยหวนและสุนัขเห่าหอนด้วย“หากคิดจะหนีออกไป ต้องตรงไปยังจุดหมาย“เจ้าลองคิดดูก่อนว่า คนที่ลักพาตัวเจ้าเป็นใคร“หากรู้เป้าหมายของพวกเขา พวกเราถึงจะใช้ประโยชน์จากมันได้”รุ่ยอ๋องครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ตอนนี้ข้านึกไม่ออกเลย”เขาเป็นคนเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย น้อยมากที่จะล่วงเกินผู้ใดหร่วนฝูอวี้โมโหที่เขาไม่พยายามใช้ความคิด“เจ้านึกดูให้ดี! จะต้องเป็นศัตรูของเจ้าแน่นอน”เพราะอย่างไรคนที่พวกเขาต้องการจับตัวมาก็คือเขา นางเพื่อช่วยเหลือเขา จึงถูกบังคับให้เข้ามา

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1127

    ทุกที่ในสุสานใต้ดินนั้นมืดสนิทหร่วนฝูอวี้กับรุ่ยอ๋องออกจากที่ถูกคุมขัง ในเวลานั้นราวกับแมลงวันไร้หัว ไม่รู้ทิศทาง ยากที่จะหาทางออกได้เพื่อป้องกันไม่ให้เดินแยกกัน หร่วนฝูอวี้จึงเอ่ยในทำนองออกคำสั่ง“จับแขนเสื้อของข้าไว้ และตามมาใกล้ ๆ หน่อย”“ตกลง” รุ่ยอ๋องอยู่ด้านหลังของนาง คล้ายกับผู้ติดตามเขาเอ่ยเตือน: “ระวังหน่อย กลัวว่าจะเจอกับ...”“ชู่! เจ้าฟังสิ เสียงอะไร?”ท่ามกลางความมืด พวกเขาได้ยินเสียงฝีเท้ามีคนมา!ที่นี่ซับซ้อนมืดมิด แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อการซ่อนตัวหร่วนฝูอวี้กับรุ่ยอ๋องกลั้นหายใจ ยืนชิดกับกำแพง สุดท้ายก็ไม่ทำให้คนที่มาจับได้รอจนเสียงฝีเท้าห่างออกไปไกล พวกเขาถึงค่อยโล่งใจหร่วนฝูอวี้เข้าไปใกล้ ๆ ข้างหูของรุ่ยอ๋อง และเอ่ยเสียงเบา“เดินคลำไปตามกำแพง จะต้องเจอทางออกได้”รุ่ยอ๋องตอบ: “เจ้าคลำกำแพงนำทางไป ข้าจะดึงชายเสื้อเจ้าไว้”หร่วนฝูอวี้: ...เขาไม่คิดจะออกแรงแม้แต่น้อยเลยหรือ!ตอนที่นางกับซูฮ่วนตกอยู่ในอันตรายด้วยกัน นางไม่ต้องทำสิ่งใดเลย เพียงแค่ทำตัวออดอ้อน แนบชิดอยู่ในอ้อมอกของซูฮ่วน แทบไม่ต้องกังวลว่าจะออกไปไม่ได้ด้วยซ้ำเฮ่อ!เป็นอีกวันที่คิดถึงซ

Pinakabagong kabanata

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1158

    ก่อนอาหารมื้อค่ำ เซียวอวี้กลับมาถึงวังหลวงตรงตามเวลาเขายังนำผลไม้อบแห้งที่เฟิ่งจิ่วเหยียนชอบกินมาด้วยถึงแม้ใบหน้าเขาจะแสดงออกอย่างเรียบเฉย เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับรับรู้ได้ถึงความขุ่นเคืองใจที่ข่มไว้ของเขายังมี กลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ที่อยู่บนตัวเขาด้วยอาหารมื้อค่ำถูกจัดวางบนโต๊ะแล้ว ทั้งสองคนนั่งอยู่ตรงข้ามกัน และมีข้าหลวงคอยรับใช้ เพื่อคอยตักอาหารให้พวกเขาเฟิ่งจิ่วเหยียนให้ข้าหลวงออกไปก่อน และถามเซียวอวี้ตามตรง“วันนี้ไปตรวจเยี่ยมค่ายทหาร ไม่ราบรื่นหรือเพคะ?”เซียวอวี้ปากหนักไม่ยอมรับ พร้อมกับเปิดห่อผลไม้ให้นาง“อ่านฎีกาจบแล้วหรือ?” เขาถามโดยเปลี่ยนเรื่องเฟิ่งจิ่วเหยียนเห็นเขาไม่อยากเอ่ยถึงอีก จึงไม่ถามต่อจากที่เขาถาม นางยิ้มอ่อน ๆ“ฎีกาไม่มีวันอ่านจบ ของวันนี้อ่านจบ ก็ยังมีของพรุ่งนี้อีก”เซียวอวี้ก็ยิ้มเช่นกัน พลางยกมือขึ้นลูบใบหน้านาง แววตาดูอ่อนโยนสงบนิ่ง“หากเป็นฮ่องเต้ทรราช ก็คงไม่ต้องเหนื่อยเช่นนี้”หลังมื้อค่ำเฟิ่งจิ่วเหยียนอ้างว่าจะไปห้องทรงพระอักษรเพื่ออ่านฎีกาต่อ แท้จริงแล้วกลับให้อู๋ไป๋ไปที่ค่ายทหาร เพื่อสืบดูว่า วันนี้เซียวอวี้พบปัญหาใดอู๋ไป๋กลับหลักแหลม

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1157

    ตอนนี้เฟิ่งจิ่วเหยียนเป็นประมุขแคว้น หากเซียวอวี้ต้องการจะพบนาง ก็ต้องรอให้คนไปกราบทูลก่อนสิ่งนี้ทำให้เขาไม่คุ้นเคยอย่างยิ่งทว่า กฎก็คือกฎที่หนานฉี แม้ว่าจิ่วเหยียนจะสูงส่งเป็นถึงฮองเฮา หากต้องการจะเข้าไปในห้องทรงพระอักษร ก็ยังไม่อาจทำได้ตามใจชอบ“จะออกเดินทางเมื่อใด?” บนบัลลังก์มังกร คำถามของเฟิ่งจิ่วเหยียนที่ถามขึ้นกะทันหัน ขัดจังหวะความคิดของเซียวอวี้ เซียวอวี้เงยหน้าขึ้นมองนาง ถึงแม้ในตำหนักจะไม่มีคนนอก เขายังคงรู้สีกว่า ระหว่างตนเองกับจิ่วเหยียน ราวกับมีบางอย่างคั่นกลางอยู่บางที นั่นอาจจะเป็นช่องว่างทางสถานะผู้ที่เป็นกษัตริย์ แน่นอนว่าย่อมเป็นผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูง ต่อให้ใกล้ชิดดั่งคนที่นอนร่วมหมอน ก็ไม่อาจก้าวข้ามช่องว่างนี้ได้ไม่น่าแปลกใจที่ก่อนหน้านี้จิ่วเหยียนก็ยกเรื่องนี้มาเป็นอุปสรรค ไม่ยอมเป็นฮองเฮาของเขาเซียวอวี้พยายามทำให้ตนเองกลับมามีสภาพจิตใจที่เป็นปกติตามเดิม“เสบียงถูกส่งไปก่อนแล้ว วันนี้เราจะไปตรวจเยี่ยมค่ายทหาร หากราบรื่น พรุ่งนี้ก็จะออกเดินทาง”เฟิ่งจิ่วเหยียนด้านหนึ่งก็ฟังเขาพูด อีกด้านหนึ่งก็อ่านฎีกานางทำหลายอย่างพร้อมกัน ช่างดูยุ่งเหลือเกิน

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1156

    นอกชายแดนแคว้นซีหนี่ว์ แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้ส่งกองกำลังออกรบแล้ว กองทัพมืดฟ้ามัวดิน เห็นได้ชัดว่าเป็นสงครามที่เดิมพันด้วยความอยู่รอดและล่มสลายของทั้งสองแคว้นก่อนเคลื่อนทัพ แม่ทัพใหญ่ตรวจสอบความพร้อมของทหาร เพื่อสร้างความฮึกเหิม“ทหารทุกคน! วันนี้จะเป็นวันที่จะลบล้างความอัปยศ! หากไม่อยากตกเป็นทาสของแคว้นล่มสลาย และไม่อยากถูกสตรีบัญชาการ ก็จงต่อสู้สุดชีวิต! ทำลายชายแดนของแคว้นซีหนี่ว์ เคลื่อนกำลังเข้าไป จนเข้าไปถึงเมืองหลวง และจับตัวประมุขแคว้นของพวกนางมา!”ทั้งสามกองทัพเปล่งเสียงขานรับโดยพร้อมเพรียง“ลบล้างความอัปยศ! จับตัวประมุขแคว้นซีหนี่ว์!”ทันใดนั้น ทหารสอดแนมก็มารายงาน“ท่านแม่ทัพ พบกองทัพของแคว้นซีหนี่ว์ นำทัพโดยหูย่วนเอ๋อร์!”หูย่วนเอ๋อร์เป็นหนึ่งในแม่ทัพผู้องอาจของแคว้นซีหนี่ว์ และยังเป็นแม่ทัพคู่ใจของอดีตประมุขแคว้นซีหนี่ว์ด้วยก่อนหน้านี้ได้ยินสายลับมารายงานว่า ประมุขแคว้นคนปัจจุบันไม่ชอบหูย่วนเอ๋อร์ และจับนางไปคุมขังไว้ในคุกเหตุใดคนผู้นี้ถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่ชายแดน?หรือว่าข่าวจากสายลับจะผิดพลาด?แม่ทัพใหญ่ของทั้งสองแคว้นถามด้วยความสงสัย“หรืออาจจะเป็น

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1155

    กลุ่มขุนนางที่ถูกจับกุม แต่ละคนบ้างก็ตกใจ บ้างก็โกรธแค้น บ้างก็คุกเข่าร้องขอชีวิตทันที“เฟิ่งจิ่วเหยียน! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาจับหม่อมฉัน! หม่อมฉันคือขุนนางอาวุโสสามสมัย!”“หม่อมฉันไม่ได้คิดจะก่อกบฏ...ประมุขแคว้น พวกเขาจะต้องจับคนผิดอย่างแน่นอน!”“ประมุขแคว้นโปรดไว้ชีวิต โปรดไว้ชีวิตด้วย! หม่อมฉันเลอะเลือนไปชั่วขณะ หม่อมฉันไม่กล้าอีกแล้ว!”ขุนนางคนอื่นถอยห่าง แทบไม่อยากเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่ถูกจับโอวหยางเหลียนก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว เอ่ยต่อเฟิ่งจิ่วเหยียน“ประมุขแคว้น ตั้งแต่อดีต ขุนนางที่ก่อกบฏทรยศแผ่นดินมีความผิดสมควรตาย หม่อมฉันคิดว่า ควรรีบประหารชีวิตพวกเขาทันที ไม่อาจให้ความเมตตาได้!”โอวหยางเหลียนอายุมากแล้ว ทว่านางทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเด็ดขาดชัดเจนเฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่ใช่คนใจอ่อนเช่นกันนางเพิ่งจะเป็นประมุขแคว้น แต่ก็รู้ว่า ความวุ่นวายภายในแคว้นซีหนี่ว์ ล้วนเกิดจากคนที่ไม่จงรักภักดีเหล่านี้หากไม่สังหาร ก็ไม่เพียงพอที่จะยุติความวุ่นวายภายในได้หากไม่สังหาร ก็ไม่เพียงพอที่จะเตือนใจให้กับคนอื่นได้เฟิ่งจิ่วเหยียนสั่งให้ข้าหลวงอ่านความผิดของคนเหล่านี้ อ่านจบทีละคน ก็สังหารท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1154

    จันทร์เสี้ยวลอยลงต่ำ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูงณ พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ในที่ประชุมเช้า เหล่าขุนนางมองไปยังคนที่อยู่บนบัลลังก์มังกร ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย และความประหลาดใจขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยถามอย่างใจกล้า“คนที่นั่งอยู่บนนั้น เจ้าเป็นใคร! แล้วประมุขแคว้นอยู่ที่ใด!”คนที่อยู่ด้านบน ถึงแม้หน้าตาจะคล้ายกับประมุขแคว้น ทว่าส่วนท้องนูนออกมา เห็นชัดว่าเป็นลักษณะของการตั้งครรภ์ คนผู้นี้กับประมุขแคว้นเมื่อหลายวันก่อนผู้นั้น ไม่ใช่คนเดียวกันโดยสิ้นเชิงความแตกต่างที่เห็นชัดเช่นนี้ ขอเพียงไม่ใช่คนตาบอด ก็มองออกชัดเจนหลังจากมีคนหนึ่งออกหน้า คนอื่น ๆ ก็พากันเกิดความสงสัยตามมา“รีบบอกมา เจ้าเป็นใครกันแน่!”“เจ้าคนชั่วอาจหาญ กล้าสวมรอยเป็นประมุขแคว้น ยังไม่รีบลงมาอีก!”“ประมุขแคว้นเล่า? ทหารรักษาพระองค์อยู่ที่ใด รีบไปตามหาประมุขแคว้น!”ในราชสำนักเริ่มเกิดความวุ่นวายก่อนหน้านี้หูย่วนเอ๋อร์ก็ถูก “ขัง” อยู่ในคุก มิได้เข้าร่วมประชุมเช้าของวันนี้ จึงมีเพียงโอวหยางเหลียนเท่านั้นที่รู้ความจริงในที่นี้โอวหยางเหลียนยืนอยู่ตรงนั้น โดยไม่เอ่ยสิ่งใดจากนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนที่อยู่บนบัลลังก์มังกรก

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1153

    เมิ่งฉวีกับภรรยามองดูคนตรงหน้า ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแม่ทัพเมิ่งเอ่ยเตือนด้วยคำพูดดี ๆ“ต้วนเจิ้ง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรัชทายาท ที่ประทับของฮองเฮา เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”ต้วนเจิ้งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของต้วนไหวซวี่จิ่วเหยียนก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างดีที่สุด มอบบ้านพักที่เซียวเหยาจวีให้กับเขา ทำให้เขาไม่ต้องเร่ร่อนไร้ที่อยู่ก่อนหน้านี้เพราะหร่านชิวบังคับให้บอกตำแหน่งหลุมฝังศพของต้วนไหวซวี่ จึงจับต้วนเจิ้งไปขังไว้ เพื่อหลบหนีออกจากกรงขัง ต้วนเจิ้งจึงล้มจนขาหักผ่านการพักฟื้นกว่าสองปี ตอนนี้ขาของเขาหายเป็นปกติแล้ว สามารถยืนและเดินได้ฮูหยินเมิ่งมองออกว่า ต้วนเจิ้งผู้นี้โตแค่อายุ ความคิดไม่ได้โตตามไปด้วยเขายังปฏิบัติตนเองเหมือนเป็นเด็ก คิดจะตามติดจิ่วเหยียนตลอดเวลา มีบางคำพูด จิ่วเหยียนไม่อาจทำใจที่จะเอ่ยออกมาตรง ๆ ได้ แต่นางในฐานะอาจารย์หญิง อดรนทนไม่ไหวจริง ๆฮูหยินเมิ่งจึงตัดสินใจอาศัยโอกาสนี้ เอ่ยกับต้วนเจิ้งโดยไม่เหลือความปรานี“ความรู้สึกระหว่างพี่ชายเจ้ากับฮองเฮา กลายเป็นอดีตไปนานแล้ว ต้วนไหวซวี่กับฮองเฮาไม่มีความเกี่ยวพันกันอีก และยิ่งกับเจ้าด้วยแล้ว?“เจ้าพยาย

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1152

    หลังจากส่งเวยเฉียงกลับไปแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่ได้กลับไปที่พระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ทันทีนางให้ตัวแทนกลับเข้าวังไปก่อน จะอาศัยโอกาสนี้ทำให้สายลับเหล่านั้นเกิดความสับสนในเวลาเดียวกัน นอกชายแดนแคว้นซีหนี่ว์แคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งเริ่มคันไม้คันมือ อยากจะลงมือเต็มที่แม่ทัพใหญ่หลายคนกำลังหารือกันอยู่ภายในกระโจมค่ายทหาร ว่าหากมีการบุกโจมตีแคว้นซีหนี่ว์ จะฝ่าทะลวงเข้าไปตรงจุดใดเพียงแต่ ปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือ ประมุขแคว้นของแคว้นซีหนี่ว์ในตอนนี้ แท้จริงแล้วคือฮองเฮาของหนานฉี---เฟิ่งจิ่วเหยียนหรือไม่“สายลับอยู่ไหน ยังไม่มีข่าวหรือ!” หนึ่งในแม่ทัพเอ่ยด้วยความอดทนถึงขีดสุด พร้อมถามอย่างเร่งรีบ“รายงานท่านแม่ทัพ สายลับถึงพระราชวังแคว้นซีหนี่ว์แล้ว เชื่อว่าไม่นานจะสามารถตรวจสอบตัวตนของประมุขแคว้นผู้นั้นได้อย่างชัดเจน!”ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่อาจคลายความหงุดหงิดในใจของแม่ทัพอีกหลายคนได้“ให้พวกเขาลงมือโดยเร็วที่สุด! เหล่าทหารตั้งค่ายอยู่ที่นี่ แต่ละวันต้องสิ้นเปลืองเสบียงและเบี้ยเลี้ยงไม่น้อย!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”ในเวลานี้ แม่ทัพคนหนึ่งของแคว้นเจิ้งเสนอความเห็น“ท่านท

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1151

    ก่อนเฟิ่งจิ่วเหยียนจะมาที่แคว้นซีหนี่ว์ ก็มีแผนปฏิบัติการอยู่แล้วแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งได้จัดส่งสายลับ มุ่งหน้ามายังพระราชวังแคว้นซีหนี่ว์ เพื่อสืบดูว่าประมุขแคว้นคือนางหรือไม่ยิ่งไปกว่านั้น ภายในแคว้นซีหนี่ว์ก็มีคนก่อความวุ่นวาย หมายปองตำแหน่งประมุขแคว้นครั้งนี้ประจวบเหมาะที่จะใช้แผนซ้อนแผนเฟิ่งจิ่วเหยียนจึงบอกกับซ่งหลี“พรุ่งนี้เจ้าพาเวยเฉียงกลับหนานฉี แคว้นซีหนี่ว์ทางนี้ มีข้ากับฝ่าบาท”นางเอ่ยเช่นนี้แล้ว แน่นอนว่าซ่งหลีไม่อาจขอร้องสิ่งใดได้เฟิ่งเวยเฉียงยังคงรู้สึกกังวลอยู่บ้าง“พี่หญิง ไม่ต้องการให้ข้าช่วยจริงหรือ?”เฟิ่งจิ่วเหยียนส่งสายตายืนยันต่อนาง“หากเจ้ากับซ่งหลีกลับหนานฉีอย่างปลอดภัย ข้าจะได้ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงพยักหน้า“ได้ ข้าจะเชื่อฟังพี่หญิง”ปากก็ตอบตกลงอย่างแน่วแน่ แต่ในใจกลับรู้สึกอ้างว้างหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางทนไม่ไหวจึงถามออกมา“พี่หญิง หากจัดการปัญหาความไม่สงบของแคว้นเสี่ยวโจวกับแคว้นเจิ้งเรียบร้อยแล้ว ประมุขแคว้นซีหนี่ว์ จะเป็นผู้ใดที่มารับตำแหน่ง?”นางรู้ว่า พี่หญิงจะต้องกลับไปแคว้นซีหนี่ว์อย่างแน่นอนเฟิ่งจิ่วเหยี

  • แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย   บทที่ 1150

    นอกพระราชวัง ภายในเรือนพักแห่งหนึ่งที่แห่งนี้เฟิ่งเวยเฉียงได้พบกับพี่หญิงที่คนึงหาอยู่ทุกเวลา นางรู้สึกตื่นเต้นและดีใจ ขณะที่คิดจะเข้าไปสวมกอดอีกฝ่าย กลับเหลือบเห็นท้องที่นูนขึ้นมา“พี่หญิง นี่ท่านกำลัง?”เฟิ่งเวยเฉียงนึกถึงบางอย่าง ทว่าก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าด้วยแววตาอ่อนโยน“ข้าตั้งครรภ์แล้ว”เฟิ่งเวยเฉียงอ้าปากค้างด้วยความคิดไม่ถึง “จริงหรือ?!”นี่ช่างดีเหลือเกิน!พี่น้องสองคนนั่งลง นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน มีคำพูดมากมายที่อยากเอ่ยในห้องข้าง ๆ กันเซียวอวี้อยู่กับซ่งหลี สีหน้าของซ่งหลีดูแตกต่างจากเมื่อครั้งก่อนมาก ใต้ตาเป็นรอยคล้ำเหมือนมี “ถุงใต้ตา” ความกลัดกลุ้มเผยออกมาให้เห็นภายนอกเซียวอวี้กลับถามราวไม่ได้สังเกตอะไร“เป็นอย่างไรบ้างกับการเป็นพระสวามี?”ซ่งหลีก้มศีรษะลงต่ำ เย้ยหยันตนเองด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย“ข้าน้อยไร้ความสามารถ ไม่อาจทำได้ดี”เซียวอวี้ขมวดคิ้วเหตุใดถึงมีสีหน้าอมทุกข์?คงไม่ใช่ว่า เฟิ่งเวยเฉียงผู้นั้นได้ใหม่แล้วลืมเก่า มีสนมชายคนโปรดแล้ว?จู่ ๆ ซ่งหลีก็นึกถึงเรื่องบางอย่าง แววตาเป็นประกายทันทีเขาลุกขึ้นยืน พร้อมปร

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status