“ผมว่าคุณแม่ห่วงเรื่องตัวเองก่อนดีกว่าครับ คุณแม่รู้หรือเปล่าว่าคุณพ่อเอาเด็กไปที่บริษัท”
“ช่างพ่อแกสิ” คุณหญิงวิไลลักษณ์พูดเหมือนทองไม่รู้ร้อน
“แกก็น่าจะรู้นิสัยพ่อแกดีว่าเป็นยังไง ห้ามไปก็เท่านั้น เพราะถ้าห้ามได้คงไม่มีบ้านเล็กบ้านน้อยเยอะขนาดนี้หรอก”
คุณหญิงวิไลลักษณ์ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าสามีเธอจะไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย หรือไปนอนที่ไหน เธอวางตัวเป็นผู้ดีไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นให้เปรอะเปื้อน เพราะอย่างไรแล้วเธอก็คือภรรยาที่ถูกต้องทั้งนิตินัยและพฤตินัย ผู้หญิงคนอื่นก็เป็นเพียงของเล่นของสนุกให้สามีเธอเท่านั้น
สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ เธอต้องหาทางบีบบังคับบุตรชายให้ไปขอหมั้นลลิตาโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้มันจะทำให้เธอเชิดหน้าชูตาในสังคมอย่างมาก ที่ได้บุตรสาวตระกูลโชติธานนท์มาเป็นทองแผ่นเดียวกัน
คืนนี้ภาคินมีนัดรวมตัวกับเพื่อนของเขาที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง เป็นการเลี้ยงต้อนรับกลับมาของเขาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายปี
[ pk : พี่มาถึงแล้วนะครับ ]
ส่งรูปภาพ
[ Aiai : ok. ค่ะ เที่ยวกับเพื่อนให้สนุกนะคะ ]
[ pk : ครับ ฝันดีล่วงหน้านะครับ พี่รักอ้ายนะ ]
[ Aiai : เช่นกันค่ะพี่คิน อ้ายรักพี่คินเหมือนกันนะคะ ]
ภาคินดูบทสนทนาระหว่างเขากับลลิตา มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหุบกลับเหมือนเดิม เขาเก็บสมาร์ตโฟนลงกระเป๋าและเดินเข้าไปข้างใน
“ฮิ้วว เจ้าของงานมาแล้วโว้ย”
“เชิญค้าบบ คุณคิน เชิญนั่งตรงนี้เลย”
ภาคินได้แต่ส่ายหัวให้กับบรรดาเพื่อนตัวเอง คนที่มาร่วมงานล้วนเป็นเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันทั้งนั้น
“ทำไมมึงไม่ชวนน้องอ้ายมาด้วยวะ” เพื่อนชายคนหนึ่งเอ่ยถามภาคิน
ใคร ๆ ก็รู้ว่าภาคินกำลังคบหาดูใจกับลลิตา ทว่าภาคินยังไม่ทันตอบคำถาม ก็มีเสียงใครคนหนึ่งเรียกเขาเสียก่อน
“คิน”
ภาคินหันหน้าไปตามเสียงเรียก ดวงตากลมโตด้วยความตกใจ “ดา...?”
เขาไม่นึกเลยว่าวันแรกก็เจอกับญาดา อดีตคนรักในสถานที่แบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาแทบพลิกแผ่นดินหา ทว่าหายังไงก็ไม่เจอ
“ดามาที่นี่ได้ยังไง? แล้วทำไมถึงใส่เสื้อผ้าแบบนี้” ภาคินถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะเท่าที่เขาจำได้ ญาดาไม่ชอบมาเที่ยวสถานที่แบบนี้ แล้วไหนจะแต่งตัวที่ล่อแหลมแบบนี้อีก ภาพความทรงจำของเขา ญาดาคือผู้หญิงที่สวยและนิสัยดี แต่งตัวเรียบร้อยน่ารักสมวัย
“ดามากับเพื่อนน่ะ ส่วนเรื่องแต่งตัว มาเที่ยวแบบนี้ก็แต่งกันแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”
นั่นสินะ หันมองไปดูผู้หญิงคนอื่นรอบตัวก็มีแต่คนแต่งแนวนี้ทั้งนั้น
“แต่ดาไม่ค่อยแข็งแรงไม่ใช่เหรอ มาเที่ยวแบบนี้ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ?”
ร่างกายของญาดาไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนัก เธอมักเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ อยู่เสมอ
“ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ แต่ดาขอตัวก่อนนะคิน เพื่อน ๆ รอดาอยู่” ญาดายิ้มให้คนรักเก่าตัวเองเล็กน้อย
“ดาดีใจนะที่คินกลับมา” เธอพูดทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นั้นก็เดินจากไป ทิ้งไว้แค่ภาคินที่ยืนมองดูเธอด้วยสายตาที่หลากหลายอารมณ์
บรรดาเพื่อน ๆ เองก็ไม่อยากถามหรือชวนคุยเรื่องของสองคนนั้น เนื่องด้วยทั้งคู่เลิกกันไม่ดีเท่าไรนัก นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ภาคินต้องหนีไปเรียนต่างประเทศกลางคัน
หลังจากทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ทุกคนก็พากันดื่มกินกันปกติ มีเพียงภาคินเท่านั้นที่จ้องมองอดีตคนรักนั่งอยู่อีกฝั่งตรงข้ามกับเขา
“กูขอตัวก่อน” พูดจบภาคินก็ลุกเดินออกไปจากโต๊ะ
“อะไรวะ มาไม่ทันไรก็จะกลับแหละ” เพื่อนของเขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเสียดาย
“โทษทีว่ะ กูมีธุระสำคัญที่ต้องไปทำ” ภาคินไม่ได้อธิบายอะไร เขาเอาบัตรเครดิตตัวเองวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินจากไป
“พวกมึงว่าถ่านไฟเก่าจะคุไหมวะ”
“ดูจากทรงกูว่าไม่เหลือ” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ดูจากท่าทางของทั้งสองคนวันนี้ ถ่านไฟเก่ายังมีไฟอยู่แน่ ๆ
ภาคินขับรถไปจอดแถว ๆ ทางออกของไนต์คลับ เขานั่งรอในรถอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งคนที่เขารอเดินออกมา ทว่ามีผู้ชายเดินตามหลังเธอมาด้วย
“คุณดาครับ”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ญาดาถามชายหนุ่มที่เดินตามหลังเธอออกมา
“เอ่อ... จะเป็นอะไรไหม ถะ ถ้าผมขออนุญาตไปส่งคุณ...”
หญิงสาวยังไม่ทันได้ตอบ ก็มีเสียงใครบางคนแทรกขึ้นมา
“ไม่ได้! ดามากับฉันต้องกลับกับฉัน!” ภาคินพูดขึ้นพร้อมกับยืนแทรกกลางระหว่างสองคนนั้น
“คิน...?”
ภาคินมองตาขวางใส่ผู้ชายที่เสนอตัวจะไปส่งอดีตคนรัก เขายืนมองทั้งสองคนยืนคุยกันมาสักพักแล้ว ท่าทางเขินอายของญาดาที่มีให้กับผู้ชายอื่น มันทำให้เขาไม่สบอารมณ์อย่างมาก แล้วสายตาของเขามันดูออกว่าไอ้คนนั้นมันคิดอะไรอยู่ ผีเห็นผียังไงล่ะเขาดึงแขนญาดาแล้วพาไปที่รถ ท่ามกลางความงุนงงของใครหลายคนที่มองเห็นเหตุการณ์“คินเดี๋ยวก่อนสิ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมคินต้องลากดามาแบบนี้ด้วย” ญาดาพยายามแกะมือที่กุมแขนเธอเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยแขนเธอและบีบแขนแน่นขึ้นเรื่อย ๆภาคินพาญาดาเดินมาจนถึงรถตัวเองและดันตัวเธอเข้าไปภายในรถทันที คนที่ถูกดึงตัวมาไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เพราะเธอรู้ว่าขัดขืนไปก็เท่านั้น ญาดาจึงเลือกที่จะนั่งเงียบ ๆ ดีกว่าตอนนี้รถขับออกมาจากไนต์คลับไกลมากแล้ว ก็ยังไร้เสียงพูดของทั้งสองคน แม้แต่เสียงเพลงก็ยังไม่มี ทำให้ภายในรถมีแต่ความเงียบสงัด“ไหนว่ามากับเพื่อน แล้วเพื่อนไปไหนหมดทำไมถึงปล่อยให้ดาอยู่กับไอ้หน้าจืดนั่นตามลำพัง”“...” ญาดาหันหน้ามองข้างทาง ไม่สนใจในสิ่งที่ภาคินถามแม้แต่นิดเดียวเห็นท่าทีแง่งอนของหญิงสาว ภาคินรู้แล้วว่าตอนนั้นเขาใช้อารมณ์มากไป ชายหนุ่มพยายามถ
ครืดดด เสียงสั่นของสมาร์ตโฟนพร้อมกับหน้าจอสว่างจากการแจ้งเตือน[ Aiai : พี่คินตื่นหรือยังคะ ][ Aiai : เมื่อคืนกินเลี้ยงสนุกไหมเอ่ย ][ Aiai : ตื่นแล้วอย่าลืมหาอะไรกินนะคะ อ้ายเป็นห่วง ]ญาดานั่งอ่านข้อความบนหน้าจอสมาร์ตโฟนของภาคินเงียบ ๆ เพราะเจ้าของเครื่องกำลังนอนหลับอยู่ โดยไม่มีทีท่าว่าจะตื่นโดยง่ายกินเลี้ยงสนุกไหมเหรอ? สนุกสิ สนุกมากด้วย สนุกจนภาคินไม่มีแรงตื่นเลยแหละเธอเดินไปหยิบสมาร์ตโฟนตัวเองพร้อมกับถือเครื่องของภาคินไปด้วยเพื่อทำอะไรบางอย่าง“ล็อกหน้าจออย่างนั้นเหรอ?”ญาดาลองสุ่มเดารหัสผ่าน รหัสแรกคือวันเดือนปีที่เขาและเธอคบกัน แม้ไม่มั่นใจว่าใช่หรือเปล่าเพราะผ่านมานานมากแล้ว แต่แล้ว...“แค่ครั้งเดียวก็ปลดล็อกได้เลยเหรอ” รอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าของเธออย่างพอใจราวกับว่าเธอคือผู้ชนะหลังจากที่จัดการเรียบร้อยตามที่เธอต้องการแล้ว ญาดาก็เดินกลับไปยังเตียงนอน สายตามองอดีตคนรักที่กำลังนอนหลับสนิท ฝ่ามือเรียวลูบไล้ไปตามใบหน้าเบา ๆ นึกถึงเรื่องเมื่อคืนมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนล้วนเป็นแผนการของเธอเอง ญาดารู้จากเพื่อนของภาคินว่าเขาจะจัดปาร์ตี้ที่นั่น เธอจึงแสร้งทำเ
เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นมันเป็นเพราะเขาหูเบาเชื่อคนง่ายเกินไป จึงเป็นเหตุทำให้เขาและญาดาทะเลาะกัน จนได้เผลอพลั้งปากไล่เธอให้ออกไปจากชีวิตของเขาหลังจากที่ญาดาหายตัวไปตามที่เขาต้องการแล้ว ภาคินก็ได้มารู้ความจริงทีหลัง ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือแม่ของเขาเอง มันทำให้เขาคลั่งมากกว่าเดิม ที่แม่มายุ่งวุ่นวายกับความรักของเขา ภาคินรู้ดีว่าแม่ไม่ยินดีกับความรักของพวกเขา จึงได้ทำเรื่องแบบนั้นขึ้นมา‘ผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าล้วนจะหลอกลูกทั้งนั้น’ คำพูดที่แม่ของชายหนุ่มพร่ำบอกเสมอ ช่วงที่คบหากับญาดา ครอบครัวเขาไม่เคยยินดีเลยแม้แต่น้อยกว่าจะรู้ความจริงทุกอย่างก็สายไปแล้ว ญาดาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตามที่เขาต้องการ ภาคินไม่สามารถติดต่อเธอได้ พยายามตามหาทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะไปถามกับคนรู้จักหรือไปหาที่บ้าน แต่ก็ไร้วี่แวว จนตอนนั้นเขาเหมือนคนบ้าขาดสติ เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเขาหูเบาเชื่อแม่ตัวเองมากเกินไป จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจบลงแบบนี้...ภาคินได้แต่โทษแม่ของเขาที่ทำให้ทุกอย่างพัง มาบงการความรัก ทำให้เขาต้องไล่ผู้หญิงที่รักมากที่สุดไป โดยที่ไม่รู้ความจริง มันทำให้เขาเสีย
หลังจากเลือกซื้อของที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว สองสาวพากันไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง“ทำไมวันนี้ถึงไม่ชวนแฟนแกมาด้วยยะ”“พี่คินมีประชุมกับลูกค้าน่ะ”ภาคินบอกเธอตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าวันนี้มีประชุมกับลูกค้าคนสำคัญของบริษัทไม่สามารถเลี่ยงได้ปาลินพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วถามคำถามต่อ “เออ...ว่าแต่ทำไมแกไม่ไปอยู่คอนโดพี่คินล่ะ”“ไม่เอาอะ คอนโดพี่คินอยู่คนละฝั่งกับบริษัทเลย ฉันขี้เกียจตื่นเช้า”“แล้วแกไม่กลัวว่าเขาจะแอบเอาสาวขึ้นห้องเหรอ?” ปาลินเตือนเพื่อนสาวเธอเคยเรียนมหา’ลัยเดียวกันก่อนที่ภาคินจะย้ายไปเรียนต่างประเทศ ปาลินพอจะได้ยินมาบ้างว่ามีนิสัยเป็นยังไง ตอนที่รู้ข่าวว่าภาคินมาจีบลลิตา เธอก็ได้แค่เตือนเรื่องนิสัยของเขา แต่อย่างว่าแหละ มันเป็นเรื่องของคนสองคน ความรักห้ามกันไม่ได้ ขนาดตัวเธอยังไม่อยากจะรอดเลยลลิตาทำใบหน้าครุ่นคิด “ไม่รู้สิ แต่ถ้าเขาทำจริง ๆ ฉันก็จะมีผัวใหม่ทันที ลองดูสิ!” ลลิตาพูดติดตลกเรื่องภาคินเธอก็ได้ยินจากปาลินมาบ้างว่าเป็นยังไง แต่เธอไม่อยากเอาเรื่องนั้นมาตัดสิน ทุกคนมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าปัจจุบันจะปรับปรุงตัวหรือเปล่าการที่เธอกับภาคินแยกกันอยู่คนละ
ลลิตาเข้าใจคำนี้เป็นอย่างดี พวกเขาเปลี่ยนท่าทางกัน ภาคินนอนราบไปกับที่นอน มือเรียวลูบตามแผงอกไปจนถึงกางเกงลำลองแล้วค่อย ๆ ถอดกางเกงลำลองออกจากช่วงขา เผยให้เห็นอันเดอร์แวร์ที่อยู่ข้างใน ลลิตาดึงอันเดอร์แวร์นั้นออกไป ทำให้ท่อนเนื้ออยู่ข้างในผงาดออกมา ลิ้นเรียวระรัวไปที่ส่วนปลายก่อนจะดูดกินอย่างเอร็ดอร่อยราวกับเป็นไอศกรีมแท่งโปรด จนภาคินถึงกับคำรามในลำคอ“อ๊า...” และเด้งสะโพกกระแทกสวนกับจังหวะปากของแฟนสาว ปลดปล่อยของเหลวออกมาลลิตาถึงกับสำลักน้ำขาวขุ่นที่ภาคินปล่อยออกมาใส่ปากเธอ ก่อนจะรีบลุกไปหยิบเอากระดาษทิชชูมาเช็ดปากพร้อมกับคายน้ำคาวที่อยู่ในปากทิ้งให้หมด“อ้ายโอเคไหม”ลลิตาส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไรค่ะ”เธอยอมรับว่ายังไม่ชินจริง ๆ เวลาที่ภาคินปลดปล่อยใส่ปากเธอแบบนี้ชายหนุ่มดึงแฟนตัวเองมากอด “ช่วงนี้พี่ค่อนข้างเหนื่อยจากงาน ขอโทษนะ” น้ำเสียงที่พูดขึ้นอย่างเหนื่อยล้าพร้อมกับท่อนเนื้อที่กำลังหดลงหลังจากที่ได้ถูกปลดปล่อยแล้ว“ไม่เป็นไรค่ะ อ้ายเข้าใจ” พักหลังมานี้เธอกับแฟนแทบไม่ค่อยได้ร่วมกิจกรรมบนเตียงด้วยกันเหมือนอย่างเดิม แต่ลลิตาก็ไม่ได้น้อยใจแฟนเธอแต่อย่างใด เพราะเข้าใจ
“พอ พอค่ะพี่ไนต์ ลินไม่อยากรู้แล้ว” ปาลินพูดดักเขาทันที เธอไม่อยากได้ยินหรือเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้น“เอ่ออ้าย คนนี้คือพี่ไนต์” ปาลินชวนเปลี่ยนเรื่องคุย“สวัสดีค่ะ” ลลิตาก้มหัวให้เขาเล็กน้อย “เอ๊ะ! คุณใช่คนที่ฉันเดินชนวันนั้นหรือเปล่าคะ” เพราะตอนที่ปาลินชี้ให้ดู เธอไม่ได้มองให้แน่ชัดว่าหน้าตาเป็นยังไง และช่วงที่เขาคุยกัน เธอมัวแต่นั่งดูบรรยากาศด้านนอกจึงไม่ได้สังเกตใบหน้าของเขา แต่พอได้เห็นหน้าเขาแล้ว ลลิตาจึงจำได้ทันที“ครับ เราเจอกันอีกแล้วนะครับ” พศวัฒน์ตอบกลับ ตอนสบตากับลลิตาดวงตาเขาเหมือนมีประกายแวบผ่านบทสนทนาระหว่างลลิตากับพศวัฒน์ทำเอาปาลินถึงกับคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง“เดี๋ยวก่อนนะ เธอไปเจอพี่ไนต์ตอนไหน?”“วันที่ฉันชวนเธอไปซื้อของไง แล้วฉันเผลอเดินไปชนพี่เขาน่ะ” พูดถึงเรื่องวันนั้น เธอก้มหัวให้เขาอีกครั้งเพื่อเป็นการขอโทษพศวัฒน์ยื่นแก้วน้ำสีหวานให้ปาลิน บนขอบแก้วมีดอกอัญชันประดับอย่างสวยงาม พร้อมกับถามหญิงสาว“เพื่อนน้องลินเหรอครับ”“ใช่ค่ะเพื่อนลินเอง เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ” ปาลินแนะนำเพื่อนตัวเองให้ชายหนุ่มฟัง“อ้ายค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”“สวัสดีครับน้องอ้าย ผมไนต์ครั
ณ คอนโดใจกลางกรุงเทพฯ แห่งหนึ่ง“พี่คินคะ ตื่นได้แล้วค่ะเช้าแล้ว”“พี่ขอนอนต่ออีกครึ่งชั่วโมงได้ไหม” คนถูกปลุกให้ตื่นพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้“ไม่ได้นะ เดี๋ยวพ่อกับแม่อ้ายรอนาน พี่คินลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวนี้เลย”ลลิตาพยายามดึงตัวแฟนหนุ่มที่ซุกอยู่ในผ้าห่มให้ลุกจากเตียงนอนอย่างยากลำบากการที่แฟนหนุ่มจะมีอาการงอแงไม่อยากตื่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก กว่าจะเดินทางมาถึงประเทศไทยนั่งเครื่องบินข้ามวันข้ามคืน แถมมาเจออากาศร้อนของที่นี่ทำให้ปรับตัวแทบไม่ทัน แต่ลลิตาจะมัวโอ้เอ้ไม่ได้ เพราะพ่อกับแม่ต่างใจจดใจจ่อรอลูกสาวกลับบ้านเช่นกัน“คืนนี้อ้ายจะไปปาร์ตี้กับพี่ไหม?”“ไม่เอาดีกว่าค่ะ ขอนอนพักอยู่ที่บ้านดีกว่า อ้ายไม่รู้จักใคร ไปก็ไม่สนุก”เธอไม่ได้รู้จักกลุ่มเพื่อนภาคินเลยแม้แต่คนเดียว เธอเพิ่งเจอภาคินตอนไปเรียนที่ต่างประเทศ ฉะนั้นเธอจึงเลือกนอนพักอยู่บ้านดีกว่า“โอเคครับ” ภาคินลูบหัวคนข้างกายอย่างเอ็นดูทั้งคู่ขับรถมาแถบชานเมือง เพราะพ่อกับแม่ของลลิตาไม่ชอบบรรยากาศรถติดในเมืองกรุง พวกท่านจึงเลือกมาสร้างบ้านแถบชานเมืองแทน เพื่อหลีกหนีปัญหาเหล่านั้นรถยนต์คันหรูขับเข้ามาในคฤหาสน์หลังหนึ่ง ภายในเต็
ทางด้านคนที่ถูกเอ็ดถึงกับถอนหายใจ เขาก็ยังไม่คิดให้บุตรสาวไปดูแลงานที่บริษัทตอนนี้เช่นกัน แค่พูดแหย่เล่นเท่านั้นเอง“เอาละ ๆ มัวแต่คุยเล่นกันอยู่นี่ตาคินไปบริษัทช้าพอดี” เจ้าบ้านอย่างเขาต้องเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อย่างนั้นเขาคงโดนบ่นจนหูชาอย่างแน่นอน“ไฟแรงแบบนี้คงพร้อมรับช่วงต่อจากพ่อตัวเองแล้วใช่ไหมล่ะเรา” คุณกัมปนาทหันมาพูดกับชายหนุ่ม ใบหน้าเขายิ้มเล็กน้อย“ครับ” ภาคินพยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้ม“อย่างนั้นลุงก็สบายใจ บริษัทพวกเราจะได้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เพราะได้ผู้บริหารคนใหม่ไฟแรงมาบริหารงาน” คุณกัมปนาทตบไหล่เบา ๆ เสมือนเป็นการให้กำลังใจจากเขาภาคินพยักหน้าอีกครั้ง เขาพอรู้สิ่งที่คุณพ่อของลลิตาต้องการสื่อว่ากำลังคาดหวังให้เขาบริหารบริษัทให้ดีขึ้นจากเดิม“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ภาคินยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ทั้งสองโดยไม่ลืมส่งยิ้มให้ลลิตา ที่ยืนมองเขาด้วยแววตาละห้อย“พี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จแล้วพี่จะโทรหานะครับ”“ขับรถดี ๆ นะคะพี่คิน อ้ายฝากสวัสดีคุณลุงคุณป้าด้วยนะคะ”เมื่อร่ำลากันเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็พากันเข้าไปรับประทานอาหารร่วมกันแบบพร้อมหน้าในรอบหลายปี บรรยากาศวันนี้จึงเต็มไปด้วยควา
“พอ พอค่ะพี่ไนต์ ลินไม่อยากรู้แล้ว” ปาลินพูดดักเขาทันที เธอไม่อยากได้ยินหรือเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้น“เอ่ออ้าย คนนี้คือพี่ไนต์” ปาลินชวนเปลี่ยนเรื่องคุย“สวัสดีค่ะ” ลลิตาก้มหัวให้เขาเล็กน้อย “เอ๊ะ! คุณใช่คนที่ฉันเดินชนวันนั้นหรือเปล่าคะ” เพราะตอนที่ปาลินชี้ให้ดู เธอไม่ได้มองให้แน่ชัดว่าหน้าตาเป็นยังไง และช่วงที่เขาคุยกัน เธอมัวแต่นั่งดูบรรยากาศด้านนอกจึงไม่ได้สังเกตใบหน้าของเขา แต่พอได้เห็นหน้าเขาแล้ว ลลิตาจึงจำได้ทันที“ครับ เราเจอกันอีกแล้วนะครับ” พศวัฒน์ตอบกลับ ตอนสบตากับลลิตาดวงตาเขาเหมือนมีประกายแวบผ่านบทสนทนาระหว่างลลิตากับพศวัฒน์ทำเอาปาลินถึงกับคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง“เดี๋ยวก่อนนะ เธอไปเจอพี่ไนต์ตอนไหน?”“วันที่ฉันชวนเธอไปซื้อของไง แล้วฉันเผลอเดินไปชนพี่เขาน่ะ” พูดถึงเรื่องวันนั้น เธอก้มหัวให้เขาอีกครั้งเพื่อเป็นการขอโทษพศวัฒน์ยื่นแก้วน้ำสีหวานให้ปาลิน บนขอบแก้วมีดอกอัญชันประดับอย่างสวยงาม พร้อมกับถามหญิงสาว“เพื่อนน้องลินเหรอครับ”“ใช่ค่ะเพื่อนลินเอง เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ” ปาลินแนะนำเพื่อนตัวเองให้ชายหนุ่มฟัง“อ้ายค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”“สวัสดีครับน้องอ้าย ผมไนต์ครั
ลลิตาเข้าใจคำนี้เป็นอย่างดี พวกเขาเปลี่ยนท่าทางกัน ภาคินนอนราบไปกับที่นอน มือเรียวลูบตามแผงอกไปจนถึงกางเกงลำลองแล้วค่อย ๆ ถอดกางเกงลำลองออกจากช่วงขา เผยให้เห็นอันเดอร์แวร์ที่อยู่ข้างใน ลลิตาดึงอันเดอร์แวร์นั้นออกไป ทำให้ท่อนเนื้ออยู่ข้างในผงาดออกมา ลิ้นเรียวระรัวไปที่ส่วนปลายก่อนจะดูดกินอย่างเอร็ดอร่อยราวกับเป็นไอศกรีมแท่งโปรด จนภาคินถึงกับคำรามในลำคอ“อ๊า...” และเด้งสะโพกกระแทกสวนกับจังหวะปากของแฟนสาว ปลดปล่อยของเหลวออกมาลลิตาถึงกับสำลักน้ำขาวขุ่นที่ภาคินปล่อยออกมาใส่ปากเธอ ก่อนจะรีบลุกไปหยิบเอากระดาษทิชชูมาเช็ดปากพร้อมกับคายน้ำคาวที่อยู่ในปากทิ้งให้หมด“อ้ายโอเคไหม”ลลิตาส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไรค่ะ”เธอยอมรับว่ายังไม่ชินจริง ๆ เวลาที่ภาคินปลดปล่อยใส่ปากเธอแบบนี้ชายหนุ่มดึงแฟนตัวเองมากอด “ช่วงนี้พี่ค่อนข้างเหนื่อยจากงาน ขอโทษนะ” น้ำเสียงที่พูดขึ้นอย่างเหนื่อยล้าพร้อมกับท่อนเนื้อที่กำลังหดลงหลังจากที่ได้ถูกปลดปล่อยแล้ว“ไม่เป็นไรค่ะ อ้ายเข้าใจ” พักหลังมานี้เธอกับแฟนแทบไม่ค่อยได้ร่วมกิจกรรมบนเตียงด้วยกันเหมือนอย่างเดิม แต่ลลิตาก็ไม่ได้น้อยใจแฟนเธอแต่อย่างใด เพราะเข้าใจ
หลังจากเลือกซื้อของที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว สองสาวพากันไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง“ทำไมวันนี้ถึงไม่ชวนแฟนแกมาด้วยยะ”“พี่คินมีประชุมกับลูกค้าน่ะ”ภาคินบอกเธอตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าวันนี้มีประชุมกับลูกค้าคนสำคัญของบริษัทไม่สามารถเลี่ยงได้ปาลินพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วถามคำถามต่อ “เออ...ว่าแต่ทำไมแกไม่ไปอยู่คอนโดพี่คินล่ะ”“ไม่เอาอะ คอนโดพี่คินอยู่คนละฝั่งกับบริษัทเลย ฉันขี้เกียจตื่นเช้า”“แล้วแกไม่กลัวว่าเขาจะแอบเอาสาวขึ้นห้องเหรอ?” ปาลินเตือนเพื่อนสาวเธอเคยเรียนมหา’ลัยเดียวกันก่อนที่ภาคินจะย้ายไปเรียนต่างประเทศ ปาลินพอจะได้ยินมาบ้างว่ามีนิสัยเป็นยังไง ตอนที่รู้ข่าวว่าภาคินมาจีบลลิตา เธอก็ได้แค่เตือนเรื่องนิสัยของเขา แต่อย่างว่าแหละ มันเป็นเรื่องของคนสองคน ความรักห้ามกันไม่ได้ ขนาดตัวเธอยังไม่อยากจะรอดเลยลลิตาทำใบหน้าครุ่นคิด “ไม่รู้สิ แต่ถ้าเขาทำจริง ๆ ฉันก็จะมีผัวใหม่ทันที ลองดูสิ!” ลลิตาพูดติดตลกเรื่องภาคินเธอก็ได้ยินจากปาลินมาบ้างว่าเป็นยังไง แต่เธอไม่อยากเอาเรื่องนั้นมาตัดสิน ทุกคนมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าปัจจุบันจะปรับปรุงตัวหรือเปล่าการที่เธอกับภาคินแยกกันอยู่คนละ
เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นมันเป็นเพราะเขาหูเบาเชื่อคนง่ายเกินไป จึงเป็นเหตุทำให้เขาและญาดาทะเลาะกัน จนได้เผลอพลั้งปากไล่เธอให้ออกไปจากชีวิตของเขาหลังจากที่ญาดาหายตัวไปตามที่เขาต้องการแล้ว ภาคินก็ได้มารู้ความจริงทีหลัง ว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือแม่ของเขาเอง มันทำให้เขาคลั่งมากกว่าเดิม ที่แม่มายุ่งวุ่นวายกับความรักของเขา ภาคินรู้ดีว่าแม่ไม่ยินดีกับความรักของพวกเขา จึงได้ทำเรื่องแบบนั้นขึ้นมา‘ผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าล้วนจะหลอกลูกทั้งนั้น’ คำพูดที่แม่ของชายหนุ่มพร่ำบอกเสมอ ช่วงที่คบหากับญาดา ครอบครัวเขาไม่เคยยินดีเลยแม้แต่น้อยกว่าจะรู้ความจริงทุกอย่างก็สายไปแล้ว ญาดาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตามที่เขาต้องการ ภาคินไม่สามารถติดต่อเธอได้ พยายามตามหาทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะไปถามกับคนรู้จักหรือไปหาที่บ้าน แต่ก็ไร้วี่แวว จนตอนนั้นเขาเหมือนคนบ้าขาดสติ เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะเขาหูเบาเชื่อแม่ตัวเองมากเกินไป จึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาจบลงแบบนี้...ภาคินได้แต่โทษแม่ของเขาที่ทำให้ทุกอย่างพัง มาบงการความรัก ทำให้เขาต้องไล่ผู้หญิงที่รักมากที่สุดไป โดยที่ไม่รู้ความจริง มันทำให้เขาเสีย
ครืดดด เสียงสั่นของสมาร์ตโฟนพร้อมกับหน้าจอสว่างจากการแจ้งเตือน[ Aiai : พี่คินตื่นหรือยังคะ ][ Aiai : เมื่อคืนกินเลี้ยงสนุกไหมเอ่ย ][ Aiai : ตื่นแล้วอย่าลืมหาอะไรกินนะคะ อ้ายเป็นห่วง ]ญาดานั่งอ่านข้อความบนหน้าจอสมาร์ตโฟนของภาคินเงียบ ๆ เพราะเจ้าของเครื่องกำลังนอนหลับอยู่ โดยไม่มีทีท่าว่าจะตื่นโดยง่ายกินเลี้ยงสนุกไหมเหรอ? สนุกสิ สนุกมากด้วย สนุกจนภาคินไม่มีแรงตื่นเลยแหละเธอเดินไปหยิบสมาร์ตโฟนตัวเองพร้อมกับถือเครื่องของภาคินไปด้วยเพื่อทำอะไรบางอย่าง“ล็อกหน้าจออย่างนั้นเหรอ?”ญาดาลองสุ่มเดารหัสผ่าน รหัสแรกคือวันเดือนปีที่เขาและเธอคบกัน แม้ไม่มั่นใจว่าใช่หรือเปล่าเพราะผ่านมานานมากแล้ว แต่แล้ว...“แค่ครั้งเดียวก็ปลดล็อกได้เลยเหรอ” รอยยิ้มปรากฏที่ใบหน้าของเธออย่างพอใจราวกับว่าเธอคือผู้ชนะหลังจากที่จัดการเรียบร้อยตามที่เธอต้องการแล้ว ญาดาก็เดินกลับไปยังเตียงนอน สายตามองอดีตคนรักที่กำลังนอนหลับสนิท ฝ่ามือเรียวลูบไล้ไปตามใบหน้าเบา ๆ นึกถึงเรื่องเมื่อคืนมุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนล้วนเป็นแผนการของเธอเอง ญาดารู้จากเพื่อนของภาคินว่าเขาจะจัดปาร์ตี้ที่นั่น เธอจึงแสร้งทำเ
ภาคินมองตาขวางใส่ผู้ชายที่เสนอตัวจะไปส่งอดีตคนรัก เขายืนมองทั้งสองคนยืนคุยกันมาสักพักแล้ว ท่าทางเขินอายของญาดาที่มีให้กับผู้ชายอื่น มันทำให้เขาไม่สบอารมณ์อย่างมาก แล้วสายตาของเขามันดูออกว่าไอ้คนนั้นมันคิดอะไรอยู่ ผีเห็นผียังไงล่ะเขาดึงแขนญาดาแล้วพาไปที่รถ ท่ามกลางความงุนงงของใครหลายคนที่มองเห็นเหตุการณ์“คินเดี๋ยวก่อนสิ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมคินต้องลากดามาแบบนี้ด้วย” ญาดาพยายามแกะมือที่กุมแขนเธอเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยแขนเธอและบีบแขนแน่นขึ้นเรื่อย ๆภาคินพาญาดาเดินมาจนถึงรถตัวเองและดันตัวเธอเข้าไปภายในรถทันที คนที่ถูกดึงตัวมาไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เพราะเธอรู้ว่าขัดขืนไปก็เท่านั้น ญาดาจึงเลือกที่จะนั่งเงียบ ๆ ดีกว่าตอนนี้รถขับออกมาจากไนต์คลับไกลมากแล้ว ก็ยังไร้เสียงพูดของทั้งสองคน แม้แต่เสียงเพลงก็ยังไม่มี ทำให้ภายในรถมีแต่ความเงียบสงัด“ไหนว่ามากับเพื่อน แล้วเพื่อนไปไหนหมดทำไมถึงปล่อยให้ดาอยู่กับไอ้หน้าจืดนั่นตามลำพัง”“...” ญาดาหันหน้ามองข้างทาง ไม่สนใจในสิ่งที่ภาคินถามแม้แต่นิดเดียวเห็นท่าทีแง่งอนของหญิงสาว ภาคินรู้แล้วว่าตอนนั้นเขาใช้อารมณ์มากไป ชายหนุ่มพยายามถ
“ผมว่าคุณแม่ห่วงเรื่องตัวเองก่อนดีกว่าครับ คุณแม่รู้หรือเปล่าว่าคุณพ่อเอาเด็กไปที่บริษัท”“ช่างพ่อแกสิ” คุณหญิงวิไลลักษณ์พูดเหมือนทองไม่รู้ร้อน“แกก็น่าจะรู้นิสัยพ่อแกดีว่าเป็นยังไง ห้ามไปก็เท่านั้น เพราะถ้าห้ามได้คงไม่มีบ้านเล็กบ้านน้อยเยอะขนาดนี้หรอก”คุณหญิงวิไลลักษณ์ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าสามีเธอจะไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย หรือไปนอนที่ไหน เธอวางตัวเป็นผู้ดีไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นให้เปรอะเปื้อน เพราะอย่างไรแล้วเธอก็คือภรรยาที่ถูกต้องทั้งนิตินัยและพฤตินัย ผู้หญิงคนอื่นก็เป็นเพียงของเล่นของสนุกให้สามีเธอเท่านั้นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ เธอต้องหาทางบีบบังคับบุตรชายให้ไปขอหมั้นลลิตาโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้มันจะทำให้เธอเชิดหน้าชูตาในสังคมอย่างมาก ที่ได้บุตรสาวตระกูลโชติธานนท์มาเป็นทองแผ่นเดียวกันคืนนี้ภาคินมีนัดรวมตัวกับเพื่อนของเขาที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง เป็นการเลี้ยงต้อนรับกลับมาของเขาหลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายปี[ pk : พี่มาถึงแล้วนะครับ ]ส่งรูปภาพ[ Aiai : ok. ค่ะ เที่ยวกับเพื่อนให้สนุกนะคะ ][ pk : ครับ ฝันดีล่วงหน้านะครับ พี่รักอ้ายนะ ][ Aiai : เช่นกันค่ะพี่คิน อ้ายรักพี่คินเหมือ
คนที่กำลังตั้งใจตัดแต่งดอกไม้ถึงกับชะงัก หันหน้าไปดูก็เห็นว่าเป็นลูกชายของตน เธอรีบวางกรรไกรแล้วเดินเข้าไปหาทันที“ตาคิน มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ลูก” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความคิดถึง“มาถึงเมื่อวานครับ”คุณหญิงวิไลลักษณ์จูงมือภาคินไปยังศาลาเพื่อไถ่ถาม หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายปี เนื่องจากภาคินได้ไปศึกษาอยู่ต่างประเทศตามคำขอร้องของเธอ“ใจร้ายกับแม่จังเลยนะ เรียนจบตั้งนานแล้วไม่ยอมกลับมาสักที” คุณหญิงวิไลลักษณ์บ่นกับลูกชายตัวดีของเธอตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่ต้องไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ต่างประเทศกลางคัน ภาคินก็ไม่ยอมกลับมาไทยอีกเลย และไม่ค่อยติดต่อกลับมาหาเธอ อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานา ต้องตั้งใจเรียนอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอเรียนจบปริญญาโทก็หาเหตุผลอยู่ต่อ ว่ารอกลับประเทศไทยพร้อมแฟนสาวที่กำลังคบหาดูใจกันในตอนนั้นก็คือลลิตา“เป็นยังไงบ้างลูก? แล้วหนูอ้ายล่ะ สบายดีไหม?”“สบายดีครับ อ้ายฝากของมาให้คุณแม่ด้วย”ได้ยินอย่างนั้นคุณหญิงวิไลลักษณ์ก็ยิ้มกว้างอย่างดีใจ คิดว่าอีกไม่นานพวกเธอคงมีข่าวดี“เรียนจบแล้วก็แต่งงานได้แล้วสิ แม่ว่าหนูอ้ายก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนะ ถึงจะไม่ใช่ตระกูลผู้ลากมากดีอย่างเรา แต่
“ว้าย!” หญิงสาวร้องขึ้นด้วยความตกใจที่จู่ ๆ มีคนเปิดประตูเข้ามาโดยไม่บอกไม่กล่าว เพราะสภาพเธอในตอนนี้ไม่เหมาะที่จะให้คนอื่นเห็น เธอรีบลุกเดินไปแอบด้านหลังชั้นหนังสือทันที“ใครบังอาจเปิดประตูเข้ามาตอนนี้วะ” ธานีสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะพบว่าคนที่กล้าเข้ามาขัดเวลาความสุข คือลูกชายของเขานั่นเอง“เดี๋ยวนี้ถึงขั้นเอามากินที่บริษัทเลยเหรอครับ?”“นี่คือประโยคแรกที่แกทักฉันอย่างนั้นเหรอ”ภาคินไม่ได้แยแสต่อคำพูดของพ่อตัวเองแม้แต่น้อย เขาเดินเข้าไปนั่งที่โซฟาโดยไม่ได้มีท่าทีตกใจกับการกระทำของพ่อตน ราวกับว่าเรื่องแบบนี้เขาเห็นเป็นประจำ จนมันเป็นเรื่องชินชาสำหรับเขาไปเสียแล้วสายตาเขามองค้อนไปยังหญิงสาวที่ยังยืนหลบอยู่หลังตู้หนังสือ เธอจึงรีบจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อยแล้วเดินออกจากห้องไปทันทีตอนนี้ในห้องจึงเพียงแค่สองคนพ่อลูกอยู่ด้วยกันใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอึดอัด“ไปหาแม่แกหรือยัง?” น้ำเสียงดุดันเอ่ยถามด้วยความไม่สบอารมณ์ เพราะถูกขัดจังหวะความสุข“ยังครับ กะว่าจะไปหาคุณแม่ทีหลัง เพราะเป็นทางผ่านไปคอนโดผมพอดี”“กลับมาทั้งที ไม่คิดจะนอนบ้านเลยหรือไง”“ขนาดคุณพ่อยังไม่ค่อยกลับบ้าน ผมจำเป็นต้