Share

ตอนที่ 4 ผะ ผี?

last update Last Updated: 2024-11-10 07:07:05

ตอนที่ 4 ผะ ผี?

วารินไม่สามารถออกไปทำงานได้และฉันก็จะไม่มีงานเข้ามาสักพัก พวกเราจึงว่างมาก ด้วยความว่างจัดฉันและวารินจึงตกลงกันว่าจะไปสำรวจชั้นหนึ่งถึงชั้นห้าของคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ส่วนกลางไว้พักผ่อนด้วย มันมีทั้งสระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกายและสนามกีฬาในร่ม สวนไม้ และโซนสำหรับนั่งทำงานและอ่านหนังสือเงียบๆ มันมีโซนร้านอาหารด้วย ถ้าไม่แวะไปใช้บริการเสียหน่อยคงไม่คุ้มค่าที่ได้อยู่ที่นี่ฟรี

โซนแรกที่พวกฉันไปก็คือโซนร้านอาหาร เพราะอาหารคือสิ่งสำคัญ! ถ้าอาหารไม่อร่อยและมีไม่หลากหลายฉันคงไม่สามารถหมกตัวอยู่แต่ในคอนโดได้ ถึงจะมีวารินทำอาหารให้กินก็เถอะ แต่บางครั้งก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง อีกอย่างพวกฉันไม่สามารถออกไปเลือกวัตถุดิบอาหารได้ด้วยตัวเอง ถ้าวัตถุดิบหมดก็ต้องรอให้พนักงานมาส่งให้ ซึ่งฉันอาจจะรอไม่ได้

“มีร้านขนมหวานด้วย” เมื่อมาถึงโซนอาหารสายตาของฉันไปสะดุดกับร้านของหวานทันที

“กินไหม? ผมได้ยินมาด้วยว่าถ้าอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งนี้เราก็จะได้ส่วนลดพิเศษด้วย” วารินพูด

“กิน!” ฉันไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปในร้านของหวานทันที ฉันกวาดสายตามองทั่วร้านรอบหนึ่งและเลือกโต๊ะที่อยู่ติดกับหน้าต่างกระจกบานใหญ่ “นั่งตรงนั้นกัน” ฉันว่าพลางลากแขนวารินไปนั่งโต๊ะที่หมายตา ฉันเข้าไปนั่งก่อนและลากวารินมานั่งข้างๆ เพราะแบบนี้มันให้ความใกล้ชิดกันมากกว่าการนั่งตรงข้ามกัน แม้ว่าการนั่งแบบนี้จะไม่สามารถนั่งมองหน้ากันตรงๆ ได้ก็เถอะ แต่ยังไงฉันก็จะเลือกนั่งแนบชิดมากการนั่งมองหน้า

แต่พอฉันนั่งลงแล้วเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามกับฉันก็มีใครบางคนมานั่ง ฉันขมวดคิ้วและหันขวับไปมองหน้าอีกฝ่ายอย่างสงสัย พวกฉันเลือกนั่งโต๊ะนี้ก่อนแล้วทำไมอีกฝ่ายยังกล้าเข้ามานั่งอีก? ฉันใช้สายตาไม่เป็นมิตรสำรวจชายหนุ่มที่มานั่งฝั่งตรงกันข้ามกับตัวเอง เขามีผมสีดำสนิทและดวงตาฟ้า เขาดูหล่อ แต่ถึงจะหล่อถ้าไม่มีมารยาทแบบนี้เขาก็เป็นได้แค่ผู้ชายไร้มารยาท

“นี่” ฉันส่งเสียงเรียกเขา แต่ชายคนนั้นกลับนั่งหันหน้ามองออกไปนอกหน้าตาด้วยท่าทางนิ่งเฉย เขาไม่แม้แต่จะหันมาสนใจเสียงของฉัน

“มีอะไรเหรอครับ?” เป็นวารินที่หันมาตอบ

ฉันทำหน้าไม่พอใจและชี้นิ้วไปที่ชายคนนั้นที่นั่งฝั่งตรงกันข้าม “ผู้ชายคนนั้นทำไมมานั่งตรงนี้” เราต้องไล่เขาออกไปสิ! แต่เมื่อฉันพูดอย่างนั่งวารินก็ทำหน้าสงสัย ในขณะเดียวกันพนักงานก็เดินมาที่โต๊ะของพวกฉัน

“ทั้งสองท่านรับอะไรดีคะ?” พนักงานส่งกระดาษเมนูให้กับพวกฉันและเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

เดี๋ยวนะ สองเหรอ? พนักงานที่ไม่รู้จักพวกฉันถ้าเห็นผู้ชายที่นั่งตรงกันข้ามกับฉัน พนักงานก็น่าจะคิดว่าพวกเรามากันสามคนสิ...เดี๋ยว ถ้าเห็นเหรอ?

ฉันมองวารินที่สั่งขนมหวานด้วยท่าทางปกติ ถ้าเขาเห็นว่ามีคนแปลกหน้ามานั่งฝั่งตรงกันข้ามเขาไม่ควรแสดงท่าทีเช่นนี้ พนักงานก็หันหน้ามาทางพวกฉันเพียงอย่างเดียวเหมือนมองไม่เห็นผู้ชายรูปหล่อคนนั้น ฉันหันกลับไปมองชายคนนั้นอีกครั้ง เขายังคงมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาเหม่อลอยเหมือนเดิม

ผะ ผี?

“เลอาอยากจะสั่งอะไรเพิ่มเติมไหมครับ?” วารินหันมาถามฉันหลังจากสั่งของหวานไปแล้วหลายอย่าง

“เอ่อ...เธอสั่งส่วนของฉันและนี่นา ถ้าสั่งเพิ่มคงกินไม่หมด” ฉันแสร้งหัวเราะ วารินยิ้มรับและแค่สั่งน้ำส้มเพิ่มอีกสองแก้วเท่านั้น และหลังจากพนักงานได้รับออเดอร์จากวารินแล้วพนักงานคนนั้นก็เดินจากไปทันทีโดยไม่ได้หันไปถามผู้ชายที่นั่งฝั่งตรงกันข้ามกับฉัน

มองไม่เห็นจริงดิ?

“วาริน ตอนนี้มีแค่เราใช่ไหมที่นั่งโต๊ะนี้?” ฉันถาม

วารินทำหน้าสงสัยในคำถามของฉัน แต่ก็ตอบ “ใช่ โต๊ะนี้น่าจะไม่มีใครจองไว้นะ ไม่อย่างนั้นพนักงานคงบอกแล้ว”

มองไม่เห็นจริงเหรอ? วารินไม่โกหกแน่ แล้วไอ้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับฉันมันคือใคร!? ผีเร่ร่อนเหรอ!? แต่ฉันไม่เคยเห็นผีเลยนะแล้วทำไมจู่ๆ ถึงเห็นล่ะ!?

ในขณะที่ในหัวของฉันคิดอะไรมากมายด้วยความสับสนผู้ชายที่น่าจะเป็นผีคนนั้นก็หันมามองฉัน ฉันแสร้งมองไปนอกหน้าต่างทันที ในตอนนั้นเองเหงื่อของฉันก็ออกอย่างไม่รู้ตัวเพราะความประหม่า ฉันคิดว่าฉันไม่กลัวแต่ก็แอบหวั่นไหวนิดๆ

ผี นั่นผีแน่ๆ

“เลอา ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” วารินสังเกตเห็นท่าทางที่แปลกไปของฉันได้จึงถามด้วยสีหน้ากังวล ฉันส่ายหัวรั่วๆ

“สบายดี!” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น สายตาของวารินบอกว่าไม่เชื่อ แต่เขาก็ไม่เค้นถาม ถ้าฉันไม่ต้องการจะบอกเขาก็จะรอให้ฉันพูดเอง

หลังจากนั้นห้านาทีขนมหวานที่สั่งก็มาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นผีที่นั่งตรงกันข้ามกับฉันก็หันมามองขนมหวาน ฉันหยุดนิ่งและแอบเหล่มองว่ามันจะทำอะไร ซึ่งมันก็เอาแต่จ้องและจ้อง

“กินสิครับ” วารินเห็นฉันนิ่งไม่เคลื่อนไหวเขาจึงตักขนมหวานมาป้อนให้ฉันแทน ซึ่งฉันก็อ้าปากกินขณะแอบมองผีผู้ชายที่นั่งจ้องขนมเป็นระยะๆ

สิบนาทีผ่านไปขนมเริ่มหมด ผีตัวนั้นก็ลุกขึ้นยืนและเดินหายไป

“...?” ฉันทำหน้าไม่เข้าใจและสับสน

อะไร? มันคืออะไร? ทำเพื่ออะไร? มานั่งจ้องขนมหวานของคนอื่นแล้วจากไปเพื่อ? ผีบ้าอะไรกันเนี่ย? โถ่เอ๊ย! ตลอดสิบห้านาทีเมื่อกี้มันทำฉันกดดันมาก ฉันคิดว่ามันจะมาหลอกหรือแย่งขนมของฉันไปเสียอีก

เพื่อชดเชยความกดดันที่เกิดขึ้นในใจเมื่อครู่ฉันจึงกินเค้กไปอีกหลายชิ้น วารินมีท่าทียินดีอย่างยิ่งเมื่อเห็นท่าทางของฉันกลับมาเป็นปกติ หลังจากนั้นฉันจึงเล่าให้วารินฟังว่าฉันเห็นอะไรด้วยสีหน้าหวาดกลัว แน่นอนว่าสีหน้าหวาดกลัวนั้นคือการเสแสร้ง ฉันไม่กลัวผี!

เมื่อวารินได้เห็นสีหน้าหวาดกลัวจอมปลอมของฉันเขาก็ปลอบใจฉันและสั่งขนมเค้กเพิ่มเพื่อให้ฉันอารมณ์ดี แน่นอนว่าฉันอารมณ์ดีมากเมื่อกินเค้กมากมาย แม้ว่าท้ายที่สุดมันจะทำให้ฉันมีอาการแน่นท้องเพราะกินมากเกินไปก็ตาม... เพื่อเป็นการย่อยขนมหวานในท้องพวกฉันก็เลยเดินสำรวจคอนโดต่อและนั่นก็ได้ทำให้พวกเรามีโอกาสได้เจอคนที่อาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งนี้เช่นกัน

“สวัสดี ฉันไม่เคยเห็นหน้าพวกคุณเลย เพิ่งย้ายมาอยู่เหรอ?” เด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบห้าปีเดินเข้ามาถามพวกเราด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ครับ พวกเราย้ายมาอยู่ที่ชั้นสิบครับ” วารินตอบด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรเช่นกัน

“พวกคุณก็เป็นผู้มีพลังใช่ไหม?” เด็กคนนั้นถาม วารินชะงักเล็กน้อยเพราะเขาไม่คิดว่าจะถูกถามอย่างนั้น เด็กคนนั้นจึงอธิบาย “คนที่อาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งนี้มักจะเป็นผู้มีพลังพิเศษกันทั้งนั้นแหละค่ะเพราะถ้าผู้มีพลังพิเศษเกิดอาการพลังระเบิดขึ้นมาเราก็จะได้รับยาอย่างทันท่วงที”

แต่ถ้าหากให้ยาไม่ทันคอนโดแห่งนี้ก็จะเป็นสถานที่กักขังผู้มีพลังพิเศษไม่ให้ออกไประเบิดพลังข้างนอกเพราะบางครั้งการระเบิดของพลังมันจะไม่เพียงทำร้ายเจ้าของพลัง แต่มันจะยังทำร้ายทุกสิ่งรอบข้างด้วย คอนโดแห่งนี้จึงไม่เพียงสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากด้านนอกมันยังมีไว้สำหรับป้องกันการได้รับความเสียหายจากด้านในอีกด้วย

ฉันเสริมคำพูดต่อในใจ ในเนื้อหานิยายที่ฉันไม่ค่อยสนใจอ่านได้อธิบายเรื่องนี้ไว้ ฉันจึงพอทราบคร่าวๆ ว่าคอนโดมิเนียมแห่งนี้ถูกสร้างมาเพื่ออะไรและมีผู้อาศัยจำพวกไหนบ้าง

ส่วนมากผู้อาศัยในคอนโดแห่งนี้จะเป็นผู้มีพลังพิเศษและรวยมาก เพราะถ้าไม่รวยพวกเขาคงไม่มีปัญญาที่จะซื้อยาระงับการระเบิดของพลังที่แสนแพงได้และไม่มีเงินพอที่จะลงทุนโครงการวิจัยผู้มีพลังพิเศษและสร้างยาระงับการระเบิดพลังที่สมบูรณ์ได้ เนื่องจากว่าทุกวันนี้ยาที่พวกเขาได้รับมันยังไม่สมบูรณ์ดีพวกเขาจึงต้องยัดเงินให้อาเธอร์ทำการวิจัยต่อไปเพื่อความอยู่รอดของพวกเขาเอง

“พลังของพวกคุณก็ทำร้ายพวกคุณเหมือนกันเหรอ?” เด็กคนนั้นถามต่อ

“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ สถานการณ์ของพวกผมค่อนข้างพิเศษนิดหน่อย” วารินตอบพลางยิ้มแห้งๆ

“ฉันไม่มีพลังหรอกนะ แต่แฟนของฉันมีพลังพิเศษ เขาพิเศษมากกกกก็เลยมีคนปองร้ายเขาพวกเราก็เลยต้องมาอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อหลบภัยชั่วคราว” ฉันพูดพลางกอดแขนวารินและยิ้มเป็นมิตรให้เธออีกเล็กน้อย ฉันรู้ว่าอีกฝ่ายต้องมีพลังพิเศษแน่จึงพยายามเป็นมิตรไปก่อน “ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนบ้านกันแล้วงั้นก็ขอฝากตัวด้วยนะ ฉันเลอา”

“ผมวาริน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” วารินยิ้มอ่อนและเอ่ยเสียงนุ่มนวลอีกเล็กน้อยเพราะเขามองว่าอีกฝ่ายเป็นเด็ก

“ลิลินค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” ลิลินยิ้มตอบกลับอย่างร่าเริง “ถ้ามีคำถามอะไรเกี่ยวกับที่นี่ถามลิลินได้เลยนะคะเพราะลิลินอาศัยอยู่ที่นี่มานานและสำรวจที่นี่จนเกือบครอบแล้ว!”

ในตอนนั้นฉันก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ “เอ่อ งั้นขอถามหน่อยได้ไหมว่าที่นี่มีคนที่มีพลังล่องหนหรือพรางตาไม่ให้มองเห็นเหมือนผีอะไรทำนองนั้นบ้างหรือเปล่า?” ฉันถามเสียงเบา

ลิลินส่ายหัวตอบทันที “ที่นี่ไม่มีคนมีพลังแบบนี้นั้นเลยค่ะ”

“งั้นเหรอ” ฉันก็ทำได้เพียงยิ้มตอบแบบฝืดๆ ผีจริงแน่นอนเลย! พอวารินเห็นท่าทางของฉันเขาก็โอบกอดฉันและลูบหัวปลอบ

“ผีทำอะไรคุณไม่ได้หรอกครับ ผีต้องหนีคุณแน่นอน” วารินพูดพลางยิ้มสดใส

“ผีต้องหนีฉันเนี่ยหมายความว่าไงกันห๊ะวาริน! ในเวลาแบบนี้เธอควรพูดว่าไม่ต้องกลัวหรือไม่ก็จะปกป้องฉันสิ!”

“ก็เลอาเก่งมากเลยนี่นา ผมคิดว่าถ้าผีมาหลอกคุณ คุณก็คงจะใช้วิชาดาบตัดผีขาดครึ่งแน่”

“วาริน ดาบตัดผีไม่ได้” ฉันถอนหายใจปลงอย่างไม่จริงจังนัก วารินหัวเราะ

“ผีเหรอคะ? ถ้ามีก็อยากเจอสักครั้งนะ” ลิลินที่ยืนฟังเราอยู่พูดขึ้นมาด้วยท่าทางสนใจ

“หวังว่าถ้าเจอแล้วจะไม่ถูกผียึดร่างนะ” ฉันอวยพร

“นั่นคือสิ่งที่คุณกลัวสินะ” วารินกลั้นยิ้มขำ

“ถ้ามีผีแอบสวมรอยเป็นฉันมันก็จะได้ใกล้ชิดกับเธอน่ะสิ! ฉันไม่ยอมนะ!” ฉันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง วารินส่ายหัวปลงกับความหึงหวงจนคิดเรื่องไร้สาระมากเกินไปของฉัน

“ครับ ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะปกป้องคุณเอง จะไม่ยอมให้ผีมาสิงร่างของคุณเด็ดขาด” วารินเอ่ยด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

จากนั้นเราก็โผเข้ากอดกันและกันด้วยอารมณ์หวานชื่นจนทุ่งดอกไม้ปรากฏขึ้นมาเป็นฉากประกอบ

ลิลินโบกมือไล่ดอกไม้เงียบๆ “.....”

ความรักของคู่รักคู่นี้ช่างเป็นอะไรที่วิเศษ พวกเขาดูรักกันมากจนราวกับว่าจะไม่มีอะไรที่สามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้ แต่น่าเสียดายที่ชะตาชีวิตของฝ่ายหญิงมีแต่ลางมรณะ

จนกว่าความตายจะแยกคู่รักคู่นี้ออกจากกันเธอก็หวังว่าพวกเขาจะมีความสุขให้ได้มากที่สุด

.

.

เย็นวันเดียวกัน

“ธันวาโทรมาบอกว่าคุณป้าป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล”

“ว่าไงนะ? พวกนั้นยังกล้าโทรมาหาเธออีกงั้นเหรอ?” ฉันมีอารมณ์ฉุนเฉี่ยวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินวารินเอ่ยถึงญาติของเขา

“อืม...คุณป้านอนอยู่โรงพยาบาลตอนนี้...อย่างน้อยผมก็ควรไปเยี่ยม” วารินกล่าวเสียงเบา ท่าทางเหมือนกังวลอาการป่วยของคุณป้าของเขา

แต่ในใจลึกๆ วารินคงรู้สึกลำบากใจและไม่อยากไปพบญาติๆ เหล่านั้นอีกแน่นอน เนื่องจากว่าตอนที่วารินอายุสิบขวบพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุ วารินจึงต้องไปอาศัยอยู่กับคุณป้าที่เป็นญาติคนสุดท้ายของเขา มันควรเป็นเรื่องดีที่เขาได้ไปอยู่กับญาติของเขาแทนที่จะได้ไปอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่มันไม่มีดีเลยเพราะครอบครัวของคุณป้าของเขามันเต็มไปด้วยปัญหา ป้าของเขายึดติดกับการใช้ชีวิตเหมือนคนรวยจึงมักใช้เงินฟุ่มเฟือย สามีของป้าของเขาก็ติดการพนัน ลูกชายของพวกเขาก็นิสัยเกเรและเอาแต่ใจและใช้เงินเก่งเหมือนพ่อแม่ของเขา นั่นจึงทำให้ครอบครัวนี้ขาดเงินใช้อยู่บ่อยครั้ง ครอบครัวที่มีปัญหาแบบนี้มักทะเลาะกัน วารินที่มีพลังจิตสามารถรับรู้อารมณ์ของผู้คนอื่นจากการสัมผัสสิ่งของจะต้องทนต่ออารมณ์ด้านลบของครอบครัวนั้นตลอดมา

ทั้งที่วารินไม่เคยได้รับการดูแลเอาใจใส่ครอบครัวนั้นเลยตั้งแต่เด็กจนโต อีกทั้งเขายังต้องทนต่ออารมณ์ด้านลบของครอบครัวนั้น แต่เขาก็ถูกบังคับให้ตอบแทนบุญคุณคนพวกนั้นที่ให้ที่ซุกหัวนอนด้วยการทำงานบ้านและทำงานพิเศษหาเงินมาให้ครอบครัวนี้มาโดยตลอด

ฉันอุตส่าห์ข่มขู่ไม่ให้คนพวกนั้นกล้ามายุ่งกับวารินอีก แต่คนพวกนั้นก็ยังกล้าโทรมาหาวารินอีก กล้าหาญเสียจริง

ฉันเบะปากอย่างไม่ชอบใจ แต่ฉันก็คงห้ามวารินไม่ให้ไปเยี่ยมป้าของเขาไม่ได้เพราะถึงแม้ว่าคนพวกนั้นจะนิสัยแย่แต่ก็เคยให้ที่นอนและอาหารกับวาริน จนวารินเติบโตมาถึงตอนนี้ วารินที่แสนอ่อนโยนของฉันคงไม่อาจกล้าทำตัวอกตัญญูได้

ว่าแต่ทำไมอาการป่วยของป้าของวารินไม่เห็นมีการกล่าวถึงในนิยายกันนะ? หรือเพราะว่าในช่วงเวลานี้ในนิยายวารินอยู่ในศูนย์วิจัยกับอาเธอร์ วารินก็เลยไม่รู้ข่าว? น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่เวลาในนิยายผ่านไปเกือบสามเดือนแล้ววารินก็ไม่เคยกล่าวถึงป้าของเขาเลยสักนิด คาดว่าอาการป่วยนั่นน่าจะไม่ทำให้ป้าของวารินตาย

“ถ้าไม่ได้จะตายทำไมต้องไปเยี่ยมให้เสียเวลาด้วย” ฉันบ่นพึมพำ

วารินตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมป้าของเขาที่นอนใกล้ตายอยู่ที่โรงพยาบาลแน่นอนว่าฉันจะตามไปด้วยและแน่นอนว่าพวกฉันไม่ได้จะออกไปข้างนอกกันแค่สองคน ในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจแบบนี้พวกฉันไม่ควรออกไปเดินเล่นข้างนอกอย่างประมาท เพื่อความสบายใจฉันนำดาบไม้เคลือบเรซินของตัวเองไปด้วยและพวกฉันจะต้องให้บอดี้การ์ดติดตามไปด้วย แน่นอนว่าบอดี้การ์ดคนนั้นเป็นคนของอาเธอร์นะ

“สวัสดีค่ะ ฉันมีชื่อว่าดรีมและจะมาเป็นบอดี้การ์ดให้พวกคุณตอนที่พวกคุณออกไปข้างนอก” ผู้หญิงร่างสูงกว่าฉันและวารินกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ท่าทางของเธอดูแข็งแกร่งสมกับเป็นบอดี้การ์ดมืออาชีพมาก

“รบกวนด้วยนะครับ” วารินกล่าว

“ฝากด้วยนะ” ฉันกล่าวพลางแอบสำรวจผู้หญิงตรงหน้า ฉันสูงประมาณ 160 เซนติเมตร ส่วนวารินสูง 170 เซนติเมตร แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ยังสูงกว่านั้นมาก ฉันเดาว่าเธอจะต้องสูงมากกว่า 180 แน่ๆ

ไม่เพียงแค่เธอตัวสูงกว่าผู้หญิงทั่ว เธอยังดูแข็งแกร่งมากไม่น้อยและเธอน่าจะมีพลังจิตด้วย บรรยากาศรอบตัวของเธอให้ความรู้สึกอย่างนั้นฉันจึงมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองคิดพอสมควร

หลังจากรวมตัวกันแล้วพวกฉันก็นั่งแท็กซี่ไปที่โรงพยาบาลกัน แต่ก่อนจะเข้าไปเยี่ยมพวกฉันก็แวะซื้อของฝากก่อนเพื่อ...อะไรก็ไม่รู้สิ ตอนไปเยี่ยมคนป่วยไม่รู้ทำไมจะต้องซื้อของฝากด้วยก็ไม่รู้ ฉันไม่เคยไปเยี่ยมใครที่โรงพยาบาลก็เลยไม่ค่อยเข้าใจนัก

แท็กซี่พาพวกเรามาส่งที่หน้าร้านขายของเยี่ยมไข้ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล ซึ่งทันทีที่พวกเราลงจากรถแท็กซี่ ดรีม บอดี้การ์ดสาวก็กวาดสายตาสำรวจรอบข้างด้วยดวงตาอันคมกริบของเธอทันที ตามถนนมีผู้คนเดินกันพลุ่งพล่าน ฆาตกรคงไม่มีอารมณ์มาเดินเล่นแถวนี้หรอกมั้ง

“ของเยี่ยมไข้เนี่ยจะต้องซื้อดอกไม้ไหม?” ฉันพูด

“ผลไม้น่าจะดีกว่านะครับ” วารินว่า

สรุปแล้วพวกเราก็ได้ซื้อผลไม้มาหนึ่งตะกร้าและในขณะที่พวกเรากำลังเดินไปที่โรงพยาบาลทันใดนั้นพนักงานร้านขายดอกไม้ที่พวกฉันเดินผ่านก็ตะโกนเรียกขึ้นมา “อ๊ะ คุณลูกค้าคนนั้นนี่ครับ!”

เด็กหนุ่มผมทองและดวงตาสีเขียวสดใสก็วิ่งมาหาพวกฉัน ฉันรู้สึกคุ้นๆ หน้าของเขาเล็กน้อย

“จำผมได้ไหมครับ ผมเป็นพนักงานร้านขายดอกไม้ที่คุณไปซื้อเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว” เด็กหนุ่มคนนั้นถามวาริน

“อ๊ะ ครับจำได้” วารินพยักหน้ารับหงึกๆ เมื่อจำได้ และฉันเองก็จำเขาได้เช่นกัน เด็กหนุ่มคนนี้ปรากฏในนิยายด้วย เขาน่าจะชื่อว่า ภาคิน เป็นพนักงานร้านขายดอกไม้

“ดอกไม้ที่คุณสั่ง ผมเอาไปส่งที่บ้านของคุณแล้วครับ แต่ไม่มีใครมารับเลย หน้าบ้านก็เสียหายหนักเหมือนไม่มีใครอยู่ ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะเอาดอกไม้ไปส่งไว้ที่ไหน” เด็กหนุ่มคนนั้นอธิบายเสียงอ้อมแอ้มอย่างไม่มั่นใจ

“ขอโทษครับ พอดีว่าเกิดเรื่องขึ้นผมก็เลยต้องย้ายที่อยู่กะทันหัน” วารินเอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ตอนนี้ผมย้ายไปอยู่ที่เวลเลอร์คอนโดมิเนียม รบกวนไปส่งที่นั่นได้ไหมครับ?”

“เวลเลอร์คอนโดมิเนียมสินะครับ...ได้เลยครับ” เด็กหนุ่มคนนั้นพยักหน้ารับเล็กน้อยและยิ้มให้วาริน มันก็แค่รอยยิ้มธรรมดาที่คนทั่วไปยิ้มให้กัน แต่ฉันกลับรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ฉันก็เลยเดินเข้าไปขวางหน้าระหว่างพวกเขาอย่างแนบเนียน

“ลำบากเธอแล้ว พอดีว่ามีเรื่องนิดหน่อยพวกฉันก็เลยลืมเรื่องดอกไม้ไปเสียสนิทเลย ว่าแต่เธอทำงานที่นี่ด้วยเหรอ?” ฉันถาม

“ครับ ร้านขายดอกไม้ที่นี่เป็นร้านสาขาน่ะครับ เพราะพนักงานน้อยผมก็เลยต้องมาทำงานที่นี่ด้วยสลับกันไป”

“โอ้ งั้นเหรอ งั้นพยายามเข้านะ” พูดจบฉันก็โบกมือลาเขาและพาวารินเดินออกไปจากตรงนั้นทันที

รู้สึกคันๆ เหมือนมีอะไรมาจิ้มหลังตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ รู้สึกไม่ดีเลยแฮะ

ท่ามกลางผู้คนธรรมดามากมายที่เดินผ่านไปผ่านมาบางครั้งมันก็มักจะบังเอิญมีคนไม่ธรรมดาเดินแฝงตัวมากับฝูงชนด้วย...

ฉากลับฉากหนึ่งในนิยาย ปกป้องหัวใจวาริน

หลังฉาก : ญาติ

“ญาติของนายติดต่อมาบอกว่าป้าของนายป่วยหนัก” อาเธอร์ได้มาบอกเรื่องนี้กับวารินหลังจากได้รับรายงานจากลูกน้องของเขา เขาคิดว่าวารินต้องการที่จะรู้ แต่วารินที่หมกมุ่นอยู่กับการฝึกพลังไม่ได้หันไปสนใจอาเธอร์เลย “เฮ้ย นี่ไม่คิดจะสนใจรึไง?”

วารินหันไปมองอาเธอร์ด้วยสีหน้ารำคาญ “คุณสนใจนักเหรอว่าคนพวกนั้นจะเป็นยังไง?”

“ทำไมฉันต้องสนใจพวกนั้นด้วย ฉันแค่อยากให้นายหันมาสนใจฉันต่างหาก ฉันกำลังพูดกับนายอยู่นะ” อาเธอร์พูด วารินหันไปสนใจการฝึกต่อ อาเธอร์ก็ทำได้เพียงถอนหายใจ “แล้วจะเอายังไงกับญาติของนายที่พยายามตามหานายแทบพลิกแผ่นดินนี่ดีล่ะ”

วารินหัวเราะในลำคอ “ก็แค่อย่าไปสนใจ พวกเขาจะเป็นตายร้ายดียังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับผมอีกต่อไปแล้ว”

แสงสว่างที่สุดในชีวิตของเขาอย่างเลอาหายไปแล้ว ทำไมเขาจะต้องสนใจแสงริบหรี่สีดำในชีวิตของเขาด้วย?

Related chapters

  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 5 มิติซ้อนทับ

    ตอนที่ 5 มิติซ้อนทับณ ห้องพักฟื้นผู้ป่วยในโรงพยาบาล“ป้าดีใจที่วารินมาเยี่ยมป้านะ เราไม่ได้เจอกันนานเลย” คนป่วยบนเตียงเอ่ยพลางฉีกยิ้ม“ครับ อาการป่วยของคุณป้าเป็นยังไงบ้างครับ?” วารินถามด้วยความเป็นห่วง“ก็...แค่ก! แค่ก!” ป้าของวารินไอ้อย่างหนักเป็นคำตอบว่า ป่วยหนักมาก!“คุณแม่!” ลูกชายของคุณป้าของวารินหรือธันวารีบเข้าไปประคองแม่ของตัวเอง“เดี๋ยวผมรินน้ำให้นะครับ” วารินรีบหันไปรินน้ำให้ป้าของเขาฉันยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเหมือนนั่งดูละคร ฉันล่ะรังเกียจนักที่ป้าของวารินทำท่าเหมือนดีใจที่วารินมาเยี่ยมทั้งที่ใจจริงไม่เคยคิดจะสนใจวารินเลยและลูกชายของยัยป้านั่นด้วย มาทำตัวกตัญญูอะไรตอนนี้“ถ้าได้ผ่าตัดละก็คุณแม่จะต้องดีขึ้นแน่ๆ เลยแต่เงินที่เรามีกลับไม่พอ” ธันวากล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าทุกข์ใจฉันยืนกลอกตาอย่างรำคาญอยู่มุมห้องให้ขณะที่คนอื่นในห้องกำลังทำท่าทางทุกข์ใจอย่างมาก เกริ่นนำขึ้นมาแบบนี้มีหรือที่ฉันจะไม่รู้เจตนาของเขา เรียกวารินมาเพื่อขอเงินชัดๆ“เดี๋ยวผมจะช่วยจ่ายเอง” วารินก็ใจดีเสนอเงินให้แบบไม่หวง“จริงเหรอ!? ดีจริงๆ” ธันวามีสีหน้าชื่นบานขึ้นมาทันที ความทุกข์ใจก่อนหน้านี้

    Last Updated : 2024-11-10
  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 6 เพื่อนเก่า

    ตอนที่ 6 เพื่อนเก่าในนิยายเรื่อง ‘ปกป้องหัวใจวาริน’ หลังจากที่วารินได้ดอกไม้จากเด็กส่งดอกไม้ชื่อภาคินฉากก็ตัดไปที่บทสนทนาผ่านโทรศัพท์ของอาเธอร์และคนที่น่าจะเป็นผู้ลงทุนในงานวิจัยของอาเธอร์ จากบทสนทนาของพวกเขาจับใจความได้ว่าผู้ลงทุนคนนั้นชื่อว่าโนอาห์และเป็นเพื่อนคนสนิทของอาเธอร์และเป็นผู้มีพลังจิตที่สามารถถอดจิตได้และเขากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับพลังของเขามากเพราะพลังของเขาทำงานเองโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจหรือก็คือเขาควบคุมมันไม่ได้ มันทำให้จิตของเขาสามารถหลุดออกจากร่างได้ตลอดเวลามันเป็นปัญหาในชีวิตประจำวันพอสมควรและอาจจะอันตรายถึงชีวิตด้วยเพราะถ้าเขาไม่รู้ว่าจิตตัวเองออกจากร่างและปล่อยให้จิตออกจากร่างนานเกินไปเขาก็จะตายในที่สุด[เมื่อไหร่ยาตัวใหม่จะสำเร็จ ฉันไม่ได้ชอบล้มตัวนอนทุกที่ทุกเวลาแบบนี้หรอกนะ] น้ำเสียงเครียดปนร้อนรนของโนอาห์ดังผ่านโทรศัพท์ของอาเธอร์“ก็คงอีกสักพักล่ะนะ หนูทดลองคราวนี้ฉันอยากจะทะนุถนอมสักหน่อย” อาเธอร์หัวเราะและยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงหนูทดลองของเขา ซึ่งนั่นก็คือวาริน[คนที่นายบอกว่าน่าสนใจสินะ...ฉันอยากเจออยู่เหมือนกัน] โนอาห์คล้ายสนใจขึ้นมา“ฉันจองแล้ว อย่ายุ่งเชียวล่

    Last Updated : 2024-11-15
  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 7 ฝึกร่างกาย

    ตอนที่ 7 ฝึกร่างกายก่อนเริ่มฝึกการใช้พลังจิตและวิชาการต่อสู้ อย่างแรกที่ควรทำก่อนหน้านั้นก็คือการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย วันนี้ฉันและวารินจึงไปที่ฟิตเนส แน่นอนว่าเป็นฟิตเนสที่อยู่ในเวลเลอร์คอนโดมิเนียมเพราะถ้าไปข้างนอกพวกฉันอาจจะไปสะดุดตาของพรรคพวกของเจ้าฆาตกรนั่นอีกรอบเมื่อวันก่อนพวกฉันไม่ได้ระวังตัวให้ดีจึงถูกดึงเข้าไปในมิติซ้อนทับ แม้ว่าฉันและวารินจะรอดมาได้โดยไม่มีบาดแผลยกเว้นดรีมที่ได้รับบาดเจ็บเพราะมาปกป้องฉัน แต่ในสถานการณ์ที่หลุดเข้าไปในเขตของศัตรูแบบนั้นมันถือว่าอันตรายมาก ในตอนนั้นศัตรูโผล่มาสองคนน่าจะเป็นเพราะพวกฉันปรากฏตัวอย่างกะทันหันเกินไป คนพวกนั้นก็เลยเตรียมคนมาไล่ฆ่าพวกฉันไม่ทัน อีกทั้งคนที่เป็นเจ้าของมิติซ้อนทับไม่แม้แต่จะปรากฏตัวให้พวกฉันเห็นหรือพยายามมาขวางทางพวกฉันไม่ให้ไปออกจากมิติซ้อนทับด้วยซ้ำนั่นหมายความว่าเมื่อวันก่อนฝ่ายนั้นไม่ได้คิดจะล่าวารินอย่างจริงจังหรือพวกนั้นอาจจะแค่อยากจะทดสอบบางอย่างก็ได้ เพราะอย่างนั้นฉันจึงเห็นความจำเป็นที่วารินจะต้องฝึกฝนใช้พลังของเขาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น ฉันจำเป็นต้องเก็บความรู้สึกไม่พอใจไว้ในใจและช่วยวารินฝึ

    Last Updated : 2024-11-17
  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 8 แก๊ง DH

    ตอนที่ 8 แก๊ง DHฉันทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้าบนเตียงอย่างหมดแรง หลังจากกินข้าวอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยฉันก็พบว่าร่างกายมันปวดเมื่อยยิ่งกว่าเดิม ทำเอาฉันไม่อยากจะขยับตัวเลยเพราะไม่ว่าจะขยับท่าไหนก็จะรู้สึกเจ็บกล้ามเนื้อไปหมด“ไม่น่าฝืนร่างกายเลย” ฉันก็ได้แต่บ่นกับตัวเองเพราะทำตัวเองล้วนๆ ซึ่งขณะที่ฉันกำลังนอนทรมานอยู่บนเตียงใครบางคนก็มานวดขาให้กันฉัน คนคนนั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแฟนหนุ่มของฉัน“ผมจะนวดให้ คุณจะได้ไม่รู้สึกปวดกว่าเดิมในวันพรุ่งนี้” วารินเอ่ยพลางยิ้มอ่อนโยน ไม่เพียงเท่านั้น การนวดของเขายังอ่อนโยนมากด้วย แรงที่เขาใช้นวดไม่มากหรือไม่น้อยเกินไปและจับถูกจุด การนวดของเขาจึงให้ความรู้สึกสบายและหายปวดเมื่อยไม่น้อย “ถ้าเจ็บตรงไหนก็บอกนะครับ” วารินพูดอย่างใส่ใจขณะนวดตั้งแต่ข้อเท้าของฉันจนถึงขาอ่อน“สบายมากเลยล่ะ” ฉันพึมพำและหายใจเข้าออกอย่างสบายตัว วารินจึงนวดต่อไปโดยไม่พูดอะไร หลังจากนวดขาแล้วเรียบร้อยเขาก็เลื่อนขึ้นมานวดสะโพกและหลังของฉัน มันสบาย

    Last Updated : 2024-11-17
  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 9 เตือน

    ตอนที่ 9 เตือนฉันแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ทราบว่าบริษัท DH บริษัทสร้างเกมออนไลน์เติบโตขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนมาก ทั้งที่เมื่อก่อนมีคนทำงานไม่ถึงยี่สิบคนด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับมีมากกว่าร้อยคนแล้ว ส่วนไนต์คลับที่มีชื่อว่า Dark Night ก็ขยายร้านสาขาได้มากถึงยี่สิบสาขาภายในสี่ปี น่าตกใจที่มันมาไกลกว่าที่คาดหวังไว้ในตอนแรกบริษัทเกม DH และ DN ไนต์คลับถูกก่อตั้งขึ้นมาเมื่อเจ็ดปีก่อนโดยแก๊ง DH ของพวกฉัน จุดเริ่มต้นที่ฉันและเพื่อนๆ ได้ก่อตั้งบริษัทพวกนี้ขึ้นมามันเริ่มมาจากว่าพวกฉันชอบเล่นเกมมากและติดเกมแบบสุดๆ และไม่รู้ว่านึกคึกคะนองอะไรขึ้นมาถึงตัดสินใจที่จะสร้างเกมขึ้นมาเล่นเอง พอดีว่าเจมส์มีความรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมค่อนข้างมากพวกฉันจึงพอจะสร้างเกมออกมาเล่นได้ แต่เพราะอยากสร้างเกมที่ดีว่านี้พอเข้ามหาลัยพวกฉันจึงกระโดดเข้าไปเรียนวิศวะกันหมดทุกคนด้วยความที่พยายามศึกษาอย่างหนักในที่สุดก็สร้างเกมที่แสนยอดเยี่ยมออกมาเล่นได้สำเร็จและด้วยความที่อยากอวดให้คนอื่นได้เห็นว่าตัวเองสร้างเกมสุดยอดออกมาได้ก็เลยปล่อยขายเกมที่ช่วยกันสร้างขึ้นมา ซึ่งมันก็ดันประสบความสำเร็จสุดๆ พวกฉันจึงช่วยกันก่อตั้งบริษัทเล็กๆ

    Last Updated : 2024-11-18
  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 10 ขอถีบอีกสักครั้ง

    ตอนที่ 10 ขอถีบอีกสักครั้งหลังจากที่เลอาออกไปหาเพื่อนเก่าวารินก็นั่งรอเธอด้วยความรู้สึกกระวนกระวายมาตลอด เขาทำใจเย็นรอไม่ได้จริงๆ เขาจึงวนเวียนอยู่ที่ชั้นหนึ่งของคอนโด ถ้าเลอากลับมาเขาก็จะได้เห็นทันที ซึ่งในตอนนั้นเองชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเขา"คุณอาเธอร์ต้องการพบคุณตอนนี้ครับ คุณสะดวกรึเปล่า" คนคนนั้นคือผู้ติดตามของอาเธอร์ วารินได้ยินอีกฝ่ายกล่าวเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าอาเธอร์ว่างที่จะคุยกับเขาเรื่องการฝึกพลังจิตของเขาแล้ว แม้จะยังหวงเลอาอยู่แต่โอกาสที่เขาจะพบอาเธอร์มีไม่บ่อยนัก เขาต้องการที่จะเก่งขึ้นโดยเร็ว นี่จึงเป็นโอกาสที่เขารอคอย วารินจึงยอมที่จะไปพบอาเธอร์ตอนนี้ทันทีผู้ติดตามของอาเธอร์ได้พาวารินไปยังลิฟต์ตัวหนึ่งที่อยู่ลับตาผู้คนและมีคนคอยเฝ้าตลอดเวลา ดูเหมือนว่าถ้าไม่ใช่คนที่ได้รับอนุญาตก็จะไม่สามารถใช้ลิฟต์ตัวนี้ได้ วารินคิดว่ามันจะพาไปยังชั้นสูงสุดแต่ทว่ามันกลับไม่ใช่ ลิฟต์ตัวนี้มันพาเขาลงไปข้างล่างชั้นใต้ดินงั้นเหรอ?วารินคิดในใจ แม้จะรู้สึกไม่ปลอดภัยนักแต่เขาก็อยู่ในท่าทีสงบ แม้ว่าอาเธอร์จะไม่ค่อยน่าไว้ใจนักแต่เขาก็ควรลองเสี่ยงดู ผู้ติดตามของอาเธอร์พาวารินมายังห้องที่

    Last Updated : 2024-11-18
  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 11 คนหลงแฟน งอนแฟนได้ไม่นานหรอก

    ตอนที่ 11 คนหลงแฟน งอนแฟนได้ไม่นานหรอกฉันงอน งอนวารินแล้วจริงๆ เขาไปพูดคุยกับอาเธอร์เพียงลำพังโดยไม่ได้พาฉันไปด้วย! ถึงจะเพราะตอนนั้นฉันออกไปข้างนอกก็เถอะแต่ฉันก็งอนเขามาก! และเกลียดอาเธอร์มากกว่าเดิมด้วย! คราวหน้าถ้าเจอหน้ามันอีกฉันน่าจะกระโดดถีบมันอีกรอบ ฉันหมายมั่นไว้ในใจขณะนั่งหันหลังให้วารินเพื่อเล่นบทงอนแฟน"เลอา เลอาครับ" วารินเรียกพลางสะกิดไหล่ของฉันเบาๆ ฉันสะบัดหน้าและงอนตุ๊บป่องต่อไป วารินหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเริ่มง้อ "ไม่งอนนะครับ ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกเลอาก่อนจะไปเจรจากับคุณอาเธอร์""อย่าพูดชื่อมันให้ฉันได้ยินนะ ฉันเกลียดมัน" ฉันหน้างอ"หึงเหรอครับ? " วารินถามด้วยรอยยิ้มน่ารักและแววตาเป็นประกาย"นี่ฉันงอนอยู่นะ! " ยังจะมาทำหน้าระรื่นอีก รู้น่าว่าดีใจที่เห็นฉันหึงแต่ตอนนี้นายควรง้อฉันก่อนสิ!"ไม่งอนนะครับ ไม่หึงนะครับ ผมรักคุณที่สุดเลย รักคุณคนเดียวเลยนะ" ไม่ว่าเปล่า เขายังเอาศีรษะมาถูกไถไหล่ของฉันอย่างออดอ้อนราวกับลูกแมว ฉันเกร็งตัวเองเพื่อไม่ให้เผลอลูบหัวของวาริน "เลอา..." วารินช้อนตามองพลางเอ่ยเรียกฉันเสียงอ่อนนะ น่ารักฉิบหาย! ในความคิดตัวฉันกำลังลงไปนอนแด่ดิ้นด้วยความตื่นเต

    Last Updated : 2024-11-19
  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 12 อย่าเว้นที่จะทำการบ้านไปนาน เดี๋ยวงอน!

    ตอนที่ 12 อย่าเว้นที่จะทำการบ้านไปนาน เดี๋ยวงอน!ในนิยาย ปกป้องหัวใจวาริน หลังจากที่วารินถูกปฏิเสธความช่วยเหลือจากเลออน ข่าวยาตัวใหม่ก็ได้เริ่มแพร่กระจายออกมา มันคือยาที่จะสามารถทำให้ผู้ใช้ยาที่ไม่มีพลังจิตสามารถมีพลังจิตได้ชั่วคราว ส่วนคนที่มีพลังจิตอยู่แล้วก็จะมีพลังจิตอย่างที่สองได้ชั่วคราวเช่นกัน เลออนและเพื่อนๆ ของฉันไม่อาจนิ่งเฉยได้เพราะสมาชิกแก๊งที่มีพลังจิตได้ตายไปหลายคน พวกเขาสืบจนรู้ว่ามีองค์กรหนึ่งจงใจแพร่กระจายยานั้นออกมาเพื่อใช้ผู้คนเป็นหนูทดลองยา เนื่องจากว่าพวกเลออนได้รู้จากวารินด้วยว่าองค์กรนี้เกี่ยวข้องกับคนที่ฆ่าฉัน พวกเขาจึงพยายามสืบเรื่องขององค์กรนี้อย่างลับๆในขณะที่ทั้งฝ่ายเลออนและวารินและอาเธอร์พยายามสืบเรื่องพวกนี้และปะทะกับพวกมีพลังจิตคลั่ง คามินก็ได้หายตัวไป คามินเพื่อนในกลุ่มของฉัน เขาหายตัวไปเพราะองค์กรที่พวกเขากำลังสืบนั่น คนพวกนั้นลักพาตัวคามินไปเพราะคามินเป็นผู้มีพลังจิตที่หายาก พลังจิตที่สามารถทำให้วาร์ปได้ แม้ว่าคามินจะมีพลังจิตน้อย วาร์ปได้แค่ระยะสั้น แต่คนพวกนั้นก็ต้องการตัวคามินไปเพราะพลังชนิดนี้หาไม่ได้ง่ายๆเลออน เจมส์ และมิวพยายามตามหาคามินอย่างบ

    Last Updated : 2024-11-19

Latest chapter

  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 64 วารินแปลกไป

    ตอนที่ 64 วารินแปลกไป“ขอบคุณที่ให้ผมได้เจอกับเลอาอีกครั้ง”“แต่คุณ….จะไม่บอกเลอางั้นเหรอ?”“ผมไม่ต้องการให้เลอารู้เรื่องที่เกิดขึ้นทางฝั่งนั้น….เธอจะเสียใจ”“…อย่างไรก็ตามผมหวังว่าคุณจะไม่ทำอะไรเกินเลยกันเลอา”“เลอาก็แฟนฉัน”“ไม่ เธอคือแฟนของผม”“…เราจะเถียงกันทำไมในเมื่อเรา---”“เลอาคือแฟนของผม”“…ก็ได้!”…………จากคำยืนยันจากวาริน ผู้นำผู้ก่อการร้ายอย่างอิระและหน้ากากอีกาได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นสองวันหมอกสีแดงก็ถูกกำจัด เจ้าหน้าที่มุ่งหน้าจับกุมคนร้ายเพื่อคืนความสงบสุข อาจจะใช้เวลานานในการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ทุกอย่างจะต้องถูกจัดการเก็บกวาดในท้ายที่สุดในขณะที่เจ้าหน้าที่ไล่จับกุมผู้มีพลังพิเศษที่ถูกสงสัยว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบแก๊ง DH ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุด้วยเกือบจะถูกจับกุมไปด้วย แต่โชคดีที่พวกเขาได้รับการคุ้มครองจากอาเธอร์ที่ได้รับความดีความชอบที่สามารถกำจัดหมอกแดงได้และยังได้รับการยืนยันจากนายกว่าพวกเขาเป็นพลเมืองที่ถูกบีบให้ต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง พวกเขาจึงยังไม่ได้รับบทลงโทษอะไรที่ใช้พลังเมื่อเลอาได้ทราบถึงเรื่องที่อาเธอร์ช่วยเหลือเธอก็แค่บิดยิ้มออกมาและกลอกตา

  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 63 บทสุดท้ายของ ´ปกป้องหัวใจวาริน´

    ตอนที่ 63 บทสุดท้ายของ ´ปกป้องหัวใจวาริน´ บทสุดท้ายของ ‘ปกป้องหัวใจวาริน’เขาแก้แค้นสำเร็จ เขาทำสำเร็จแล้ววารินยืนนิ่งท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเมืองที่พังทลาย ไฟจากพลังจิตของอิระยังโหมกระหน่ำรอบตัวเขาแต่เจ้าของพลังจิตอย่างอิระได้ตายจากไปแล้ว ด้วยฝีมือของวารินเอง ไฟฟ้าของวารินเริ่มสงบลง ไม่สิ มันราวกับกำลังสูญเสียพลัง แก้แค้นสำเร็จแล้วอย่างไรต่อ? สุดท้ายแล้วคนรักของเขาก็ไม่อาจกลับมาได้ เขาสูญเสียจิตใจที่จะใช้พลังวารินไร้จุดมุ่งหมายที่จะมีชีวิตไปแล้ว เขาเดินข้ามศัตรูคนสุดท้ายของเขา ก้าวข้ามผู้ที่บอกว่ารักเขา โนอาห์ ก้าวข้ามอาเธอร์ที่เคยบอกว่าหลงใหลเขา วารินมองโนอาห์และอาเธอร์เพียงหาตา แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะโอนอ่อนต่อคำบอกรักของพวกเขา แต่แท้จริงแล้วเขาไม่เคยรู้สึกรักเลย แท้จริงแล้วเขาก็แค่หลอกใช้คนพวกนี้แล้วเขาจะทำอะไรต่อไปดีนะ…วารินเร่ร่อนอยู่นาน จนโลกที่วุ่นวายจากการกระทำของอิระเริ่มฟื้นตัว ทุกอย่างกลับมาสงบสุขดั่งเช่นวันวานแต่วารินรู้ว่าเขาไม่อาจเป็นดั่งเช่นวันวานได้“นายอยากได้จุดจบใหม่งั้นเหรอ?”วารินไม่แน่ใจนักว่าใครเป็นพูดกับเขา เขาพยักหน้าตอบกลับแต่ก็คิดใหม่และส่ายหน้า “ไม

  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 62 ดวงจันทร์สีแดง

    ตอนที่ 62 ดวงจันทร์สีแดงวารินสัมผัสได้ถึงสายฟ้าที่แล่นอยู่บนฝ่ามือของเขา ศัตรูอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว หากเป็นตัวเขาเมื่อก่อนที่หวาดกลัวพลังของตัวเองจะต้องไม่กล้าใช้พลังนี้ออกมาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้วารินรับรู้ดีว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว… ไม่สิ ความจริงแล้วตัวตนอันเย็นชานี้อาจเป็นตัวตนที่เขาพยายามเก็บไว้ในส่วนลึกของจิตใจมาตลอดวารินคิดว่าในตอนนี้เขาสามารถสังหารศัตรูได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลยวารินและอิระยืนเผชิญหน้ากันอยู่ในสนามของโรงเรียน“คุณมาถึงขั้นนี้แล้วคงไม่คิดจะถอยสินะครับ และคงน่าจะเตรียมใจไว้แล้ว” วารินเอ่ย“เตรียมใจอะไรกัน? ถ้าเตรียมใจที่จะกลายเป็นราชาของมนุษย์ยุคใหม่ละก็ใช่” อิระเอ่ยขณะที่ปัดฝุ่นบนตัวที่ติดมาตอนที่ถูกลากออกมาจากโรงยิม “ว่าแต่ทำไมต้องเป็นนายทุกครั้งเลยนะที่ฉันต้องสู้ด้วย และทุกครั้งฉันก็กำจัดนายไม่ได้สักที โชคดีเกินไปแล้ว”วารินอดนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาไม่ได้ ตัวเอกของหนังสือมักถูกโชคชะตาเข้าข้าง แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงเขาไม่รู้สึกว่าถูกโชคชะตาเข้าข้างเลย เพราะการที่ต้องสูญเสียคนรักไปมันเป็นคำสาปมากกว่ามือของทั้งสองข้างของวารินถือปืนไว้ ทันใดนั้นเสียงเสียดสีบางอย่างก็

  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 61 ห้องบอส

    ตอนที่ 61 ห้องบอสพวกเราถูกย้าย หลายคนที่นี่ ผู้มีพลังจิตคนอื่น- บอส ที่นี่นั่นคือสัญญาณขอความช่วยเหลือสุดท้ายที่ระบบขอความช่วยเหลือของแก๊ง DH ได้รับ ผู้ขอความช่วยเหลือไม่ได้อธิบายสถานการณ์อย่างละเอียดหมายความว่าสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ไม่ค่อยจะดีนัก“ผมพอจะเข้าใจสถานการณ์ได้คร่าวๆ เลยพยายามหนีออกจากที่นี่แล้ว แค่ดูเหมือนจะไม่ทัน” วารินอธิบายอย่างกังวลใจถูกย้าย ผู้มีพลังจิตคนอื่น…. ทันใดนั้นฉันก็นึกถึงผู้หญิงหน้ากากกวางฉันเห็นเมื่อครู่ เธอมีพลังเคลื่อนย้ายไม่ผิดแน่ เธอจะต้องเคลื่อนย้ายคนอื่นๆ ไปรวมกันในที่เดียว เธออะไรบางอย่าง‘บอส ที่นี่’ ในข้อความอาจจะหมายถึงพวกเขาถูกพาไปหาอิระ แล้วอิระทำไปเพื่ออะไรบางอย่างที่ไม่น่าจะดีนัก…คงไม่ใช่แผนอย่างกำจัดศัตรูให้หมดก่อนที่ศัตรูจะได้ตั้งตัวนะ พอคิดแบบนั้นฉันก็มองกำแพงหมอก ยิ่งคิดสีหน้ายิ่งแย่ลงเอาจริงดิ?[มีการแจ้งเตือนจาก ถล่มให้แหลก]การแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ถล่มให้แหลก เนี่ยหมายถึงแอปสื่อสารพิเศษที่พวกเจมส์สร้างขึ้นมานั่นเอง ฉันก็ลืมมันไปเลยเพราะไม่ค่อยได้ใช้ในห้องแช็ตกลุ่มเจมส์: เลอาเจมส์: มีข้อความจากเจ้าคนที่ชื่อลันก

  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 60 หมอกแดง

    ตอนที่ 60 หมอกแดงคุณต้องการเข้าร่วมก่อนช่วยเหลือหรือไม่?[เข้าร่วม] [ปฏิเสธ]ข้อความจากผู้ขอความช่วยเหลือ : ช่วยด้วย! พวกเราถูกจับเป็นตัวประกัน! (ส่งตำแหน่งที่อยู่)ฉันแค่เข้ามาอวดพลัง : เจ้าจะให้ข้าไปช่วยเหลือเจ้าอย่างไร? นั้นมันกลางเมืองที่รัฐบาลประกาศว่าเป็นเขตอันตรายสูงไม่ใช่รึไง!? และโดยรอบเมืองถูกกองทัพทหารปิดกันเส้นทางไว้หมดแล้ว!ฉันแค่เข้ามาเล่นเกม : ไม่ใช่ว่าเราต้องรอฟังคำสั่งนอกรอบไม่ใช่รึไง ไหงไปอยู่ตรงนั้นได้โลกเริ่มอยู่ยากมากขึ้น : ถึงฉันจะอยู่ใกล้ก็ไปช่วยไม่ได้หรอก…ฉันไม่ได้มีพลังขนาดนั้น!พริกไทยป่น : สมาชิกหลักของแก๊งน่าจะอยู่ไม่ไกลนะ พวกเขาอาจไปช่วยได้สมาชิกวงใน : อันที่จริงหัวหน้ากับหัวหน้าใหญ่ก็อยู่ใกล้ๆ นั่นล่ะพริกไทยป่น : พวกเขาจะไปช่วยเหรอ? (สติกเกอร์ตื้นเต้น)สมาชิกวงใน : ไม่สมาชิกวงใน : หัวหน้าเลออนเล่นเกมอยู่ หัวใหญ่ก็นอนกกแฟนอยู่มะเขือ: !?มะละกอ: !!???อ่านแล้วสัมผัสถึงความไร้ความผิดชอบอย่างมาก ฉันก็เลยต้องยอมออกจากบ้านมาทำงานสักที ก็อยากจะปล่อยให้ทหารหรือไม่ก็หน่วยพิเศษจัดการเองอยู่หรอกแต่ก็ไร้ความรับผิดชอบเกินไป ดูเหมือนว่ากลุ่มแก๊งเล็กๆ ของฉันเหมือน

  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 59 สิ่งไม่สำคัญก็ลืมมันไป

    ตอนที่ 59 สิ่งไม่สำคัญก็ลืมมันไปการใช้ร่างจิตมีประโยชน์ตรงที่ไม่มีใครสังเกตเห็นตัวตนได้ มันเหมาะที่จะใช้สำหรับสังเกตการณ์ ฉันจึงใช้พลังถอดจิตของโนอาห์เพื่อที่จะได้มาสังเกตการณ์การต่อสู้ของวารินและอิระอย่างใกล้ชิด แต่ตอนนี้การต่อสู้เงียบมาสักพักแล้ว ฉันไม่เห็นว่าพวกเขาไปอยู่ส่วนไหนของเมืองที่เสียหายแห่งนี้แล้ว“งั้นคงต้องไปสำรวจรอบๆ ก่อน” ตอนนี้ฉันยังไม่รู้อย่างชัดเจนว่าลูกน้องของอิระซุ่มรอเวลาลงมืออยู่ที่ไหน ถึงจะคาดไว้ว่าพวกนั้นอาจจะกำลังซุ่มอยู่ในมิติขนาดของหน้ากากหมี แต่มันก็ยังไม่มีอะไรมายืนยันอีกทั้งมันค่อนข้างน่าสงสัยที่พวกนั้นยังอยู่เงียบๆ โดยไม่ยอมลงมือทำอะไรเลย อย่างอิระมันจะยอมให้ลูกน้องรออยู่เฉยๆ เพื่อช่วยตัวเองยามสู้กับวารินไม่ไหวเหรอ? ไม่น่าใช่ เจ้านั่นน่าจะสั่งให้ลูกน้องทำลายทุกอย่างที่ความขวางหน้าเพื่อเป้าหมายของตัวเองมากกว่าฉันจึงลองออกไปสำรวจรอบเมืองแต่ก็ไม่พบคนที่น่าจะเป็นคนของอิระ แต่ฉันพบคนธรรมดาแทน พวกเขาอยู่ในเขตที่น่าจะมีการอพยพไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่ยังหลงเหลืออยู่และไม่ได้ถูกลูกหลงจากการต่อสู้ของวารินและอิระประชาชนมากมายได้รับความเสียหายจากความวุ่นวาย

  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 58 ความสัมพันธ์ที่น่าสงสัย

    ตอนที่ 58 ความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยรู้สึกเหมือนนอนฝันร้ายไปเลย…ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการงัวเงียและพยายามลุกออกจากเตียงที่นุ่มนิ่มเพราะต้องการดื่มน้ำให้หายคอแห้ง พอเดินโซเซไปถึงห้องครัวและหยิบขวดน้ำมาดื่มฉันก็เดินไปนั่งงีบบนโต๊ะโดยที่หน้าหันไปทางหน้าต่าง ในตอนนั้นเองฉันมองออกไปนอกหน้าต่างของห้องครัวฉันรู้สึกไม่คุ้นเคยกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างเสียเท่าไหร่เลย วันสิ้นโลกมาถึงเมื่อไหร่กัน?นึกสงสัยว่าข้างบ้านเป็นซากประหลักหักพังตั้งแต่เมื่อไหร่ นึกไปนึกมาพอดื่มน้ำแล้วสมองก็ตื่นเต็มที่และพร้อมประมวลผลและในที่สุดฉันก็จำได้เสียทีว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ฉันถึงกับสำลักน้ำที่กำลังกลืนลงคอแล้วรีบวิ่งไปหน้าบ้านทันทีกวาดสายตามองซากประหลักหักพังครู่หนึ่งก่อนจะเหลือบไปเจอคนที่ตามหาอีกคนยืนอยู่บนตึก อีกคนลอยอยู่บนฟ้า ดูแล้วไม่มีฝ่ายไหนบาดเจ็บเลย ทั้งที่รอบตัวของพวกเขามีสภาพราวกับถูกขีปนาวุธยิงถล่มแค่สองคนนั้นเหรอที่ทำเมืองเละขนาดนี้? การต่อสู้ของผู้มีพลังจิตมันน่ากลัวจริงๆ ว่าแต่กองกำลังพิเศษหายไปไหนทำไมไม่โผล่มาเลยนะ ไม่สิ อย่างอิระคงไม่ยอมให้ใครเข้ามาขัดขวางศึกตัดสินนี้ของเขา มีความเป็นไปได้ว

  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 57 ต่อสู้หรือระเบิดเมือง

    ตอนที่ 57 ต่อสู้หรือระเบิดเมืองเลอารู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอช็อกที่พบว่าไนต์คลับถูกเผาไม่เหลือซากและกลิ่นอายแห่งความตายรอบตัวหรือไม่ แต่เธอนึกอะไรไม่ออกเลยจริงๆ สิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวของเธอมีเพียง เลออนและคนอื่นๆ ของแก๊ง DH ที่ได้ตายไปแล้วพวกเขาตายแล้ว…มันเป็นความผิดของเธอ? เพราะเธอเองรึเปล่าที่ลากพวกเขาให้มายุ่งกับเรื่องนี้จนพวกเขาต้องถูกฆ่าและเผาอย่างโหดเหี้ยม…สมองของเลอาว่างเปล่า เธอกำลังปฏิเสธสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เธอตัดสินใจถอยหลังและคิดจะวิ่งหนีออกจากตรงนี้ แต่เมื่อหันหลังเธอก็เห็นวารินกำลังเดินโซเซเข้ามาหา…ด้วยร่างที่โชคเลือด“เลอา…ช่วยผมด้วย” เสียงอันแหบแห้งของเขาเอ่ยเรียกเธอเลอายืนนิ่งดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เธออยากตะโกนเรียกวารินสุดเสียงแต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมาจากลำคอของเธอ เธออยากจะวิ่งไปประคองวารินที่ซวนเซใกล้ล้มลง แต่ขาของเธอไม่ขยับ เธอไม่อยากจะเข้าไปสัมผัสเพราะไม่อยากรับรู้ว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นเป็นของจริงหรือไม่ถ้ามันเป็นจริง…ไม่ มันต้องเป็นเรื่องโกหก! แต่…มันเหมือนจริงเกินไป“วาริน!” ท้ายที่สุดเลอาก็ทำลายความอ่อนแอและหวาดกลัวในใจทิ้งและรีบเข

  • แฟนของฉันไม่ใช่นายเอกนิยาย   ตอนที่ 56 ถูกทำลาย

    ตอนที่ 56 ถูกทำลายDN ไนต์คลับก็เหมือนกับไนต์คลับทั่วไปหลังจากเปิดต้อนรับเหล่าผีเสื้อกลางคืนมาตลอดราตรีมันก็ต้องปิดลงหลังจากฟ้าสว่าง แต่ก็มีผีเสื้อราตรีบางตัวที่ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องหลังจากร้านปิด“คุณเลออน เช้าแล้วครับ” โกลเด้นปลุกคนที่เขาเคารพในความแข็งแกร่งที่กำลังนอนแผ่อยู่บนโซฟาหลังจากดื่มหนักมาเกือบทั้งคืน“อย่ามากวนน่า” เลออนไม่มีทีท่าจะยอมตื่นแต่อย่างใด“ลุกขึ้นมาทำงานครับ”“ฉันทำงานมาตลอดทั้งคืนแล้ว!”การที่คุณไปสังสรรค์กับลูกค้าแล้วดื่มเหล้าของร้านตัวเองทั้งคืนมันเรียกว่างานเหรอครับ? โกลเด้นไม่ได้ถามอย่างในความคิดแต่เขาพูดเรื่องงานขึ้นมาแทน “พวกเรากำลังจะทำความสะอาดร้านใหม่ทั้งร้านครับ อาจจะต้องทำความสะอาดแล้วจัดใหม่เลย เพราะงั้นตื่นขึ้นมาดูแลงานในฐานะเจ้าของร้านด้วย”เลออนตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาสลัดคาบหนุ่มขี้เมาเช้ายันค่ำทิ้งและสวมคาบนักธุรกิจหนุ่มอย่างรวดเร็ว “ฉัน นัดหัวหน้ามาจัดปาร์ตี้ที่นี่ในอาทิตย์หน้า ฉันต้องทำให้ที่นี่ดูดีที่สุดหัวหน้าจะได้รู้ว่าตลอดสี่ปีมานี้ฉันพยายามแค่ไหนเพื่อให้สิ่งที่พวกเราร่วมสร้างกันมาเติบโตอย่างยิ่งใหญ่!”“ครับ!” โกลเด้นตะโกนตอบกลับเสี

DMCA.com Protection Status