ตอนที่ 3 อ่านบทต่อไป
สามวันแล้วที่ฉันและวารินย้ายมาอยู่ที่คอนโดมิเนียมสุดหรูที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยระดับสูงของอาเธอร์ ยอมรับเลยว่าไม่เพียงแค่ระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ห้องพักที่พวกฉันได้รับมันยอดเยี่ยมมากจริงๆ เพราะมันมีพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะห้องน้ำสองห้อง ห้องนอนสองห้อง ห้องครัวและห้องนั่งเล่นที่กว้างมาก มันกว้างใหญ่พอที่จะอยู่เป็นครอบครัวใหญ่เลยเชียวล่ะและมันทั้งหรูหราและสะดวกสบาย อีกทั้งวิวของห้องพักของพวกฉันก็สวยมากด้วยเพราะพวกฉันได้อยู่ชั้นสิบ ห่างจากชั้นสูงสุดเพียงแค่ห้าชั้นเท่านั้น แต่ที่ดีที่สุดคงไม่พ้นเรื่องที่ว่าฉันและวารินสามารถพักที่นี่ได้ฟรีจนกว่าจะจับฆาตกรได้สำเร็จ คุณตำรวจเมลอะไรนั่นดูเหมือนจะต่อรองไว้แบบนั้น ฉันก็เลยสบายใจเรื่องเงินและพักที่คอนโดของอาเธอร์อย่างไม่คิดจะเกรงใจและหวังจะเอากำไรจากมันให้ได้มากที่สุด
แต่เพราะยังรู้สึกไม่คุ้นเคยและรู้สึกแปลกที่ไปหน่อยฉันและวารินจึงยังไม่ได้ไปสำรวจที่ไหนนอกจากห้องสุดหรูที่ได้มาแบบไม่ต้องเสียเงิน และพอเริ่มรู้สึกสบายใจแล้วว่าอยู่ที่นี่จะปลอดภัยไม่มีปัญหาพวกฉันก็เริ่มที่จะจัดข้าวของของตัวเองให้เข้าที่
“ทั้งที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเราเพิ่งจะจัดแต่งบ้านที่เพิ่งซื้อมาแท้ๆ นี่เราจะต้องมาจัดแต่งบ้านใหม่อีกแล้วหรือนี่” ฉันรำพึงรำพันออกมาและแอบรู้สึกแย่เล็กน้อย บ้านที่ฉันและวารินอุตส่าห์เลือกที่จะซื้อด้วยกันและวางแผนว่าจะสร้างครอบครัวที่บ้านหลังนั้น แต่แผนทุกอย่างกลับก็ต้องมาหยุดลงเพราะฆาตกรนั่นและความประมาทเลินเล่อของไอ้อาเธอร์นั่นที่ทำให้บ้านหลังนั้นเสียหายและกลายเป็นสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย
“อย่าเศร้าไปเลย ผมเชื่อว่าอีกไม่นานฆาตกรนั่นจะต้องถูกจับในเร็วๆ นี้แน่นอนและเราก็จะได้กลับบ้านกัน” วารินเอ่ยเสียงนุ่มนวลเพื่อปลอบโยนฉัน
ฉันเพียงยิ้มตอบกลับในขณะที่ในใจก็คิดว่ามันไม่น่าง่ายขนาดนั้นเพราะถ้าฆาตกรถูกจับเร็วขนาดนั้นตัวละครเลอาในนิยายเรื่อง ปกป้องหัวใจวาริน คงเป็นแค่ตัวประกอบที่มีไว้เพื่อกำจัดเพื่อให้ตัวละครวารินได้มีแฟนใหม่เป็นผู้ชาย บ้าเอ๊ย! แค่คิดก็โมโหแล้ว!
ฉันเชื่อว่าถ้าสมมุติว่าโลกนี้เป็นนิยาย การตายของฉันคงเป็นตัวจุดชนวนของเนื้อเรื่องเพื่อให้วารินมีแรงผลักดันในการตามล่าหาฆาตกรคนนั้น นั่นหมายความว่าการจะหาตัวฆาตกรที่เป็นเหมือนบอสใหญ่จะต้องไม่ง่ายดายอย่างแน่นอน ไม่สิ แค่ดูจากพลังของมันก็รู้ได้ทันทีแล้วว่าการตามล่าหาตัวฆาตกรมันไม่ง่าย มันมีพลังถึงสามอย่างเชียวนะ และดูเหมือนจะมากกว่านั้นด้วย คนธรรมดาอย่างฉันจะทำอะไรมันได้กัน
ฉันถอนหายใจอย่างเซื่องซึม “หวังว่าฆาตกรจะถูกจับโดยเร็วเพราะถ้าปล่อยไว้นานวารินจะยิ่งตกอยู่ในอันตราย”
“ผมจะระวังตัวมากขึ้น อีกอย่างช่วงนี้ผมคงไม่มีเหตุผลที่จะต้องออกไปที่ไหน ผมไม่มีทางตกอยู่ในอันตรายหรอกครับ” วารินเอ่ยพลางส่งยิ้มกว้างเพื่อให้ฉันวางใจ
ช่วงนี้วารินไม่มีเหตุผลที่จะออกไปข้างนอกสักพักเพราะวารินได้ลาหยุดงานคุณครูดนตรีที่โรงเรียนแล้ว จนกว่าจะมั่นใจว่าฆาตกรไม่ได้อยู่ในเมืองนี้แล้ววารินก็น่าจะไม่ได้ออกไปทำงานตามตกปกติ
“พลังของวารินสุดยอด ฉันคิดว่ามันไม่น่าจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ” ฉันพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด วารินก็เลยมีสีหน้ากังวลใจตามฉันไปด้วย เขาได้ฟังจากตำรวจเมลคนนั้นคร่าวๆ มาแล้วว่าฆาตกรคนนั้นก็คือนักโทษที่ทำผิดคดีฆ่าคนตาย แรงจูงใจที่ทำให้ฆาตกรคนนั้นฆ่าคน นั่นก็เพื่อแย่งชิงพลังจิตจากคนอื่น เนื่องจากว่าฆาตกรคนนั้นมีร่างกายพิเศษที่สามารถมีพลังจิตหลายอย่างในร่างกายได้โดยที่ร่างกายไม่ระเบิดไปซะก่อน หลังจากฆาตกรคนนั้นถูกจับกุมตัวได้ ฆาตกรคนนั้นก็ถูกส่งตัวไปให้อาเธอร์ที่เป็นนักวิจัยด้านพลังจิตเพื่อให้อาเธอร์ศึกษาร่างกายฆาตกรคนนั้นและสร้างยาระงับการอาละวาดของพลังจิต แต่หลังจากนั้นอาเธอร์ก็ดันทำฆาตกรคนนั้นหลุดหายจนฆาตกรนั่นมาไล่ฆ่าพวกฉันอย่างที่เห็น
ตอนแรกที่วารินได้ยินเขาค่อนข้างตกใจมากเกี่ยวกับเรื่องการระเบิดของพลังเพราะเขามีพลังถึงสองอย่างในตัวแต่กลับไม่เคยรู้สึกว่าพลังจะระเบิดอย่างที่ได้ยิน วารินสงสัยว่าทำไมร่างกายของเขาถึงยังทนได้จนเขาเกือบจะหลุดปากถามออกไปแล้วถ้าฉันห้ามไว้ไม่ทัน หลังจากนั้นฉันก็ขอให้วารินปกปิดพลังของเขาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มีไอ้บ้าบางคนสนใจและจับเขาไปทดลองแทนฆาตกรนั่น
“เอาล่ะ ฉันขอโทษที่พูดเรื่องที่ทำให้เธอเป็นกังวล เราหยุดคุยเรื่องนี้กันดีกว่า” ฉันเปลี่ยนสีหน้าให้กลับมาสดใสเพื่อไม่ให้วารินกังวลเพราะสีหน้ากังวลใจของฉัน
หลังจากนั้นฉันและวารินก็ใช้เวลาสองชั่วโมงในการจัดเสื้อผ้าและของใช้ของตัวเองให้เข้าที่ นอกนั้นเราไม่ต้องจัดเตรียมเพราะว่าในห้องคอนโดมีเครื่องใช้ทั่วไปครบแล้ว
“ของก็ไม่ได้มีมากมาย ทำไมฉันรู้สึกเหนื่อยล่ะเนี่ย” หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้วฉันก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาพลางบ่นราวกับคนแก่ทันที
“ช่วงนี้คุณเอาแต่นั่งหน้าโต๊ะโดยไม่ออกกำลังกายเลยนี่ครับ” วารินหัวเราะเบาๆ เหมือนจะขบขันท่าทางของฉัน “ในห้องอาบน้ำมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ด้วย คุณอยากแช่น้ำร้อนผ่อนคลายไหม” วารินถามเหมือนเสนอทางเลือกให้กับฉันด้วยรอยยิ้มใสซื่อเหมือนไม่มีอะไรแอบแฝง แต่ตัวฉันที่รู้จักวารินมานานรู้ความหมายของมันดี
“เอาสิ” ฉันตอบตกลง
ด้วยเหตุนี้เองฉันและวารินจึงได้มานั่งแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำเดียวกันอยู่ในขณะนี้
“น้ำอุ่นดีไหมครับ?” วารินถามพลางวักน้ำขึ้นมาลูบไหล่และหลังของฉัน
“ดี” ฉันตอบสั้นๆ พลางเอนตัวพิงวารินที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง มันก็นานแล้วที่ฉันไม่ได้แช่น้ำกับวารินแบบนี้ ฉันรู้สึกมีความสุขและสบายใจมากและแอบตื่นเต้นนิดๆ “สบายดีจัง” ฉันพึมพำออกมาอย่างผ่อนคลายพลางเหยียดขาตรงและใช้เข่าที่ชันขึ้นของวารินเป็นที่วางแขน ส่วนวารินก็โอบกอดฉันและใช้หัวของฉันเป็นที่วางคาง
“นั่นสิ พอเจอเรื่องเครียดๆ แล้วมาแช่น้ำร้อนมันก็ช่วยได้มากเลย” วารินว่า
“อย่าคิดอะไรมากมายเลยน่า”
“นั่นสินะ” วารินพึมพำจากนั้นเขาก็ล้วงมือลงไปจับขาอ่อนของฉัน วารินมีนิสัยประจำตัวอย่างหนึ่งที่แก้ไม่หายนั่นก็คือเขาชอบจับและบีบสิ่งที่นุ่มนิ่ม เขาก็เลยชอบจับและบีบขาอ่อนของฉัน เขาบอกมามันนุ่มดี
แต่ขอบอกเลยขาของฉันไม่ใหญ่นะ! ถึงขาของฉันจะนุ่มนิ่มมากแต่มันไม่ใหญ่เลยนะ เชื่อฉันสิ!
“พุงของเลอานุ่มขึ้นนะ” วารินพูดขึ้นมา
“วาริน ถ้าตอนนี้อยากแค่อาบน้ำ มือก็อย่าซน” ฉันเตือนขึ้นมาลอยๆ วารินหัวเราะและยิ้มร่า
“คุณคิดว่าผมชวนคุณแช่น้ำด้วยกันเพราะอะไรกันล่ะ?” วารินยังคงยิ้มอ่อน ฉันยิ้มตอบ
จากนั้นพวกเราก็ช่วยกันอาบน้ำให้กันและกัน เราใช้เวลาอยู่ในห้องอาบน้ำกันค่อนข้างนานมาก วันนี้เกือบจะไม่ได้ออกจากห้องน้ำกันเลยทีเดียว
.
.
.
ค่ำคืนในวันเดียวกัน
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากวารินหลับไปแล้ว เขาใช้แรงไปค่อนข้างมาในวันนี้ เขาไม่น่าตื่นขึ้นมาง่ายๆ ฉันจึงกล้าขยับออกมาจากอ้อมแขนของวารินและแอบลุกออกจากเตียงเพื่อไปเอาหนังสือนิยายที่ซ่อนเอาไว้ในตู้ ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่มีเวลาได้อ่านมันอย่างจริงๆ จังๆ ฉันจึงคิดจะใช้เวลานี้ตั้งใจอ่านเพื่อหาข้อมูล
ฉันรอดตายจากเหตุการณ์เมื่อสามวันก่อนได้แล้วก็จริง แต่ก็ใช่ว่าครั้งต่อๆ ไปที่ฉันจะได้พบกับฆาตกรฉันจะรอดเหมือนครั้งแรก เพื่อไม่ให้ฉันตายเหมือนที่ในนิยายระบุไว้ฉันจะต้องหาทางรับมือกับฆาตกร ไม่สิ ฉันจะต้องรู้ว่าฆาตกรคือใคร! อยู่ที่ไหน! ในเมื่อนิยายเรื่อง ปกป้องหัวใจวาริน เป็นนิยายบอกอนาคตมันก็ต้องบอกได้ว่าตัวจริงฆาตกรคือใครและอยู่ที่ไหนและมีวิธีอะไรที่สามารถจัดการมันได้
ฉันเปิดข้ามไปดูตอนจบของหนังสือนิยายทันทีเพื่อดูเฉลย แต่จากการกวาดสายตาอ่านคร่าวๆ ในตอนสุดท้ายของเล่มฉันก็พบว่าฆาตกรยังไม่ตายและดูเหมือนว่ามันจะมีผู้ติดตามด้วย มันเขียนไว้ว่าฆาตกรนั่นก่อตั้งกลุ่มผู้มีพลังจิตขึ้นมา ซึ่งกลุ่มผู้มีพลังจิตนั่นก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างเงียบๆ พอฉันเปิดหน้าสุดท้ายฉันก็พบกับประโยคหนึ่งว่า
โปรดติดตามตอนต่อไปในเล่มสอง
“…” เฮงซวย! อย่างน้อยก่อนจบเล่มหนึ่งก็ควรบอกก่อนสิว่าฆาตกรนั่นตั้งฐานทัพไว้ที่ไหน!
ฉันพยายามที่จะไม่กรีดร้องออกมาด้วยความโมโหและพยายามทำใจเย็นอ่านทีล่ะหน้าเพื่อหาข้อมูลของฆาตกร ในนิยายมันต้องมีเบาะแสบ้างล่ะน่าว่าฆาตกรทำอะไรบ้าง ในมุมมองของนักอ่านที่เป็นมุมมองของบุคคลที่สามจะต้องสามารถรวบรวมข้อมูลได้ดีกว่าแน่นอน และนั่นจะสามารถทำให้ฉันเดาได้ว่าฆาตกรอยู่ที่ไหน เป็นใคร และทำอะไรลงไปบ้าง
ฉันอ่านต่อจากตอนที่อ่านล่าสุดเพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลที่จำเป็นเหมือนครั้งก่อน ซึ่งหลังจากที่วารินในนิยายพบศพเลอาในนิยายและปล่อยพลังอาละวาดและถูกอาเธอร์พาตัวไปที่ศูนย์วิจัยลับและวารินก็ได้รู้ว่าคนที่ฆ่าเลอาในนิยายคือใครมาจากไหนคร่าวๆ แล้ว งานศพของเลอาในนิยายก็ถูกจัดขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ ซึ่งในตอนนั้นวารินในนิยายยังยอมรับความจริงไม่ได้จึงตกอยู่ในสภาวะซึมเศร้า ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไร เมื่ออาเธอร์เสนอให้ไปซ่อนตัวจากฆาตกรที่คอนโดมิเนียมของเขาวารินก็ตอบตกลงทันทีเพราะกลัวที่จะอยู่ในบ้านที่ไม่มีฉัน…ไม่มีเลอาในนิยายอยู่ด้วย
และหลังจากวารินไปซ่อนตัวที่คอนโดอาเธอร์ก็ได้ถามคำถามเกี่ยวกับพลังของวารินเพราะอาเธอร์สนใจพลังอันมหาศาลของวารินตอนที่เขาอาละวาด ในตอนนั้นวารินกำลังสติล่องลอยและไม่มีแรงที่จะคิดอะไรมากมายเขาก็เลยเผยพลังที่มีให้อาเธอร์ได้รู้ทั้งหมด…
วาริน! ตั้งสติก่อนโว๊ย! ไปไว้ใจไอ้เจ้าอาเธอร์แล้วเผยพลังทั้งหมดให้มันรู้ทำไมห๊ะ!
ถ้าฉันอยู่ในนิยายฉันจะกระชากคอวารินมาเขย่าเรียกสติแน่ๆ และก็เป็นอย่างที่ฉันกังวล หลังจากที่วารินเปิดเผยพลังทั้งหมดให้อาเธอร์ได้รู้แล้วอาเธอร์ก็สนใจวาริน เขาสงสัยวารินอาจจะมีร่างกายพิเศษเหมือนฆาตกรคนนั้น ร่างกายที่สามารถทนรับพลังจิตได้หลายอย่างโดยที่ร่างกายไม่ระเบิดตายไปเสียก่อน อาเธอร์ก็เลยขอทดลองกับร่างกายของวารินอย่างตรงไปตรงมาและวารินก็ดันตอบตกลงแบบไร้สติ! แต่อย่างน้อยก็มีสติพอที่จะทำสัญญาไม่ให้อาเธอร์ทดลองยาหรือสิ่งที่เป็นการทำร้ายร่างกายของเขา
อาเธอร์ก็เลยทำได้แค่ตรวจร่างกายของวารินอย่างเช่นนำเลือดไปตรวจและทดสอบการใช้พลังของวาริน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังรู้สึกไม่พอใจและโมโหอยู่ดี วารินต้องทดสอบการใช้พลังจิตจนใช้พลังถึงขีดจำกัด ซึ่งนั่นมันสร้างภาระให้กับร่างกายของวารินที่ไม่ค่อยได้ใช้พลังมากและ เฮ้ย! ตอนตรวจร่างกายวารินจะต้องถอดเสื้อต่อหน้าไอ้อาเธอร์นั่นใช่ไหม!
ฉันพยายามที่จะไม่หึงหวงวารินในนิยายเพราะเรื่องพวกนั้นยังไม่เกิดขึ้นกับวารินของฉันและแน่นอนว่ามันจะไม่มีวันเกิดขึ้น!
วารินได้วนเวียนอยู่ในศูนย์วิจัยประมาณสองเดือน ซึ่งระหว่างนั้นวารินก็ได้พยายามรวบรวมข้อมูลและข่าวเกี่ยวกับฆาตกรที่ฆ่าเลอาในนิยาย ส่วนนี้ฉันตั้งใจจำอย่างมาก
เดิมทีฆาตกรมีชื่อว่า อิระ วอลล์ เขาเกิดในครอบครัวยากจนและด้วยความยากจนนั้นพ่อแม่ของอิระก็เกิดความเครียดและฆ่ากันเองจนตาย ปล่อยทิ้งให้อิระเผชิญโลกเพียงลำพังทั้งที่มีอายุเพียงสิบขวบ เขาเป็นเด็กเร่ร่อนสักระยะหนึ่งจนกระทั่งมีคนคนหนึ่งเห็นว่าอิระมีพลังจิตแบบพิเศษ พลังที่สามารถแย่งชิงพลังของคนอื่นได้ คนคนนั้นจึงสั่งสอนให้อิระใช้พลังจิตและขายเขาให้กับองค์กรที่ต้องการรวบรวมผู้มีพลังจิตไว้เพื่อเอามาเป็นกองกำลังของตัวเอง แน่นอนว่าเป็นองค์กรผิดกฎหมายที่ทำแต่เรื่องแย่ๆ
ฆาตกร หรือ อิระ เติบโตขึ้นมาภายใต้การดูแลแบบพิเศษในองค์กรแห่งนั่น องค์กรนั่นได้สอนให้เขาฆ่าและต่อสู้ดิ้นรนที่จะแข็งแกร่งเหนือทุกคน นั่นทำให้เขากระหายความแข็งแกร่งมาก แต่ก่อนที่อิระจะได้ออกไปก่อความฉิบหายวายวอดนอกองค์กรฝ่ายตำรวจก็ค้นพบฐานทัพของหัวหน้าองค์กรพอดีตำรวจได้ทุ่มเทกองกำลังตำรวจทุกหน่วยทำลายองค์กร นั่นทำให้อิระที่อยู่ในองค์กรพลอยซวยไปด้วย หนีการจับกุมไม่ทันไรอิระก็ถูกตำรวจควบคุมตัวและถูกส่งไปให้อาเธอร์เพื่อใช้ในการทดลองในการสร้างยา
ซึ่งทั้งหมดนั่นก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับฆาตกรก่อนที่เขาฆ่าเลอา น่าเห็นใจและน่าสงสารไม่น้อย แต่วารินที่แสนอ่อนของฉันกลับไม่สนใจและพูดว่า
“เขาฆ่าเลอาของผม ไม่ว่าชีวิตของเขาจะบัดซบเหมือนโชคชะตาเล่นตลกผมก็ไม่สงสารหรอก”
ฉันจินตนาการสีหน้าของวารินที่พูดประโยคนี้ได้ชัดเจนเลยล่ะ มันทำเอาหัวใจฉันเต้นแรงเชียวล่ะ อยากร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งด้วย วารินที่อ่อนโยนและมีเมตตาโกรธคนยากและพร้อมให้อภัยแก่คนที่ทำสิ่งผิดพลาดแต่เขากลับยอมโยนความอ่อนโยน ความเห็นใจ และคุณธรรมทิ้งเพราะเขาไม่ต้องการให้อภัยฆาตกรที่ฆ่าฉัน
วารินรักฉันและเสียใจกับการตายของฉันมากสินะ ฉันอยากจะกอดปลอบเขาจริงๆ
วารินติดตามข่าวของฆาตกรที่ชื่อว่าอิระจากอาเธอร์อย่างไม่ยอมพลาดสักข่าว ไม่ว่าอิระจะไปไหนหรือฆ่าผู้มีพลังจิตและชิงพลังจิตของใครไปบ้างวารินก็เค้นถามอาเธอร์เพื่อเก็บรายละเอียดทุกอย่างไว้ในความทรงจำทั้งหมด หากไม่มีอาเธอร์รั้งวารินไว้ในศูนย์วิจัยวารินคงออกไปหาข่าวของฆาตกรด้วยตัวเองแน่ๆ นั่นราวกับว่าเขาวางแผนจะทำอะไรบางอย่าง
และหลังจากที่หยุดงานมาสองเดือนเต็มวารินก็กลับไปทำงานอาจารย์สอนดนตรีที่โรงเรียนประถมเหมือนเดิม วารินออกไปเดินข้างนอกได้ตามปกติได้แล้วเพราะฆาตกรไม่ได้อยู่ใกล้ๆ แต่ถึงอย่างนั้นวารินก็ยังอาศัยอยู่ที่คอนโดของอาเธอร์และอาเธอร์ก็คอยส่งคนมาแอบติดตามปกป้องวาริน เห็นได้ชัดว่าอาเธอร์สนใจวารินของฉัน!
ฉันขอบคุณอาเธอร์นะที่ให้การปกป้องวาริน แต่ถ้าให้ดีฉันอยากให้เขาถอยห่างจากวารินด้วย!
เมื่อวารินเริ่มกลับมาใช้ชีวิตธรรมดาตามปกติเขาก็ได้มีโอกาสพบคนรู้จักบ้างและได้พูดคุยเล่น ฉันดีใจที่อย่างน้อยวารินไม่เอาแต่นั่งซึมเศร้าและเริ่มกลับมายิ้มบ้าง และวารินในนิยายก็ได้มีโอกาสเจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ภาคิน ในนิยายได้บอกว่าเขาคือนักศึกษาที่ทำงานพิเศษอยู่ในร้านดอกไม้ที่วารินไปซื้อดอกไม้ในวันที่วารินและฉันไปออกเดตด้วยกันวันนั้น ฉันจำเขาได้ เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันเห็นวารินพูดคุยกับคนขายดอกไม้หรือก็คือภาคินเพื่อให้ทางร้านดอกไม้จัดส่งดอกไม้มาให้ถึงบ้าน
ดูเหมือนชายหนุ่มคนนั้นจะได้ไปที่บ้านของพวกฉันเพื่อเอาดอกไม้มาส่งให้แต่เพราะเลอาในนิยายตายและวารินในนิยายก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นกะทันหัน ดอกไม้ที่มาส่งก็เลยไม่มีใครรับ ชายหนุ่มคนนั้นจำวารินได้ก็เลยเข้าไปทักทายวารินและพูดคุยกับวารินว่าจะเอาดอกไม้มาส่งให้ถึงบ้านอีกครั้ง
บทสนทนาของวารินและภาคินก็ไม่ได้มีอะไรแปลกนะ แต่ว่าฉันรู้สึกเหมือนไม่อยากให้เด็กหนุ่มคนนั้นเข้าใกล้กับวาริน ฉันมีลางสังหรณ์ว่าภาคินอาจไม่ใช่ตัวประกอบ พระเอกอีกคน? ตอนภาคินนำดอกไม้มาส่งให้วารินโชคดีที่ภาคินไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในคอนโดเขาก็เลยไม่ได้เข้าไปห้องพักของวารินและหมดโอกาสที่จะได้อยู่กับวารินสองต่อสอง ดอกไม้ที่ภาคินนำมาส่งก็เลยถูกคนของอาเธอร์รับไปและคนของอาเธอร์ก็นำดอกไม้พวกนั้นไปตรวจสอบความปลอดภัยก่อนที่จะนำไปส่งให้วาริน ฉันจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าคนที่อาสาเอาดอกไม้ไปส่งให้วารินถึงห้องก็คือไอ้อาเธอร์! แถมไม่ได้เอาไปให้ธรรมดาด้วย ไอ้อาเธอร์มันตั้งเงื่อนไขที่จะทำให้วารินเปลืองตัวและเสียเปรียบให้วารินทำเพื่อที่จะได้รับดอกไม้ไป นี่มัน...ฉากพระเอกแกล้งนายเอก...นรกเถอะ!
แกชักจะแทะโลมวารินมากไปแล้ว! อย่าแกล้งวารินของฉันนะ!
ฉันหงุดหงิดมาก ถ้าทนอ่านมากกว่านี้ฉันคงหมดความอดทนและเผานิยายเล่มนี้ทิ้งแน่ๆ ฉันจึงหยุดอ่านเพียงเท่าก่อนเพื่อไปสงบสติอารมณ์ ไว้ถ้าอารมณ์เย็นแล้วจะมาอ่านต่อแล้วกัน คิดแล้วก็ลากร่างของตัวเองกลับไปนอนในอ้อมแขนของวาริน แต่ฉันดันข่มตานอนไม่หลับ นอนตาไม่หลับแบบนี้ถ้าตายขึ้นมาฉันต้องกลายเป็นวิญญาณอาฆาตแน่ๆ ไม่สิ ฉันคิดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่เนี่ย ฉันจะไม่ตายเด็ดขาด! คนที่จะตายคือไอ้อาเธอร์ เอ๊ย! ฉันหมายถึงฆาตกรต่างหากที่ต้องตาย ฉันคิดอย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมา
และเช้าวันต่อมาก็มาถึง
“เลอา เกิดอะไรขึ้นกับตาของคุณ?” ในขณะที่ฉันกำลังนั่งทานข้าวเช้ากับวาริน วารินก็ถามฉันด้วยสีหน้าเป็นกังวล ฉันลูบใต้ตาที่น่าจะมีรอยคลำอยู่
“ฉันนอนหลับไม่สนิทน่ะ” ฉันไม่ได้พูดอะไรมากมายเพราะกลัวว่าจะทำวารินคิดมาก วารินก็ไม่ได้ถามมากและบอกให้ฉันกินข้าวเยอะๆ
ฉันสงสัยว่าเขาพยายามขุนฉันให้อ้วนเพื่อที่เขาจะได้บีบขาอ่อนของฉันได้อย่างล้นมือ…
“จริงสิวาริน พวกเราได้ขนของเก่าสมัยเรียนมาด้วยไหม?” เมื่อนึกสิ่งที่คิดมาตลอดทั้งคืนจนนอนไม่หลับขึ้นมาได้ฉันก็ถามทันที
“น่าจะเอามานะครับ”
ฉันจึงไปค้นกล่องเก่าที่เก็บของสมัยเรียนมัธยมถึงมหาลัยไว้ อันที่จริงพวกฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะขนของไม่จำเป็นนี้มา ก็เพราะก่อนหน้านี้พวกฉันเพิ่งย้ายไปอยู่บ้านหลังนั้นได้แค่เจ็ดวัน ของที่เพิ่งขนย้ายมาถึงบ้านก็เลยยังเอาออกมาจากกล่องไม่หมด พอต้องย้ายที่อยู่อย่างกะทันหันก็เลยรีบขนของที่น่าจะขนได้ง่ายๆ มาด้วย อย่างเช่นของที่อยู่ในกล่องอยู่แล้ว กล่องเก็บของสมัยเก่าถึงบังเอิญติดมาด้วย
ฉันรื้อค้นของสักพักจนกระทั่งเจอสิ่งที่ตามหาที่ถูกห่อด้วยผ้าเก่าๆ เมื่อแกะห่อผ้าออกมาก็จะพบกับดาบไม้ที่ถูกเคลือบด้วยเรซินชนิดทนทานและแข็งแรงเป็นพิเศษ ฉันได้ดาบนี้มาสมัยที่ฉันยังเป็นหัวหน้าแก๊งนักเลงฉันอยากพบดาบเหล็กของแท้ แต่ไม่สามารถทำได้ก็เลยพกดาบไม้แทน แต่ดาบไม้มันไม่คมฉันก็เลยเอามันไปเคลือบเรซินและลับให้มันมีความคมเหมือนดาบเหล็กทั่วไป ซึ่งมันใช้ได้ดีเลยทีเดียว แต่พอคบกับวาริน หลังเรียนจบฉันก็อยากจะใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปก็เลยต้องเก็บมันไว้ในห้องเก็บของและไม่ได้นำออกมาใช้อีกจนกระทั่งตอนนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้นะว่าเหตุผลที่ฉันเอามันออกมาอีกครั้งคืออะไร?
ฉันหวังจะทบทวนวิชาดาบเพราะถ้าเผื่อได้เจอกับฆาตกรนั่นอีกครั้งฉันก็จะใช้วิชาดาบที่ร่ำเรียนมาตัดหัวมันซะ ดาบของฉันไม่ใช่โลหะ มันไม่สามารถควบคุมดาบของฉันได้แน่นอน! ฉันหัวเราะชั่วร้ายออกมาอย่างไม่รู้ตัว
วารินมองเลอาอย่างสงสัย เขากำลังคิดว่าเขาควรสวดส่งวิญญาณล่วงหน้าดีหรือไม่
ฉากลับฉากหนึ่งในนิยาย ปกป้องหัวใจวาริน
หลังฉาก: กระถางดอกไม้
วารินค่อยๆ จัดวางกระถางดอกไม้ที่เขาเพิ่งได้รับมาอย่างเอาใจใส่ กล้วยไม้สีขาวสามต้น กระบองเพชรอีกหนึ่งและเบญจมาศอีกสามต้น ทุกต้นเขาล้วนตั้งใจเลือกมาโดยหวังว่าจะได้นั่งดูแลพวกมันไปพร้อมกับเลอา
“ในที่สุดนายก็ยอมจูบฉัน แต่ทำไมนายถึงยอมจูบเพื่อได้รับต้นไม้ไร้ประโยชน์พวกนี้ด้วยเนี่ย” อาเธอร์นั่งกอดอกมองวารินดูแลดอกไม้ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เขาค่อนข้างอารมณ์เสียที่ตัวเขาดูเหมือนจะไม่มีความสำคัญเท่าดอกไม้พวกนั้น
วารินเงียบไม่ตอบคำถาม เขายังคงรดน้ำต้นดอกไม้ต่อไป
วารินหวังว่าเขาจะเอาดอกไม้พวกนี้ไปตกแต่งในบ้านใหม่ที่เขาและเลอาช่วยกันรวบรวมเงินซื้อมา เขาหวังว่าเขาและเลอาจะช่วยกันหาตำแหน่งเหมาะๆ ที่จะวางดอกไม้พวกนี้ในบ้าน เขาหวังว่าเขาและเลอาจะช่วยกันดูแลดอกไม้พวกนี้ไม่ให้ตายและเฝ้าดูมันออกดอกทุกๆ ปี แต่สิ่งที่เขาหวังนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น...
แต่ทำไมกันเลอา ทำไมถึงไม่อยู่กันผมกัน...หรือคุณโกรธที่ผมเลียปากคนบ้าไปงั้นเหรอ? ผมทำไปเพราะอยากได้ดอกไม้ที่ผมพยายามเลือกมาประดับบ้านของเรา อย่าโกรธผมเลย...
“ผมคิดถึงคุณจัง เลอา” วารินพึมพำแผ่วเบา
อาเธอร์ที่ถูกวารินลืมตัวตนกลอกตามองบนและเดินออกจากห้องไป ถึงเขาจะอยู่ต่อวารินก็คนสนใจแต่ดอกไม้และคิดถึงแต่คนที่ตายไปแล้วนั่นแหละ มันน่าหงุดหงิด
ทำไมเขาไม่เคยสนใจฉันบ้างเลยนะ...
อาเธอร์ก็ทำได้เพียงบ่นงุ๊งงิ๊งในใจของเขาอย่างไม่ได้ดั่งใจ
ตอนที่ 4 ผะ ผี?วารินไม่สามารถออกไปทำงานได้และฉันก็จะไม่มีงานเข้ามาสักพัก พวกเราจึงว่างมาก ด้วยความว่างจัดฉันและวารินจึงตกลงกันว่าจะไปสำรวจชั้นหนึ่งถึงชั้นห้าของคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่ส่วนกลางไว้พักผ่อนด้วย มันมีทั้งสระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกายและสนามกีฬาในร่ม สวนไม้ และโซนสำหรับนั่งทำงานและอ่านหนังสือเงียบๆ มันมีโซนร้านอาหารด้วย ถ้าไม่แวะไปใช้บริการเสียหน่อยคงไม่คุ้มค่าที่ได้อยู่ที่นี่ฟรีโซนแรกที่พวกฉันไปก็คือโซนร้านอาหาร เพราะอาหารคือสิ่งสำคัญ! ถ้าอาหารไม่อร่อยและมีไม่หลากหลายฉันคงไม่สามารถหมกตัวอยู่แต่ในคอนโดได้ ถึงจะมีวารินทำอาหารให้กินก็เถอะ แต่บางครั้งก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง อีกอย่างพวกฉันไม่สามารถออกไปเลือกวัตถุดิบอาหารได้ด้วยตัวเอง ถ้าวัตถุดิบหมดก็ต้องรอให้พนักงานมาส่งให้ ซึ่งฉันอาจจะรอไม่ได้“มีร้านขนมหวานด้วย” เมื่อมาถึงโซนอาหารสายตาของฉันไปสะดุดกับร้านของหวานทันที“กินไหม? ผมได้ยินมาด้วยว่าถ้าอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งนี้เราก็จะได้ส่วนลดพิเศษด้วย” วารินพูด“กิน!” ฉันไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปในร้านของหวานทันที ฉันกวาดสายตามองทั่วร้านรอบหนึ่งและเลือกโต๊ะที่อยู่ติดกับหน้าต่างกระจก
ตอนที่ 5 มิติซ้อนทับณ ห้องพักฟื้นผู้ป่วยในโรงพยาบาล“ป้าดีใจที่วารินมาเยี่ยมป้านะ เราไม่ได้เจอกันนานเลย” คนป่วยบนเตียงเอ่ยพลางฉีกยิ้ม“ครับ อาการป่วยของคุณป้าเป็นยังไงบ้างครับ?” วารินถามด้วยความเป็นห่วง“ก็...แค่ก! แค่ก!” ป้าของวารินไอ้อย่างหนักเป็นคำตอบว่า ป่วยหนักมาก!“คุณแม่!” ลูกชายของคุณป้าของวารินหรือธันวารีบเข้าไปประคองแม่ของตัวเอง“เดี๋ยวผมรินน้ำให้นะครับ” วารินรีบหันไปรินน้ำให้ป้าของเขาฉันยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเหมือนนั่งดูละคร ฉันล่ะรังเกียจนักที่ป้าของวารินทำท่าเหมือนดีใจที่วารินมาเยี่ยมทั้งที่ใจจริงไม่เคยคิดจะสนใจวารินเลยและลูกชายของยัยป้านั่นด้วย มาทำตัวกตัญญูอะไรตอนนี้“ถ้าได้ผ่าตัดละก็คุณแม่จะต้องดีขึ้นแน่ๆ เลยแต่เงินที่เรามีกลับไม่พอ” ธันวากล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าทุกข์ใจฉันยืนกลอกตาอย่างรำคาญอยู่มุมห้องให้ขณะที่คนอื่นในห้องกำลังทำท่าทางทุกข์ใจอย่างมาก เกริ่นนำขึ้นมาแบบนี้มีหรือที่ฉันจะไม่รู้เจตนาของเขา เรียกวารินมาเพื่อขอเงินชัดๆ“เดี๋ยวผมจะช่วยจ่ายเอง” วารินก็ใจดีเสนอเงินให้แบบไม่หวง“จริงเหรอ!? ดีจริงๆ” ธันวามีสีหน้าชื่นบานขึ้นมาทันที ความทุกข์ใจก่อนหน้านี้
ตอนที่ 6 เพื่อนเก่าในนิยายเรื่อง ‘ปกป้องหัวใจวาริน’ หลังจากที่วารินได้ดอกไม้จากเด็กส่งดอกไม้ชื่อภาคินฉากก็ตัดไปที่บทสนทนาผ่านโทรศัพท์ของอาเธอร์และคนที่น่าจะเป็นผู้ลงทุนในงานวิจัยของอาเธอร์ จากบทสนทนาของพวกเขาจับใจความได้ว่าผู้ลงทุนคนนั้นชื่อว่าโนอาห์และเป็นเพื่อนคนสนิทของอาเธอร์และเป็นผู้มีพลังจิตที่สามารถถอดจิตได้และเขากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับพลังของเขามากเพราะพลังของเขาทำงานเองโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจหรือก็คือเขาควบคุมมันไม่ได้ มันทำให้จิตของเขาสามารถหลุดออกจากร่างได้ตลอดเวลามันเป็นปัญหาในชีวิตประจำวันพอสมควรและอาจจะอันตรายถึงชีวิตด้วยเพราะถ้าเขาไม่รู้ว่าจิตตัวเองออกจากร่างและปล่อยให้จิตออกจากร่างนานเกินไปเขาก็จะตายในที่สุด[เมื่อไหร่ยาตัวใหม่จะสำเร็จ ฉันไม่ได้ชอบล้มตัวนอนทุกที่ทุกเวลาแบบนี้หรอกนะ] น้ำเสียงเครียดปนร้อนรนของโนอาห์ดังผ่านโทรศัพท์ของอาเธอร์“ก็คงอีกสักพักล่ะนะ หนูทดลองคราวนี้ฉันอยากจะทะนุถนอมสักหน่อย” อาเธอร์หัวเราะและยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงหนูทดลองของเขา ซึ่งนั่นก็คือวาริน[คนที่นายบอกว่าน่าสนใจสินะ...ฉันอยากเจออยู่เหมือนกัน] โนอาห์คล้ายสนใจขึ้นมา“ฉันจองแล้ว อย่ายุ่งเชียวล่
ตอนที่ 7 ฝึกร่างกายก่อนเริ่มฝึกการใช้พลังจิตและวิชาการต่อสู้ อย่างแรกที่ควรทำก่อนหน้านั้นก็คือการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย วันนี้ฉันและวารินจึงไปที่ฟิตเนส แน่นอนว่าเป็นฟิตเนสที่อยู่ในเวลเลอร์คอนโดมิเนียมเพราะถ้าไปข้างนอกพวกฉันอาจจะไปสะดุดตาของพรรคพวกของเจ้าฆาตกรนั่นอีกรอบเมื่อวันก่อนพวกฉันไม่ได้ระวังตัวให้ดีจึงถูกดึงเข้าไปในมิติซ้อนทับ แม้ว่าฉันและวารินจะรอดมาได้โดยไม่มีบาดแผลยกเว้นดรีมที่ได้รับบาดเจ็บเพราะมาปกป้องฉัน แต่ในสถานการณ์ที่หลุดเข้าไปในเขตของศัตรูแบบนั้นมันถือว่าอันตรายมาก ในตอนนั้นศัตรูโผล่มาสองคนน่าจะเป็นเพราะพวกฉันปรากฏตัวอย่างกะทันหันเกินไป คนพวกนั้นก็เลยเตรียมคนมาไล่ฆ่าพวกฉันไม่ทัน อีกทั้งคนที่เป็นเจ้าของมิติซ้อนทับไม่แม้แต่จะปรากฏตัวให้พวกฉันเห็นหรือพยายามมาขวางทางพวกฉันไม่ให้ไปออกจากมิติซ้อนทับด้วยซ้ำนั่นหมายความว่าเมื่อวันก่อนฝ่ายนั้นไม่ได้คิดจะล่าวารินอย่างจริงจังหรือพวกนั้นอาจจะแค่อยากจะทดสอบบางอย่างก็ได้ เพราะอย่างนั้นฉันจึงเห็นความจำเป็นที่วารินจะต้องฝึกฝนใช้พลังของเขาเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น ฉันจำเป็นต้องเก็บความรู้สึกไม่พอใจไว้ในใจและช่วยวารินฝึ
ตอนที่ 8 แก๊ง DHฉันทิ้งตัวลงนอนคว่ำหน้าบนเตียงอย่างหมดแรง หลังจากกินข้าวอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยฉันก็พบว่าร่างกายมันปวดเมื่อยยิ่งกว่าเดิม ทำเอาฉันไม่อยากจะขยับตัวเลยเพราะไม่ว่าจะขยับท่าไหนก็จะรู้สึกเจ็บกล้ามเนื้อไปหมด“ไม่น่าฝืนร่างกายเลย” ฉันก็ได้แต่บ่นกับตัวเองเพราะทำตัวเองล้วนๆ ซึ่งขณะที่ฉันกำลังนอนทรมานอยู่บนเตียงใครบางคนก็มานวดขาให้กันฉัน คนคนนั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแฟนหนุ่มของฉัน“ผมจะนวดให้ คุณจะได้ไม่รู้สึกปวดกว่าเดิมในวันพรุ่งนี้” วารินเอ่ยพลางยิ้มอ่อนโยน ไม่เพียงเท่านั้น การนวดของเขายังอ่อนโยนมากด้วย แรงที่เขาใช้นวดไม่มากหรือไม่น้อยเกินไปและจับถูกจุด การนวดของเขาจึงให้ความรู้สึกสบายและหายปวดเมื่อยไม่น้อย “ถ้าเจ็บตรงไหนก็บอกนะครับ” วารินพูดอย่างใส่ใจขณะนวดตั้งแต่ข้อเท้าของฉันจนถึงขาอ่อน“สบายมากเลยล่ะ” ฉันพึมพำและหายใจเข้าออกอย่างสบายตัว วารินจึงนวดต่อไปโดยไม่พูดอะไร หลังจากนวดขาแล้วเรียบร้อยเขาก็เลื่อนขึ้นมานวดสะโพกและหลังของฉัน มันสบาย
ตอนที่ 9 เตือนฉันแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ทราบว่าบริษัท DH บริษัทสร้างเกมออนไลน์เติบโตขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนมาก ทั้งที่เมื่อก่อนมีคนทำงานไม่ถึงยี่สิบคนด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับมีมากกว่าร้อยคนแล้ว ส่วนไนต์คลับที่มีชื่อว่า Dark Night ก็ขยายร้านสาขาได้มากถึงยี่สิบสาขาภายในสี่ปี น่าตกใจที่มันมาไกลกว่าที่คาดหวังไว้ในตอนแรกบริษัทเกม DH และ DN ไนต์คลับถูกก่อตั้งขึ้นมาเมื่อเจ็ดปีก่อนโดยแก๊ง DH ของพวกฉัน จุดเริ่มต้นที่ฉันและเพื่อนๆ ได้ก่อตั้งบริษัทพวกนี้ขึ้นมามันเริ่มมาจากว่าพวกฉันชอบเล่นเกมมากและติดเกมแบบสุดๆ และไม่รู้ว่านึกคึกคะนองอะไรขึ้นมาถึงตัดสินใจที่จะสร้างเกมขึ้นมาเล่นเอง พอดีว่าเจมส์มีความรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมค่อนข้างมากพวกฉันจึงพอจะสร้างเกมออกมาเล่นได้ แต่เพราะอยากสร้างเกมที่ดีว่านี้พอเข้ามหาลัยพวกฉันจึงกระโดดเข้าไปเรียนวิศวะกันหมดทุกคนด้วยความที่พยายามศึกษาอย่างหนักในที่สุดก็สร้างเกมที่แสนยอดเยี่ยมออกมาเล่นได้สำเร็จและด้วยความที่อยากอวดให้คนอื่นได้เห็นว่าตัวเองสร้างเกมสุดยอดออกมาได้ก็เลยปล่อยขายเกมที่ช่วยกันสร้างขึ้นมา ซึ่งมันก็ดันประสบความสำเร็จสุดๆ พวกฉันจึงช่วยกันก่อตั้งบริษัทเล็กๆ
ตอนที่ 10 ขอถีบอีกสักครั้งหลังจากที่เลอาออกไปหาเพื่อนเก่าวารินก็นั่งรอเธอด้วยความรู้สึกกระวนกระวายมาตลอด เขาทำใจเย็นรอไม่ได้จริงๆ เขาจึงวนเวียนอยู่ที่ชั้นหนึ่งของคอนโด ถ้าเลอากลับมาเขาก็จะได้เห็นทันที ซึ่งในตอนนั้นเองชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเขา"คุณอาเธอร์ต้องการพบคุณตอนนี้ครับ คุณสะดวกรึเปล่า" คนคนนั้นคือผู้ติดตามของอาเธอร์ วารินได้ยินอีกฝ่ายกล่าวเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าอาเธอร์ว่างที่จะคุยกับเขาเรื่องการฝึกพลังจิตของเขาแล้ว แม้จะยังหวงเลอาอยู่แต่โอกาสที่เขาจะพบอาเธอร์มีไม่บ่อยนัก เขาต้องการที่จะเก่งขึ้นโดยเร็ว นี่จึงเป็นโอกาสที่เขารอคอย วารินจึงยอมที่จะไปพบอาเธอร์ตอนนี้ทันทีผู้ติดตามของอาเธอร์ได้พาวารินไปยังลิฟต์ตัวหนึ่งที่อยู่ลับตาผู้คนและมีคนคอยเฝ้าตลอดเวลา ดูเหมือนว่าถ้าไม่ใช่คนที่ได้รับอนุญาตก็จะไม่สามารถใช้ลิฟต์ตัวนี้ได้ วารินคิดว่ามันจะพาไปยังชั้นสูงสุดแต่ทว่ามันกลับไม่ใช่ ลิฟต์ตัวนี้มันพาเขาลงไปข้างล่างชั้นใต้ดินงั้นเหรอ?วารินคิดในใจ แม้จะรู้สึกไม่ปลอดภัยนักแต่เขาก็อยู่ในท่าทีสงบ แม้ว่าอาเธอร์จะไม่ค่อยน่าไว้ใจนักแต่เขาก็ควรลองเสี่ยงดู ผู้ติดตามของอาเธอร์พาวารินมายังห้องที่
ตอนที่ 11 คนหลงแฟน งอนแฟนได้ไม่นานหรอกฉันงอน งอนวารินแล้วจริงๆ เขาไปพูดคุยกับอาเธอร์เพียงลำพังโดยไม่ได้พาฉันไปด้วย! ถึงจะเพราะตอนนั้นฉันออกไปข้างนอกก็เถอะแต่ฉันก็งอนเขามาก! และเกลียดอาเธอร์มากกว่าเดิมด้วย! คราวหน้าถ้าเจอหน้ามันอีกฉันน่าจะกระโดดถีบมันอีกรอบ ฉันหมายมั่นไว้ในใจขณะนั่งหันหลังให้วารินเพื่อเล่นบทงอนแฟน"เลอา เลอาครับ" วารินเรียกพลางสะกิดไหล่ของฉันเบาๆ ฉันสะบัดหน้าและงอนตุ๊บป่องต่อไป วารินหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเริ่มง้อ "ไม่งอนนะครับ ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกเลอาก่อนจะไปเจรจากับคุณอาเธอร์""อย่าพูดชื่อมันให้ฉันได้ยินนะ ฉันเกลียดมัน" ฉันหน้างอ"หึงเหรอครับ? " วารินถามด้วยรอยยิ้มน่ารักและแววตาเป็นประกาย"นี่ฉันงอนอยู่นะ! " ยังจะมาทำหน้าระรื่นอีก รู้น่าว่าดีใจที่เห็นฉันหึงแต่ตอนนี้นายควรง้อฉันก่อนสิ!"ไม่งอนนะครับ ไม่หึงนะครับ ผมรักคุณที่สุดเลย รักคุณคนเดียวเลยนะ" ไม่ว่าเปล่า เขายังเอาศีรษะมาถูกไถไหล่ของฉันอย่างออดอ้อนราวกับลูกแมว ฉันเกร็งตัวเองเพื่อไม่ให้เผลอลูบหัวของวาริน "เลอา..." วารินช้อนตามองพลางเอ่ยเรียกฉันเสียงอ่อนนะ น่ารักฉิบหาย! ในความคิดตัวฉันกำลังลงไปนอนแด่ดิ้นด้วยความตื่นเต
ตอนที่ 64 วารินแปลกไป“ขอบคุณที่ให้ผมได้เจอกับเลอาอีกครั้ง”“แต่คุณ….จะไม่บอกเลอางั้นเหรอ?”“ผมไม่ต้องการให้เลอารู้เรื่องที่เกิดขึ้นทางฝั่งนั้น….เธอจะเสียใจ”“…อย่างไรก็ตามผมหวังว่าคุณจะไม่ทำอะไรเกินเลยกันเลอา”“เลอาก็แฟนฉัน”“ไม่ เธอคือแฟนของผม”“…เราจะเถียงกันทำไมในเมื่อเรา---”“เลอาคือแฟนของผม”“…ก็ได้!”…………จากคำยืนยันจากวาริน ผู้นำผู้ก่อการร้ายอย่างอิระและหน้ากากอีกาได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นสองวันหมอกสีแดงก็ถูกกำจัด เจ้าหน้าที่มุ่งหน้าจับกุมคนร้ายเพื่อคืนความสงบสุข อาจจะใช้เวลานานในการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ทุกอย่างจะต้องถูกจัดการเก็บกวาดในท้ายที่สุดในขณะที่เจ้าหน้าที่ไล่จับกุมผู้มีพลังพิเศษที่ถูกสงสัยว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบแก๊ง DH ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุด้วยเกือบจะถูกจับกุมไปด้วย แต่โชคดีที่พวกเขาได้รับการคุ้มครองจากอาเธอร์ที่ได้รับความดีความชอบที่สามารถกำจัดหมอกแดงได้และยังได้รับการยืนยันจากนายกว่าพวกเขาเป็นพลเมืองที่ถูกบีบให้ต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง พวกเขาจึงยังไม่ได้รับบทลงโทษอะไรที่ใช้พลังเมื่อเลอาได้ทราบถึงเรื่องที่อาเธอร์ช่วยเหลือเธอก็แค่บิดยิ้มออกมาและกลอกตา
ตอนที่ 63 บทสุดท้ายของ ´ปกป้องหัวใจวาริน´ บทสุดท้ายของ ‘ปกป้องหัวใจวาริน’เขาแก้แค้นสำเร็จ เขาทำสำเร็จแล้ววารินยืนนิ่งท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเมืองที่พังทลาย ไฟจากพลังจิตของอิระยังโหมกระหน่ำรอบตัวเขาแต่เจ้าของพลังจิตอย่างอิระได้ตายจากไปแล้ว ด้วยฝีมือของวารินเอง ไฟฟ้าของวารินเริ่มสงบลง ไม่สิ มันราวกับกำลังสูญเสียพลัง แก้แค้นสำเร็จแล้วอย่างไรต่อ? สุดท้ายแล้วคนรักของเขาก็ไม่อาจกลับมาได้ เขาสูญเสียจิตใจที่จะใช้พลังวารินไร้จุดมุ่งหมายที่จะมีชีวิตไปแล้ว เขาเดินข้ามศัตรูคนสุดท้ายของเขา ก้าวข้ามผู้ที่บอกว่ารักเขา โนอาห์ ก้าวข้ามอาเธอร์ที่เคยบอกว่าหลงใหลเขา วารินมองโนอาห์และอาเธอร์เพียงหาตา แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะโอนอ่อนต่อคำบอกรักของพวกเขา แต่แท้จริงแล้วเขาไม่เคยรู้สึกรักเลย แท้จริงแล้วเขาก็แค่หลอกใช้คนพวกนี้แล้วเขาจะทำอะไรต่อไปดีนะ…วารินเร่ร่อนอยู่นาน จนโลกที่วุ่นวายจากการกระทำของอิระเริ่มฟื้นตัว ทุกอย่างกลับมาสงบสุขดั่งเช่นวันวานแต่วารินรู้ว่าเขาไม่อาจเป็นดั่งเช่นวันวานได้“นายอยากได้จุดจบใหม่งั้นเหรอ?”วารินไม่แน่ใจนักว่าใครเป็นพูดกับเขา เขาพยักหน้าตอบกลับแต่ก็คิดใหม่และส่ายหน้า “ไม
ตอนที่ 62 ดวงจันทร์สีแดงวารินสัมผัสได้ถึงสายฟ้าที่แล่นอยู่บนฝ่ามือของเขา ศัตรูอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว หากเป็นตัวเขาเมื่อก่อนที่หวาดกลัวพลังของตัวเองจะต้องไม่กล้าใช้พลังนี้ออกมาอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้วารินรับรู้ดีว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว… ไม่สิ ความจริงแล้วตัวตนอันเย็นชานี้อาจเป็นตัวตนที่เขาพยายามเก็บไว้ในส่วนลึกของจิตใจมาตลอดวารินคิดว่าในตอนนี้เขาสามารถสังหารศัตรูได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลยวารินและอิระยืนเผชิญหน้ากันอยู่ในสนามของโรงเรียน“คุณมาถึงขั้นนี้แล้วคงไม่คิดจะถอยสินะครับ และคงน่าจะเตรียมใจไว้แล้ว” วารินเอ่ย“เตรียมใจอะไรกัน? ถ้าเตรียมใจที่จะกลายเป็นราชาของมนุษย์ยุคใหม่ละก็ใช่” อิระเอ่ยขณะที่ปัดฝุ่นบนตัวที่ติดมาตอนที่ถูกลากออกมาจากโรงยิม “ว่าแต่ทำไมต้องเป็นนายทุกครั้งเลยนะที่ฉันต้องสู้ด้วย และทุกครั้งฉันก็กำจัดนายไม่ได้สักที โชคดีเกินไปแล้ว”วารินอดนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาไม่ได้ ตัวเอกของหนังสือมักถูกโชคชะตาเข้าข้าง แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงเขาไม่รู้สึกว่าถูกโชคชะตาเข้าข้างเลย เพราะการที่ต้องสูญเสียคนรักไปมันเป็นคำสาปมากกว่ามือของทั้งสองข้างของวารินถือปืนไว้ ทันใดนั้นเสียงเสียดสีบางอย่างก็
ตอนที่ 61 ห้องบอสพวกเราถูกย้าย หลายคนที่นี่ ผู้มีพลังจิตคนอื่น- บอส ที่นี่นั่นคือสัญญาณขอความช่วยเหลือสุดท้ายที่ระบบขอความช่วยเหลือของแก๊ง DH ได้รับ ผู้ขอความช่วยเหลือไม่ได้อธิบายสถานการณ์อย่างละเอียดหมายความว่าสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ไม่ค่อยจะดีนัก“ผมพอจะเข้าใจสถานการณ์ได้คร่าวๆ เลยพยายามหนีออกจากที่นี่แล้ว แค่ดูเหมือนจะไม่ทัน” วารินอธิบายอย่างกังวลใจถูกย้าย ผู้มีพลังจิตคนอื่น…. ทันใดนั้นฉันก็นึกถึงผู้หญิงหน้ากากกวางฉันเห็นเมื่อครู่ เธอมีพลังเคลื่อนย้ายไม่ผิดแน่ เธอจะต้องเคลื่อนย้ายคนอื่นๆ ไปรวมกันในที่เดียว เธออะไรบางอย่าง‘บอส ที่นี่’ ในข้อความอาจจะหมายถึงพวกเขาถูกพาไปหาอิระ แล้วอิระทำไปเพื่ออะไรบางอย่างที่ไม่น่าจะดีนัก…คงไม่ใช่แผนอย่างกำจัดศัตรูให้หมดก่อนที่ศัตรูจะได้ตั้งตัวนะ พอคิดแบบนั้นฉันก็มองกำแพงหมอก ยิ่งคิดสีหน้ายิ่งแย่ลงเอาจริงดิ?[มีการแจ้งเตือนจาก ถล่มให้แหลก]การแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ถล่มให้แหลก เนี่ยหมายถึงแอปสื่อสารพิเศษที่พวกเจมส์สร้างขึ้นมานั่นเอง ฉันก็ลืมมันไปเลยเพราะไม่ค่อยได้ใช้ในห้องแช็ตกลุ่มเจมส์: เลอาเจมส์: มีข้อความจากเจ้าคนที่ชื่อลันก
ตอนที่ 60 หมอกแดงคุณต้องการเข้าร่วมก่อนช่วยเหลือหรือไม่?[เข้าร่วม] [ปฏิเสธ]ข้อความจากผู้ขอความช่วยเหลือ : ช่วยด้วย! พวกเราถูกจับเป็นตัวประกัน! (ส่งตำแหน่งที่อยู่)ฉันแค่เข้ามาอวดพลัง : เจ้าจะให้ข้าไปช่วยเหลือเจ้าอย่างไร? นั้นมันกลางเมืองที่รัฐบาลประกาศว่าเป็นเขตอันตรายสูงไม่ใช่รึไง!? และโดยรอบเมืองถูกกองทัพทหารปิดกันเส้นทางไว้หมดแล้ว!ฉันแค่เข้ามาเล่นเกม : ไม่ใช่ว่าเราต้องรอฟังคำสั่งนอกรอบไม่ใช่รึไง ไหงไปอยู่ตรงนั้นได้โลกเริ่มอยู่ยากมากขึ้น : ถึงฉันจะอยู่ใกล้ก็ไปช่วยไม่ได้หรอก…ฉันไม่ได้มีพลังขนาดนั้น!พริกไทยป่น : สมาชิกหลักของแก๊งน่าจะอยู่ไม่ไกลนะ พวกเขาอาจไปช่วยได้สมาชิกวงใน : อันที่จริงหัวหน้ากับหัวหน้าใหญ่ก็อยู่ใกล้ๆ นั่นล่ะพริกไทยป่น : พวกเขาจะไปช่วยเหรอ? (สติกเกอร์ตื้นเต้น)สมาชิกวงใน : ไม่สมาชิกวงใน : หัวหน้าเลออนเล่นเกมอยู่ หัวใหญ่ก็นอนกกแฟนอยู่มะเขือ: !?มะละกอ: !!???อ่านแล้วสัมผัสถึงความไร้ความผิดชอบอย่างมาก ฉันก็เลยต้องยอมออกจากบ้านมาทำงานสักที ก็อยากจะปล่อยให้ทหารหรือไม่ก็หน่วยพิเศษจัดการเองอยู่หรอกแต่ก็ไร้ความรับผิดชอบเกินไป ดูเหมือนว่ากลุ่มแก๊งเล็กๆ ของฉันเหมือน
ตอนที่ 59 สิ่งไม่สำคัญก็ลืมมันไปการใช้ร่างจิตมีประโยชน์ตรงที่ไม่มีใครสังเกตเห็นตัวตนได้ มันเหมาะที่จะใช้สำหรับสังเกตการณ์ ฉันจึงใช้พลังถอดจิตของโนอาห์เพื่อที่จะได้มาสังเกตการณ์การต่อสู้ของวารินและอิระอย่างใกล้ชิด แต่ตอนนี้การต่อสู้เงียบมาสักพักแล้ว ฉันไม่เห็นว่าพวกเขาไปอยู่ส่วนไหนของเมืองที่เสียหายแห่งนี้แล้ว“งั้นคงต้องไปสำรวจรอบๆ ก่อน” ตอนนี้ฉันยังไม่รู้อย่างชัดเจนว่าลูกน้องของอิระซุ่มรอเวลาลงมืออยู่ที่ไหน ถึงจะคาดไว้ว่าพวกนั้นอาจจะกำลังซุ่มอยู่ในมิติขนาดของหน้ากากหมี แต่มันก็ยังไม่มีอะไรมายืนยันอีกทั้งมันค่อนข้างน่าสงสัยที่พวกนั้นยังอยู่เงียบๆ โดยไม่ยอมลงมือทำอะไรเลย อย่างอิระมันจะยอมให้ลูกน้องรออยู่เฉยๆ เพื่อช่วยตัวเองยามสู้กับวารินไม่ไหวเหรอ? ไม่น่าใช่ เจ้านั่นน่าจะสั่งให้ลูกน้องทำลายทุกอย่างที่ความขวางหน้าเพื่อเป้าหมายของตัวเองมากกว่าฉันจึงลองออกไปสำรวจรอบเมืองแต่ก็ไม่พบคนที่น่าจะเป็นคนของอิระ แต่ฉันพบคนธรรมดาแทน พวกเขาอยู่ในเขตที่น่าจะมีการอพยพไปแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะมีคนที่ยังหลงเหลืออยู่และไม่ได้ถูกลูกหลงจากการต่อสู้ของวารินและอิระประชาชนมากมายได้รับความเสียหายจากความวุ่นวาย
ตอนที่ 58 ความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยรู้สึกเหมือนนอนฝันร้ายไปเลย…ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการงัวเงียและพยายามลุกออกจากเตียงที่นุ่มนิ่มเพราะต้องการดื่มน้ำให้หายคอแห้ง พอเดินโซเซไปถึงห้องครัวและหยิบขวดน้ำมาดื่มฉันก็เดินไปนั่งงีบบนโต๊ะโดยที่หน้าหันไปทางหน้าต่าง ในตอนนั้นเองฉันมองออกไปนอกหน้าต่างของห้องครัวฉันรู้สึกไม่คุ้นเคยกับวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างเสียเท่าไหร่เลย วันสิ้นโลกมาถึงเมื่อไหร่กัน?นึกสงสัยว่าข้างบ้านเป็นซากประหลักหักพังตั้งแต่เมื่อไหร่ นึกไปนึกมาพอดื่มน้ำแล้วสมองก็ตื่นเต็มที่และพร้อมประมวลผลและในที่สุดฉันก็จำได้เสียทีว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ฉันถึงกับสำลักน้ำที่กำลังกลืนลงคอแล้วรีบวิ่งไปหน้าบ้านทันทีกวาดสายตามองซากประหลักหักพังครู่หนึ่งก่อนจะเหลือบไปเจอคนที่ตามหาอีกคนยืนอยู่บนตึก อีกคนลอยอยู่บนฟ้า ดูแล้วไม่มีฝ่ายไหนบาดเจ็บเลย ทั้งที่รอบตัวของพวกเขามีสภาพราวกับถูกขีปนาวุธยิงถล่มแค่สองคนนั้นเหรอที่ทำเมืองเละขนาดนี้? การต่อสู้ของผู้มีพลังจิตมันน่ากลัวจริงๆ ว่าแต่กองกำลังพิเศษหายไปไหนทำไมไม่โผล่มาเลยนะ ไม่สิ อย่างอิระคงไม่ยอมให้ใครเข้ามาขัดขวางศึกตัดสินนี้ของเขา มีความเป็นไปได้ว
ตอนที่ 57 ต่อสู้หรือระเบิดเมืองเลอารู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอช็อกที่พบว่าไนต์คลับถูกเผาไม่เหลือซากและกลิ่นอายแห่งความตายรอบตัวหรือไม่ แต่เธอนึกอะไรไม่ออกเลยจริงๆ สิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวของเธอมีเพียง เลออนและคนอื่นๆ ของแก๊ง DH ที่ได้ตายไปแล้วพวกเขาตายแล้ว…มันเป็นความผิดของเธอ? เพราะเธอเองรึเปล่าที่ลากพวกเขาให้มายุ่งกับเรื่องนี้จนพวกเขาต้องถูกฆ่าและเผาอย่างโหดเหี้ยม…สมองของเลอาว่างเปล่า เธอกำลังปฏิเสธสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เธอตัดสินใจถอยหลังและคิดจะวิ่งหนีออกจากตรงนี้ แต่เมื่อหันหลังเธอก็เห็นวารินกำลังเดินโซเซเข้ามาหา…ด้วยร่างที่โชคเลือด“เลอา…ช่วยผมด้วย” เสียงอันแหบแห้งของเขาเอ่ยเรียกเธอเลอายืนนิ่งดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง เธออยากตะโกนเรียกวารินสุดเสียงแต่กลับไม่มีเสียงใดเปล่งออกมาจากลำคอของเธอ เธออยากจะวิ่งไปประคองวารินที่ซวนเซใกล้ล้มลง แต่ขาของเธอไม่ขยับ เธอไม่อยากจะเข้าไปสัมผัสเพราะไม่อยากรับรู้ว่าสิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นเป็นของจริงหรือไม่ถ้ามันเป็นจริง…ไม่ มันต้องเป็นเรื่องโกหก! แต่…มันเหมือนจริงเกินไป“วาริน!” ท้ายที่สุดเลอาก็ทำลายความอ่อนแอและหวาดกลัวในใจทิ้งและรีบเข
ตอนที่ 56 ถูกทำลายDN ไนต์คลับก็เหมือนกับไนต์คลับทั่วไปหลังจากเปิดต้อนรับเหล่าผีเสื้อกลางคืนมาตลอดราตรีมันก็ต้องปิดลงหลังจากฟ้าสว่าง แต่ก็มีผีเสื้อราตรีบางตัวที่ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องหลังจากร้านปิด“คุณเลออน เช้าแล้วครับ” โกลเด้นปลุกคนที่เขาเคารพในความแข็งแกร่งที่กำลังนอนแผ่อยู่บนโซฟาหลังจากดื่มหนักมาเกือบทั้งคืน“อย่ามากวนน่า” เลออนไม่มีทีท่าจะยอมตื่นแต่อย่างใด“ลุกขึ้นมาทำงานครับ”“ฉันทำงานมาตลอดทั้งคืนแล้ว!”การที่คุณไปสังสรรค์กับลูกค้าแล้วดื่มเหล้าของร้านตัวเองทั้งคืนมันเรียกว่างานเหรอครับ? โกลเด้นไม่ได้ถามอย่างในความคิดแต่เขาพูดเรื่องงานขึ้นมาแทน “พวกเรากำลังจะทำความสะอาดร้านใหม่ทั้งร้านครับ อาจจะต้องทำความสะอาดแล้วจัดใหม่เลย เพราะงั้นตื่นขึ้นมาดูแลงานในฐานะเจ้าของร้านด้วย”เลออนตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาสลัดคาบหนุ่มขี้เมาเช้ายันค่ำทิ้งและสวมคาบนักธุรกิจหนุ่มอย่างรวดเร็ว “ฉัน นัดหัวหน้ามาจัดปาร์ตี้ที่นี่ในอาทิตย์หน้า ฉันต้องทำให้ที่นี่ดูดีที่สุดหัวหน้าจะได้รู้ว่าตลอดสี่ปีมานี้ฉันพยายามแค่ไหนเพื่อให้สิ่งที่พวกเราร่วมสร้างกันมาเติบโตอย่างยิ่งใหญ่!”“ครับ!” โกลเด้นตะโกนตอบกลับเสี