อาจกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า หลินเฟยได้อาศัยทุนเดิมที่มั่งคั่งของตัวเองไม่อย่างนั้นแล้ว เขาก็ไม่สามารถข่มขู่จางซินเยว่ได้เช่นกันเมื่อเห็นจางซินเยว่รับปากแล้วนั้นหลินเฟยก็รีบพยักหน้าหงึกหงัก แล้วพูดขึ้นมาว่า"พี่ซินเยว่วางใจได้ ทางลู่หลีไว้เป็นหน้าที่ของผมก็พอ!""จะไม่ให้คุณต้องลำบากใจอะไรอย่างแน่นอน!""ฮึ่ม ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ต่อไปฉันจะไม่ร่วมกับเธออีกแล้ว!"จางซินเยว่ถลึงตาใส่หลินเฟยอย่างดุเดือดเธอผละออกจากอ้อมแขนของหลินเฟย เดินไปข้างหน้าแล้วพูดออกมาหลินเฟยก็ถือว่าพอใจแล้วเช่นกันเขาเดินตามหลังไปอย่างเชื่อฟัง และกลับเข้าไปในรถ"ซินเยว่ ตอนนี้เธอยังปวดท้องอยู่หรือเปล่า?"สวีอิ๋งอิ๋งถามด้วยความเป็นกังวล"ไม่เจ็บแล้วล่ะพี่อิ๋ง""หลังจากที่กลับไปแล้ว ก็ให้หลินเฟยฝังเข็มให้พี่ รักษาอาการหายใจไม่สะดวกให้หายขาด"จางซินเยว่ระงับความรู้สึกแปลกๆ ในใจเอาไว้จากนั้นก็ยิ้มๆ ให้กับสวีอิ๋งอิ๋ง พร้อมกับพูดออกมา"อืม โอเค" สวีอิ๋งอิ๋งพยักหน้า……ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทุกคนก็กลับมาถึงคลินิกและในเวลานี้ถังรั่วเสวี่ย พานเสี่ยวเหลียนรวมถึงซูเสี่ยวโหรวต่างก็กำลังยุ่งอยู่ในครัวเมื่อ
หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในครัวและเริ่มยุ่งกับการเตรียมอาหารอีกครั้ง"หลินเฟย ป้าถังพูดอะไรงั้นเหรอ?""ทำไมพวกคุณสองคนต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ แบบนี้ด้วย?"ในเวลานี้จางซินเยว่ก็เดินออกมาจากคลินิก พร้อมกับซักถามหลินเฟย"ไม่มีอะไรหรอก อาเล็กเข้ามาถามว่าจู่ๆ ทำไมพี่อิ๋งถึงได้มาพักอยู่ในคลินิกของเราก็เท่านั้น"หลินเฟยพูดด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนสี"อ้อ งั้นนายก็รีบเข้ามาดูเร็วเข้า คืนนี้พี่อิ๋งจะนอนที่ไหน?"จางซินเยว่ดึงหลินเฟยเข้าไปในคลินิก แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล"แล้วก็มีพวกเราสามคน...พวกเราจะนอนที่ไหนกันดีล่ะ?""ไม่มีที่เหลือเลยแม้แต่น้อย"สวีอิ๋งอิ๋งยืนอยู่ที่หน้าคลินิก และพูดอย่างลำบากใจขึ้นมาว่า"หลินเฟย ฉันทำให้พวกคุณต้องลำบากหรือเปล่า?""ถ้าอย่างนั้น ฉันไปหาโรงแรมในตัวเมืองพักก่อนก็ได้นะ""ไม่ต้องหรอกพี่อิ๋ง ผมได้จัดการเอาไว้ทั้งหมดแล้ว""คืนนี้ทุกคนจะมีที่นอน"หลินเฟยตบหน้าอกและพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ"งั้นก็ได้ งั้นนายฝังเข็มให้พี่อิ๋งเถอะ ฉันจะไปดูป้าถังสักหน่อย ไม่รู้ว่าทางนั้นจะมีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า"พอพูดจบ จางซินเยว่ก็เดินเข้าไปในห้องครัวทันทีและหลินเฟยก็ป
"พี่อิ๋ง การฝังเข็มครั้งนี้จะแตกต่างออกไปจากครั้งที่แล้ว จำเป็นต้องนวดควบคู่ไปด้วย มันถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น""ทางที่ดีคุณต้องทำใจเอาไว้เนิ่นๆ นะ""แน่นอน ผมไม่ได้คิดอยากจะแต๊ะอั๋งพี่อิ๋งเลยนะ หากพี่ถือสาแล้วละก็ งั้นแค่ฝังเข็มก็พอแล้ว"ก่อนที่หลินเฟยจะฝังเข็ม เขาก็ลังเลและพูดขึ้นมา"นวด?"สวีอิ๋งอิ๋งหายใจถี่ๆ พยักหน้าและพูดตอบรับ"คือว่า... ไม่มีปัญหา ยังไงก็เพื่อการรักษา แค่รักษาให้หาย ฉันก็ไม่แคร์อะไรหรอก""อืมอืม โอเคพี่อิ๋ง อาจจะคันหน่อยนะ""คุณอดทนเอาไว้หน่อยนะ"พอพูดจบ หลินเฟยก็ได้สอดเข็มเงินใกล้ๆ กับบริเวณหน้าอกโดยตรงการฝังเข็มครั้งนี้ เพื่อรักษาอาการอึดอัดที่หน้าอกและหายใจไม่คล่องของสวีอิ๋งอิ๋งรอจนกระทั่งหลินเฟยดึงเข็มเงินออกมาสวีอิ๋งอิ๋งก็ยังคงไม่รู้สึกคันอะไร แต่เมื่อหลินเฟยเริ่มการฝังเข็มรอบที่สองทันทีที่เข็มแรกได้หล่นลงมาสวีอิ๋งอิ๋งก็คันอย่างรุนแรง จนอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญออกมา"ฮือ มันแตกต่างกับการฝังเข็มครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง..."เธอรู้สึกราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าแพร่กระจายจากหัวใจไปยังทุกส่วนของร่างกายอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะปลายหัวใจ มันคันแบบสุดๆ!
"แคกๆ..."จู่ๆ เสียงของจางซินเยว่ก็ดังออกมาจากด้านนอกของประตูไม้"หลินเฟย นายกำลังพูดเพ้อเจ้ออะไรอยู่น่ะ?""ทำไมต่อไปผู้ชายคนนั้นถึงได้มีความสุขกับพี่อิ๋งด้วย?"หัวใจของหลินเฟยเต้นรัว และรีบถอนตาทิพย์ออกมาทันทีเขาเปิดประตูไม้และยิ้มๆ"พี่ซินเยว่ ผมกำลังพูดว่าพี่อิ๋งมีความสามารถ ต่อไปผู้ชายของเธอจะต้องโชคดีอย่างแน่นอน""แล้วพี่อิ๋งมีความสามารถตรงไหนล่ะ?""นายไปฝังเข็มให้พี่อิ๋งไม่ใช่เหรอ? เธอจะมีความสามารถอะไร?"จางซินเยว่ถามด้วยความสงสัย"ก็ต้องมีความสามารถในการทำสวนอยู่แล้วล่ะ เมื่อครู่ตอนที่ฝังเข็ม ผมกับพี่อิ๋งปรึกษาเรื่องสวนผลไม้กันน่ะ?""พี่อิ๋งไม่ต้องให้ผมเข้าไปดูแลเลย เธอดูแลทุกอย่าง ยังเรียกว่ามีความสามารถไม่ได้งั้นเหรอ?"หลินเฟยพูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า"งั้นพี่อิ๋งก็มีความสามารถจริงๆ นั่นแหละ ถ้าเป็นฉัน คนเดียวคงทำไม่ได้หรอกนะ"จางซินเยว่พยักหน้าเห็นด้วย พร้อมกับพูดออกมา"พี่อิ๋งล่ะ? นายฝังเข็มให้เธอเสร็จแล้วเหรอ?""เสร็จแล้วล่ะ กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ข้างใน"หลินเฟยพูดอย่างไม่รู้ตัว"งั้นโอเค กับข้าวทำเสร็จหมดแล้วนะ ฉันไปล้างมือก่อน เดี๋ยวก็เตรียมตัวกินข้าว พี่เสี
"เนาะ ข้าวกล่องหมดแล้ว ถ้าคุณไม่รังเกียจ ข้าวกล่องของฉันให้คุณก็แล้วกัน?"หลิ่วจือจินมองออกว่าหลินเฟยมีความลำบากใจที่ซ่อนอยู่เธอเลยหยิบข้าวกล่องอีกชุดออกมาจากรถ และยื่นส่งให้กับหลินเฟยเธอพกข้าวกล่องมาเองโดยที่ข้างบนยังมีสติกเกอร์รูปการ์ตูนแมวเหมียวสีชมพูติดอยู่อีกด้วยซึ่งมันเป็นแบบเดียวกันกับชุดชั้นในที่เธอใส่ตามปกติคิดไม่ถึงเลยว่า เธอที่อายุมากกว่าถังรั่วเสวี่ยจะชอบสิ่งของน่ารักๆ สไตล์เด็กสาวแบบนี้ด้วย"พี่หลิ่ว พี่ให้ผมกิน แล้วพี่จะกินอะไรล่ะ?"หลินเฟยพูดอย่างเขินอายเล็กน้อยโดยเฉพาะลายแมวน้อยสีชมพูบนกล่องข้าวและมันก็ทำให้หลินเฟยดูน่ารักเล็กน้อยอย่างอธิบายไม่ถูก"พี่หลิ่วไม่หิว ถือว่าลดความอ้วนก็แล้วกัน คุณกินเถอะ"เมื่อสังเกตเห็นสายตาของหลินเฟยที่หยุดชะงักอยู่ที่แมวเหมียวสีชมพูแบบนั้นแล้วหลิ่วจือจินก็กลัวเหลือเกินว่าหลินเฟยจะหัวเราะเยาะเธอจึงพูดด้วยแววตาที่ล่องลอยออกมา"ได้ครับ งั้นก็ต้องขอบคุณพี่หลิ่วมากๆ นะครับ จริงด้วยสิ ตอนนี้วิลล่าตกแต่งไปถึงไหนแล้ว?"หลินเฟยก็ไม่ได้เกรงใจแต่อย่างใด เขาเปิดกล่องอาหาร หยิบตะเกียบสีชมพูที่อยู่ด้านในออกมา และเริ่มกินอย่างเอ
"ป้าถัง หลินเฟยถูกฉันลากกลับมาแล้วค่ะ!""ตอนที่ฉันไป เขากำลังกินข้าวกล่องอยู่ในวิลล่าค่ะ!"หลังจากกลับมาถึงคลินิกแล้วนั้นซูเสี่ยวโหรวก็ปล่อยตัวหลินเฟย ตบมือเบาๆ และพูดอย่างพึงพอใจมาก"เสี่ยวเฟย เสี่ยวโหรวทำอาหารบำรุงให้นายตั้งมากมายแบบนี้นายไม่กิน แต่กลับวิ่งไปกินข้าวกล่องที่วิลล่าเนี่ยนะ?"ถังรั่วเสวี่ยถามด้วยความสับสน"จะเป็นเพราะอะไรไปได้ล่ะคะ?"จางซินเยว่พูดแทรกออกมาอย่างขบขัน "ก็เพราะเขาไม่อยากจะกินผัดแส้วัวน่ะสิ!"เมื่อสวีอิ๋งอิ๋งที่นั่งอยู่มุมโต๊ะมาได้ยินแบบนี้เข้าเธอก็หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย"หลินเฟย ครั้งก่อนสองสามนาทีก็กินผัดแส้วัวจานใหญ่จะสะอาดสะอ้านแบบนั้นได้""ทำไมครั้งนี้คุณไม่อยากจะกินขึ้นมาแล้วล่ะ?"ซูเสี่ยวโหรวพูดด้วยความโกรธ"ฉันยังคิดว่าคุณชอบกินเสียอีก ครั้งนี้ก็เลยตั้งใจผัดเพิ่มถึงสองอันเลยนะ!""จริงด้วย เสี่ยวเฟย ทำไมครั้งนี้ไม่กินแล้วล่ะ?"พานเสี่ยวเหลียนถามด้วยความสงสัย"ผม...เฮ้อ ก็ผมไม่จำเป็นต้องกินมันเลยนี่นา ผมแข็งแรงจะตายไป กินมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร"หลินเฟยพูดด้วยความขมขื่น"มันจะไม่มีประโยชน์ได้อย่างไร กินแล้วจะต้องบำรุงร่างกายอย่างแน่นอ
จากนั้นเขาก็ยิ้มๆ และพูดออกมาว่า"ได้ครับ งั้นพรุ่งนี้อาเล็กไปซื้อกับข้าวกับผมนะครับ"หลินเฟยกลอกตา และตอบตกลงในทันทีเมื่อเห็นว่าหลินเฟยตอบตกลง ถังรั่วเสวี่ยก็แอบมีความสุขในใจขึ้นมาและเริ่มครุ่นคิดว่า พรุ่งนี้จะใส่ชุดชั้นในตัวไหนออกไปดี……ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ทานอาหารเสร็จจากนั้นถังรั่วเสวี่ยก็ได้พาสาวๆ ไปรดน้ำผักที่ในสวนส่วนหลินเฟยก็อุ้มลูกเสือสองสามตัวเอาไว้ในอ้อมแขน และอาบแดดอยู่ที่ประตูใหญ่อย่างเกียจคร้านทันใดนั้นก็มีรถจี๊ปสีดำหลายคันปรากฏขึ้นและมันก็ค่อยๆ หยุดอยู่หน้าคลินิกและประตูรถก็เปิดออกหวางเจิงกระโดดลงจากรถมาเป็นคนแรกพร้อมพูดกับชายชราที่อยู่ในรถอย่างกระตือรือร้น"คุณปู่คะ หลินเฟยพักอยู่ที่นี่ล่ะค่ะ""หมู่บ้านเถาฮวา มีทั้งภูเขาและแม่น้ำ ทิวทัศน์สวยงามมากเลยนะคะ""หมู่บ้านเถาฮวา...ไม่เลว ไม่เลว เป็นสถานที่พักในยามเกษียณที่ดีจริงๆ""มิน่าล่ะ น้องหลินที่น่าทึ่งจะพักอยู่ที่นี่"คุณท่านหวางลงจากรถ และกวาดตามองไปรอบๆภาพที่ผ่านเข้ามาในสายตาก็คือภูเขาเขียวและน้ำใส บรรยากาศรื่นรมย์ และอากาศบริสุทธิ์เป็นอย่างมากอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผ่อนคลาย และพูดอย่าง
"คุณท่านหวางครับ ของขวัญนี้มีค่ามากเกินไป ไม่ได้ ผมรับเอาไว้ไม่ได้หรอกนะครับ!"เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้ว หลินเฟยก็อดไม่ได้ที่ฝ่ามือของเขาจะสั่นเทาขึ้นมาจากนั้นก็รีบคืนกล่องดำเล็กๆ นี้กลับไปทันทีแม้ว่าหลินเฟยจะไม่เคยได้ยินหรือรู้จักเขตวิลล่าฮู้หลงซานมาก่อนแต่แค่ได้ยินชื่อ หลินเฟยก็สามารถคาดเดาได้แล้วว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจะต้องเป็นคนสำคัญอันดับต้นๆ เช่นเดียวกับคุณท่านหวางอย่างแน่นอน!หลินเฟยรู้ว่าตัวเองไม่มีตำแหน่งทางราชการและเป็นแค่ประชาชนคนธรรมดา จึงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปอยู่ในสถานที่แบบนั้นได้และหนังสือสีน้ำเงินเล่มเล็กน้อย ก็เท่ากับป้ายอภัยโทษอย่างไงอย่างงั้น!หลินเฟยคิดทบทวนตามหลักเหตุผลว่า ตัวเองเป็นแค่คนที่รักษาโรคได้เท่านั้นเมื่อพิจารณาตามความเป็นจริงแล้ว เขาไม่สามารถรับของตอบแทนที่แสนจะพิเศษแบบนี้ได้แต่อย่างใด!"น้องหลิน ไม่ต้องเกรงใจฉันขนาดนั้นหรอกนะ?""วิลล่าหลังนั้นได้เปลี่ยนเป็นชื่อของนายแล้ว""นายรับมันเอาไว้เถอะ อีกอย่าง ต่อไปเวลาชวนนายไปเที่ยวเมืองตี้ตู นายก็ต้องมีสถานที่ให้พักอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?"คุณท่านหวางโบกมือและพูดด้วยรอยยิ้ม"จริงด้วย สิ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได