"ไอ้โย่ว...ฉันขอโทษจริงๆ น้องชาย ฉัน...ฉัน..."เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว เจ้าของร้านก็ตื่นตกใจด้วยความอับอายเป็นอย่างยิ่งจากนั้นก็รีบจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยเธอคิดอยากจะหากระดาษทิชชูมาช่วยหลินเฟยเช็ดให้สะอาดแต่เธอก็ยังเป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกเดินก็ไม่ใช่ ไม่เดินก็ไม่ใช่ ทั้งบีบหัวใจและรู้สึกผิด จนเดินเป็นวงกลมด้วยความร้อนใจอยู่รอบๆ แบบนั้น"หลินเฟย ฉันเช็ดเสื้อให้คุณสักหน่อยดีกว่า"เมื่อเห็นแบบนั้นแล้ว จางซินเยว่ก็รีบหยิบกระดาษทิชชูที่อยู่ในรถออกมาเนื่องจากเธอเข้าใจหลินเฟยผิดดังนั้นเธอก็เลยรู้สึกผิดและเดินเข้าไปเช็ดหลังให้กับหลินเฟยหลินเฟยกำลังยุ่งอยู่กับการช่วยเด็ก จึงไม่มีเวลาที่จะพูดตอบจางซินเยว่"แคกๆ...อุแว้..."ทันใดนั้น ด้วยการตบเบาๆ ที่ต่อเนื่องของหลินเฟยเด็กน้อยก็ได้พ่นเนื้อผลไม้ขาวๆ ออกมาจากปากได้ในที่สุดจากนั้น ใบหน้าของเด็กก็ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติการหายใจก็ไม่ลำบากอีกต่อไป"โอเคแล้วนะเถ้าแก่เนี้ย ลูกของคุณไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ""ตอนนี้เด็กยังเล็กเกินไป กินของแข็งๆ ไม่ได้หรอกนะ""ต่อไปคุณต้องจำเอาไว้นะ อย่าได้ป้อนอาหารอย่างเช่นผลไ
"ถ้าพี่รู้สึกผิดจริงๆ งั้นพี่ก็รับปากอะไรผมสักเรื่องสิ ถือว่าเป็นการชดเชยก็แล้วกัน"หลินเฟยกลอกตา พร้อมพูดด้วยแววตาที่แสนจะเจ้าเล่ห์"เรื่องอะไร? นายพูดมาสิ ขอแค่ฉันทำได้ ฉันก็จะรับปากนาย"จางซินเยว่พยักหน้าและตอบรับในทันที"เดี๋ยวขึ้นรถ ค่อยบอกคุณก็แล้วกัน""เรามาคุยเรื่องที่จะเพิ่มออเดอร์การสั่งซื้อต้นกล้ากับเจ้าของร้านกันเถอะ"หลินเฟยขยิบตา พร้อมกับพูดออกมา"อ้อ งั้นเดี๋ยวขึ้นรถค่อยพูดก็แล้วกัน"จางซินเยว่รู้สึกอยู่เสมอว่าหลินเฟยไม่ได้มีเจตนาที่ดีแต่เธอก็ไม่ถือสาอะไรด้วยเช่นกันในเวลานี้ เด็กน้อยที่กินนมเสร็จก็ได้ผล็อยหลับไปแล้วเจ้าของร้านได้เดินออกมาจากร้านเพียงลำพังโดยที่เธอยังถือชามผลไม้ขนาดใหญ่ที่ล้างเรียบร้อยแล้วออกมาอีกด้วยเธอยังคงพูดขอบคุณด้วยสีหน้าที่ซาบซึ้งใจอยู่เหมือนเช่นกัน"น้องชาย สาวน้อย อย่าได้ยืนอยู่หน้าประตูเลย พวกคุณรีบเข้ามาพักผ่อนเถอะ กินผลไม้เสียหน่อย""ขอบคุณครับเถ้าแก่เนี้ย" หลินเฟยก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกันเขาเดินเข้าไปข้างในทันที พร้อมกับหาเก้าอี้เตี้ยมานั่งหยิบลูกแพร์ขึ้นมาจากชามผลไม้แล้วกัดลงไปหนึ่งคำจางซินเยว่และสวีอิ๋งอิ๋งไม่สามารถบอก
"เถ้าแก่เนี้ย เมื่อครู่ผมได้พูดเอาไว้แล้ว""การช่วยชีวิตลูกของคุณมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น คุณอย่าได้เก็บมันมาใส่ใจเลยนะ""ของซื้อของขาย อะไรที่ควรจ่าย ก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว""คุณลดให้ผมตั้งสองล้านห้า เกรงว่าจะไม่มีกำไรแล้วล่ะ""ถ้าคุณไม่รับเงิน งั้นผมก็จะไม่ซื้อแล้วนะ"หลินเฟยพูดอย่างไม่พอใจออกมา"ไม่ได้ ไม่ได้ น้องชาย คุณไม่ซื้อฉันก็จะไม่โกรธหรอกนะ""ฉันมีแค่ลูกคนเดียวเท่านั้น ชีวิตของลูกสำคัญกว่าสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น...""คุณช่วยลูกของฉันเอาไว้ และยังให้ออเดอร์การสั่งซื้อที่มากขนาดนี้อีก ฉันซาบซึ้งแทบไม่ทัน แล้วจะยังให้คุณจ่ายเงินอีกทำไม?""อีกอย่าง แม้คุณจะให้เงินเจ็ดล้านห้ากับฉัน ฉันก็ยังสามารถทำเงินได้อีกสองล้านห้านะ ไม่ขาดทุนอะไรเลย!"เจ้าของร้านยังคงยืนกรานต่อไป"คือว่า...พี่ซินเยว่ พี่อิ๋ง พวกคุณคิดอย่างไร?"เมื่อดูจากสถานการณ์แล้วหลินเฟยจึงทำได้เพียงหันไปสอบถามความคิดเห็นของพวกเธอทั้งสองคน"หลินเฟย ในเมื่อเถ้าแก่เนี้ยอยากจะตอบแทนน้ำให้ของคุณ และเราก็ขาดต้นกล้าอยู่พอดี งั้นก็ตอบตกลงไปเถอะนะ""อีกอย่าง ต่อไปเรายังต้องซื้อต้นกล้าเพิ่มอีกนะ""เถ้าแก่เนี้ยมีโอก
หลินเฟยพูดอย่างหน้าด้านหน้าทนก่อนที่หลินเฟยจะได้พูดต่อไปสีหน้าของจางซินเยว่ก็ดูจะไม่พอใจขึ้นมาแล้วเธอบุ้ยๆ ปาก พร้อมกับถามขึ้นมาว่า"อีตาบ้าหลินเฟย นายไม่เคยพาฉันกลับไปนอนที่คลินิกเสียด้วยซ้ำ""งั้นนอนกับเธอมีความสุข หรือว่านอนกับฉันมีความสุขกันแน่ล่ะ?""เอ่อ ก็ต้องนอนกับพี่ซินเยว่อยู่แล้วถึงจะมีความสุข หน้าอกของพี่ใหญ่กว่าเธอ บั้นท้ายก็งอนกว่านิดหน่อยด้วย ขาก็ยาว ผิวก็ดี และคนก็นิสัยดีอีกด้วย…"ในสถานการณ์แบบนี้ หลินเฟยสามารถแบ่งแยกได้ชัดเจนอยู่แล้วจากนั้นก็พูดพร่ำอยู่ไม่หยุด"หยุด หยุดเลย มันดูปลอมเกินไป ทั้งๆ ที่ลู่หลีไม่ได้ด้อยไปกว่าฉันสักเท่าไหร่ ไหนเลยจะโอเวอร์ขนาดนั้น"จางซินเยว่กลอกตามองบนให้กับหลินเฟย ท้ายที่สุดก็ไม่ได้โกรธมากขนาดนั้นแล้วจากนั้นก็พูดถามต่อไปว่า"แล้วสิ่งเหล่านี้ที่นายพูดมา มันเกี่ยวกับเรื่องที่นายจะให้ฉันรับปากเธออย่างไรล่ะ?""เกี่ยวข้องแน่นอนอยู่แล้ว"หลินเฟยถูมือไปมาอย่างรู้สึกผิด พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า"พี่ซินเยว่ คืนนี้พี่ก็จะพักอยู่ที่คลินิกเพื่อนอนกับผมด้วยไม่ใช่เหรอ คืนนี้ลู่หลีเธอก็จะกลับมา พวกคุณ…""หยุด!" จางซินเยว่สังเกตเห็นว่ามีบ
อาจกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า หลินเฟยได้อาศัยทุนเดิมที่มั่งคั่งของตัวเองไม่อย่างนั้นแล้ว เขาก็ไม่สามารถข่มขู่จางซินเยว่ได้เช่นกันเมื่อเห็นจางซินเยว่รับปากแล้วนั้นหลินเฟยก็รีบพยักหน้าหงึกหงัก แล้วพูดขึ้นมาว่า"พี่ซินเยว่วางใจได้ ทางลู่หลีไว้เป็นหน้าที่ของผมก็พอ!""จะไม่ให้คุณต้องลำบากใจอะไรอย่างแน่นอน!""ฮึ่ม ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ต่อไปฉันจะไม่ร่วมกับเธออีกแล้ว!"จางซินเยว่ถลึงตาใส่หลินเฟยอย่างดุเดือดเธอผละออกจากอ้อมแขนของหลินเฟย เดินไปข้างหน้าแล้วพูดออกมาหลินเฟยก็ถือว่าพอใจแล้วเช่นกันเขาเดินตามหลังไปอย่างเชื่อฟัง และกลับเข้าไปในรถ"ซินเยว่ ตอนนี้เธอยังปวดท้องอยู่หรือเปล่า?"สวีอิ๋งอิ๋งถามด้วยความเป็นกังวล"ไม่เจ็บแล้วล่ะพี่อิ๋ง""หลังจากที่กลับไปแล้ว ก็ให้หลินเฟยฝังเข็มให้พี่ รักษาอาการหายใจไม่สะดวกให้หายขาด"จางซินเยว่ระงับความรู้สึกแปลกๆ ในใจเอาไว้จากนั้นก็ยิ้มๆ ให้กับสวีอิ๋งอิ๋ง พร้อมกับพูดออกมา"อืม โอเค" สวีอิ๋งอิ๋งพยักหน้า……ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทุกคนก็กลับมาถึงคลินิกและในเวลานี้ถังรั่วเสวี่ย พานเสี่ยวเหลียนรวมถึงซูเสี่ยวโหรวต่างก็กำลังยุ่งอยู่ในครัวเมื่อ
หลังจากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในครัวและเริ่มยุ่งกับการเตรียมอาหารอีกครั้ง"หลินเฟย ป้าถังพูดอะไรงั้นเหรอ?""ทำไมพวกคุณสองคนต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ แบบนี้ด้วย?"ในเวลานี้จางซินเยว่ก็เดินออกมาจากคลินิก พร้อมกับซักถามหลินเฟย"ไม่มีอะไรหรอก อาเล็กเข้ามาถามว่าจู่ๆ ทำไมพี่อิ๋งถึงได้มาพักอยู่ในคลินิกของเราก็เท่านั้น"หลินเฟยพูดด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนสี"อ้อ งั้นนายก็รีบเข้ามาดูเร็วเข้า คืนนี้พี่อิ๋งจะนอนที่ไหน?"จางซินเยว่ดึงหลินเฟยเข้าไปในคลินิก แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล"แล้วก็มีพวกเราสามคน...พวกเราจะนอนที่ไหนกันดีล่ะ?""ไม่มีที่เหลือเลยแม้แต่น้อย"สวีอิ๋งอิ๋งยืนอยู่ที่หน้าคลินิก และพูดอย่างลำบากใจขึ้นมาว่า"หลินเฟย ฉันทำให้พวกคุณต้องลำบากหรือเปล่า?""ถ้าอย่างนั้น ฉันไปหาโรงแรมในตัวเมืองพักก่อนก็ได้นะ""ไม่ต้องหรอกพี่อิ๋ง ผมได้จัดการเอาไว้ทั้งหมดแล้ว""คืนนี้ทุกคนจะมีที่นอน"หลินเฟยตบหน้าอกและพูดขึ้นมาอย่างมั่นใจ"งั้นก็ได้ งั้นนายฝังเข็มให้พี่อิ๋งเถอะ ฉันจะไปดูป้าถังสักหน่อย ไม่รู้ว่าทางนั้นจะมีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า"พอพูดจบ จางซินเยว่ก็เดินเข้าไปในห้องครัวทันทีและหลินเฟยก็ป
"พี่อิ๋ง การฝังเข็มครั้งนี้จะแตกต่างออกไปจากครั้งที่แล้ว จำเป็นต้องนวดควบคู่ไปด้วย มันถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น""ทางที่ดีคุณต้องทำใจเอาไว้เนิ่นๆ นะ""แน่นอน ผมไม่ได้คิดอยากจะแต๊ะอั๋งพี่อิ๋งเลยนะ หากพี่ถือสาแล้วละก็ งั้นแค่ฝังเข็มก็พอแล้ว"ก่อนที่หลินเฟยจะฝังเข็ม เขาก็ลังเลและพูดขึ้นมา"นวด?"สวีอิ๋งอิ๋งหายใจถี่ๆ พยักหน้าและพูดตอบรับ"คือว่า... ไม่มีปัญหา ยังไงก็เพื่อการรักษา แค่รักษาให้หาย ฉันก็ไม่แคร์อะไรหรอก""อืมอืม โอเคพี่อิ๋ง อาจจะคันหน่อยนะ""คุณอดทนเอาไว้หน่อยนะ"พอพูดจบ หลินเฟยก็ได้สอดเข็มเงินใกล้ๆ กับบริเวณหน้าอกโดยตรงการฝังเข็มครั้งนี้ เพื่อรักษาอาการอึดอัดที่หน้าอกและหายใจไม่คล่องของสวีอิ๋งอิ๋งรอจนกระทั่งหลินเฟยดึงเข็มเงินออกมาสวีอิ๋งอิ๋งก็ยังคงไม่รู้สึกคันอะไร แต่เมื่อหลินเฟยเริ่มการฝังเข็มรอบที่สองทันทีที่เข็มแรกได้หล่นลงมาสวีอิ๋งอิ๋งก็คันอย่างรุนแรง จนอดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญออกมา"ฮือ มันแตกต่างกับการฝังเข็มครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง..."เธอรู้สึกราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าแพร่กระจายจากหัวใจไปยังทุกส่วนของร่างกายอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะปลายหัวใจ มันคันแบบสุดๆ!
"แคกๆ..."จู่ๆ เสียงของจางซินเยว่ก็ดังออกมาจากด้านนอกของประตูไม้"หลินเฟย นายกำลังพูดเพ้อเจ้ออะไรอยู่น่ะ?""ทำไมต่อไปผู้ชายคนนั้นถึงได้มีความสุขกับพี่อิ๋งด้วย?"หัวใจของหลินเฟยเต้นรัว และรีบถอนตาทิพย์ออกมาทันทีเขาเปิดประตูไม้และยิ้มๆ"พี่ซินเยว่ ผมกำลังพูดว่าพี่อิ๋งมีความสามารถ ต่อไปผู้ชายของเธอจะต้องโชคดีอย่างแน่นอน""แล้วพี่อิ๋งมีความสามารถตรงไหนล่ะ?""นายไปฝังเข็มให้พี่อิ๋งไม่ใช่เหรอ? เธอจะมีความสามารถอะไร?"จางซินเยว่ถามด้วยความสงสัย"ก็ต้องมีความสามารถในการทำสวนอยู่แล้วล่ะ เมื่อครู่ตอนที่ฝังเข็ม ผมกับพี่อิ๋งปรึกษาเรื่องสวนผลไม้กันน่ะ?""พี่อิ๋งไม่ต้องให้ผมเข้าไปดูแลเลย เธอดูแลทุกอย่าง ยังเรียกว่ามีความสามารถไม่ได้งั้นเหรอ?"หลินเฟยพูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า"งั้นพี่อิ๋งก็มีความสามารถจริงๆ นั่นแหละ ถ้าเป็นฉัน คนเดียวคงทำไม่ได้หรอกนะ"จางซินเยว่พยักหน้าเห็นด้วย พร้อมกับพูดออกมา"พี่อิ๋งล่ะ? นายฝังเข็มให้เธอเสร็จแล้วเหรอ?""เสร็จแล้วล่ะ กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ข้างใน"หลินเฟยพูดอย่างไม่รู้ตัว"งั้นโอเค กับข้าวทำเสร็จหมดแล้วนะ ฉันไปล้างมือก่อน เดี๋ยวก็เตรียมตัวกินข้าว พี่เสี
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได