"หือ? แต่... ตอนเช้า หลินเฟยยังบอกว่าคุณต่างหากที่เป็นแฟนของเขาไม่ใช่เหรอ?"สวีอิ๋งอิ๋งพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะเข้าใจ"ฉันก็เป็นแฟนของเขาเหมือนกัน แต่ว่าพี่อิ๋ง คนคนนี้ลามกจกเปรตจะตายไป แฟนของเขามีเยอะมาก ฉันและจ้าวลู่ลู่เป็นเพียงหนึ่งในนั้นก็เท่านั้นเอง"จางซินเยว่ถอนหายใจและอธิบายออกมา"หือ?" สวีอิ๋งอิ๋งยิ่งสับสนมากขึ้น เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ในเมื่อตอนนี้หลินเฟยมีแฟนสาวที่น่าทึ่งอย่างจางซินเยว่อยู่แล้ว แต่ทำไมยังไม่พอใจ และยังจะไปยุ่มย่ามกับผู้หญิงข้างนอกอีกและสิ่งที่ทำให้เธอยิ่งไม่เข้าใจไปมากกว่านั้นก็คือ ในเมื่อจางซินเยว่รู้ว่าหลินเฟยมีผู้หญิงมากมายอยู่ข้างกายแบบนี้แล้วแต่เธอก็ยังยอมเป็นแฟนของเขา มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆแต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้เธอก็ทำได้เพียงแค่คิดอยู่ในใจเพียงแค่นั้น ไม่สามารถพูดออกมาได้"หลินเฟย ในเมื่อชุดชั้นในพวกนั้นคุณซื้อให้แฟนสาว งั้นฉันซื้อเองสักสองสามชุดจะดีกว่านะ"หลังจากสวีอิ๋งอิ๋งพูดกับหลินเฟยเสร็จ เธอก็หันมาพูดกับจางซินเยว่ว่า"ซินเยว่ คุณเข้าไปช่วยฉันเลือกสักสองสามชุดได้หรือเปล่า""ไม่มีปัญหา พี่อิ๋ง" จางซินเยว่ยังคงรู้
"ฉันเป็นคนที่นี่ แต่ฉันอยู่ในเมืองตลอด เลยไม่ค่อยได้มาในตัวอำเภอสักเท่าไหร่ คุณไม่เคยเห็นฉันก็เป็นปกติ"จางซินเยว่ตอบแบบขอไปที"แบบนี้นี่เอง คนในเมืองแต่กลับมาซื้อชุดชั้นในในตัวเมืองเล็กๆ แบบนี้ ช่างคิดไม่ถึงเลยจริงๆ"ไป๋เจี๋ยหันมามองสวีอิ๋งอิ๋งแวบหนึ่ง พร้อมกับถามขึ้นมาว่า"แล้วสาวสวยคนนี้ล่ะ? คุณก็เป็นคนที่นี่ด้วยหรือเปล่า?""อืม ฉันก็เป็นคนที่นี่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าฉันไปเรียนหนังสือที่ต่างจังหวัดหลายปี ปีนี้เพิ่งจะเรียนจบ เลยไม่ค่อยได้เข้ามาในตัวอำเภอสักเท่าไหร่ นี่เป็นครั้งแรกที่มาร้านของคุณ"สวีอิ๋งอิ๋งตอบอย่างสุภาพ"โย่ว มองไม่ออกเลยจริงๆ สาวสวยคนนี้จะเป็นนักศึกษาอีกด้วย ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!""ถ้าตอนนั้นครอบครัวของฉันไม่ได้ยากจน ไม่แน่ว่าบางทีตอนนี้ฉันก็อาจจะเป็นนักศึกษาคนหนึ่งก็ได้ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องขายของอยู่ในอำเภอแบบนี้หรอก"ไป๋เจี๋ยพูดราวกับว่าเธอกำลังอิจฉาอยู่แต่ดวงตากลับเปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที!พอพูดจบ กลุ่มผู้หญิงก็ได้ขึ้นมาถึงชั้นสองแล้วและสิ่งที่คุ้มค่าต่อการกล่าวถึงก็คือสไตล์ชุดชั้นในของชั้นสองนั้นดีกว่าชั้นหนึ่งมากจริงๆ!หนึ่งในจำนวนนั้นยังมีแบรนด์
"ส่วนจุดสองจุดที่หน้าอกก็คันมาก แค่เสื้อผ้าเสียดสีนิดหน่อยก็คันแบบสุดๆ แล้ว""พี่ช่วยตรวจดูหน่อยสิว่า มีตรงไหนที่ผิดปกติไปหรือเปล่า?""แคกๆ...ไม่เป็นไรหรอกคุณหวาง""อาการพวกนี้เป็นผลข้างเคียงตามปกติของการขยายหน้าอกอยู่แล้ว""หากต่อไปขยายหน้าอกอีก ประจำเดือนก็จะมาก่อนแบบนี้แหละ""ยาต้มเมื่อวานมีผลทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น ดังนั้น ดังนั้น คุณก็เลยรู้สึกคันที่หน้าอกน่ะ"หลินเฟยอธิบายอย่างลำบากใจ"ฮือ...ที่แท้ก็ไม่มีอะไร ฉันตกใจแทบตาย"หวางเจิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก"จริงด้วยสิพี่หลิน ยังมีอีกเรื่องที่ฉันต้องบอกพี่""ฉันและคุณปู่จะกลับไปเมืองตี้ตูวันพรุ่งนี้แล้วนะ""ตอนบ่ายฉันและคุณปู่จะไปเยี่ยมพี่ที่นอกเมืองนะ""ได้สิ ความจริงแล้ว หมู่บ้านเถาฮวาก็มีทิวทัศน์ที่สวยงามมากเลยล่ะ""คงจะดีอยู่ไม่น้อย หากจะให้คุณท่านหวางเข้ามาเยี่ยมชมสักหน่อย"หลินเฟยตอบด้วยรอยยิ้ม"แค่ดูทิวทัศน์อย่างนั้นเหรอ ฉันจะกลับแล้วนะ หรือว่าพี่จะไม่ให้ของขวัญอะไรฉันสักหน่อย?"หวางเจิงพูดอย่างทะเล้น"ของขวัญ... ไม่มีปัญหา ตอนบ่ายเมื่อคุณมา ผมค่อยมอบของขวัญให้ก็แล้วกันนะ"หลินเฟยกลอกตา และนึ
"คุณผู้ชายท่านนี้ ฉันเป็นแค่พนักงานร้านคนหนึ่งเท่านั้น เราสองคนไม่ได้มีความแค้นต่อกัน ทำไมฉันจะต้องโกหกคุณด้วยล่ะ?""เมื่อกี้คุณผู้หญิงสองท่านนั้นออกไปแล้วจริงๆ""คุณต้องไม่ทันสังเกตเห็นอย่างแน่นอน""นอกจากนี้ ฉันขอย้ำอีกครั้งนะคะ ร้านเราจำหน่ายของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง หากไม่มีผู้หญิงมาด้วย ผู้ชายห้ามเข้าไปข้างในค่ะ เชิญคุณออกไปเถอะนะคะ!"เมื่อเห็นว่าหลินเฟยต้องการจะบุกเข้าไปพนักงานเคาน์เตอร์สาวก็เดินเข้ามาและเหยียดแขนออกเธอยืดหน้าอกขึ้นมาเพื่อขวางหลินเฟยเอาไว้"หลีกไป ผมไม่มีเวลาว่ามาต่อปากต่อคำกับคุณหรอกนะ!"เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ หลินเฟยก็ยิ่งสงสัยว่าจางซินเยว่และสวีอิ๋งอิ๋งที่อยู่ในร้านจะต้องเกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอนไม่มีเวลามาสนใจอะไรทั้งนั้นและเขาก็เหวี่ยงเธอออกไปทันที"โอ๊ย...ช่วยด้วย!""ทุกคนรีบเข้ามาดูเร็วเข้า ผู้ชายลามกคนนี้บุกเข้าไปในร้านขายชุดชั้นในอย่างหน้าไม่อาย ความคิดชั่วร้ายมาก!"จริงๆ แล้ว หลินเฟยไม่ได้ออกแรงมากนักแต่พนักงานสาวกลับล้มลงไปที่พื้นโดยตรงจากนั้นก็ดึงขากางเกงของหลินเฟย พร้อมตะโกนเสียงดังออกมา!เสียงของเธอดังสนั่นไปทั่วและมันก็ดึง
เขาชี้ไปที่หลังของหลินเฟยด้วยความไม่พอใจ และตะโกนบอกผู้ชายหัวล้านที่อยู่ตรงกลางคนนั้นจ้าวเทียนหู่ไม่ขยับเขยื้อน และมองแผ่นหลังของหลินเฟยด้วยความสงสัยดูเหมือนว่าเขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวตนของหลินเฟยอยู่"พี่หู่คะ เขามาตามหาผู้หญิงสองคนนั้น…""ในตัวอำเภอของเรา ปกติแล้วคนใหญ่คนโตจะไม่เข้ามานะคะ"พนักงานเคาน์เตอร์สาวที่เข้ามาขวางหลินเฟยเอาไว้คนนั้นเมื่อเห็นจ้าวเทียนหู่เดินเข้ามา เธอก็รีบกดลงให้ต่ำลงและเดินเข้ามาหาจ้าวเทียนหู่"โอเค ฉันรู้แล้วล่ะ"จากนั้นจ้าวเทียนหู่ถึงได้พูดกับชายวัยกลางคนที่ถูกทุบตีเมื่อสักครู่นี้"อดทนเอาไว้สักหน่อยเถอะ อย่าลืมสิว่าเรามาซื้อสินค้ากัน หลังกจากสินค้าถึงมือแล้ว ฉันจะให้คนไปสั่งสอนมันเพื่อระบายความแค้นของแกก็แล้วกัน เรื่องจะได้ไม่บานปลายไง""คือ…ครับ พี่หู่"ชายวัยกลางคนที่ถูกทุบตี แม้จะไม่พอใจอยู่เล็กน้อยแต่เขาก็ยังคงรีบพยักหน้าและตอบรับกลับไปจากนั้นกลุ่มคนก็เดินขึ้นไปชั้นสองโดยตรงหลินเฟยรู้สึกอย่างคลุมเครือว่า จุดประสงค์ที่ชายวัยกลางคนทั้งห้าคนเข้ามานั้น มันไม่บริสุทธิ์เลยแม้แต่น้อยเมื่อเห็นพวกเขาเดินขึ้นไปบนชั้นสอง หลินเฟยก็คิดจะย
"ถุย พวกแกก็แค่เห็บไรเน่าๆ เท่านั้นเอง ยังมาเรียกตัวเองว่าถ้ำเสืออีก?""ช่างหน้าด้านหน้าทนเสียจริงๆ?!"หลินเฟยไม่แยแส ทันทีที่คำพูดจบลง หลินเฟยก็ชกไปที่ใบหน้าของจ้าวเทียนหู่ในทันที!"แม่งเอ๊ย!""ยังกล้าที่จะลงไม้ลงมือกับฉันอีก?"จ้าวเทียนหู่ไม่มีเวลาหลบเลี่ยงเลยแม้แต่น้อย และหมัดนี้ ก็ทำให้เขาทั้งโกรธและตกตะลึงเป็นอย่างมาก!ทันทีที่โบกมือ เขาก็กำชับลูกน้องที่อยู่ด้านหลังอีกสี่คนว่า"จัดการกับเขาซะ อย่าได้ให้มีชีวิตรอด!""ครับพี่หู่!"ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังทั้งสี่คนรีบเดินเข้ามาล้อมหลินเฟยเอาไว้ทันที"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ทางสวรรค์ดีๆ มีให้ไม่เดิน แต่กลับบุกเข้ามาในนรกได้เสียนี่!""รอความตายไปเถอะ!"โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายวัยกลางคนที่ถูกหลินเฟยชกหน้าไปเมื่อครู่นี้ด้วยเขาหยิบมีดสั้นออกมาจากอ้อมแขน และเล็งไปที่ลำคอของหลินเฟยทันที!เมื่อดูจากท่าทางแบบนี้แล้ว เขาคงคิดที่จะให้มีดปลิดชีวิตหลินเฟยอย่างแน่นอน!"ใครไม่อยากตาย ก็รีบไสหัวออกไปซะ!"หลินเฟยตะคอกเสียงดัง วางท่าการต่อสู้และหมัดทั้งสองข้างก็กระหน่ำรัวๆ อยู่อย่างไม่หยุดหย่อนเสียงโหยหวนได้ดังสนั่นไปทั่วเผยให้เป็นหมัด
จากนั้นเขาก็ได้บอกเล่าเหตุการณ์ทางนี้ให้จ้าวเทียนหลงฟังอย่างคร่าวๆ"อะไรนะ? มือและเท้าของแกหักหมดเลยเหรอ!""ไป๋เจี๋ยล่ะ? เธอบอกว่าสินค้าปลอดภัยไม่ใช่เหรอ?!""ได้ ได้ หู่จื่อแกรอเดี๋ยว พี่จะพาคนไปแก้แค้นให้นายเดี๋ยวนี้!"ปัง จ้าวเทียนหลงวางสายโทรศัพท์ด้วยความโกรธและรีบพาคนมาที่นี่ทันที!จ้าวเทียนหลงถือว่าเป็นอันธพาลใหญ่ประจำเมืองเทียนหวาก็ว่าได้ในตอนนี้น้องชายของตัวเองถูกทุบตีจนกลายเป็นคนพิการไปแล้วแน่นอนว่าเขาก็จะไม่ปล่อยหลินเฟยให้ออกไปได้อยู่แล้ว!และหลินเฟยก็อาศัยช่วงเวลานี้ในการถอนพิษออกจากร่างกายของจางซินเยว่และสวีอิ๋งอิ๋งโดยการใช้เข็มเงิน"ฮือ...""หลินเฟย นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? นี่ฉันเป็นอะไรไปหรือเปล่า?"จางซินเยว่ที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของหลินเฟย ค่อยๆ ฟื้นคืนสติขึ้นมาสมองของเธอยังคงมึนงงอยู่เล็กน้อยผลจากยานั้นมันรุนแรงเป็นอย่างยิ่งมันส่งผลให้เธอจำเหตุการณ์ก่อนหมดสติไปไม่ได้เลย"พี่ซินเยว่ พี่กับพี่อิ๋งถูกวางยาทั้งคู่ เจ้าของร้านขายชุดชั้นในไม่ใช่คนดีอะไร เธอต้องการจะขายพี่เป็นสินค้า!"หลินเฟยเหลือบมองไป๋เจี๋ยอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดออกมา"อะไรนะ?""เจ้า
"ไอ้หนุ่ม กล้าทำให้น้องชายของจ้าวเทียนหลงพิการ มีนายเป็นคนแรก!""และก็เป็นคนสุดท้ายด้วยเช่นกัน!""บอกมาสิ แกอยากจะตายยังไง?!"เมื่อจ้าวเทียนหลงเห็นแขนขาของจ้าวเทียนหู่หักและผิดรูปไปเสียหมดแม้กระทั่งเป้ากางเกงก็ถูกย้อมด้วยเลือดสีแดงเกือบจะทั้งหมดแบบนี้แล้ว!จู่ๆ เขาก็เดือดดาลเป็นอย่างมาก!เขากัดฟันกรอดๆ และพูดกับหลินเฟยคำต่อคำ"พี่ครับ...ผมอยากให้มันกลายเป็นเนื้อบดไปเลย!""สับมันเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้หมามันกิน!""ไม่อย่างนั้น ผมคงไม่หายแค้นเป็นแน่!"จ้าวเทียนหู่พาคนมาราวๆ สิบคนและในตอนนี้จ้าวเทียนหู่ก็ดูมั่นใจเป็นอย่างมากและเขาก็ไม่กลัวหลินเฟยแต่อย่างใด พร้อมกับตะคอกเสียงดังออกมาว่า!"เหอะๆ พวกมึงเนี่ยนะคิดจะฆ่ากู เกรงว่าพวกแกคงไม่มีความสามารถนั้นนะ!"หลินเฟยยังคงนิ่งสงบ และพูดด้วยยิ้มจ้าวเทียนหลงมาเร็วเสียเหลือเกิน หลินเฟยยังไม่ทันได้โทรแจ้งให้ลู่หลีมาแต่อย่างใดและถ้าติดต่อลู่หลีตอนนี้ เธอก็มาไม่ทันเวลาด้วยเช่นกันหลินเฟยคิดว่า หลังจากที่จัดการกับจ้าวเทียนหลงได้แล้วนั้น ค่อยให้ลู่หลีมาก็แล้วกัน!"ได้เด็กไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!""คนอย่างจ้าวเทียนหลง หากอยากจะฆ่า
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได