จากนั้นเขาก็ได้บอกเล่าเหตุการณ์ทางนี้ให้จ้าวเทียนหลงฟังอย่างคร่าวๆ"อะไรนะ? มือและเท้าของแกหักหมดเลยเหรอ!""ไป๋เจี๋ยล่ะ? เธอบอกว่าสินค้าปลอดภัยไม่ใช่เหรอ?!""ได้ ได้ หู่จื่อแกรอเดี๋ยว พี่จะพาคนไปแก้แค้นให้นายเดี๋ยวนี้!"ปัง จ้าวเทียนหลงวางสายโทรศัพท์ด้วยความโกรธและรีบพาคนมาที่นี่ทันที!จ้าวเทียนหลงถือว่าเป็นอันธพาลใหญ่ประจำเมืองเทียนหวาก็ว่าได้ในตอนนี้น้องชายของตัวเองถูกทุบตีจนกลายเป็นคนพิการไปแล้วแน่นอนว่าเขาก็จะไม่ปล่อยหลินเฟยให้ออกไปได้อยู่แล้ว!และหลินเฟยก็อาศัยช่วงเวลานี้ในการถอนพิษออกจากร่างกายของจางซินเยว่และสวีอิ๋งอิ๋งโดยการใช้เข็มเงิน"ฮือ...""หลินเฟย นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? นี่ฉันเป็นอะไรไปหรือเปล่า?"จางซินเยว่ที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของหลินเฟย ค่อยๆ ฟื้นคืนสติขึ้นมาสมองของเธอยังคงมึนงงอยู่เล็กน้อยผลจากยานั้นมันรุนแรงเป็นอย่างยิ่งมันส่งผลให้เธอจำเหตุการณ์ก่อนหมดสติไปไม่ได้เลย"พี่ซินเยว่ พี่กับพี่อิ๋งถูกวางยาทั้งคู่ เจ้าของร้านขายชุดชั้นในไม่ใช่คนดีอะไร เธอต้องการจะขายพี่เป็นสินค้า!"หลินเฟยเหลือบมองไป๋เจี๋ยอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดออกมา"อะไรนะ?""เจ้า
"ไอ้หนุ่ม กล้าทำให้น้องชายของจ้าวเทียนหลงพิการ มีนายเป็นคนแรก!""และก็เป็นคนสุดท้ายด้วยเช่นกัน!""บอกมาสิ แกอยากจะตายยังไง?!"เมื่อจ้าวเทียนหลงเห็นแขนขาของจ้าวเทียนหู่หักและผิดรูปไปเสียหมดแม้กระทั่งเป้ากางเกงก็ถูกย้อมด้วยเลือดสีแดงเกือบจะทั้งหมดแบบนี้แล้ว!จู่ๆ เขาก็เดือดดาลเป็นอย่างมาก!เขากัดฟันกรอดๆ และพูดกับหลินเฟยคำต่อคำ"พี่ครับ...ผมอยากให้มันกลายเป็นเนื้อบดไปเลย!""สับมันเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้หมามันกิน!""ไม่อย่างนั้น ผมคงไม่หายแค้นเป็นแน่!"จ้าวเทียนหู่พาคนมาราวๆ สิบคนและในตอนนี้จ้าวเทียนหู่ก็ดูมั่นใจเป็นอย่างมากและเขาก็ไม่กลัวหลินเฟยแต่อย่างใด พร้อมกับตะคอกเสียงดังออกมาว่า!"เหอะๆ พวกมึงเนี่ยนะคิดจะฆ่ากู เกรงว่าพวกแกคงไม่มีความสามารถนั้นนะ!"หลินเฟยยังคงนิ่งสงบ และพูดด้วยยิ้มจ้าวเทียนหลงมาเร็วเสียเหลือเกิน หลินเฟยยังไม่ทันได้โทรแจ้งให้ลู่หลีมาแต่อย่างใดและถ้าติดต่อลู่หลีตอนนี้ เธอก็มาไม่ทันเวลาด้วยเช่นกันหลินเฟยคิดว่า หลังจากที่จัดการกับจ้าวเทียนหลงได้แล้วนั้น ค่อยให้ลู่หลีมาก็แล้วกัน!"ได้เด็กไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!""คนอย่างจ้าวเทียนหลง หากอยากจะฆ่า
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า จู่ๆ ก็มีเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น!ระยะเวลาแค่ประจันหน้ากันคนสี่ห้าคนก็ถูกหลินเฟยชกจนลอยออกไปแล้ว!กระทั่งคนที่ถูกทุบตียังไม่สามารถตอบสนองกลับมาได้เสียด้วยซ้ำ!"ซินเยว่ หลินเฟยเขา ทำไมเขาต่อสู้เก่งขนาดนี้?"สวีอิ๋งอิ๋งที่หลบอยู่ด้านหลังของมุมห้องอดไม่ได้ที่จะถามจางซินเยว่ขึ้นมา"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่หลินเฟยเก่งจริงๆ นั่นแหละ คนพวกนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเสียด้วยซ้ำ"จางซินเยว่จ้องไปที่แผ่นหลังของหลินเฟยอย่างไม่กะพริบตา พร้อมกับพูดออกมา"จริง...จริงเหรอ?" สวีอิ๋งอิ๋งเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งระหว่างที่สวีอิ๋งอิ๋งและจางซินเยว่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเสียงกรีดร้องก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง และหลินเฟยก็โจมตีคนไปเจ็ดแปดคนแล้ว!ดุดันอะไรขนาดนี้ลูกน้องที่เหลืออีกยี่สิบกว่าคนของจ้าวเทียนหลงอดไม่ได้ที่จะแสดงอาการหวาดกลัวขึ้นมา พร้อมกับถอยหลังออกมาเรื่อยๆ!"พี่ชาย...ไอ้หมอนี่เป็นคนฝึกวิชา!""พี่อย่าประมาทเด็ดขาด!"จ้าวเทียนหู่ที่นอนแข็งทื่ออยู่บนพื้นร้องตะโกนออกมา!"ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกหู่จื่อ ต่อให้เป็นปรมาจารย์การต่อสู้กลับชาติมาเกิด วันนี้ก็หนีจากการถูกบดเป
"มาได้จังหวะจริงๆ ฉันอยากจะไปคิดบัญชีกับแกอยู่พอดีเลย!"หลินเฟยยิ้มเยาะอย่างไม่แยแสหมัดพยัคฆ์ปรับมาจนถึงโหมดสูงสุด ทันทีที่เขาออกหมัด เสียงเสือคำรามก็ดังสนั่นโสตประสาท!ราวกับมีเสือที่ดุร้ายกำลังคำรามอยู่ข้างๆ หูอย่างไงอย่างงั้น!"โฮก!"ทุกคนที่อยู่บนชั้นสองอดไม่ได้ที่จะเอามือมาปิดหูเอาไว้!พร้อมกับเกิดความกลัวในใจขึ้นมาทันที!แม้กระทั่งมือและเท้าก็อ่อนปวกเปียก ไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เลย!นี่คือหมัดพยัคฆ์ที่เผยออกมาจนถึงขีดสุด แค่อาศัยเสียงที่ดังสนั่น มันก็สามารถหยุดจิตวิญญาณของคู่ต่อสู้เอาไว้ได้แล้ว!หากโจวจื่อหลงอยู่ที่นี่ เขาก็คงจะต้องตกตะลึงอย่างแน่นอน!เพราะแม้แต่อาจารย์ของเขาก็ไม่สามารถฝึกหมัดพยัคฆ์จนถึงขั้นสูงสุดได้มาหลายสิบปีแล้ว!แต่ทว่าหลินเฟยเพียงแค่มองดูสองสามครั้ง เขาก็สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้แล้ว!"เคล้ง!"ในขณะที่ความคิดกำลังฟุ้งซ่าน ก็มีเสียงทองและเหล็กกระทบกันอีกครั้ง!มีดดาบของจ้าวเทียนหลงปะทะกับหมัดพยัคฆ์ของหลินเฟย!มีดดาบถูกกระแทกโดยตรงและแตกละเอียดราวกับเศษกระจก!แต่ทว่าหมัดของหลินเฟยเหมือนได้กระแทกกับกระดาษบางๆ แผ่นหนึ่งเท่านั้นความแข็งแกร่งย
"พูดมา!""ถ้าไม่พูด ฉันจะจัดการกับพวกแกซะ!" หลินเฟยตะคอกออกมา!"พี่ชาย เราไม่กล้าพูดหรอกครับ เราก็แค่พวกเห็บพวกไรตัวเล็กๆ เท่านั้น จะไปรุกรานคนใหญ่คนโตแบบนั้นได้อย่างไร!""ในใจของคุณรับรู้ก็พอแล้ว อย่าถามพวกเราอีกเลยนะครับ!""ไม่อย่างนั้นพวกเราจะต้องตายแน่ๆ!"สมุนคนหนึ่งถูกคนที่อยู่ข้างหลังดันออกมาเขาตกใจมากจนคุกเข่าลงแทบเท้าของหลินเฟย และพูดด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย"กลุ่มของพวกแกก็ไม่ใช่คนดิบดีอะไร ตายไปก็ไม่เสียดายหรอก!""คุกเข่าลงให้หมด!"หลินเฟยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่ในใจกลับคิดไปถึงเรื่องที่หวางเจิงและคุณท่านหวางจะมาในตอนบ่ายนี้แล้วเขาจะต้องบอกเรื่องนี้กับคุณท่านหวางเพื่อให้เขาส่งคนไปจัดการเทศมนตรีเมืองเทียนหวาเสียสักหน่อย"ครับ...ครับ...เราคุกเข่า เราคุกเข่า!"สมุนทุกคนไม่กล้าไม่เชื่อฟัง และคุกเข่าอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย"หลินเฟย ให้ฉันโทรไปบอกสารวัตรลู่ให้เธอมาพาคนไปตอนนี้เลยไหม?"ในเวลาเดียวกันนี้จางซินเยว่ก็คลายท่อนเหล็กในมือออกจากนั้นก็เดินฉับๆ ไปหาหลินเฟยพร้อมกับสวีอิ๋งอิ๋ง และถามขึ้นมา"รอสักครู่พี่ซินเยว่ รอให้ผมสั่งสอนจ้าวเทียนหลงเรียบร้อยแล้ว พ
และเตะสองครั้งนี้ มันก็รุนแรงกว่าค้อนเหล็กร้อยกว่าปอนด์ที่ทุบลงมาเสียอีกใบหน้าของจ้าวเทียนหลงถูกเตะอย่างรุนแรง กระดูกแตกกระจายและเปลี่ยนรูปร่างไปทันที!"อ๊าก...แกคอยดูนะ แกคอยดูนะ!""รอให้พ่อบุญธรรมของฉันรู้เรื่องนี้แล้ว เขาจะต้องแก้แค้นให้ฉันอย่างแน่นอน!!"จ้าวเทียนหลงปวดหัวจนแทบจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ และคำรามออกมาด้วยความโกรธแค้น"แม่งเอ๊ย!"เคล้ง เคล้ง จากนั้นหลินเฟยก็ให้รางวัลเขาด้วยการเตะอีกสองครั้งและคราวนี้ จ้าวเทียนหลงก็หยุดเคลื่อนไหวอย่างสิ้นเชิง!"พี่ชาย...""ไอ้เด็กเมื่อวานซืน แกฆ่าพี่ชายของฉัน!""สายตรวจมาถึงแล้ว พวกเขาจะไม่ปล่อยแกไปแน่นอน!"จ้าวเทียนหู่กัดฟันแน่นดวงตาคู่นั้นจ้องมองไปที่หลินเฟยอย่างไม่กะพริบตา พร้อมพูดแผดเสียงคำรามออกมา!"แกคิดมากไปแล้วล่ะ ลงมือกับคนชั่วๆ อย่างพวกแก ฉันเรียกว่าขจัดภัยให้ประชาชน ส่วนใหญ่สายตรวจจะไม่ว่าอะไรฉันหรอก""อีกอย่าง ฉันเป็นหมอคนหนึ่ง น้ำหนักมือที่ลงไปก็เหมาะสม อย่างมากพี่ชายของแกก็จะกลายเป็นคนพิการ อยู่เหมือนตายทั้งเป็น ให้คนแบบเขาได้ตายไป มันจะมีน้ำใจเกินไปเสียด้วยซ้ำ"หลินเฟยโยนมีดดาบในมือทิ้งไปและเผยรอยยิ้มที่ 'เป
ใบหน้าที่งดงามของลู่หลีปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง เธอชำเลืองมองจ้าวเทียนหู่และคนกลุ่มนั้นด้วยสายตาที่เกลียดชังพร้อมกำชับกับโจวกั๋วเฟิงและสายตรวจนายอื่นว่า"รับทราบครับ ผู้อำนวยการลู่!"โจวกั๋วเฟิงตอบรับ จากนั้นก็กำชับลูกน้องสายตรวจให้จับตัวจ้าวเทียนหู่และคนอื่นๆ ไปทั้งหมดหลังจากนั้นในทันทีลู่หลีก็เดินมาหาจางซินเยว่และสวีอิ๋งอิ๋ง พร้อมกับถามอย่างเป็นกังวลว่า"ผู้จัดการจาง คุณสวี พวกคุณสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม?""เรื่องนั้นไม่มีค่ะ แต่หากไม่มีหลินเฟย พวกเราสองคนคงจะอนาถแน่ๆ"จางซินเยว่พูดด้วยความกลัวที่ยังเหลืออยู่ในใจ"ไม่ว่าจะยังไง สุดท้ายพวกคุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ทางฉันจำเป็นต้องรบกวนให้พวกคุณสองคนให้ปากคำหน่อยนะคะ""ตอนที่ทำคดีจำเป็นต้องใช้น่ะค่ะ..."ลู่หลีหยิบปากกาและกระดาษออกมา แล้วถามเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดหลังจากจดบันทึกทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วหลังจากลู่หลีทักทายกับหลินเฟยแล้ว เธอก็รีบออกไปทันทีจะเห็นได้ชัดว่า ตั้งแต่โม่หลินได้ย้ายไปแล้ว เธอก็ยุ่งเป็นอย่างมากและสิ่งที่ทำให้หลินเฟยประหลาดใจก็คือ ครั้งนี้ที่ลู่หลีและจางซินเยว่พบกัน พวกเธอไม่ได้ต่อปากต่
"แปลกจัง หรือว่าผู้หญิงทุกคนที่หน้าอกเล็กจะอยากให้ตัวเองกลายเป็นแม่วัวกันไปหมด?"ส่วนหลินเฟยที่อยู่นอกห้องลองชุดหลังจากได้ยินบทสนทนาของพวกเธอทั้งสอง เขาก็พึมพำออกมาเบาๆพร้อมกับจินตนาการไปถึงหน้าอกของผู้หญิงส่วนใหญ่มันอาจจะสำคัญพอๆ กับอะไรแบบนั้นของผู้ชายก็เป็นไปได้ผู้ชายก็ไม่อยากจะให้ตัวเองเป็นเห็ดเข็มทอง ทั้งบางและนิ่มอะไรแบบนั้นจ้าวฟู่กุ้ยพ่อของจ้าวลู่ลู่ก็ยังเข้ามาสอบถามสูตรเฉพาะที่ทำให้มันใหญ่และหนาขึ้นกับหลินเฟยอีกต่างหาก!"เดี๋ยวฝังเข็มให้กับพี่อิ๋ง ก็ช่วยขยายหน้าอกให้พี่อิ๋งด้วยก็โอเคแล้ว"หลินเฟยมีความคิดเช่นนี้อยู่ในใจเวลาผ่านไปอีกสักพักหลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จางซินเยว่และสวีอิ๋งอิ๋งก็เดินออกมาจากห้องลองเสื้อ"หลินเฟย เราเลือกเสร็จแล้วล่ะ ค่อนข้างจะเหมาะสม คุณไปจ่ายเงินเถอะ""คืนนี้ฉันคงไม่กลับไปแล้วล่ะ"จางซินเยว่เขย่าชุดชั้นในสองสามชุดที่ทำจากลูกไม้ กึ่งโปร่งแสง และดูแล้วน่าดึงดูดใจเอาเสียมากๆเธอกะพริบตาโตเพื่อเป็นการส่งสัญญาณให้กับหลินเฟยและสวีอิ๋งอิ๋งที่อยู่ข้างๆ ก็สามารถเดาได้ว่าเธอหมายถึงอะไรจึงเดินไปข้างๆ อย่างรู้เท่าทัน"แคกๆ...โอ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได