"เยี่ยมไปเลย พ่อครับ เรารีบเข้าไปในบ้านกันเถอะ!""ลองๆ ฟังดูว่า…เขาจะพูดอะไรกันแน่!"ดวงตาของสวีซ่วยซ่วยสว่างวาบ จู่ๆ เขาก็ทะลึ่งตัวลุกขึ้นจากพื้นและรีบเดินเข้าไปในบ้านทันทีในเวลาเดียวกัน เขาก็ยังรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองเอาเสียมากๆแม่งเอ๊ย ถือว่ามีเงินแล้วจะวิเศษวิโสอย่างนั้นเหรอ?แค่ขับเมอร์เซเดส เบนซ์ มายบัค มันดูเลิศเลอมากหรือไง?ไปๆ มาๆ ก็ถูกฉันหลอกให้ปั่นป่วนไปหมดแล้ว!"ฮ่าฮ่า ไอ้ลูกรัก ยังเป็นแกที่เก่งพอตัว!""ต่อไปเราก็จะร่ำรวยกันแล้วนะ!"สวีต้าไห่ยิ่งมีความสุขแบบสุดๆหลังจากลุกขึ้นจากพื้นแล้ว เขาก็แบกกระสอบที่มีเงินอยู่เต็มเข้าไปในบ้าน"พูด...พูดมาสิว่า นายคิดจะให้...ให้เงินยังไง!"สวีซ่วยซ่วยทนต่อความเจ็บปวด พร้อมกับจุดบุหรี่ให้กับตัวเองจากนั้นก็จัดระเบียบทรงผม และพูดออกมา"ให้เงิน?""ฉันไปรับปากพวกแกตอนไหนว่าจะให้เงิน?""เพราะแกฟังไม่ชัดเองน่ะสิว่า ฉันบอกว่าฉันจะกระทืบแกจนพิการไปเลย!"หลินเฟยหรี่ตาลง และพูดออกมาอย่างเย็นชาทันทีที่คำพูดนี้โพล่งออกมาหลินเฟยก็จับแขนของสวีซ่วยซ่วยเอาไว้ พร้อมกับหักมันอย่างเต็มแรง!แกร็ก เสียงกระดูกหักได้ดังขึ้นมา!และปลาย
เพี้ยะ เพี้ยะ เพี้ยะ เพี้ยะ!หลังจากกระหน่ำหมัดไปที่ใบหน้าอย่างรัวๆ แล้วนั้นฟันของสวีต้าไห่ก็หลุดร่วงจนหมดปากด้วยเช่นกันเขาถูกชกจนหมดสติไปโดยตรงหลินเฟยถึงได้คลายมือออกจากเขาพร้อมกับชำเลืองสายตาไปยังสวีซ่วยซ่วยที่กำลังคลานไปที่มุมห้องอยู่!และจู่ๆ อีกฝ่ายก็กรีดร้องคร่ำครวญอย่างโหยหวนออกมาทันทีทันใด!"โอ๊ย...โอ๊ย!""เงินน่ะเราไม่ต้องการแล้วล่ะ นายรีบเอามันไป รีบมาเอาไปเลย!""คืนให้นาย ฉันคืนให้นายทั้งหมด!""ทำไมจะต้องกลัวฉันถึงขนาดนี้ด้วยล่ะ"หลินเฟยพูดด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มแบบกึ่งๆ"วางใจได้ ไม่ถึงกับต้องตายหรอก""ฉันแค่อยากจะสอนบทเรียนง่ายๆ ให้กับแกก็เท่านั้น ต่อไปแกจะได้ไม่ต้องเข้ามายุ่มย่ามชีวิตของพี่อิ๋งอีก!""แน่นอนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ฉันก็ไม่ชอบให้ใครมารู้ด้วยเหมือนกัน""ถ้าแกจำไม่ได้ ฉันก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้นายกลายเป็นคนปัญญาอ่อนเช่นกัน!""ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู!"พอพูดจบ หลินเฟยก็ยกกระสอบที่มีเงินอยู่เต็มถุงขึ้นมา และเดินออกจากบ้านชั้นเดียวไปทันทีเงินนี้ สองพ่อลูกคู่นั้นไม่คู่ควรที่จะใช้!ทันทีที่หลินเฟยเดินออกมาจากประตูก็พบว่าจางซินเยว่และสวีอิ
จากนั้นเขาก็ขอความช่วยเหลือจากโจวเสี่ยวหลิงในทันที"อะไรนะ? นายถูกกระทืบจนพิการแล้วอย่างนั้นเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าโจวเสี่ยวหลิงผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบถามขึ้นมาทันทีว่า"แล้วเงินสินสอดของฉันล่ะ?""นายได้ครบหรือยัง?""เสี่ยวหลิง ผม... ผมยังขาดอีกห้าแสนเท่านั้น คุณมาบ้านผมก่อนจะได้ไหม พาผมไปส่งโรงพยาบาลก่อนจะได้หรือเปล่า?"สวีซ่วยซ่วยพยายามพูดออกมาว่า"รอให้ผมรักษามือและเท้าให้หายดีแล้ว""ถ้าคุณให้เวลาผมอีกสักหน่อย ผมจะต้องหาเงินมาให้คุณได้อย่างแน่นอน!""ไสหัวออกไปให้ไกลๆ!""ยังขาดอีกห้าแสน แล้วนายจะให้ฉันไปบ้านนายทำไมกัน?""งั้นเงินพวกนั้น นายก็เก็บเอาไว้ให้ขอทานก็แล้วกัน!""ตุด ตุด ตุด..."พอพูดจบ โจวเสี่ยวหลิงก็ตัดสายไปในทันที!"โจวเสี่ยวหลิง... แม่งเอ๊ย…""มึงมันก็แค่ผู้หญิงที่เอาแต่ได้เท่านั้น...""รอให้ฉันได้ดิบได้ดีก่อนเถอะ ไม่แต่งก็ไม่แต่ง ใครเสียดายกันล่ะ!"สวีซ่วยซ่วยกำมือซ้ายที่ยังสมบูรณ์อยู่เอาไว้แน่น พร้อมกับทุบที่พื้นอยู่ตลอดเวลา!"ลูกรัก ลูกรัก แกเป็นยังไงบ้าง?"และเป็นเวลานี้นี่เองสวีซ่วยซ่วยได้ฟื้นขึ้นมา สะบัดหัวสองครั้งอย่างมึนงงจากนั้นก็รีบวิ่งม
"ไม่มีปัญหาพี่อิ๋ง เดี๋ยวผมมีเวลาก็จะช่วยฝังเข็มให้พี่ ครั้งนี้จะต้องรักษาให้หายขาดได้อย่างแน่นอน""หลังจากฝังเข็มแล้วนั้น ต่อไปก็คงจะไม่กำเริบขึ้นมาอีกแล้ว"หลินเฟยพยักหน้าตอบรับ พร้อมกับพูดออกมา"ขอบคุณนะ หลินเฟย" สวีอิ๋งอิ๋งกล่าวด้วยสีหน้าที่ขอบคุณ"แต่ว่าฉันก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะฝังเข็มขนาดนั้นหรอกนะ""คุณช่วยพาฉันเข้าไปซื้อของใช้ที่จำเป็นในตัวอำเภอก่อนจะได้หรือเปล่า?""ต่อให้จะย้ายเข้าไปอยู่ในวิลล่าของคุณ ฉันก็ไม่สามารถเข้าไปด้วยมือเปล่าได้หรอกนะ""ของในตัวอำเภอไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ถ้าอย่างนั้นผมพาพี่เข้าไปซื้อในตัวเมืองจะดีกว่านะ"หลินเฟยคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดออกมา"ไม่ ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอกนะ ของที่ฉันจะซื้อมันธรรมดามาก ไปซื้อในตัวอำเภอก็พอแล้วล่ะ""อีกอย่างร้านที่ฉันไปซื้อต้นกล้าก็อยู่ในตัวอำเภอ เราเข้าไปเอาก็ได้แล้วล่ะ"สวีอิ๋งอิ๋งรีบส่ายหน้า พร้อมกับพูดออกมา"แบบนี้นี่เอง หลินเฟย งั้นเราไปในตัวอำเภอกันเถอะ"จางซินเยว่พูดกับหลินเฟย"ฉันไม่ได้เข้าไปเดินเล่นในตัวอำเภอตั้งนานแล้ว""พอดีเลย ฉันจะได้อาศัยโอกาสนี้เดินเล่นในตัวอำเภอเป็นเพื่อนกับพี่อิ๋งด้วย"……ค
"หือ? แต่... ตอนเช้า หลินเฟยยังบอกว่าคุณต่างหากที่เป็นแฟนของเขาไม่ใช่เหรอ?"สวีอิ๋งอิ๋งพูดด้วยสีหน้าที่ยากจะเข้าใจ"ฉันก็เป็นแฟนของเขาเหมือนกัน แต่ว่าพี่อิ๋ง คนคนนี้ลามกจกเปรตจะตายไป แฟนของเขามีเยอะมาก ฉันและจ้าวลู่ลู่เป็นเพียงหนึ่งในนั้นก็เท่านั้นเอง"จางซินเยว่ถอนหายใจและอธิบายออกมา"หือ?" สวีอิ๋งอิ๋งยิ่งสับสนมากขึ้น เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ในเมื่อตอนนี้หลินเฟยมีแฟนสาวที่น่าทึ่งอย่างจางซินเยว่อยู่แล้ว แต่ทำไมยังไม่พอใจ และยังจะไปยุ่มย่ามกับผู้หญิงข้างนอกอีกและสิ่งที่ทำให้เธอยิ่งไม่เข้าใจไปมากกว่านั้นก็คือ ในเมื่อจางซินเยว่รู้ว่าหลินเฟยมีผู้หญิงมากมายอยู่ข้างกายแบบนี้แล้วแต่เธอก็ยังยอมเป็นแฟนของเขา มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆแต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้เธอก็ทำได้เพียงแค่คิดอยู่ในใจเพียงแค่นั้น ไม่สามารถพูดออกมาได้"หลินเฟย ในเมื่อชุดชั้นในพวกนั้นคุณซื้อให้แฟนสาว งั้นฉันซื้อเองสักสองสามชุดจะดีกว่านะ"หลังจากสวีอิ๋งอิ๋งพูดกับหลินเฟยเสร็จ เธอก็หันมาพูดกับจางซินเยว่ว่า"ซินเยว่ คุณเข้าไปช่วยฉันเลือกสักสองสามชุดได้หรือเปล่า""ไม่มีปัญหา พี่อิ๋ง" จางซินเยว่ยังคงรู้
"ฉันเป็นคนที่นี่ แต่ฉันอยู่ในเมืองตลอด เลยไม่ค่อยได้มาในตัวอำเภอสักเท่าไหร่ คุณไม่เคยเห็นฉันก็เป็นปกติ"จางซินเยว่ตอบแบบขอไปที"แบบนี้นี่เอง คนในเมืองแต่กลับมาซื้อชุดชั้นในในตัวเมืองเล็กๆ แบบนี้ ช่างคิดไม่ถึงเลยจริงๆ"ไป๋เจี๋ยหันมามองสวีอิ๋งอิ๋งแวบหนึ่ง พร้อมกับถามขึ้นมาว่า"แล้วสาวสวยคนนี้ล่ะ? คุณก็เป็นคนที่นี่ด้วยหรือเปล่า?""อืม ฉันก็เป็นคนที่นี่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าฉันไปเรียนหนังสือที่ต่างจังหวัดหลายปี ปีนี้เพิ่งจะเรียนจบ เลยไม่ค่อยได้เข้ามาในตัวอำเภอสักเท่าไหร่ นี่เป็นครั้งแรกที่มาร้านของคุณ"สวีอิ๋งอิ๋งตอบอย่างสุภาพ"โย่ว มองไม่ออกเลยจริงๆ สาวสวยคนนี้จะเป็นนักศึกษาอีกด้วย ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!""ถ้าตอนนั้นครอบครัวของฉันไม่ได้ยากจน ไม่แน่ว่าบางทีตอนนี้ฉันก็อาจจะเป็นนักศึกษาคนหนึ่งก็ได้ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องขายของอยู่ในอำเภอแบบนี้หรอก"ไป๋เจี๋ยพูดราวกับว่าเธอกำลังอิจฉาอยู่แต่ดวงตากลับเปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที!พอพูดจบ กลุ่มผู้หญิงก็ได้ขึ้นมาถึงชั้นสองแล้วและสิ่งที่คุ้มค่าต่อการกล่าวถึงก็คือสไตล์ชุดชั้นในของชั้นสองนั้นดีกว่าชั้นหนึ่งมากจริงๆ!หนึ่งในจำนวนนั้นยังมีแบรนด์
"ส่วนจุดสองจุดที่หน้าอกก็คันมาก แค่เสื้อผ้าเสียดสีนิดหน่อยก็คันแบบสุดๆ แล้ว""พี่ช่วยตรวจดูหน่อยสิว่า มีตรงไหนที่ผิดปกติไปหรือเปล่า?""แคกๆ...ไม่เป็นไรหรอกคุณหวาง""อาการพวกนี้เป็นผลข้างเคียงตามปกติของการขยายหน้าอกอยู่แล้ว""หากต่อไปขยายหน้าอกอีก ประจำเดือนก็จะมาก่อนแบบนี้แหละ""ยาต้มเมื่อวานมีผลทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น ดังนั้น ดังนั้น คุณก็เลยรู้สึกคันที่หน้าอกน่ะ"หลินเฟยอธิบายอย่างลำบากใจ"ฮือ...ที่แท้ก็ไม่มีอะไร ฉันตกใจแทบตาย"หวางเจิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก"จริงด้วยสิพี่หลิน ยังมีอีกเรื่องที่ฉันต้องบอกพี่""ฉันและคุณปู่จะกลับไปเมืองตี้ตูวันพรุ่งนี้แล้วนะ""ตอนบ่ายฉันและคุณปู่จะไปเยี่ยมพี่ที่นอกเมืองนะ""ได้สิ ความจริงแล้ว หมู่บ้านเถาฮวาก็มีทิวทัศน์ที่สวยงามมากเลยล่ะ""คงจะดีอยู่ไม่น้อย หากจะให้คุณท่านหวางเข้ามาเยี่ยมชมสักหน่อย"หลินเฟยตอบด้วยรอยยิ้ม"แค่ดูทิวทัศน์อย่างนั้นเหรอ ฉันจะกลับแล้วนะ หรือว่าพี่จะไม่ให้ของขวัญอะไรฉันสักหน่อย?"หวางเจิงพูดอย่างทะเล้น"ของขวัญ... ไม่มีปัญหา ตอนบ่ายเมื่อคุณมา ผมค่อยมอบของขวัญให้ก็แล้วกันนะ"หลินเฟยกลอกตา และนึ
"คุณผู้ชายท่านนี้ ฉันเป็นแค่พนักงานร้านคนหนึ่งเท่านั้น เราสองคนไม่ได้มีความแค้นต่อกัน ทำไมฉันจะต้องโกหกคุณด้วยล่ะ?""เมื่อกี้คุณผู้หญิงสองท่านนั้นออกไปแล้วจริงๆ""คุณต้องไม่ทันสังเกตเห็นอย่างแน่นอน""นอกจากนี้ ฉันขอย้ำอีกครั้งนะคะ ร้านเราจำหน่ายของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง หากไม่มีผู้หญิงมาด้วย ผู้ชายห้ามเข้าไปข้างในค่ะ เชิญคุณออกไปเถอะนะคะ!"เมื่อเห็นว่าหลินเฟยต้องการจะบุกเข้าไปพนักงานเคาน์เตอร์สาวก็เดินเข้ามาและเหยียดแขนออกเธอยืดหน้าอกขึ้นมาเพื่อขวางหลินเฟยเอาไว้"หลีกไป ผมไม่มีเวลาว่ามาต่อปากต่อคำกับคุณหรอกนะ!"เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอ หลินเฟยก็ยิ่งสงสัยว่าจางซินเยว่และสวีอิ๋งอิ๋งที่อยู่ในร้านจะต้องเกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอนไม่มีเวลามาสนใจอะไรทั้งนั้นและเขาก็เหวี่ยงเธอออกไปทันที"โอ๊ย...ช่วยด้วย!""ทุกคนรีบเข้ามาดูเร็วเข้า ผู้ชายลามกคนนี้บุกเข้าไปในร้านขายชุดชั้นในอย่างหน้าไม่อาย ความคิดชั่วร้ายมาก!"จริงๆ แล้ว หลินเฟยไม่ได้ออกแรงมากนักแต่พนักงานสาวกลับล้มลงไปที่พื้นโดยตรงจากนั้นก็ดึงขากางเกงของหลินเฟย พร้อมตะโกนเสียงดังออกมา!เสียงของเธอดังสนั่นไปทั่วและมันก็ดึง
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได