พูดจบหลินเฟยก็รีบวิ่งมาตรงหน้าถังรั่วเสวี่ยเขายื่นมือออกไปจับภูเขาหยกของถังรั่วเสวี่ยที่ได้รับบาดเจ็บจากนั้นดูบาดแผลอย่างละเอียด!ผิวที่ขาวนุ่มนั้น มีเลือดไหลออกมาจนน่าตกตะลึง!ทำให้หลินเฟยรู้สึกสงสารอย่างถึงที่สุด!“ว้ายเสี่ยวเฟยนายรีบหลีกไป!”“ให้เสี่ยวเหลียนดูก็พอแล้ว นายดูให้อารู้สึกเขินอาย!”ถังรั่วเสวี่ยอายจนหน้าแดง ถึงอย่างไรเธอก็เป็นคนขี้อาย“เห้อ แผลยาวมากเลย เกือบสิบเซนติเมตร!”“อาเล็ก ฉันดูไม่ได้หรอกนะ พี่ให้เสี่ยวเฟยดูเถอะ”พานเสี่ยวเหลียนรีบโบกมือพูดขึ้นเธอรู้เรื่องที่หลินเฟยทำต่อถังรั่วเสวี่ยแล้ว จึงคิดว่าหลินเฟยจับหน้าอกของเธอไม่นับประสาอะไรอีกอย่าง เธอทำแผลอะไรไม่เป็นจริง ๆ“ห๊ะ……บาดเจ็บหนักขนาดนั้นเลยเหรอ?”ถังรั่วเสวี่ยได้ยินว่าบาดแผลสิบเซนติเมตร ก็เปลี่ยนสีหน้าไป!แอบพูดพึมพำในใจ นี่ถ้าทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ จะน่าเกลียดไหมนะ!“พี่เสี่ยวเหลียน พี่ช่วยไปรับน้ำให้ผมกะละมังหนึ่ง หาผ้าขนหนูสะอาด ๆ มาสักผืน ผมต้องห้ามเลือดให้อาเล็ก!หลินเฟยไม่สนใจว่าถังรั่วเสวี่ยยอมหรือไม่ยอม เขาอุ้มเธอไปที่บนเตียงโดยตรง จากนั้นถอดเสื้อผ้าท่อนบนของเธอออกเดิมทีเป็นทิวทัศ
ถังรั่วเสวี่ยไม่ได้สัมผัสหลินเฟยสองวันแล้ว ตอนนี้เมื่อถูกสัมผัสกลับตัวอ่อนไปหมด กลัวว่าพานเสี่ยวเหลียนจะสังเกตเห็นความแปลกประหลาด จึงไม่ลืมที่จะพูดกับเธอเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ“ต่อไปต้องระวังหน่อยแล้ว ไม่อย่างนั้นยังต้องฝังเข็ม ฉันไม่อยากถูกฝังเข็มอีกครั้ง”ถังรั่วเสวี่ยพูดอย่างหวาดผวา“อาเล็ก ไม่ได้นะ อาบาดเจ็บหนักขนาดนี้ พรุ่งนี้ยังต้องทำอีกครั้ง”“ไม่อย่างนั้นยังจะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้”หลินเฟยนวดไปด้วยพูดกับถังรั่วเสวี่ยไปด้วย“ห๊ะ? ยังต้องทำอีกครั้งเหรอ?”“งั้นก็ได้”ถังรั่วเสวี่ยสีหน้าแย่มาก ทำอีกครั้ง เธอจะอดทนไหวเหรอ?แค่คิดเธอก็ตัวสั่นไปหมดแต่เพื่อไม่ให้ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ เธอก็รับปากอย่างหมดหนทางแต่เมื่อนึกถึงความรู้สึกเมื่อครู่ อันที่จริงไม่ใช่ว่าเจ็บ แต่กลับหวาดเสียว ทำให้คนตัวสั่นเธอรู้ว่านี่เป็นเหตุการณ์ปกติของการฝังเข็มเพียงแต่ เธอไม่ได้หน้าด้านถึงขนาดนั้น ที่จะพูดเรื่องนี้ต่อหน้าหลินเฟยทำได้แค่ฝืนทำเป็นไม่รับรู้อะไรในตอนนี้พานเสี่ยวเหลียนก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จากนั้นนึกถึงอาการตอบสนองเมื่อครู่ของถังรั่วเสวี่ย จู่ ๆ ก็เข้าใจขึ้นมา“เสี่ยวเฟย การฝั
หลินเฟยนวดอย่างจริงจัง แต่คนสวยที่อยู่ใต้มือ จับนาน ๆ ก็อดจิตใจฟุ้งซ่านไม่ได้ต่อให้ตอนนี้หลินเฟยเคยมีอะไรกับผู้หญิงหน้าตาสวยมาเยอะแต่คนที่ทำให้เขาคิดว่าสวยที่สุด ก็ยังเป็นถังรั่วเสวี่ยเขาผ่อนแรงขึ้นลงอย่างอดไม่ได้ มือก็เคลื่อนไปยังส่วนอื่นโดยไม่รู้ตัว“เสี่ยวเฟย นายรังแกอาอีกแล้ว เลิกเล่นได้แล้ว……”ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของหลินเฟย ตอนนี้แก้มของเธอร้อนผ่าวทันทีทั้งที่รู้ว่ากำลังแต๊ะอั๋งเธอ แต่เธอก็ไม่อยากจะผลักออกไป“ผมไม่ได้เล่นนะครับคุณอา ผมก็แค่นวดให้อา อาอย่าตื่นเต้นตื่นเกิดไป”ตอนนี้หลินเฟยหนังหน้าหนาไม่ใช่แค่ธรรมดา“เสี่ยวเฟย พี่ก็ทรมาน นายช่วยพี่หน่อยเป็นอย่างไร?”พานเสี่ยวเหลียนมองอยู่ที่ด้านข้าง ก็รู้สึกจั๊กจี้หัวใจ อยากจะกอดรัดกับหลินเฟย“พี่เสี่ยวเหลียนพี่รอก่อน อาเล็กเจ็บหนัก ผมช่วยบรรเทาให้เธอก่อน”หลินเฟยหัวเราะแหะ ๆ กับพานเสี่ยวเหลียน ให้เธอรอครู่หนึ่ง“อีกนานแค่ไหน พี่รู้สึกว่าหน้าอกเริ่มเจ็บอีกแล้ว……”พานเสี่ยวเหลียนสายตาขมขื่น จากนั้นยกบั้นท้ายขึ้นมา ทิวทัศน์งดงามที่ขาวผ่อง เกรงว่าไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ไม่สามารถอดกลั้นได้“ก็ได้ งั้น
ผู้หญิงที่ดีแบบนี้ ยอมอยู่กับตัวเองด้วยความเต็มใจ หลินเฟยยังคิดว่าตัวเองกำลังมีชีวิตอยู่ในความฝันรอให้เงินของซูเฉี่ยนเสวี่ยมาถึงมือ จะต้องพาอาเล็กไปซื้อบ้านหลังใหญ่ในเมือง ขับรถดี ๆ ให้เธอได้มีชีวิตที่ดี รักษาตาของอาเล็กให้หาย!“อาเล็ก สร้อยเส้นนี้เอามาจากที่ไหน?”“สวยมาก สวยจริง ๆ เลย!”ตอนนี้ พานเสี่ยวเหลียนที่สลบใสลไปตื่นขึ้นมา เห็นสร้อยคอหยกที่ถังรั่วเสวี่ยสวมใส่ก็ตกตะลึงจนร้องออกมา“เสี่ยวเฟยมอบให้ฉัน แต่ว่านี่เป็นหยกปลอม ของราคาสองสามพันบาท”ถังรั่วเสวี่ยในใจรู้สึกหวานชื่นเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น“ของปลอม? ฉันดูแล้วไม่เหมือนเลยนะ นี่ต้องเป็ฯของจริงแน่นอน และราคายังแพงมากด้วย!”พานเสี่ยวเหลียนพูดอย่างมั่นใจมีครั้งหนึ่งเธอกับพี่รองเคยไปเดินเที่ยวที่ร้านหยกในเมือง เคยเห็นหยกของแท้ แน่นอนว่าต้องรู้สึกชอบเป็นอย่างมากแต่เธอไม่มีเงินสักหน่อย ชอบแค่ไหนก็ทำได้แค่มองดู ไม่มีปัญญาซื้อด้วยซ้ำตอนนี้เห็นหยกของถังรั่วเสวี่ย ดังนั้นถึงได้ดูออกว่าสิ่งนี้เป็นของแท้ถังรั่วเสวี่ยฟังพานเสี่ยวเหลียนพูดอย่างมั่นใจขนาดนั้น เธอจึงขมวดคิ้วถามหลินเฟยอย่างอดไม่ได้“เสี่ยวเฟย เสี่ยวเหลียนพูดจริง
หากเป็นผู้หญิงคนอื่น รับรู้ราคาของสร้อยหยกเส้นนี้ คงจะรับไว้ด้วยความดีอกดีใจตั้งนานแล้วแต่พานเสี่ยวเหลียนยังยืนยันที่จะไม่รับไว้“พี่สะใภ้พี่โง่จริง ๆ ผมเป็นผู้ชายของพี่ ผู้ชายของพี่มอบของให้พี่ ทำไมพี่ถึงไม่รับไว้?”“ถ้าไม่รับไว้ ผมจะเอาพี่ให้หนักเลย!”หลินเฟยตีก้นของพานเสี่ยวเหลียนข่มขู่ทันใดนั้น เกิดระลอกคลื่นเหมือนกับคลื่นน้ำเป็นระยะ ๆ“ว้าย เสี่ยวเฟย ชีวิตนี้สิ่งที่พี่ไม่เคยเสียใจเลยก็คืออยู่ร่วมกันกับนาย!”“นายเอาพี่ให้ตายไปเลยเถอะ!”พานเสี่ยวเหลียนซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ จากนั้นเป็นฝ่ายจู่โจมกอดรัดหลินเฟยเมื่อก่อนมีคนที่ดีกับเธอขนาดนี้ที่ไหนกันล่ะคราวนี้พานเสี่ยวเหลียนเห็นชีวิตของหลินเฟยสำคัญกว่าตัวเองไปตั้งนานแล้ว“พี่สะใภ้ ไม่ได้ คืนนี้ถ้ามีอะไรกันอีก พี่จะต้องรับไม่ไหวแน่นอน”“เปลี่ยนเป็นวันอื่นเถอะ”หลินเฟยรู้สึกทำใจไม่ได้ในเมื่อเขายิ่งรบยิ่งกล้าหาญ คนทั่วไปรับไม่ไหวด้วยซ้ำ“ไม่เอา จะเอาตอนนี้แหละ พี่ไม่ไหวแล้ว เสี่ยวเฟยนายวางใจเอาได้เต็มที่เลย!”“พี่ตายบนตัวเธอก็ยอม!”……เช้าวันต่อมาหลินเฟยเป็นฝ่ายทำอาหารเช้า เรียกถังรั่วเสวี่ยกับพันเสี่ยวเหลียนให้มาทานข้
“พังคลินิกของฉัน?”“หูเหล่าซาน ถ้าแกแน่จริง แกก็ลองพังดูสิ!”หลินเฟยเดิมทีไม่อยากสนใจคำการหัวเราะเยาะของคนกลุ่มนี้แต่ว่าพวกเขาพูดจาได้แย่มากจริง ๆ หลินเฟยอดหยุดฝีเท้าลงไม่ได้ จากนั้นพูดอย่างเย็นชาผู้ชายคนเมื่อครู่ที่ตามมาด่าหลินเฟยชื่อว่าหูเหล่าซานเขาได้ยินว่าหลินเฟยกล้าข่มขู่เขา จึงพูดขึ้นทันที “แกยังกล้าขู่ฉันเหรอ?”“รีบปิดโทรโข่งบ้า ๆ ของแกซะ อย่ามารบกวนการนอนของฉัน!”“ไม่อย่างนั้นฉันจะพังคลินิกกระจอก ๆ ของแกจริง ๆ!”“หลินเฟย นายออกไปทำงานอย่างว่าง่ายจะดีกว่า คลินิกกระจอกของนายไม่มีความจำเป็นที่ต้องเปิดต่อไปด้วยซ้ำ”“จริงด้วย ตัวเองมีความสามารถมากแค่ไหนไม่รู้ตัวเลยเหรอ?”“ต่อให้คลินิกเปิดขึ้นมาใหม่ ในหมู่บ้านก็ไม่มีใครสักคนที่ไปรักษา นายจะได้เงินมาจากไหน?”ป้า ๆ ที่ดูเหตุการณ์คึกครื้น พูดเยาะเย้ยอย่างกำเริบเสิบสานความเป็นจริงตั้งแต่ที่พ่อแม่ของหลินเฟยตายไป คนของหมู่บ้านเถาฮวาทั้งหมดที่ให้เกียรติหลินเฟยนั้นมีน้อยถึงน้อยมาก ๆหากเป็นเมื่อก่อนหลินเฟยถูกพวกเขารังแกแบบนี้ ทำได้แค่หน้าม่อยคอตกหนีไป อดกลั้นความโมโหไว้แต่ตอนนี้ หลินเฟยไม่มีทางปล่อยพวกเขาอยู่แล้ว“ดูถูก
ยัยคนนี้วันนี้แต่งหน้าอ่อน ๆ ซะด้วย ดูสวยเป็นพิเศษเลยอันที่จริง เธอได้รู้เรื่องที่หลินเฟยเปิดคลินิกใหม่อีกครั้ง จึงตั้งใจแต่งตัวเพื่อไปช่วยงานเพียงแต่ เมื่อไปถึงคลินิกก็ไม่เห็นหลินเฟย จึงออกมาตามหาหลินเฟย“แน่นอน ผมจะลืมพี่ลู่ลู่ได้ไงล่ะ”หลินเฟยยิ้มกริ่ม โอบเอวบางของจ้าวลู่ลู่เอาไว้ จากนั้นก็บีบก้นของเธอสองครั้ง“ไม่ต้องมาลงไม้ลงมือ เมื่อวานนายบอกว่ามีของขวัญให้ฉัน ของขวัญอยู่ที่ไหน?”จ้าวลู่ลู่ถลึงตาใส่หลินเฟย จากนั้นพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อเมื่อวานเธอรอหลินเฟยทั้งวัน แต่ก็รอไม่ถึง ในใจรู้สึกร้อนรนมาก“ไอ้หยา ดูความจำของฉันสิ พี่ลู่ลู่ คุณหลับตาลงก่อน อีกเดี๋ยวตอนที่ผมให้คุณลืมตา คุณค่อยลืมตา”หลินเฟยตบหัวแล้วพูดตำหนิตัวเอง“เตรียมจะเซอร์ไพรส์ฉันด้วยเหรอ?”จ้าวลู่ลู่หลับตาลงเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอขึ้นมานี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่หลินเฟยมองให้เธอ!คิดไว้ว่าหลินเฟยจะต้องตั้งใจเลือกอย่างตั้งใจและนานมากสินะ?”หลินเฟยเตรียมจะนำสร้อยคอหยกใส่ให้จ้าวลู่ลู่ แต่เมื่อคิดดู ก็เปลี่ยนความตั้งใจอีก อยากจะล้อเธอเล่นก่อนผ่านไปครู่หนึ่งหลินเฟยจับหญ้าหางจิ้งจอกกับดอกไม้ริมทางมาหนึ่
“ฝันไปเถอะ ตอนนี้กลางวันแสก ๆ เดี๋ยวจะถูกคนเห็นได้”“นายจะไปโฆษณาคลินิกไม่ใช่เหรอ? ฉันไปด้วยกันกับนาย”“รอกลางคืน ฉันจะไปหานาย”จ้าวลู่ลู่ท่าทางกินปูนร้อนท้อง มองดูซ้ายขวามั่นใจบริเวณใกล้ ๆ ไม่มีคน ถึงได้พูดเสียงเบาที่ข้างหูของหลินเฟยพูดคำนี้จบ เธอก็เขินอายจนหน้าแดง “หึหึ พี่ลู่ลู่ดีต่อผมจริง ๆ”“ไปเถอะ พวกเราไปหมู่บ้านข้าง ๆ ด้วยกัน”ใกล้ ๆ หมู่บ้านเถาฮวายังมีอีกสองสามหมู่บ้านหมู่บ้านแรกที่หลินเฟยจะไปอยู่ห่างจากหมู่บ้านเถาฮวาระยะทางแค่ครึ่งชั่วโมงโทรโข่งอันใหญ่ของหลินเฟยดังดีมาก แต่มีแค่ไม่กี่คนที่ถูกดึงดูดความสนใจจ้าวลู่ลู่คิดหาวิธี จากนั้นอัดเสียงของตัวเองเข้าไปเสียงของจ้าวลู่ลู่เสียงชัดแจ๋ว และก็หวาน เพียงครู่เดียวก็มีชาวบ้านมากมายถูกดึงดูดมา“เด็กสาวคนนี้หน้าตามีน้ำมีนวลจริง ๆ”“คลินิกเปิดใหม่ใช่ไหม? อยู่ที่ไหนเหรอ เดี๋ยวพวกเราจะพาคนไปดูหน่อย”ไม่ต้องคิดมาก ต้องเป็นเพราะถูกความสวยของจ้าวลู่ลู่ดึงดูดมาแน่นอนหรือแม้กระทั่งมีวัยรุ่นโสดหลายคน มาถามช่องทางการติดต่อของจ้าวลู่ลู่ จะเลี้ยงข้าวเธอหลินเฟยรู้สึกไม่พอใจเป็นระยะนี่จะเลื่อยเก้าอี้ต่อหน้าเขาอย่างเปิดโจ่
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได