"เจิ้งโหย่วเหลียง อย่าให้มันมากเกินไปนะ!"เมื่อเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันของเจิ้งโหย่วเหลียงไหนเลยที่โม่หลินจะไม่รู้ว่าเขาแค่ต้องการทำให้ตัวเองอับอายเท่านั้นเขาจึงจ้องเขม็งพร้อมกับตะคอกออกมาว่า"ถ้าไม่มีผู้สนับสนุนก็อย่ามาเป็นข้าราชการ นี่เป็นคำพูดที่ชาญฉลาดมาทุกยุคทุกสมัย!""คนอย่างนายโม่หลิน ไม่มีภูมิหลังอะไรเลย หัวเดียวกระเทียมลีบ รู้จักเหลิ่งชิงซงแค่เท่านั้น คาดว่าตอนนี้น่าจะถูกเลขาหลิวจัดการไปแล้วล่ะ แค่ตัวเองก็จะเอาไม่รอดอยู่แล้ว""ต่อให้ฉันจะรังแกนายเกินไป แล้วนายจะทำอะไรได้ล่ะ?"เจิ้งโหย่วเหลียงหัวเราะอย่างเต็มที่และภูมิใจอย่างยิ่ง"วันนี้ฉันจะบอกเอาไว้เลยนะ!""ถ้าหากนายไม่ยอมมุดหว่างขาของฉันแล้วละก็ งั้นฉันก็จะให้พวกที่ไม่ดูตาม้าตาเรือพวกนั้นเก็บข้าวของและไสหัวออกไปให้หมด!"ก่อนที่โม่หลินจะได้พูดอะไรออกมาจูเต๋อเหริน โจวกั๋วเฟิง และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายสิบนายก็มารวมตัวกันรอบๆ และตะคอกด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธออกมา"ผู้อำนวยการโม่ คุณไม่จำเป็นต้องขอร้องเขาหรอก ต่อให้พวกเราจะเก็บข้าวของและออกไป พวกเราก็ไม่เสียใจหรอกนะ!""แต่ว่า พวกเราอดทนต่อความอั
โม่หลินโบกมือ และพูดกับสายตรวจหนุ่มอายุราวๆ ยี่สิบกว่าปีว่า"คือว่า...เสี่ยวหลิว ไปปล่อยคนเถอะ รีบไปเร็วเข้า""ได้ครับ...ผู้อำนวยการโม่ ตอนที่คุณจะไปหาน้องหลิน พาพวกเราไปด้วยได้ไหม"โจวกั๋วเฟิง จูเต๋อเฟิงรู้ว่าโม่หลินก็ไม่มีทางเลือกอื่นถึงไปประนีประนอมแบบนั้นแม้ว่าจะไม่เต็มใจ แต่กลับต้องยอมรับมันอย่างเสียไม่ได้เพราะหากเจิ้งโหย่วเหลียงคิดจะจัดการกับพวกเขา มันก็คงง่ายดายเอาเสียมากๆแต่หลังจากที่เหตุการณ์แบบนี้ได้เกิดขึ้น พวกเขาก็ไม่อยากจะเป็นสายตรวจอีกต่อไปแล้วและการติดตามโม่หลินไปอยู่กับหลินเฟย คงจะเป็นทางเลือกที่ดีอยู่ไม่น้อย"ได้สิ ถึงเวลานั้นฉันจะพาพวกนายไปด้วยแน่นอน!"โม่หลินพยักหน้าตอบรับไม่นานหลังจากนั้นฉินฮ่าว ติงหราน และเฉินตงก็ได้ถูกสายตรวจที่ชื่อเสี่ยวหลิวปล่อยตัวออกมาในตอนแรก ฉินฮ่าวและคนอื่นๆ แทบไม่เชื่อว่าโม่หลินจะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นเจิ้งโหย่วเหลียง และได้ยินคำพูดอธิบายของเจิ้งโหย่วเหลียงแล้วนั้นพวกเขาถึงได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น!จู่ๆ พวกเขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที!"แม่งเอ๊ย ที่แท้ที่อู๋เทียนกลัวเขามากขนาดนั้น ก็เพราะกลัวว่าเ
ฉินฮ่าวและคนอื่นๆ ต่างก็คิดว่า ในตอนนี้พวกเขามีเลขาหลิวคอยหนุนหลังอยู่!ดังนั้นการแสดงออกจึงดูหยิ่งยโสเอาเสียมากๆ!เมื่อเดินเข้าไปหาหลินเฟย ฉินฮ่าวก็ยังทำท่าทางที่หยิ่งยโสอย่างยิ่งในการตบหน้าของหลินเฟย!แต่เขากลับมองไม่เห็นว่าทันทีที่คำพวกนี้ได้ถูกโพล่งออกมาเลขาหลิว ฉินหลิน ติงหรูหลง และเฉินหย่วยเฉียวที่ตามหลังมากลับตื่นตระหนกจนหน้าซีดเผือด!"ใครเป็นคนปล่อยพวกแกออกมา?"เมื่อเห็นฉินฮ่าวและคนอื่นๆ ออกจากคุกใบหน้าของหลินเฟยเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันทีจากนั้นเขาก็เงื้อมือไปตบมือของฉินฮ่าวออกทันที!"อา…"จู่ๆ ฉินฮ่าวก็รู้สึกว่ามือของตัวเองเจ็บปวดราวกับถูกค้อนเหล็กทุบ!มันเจ็บจนเขาต้องส่งเสียงร้องออกมา!และมันก็ทำให้เขาเดือดดาลยิ่งขึ้น!ตอนนี้หลินเฟยได้กลายเป็นนักโทษชั้นต่ำไปแล้ว แต่ทำไมเขายังกล้าทำแบบนี้ได้?"แม่งเอ๊ย ฉันว่านายไม่อยากจะอยู่แล้วใช่ไหม!""ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้จัดการกับนาย นายก็คงไม่รู้ว่า…"ขณะที่ฉินฮ่าวกำลังโกรธ และเตรียมที่จะสอนบทเรียนให้กับหลินเฟยนั้น!เลขาหลิวก็กลับกระโจนเข้ามา และเตะไปที่ฉินฮ่าวอย่างเต็มแรง!"กล้ามาก! ใครให้ความกล้ากับนาย นี่กล้าที่จะทำแบบน
หลังจากสามารถดึงสติกลับมาได้ เขาก็รีบคุกเข่าและโขกศีรษะขอร้องหลินเฟยในทันที"น้องหลิน เราผิดไปแล้ว ขอความเมตตาอย่าได้ถือเสเราเลย…""น้อยๆ หน่อยเถอะ ฉันมันก็แค่เห็บไรชั้นต่ำเท่านั้นเอง""หากมาดีก็ดีไป หากมาร้ายก็ร้ายตอบ!""ตอนนี้มาร้องขอความเมตตาจากฉัน? มันสายเกินไปแล้ว!"ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้พูดไร้สาระแม้แต่น้อยหลินเฟยตะคอกอย่างเย็นชาและไม่สนใจปฏิกิริยาของหลายๆ คนเขาเดินมุ่งหน้าไปหาโม่หลินและคนอื่นๆเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน หลินเฟยไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ เลยฉินหลินจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน"ผู้อำนวยการโม่ ผมขอแนะนำสักหน่อยนะครับ นี่คือหวางเจิง หลานสาวของคุณท่านหวางครับ และนี่ก็คือโจวจื่อหลง หัวหน้าโจวของสำนักคุ้มกันมังกรครับ"เมื่อเห็นว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับโม่หลินตรงกันข้ามโม่หลินกลับดูแปลกใจและสงสัยอยู่เต็มใบหน้า ขณะที่หลินเฟยถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา เขาก็ยิ้มและแนะนำโม่หลินให้รู้จัก"อา สวัสดีครับ คุณหวาง หัวหน้าโจว..." โม่หลินรู้สึกประหลาดใจมากเขาทักทายหวางเจิงและโจวจื่อหลงอย่างรวดเร็วพร้อมทำความเคารพ"ผู้อำนวยการโม่ ไม่ต้องเกรงใจขนาด
"ขอโทษ? ฮึ่ม ถ้าคำขอโทษมันมีประโยชน์ แล้วจะมีสายตรวจอย่างพวกคุณเอาไว้ทำไม?""ถ้าคำขอโทษมีประโยชน์ แล้วประเทศจะร่างกฎหมายมากมายขนาดนี้เอาไว้ทำไม!""คุณคิดว่าตัวเองเป็นผู้อำนวยการสายตรวจประจำจังหวัดแล้วจะทำอะไรก็ได้ หรือจะใช้อำนาจมากดขี่คนอื่นได้ตามอำเภอใจอย่างนั้นเหรอ?"หลินเฟยตะคอกออกมาด้วยความโกรธ พร้อมกับเตะไปที่เจิ้งโหย่วเหลียงจนกลิ้งไปมาบนพื้นอวัยวะภายในของเจิ้งโหย่วเหลียงเจ็บปวดราวกับถูกรถไฟชนแต่เขาไม่กล้าแสดงความไม่พอใจและความขุ่นเคืองใดๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อยเขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และชี้ไปที่ฉินหลินและคนอื่นๆ ด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย"ไม่กล้า ไม่กล้า น้องหลิน ฟังคำอธิบายของฉันก่อนนะ…""ความจริงแล้ว เรื่องที่จะจัดการกับผู้อำนวยการโม่นั้นไม่ใช่ความคิดของฉันเลย แต่ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะฉินเอ้อและพวกเขาต่างหากที่สั่งให้ฉันต้องทำแบบนี้!""โดยส่วนตัวแล้ว ฉันรู้สึกชื่นชมผู้อำนวยการโม่มาก!""ฉัน...ฉันยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกับผู้อำนวยการโม่อยู่เลยนะ!"ในตอนท้ายสุดของคำพูด เจิ้งโหย่วเหลียงยังยิ้มเจื่อนๆ ออกมา แต่ทว่าด้วยเหตุที่ไม่จริงใจ รอยยิ้มของเขาจึงดูน่าเกลียดกว่าการร้องไห้เ
"นาย...นาย...อา...อ๊าก!"เจิ้งโหย่วเหลียงแทบจะสติแตกแล้วในตอนนี้ตอนนี้เมื่อถูกโม่หลินพูดกระตุ้นแบบนี้แล้ว ใบหน้าของเขาก็แดงก่ำ ราวกับหัวหมูที่ถูกน้ำร้อนๆ ลวกทันใดนั้นเขาก็พ่นเลือดออกมาเต็มปาก หลับตาและเป็นลมล้มพับด้วยความโกรธ!"ดี ดีมากๆ ดีที่สุดก็โกรธจนตายไปเลยไอ้หมูอ้วน!"พี่น้องสายตรวจหลายๆ นายส่งเสียงเชียร์และปรบมือ!ทุกคนได้แสดงความสะใจออกมาอย่างไม่รู้ตัว!และในเวลานี้ฉินหลิน ติงหรูหลง เฉินหย่วนเฉียวก็ได้ทุบตีฉินฮ่าวและคนอื่นๆ จนแทบจะช่วยตัวเองไม่ได้แล้วยิ่งไปกว่านั้น อาศัยช่วงเวลาที่หลินเฟยกำลังจัดการเจิ้งโหย่วเหลียงพวกเขาได้โทรไปบอกเล่าเรื่องราวกับต้นตระกูลทั้งหมดแล้วในระยะเวลาอันสั้น พวกเขาได้ปรึกษาหารือกันเรื่องที่จะจัดการกับเรื่องนี้จากนั้นพวกเขาก็ได้รวบรวมความกล้าและเดินไปหาหลินเฟยด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ พร้อมพูดว่า"น้องหลิน เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้ เป็นเพราะความผิดของเราจริงๆ เราไม่หวังให้คุณให้อภัย…""แค่หวังว่าคุณจะเห็นแก่ความจริงใจที่เราต้องการกลับตัวกลับใจ ให้โอกาสเราชดใช้สักครั้ง ปล่อยครอบครัวของเราให้มีทางรอดอยู่ได้…""ไม่ว่าคุณจะเสนอเงื่อนไขใดๆ พวกเราก็
และในเวลานี้ ประตูใหญ่ของสำนักงานสายตรวจก็ได้สงบลงได้เสียทีผู้คนที่มาจากตัวจังหวัด เหลือเพียงเจิ้งโหย่วเหลียงเท่านั้นที่ยังนอนหมดสติอยู่บนพื้นรวมไปถึงเลขาหลิวที่ได้ติดตามหลินเฟยมาอย่างเงียบๆโจวจื่อหลงให้ทีมคุ้มกันยกตัวของเจิ้งโหย่วเหลียงขึ้นและโยนไปที่กองขยะที่อยู่ใกล้ๆ อย่างกระตือรือร้นไม่นานหลังจากนั้น เจิ้งโหย่วเหลียงก็จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุกไปตลอดถ้าอย่างนั้นการที่เขาได้ถอดถอนตำแหน่งผู้อำนวยการของโม่หลินออกนั้นก็คงจะเป็นโมฆะไปโดยปริยายแน่นอนว่า โม่หลินยังอยากที่จะเป็นผู้อำนวยการสายตรวจรับใช้ประชาชนต่อไป"คุณยังจะตามฉันอยู่อีกทำไม? กลับไปตัวจังหวัดของคุณเถอะ"เมื่อหลินเฟยเห็นว่าเลขาหลิวปฏิเสธที่จะออกไปเขาก็ขมวดคิ้วและพูดออกมาไม่นานมานี้ เขาได้เห็นว่าเลขาหลิวลงไม้ลงมือกับเหลิ่งชิงซงด้วยตาของตัวเองดังนั้น ท่าทางของหลินเฟยจึงเย็นชามาก"คือว่า...น้องหลิน คือแบบนี้นะ รัฐมนตรีอู๋กำลังจะมาที่นี่และเขาก็กำชับเอาไว้แล้ว"เลขาหลิวฝืนยิ้มออกมา และไม่กล้าจะชักช้าแต่อย่างใด"ก่อนที่เขาจะมาถึง เขาให้ผมตามติดคุณเป็นเงา ไม่ให้ห่างแม้แต่ก้าวเดียวเลยครับ!""ผมสามารถตอบสนอง
หลังจากที่หลินเฟยพูดจบ เขาก็วางสายไป"น้องหลิน ในเมื่อคุณท่านหวางพักอยู่กับคุณ งั้นเราก็ไปเยี่ยมสักหน่อยจะได้หรือเปล่า"ในเวลานี้ เหลิ่งชิงซงก็ได้เสนอแนะออกมา"จริงด้วยน้องหลิน เราเลื่อมใสคุณท่านหวางมานานแล้ว สามารถพบเขาได้ ถือว่าเป็นบุญที่สั่งสมมาเลยนะ!"โม่หลินเดินเข้ามา และพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อคิดว่ามีโอกาสจะได้พบกับคุณท่านหวางพวกเขาทั้งสองรู้สึกภูมิใจที่มีเพื่อนอย่างหลินเฟยในขณะนี้"ไม่มีปัญหา ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ถึงเวลาอาหารเย็นพอดี""เราไปกินข้าวด้วยกันเถอะ" หลินเฟยยิ้มและพยักหน้า"ไปกันเถอะพี่หลิน" หวางเจิงแลบลิ้นออกมาอย่างทะเล้น"นี่วิ่งไปวิ่งมาครึ่งค่อนวันแล้ว ฉันหิวจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว!""คุณเป็นเจ้าบ้าน จะต้องพาเราไปกินอาหารพื้นบ้านที่อร่อยที่สุดนะ!""ใช่แล้ว น้องหลิน ตอนนี้นายถือว่าเป็นเศรษฐีแล้วนะ ให้เราช่วยใช้เงิน จัดการนายให้หนักสักมื้อ นายคงไม่โกรธใช่ไหม?"โจวจื่อหลงก็พลอยล้อเล่นไปด้วย"ฮ่าฮ่า อยากกินอะไรสั่งได้เลย มื้อนี้ผมเลี้ยงเต็มที่!"หลินเฟยตอบตกลงอย่างใจป้ำทันที!……ขณะที่หลินเฟยและคนอื่นๆ กำลังจะกลับไปยังบ้านใหม่ที่เพิ่งซื้อมาห้องโถงใหญ่ของต
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได