หลังจากเขาได้เข้ามาในบริษัทเขาได้กดหมายเลขติดต่อไปยังกัวซ่าวเจี๋ยผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบในทันที"ผู้อำนวยการกัว ผมเอง เฉินจินเหว่ย""อ้อ ที่แท้ก็เป็นบอสเฉินนี่เอง ตอนนี้ผมกำลังแช่น้ำอยู่กับเพื่อน คุณมีอะไรก็พูดมาเถอะ""หากไม่รีบร้อนก็วางเถอะ"น้ำเสียงของกัวซ่าวเจี๋ยดูหมดความอดทนอยู่เล็กน้อยในความเป็นจริง เขากำลังเตรียมที่จะเจรจาเชิงลึกกับแม่สาวน้อยที่เพิ่งจะพบคนนั้นอยู่จู่ๆ ก็มีสายโทรเข้ามารบกวน เขามีสีหน้าดีด้วยคงจะแปลกแล้ว"คือแบบนี้นะครับ ก่อนหน้านี้ผมขอให้คุณทำเอกสารการตรวจสอบปลอมขึ้นมาฉบับหนึ่งใช่ไหมล่ะครับ? ตอนนี้คนที่ทำโครงการนี้รู้สึกว่าผลการตรวจสอบมันมีปัญหา ผมเลยอยากจะให้คุณออกมารับหน้าอีกสักครั้งน่ะครับ""หลังจากนั้นผมก็เลยตกลงไปแล้ว""แน่นอนว่า ผมจะไม่ให้ท่านยุ่งฟรีๆ อย่างแน่นอน ขอแค่ท่านขยับปากเล็กน้อย ระบุสิ่งที่ตรวจสอบไม่ผ่าน ผมก็จะนำเงินสิบล้าน ไม่สิ สิบห้าล้านมาเป็นค่าตอบแทนของคุณได้""คุณคิดว่าอย่างไร?"เฉินจินเหว่ยก็ไม่ได้โกรธ แต่พูดออกมาด้วยรอยยิ้มแทนแค่ขยับปากก็ได้สิบห้าล้านแล้วเฉินจินเหว่ยเชื่อว่ากัวซ่าวเจี๋ยไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธแต่อย่างใด
ประตูทางเข้าของบริษัท หลินเฟยรออยู่นานจนรู้สึกเบื่อขึ้นมาเล็กน้อย จึงหันไปพูดคุยกับจ้าวลู่ลู่ที่อยู่ข้างๆจ้าวลู่ลู่ไม่ได้พบหลินเฟยมาเจ็ดแปดวันแล้วเธอจึงมีเรื่องมากมายที่จะพูดกับหลินเฟยเป็นธรรมดาระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้นจ้าวลู่ลู่ก็ได้พูดถึงยาเสริมความงาม โดยบอกว่ามันคือสินค้าขายดี เม็ดละหลายหมื่นก็ซื้อไม่ทัน"พี่ลู่ลู่ นี่คุณรู้เรื่องยาเสริมความงามนั้นด้วยเหรอ?"หลินเฟยพูดอย่างประหลาดใจเล็กน้อยเพราะท้ายที่สุดแล้วในช่วงเวลาที่ยาเสริมความงามออกมาวางขายนั้น จ้าวลู่ลู่ได้อยู่นอกเมืองดูเหมือนว่าภายในประเทศ ยาเสริมความงามสามารถสร้างชื่อเสียงด้วยตัวของมันเองได้แล้วคาดว่าคงไม่นานนัก"สินค้าขั้นเทพแบบนี้ ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะ?""ในวันที่ลูกพี่ลูกน้องของฉันแต่งงาน ภายใต้สายตาของทุกคน เขาได้มอบยาเสริมความงามนี้ให้กับพี่สะใภ้หนึ่งเม็ด""พี่สะใภ้เดิมทีผิวค่อนข้างจะคล้ำ ใบหน้าก็มีสิวอยู่เล็กน้อย เมื่อกินยาเสริมความงามนี้เข้าไป ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติเลยล่ะ!""และเธอก็ดูดีขึ้นเป็นอย่างมาก!"เมื่อผ่านไปห้าหกวันโดยพูดเรื่องนี้ขึ้นมาจ้าวลู่ลู่ก็ยังคงดูประหลาดใจเอาเสียมากๆ"ฮ่
เฉินจินเหว่ยแทบอดใจรอไม่ไหวแล้ว!เพราะท้ายที่สุด หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบในครั้งนี้ เงินนี้จะอยู่ในกำมือของเขาอย่างแน่นอนแล้วแต่หลินเฟยกลับไม่สนใจ โบกมือแล้วพูดว่า "ไม่รีบร้อน รอคนอีกคนหนึ่ง รอให้ครบแล้วเราก็ค่อยไป""คนของผู้อำนวยการกัวก็มาถึงแล้ว คุณยังจะรออะไรอีก?""รีบไปดูกันเถอะ อย่ามัวชักช้า อย่าให้ผู้อำนวยการกัวต้องรอนาน"เฉินจินเหว่ยขมวดคิ้ว และเร่งเร้าอย่างหมดความอดทน"งั้นก็ให้เขารอ ต่อให้จะร้อนใจแค่ไหนก็ต้องรอ"หลินเฟยยังคงพูดอย่างใจเย็นและดูไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด"กล้ามาก คุณคิดว่าเวลาของทุกคนไม่มีค่าเลยอย่างนั้นเหรอ?""ไม่คุณก็พาคนไปเลยในตอนนี้ ไม่ก็ไม่จำเป็นต้องไปแล้ว!"เฉินจินเหว่ยหมดความอดทนไปอย่างสิ้นเชิง!พร้อมกับตะคอกเสียงดังออกมาเดิมทีผางไห่ก็คิดที่จะกระตุ้นหลินเฟยไม่ให้เสียเวลาด้วยเช่นกันแต่แล้วจู่ๆ ในเวลานี้ ผางไห่ก็ชี้ไปที่รถออดี้สีดำหลายสิบคันที่อยู่ไม่ไกลและอุทานออกมา"บอสเฉิน คุณรีบดูสิว่า รถคันที่นำหน้ามานั่น ใช่รถประจำตำแหน่งของเทศมนตรีเหลิ่งหรือเปล่า?"จากนั้นผางไห่ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว!ราวกับแมวที่ย่องมากินปลา แต่ถูกจับ
หากเป็นก่อนหน้านี้ เมื่อได้ยินว่าหลินเฟยกำลังจะไปตรวจสอบนั้น เฉินจินเหว่ยและผางไห่จะต้องดีใจแบบสุดๆ อย่างแน่นอนเพราะท้ายที่สุดแล้ว หลังจากที่การตรวจสอบเสร็จสิ้น เงินจำนวนสองร้อยห้าสิบล้านจะไม่หนีไปไหนแน่ๆแต่ทว่าในเวลานี้ เหลิ่งชิงซงได้รีบมาที่นี่เป็นการส่วนตัวไหนเลยที่พวกเขาจะกล้าเสแสร้งแกล้งทำต่อไปได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเหลิ่งชิงซงแบบนี้?ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะขอร้องให้หลินเฟยอย่าได้พาเหลิ่งชิงซงไปตรวจสอบด้วยกัน!แต่อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยเพราะเหลิ่งชิงซงได้มองมาที่พวกเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ และตอบตกลงออกมาแล้ว"ได้สิ น้องหลิน ฉันจะไปตรวจสอบด้วยกันกับคุณ!""ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า โครงการก่อสร้างนี้มันมีตรงไหนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบกันแน่!""หากมีใครกล้าคดโกง ฉันจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่!"คำพูดประโยคสุดท้ายนี้ หนักหน่วงเอาเสียมากๆราวกับค้อนปอนด์ที่หนักอึ้งได้ทุบไปยังหัวใจของเฉินจินเหว่ย ผางไห่ และคนอื่นๆ อย่างเต็มกำลัง!พร้อมกับคิดถึงผลที่จะตามมาเมื่อถูกเปิดโปง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่พวกเขารับไม่ไหวแต่อย่างใดขาและเท้าของพวกเขาก็
เป็นสาวน้อยหน้าตาสะสวยถึงห้าคนเลยทีเดียวในเวลานี้ ขณะที่กัวซ่าวเจี๋ยได้เพลิดเพลินไปกับการบีบนวดของสาวสวยที่ไหล่อยู่นั้นเขาก็ยังคิดเรื่องที่จะใช้เงินสิบห้าล้านที่กำลังจะมาอยู่ในมืออย่างไรด้วยหรือว่าจะรับเลี้ยงเด็กนักเรียนสาวสวยอีกสองสามคนจะดีหรือเปล่า?ไม่ เด็กนักเรียนเล่นจนเบื่อแล้ว แต่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วน่าสนใจกว่า เพราะทำเป็นทุกอย่างงั้นก็ใช้เงินก้อนนี้ไปหาแม่บ้านอวบๆ สักสองสามคนก็แล้วกันเมื่อคิดแบบนี้แล้วกัวซ่าวเจี๋ยก็รู้สึกร้อนใจจนทนไม่ไหวขึ้นมาเขามองไปยังท้องถนนที่ยังไร้วี่แววรถของเฉินจินเหว่ย แล้วพูดว่า"พวกคุณรออยู่ตรงนี้ไปก่อนก็แล้วกัน มีอะไรก็โทรเรียกฉันได้ เสี่ยวเยว่ คุณมาช่วยอะไรผมหน่อย"กัวซ่าวเจี๋ยเลียริมฝีปากของตัวเองหลังจากที่บอกกล่าวกับทุกคนแล้ว เขาก็กอดสาวสวยรูปร่างดีคนหนึ่งเดินไปทางอาคารก่อสร้างในทันทีส่วนเขาจะให้ช่วยอะไรนั้น มันก็ชัดเจนอยู่ในตัวแล้ว"ผู้อำนวยการกัว ตรงนี้ไม่ดีหรอกมั้งคะ?""เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาตรวจสอบแล้วไม่ใช่หรือคะ?"หญิงสาวที่ชื่อว่าเสี่ยวเยว่ ดูเหมือนจะต่อต้านอยู่มากแต่ในความเป็นจริง เธอกลับได้โน้มตัวอยู่ในอ้อมแขนของกัวซ่
"อืม... วันนี้ผู้อำนวยการกัว...เก่งจังเลยนะคะ..."นั่นคือเสียงที่มีเสน่ห์ของสาวคนหนึ่งมันได้ดังแว่วมาเป็นระยะๆ ซึ่งก็คือเสี่ยวเยว่อย่างไม่ต้องสงสัย!"มันแน่นอนอยู่แล้ว...""ฉันจะบอกความลับให้เธอฟังนะ…หลังจากตรวจสอบอาคารนี้เรียบร้อยแล้ว ฉันก็จะได้รับเงินสิบห้าล้านบาทอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องเปลืองแรงแต่อย่างใดเลย…""ฉันก็เลยอารมณ์ดี มีเรี่ยวแรงใช้ไม่หมดแบบนี้ไง!"กัวซ่าวเจี๋ยรู้สึกฮึกเหิมและเริ่มคุยโวโอ้อวดออกมา"จริงเหรอคะ? ผู้อำนวยการกัว...เก่งจังเลยค่ะ แค่ขยับปากก็ทำเงินได้สิบห้าล้านแล้ว แต่อาคารนี้...ตรวจสอบผ่านแล้วไม่ใช่เหรอคะ?""ทำไมยังต้อง...ตรวจสอบอีกล่ะคะ?" เสี่ยวเยว่ถามอย่างสงสัย"สนใจไปทำไม ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังไงก็ตรวจสอบใหม่อีกที ชี้ตำแหน่งที่ไม่ผ่าน แล้วฉันก็ได้รับเงินแล้ว!"กัวซ่าวเจี๋ยหายใจหอบๆ อย่างเหนื่อยๆโดยไม่รู้เลยว่าเหลิ่งชิงซงและคนอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลได้ยินคำพูดเหล่านี้อย่างชัดเจนทุกคำ!และในขณะนี้ สีหน้าของเหลิ่งชิงซงก็ดูเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น!ใครๆ ก็สามารถรับรู้ถึงความโกรธในตอนนี้ของเขาได้!"ที่แท้อาคารได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว!""เฉินจินเหว่ยนายมันห
"ท่านจะมาก็ไม่บอกผมล่วงหน้าสักหน่อย ผมจะได้ออกมาต้อนรับท่าน…""ผู้อำนวยการกัวยุ่งจะตายไป ยุ่งอยู่กับการรับเงินและเล่นกับผู้หญิง ฉันจะกล้าให้คุณออกมาต้อนรับได้อย่างไร?"เหลิ่งชิงซงตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแบบกึ่งๆ"เทศมนตรีเหลิ่ง ผม...ผม..."เมื่อได้ยินมาถึงตรงนี้กัวซ่าวเจี๋ยก็เหลือบไปมองเฉินจินเหว่ยและผางไห่ที่ใบหน้าดำคล้ำราวกับหมิ่นหม้อ จู่ๆ ก็เกิดอยากจะสาปแช่งอย่างรุนแรงออกมา!แม่งเอ๊ย เหลิ่งชิงซงมาถึงแล้ว ก็ไม่มาบอกเขาสักหน่อยอย่างนั้นเหรอ?เมื่อเห็นท่าทางที่เกรี้ยวกราดของเหลิ่งชิงซงแบบนี้แล้ว ไหนเลยที่เขาจะไม่รู้ว่า เหลิ่งชิงซงได้ยินคำพูดเมื่อครู่ที่ผ่านมาเสียทั้งหมดแล้ว!ขณะที่เขากำลังจะพูดอธิบายออกไป"พอได้แล้ว ฉันไม่อยากจะฟังคำพูดไร้สาระของพวกคุณอีกแล้ว!"เหลิ่งชิงซงมองไปยังผางไห่และกัวซ่าวเจี๋ย แล้วตะคอกเสียงดังออกมา"พวกคุณสองคนกล้ามากที่ช่วยเฉินจินเหว่ยให้มารังแกเพื่อนของน้องหลินแบบนี้ มันช่างน่าโมโหจริงๆ รีบเก็บข้าวของแล้วไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!""ก่อนที่ฉันจะให้คนมาตรวจสอบ ทางที่ดีพวกคุณมอบเงินที่ยักยอกมาตลอดหลายปีด้วยตัวเองดีกว่า ไม่อย่างนั้นแล้ว พวกคุณจะต้องอยู่ในคุก
จากนั้นหลิ่วจือจินก็ได้มองไปยังหลินเฟยและเหลิ่งชิงซงด้วยความปลาบปลื้มในทันที"หลินเฟย เทศมนตรีเหลิ่งคะ วันนี้ต้องขอบคุณพวกคุณมากเลยนะคะ""ไว้มีโอกาส ฉันจะเลี้ยงข้าวพวกคุณเป็นการตอบแทนนะคะ""จริงด้วย น้องหลิน เทศมนตรีเหลิ่ง หากไม่ได้พวกคุณ พวกเราก็คงยังไม่ได้ค่าแรงอย่างแน่นอน!""เรานัดเวลากันเอาไว้ดีไหมครับ พวกเราจะต้องเลี้ยงข้าวพวกคุณอย่างแน่นอน!"คนงานหลายต่อหลายคนเดินเข้ามา และพูดอย่างมีความสุข"ฮ่าฮ่า ไม่จำเป็นต้องเชิญฉันหรอกนะ คุณหลิ่วเชิญแค่น้องหลินก็พอแล้ว"เหลิ่งชิงซงหัวเราะและปฏิเสธออกมาเมื่อได้ยินเหลิ่งชิงซงบอกปัดแบบนี้แล้ว หลิ่วจือจินและคนงานอื่นๆ ก็คิดว่าเหลิ่งชิงซงนั้นมีงานยุ่งมาก จึงไม่กล้าพูดขอร้องมากไปกว่านี้แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว พวกเขากลับร้องขออย่างกระตือรือร้นเอาเสียมากๆ"งั้นก็ได้ งั้นวันมะรืนจะดีไหม มีเวลาฉันจะมากินข้าวกับพวกคุณนะ"ไม่มีทางเลือกอื่น หลินเฟยทำได้เพียงตอบรับพวกเขาไป"เจ๋งไปเลย พี่หลิ่วได้เงินเดือนคืนกลับมาแล้ว งั้นเราก็ไปเที่ยวอย่างไร้กังวลได้แล้วนะ!"เมื่อเห็นเรื่องราวได้จบลงแล้ว จ้าวลู่ลู่ก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงเชียร์ออกมา!"หลินเฟย ค
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได