เงินทองสามารถขับเคลื่อนจิตใจของคนได้หลินเฟยคิดเพียงครู่ก็สามารถคาดเดาได้ว่าจะต้องเป็นเพราะยาเสริมความงามแน่นอน จางซินเยว่ถึงได้ถูกลักพาตัวไปแบบนี้ถ้าไม่ใช่เพราะลู่หลีพูดถึง หลินเฟยก็ไม่รู้เรื่องที่จางซินเยว่ถูกลักพาตัวไปเช่นนี้เมื่อคิดว่าในตอนนี้แม้แต่ความปลอดภัยในชีวิตของตัวเอง จางซินเยว่ก็มีหลักรับประกันหลินเฟยก็รู้สึกร้อนใจเอาเสียมากๆ!เขาอดไม่ได้ที่จะบีบมือของลู่หลีจนเธอรู้สึกเจ็บเมื่อเห็นการตอบสนองแบบนี้ของหลินเฟย เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าประธานของบริษัทเภสัชกรรมหนานผิงนั้น ก็คือจางซินเยว่สาวสวยอายุน้อยที่หลินเฟยปกป้องจนสุดกำลังเมื่อเธออยู่ที่โรงพยาบาลในครั้งนั้นไม่ใช่เหรอ?"หลินเฟย นายอย่าเพิ่งร้อนใจไป ฟังฉันเล่าก่อนนะ"ลู่หลีรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในใจ และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ดึงมือกลับแล้วพูดออกมา"เรื่องการลักพาตัวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ สายตรวจของเราได้รับเรื่องราว และปิดล้อมทั้งเมืองเอาไว้ในทันที""และนายกเทศมนตรีเหลิ่งก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาทำการสอบสวนในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะด้วย""ตามข้อมูลที่เรามีอยู่ในตอนนี้ จางซินเยว่ได้หายตัวไปตอนอยู่ที่บริษัทเภสัชกรรมหนานผิง คนที่ลั
บนท้องถนนแทบจะเต็มไปด้วยรถตำรวจที่จอดอยู่ และทุกแยกจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยตรวจสอบรถทีละคันๆ อย่างเพียงพอซึ่งนายกเทศมนตรีก็ได้สั่งการให้คนออกตามหาเป็นการส่วนตัวนอกจากนี้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทั้งหมดได้ถูกปลุกระดมขึ้น ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะทำให้เราเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญมากแค่ไหนและมันไม่ใช่เพียงเพราะเห็นแก่หลินเฟยเท่านั้นสาเหตุส่วนหนึ่งยังมาจากการที่จู่ๆ เภสัชกรรมหนานผิงก็บูมขึ้นมาอย่างกะทันหัน โดยมีความเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็นองค์กรระดับสูง และเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหลักสำหรับรัฐบาลส่วนท้องถิ่นแล้ว มันเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ทว่าในตอนนี้กลับมีคนที่กล้ามาทำลายเรื่องดีๆ นี้ไปเสียแล้ว พวกเขาก็ต้องทุ่มเทในการสืบสวนคดีเป็นธรรมดา!ดังนั้นเหตุการณ์ที่จางซินเยว่ถูกลักพาตัวไป มันเป็นเรื่องที่รับรู้กันไปทั่ว!ณ ชุมชนห่างไกล ชั้นเจ็ด บริเวณหน้าต่างเมื่อมองเห็นรถตำรวจสายตรวจวิ่งไปมาทั่วท้องถนนชายวัยกลางคนคนหนึ่งมีสีหน้าวิตกกังวลและกระสับกระส่ายเป็นอย่างมากและเขาก็รีบปิดผ้าม่านในทันทีซึ่งเขาเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของเภสัชกรรมหนานผิงที่ชื่อจางผิงนั่นเอง
"คุณชายฉิน? เขาเป็นใคร? หรือว่าเขาเป็นคนที่ส่งคนมาลักพาตัวซินเยว่?"หลินเฟยรีบถามขึ้นมาทันที"คือว่า... แม้ว่ายังไม่ได้รับการยืนยัน แต่เขาเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด"โม่หลินชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองดูข้อมูลที่อยู่ในมือแล้วอธิบายออกมา"คุณชายฉิน มีชื่อเต็มว่าฉินฮ่าว เป็นทายาทสายตรงของตระกูลชั้นสองในเขตเมือง ธุรกิจหลักของครอบครัวคือผลิตภัณฑ์เสริมความงาม""ตามข้อมูลที่ผู้ถือหุ้นเหล่านี้ได้เปิดเผยออกมา ราวๆ สองวันก่อน ฉินฮ่าวไม่รู้ว่าไปได้ข่าวยาเสริมความงามนี้มาจากที่ไหน และได้เดินทางจากเมืองมายังเภสัชกรรมหนานผิงเพื่อเจรจาร่วมมือกับประธานจาง""โดยเสนอราคาซื้อขายเภสัชกรรมหนานผิงในราคาห้าพันล้านบาท""แต่ทว่า กลับถูกประธานจางปฏิเสธอย่างไม่ลังเลใจออกไปทันที""เมื่อถึงตอนบ่าย คุณชายฉินคนนี้ก็ได้เดินทางมาอีกครั้ง และเสนอเงินหนึ่งหมื่นล้านบาท แต่ก็ยังคงคว้าน้ำเหลวกลับไปเหมือนเดิม""ในตอนท้ายสุด คุณชายฉินไม่ได้มาเจรจากับประธานจางอีกต่อไป เห็นได้ชัดว่า สิ่งที่เขาต้องการคือสูตรยาเสริมความงามนั้นเสียมากกว่า"เมื่อได้ยินดังนั้น หลินเฟยก็พูดอย่างโกรธๆ ขึ้นมาว่า "แค่หมื่นล้านก็อยากจะมาซื้อสูต
ด้านนอกของห้องอิมพีเรียลส่วนตัว ยิ่งมีบอดี้การ์ดมืออาชีพที่ค่าตัวสูงลิ่วหลายสิบคนมาเฝ้าดูแลอยู่อีกต่างหากทั้งหมดทั้งมวลล้วนแสดงให้เห็นถึง สถานะที่เหนือกว่าและความมั่งคั่งที่น่าตกใจของพวกเขาได้เป็นอย่างดีไม่น่าแปลกใจเลยที่นักเต้นรูปร่างดีและตาสูงทั้งหกคนจะกล้ามาโชว์ทรวดทรง จนไม่สามารถละสายตาได้แบบนี้หากโชคดีได้รับการโปรดปรานจากคนหนุ่มพวกนี้เสียสักครั้ง เกรงว่าพวกเธอจะต้องทะยานขึ้นฟ้าอย่างแน่นอนในบรรดาชายหนุ่มทั้งสี่คนนี้ หนึ่งในนั้นก็คือฉินฮ่าว ชายหนุ่มอายุราวๆ ยี่สิบกว่าปี ใบหน้ายาว จมูกอินทรีย์ ริมฝีปากบาง และสวมนาฬิกาแบรนด์ดังคนนั้นและอีกสามคนที่เหลือ มีสองคนที่เป็นเพื่อนพากันเกเรของฉินฮ่าว โดยพวกเขามีภูมิหลังครอบครัวที่คล้ายกัน ซึ่งล้วนเป็นทายาทสายตรงของตระกูลชั้นสองในเขตเมืองนั่นเอง"คุณชายอู๋ คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอคุณชายในสถานที่เล็กๆ แบบนี้ได้ ขอถามหน่อยนะว่า ไม่รู้ว่ามือของคุณชาย... ไปโดนอะไรมาถึงได้หักแบบนี้ได้?"ฉินฮ่าวหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา และยกทักทายชายหน้าซีดที่นั่งอยู่กึ่งกลางของโซฟาด้วยความเคารพและอยากรู้อยากเห็นหากหลินเฟยอยู่ด้วย เราจะต้องจำได้อย่างแน่นอนว่
คำพูดของฉินฮ่าว โดนใจอู๋เทียนเข้าอย่างจัง และเขาก็ตอบรับกลับไปโดยแทบจะไม่ลังเลใดๆ เลยเขาแทบรอไม่ไหวที่จะพูดกระตุ้นขึ้นมาว่า"ในเมื่อคุณชายฉินไว้หน้าขนาดนี้ งั้นฉันก็จะไม่เกรงใจ เพียงแต่ว่าบอสใหญ่ยาเสริมความงามนั้นถูกพวกนายขังไว้ที่ไหนล่ะ?""รีบไปพาตัวมา ฉันจะช่วยพวกนายบังคับถามสูตรยาให้ และยังสามารถดำเนินธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ของเราได้อีกต่างหาก!""คุณชายอู๋อย่าเพิ่งร้อนใจไป คนอยู่ที่อื่น เพียงแต่ว่าในตอนนี้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยสายตรวจ แม้แต่นายกเทศมนตรีที่นี่ก็ลงมาตามหาคนด้วยตัวเองแล้ว พวกเราควรรออีกสองวันเพื่อเลี่ยงการถูกตามหา แล้วค่อยถามเรื่องสูตรยาเสริมความงามก็แล้วกัน""คุณชายอู๋ เรามาดื่มกันเถอะ"ฉินฮ่าวหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาด้วยรอยยิ้มและพูดออกมา"ใช่ คุณชายอู๋ เรามาดื่มกันสักแก้วสองแก้ว ถือว่าเป็นการฉลองล่วงหน้าก็แล้วกัน"ชายหนุ่มทายาทเศรษฐีอีกสองคนก็ดึงให้อู๋เทียนมีความสุขด้วยเช่นกันพวกเขาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วพูดสมทบเพราะท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะร่ำรวย แต่พ่อของอู๋เทียนเป็นรัฐมนตรีประจำจังหวัด ซึ่งมีสถานะเหนือกว่าพวกเขาอย่างแน่นอน"ฮึ่ม ไอ้หมาสายตรวจอะไร เทศมนตรีอะไรกั
จู่ๆ ในหัวของเขาก็เต็มไปด้วยความคิดที่ว่า ถ้าอยากจะเล่น ก็ต้องเล่นกับผู้หญิงที่ระดับสูงแบบนี้เสียต่างหาก!"ฮ่าฮ่า ในเมื่อคุณชายฉินไม่สนใจ งั้นพวกเราก็ไม่เกรงใจแล้วนะ"ติงหรานและชายหนุ่มอีกคน ซ้ายกอดขวาโอบ และเริ่มที่จะเพลิดเพลินไปด้วยกันและเสียงที่คลุมเครือก็ดังแว่วมาอย่างไม่ขาดสายฉินฮ่าวค่อยๆ เปลี่ยนความคิด ดึงสาวดาวเต้นคนสุดท้ายเอาไว้ ปลดกระดุมกางเกง ทันทีที่เขาต้องการระบายอารมณ์ออกมาจู่ๆ ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกผลักให้เปิดออกมาบอสใหญ่ของคลับรีบวิ่งเข้ามาอย่างหน้าตาตื่นยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรออกมา ฉินฮ่าวก็ขมวดคิ้ว และพูดอย่างขุ่นเคืองใจขึ้นมาว่า"ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่า หากไม่มีเรื่องอะไรก็ไม่ต้องเข้ามารบกวนพวกเรา?"เจ้าของคลับผู้หญิงพูดด้วยสีหน้าที่ขื่นขมออกมาว่า"คุณชายฉินคะ ฉันก็ไม่อยากจะเข้ามารบกวนความสุขของพวกคุณหรอกนะคะ แต่นายกเทศมนตรีและรองผู้บังคับบัญชาสายตรวจอีกสองท่าน ได้พาชายหนุ่มคนหนึ่งมาตามหาคุณชายค่ะ!""ฉันไม่สามารถหยุดเอาไว้ได้ พวกเขากำลังจะขึ้นมาแล้วค่ะ!"เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้ว สีหน้าของฉินฮ่าวและอีกสองคนก็เปลี่ยนไปทันที ติงหรานขมวดคิ้วและพูดว่า"ห
ทันทีที่หลินเฟยได้เดินเข้าไป โม่หลินและเหลิ่งชิงซง รวมทั้งลู่หลีก็ได้เดินตามเข้าไปด้วยเช่นกันจู่ๆ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้ทำให้สาวๆ ดาวเต้นต่างก็สวมเสื้อผ้ากันอย่างเรียบร้อยโดยไม่รู้ตัว พร้อมกับยืนอยู่ข้างๆ โดยไม่กล้าขยับเขยื้อนแต่อย่างใดแม้ว่าเหลิ่งชิงซงและคนอื่นๆ จะไม่ได้พูดอะไร แต่พวกเธอก็สามารถคาดเดาสถานะของทุกคนได้ แม้กระทั่งลมหายใจก็ไม่กล้าที่จะปล่อยเสียงดังออกมา"พวกแกเป็นง่อยกันไปหมดแล้วหรือไง? ฉันจ่ายเงินจ้างพวกแกมา แม้แต่จะขวางคนก็ไม่กล้างั้นเหรอ?""พวกแกนี่มันไร้ประโยชน์เสียสิ้นดี!"ฉินฮ่าวไม่สนใจหลินเฟยเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับเกรี้ยวกราดพวกบอดี้การ์ดที่ตามมาเสียต่างหากเดิมทีเขาต้องการยื้อเวลา เพราะรอให้อู๋เทียนกลับมา เพื่อให้อู๋เทียนช่วยมารับหน้าและแก้ไขปัญหานี้ให้แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า บอดี้การ์ดที่เขาจ้างมาในราคาที่สูงลิ่วนั้นจะขวางคนไม่ได้แม้แต่คนเดียว!"คุณชายฉินครับ..เขา เขา...ผมจะไล่ตะเพิดพวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้ครับ!"หัวหน้าบอดี้การ์ดถูกหลินเฟยเด็กหนุ่มนั่นเตะจนตัวลอยออกไป เดิมทีก็รู้สึกหงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หนำซ้ำตอนนี้ก็มาถูกต่อว่าอ
"ฮ่าฮ่า เรื่องแบบนี้มันปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่ความผิดหนักหนาอะไรสักหน่อย ผิดฉันก็ว่าไปตามผิด แค่จ่ายค่าปรับนิดหน่อย อย่ามากก็กุมขังวันสองวันเท่านั้นแหละ""แต่ว่านะ พ่อของฉันเป็นเพื่อนรักของผู้บังคับบัญชาเจิ้งจากจังหวัด ฉันคิดว่าหากพวกคุณจับพวกเราไปกุมขังเพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ เกรงว่าผู้บังคับบัญชาเจิ้งจะไม่พอใจเอาได้นะ"ใบหน้าของฉินฮ่าวเย็นชา หัวเราะพร้อมกับพูดอย่างไม่แยแสออกมาต่อให้สถานการณ์จะเป็นแบบนี้ไปแล้ว เขาก็ยังไม่คลายเจ้าของร้านหญิงที่อยู่ในอ้อมแขน เห็นได้ชัดว่าเขานั้นจองหองมากขนาดไหน"นาย…"เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ใบหน้าของโม่หลินก็ดูแย่เอาเสียมากๆเขารู้สึกถึงความไร้พลังเมื่อชกไปในอากาศอย่างเต็มแรงเจิ้งโหย่วเหลียงเป็นบุคคลที่อยู่เหนือเขาหากสถานการณ์เป็นไปตามฉินฮ่าวได้พูดจริงๆ แม้เขาจะจับฉินฮ่าวและคนอื่นๆ ก็เกรงว่าจะต้องถูกเจิ้งโหย่วเหลียงปล่อยออกมาอย่างแน่นอน!คนที่มีเงินและอำนาจ สามารถทำอะไรได้ตามใจปรารถนาเสียจริงๆ!หลินเฟยยังมองออกอีกด้วยว่า ฉินฮ่าวคนนี้กำลังตั้งใจจะปฏิเสธความผิดอย่างหัวชนฝาทันทีที่เขากำลังจะก้าวเข้าไปเพื่อใช้เข็มสะกดจิตถามเขาอยู่นั้นเหลิ่
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได