“ไอ้หลินเฟย คุณคิดแต่จะรังแกฉัน คุณมันช่างใจร้ายจริงๆ ฮือฮือ”จ้าวลู่ลู่รอจนกระทั่งพ่อแม่ของเธอเข้านอนก่อน เธอจึงกล้าแอบออกมาแต่กลับถูกหลินเฟยทุบตีอีกครั้ง เธอร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจทันที“พี่ลู่ลู่ ผมคิดว่าเป็นโจร ผมไม่รู้ว่าจะเป็นพี่จริงๆนะ”“ถ้าผมรู้ว่าเป็นพี่ ผมคงไม่ตีพี่หรอก”หลินเฟยรีบปลอบเธอด้วยคำพูดที่ดีๆ และในขณะเดียวกันก็เอื้อมมือออกไปนวดหัวของจ้าวลู่ลู่โชคดีที่หลินเฟยเพิ่งได้เรียนรู้เทคนิคการนวดมา และหลังจากนั้นไม่นาน จ้าวลู่ลู่ก็รู้สึกดีขื้นและไม่เจ็บปวดอีกแล้วแต่หญิงสาวคนนี้ยังรู้สึกน้อยใจอยู่ ไม่ว่าหลินเฟยจะพยายามเกลี้ยกล่อมเธออย่างไร เธอก็ยังไม่ยอมสนใจหลินเฟย“พี่ลู่ลู่ ผมรู้สึกผิดแล้วจริงๆ ผมสัญญาว่าจะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้วนะครับ”“ถ้าพี่ยกโทษให้ผม ผมสัญญาว่าต่อจากนี้จะฟังคุณในทุกเรื่อง โอเคไหม?”หลินเฟยยังกังวลใจอยู่เล็กน้อย พยายามเกลี้ยกล่อมเธออีกครั้ง"จริงเหรอ?"“งั้นถ้าพรุ่งนี้โจวหมิงมาหาเรื่องนายอีก นายก็อย่าไปมีเรื่องชกต่อยกับเขาอีกนะ”จ้าวลู่ลู่หยุดร้องไห้ทันที“โอเค ผมจะเชื่อฟังพี่ครับ”หลินเฟยรับปากเธออย่างไม่ลังเลด้วยร่างเล็กๆของโจวหมิง
ทันใดนั้น ในสมองของหลินเฟยก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมาได้“พี่ลู่ลู่ เวลาพี่สอนผมอ่านหนังสือ พี่ช่วยนั่งบนตักของผมได้ไหม?”“เอ่อ ทำไมต้องนั่งบนตักของนายด้วยล่ะ?”จ้าวลู่ลู่ถามด้วยสายตาหวาดระแวงทันที“คือว่าตอนนี้ผมง่วงนิดหน่อยน่ะ และผมเกรงว่าผมจะจำไม่ได้เมื่อพี่สอนผมอ่านหนังสือ”“แต่ถ้าพี่นั่งบนตักผมแล้วทับผมไว้ ผมก็จะตื่นตัวหน่อย นอกจากนี้ ถ้าพี่พูดข้างๆหูผม ผมจะได้ยินเสียงของพี่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นไงครับ”คำพูดของหลินเฟยนั้นเต็มไปด้วยคำโกหก"นายคิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ?"เห็นได้ชัดว่าจ้าวลู่ลู่ไม่เชื่อเขาเลย“จริงๆนะพี่ลู่ลู่ พี่ดีกับผมมาก แล้วผมจะโกหกพี่ได้อย่างไรกัน? ถ้าผมโกหกพี่ ผมยังจะเป็นคนอยู่อีกไหม”หลินเฟยกล่าวในขณะที่เขาสอดมือไว้ใต้รักแร้ของจ้าวลู่ลู่ และกอดเธอไว้บนตักของเขา โดยไม่สนว่าเธอจะต่อต้านยังไงก็ตามเมื่อบั้นท้ายที่นิ่มนวลของเธอนั่งลงบนตักของเขา หลินเฟยรู้สึกสุขใจและสับสน จิตใจฟุ้งเฟ้ออย่างอดไม่ได้“ไอ้สารเลวหลินเฟย...... ฉันขอเตือนนายให้ทำตัวดีๆหน่อยนะ ถ้านายกล้าก่อกวนฉันอีก ฉันก็จะวิ่งออกไปทันที!”“และฉันก็จะไม่มาหาเธออีกต่อไป!”จ้าวลู่ลู่รู้สึกว่าเธอเจ็บปวดมากจา
หลังจากพูดอย่างนั้น หลินเฟยก็จูบปากที่เหมือนเชอร์รี่ของจ้าวลู่ลู่ในทันทีรสหวานจากปากของเธอนั้น ทำให้หลินเฟยรีบดูดซับมันอย่างตะกละตะกลาม และอยากจะดูดเอาลิ้นสีชมพูของจ้าวลู่ลู่ทั้งหมดเข้าไปในท้องของเขาสองมือของเขาดึงเสื้อของจ้าวลู่ลู่ออกมาอย่างคล่องแคล่วเธอที่อายุ 18 ปี กำลังเปราะบางราวกับดอกไม้ ผิวของเธอเรียบเนียนและขาวมาก เกือบจะเป็นสีเดียวกับนมวัว และให้ความรู้สึกเหมือนหยกชั้นดีแม้ว่าเธออายุไม่มาก แต่รูปร่างของเธอก็เรียกได้ว่าน่าทึ่ง หน้าอกไม่ได้เล็กไปกว่าผู้หญิงที่เพิ่งคลอดลูกเสร็จเลย“ฮือฮือ......หลินเฟย ไม่ได้นะ......”ทันใดนั้น จ้าวลู่ลู่ก็ตัวสั่นไปทั้งตัว แต่เธอซื่งถูกหลินเฟยทรมานมาเป็นเวลานาน และไม่มีแรงพอที่จะผลักหลินเฟยออกไปได้เลย“ห้ามทำอะไรกับฉันนะ……ฉันขอร้องเถอะ หลินเฟย…”“รีบปล่อยฉันไปเถอะ......”จ้าวลู่ลู่ร้องไห้ด้วยความคับข้องใจ"ไม่ พี่จะกลับไปไม่ได้นะ พี่ลู่ลู่ พี่เป็นแฟนของผมแล้ว และมันก็เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผมที่จะมีอะไรกับคุณ!"หลินเฟยปฏิเสธอย่างคลุมเครือ และเริ่มถกกระโปรงของจ้าวลู่ลู่ขึ้นมาอีกครั้ง“อย่า อย่านะ หลินเฟย!”จ้าวลู่ลู่รีบคว้ากระโปรงขอ
“หลินเฟย อย่าเศร้าไปเลยนะ โอเคไหม? ไม่อย่างงั้น ฉันจะยอมเป็นแฟนของเธอให้ก็ได้……”หลินเฟยชักมือของเขากลับและพูดอย่างเฉยเมยว่า“ช่างเถอะ ผมไม่ต้องการความสงสารจากพี่หรอกนะ”“ฉันไม่ได้สงสารนาย ฉันพูดความจริงนะ”“นายได้เห็นทั้งตัวของฉัน ทั้งจูบและลูบไล้ตัวฉัน ถ้าฉันไม่ชอบนายเลย ฉันคงจะโกรธนายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ? และฉันถึงกับปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้พ่อรู้อีกด้วย”“แต่เมื่อกี้นายหยาบคายกับฉันมากเกินไป และฉันก็กลัวนายมาก มีที่ไหนกันเมื่อเป็นแฟนกันก็อยากจะมีเพศสัมพันธ์ทันที?”เมื่อเห็นเขาเช่นนี้ จ้าวลู่ลู่ก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาด้วยความคับข้องใจ จริงๆแล้วเธอยังชอบที่หลินเฟยลวนลามเธออีกด้วย แต่สิ่งที่หลินเฟยทำตอนนี้มันมากเกินไป!“จริงเหรอ?” ในที่สุดหลินเฟยก็ฟื้นความสงบอีกครั้ง จากนั้นกอดจ้าวลู่ลู่และเช็ดน้ำตาของเธอ“แต่เมื่อกี้พี่พูดเองว่าพี่จะไม่สามารถแต่งงานกับผมได้”“นายก็รู้อยู่รู้ว่าพ่อแม่ของฉันจะต้องเรียกร้องมากขนาดไหน แล้วพวกเขาจะยอมให้นายแต่งงานกับฉันง่ายๆได้ยังไง……”“แต่ถ้านายทำให้พวกเขาพอใจได้ อย่างไรก็ตาม ฉันจะปล่อยให้นายมีอะไรกับฉันได้”จ้าวลู่ลู่ร้องไห้อย่างหนัก น้ำเสียงข
“ พี่สะใภ้ อย่าเพิ่งรีบร้อนสิ ลุกขึ้นก่อนครับ จ้าวลู่ลู่ยังไปได้ไม่ไกลเลย อย่าให้เธอเห็นพี่ทำแบบนี้นะ!”หลินเฟยตื่นตระหนกมากจนเขารีบผลักพานเสี่ยวเหลียนออกไปเขารีบลุกขึ้นและไปปิดประตูเขาเหลือบมองแผ่นหลังของจ้าวลู่ลู่ผ่านรอยแตกของประตู หญิงสาวคนนั้นก็วิ่งเร็วจังเลยนะ เห็นได้ชัดว่าเธอจะกลัวว่าพานเสี่ยวเหลียนจะถามอะไรบางอย่างเมื่อกี้เธอน่าจะไม่ได้เห็นอะไรในที่สุดหลินเฟยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก“นายเก่งจริงๆ นี่เพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเอง ก็ได้นอนกับจ้าวลู่ลู่คนสวยได้แล้ว”เมื่อเห็นเขาเช่นนี้ พานเสี่ยวเหลียนก็อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความอิจฉา“เปล่า ผมยังไม่ได้มีอะไรกับเธอเลยนะ เธอบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเธอไม่สบายและมาที่นี่เพื่อรักษา”หลินเฟยปากแข็งและพูดว่า“เชอะ นายคิดว่าพี่สะใภ้เป็นคนโง่จริงๆเหรอ?”“เธอจะมารักษาตัวจนกระโปรงถูกถอดออกไปครึ่งหนึ่งเลยเหรอ? ฉันดูเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้ว เห็นก้นของเธอก็แดงด้วยล่ะ!”พานเสี่ยวเหลียนกลอกตาไปที่หลินเฟยและดุเขา“จ้าวลู่ลู่ไม่เคยมาหาให้นายรักษา ดังนั้นนายอย่าพยายามปากแข็งเลยนะ”“นายบอกฉันมาเลยสิ ว่าการมีเซ็กซ์กับเธอแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ”“ผม
“คุณอาเล็กครับ อาเรียกผมมามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”ถังรั่วเสวี่ยตะโกนออกมาอีกสองสามครั้ง หลินเฟยจึงฝืนใจไปที่ห้องของเธอ และไม่กล้าที่จะมองหน้าถังรั่วเสวี่ยแม้แต่น้อยถึงแม้ห้องนี้ตกแต่งอย่างเรียบง่ายเช่นกัน มีโต๊ะไม้ เตียงไม้ และเก้าอี้ไม้ แต่ภายในบ้านกลับมีกลิ่นหอมบางอย่างสภาพแวดล้อมยังสะอาดและเป็นระเบียบมากกว่าห้องที่หลินเฟยอาศัยอยู่มากนัก“ทำไมถึงมาช้าขนาดนี้ล่ะ?”ถังรั่วเสวี่ยนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอดูซีดเซียวเล็กน้อย ราวกับว่าเธอไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เมื่อคืนนี้เมื่อเห็นเธอเช่นนี้ หลินเฟยก็รู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้น“ผมเพิ่งลุกขึ้นจากเตียง ผมยังง่วงอยู่ ก็เลยมาช้าครับ”“เสี่ยวเฟย อาเล็กอยากถามอะไรนายหน่อย เมื่อคืนนายได้ยินเสียงอะไรไหม?”ถังรั่วเสวี่ยขมวดคิ้วและพูด“เสียงอะไรเหรอครับ ผมไม่เห็นได้ยินเลย เมื่อวานผมนอนหลับสนิทมาก!”หลินเฟยส่ายหัวราวกับเคาะกลองเขาคิดว่าพานเสี่ยวเหลียนคงครางดังเกินไป และถังรั่วเสวี่ยก็คงจะได้ยินแต่คำพูดของถังรั่วเสวี่ยก็ทำให้หลินเฟยสับสนเช่นกัน“เสี่ยวเฟย นายไม่ได้ยินมันจริงๆเหรอ? มันเหมือนกับผีร้องไห้และหมาป่าหอนตลอดทั้งคืน มันฟังดู
หลินเฟยแสร้งยิ้มแล้วถามกลับพวกป้า ๆ พูดด้วยสีหน้าแดงก่ำ“หืม แกนำยามาขายที่นี่มากมาย ฉันเกรงว่าอีกไม่นานคลีนิคของนายคงจะเจ๊งใช่ไหมล่ะ”“ใช่แล้ว คนขี้เหนียวอย่างเขา สมควรแล้วที่คลินิกจะเจ๊งไปน่ะ!”“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกป้าเหรอ!”หลินเฟยขี้เกียจที่จะสนใจพวกเขา และเดินเข้าไปในฝูงชน“หลินเฟย มานี่ๆ!”จ้าวลู่ลู่ก็อยู่ที่นี่ด้วย หลังจากเห็นหลินเฟย เธอก็โบกมือให้เขาอย่างมีความสุขทันทีดูเหมือนเธอจะลืมเรื่องที่หลินเฟยทำให้เธอร้องไห้เมื่อวานนี้ไปหมดแล้ววันนี้เด็กสาวคนนี้สวมกระโปรงลายดอกไม้สีขาว แต่ผิวของเธอขาวกว่าเสื้อผ้า ปกติเธอมัดผมหางม้าราวกับน้ำตก และมีผมหน้าม้ากระจายอยู่บนหน้าผากของเธอเธอดูเหมือนน้องสาวผู้บริสุทธิ์ข้างบ้านมากขึ้น และหลินเฟยรู้สึกมีอารมณ์ทันทีเมื่อเห็นเธอเมื่อเขาต้องการทักทายเธอ เขาก็เห็นจ้าวฟู่กุ้ยที่มีสายตาที่เต็มไปด้วยโหดร้ายและน่ากลัวอยู่ข้างๆ เธอ!หลังจากจ้องมองไปที่หลินเฟย เขาก็ดุจ้าวลู่ลู่“แกทักมันทำไม? แกไม่มีอะไรทำแล้วใช่ไหม”จ้าวลู่ลู่เม้มริมฝีปากและก้มศีรษะลงโดยไม่พูดหลินเฟยก็เงียบด้วย และกะพริบตาไปที่จ้าวลู่ลู่เพื่อเป็นคำตอบ“นายอยากจะวัต
“กูบอกว่ากูจะให้เงินมึงหนึ่งพันห้าร้อยบาท เพราะเห็นแก่พ่อแม่ของมึงตายไปแล้วและกูก็สงสารมึง ไม่เช่นนั้น ยาสมุนไพรที่มีสภาพเหมือนกับขยะพวกนี้ ถึงมึงเอามันไปทิ้ง กูก็ไม่อยากจะเอามันเลยด้วยซ้ำ !”โจวหมิงกล่าวอย่างไม่เกรงกลัวเมื่อวานนี้ เขาได้ดื่มเหล้าและพูดคุยกับจ้าวฟู่กุ้ยมา เขาจึงรู้ว่าหลินเฟยเป็นเพียงเด็กกำพร้า และไม่มีความสามารถมีลูกหลานได้อีกแล้ว ตอนนี้เขาก็อาศัยอยู่กับคนตาบอดแล้วแบบนี้โจวหมิงจะกลัวหลินเฟยได้อย่างไร?เขาต้องการเอาคืนหลินเฟย หลังจากเขาถูกทุบตีเมื่อวานนี้!“ไปสงสารแม่มึงสิวะ? กูไม่ต้องการความสงสารจากมึงหรอกเว้ย!”หลินเฟยกล่าวด้วยความโกรธไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาก็คว้าคอเสื้อของโจวหมิงแล้วตบเขาที่ปากอย่างแรง!ถ้าจ้าวฟู่กุ้ยไม่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเขาไว้ หลินเฟยคงตบจนฟันของโจวหมิงหลุดออกมาหมดแล้ว!ถึงกระนั้น โจวหมิงก็ถูกหลินเฟยทุบตีจนจมูกของเขาช้ำและใบหน้าของเขาบวม เขาถึงกับหน้ามืดตาลายเหมือนจะเห็นดวงดาว และเขาก็ไม่สามารถยืนมั่นคงได้ด้วยซ้ำ!“หลินเฟย แกบ้าไปแล้วเหรอ? รีบมาขอโทษโจวหมิงเดี๋ยวนี้เลย เร็วเข้า!”จ้าวฟู่กุ้ยประคองโจวหมิงและตะโกนสั่งเขาอย่างเสียงดัง!
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได