“คุณอาเล็กครับ อาเรียกผมมามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”ถังรั่วเสวี่ยตะโกนออกมาอีกสองสามครั้ง หลินเฟยจึงฝืนใจไปที่ห้องของเธอ และไม่กล้าที่จะมองหน้าถังรั่วเสวี่ยแม้แต่น้อยถึงแม้ห้องนี้ตกแต่งอย่างเรียบง่ายเช่นกัน มีโต๊ะไม้ เตียงไม้ และเก้าอี้ไม้ แต่ภายในบ้านกลับมีกลิ่นหอมบางอย่างสภาพแวดล้อมยังสะอาดและเป็นระเบียบมากกว่าห้องที่หลินเฟยอาศัยอยู่มากนัก“ทำไมถึงมาช้าขนาดนี้ล่ะ?”ถังรั่วเสวี่ยนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอดูซีดเซียวเล็กน้อย ราวกับว่าเธอไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เมื่อคืนนี้เมื่อเห็นเธอเช่นนี้ หลินเฟยก็รู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้น“ผมเพิ่งลุกขึ้นจากเตียง ผมยังง่วงอยู่ ก็เลยมาช้าครับ”“เสี่ยวเฟย อาเล็กอยากถามอะไรนายหน่อย เมื่อคืนนายได้ยินเสียงอะไรไหม?”ถังรั่วเสวี่ยขมวดคิ้วและพูด“เสียงอะไรเหรอครับ ผมไม่เห็นได้ยินเลย เมื่อวานผมนอนหลับสนิทมาก!”หลินเฟยส่ายหัวราวกับเคาะกลองเขาคิดว่าพานเสี่ยวเหลียนคงครางดังเกินไป และถังรั่วเสวี่ยก็คงจะได้ยินแต่คำพูดของถังรั่วเสวี่ยก็ทำให้หลินเฟยสับสนเช่นกัน“เสี่ยวเฟย นายไม่ได้ยินมันจริงๆเหรอ? มันเหมือนกับผีร้องไห้และหมาป่าหอนตลอดทั้งคืน มันฟังดู
หลินเฟยแสร้งยิ้มแล้วถามกลับพวกป้า ๆ พูดด้วยสีหน้าแดงก่ำ“หืม แกนำยามาขายที่นี่มากมาย ฉันเกรงว่าอีกไม่นานคลีนิคของนายคงจะเจ๊งใช่ไหมล่ะ”“ใช่แล้ว คนขี้เหนียวอย่างเขา สมควรแล้วที่คลินิกจะเจ๊งไปน่ะ!”“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกป้าเหรอ!”หลินเฟยขี้เกียจที่จะสนใจพวกเขา และเดินเข้าไปในฝูงชน“หลินเฟย มานี่ๆ!”จ้าวลู่ลู่ก็อยู่ที่นี่ด้วย หลังจากเห็นหลินเฟย เธอก็โบกมือให้เขาอย่างมีความสุขทันทีดูเหมือนเธอจะลืมเรื่องที่หลินเฟยทำให้เธอร้องไห้เมื่อวานนี้ไปหมดแล้ววันนี้เด็กสาวคนนี้สวมกระโปรงลายดอกไม้สีขาว แต่ผิวของเธอขาวกว่าเสื้อผ้า ปกติเธอมัดผมหางม้าราวกับน้ำตก และมีผมหน้าม้ากระจายอยู่บนหน้าผากของเธอเธอดูเหมือนน้องสาวผู้บริสุทธิ์ข้างบ้านมากขึ้น และหลินเฟยรู้สึกมีอารมณ์ทันทีเมื่อเห็นเธอเมื่อเขาต้องการทักทายเธอ เขาก็เห็นจ้าวฟู่กุ้ยที่มีสายตาที่เต็มไปด้วยโหดร้ายและน่ากลัวอยู่ข้างๆ เธอ!หลังจากจ้องมองไปที่หลินเฟย เขาก็ดุจ้าวลู่ลู่“แกทักมันทำไม? แกไม่มีอะไรทำแล้วใช่ไหม”จ้าวลู่ลู่เม้มริมฝีปากและก้มศีรษะลงโดยไม่พูดหลินเฟยก็เงียบด้วย และกะพริบตาไปที่จ้าวลู่ลู่เพื่อเป็นคำตอบ“นายอยากจะวัต
“กูบอกว่ากูจะให้เงินมึงหนึ่งพันห้าร้อยบาท เพราะเห็นแก่พ่อแม่ของมึงตายไปแล้วและกูก็สงสารมึง ไม่เช่นนั้น ยาสมุนไพรที่มีสภาพเหมือนกับขยะพวกนี้ ถึงมึงเอามันไปทิ้ง กูก็ไม่อยากจะเอามันเลยด้วยซ้ำ !”โจวหมิงกล่าวอย่างไม่เกรงกลัวเมื่อวานนี้ เขาได้ดื่มเหล้าและพูดคุยกับจ้าวฟู่กุ้ยมา เขาจึงรู้ว่าหลินเฟยเป็นเพียงเด็กกำพร้า และไม่มีความสามารถมีลูกหลานได้อีกแล้ว ตอนนี้เขาก็อาศัยอยู่กับคนตาบอดแล้วแบบนี้โจวหมิงจะกลัวหลินเฟยได้อย่างไร?เขาต้องการเอาคืนหลินเฟย หลังจากเขาถูกทุบตีเมื่อวานนี้!“ไปสงสารแม่มึงสิวะ? กูไม่ต้องการความสงสารจากมึงหรอกเว้ย!”หลินเฟยกล่าวด้วยความโกรธไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาก็คว้าคอเสื้อของโจวหมิงแล้วตบเขาที่ปากอย่างแรง!ถ้าจ้าวฟู่กุ้ยไม่ก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเขาไว้ หลินเฟยคงตบจนฟันของโจวหมิงหลุดออกมาหมดแล้ว!ถึงกระนั้น โจวหมิงก็ถูกหลินเฟยทุบตีจนจมูกของเขาช้ำและใบหน้าของเขาบวม เขาถึงกับหน้ามืดตาลายเหมือนจะเห็นดวงดาว และเขาก็ไม่สามารถยืนมั่นคงได้ด้วยซ้ำ!“หลินเฟย แกบ้าไปแล้วเหรอ? รีบมาขอโทษโจวหมิงเดี๋ยวนี้เลย เร็วเข้า!”จ้าวฟู่กุ้ยประคองโจวหมิงและตะโกนสั่งเขาอย่างเสียงดัง!
"เมอร์เซเดส-เบนซ์......มายบัค......"แต่โจวหมิงรู้เรื่องนี้อยู่ดี และเขาตื่นตระหนกทันที!นี่มันรถหรูระดับท็อปมีมูลค่าพันล้านจริงๆ!มันแพงกว่ามอร์เซเดส-เบนซ์มือสองระดับล่างของเขาหลายสิบเท่า!ผู้หญิงคนนี้เป็นคนมีฐานะและชื่อเสียงมากเลยเหรอ?คงไม่ใช่!นี่มันเป็นผู้หญิงขี้อวดและรถของเธอก็ใช้เงินเช่ามาแน่นอน!จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่ๆ เป็นไปไม่ได้หรอกที่หลินเฟยเด็กยากจนบ้านนอกอย่างเขาจะรู้จักผู้หญิงที่ร่ำรวยเช่นนี้!หลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว โจวหมิงก็ไม่กลัวอีกต่อไปและลุกขึ้นยืนและพูดเสียงดัง“ผมเป็นคนที่สั่งให้เขาคุกเข่าขอโทษ แล้วคุณจะว่าทำไมล่ะ?”"เพียะ!"“แกเป็นใครถึงกล้าสั่งให้เขาคุกเข่าขอโทษน่ะ”จางซินเยว่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เย็นชาและตบเขาที่ปากอย่างแรง!โจวหมิงก็สับสนเช่นกัน ลำพังถูกหลินเฟยตบก็แย่พออยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาถูกผู้หญิงมาตบซ้ำอีก นี่มันเรื่องอะไรกัน?เมื่อเขารู้ตัวว่าสู้กับหลินเฟยไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยความโกรธและพูดคำที่รุนแรง!“ไอ้สองคนนี้อย่าคิดจะหนีไปนะ กูจะโทรหาพ่อแล้วให้เขาส่งคนมาที่นี่เดี๋ยวนี้!”“แกเรียกคนมาเถอะ ฉันอยากรู้ว่าแก
“พ่อครับ ผมไม่อยากอดอยาก......”โจวหมิงนั่งลงบนพื้นพร้อมกับร้องไห้อย่างขมขื่น“ถ้าอย่างนั้นแกก็ควรรีบไปขอร้องเพื่อนของคุณหญิงและคุณหญิงให้ยกโทษให้แกสิ!”“ไม่อย่างนั้นทั้งครอบครัวของเราคงจบเห่เพราะแกนั่นแหล่ะ!”"ได้ๆ!"“คุณจาง ผมรู้ว่าผมทำผิดไปแล้ว ผมไม่ควรรังแกเขา โปรดยกโทษให้ผมด้วย……”หลังจากที่โจวหมิงรู้สึกตัว เขาก็รีบคุกเข่าลงแทบเท้าของจางซินเยว่และหลินเฟยอย่างรวดเร็ว ขอโทษอย่างไม่หยุดหย่อน และยังตบหน้าตัวเองด้วยซ้ำ“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”จ้าวฟู่กุ้ยและชาวบ้านแถวนี้ต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่พลิกผันนี้!ทำไมโจวหมิงซึ่งเมื่อก่อนเคยเย่อหยิ่งมาก ตอนนี้ต้องคุกเข่าลงและขอยกโทษหลังจากรับสาย?พวกเขายังงงๆอยู่ แต่หลินเฟยได้ยินอย่างชัดเจน เขาก็แสดงความประหลาดใจด้วย จางซินเยว่ตอนนี้เป็นประธานคนใหม่ของเภสัชกรรมหนานผิงเหรอ?นั่นเป็นผู้ที่มีฐานะจริงๆ!เมื่อวานเขาเกือบมีอะไรกันกับเธอในรถของเธอไปแล้ว และเขายังลูบไล้เธอทั้งตัว แถมเธอยังใช้มือช่วยตัวเขาเองด้วย......เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หัวใจของหลินเฟยก็พองโตด้วยความพึงพอใจทันที!“ตอนนี้นายรู้ว่านายทำผิดแล้วหรือ แต่มันสายเกินไหม?”“ความ
หลินเฟยไม่อยากจะสนใจคนงี่เง่า ที่คอยแต่จะประจบประแจง แต่เมื่อเห็นแก่จ้าวลู่ลู่ เขาจึงพูดอย่างไม่เต็มใจนัก“เรื่องเล็กน้อย ผู้ใหญ่บ้าน คุณรีบกลับไปได้แล้วล่ะ”“ฉันกำลังคุยกับซินเยว่อยู่ อย่ามาขัดจังหวะนะ หลีกทางไป!”จู่ๆจ้าวฟู่กุ้ยก็ขมวดคิ้วและพูด“ผู้ใหญ่บ้าน หลินเฟยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฉันหวังว่าคุณจะพูดกับเขาด้วยความเคารพ”จู่ๆ จางซินเยว่ก็พูดอย่างไม่เกรงใจ“อา......” จ้าวฟู่กุ้ยไม่คิดว่าจางซินเยว่จะปกป้องหลินเฟยมากขนาดนี้ และทันใดนั้นเขาก็มีเหงื่อออกมาเยอะมาก!“ครับ ผมพูดผิดไป......”“พ่อ หยุดทำขายหน้าได้แล้วค่ะ? กลับบ้านเราเร็วๆเข้า!”จ้าวลู่ลู่พูดด้วยความโกรธ“งั้นแกก็อยู่ที่นี่และคุยดีๆกับซินเยว่ก่อนนะ”จ้าวฟู่กุ้ยไม่กล้าที่จะอยู่อีกต่อไป เขาพูดอะไรบางอย่างกับ จ้าวลู่ลู่แล้วหันหลังกลับแล้ววิ่งกลับบ้านเลยในจัตุรัสขนาดใหญ่มีแต่หลินเฟย จางซินเยว่และ จ้าวลู่ลู่สามคนเท่านั้น“หลินเฟย ซินเยว่ได้ช่วยนายไว้ในวันนี้ นายต้องขอบคุณซินเยว่อย่างมากนะ”เมื่อจ้าวลู่ลู่เห็นว่าจ้าวฟู่กุ้ยกลับไปแล้ว เธอก็รีบเตือนหลินเฟยทันที“โอ้ เธอเป็นพี่ที่ดีที่สุดของผม ไม่จำเป็นกล่าวขอบค
“โกรธเหรอ? เธอคงไม่ได้โกรธอะไรหรอก......”หลินเฟยเผลอเกาหัวตัวเองโดยไม่รู้ตัวเขารู้อยู่ดีแล้วว่าจางซินเยว่ต้องโกรธ แต่เมื่อจ้าวลู่ลู่อยู่ข้างๆเขา เขาไม่กล้าเข้าไปเกลี้ยกล่อมจางซินเยว่ในทันทีเมื่อเห็นว่ารถสตาร์ทแล้วขับออกไปอย่างช้าๆ หลินเฟยก็เริ่มรู้สึกวิตกกังวล“นายนี่มันโง่จริงๆ จางซินเยว่ต้องโกรธเพราะนายโลภเกินไปไงล่ะ”จ้าวลู่ลู่บีบแขนของหลินเฟยแล้วพูดขื้น“อา จริงเหรอ?” ในหัวของหลินเฟยยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ“คงจะเป็นเช่นนั้นแน่ๆ ซินเยว่ช่วยเหลือนายและให้ค่ายามากกว่าสิบเท่า นายยังไม่เต็มใจที่จะยอมรับขอความช่วยเหลือของเธออีก ซินเยว่ถึงโกรธนายไง?”“อย่าบอกว่าซินเยว่โกรธฉันนะ?”จ้าวลู่ลู่พูดด้วยความโกรธ“ใช่ ใช่ ผมคงทำให้เธอโกรธแล้ว…แล้วผมจะต้องไปขอโทษเธอใช่ไหม”หลินเฟยก็เลยแกล้งเออออตามคำพูดของเธอไปด้วย“ไปเถอะ ไปเถอะ ฉันก็หิวเหมือนกัน ฉันจะรีบกลับบ้านไปกินข้าวก่อนนะ”"อย่าลืมขอโทษซินเยว่ให้ดีๆล่ะ"จ้าวลู่ลู่เตือนเขา แล้วโยกย้ายสะโพกแล้วเดินกลับบ้าน“ซินเยว่ ผมผิดไปแล้ว รอผมด้วย!”หลินเฟยถอยหลังอย่างรวดเร็วและไล่ตามรถของจางซินเยว่เดิมที จางซินเยว่ไม่ได้ขับรถเร็วมากนัก
แต่เมื่อหลินเฟยเอื้อมมือลงไปเรื่อยๆ จางซินเยว่ก็ผลักหลินเฟยออกไปอีกครั้ง!"ไม่! ไม่ได้เด็ดขาด!"“นายไม่สามารถเอาเปรียบฉันได้อีกต่อไป ในเมื่อนายก็มีแฟนแล้ว นายจะต้องทำตัวให้ดีๆกว่านี้เมื่อเจอฉันครั้งต่อไป!”จางซินเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรีบจัดเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อยผิวของเธอขาวอมสีชมพูคล้ายดอกต้นท้อ“ฉันจะส่งนายกลับบ้าน แล้วฉันก็จะได้กลับบ้านของฉันเองเสียที”จางซินเยว่สะบัดมือที่เจ็บออก สตาร์ทรถแล้วหันหลังกลับไป“แล้วพรุ่งนี้จะมาอีกไหม”หลินเฟยถามอย่างอาลัยอาวรณ์เขารู้สึกว่า จางซินเยว่เกลี้ยกล่อมได้ง่ายกว่าจ้าวลู่ลู่มากและเขาก็เต็มใจที่จะใช้เวลากับเธอมากขึ้น“พรุ่งนี้ฉันอาจจะไม่ว่าง แต่ฉันอาจจะมาได้ในวันมะรืนนี้”“ถ้าสองวันนี้นายสบายดี ช่วยฉันเก็บยาเพิ่มด้วยนะ ฉันจะกลับมารับยาวันมะรืนนี้”จางซินเยว่คิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า“ไม่เป็นไร คุณก็แค่มาคลินิกรับยาในวันมะรืนนี้ก็ได้”หลินเฟยพยักหน้า…จ้าวลู่ลู่เพิ่งกินข้าวเสร็จและกำลังจะขึ้นไปชั้นบนเพื่อพักผ่อนสักพักจ้าวฟู่กุ้ยหยุดเธอแล้วถาม“ลู่ลู่ เดี๋ยวก่อน แกคุยกับจางซินเยว่ได้เป็นยังไงบ้างแล้ว?”“ก็ไม่ได้คุยอะ
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได