“ฮี๊ ฮี๊ ฮี๊ เธอพูดว่าจะทำอะไรงั้นเหรอ? นี่มันยังไม่ชัดเจนอีกรึไง พวกเราอยากนอนกับเธอยังไงล่ะ!”“น้องเสี่ยวเหลียน อย่าขัดขืนเลย!”โจวต้าชุนส่งเสียงร้องออกมาราวกับหมาป่า และคว้ากิ่งไม้ออกไปจากมือของพานเสี่ยวเหลียน นี่มันยิ่งทำให้ตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก!“ยิ่งเธอขัดขืน ตอนพวกเรานอนด้วยก็จะยิ่งหลับสบายนะ!”หวังเอ้อร์โก่วและคนอื่นๆน้ำลายไหล และบางคนถึงกับเริ่มถอดกางเกงออก“โจวต้าชุน หวังเอ้อโกว ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายนิ้ว ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับพวกแก!”พานเสี่ยวเหลียนเองก็เกิดรู้สึกว่าอยากตายขึ้นมาทันที!ถ้าเธอถูกเจ้าสารเลวพวกนี้นอนด้วย หลินเฟยจะยังต้องการเธออยู่อีกเหรอ?“ให้ตายเถอะ ต่อให้เธอจะแจ้งตำรวจ เราก็จะต้องได้นอนกับเธอก่อน!”โจวต้าชุนตบหน้าพานเซียวเหลียนด้วยเสียงฉ่า และฉีกแขนเสื้อของเธอออกทันใดนั้น ผิวขาวและอ่อนโยนบริเวณกว้างบนไหล่ของเธอก็ถูกเผยออกมา“ให้ตายเถอะ นังนี่ตัวขาวชะมัด......”โจวต้าชุน หวังเอ้อโกวและคนอื่น ๆ จ้องมองอย่างไม่วางตา“ทนไม่ไหวแล้ว ถอดเสื้อผ้าให้หมด แล้วนอนกับเธอเลย!”หลายคนรีบแย่งกันเข้าไป!ผลคือเธอนั้นน่าสงสารจริงๆ!ปรากฎว่าหลินเฟยได้ยินเส
“กลับบ้านไปนอนซะ!”หลินเฟยโกรธมาก พอหลังจากสบถจบแล้วเขาก็รีบวิ่งตรงเข้าไป!“เสี่ยวเฟย คุณระวังด้วย!”พานเสี่ยวเหลียนตะโกนอย่างกังวลผลคือ หลังเธอพูดจบเธอก็ต้องตกตะลึงทันทีหลินเฟยออกอาละวาด เพียงไม่กี่วินาทีก็ต่อยหวังเอ้อโก่วและคนอื่นๆจนล้มลงบนพื้น จนทำให้พวกมันต้องส่งเสียงกรีดร้องออกมา“โอ๊ย อะไรวะเนี่ย!”“ทำไมไอ้เด็กสารเลวนี่ถึงได้มีแรงเยอะขนาดนี้!”“ด่าสิ ฉันจะยอมให้แกด่า!”หลินเฟยเตะเขาอีกสองสามครั้ง และทันใดนั้นหลายคนก็เชื่อฟังเขาราวกับสุนัขที่ตายแล้ว!“ฉันขอเตือนพวกแกนะ ต่อไปหากยังกล้ามารังควานพี่สะใภ้เสี่ยวเหลียนอีกล่ะก็ ฉันจะหักขาของพวกแกทิ้งซะ!”“พอแล้ว เสี่ยวเฟย ถ้าขืนยังสู้กันอีก อาจจะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆนะ พวกเรารีบกลับบ้านกันเถอะ”พานเสี่ยวเหลียนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พลางพูดออกมาในขณะเดียวกันพานเสี่ยวเหลียนก็รู้สึกว่าหลินเฟยดูมีเสน่ห์ และสมกับเป็นลูกผู้ชายมากๆในตอนนี้!“ไปกันเถอะ พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน”หลินเฟยถ่มน้ำลายใส่โจวต้าชุนอีกครั้ง จับมือของพานเสี่ยวเหลียนแล้วจากไป……“ไอ้เด็กเหลือขอนี่ เรื่องวันนี้ฉันจะจำมันไว้แน่!”จนกระทั่งหลินเฟยเดินจากไป
“แล้วเจอกันครับ พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน!”หลินเฟยในใจรู้สึกมีความสุขมาก ได้กลิ่นมือที่เปียกชื้น และสมองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสน“กลิ่นหอมมากเลย......”พานเสี่ยวเหลียนแค่จะเดินยังเดินไม่ถูก!หลินเฟยตัดสินใจว่า ไม่ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาจะนอนกับพานเสี่ยวเหลียนอย่างแน่นอน!“คุณอาเล็กครับ ผมกลับมาแล้วครับ”ภายในครึ่งชั่วโมง หลินเฟยก็กลับมาถึงที่คลินิก“เจ้าเด็กคนนี้ ทำไมถึงได้หายไปนานนักล่ะ? ”ทันทีที่ถังรั่วเสวี่ยได้ยินเสียง ก็พูดขึ้นด้วยความโกรธเธอรอหลินเฟยมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่เธอไม่เห็นหลินเฟยกลับมาสักที ในใจเธอจึงก็รู้สึกกังวล“วันนี้ผมเก็บยาสมุนไพรมาได้เยอะมากๆเลยครับ ก็เลยกลับมาช้า ผมยังได้เก็บผลไม้ป่ามาสองสามอย่างด้วย คุณอาเล็ก ลองชิมดูครับ ว่ารสชาติจะเป็นยังไง”คำพูดของหลินเฟยเต็มไปด้วยคำโกหกในความเป็นจริง ที่เขาล่าช้าเพราะเขามัวแต่ลูบคลำพานเสี่ยวเหลียนมาตลอดทางเมื่อพูดอย่างนั้นแล้ว หลินเฟยก็วางตะกร้ายาลง หยิบลูกพีชสองสามลูกออกมา ล้างแล้วส่งให้ถังรั่วเสวี่ย จากนั้นจึงหยิบลูกพีชหนึ่งลูกไว้ในมือแล้วกัด“อาเล็กไม่กิน อาเล็กมีเรื่องอยากจะพูดกับเธอ เธอเข้าไปในห้องกับ
“ว่ายังไงนะ?”ถังรั่วเสวี่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดด้วยความดีใจว่า “เสี่ยวเฟย เธอหายดีแล้ว จริงๆน่ะเหรอ? ”“แน่นอนครับ ไม่งั้นจะลองตรวจดูมั้ยล่ะครับ”ดวงตาของถังรั่วเสวี่ยมองดู แล้วก็หน้าแดงขึ้นในทันที“หายดีแล้วก็ดี หายดีแบบนี้แล้ว จากนี้ก็ไปก็สามารถไปหาผู้หญิงได้แล้วนะ หรือไม่ก็ไปหาจ้าวลู่ลู่สิ เธอจะต้องแต่งงานนะ อาเล็กไม่อยากทำให้มันชักช้าไปมากกว่านี้แล้ว”ถังรั่วเสวี่ยกล่าว“ไม่ ผมจะไม่มองหาผู้หญิงคนอื่น ผม......”หลินเฟยมองไปที่ถังรั่วเสวี่ย ถัวรั่วเสวี่ยใจเต้น เธอหันหลังกลับมาและดุทันที“ไร้สาระ ผู้ชายเมื่ออายุมากขึ้นไม่มีทางที่จะไม่หาผู้หญิงหรอกนะ เอาเถอะ เรื่องนี้พอแค่นี้ จากนี้อาเล็กจะเป็นคนจัดการเอง” คำพูดเหล่านี้ก็เหมือนพูดกับตัวเองเช่นกันแม้ว่าจะเป็นการพูดที่เด็ดขาด แต่ก็ยังรู้สึกเศร้าเล็กน้อยภายในใจเมื่อเห็นว่าถังรั่วเสวี่ยดูกหดหู่ลงอย่างกะทันหัน หลินเฟยก็คิดว่าเธอกลัวว่าในอนาคตเมื่อเขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว จะทำให้เธอกลายเป็นคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงปลอบใจเธอ“อาเล็กไม่ต้องห่วงครับ ไม่ว่าในอนาคตผมจะหาผู้หญิงคนนั้นเจอหรือไม่ อาก็เป็นคนที่ใกล้ชิดกั
……ช่วงบ่ายประมาณบ่ายหนึ่งบ่ายสองจะเป็นช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดหลินเฟยออกไปท่ามกลางแสงแดดที่จ้า แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันร้อนเกินไปใกล้ร้านขายของมีต้นหลิวเก่าแก่และทุ่งข้าวโพดอยู่ในเวลานั้นเอง หลินเฟยคิดที่จะซ่อนตัวอยู่หลังต้นหลิวเก่าแก่ต้นนั้น แล้วค่อยดึงจ้าวลู่ลู่เข้าไปในทุ่งข้าวโพดมาถึงตรงนี้หลินเฟยอดไม่ได้ที่จะคิดถึงฉากที่จ้าวลู่ลู่ยื่นบั้นท้ายออกมา ทำให้ตัวเองได้เห็นสวรรค์ของเธอ“จริงๆแล้วสาวน้อยคนนี้ค่อนข้างจะนิสัยดี ฉันสามารถแต่งงานกับเธอและนอนกับเธอได้ทุกวัน แบบนั้นจะต้องทำให้สบายใจได้อย่างแน่ ๆ”หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง หลินเฟยก็เห็นจ่าวลู่ลู่เดินผ่านมาจริงๆยังไงก็ตาม ข้างๆเธอมีชายหนุ่มร่างสูงผอมมีใบหน้าที่สะอาดและสวมแว่นตาอยู่ด้วยเขาแต่งตัวค่อนข้างสะอาด สวมแว่นตา และดูสง่างามมากจ้าวลู่ลู่พูดคุยเล่นเรื่อยเปื่อยกับเขาบางครั้งเธอก็ระเบิดเสียงหัวเราะที่คมชัดราวกับระฆังเงินออกมาและเมื่อสายตาที่ชายหนุ่มมองไปที่จ้าวลู่ลู่ เขาก็โผงผางออกมาทันที!“จ้าวลู่ลู่ เขาคือใครเหรอ? ”หลินเฟยรู้สึกถึงปมในใจ เขาเดินเร็วๆมาหาด้วยใบหน้าที่ตระหนกและถามออกไปทันที“เขาเป็นใคร แล
“โอ๊ย!”ชายหนุ่มทั้งสูงและทรงพลัง แต่เขาไม่คาดคิดว่าหลินเฟยจะเตะเขาล้มลงได้ด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว!โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าจ้าวลู่ลู่ เขายิ่งรู้สึกอับอายมากกว่าเดิมทันใดนั้นเขาก็โกรธและตะโกนออกไป“แกกล้าเตะฉันเหรอ? รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ”“ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นใคร แต่ฉันนี่แหละเป็นพ่อของแก!”“และฉันก็กำลังจะเตะลูกหลานที่ทำตัวเหมือนเต่าอย่างแกอยู่!”หลินเฟยขึ้นคร่อมชายหนุ่ม ทั้งต่อยและเตะเขา!ไม่นาน เขาก็ถูกทุบตีจนจมูกช้ำ ใบหน้าบวม ได้แต่ร้องคร่ำครวญอยู่อย่างนั้น“หลินเฟย หยุดนะ ทำไมคุณถึงได้ชอบทำร้ายคนอื่นแบบนี้? ”จ้าวลู่ลู่พูดอย่างกังวล และรีบไปดึงหลินเฟยออกอย่างรวดเร็ว!“อย่ามาแตะตัวฉัน ฉันจัดการเขาแล้วคุณปวดใจอย่างงั้นเหรอ? ”“ทำไมคุณถึงปกป้องเขาขนาดนี้? ”หลินเฟยโกรธมากจนตะโกนออกมา!หลินเฟยมองออกว่าชายหนุ่มคนนี้ชอบจ้าวลู่ลู่อย่างชัดเจน ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่โกรธมากขนาดนี้!“ฉันจะปวดใจทำไม? ”จ้าวลู่ลู่ตกตะลึงไปชั่วขณะจากเสียงคำรามเมื่อกี้ จากนั้นก็หลั่งน้ำตาด้วยความคับข้องใจ“เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉัน เขามาที่หมู่บ้านของเราเพื่อเล่นก็เท่านั้น เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไ
หลินเฟยหันกลับมาและเห็นว่าคนที่ติดตามจ้าวฟู่กุ้ยคือชายหนุ่มที่เพิ่งถูกเขาทุบตีไปเมื่อสักครู่นี้อย่างนั้นเหรอ?และเมื่อดูท่าทางของจ้าวฟู่กุ้ยแล้ว ชายหนุ่มคนนี้ก็ดูเหมือนจะมีภูมิหลังอยู่บ้าง“ตัวเองขี้ขลาดไม่พอ นี่ยังพาคนมาเพิ่มอีกเหรอ? ”หลินเฟยไม่อยากมีปัญหากับจ้าวฟู่กุ้ยเขากระซิบข้างหูของจ้าวลู่ลู่ และขอให้เธอมาหาเขาตอนกลางคืน จากนั้นก็วิ่งหนีไป“บ้าเอ้ย! เจ้าเด็กบ้านี่วิ่งเร็วมาก!”เมื่อจ้าวฟู่กุ้ยและเด็กหนุ่มรีบวิ่งตามเข้ามา หลินเฟยก็หายตัวไปแล้ว!“หึ ดีนะที่เจ้านั่นวิ่งเร็ว ไม่อย่างนั้นฉันไม่มีทางปล่อยมันไปแน่”เด็กหนุ่มไม่พอใจแล้วพูดประโยคที่โกรธเคืองออกมา“เขาพูดอะไรกับคุณบ้าง? ”“คุณร้องไห้ได้ยังไง ไอ้สารเลวนั่นรังแกคุณอีกแล้วใช่มั้ย? ”จ้าวฟู่กุ้ยจึงถามจ้าวลู่ลู่“ไม่ได้พูดอะไร แค่ขอให้ฉันขอโทษโจวหมิงก็แค่นั้น”“บอกว่าเขารู้แล้วว่าเขาผิด”ดวงตาของจ้าวลู่ลู่พยายามหลบเลี่ยง ได้แต่บีบนิ้วตัวเองแล้วพูดว่า“ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าผิดอย่างงั้นเหรอ? มันสายไปแล้ว เขาต้องมาขอโทษฉันด้วยตนเองสิ ถึงจะถูก!”เมื่อโจวหมิงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ทำตัวเย่อหยิ่งทันที“โจวหมิง คุณช่วยปล่
“พูดไร้สาระอะไร ฉันเลิกดูแม่ม่ายอาบน้ำไปนานแล้ว”หลินเฟยหน้าแดงขึ้นกะทันหันในอดีตเขาไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรนัก และมักพาจางซินเยว่ไปแอบดูหญิงม่ายอาบน้ำด้วยกันแต่ก็มองเห็นได้ไม่เคยชัดเลย ตอนนั้นเขาก็แค่สงสัยเรื่องผู้หญิง“ไอ้หยา ตอนนี้นายรู้จักอายเป็นแล้วเหรอ? ”จางซินเยว่มองไปที่หลินเฟยที่กำลังทำหน้าลำบากใจพร้อมหัวเราะเบาๆ ทันใดนั้นก็มีคลื่นแห่งความตื่นเต้นเกิดขึ้น“ตอนนี้ไม่ใช่ว่าเธอเองก็โตแล้วหรอกเหรอ? ”หลินเฟยสับสนขณะที่เขามองที่หน้าอกของเธอและเกาหัว“ทำไมตอนนี้เธอถึงได้ดูเหมือนวัวตัวใหญ่ขนาดนี้ล่ะ”“เมื่อก่อนไม่ใช่ว่าใหญ่กว่าส้มแค่นิดเดียวเองรึไง? ”“เธอได้ยัดอะไรเข้าไปรึเปล่า? ”“ถุ๊ย นายต่างหากที่เป็นวัวตัวใหญ่ นายต่างหาก ที่เป็นคนยัดอะไรใส่เข้าไป”“คนเราจะมีพัฒนาการเติบโตไม่ได้เลยรึไง? ”จางซินเยว่ต่อยหลินเฟยอีกครั้งด้วยความโกรธดวงตาคู่นั้นของสาวน้อยคนนี้เหมือนดอกพีช ทุกครั้งที่เธอขมวดคิ้วหรือยิ้ม หลินเฟยจะรู้สึกเหมือนเธอกำลังแสดงท่าทียั่วยวนกับเขา ซึ่งทำให้หัวใจของเขารู้สึกว้าวุ่นขึ้นมา“ฉันไม่เชื่อ เธอกล้าให้ฉันจับมันดูมั้ยล่ะ? ”หลินเฟยกล่าวอย่างหน้าไม่อาย
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได