“แม่ รอเดี๋ยวก่อน หนู หนูเพิ่งตื่นนอน ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย”จ้าวลู่ลู่ร้อนรนหมือนกวางตัวน้อยที่ตกตะลึง หัวใจเต้นผิดจังหวะถ้าจางอวี้หลานเห็น เธอก็คงมองหน้าจางอวี้หลานไม่ติดแล้วและไม่มีเวลาสนใจกางเกงชั้นในที่เปลี่ยนใหม่ รีบหากางเกงมาสวมเมื่อทำเสร็จแล้ว จ้าวลู่ลู่จึงโล่งใจ เปิดประตูกระแอ่มและพูด“เสร็จแล้วค่ะแม่ เข้ามาเลยค่ะ”เสียงดังเอี๊ยด จางอวี้หลานเปิดประตูเดินเข้าไปเห็นหน้าจ้าวลู่ลู่ที่แดงเหมือนตูดลิง ยืนตัวตรงที่ประตู จึงขมวดคิ้วถาม“เจ้าเด็กนี่เป็นอะไรกันแน่ ทำไมหน้าแดงขนาดนั้น? ตะโกนร้องโวยวายอะไร?”“แม่คะ เมื่อกี้หนูฝันร้ายแล้วตกใจค่ะ”จ้าวลู่ลู่ก้มหัว โกหกด้วยเหตุผลที่แย่“ฝันร้ายงั้นเหรอ? ฝันร้ายอะไร ถึงทำให้เธอได้ร้องแบบนี้ห้ะ?”สายตาจางอวี้หลานยังคงแปลก ๆ ดีที่เธอไม่ได้ถามอะไรต่อจ้าวลู่ลู่รู้สึกอาย มือทั้งคู่จับแน่นเข้าด้วยกัน กระทั่งเธอรู้สึกว่าตัวเองตื่นเต้นจนเหงื่อออกแล้ว รีบเปลี่ยนเรื่อง“แม่มาเรียกหนูมีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?”“หลินเฟยเจ้าเด็กกำพร้านั่นมาพร้อมกับอาเล็กของเขา และมีของติดมือมาด้วย บอกว่าจะมาขอบคุณเธอ”“นี่เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”จางอวี้หลาน
แต่หลินเฟยเห็นแก้มก้นที่เด้งดึ๋งของจ้าวลู่ ๆ ในรู้ก็รู้สึกวาบหวิวหัวใจมากถ้ามีอะไรกับจ้าวลู่ลู่จนถึงจุดนั้น ก็คงจะรู้สึกดีแน่ ๆสาวน้อยคนนี้อายุไม่เยอะ แต่บั้นท้ายของเธอก็เกือบจะเทียบเท่าถังรั่วเสวี่ยแล้ว ใครเห็นก็ต้องหันไปมองซ้ำ ๆ แน่ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เธอใส่แค่กางเกงชั้นในที่เปียก ขาที่เพรียวทั้งสองข้าง สัมผัสกับอากาศโดยไม่มีสิ่งใดปิดไว้ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าหลินเฟยจะสะดุดตาแค่ไหน“ไอ้บ้าหลินเฟยนายรีบออกไปนะ ฉันจะเปลี่ยนกางเกง”จ้าวลู่ลู่เห็นสายตาของหลินเฟยก็จ้องเขม็งทันที รีบชี้ไปที่ประตูให้เขาลงไป“พี่ลู่ลู่ครับ คุณใส่กางเกงเลยครับ ยังไงอะไรที่ควรเห็นผมก็เห็นหมดแล้ว ไม่มีอะไรน่าปิดบังแล้วครับ”หลินเฟยหัวเราะแหะ ๆ“ไอ้บ้าหลินเฟย ไอ้หน้าไม่อาย กล้าเอาเปรียบฉันเหรอ อย่าให้ฉันได้เอาจริงกับนายนะ”จ้าวลู่ลู่โมโหมาก ถีบตรงนั้นหลินเฟยอย่างรุนแรง“โอ้วแม่เจ้า พี่ลู่ลู่ครับตรงนั้นอย่าถีบมั่ว ๆ แบบนั้นนะครับ”หลินเฟยตกใจ รีบหลบทันทีกว่าเขาจะฟื้นฟูดีขึ้น ถ้าถูกจ้าวลู่ลู่แตะ ก็คงร้องไห้ไม่ออกแน่ ๆ แต่จ้าวลู่ลู่ทรงตัวไม่อยู่ ล้มลงไปบนพื้นอย่างจัง แก้มก้นลงพื้น เจ็บจนน้ำตาไหล“ไอ
หลังจากที่คิดแล้วคิดอีก หลินเฟยก็ลงไปที่ชั้นล่าง ซึ่งมีถังรั่วเสวี่ยที่กำลังรออยู่ด้านบนสุดของบันไดด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล“คุณอาเล็ก พวกเรารีบกลับบ้านกันเถอะ”เมื่อพูดจบ เขาก็จับมือถังรั่วเสวี่ยแล้วเดินไปทางประตู“นี่ ไอ้คนบ้า นี่คิดถึงผู้หญิงขนาดนั้นเลยรึไง? ”ถังรั่วเสวี่ยบีบแขนของหลินเฟยด้วยความโกรธไม่ว่าชั้นบนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถังรั่วเสวี่ยนั้นได้ยินทั้งหมด แต่เธอก็ไม่สะดวกที่จะขึ้นไป เธอทำได้แค่รีบลงบันไดไปรอที่ด้านล่างในเวลาเดียวกัน เธอเองก็แน่ใจแล้วว่าหลินเฟยคงจะต้องการผู้หญิงจริงๆ ดูเหมือนว่าตัวเองจะต้องรีบแก้ไขเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นไอ้บ้านี้คงจะสร้างปัญหาอีกแน่ๆ!“เปล่าหนิ คุณอาเล็ก คุณฟังผิดแล้ว ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”หลินเฟยกล่าวอย่างจริงจังเขาไม่ได้ต้องการทำลายภาพลักษณ์ของเขาที่อยู่ในใจของถังรั่วเสวี่ย“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไว้ถึงบ้านแล้วฉันค่อยจัดการกับคุณ!”ถังรั่วเสวี่ยดุด้วยความโกรธ“คุณอาเล็กรักผมที่สุดแล้ว เลยไม่กล้าที่จะตีผมหรอก” หลังจากเดินออกประตูไป หลินเฟยก็ยิ้มอย่างมีความสุข“ไม่กล้าน่ะสิแปลก!”“ถ้ายังไม่ตีแกอีกล่ะก็ ป่านนี้แกคงจะรื้อ
หลังพูดจบ โจวต้าชุนยังเหลือบมองไปยังผู้ชายสองสามคนที่อยู่รอบตัวเขาด้วยสายตาที่ผู้ชายจะรู้กัน“ใช่ ใช่ เราเพิ่งเห็นหลินเฟยเดินผ่านไป ถ้าเธอต้องการตามหาเขา ก็ตามพวกเรามาเถอะ”ทันใดนั้นหลายคนก็พยักหน้า และร่วมมือกันเพื่อล่อลวงพานเสี่ยวเหลียนพวกเขาทนไม่ไหวกับพานเสี่ยวเหลียน หญิงม่ายที่น่ารักคนนี้แล้วถ้าได้นอนกับเธอในป่าที่ห่างไกลและทุรกันดารแบบนี้ ยังไงก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้แน่นอนและพวกเขารู้สึกว่า ต่อให้ได้นอนกับพานเสี่ยวเหลียนแล้ว หญิงม่ายเองก็คงไม่กล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกไปหรอก“งั้นก็ได้ พวกคุณพาฉันไปที่นั่นที”พานเสี่ยวเหลียนเหนื่อยมากจนเวียนหัว อีกทั้ง เธอเพียงต้องการตามหาหลินเฟยให้เจอโดยเร็วที่สุด เพราะงั้นเธอจึงไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เธอเดินตามโจวต้าชุนและคนอื่นๆไปทางภูเขาซีซาน“พี่ต้าชุน ทิศทางที่พี่พาไปไม่ใช่ว่าเป็นที่ที่หลินเฟยไปหรอกเหรอ? ”หนึ่งในนั้นที่ชื่อหวังเอ้อโก่ว ถามด้วยเสียงต่ำ“พวกเรามาที่นี่เพื่อทำเรื่องอย่างว่านะ ถ้าหากว่าถูกหลินเฟย เจ้าเด็กนั่นพบเข้า มันจะไม่ดีเอา”“ภูเขาซีซานไม่ใช่ว่าอุดมไปด้วยยาสมุนไพรหรอกเหรอ ครั้งนี้พวกเราไม่ได้มาเพื่อแค่จะน
“ฮี๊ ฮี๊ ฮี๊ เธอพูดว่าจะทำอะไรงั้นเหรอ? นี่มันยังไม่ชัดเจนอีกรึไง พวกเราอยากนอนกับเธอยังไงล่ะ!”“น้องเสี่ยวเหลียน อย่าขัดขืนเลย!”โจวต้าชุนส่งเสียงร้องออกมาราวกับหมาป่า และคว้ากิ่งไม้ออกไปจากมือของพานเสี่ยวเหลียน นี่มันยิ่งทำให้ตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก!“ยิ่งเธอขัดขืน ตอนพวกเรานอนด้วยก็จะยิ่งหลับสบายนะ!”หวังเอ้อร์โก่วและคนอื่นๆน้ำลายไหล และบางคนถึงกับเริ่มถอดกางเกงออก“โจวต้าชุน หวังเอ้อโกว ถ้าพวกแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายนิ้ว ฉันจะแจ้งตำรวจมาจับพวกแก!”พานเสี่ยวเหลียนเองก็เกิดรู้สึกว่าอยากตายขึ้นมาทันที!ถ้าเธอถูกเจ้าสารเลวพวกนี้นอนด้วย หลินเฟยจะยังต้องการเธออยู่อีกเหรอ?“ให้ตายเถอะ ต่อให้เธอจะแจ้งตำรวจ เราก็จะต้องได้นอนกับเธอก่อน!”โจวต้าชุนตบหน้าพานเซียวเหลียนด้วยเสียงฉ่า และฉีกแขนเสื้อของเธอออกทันใดนั้น ผิวขาวและอ่อนโยนบริเวณกว้างบนไหล่ของเธอก็ถูกเผยออกมา“ให้ตายเถอะ นังนี่ตัวขาวชะมัด......”โจวต้าชุน หวังเอ้อโกวและคนอื่น ๆ จ้องมองอย่างไม่วางตา“ทนไม่ไหวแล้ว ถอดเสื้อผ้าให้หมด แล้วนอนกับเธอเลย!”หลายคนรีบแย่งกันเข้าไป!ผลคือเธอนั้นน่าสงสารจริงๆ!ปรากฎว่าหลินเฟยได้ยินเส
“กลับบ้านไปนอนซะ!”หลินเฟยโกรธมาก พอหลังจากสบถจบแล้วเขาก็รีบวิ่งตรงเข้าไป!“เสี่ยวเฟย คุณระวังด้วย!”พานเสี่ยวเหลียนตะโกนอย่างกังวลผลคือ หลังเธอพูดจบเธอก็ต้องตกตะลึงทันทีหลินเฟยออกอาละวาด เพียงไม่กี่วินาทีก็ต่อยหวังเอ้อโก่วและคนอื่นๆจนล้มลงบนพื้น จนทำให้พวกมันต้องส่งเสียงกรีดร้องออกมา“โอ๊ย อะไรวะเนี่ย!”“ทำไมไอ้เด็กสารเลวนี่ถึงได้มีแรงเยอะขนาดนี้!”“ด่าสิ ฉันจะยอมให้แกด่า!”หลินเฟยเตะเขาอีกสองสามครั้ง และทันใดนั้นหลายคนก็เชื่อฟังเขาราวกับสุนัขที่ตายแล้ว!“ฉันขอเตือนพวกแกนะ ต่อไปหากยังกล้ามารังควานพี่สะใภ้เสี่ยวเหลียนอีกล่ะก็ ฉันจะหักขาของพวกแกทิ้งซะ!”“พอแล้ว เสี่ยวเฟย ถ้าขืนยังสู้กันอีก อาจจะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆนะ พวกเรารีบกลับบ้านกันเถอะ”พานเสี่ยวเหลียนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พลางพูดออกมาในขณะเดียวกันพานเสี่ยวเหลียนก็รู้สึกว่าหลินเฟยดูมีเสน่ห์ และสมกับเป็นลูกผู้ชายมากๆในตอนนี้!“ไปกันเถอะ พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน”หลินเฟยถ่มน้ำลายใส่โจวต้าชุนอีกครั้ง จับมือของพานเสี่ยวเหลียนแล้วจากไป……“ไอ้เด็กเหลือขอนี่ เรื่องวันนี้ฉันจะจำมันไว้แน่!”จนกระทั่งหลินเฟยเดินจากไป
“แล้วเจอกันครับ พี่สะใภ้เสี่ยวเหลียน!”หลินเฟยในใจรู้สึกมีความสุขมาก ได้กลิ่นมือที่เปียกชื้น และสมองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสับสน“กลิ่นหอมมากเลย......”พานเสี่ยวเหลียนแค่จะเดินยังเดินไม่ถูก!หลินเฟยตัดสินใจว่า ไม่ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาจะนอนกับพานเสี่ยวเหลียนอย่างแน่นอน!“คุณอาเล็กครับ ผมกลับมาแล้วครับ”ภายในครึ่งชั่วโมง หลินเฟยก็กลับมาถึงที่คลินิก“เจ้าเด็กคนนี้ ทำไมถึงได้หายไปนานนักล่ะ? ”ทันทีที่ถังรั่วเสวี่ยได้ยินเสียง ก็พูดขึ้นด้วยความโกรธเธอรอหลินเฟยมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่เธอไม่เห็นหลินเฟยกลับมาสักที ในใจเธอจึงก็รู้สึกกังวล“วันนี้ผมเก็บยาสมุนไพรมาได้เยอะมากๆเลยครับ ก็เลยกลับมาช้า ผมยังได้เก็บผลไม้ป่ามาสองสามอย่างด้วย คุณอาเล็ก ลองชิมดูครับ ว่ารสชาติจะเป็นยังไง”คำพูดของหลินเฟยเต็มไปด้วยคำโกหกในความเป็นจริง ที่เขาล่าช้าเพราะเขามัวแต่ลูบคลำพานเสี่ยวเหลียนมาตลอดทางเมื่อพูดอย่างนั้นแล้ว หลินเฟยก็วางตะกร้ายาลง หยิบลูกพีชสองสามลูกออกมา ล้างแล้วส่งให้ถังรั่วเสวี่ย จากนั้นจึงหยิบลูกพีชหนึ่งลูกไว้ในมือแล้วกัด“อาเล็กไม่กิน อาเล็กมีเรื่องอยากจะพูดกับเธอ เธอเข้าไปในห้องกับ
“ว่ายังไงนะ?”ถังรั่วเสวี่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดด้วยความดีใจว่า “เสี่ยวเฟย เธอหายดีแล้ว จริงๆน่ะเหรอ? ”“แน่นอนครับ ไม่งั้นจะลองตรวจดูมั้ยล่ะครับ”ดวงตาของถังรั่วเสวี่ยมองดู แล้วก็หน้าแดงขึ้นในทันที“หายดีแล้วก็ดี หายดีแบบนี้แล้ว จากนี้ก็ไปก็สามารถไปหาผู้หญิงได้แล้วนะ หรือไม่ก็ไปหาจ้าวลู่ลู่สิ เธอจะต้องแต่งงานนะ อาเล็กไม่อยากทำให้มันชักช้าไปมากกว่านี้แล้ว”ถังรั่วเสวี่ยกล่าว“ไม่ ผมจะไม่มองหาผู้หญิงคนอื่น ผม......”หลินเฟยมองไปที่ถังรั่วเสวี่ย ถัวรั่วเสวี่ยใจเต้น เธอหันหลังกลับมาและดุทันที“ไร้สาระ ผู้ชายเมื่ออายุมากขึ้นไม่มีทางที่จะไม่หาผู้หญิงหรอกนะ เอาเถอะ เรื่องนี้พอแค่นี้ จากนี้อาเล็กจะเป็นคนจัดการเอง” คำพูดเหล่านี้ก็เหมือนพูดกับตัวเองเช่นกันแม้ว่าจะเป็นการพูดที่เด็ดขาด แต่ก็ยังรู้สึกเศร้าเล็กน้อยภายในใจเมื่อเห็นว่าถังรั่วเสวี่ยดูกหดหู่ลงอย่างกะทันหัน หลินเฟยก็คิดว่าเธอกลัวว่าในอนาคตเมื่อเขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว จะทำให้เธอกลายเป็นคนแปลกหน้า ดังนั้นเขาจึงปลอบใจเธอ“อาเล็กไม่ต้องห่วงครับ ไม่ว่าในอนาคตผมจะหาผู้หญิงคนนั้นเจอหรือไม่ อาก็เป็นคนที่ใกล้ชิดกั
ท่ามกลางความสะลึมสะลือ ถังรั่วเสวี่ยก็สัมผัสได้ถึงมือใหญ่ที่อบอุ่นที่แสนจะคุ้นเคยคู่นั้นบนร่างกายของเธอ เป้าหมายของการลูบไล้นั้นชัดเจนเป็นอย่างมากด้วยสัมผัสที่แสนจะคุ้นเคยนี้ มันทำให้ถังรั่วเสวี่ยตื่นขึ้นมาจากความฝัน ทั้งโลภและหลงใหลเป็นอย่างมาก"เสี่ยวเฟย ไม่ได้นะ หยวนหยวนยังอยู่ที่นี่…"ท่ามกลางความมืดในยามราตรี ถังรั่วเสวี่ยมองไม่เห็นหลินเฟย แต่เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเป็นหลินเฟยที่อยู่บนตัวเธออุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้ถังรั่วเสวี่ยหายใจถี่ๆ เธอโอบกอดหลินเฟยเอาไว้ และกระซิบเบาๆ ออกมาเดิมทีเธอยังคิดว่าหลินเฟยได้มาตอนกลางวันแล้ว ตอนกลางคืนเขาจะไม่มาเสียอีกคิดไม่ถึงเลยว่าหลินเฟยจะมาตอนดึกดื่นแบบนี้ได้ช่างเป็นหนุ่มน้อยที่บ้าคลั่งเสียจริงๆ..."ไม่เป็นไรหรอกครับอาเล็ก เธอหลับไปแล้ว ผมเบาๆ หน่อยก็โอเคแล้วล่ะ""อาเล็ก อาน้ำลายไหลแล้วนะ คงจะกระหายน่าดู ให้ผมช่วยดับกระหายให้นะ"หลินเฟยหัวเราะเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปถอดชุดแนบเนื้อของถังรั่วเสวี่ยออกแม้ว่าจะมืดสนิท แต่สำหรับหลินเฟยแล้ว มันไม่ต่างอะไรจากตอนกลางวันใบหน้าที่แดงระเรื่อ รวมไปถึงดวงตาที่พร่าเบลอของถังรั่วเสวี่ยมันยิ่
เพราะต้องการรู้ความลับของโลกซ่อนเร้นจากตัวของพวกเขานั่นเองผู้หญิงที่เป็นผู้นำมาจากตระกูลอาจารย์หยินหยางที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดจากทุกคนในประเทศซากุระ ตั้งแต่บุคคลสำคัญไปจนถึงชาวบ้าน!เชียนเย่เจียจื่อจากตระกูลเชียนเย่โดยที่ตัวเธอเองยังเป็นอาจารย์หยินหยางที่มีสถานะสูง ซึ่งสามารถควบคุมพลังของผีและเทพเจ้าได้!"แม้ว่าบางส่วนของร่างกายจะหายไป แต่เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เป็นวัตถุดิบในการปลุกศพได้ดีจริงๆ""พวกนายสองคนไปเอาตัวเขาขึ้นมา"เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังพูด เชียนเย่เจียจื่อก็หรี่ตาที่เรียวเล็ก พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ทรงเสน่ห์จากภายในออกมา"รับทราบรับ ท่านเชียนเย่!"ในไม่ช้า ชายทั้งสองก็ได้เดินลงไปช้อนร่างเจียงอู๋เซี่ยวขึ้นมาจากสระ พร้อมหามมาวางที่หน้าของเชียนเย่เจียจื่อ"ให้พวกนายไปตรวจสอบ ได้ความว่าอย่างไรแล้ว?"เชียนเย่เจียจื่อย่อตัวลง มองสำรวจไปยังร่างของเจียงอู๋เซี่ยวโดยไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี พร้อมกับถามโดยไม่เงยหน้าออกมา"ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วครับท่านเชียนเย่ พรุ่งนี้เช้าสิบโมง ยอดเขาจิ่วหลงซาน พวกจอมยุ
"ในเมื่ออาจารย์ลุงเอ่ยปากออกมาแล้ว อู๋เซี่ยวจะกล้าขัดได้อย่างไรล่ะครับ?""ไม่รู้ว่าอาจารย์ลุงมีเรื่องอะไรที่รบกวนจิตใจอยู่ พูดให้อู๋เซี่ยวฟังหน่อยสิครับ ไม่แน่ว่าอู๋เซี่ยวอาจจะช่วยอาจารย์ลุงแก้ปัญหาได้"ตอนนี้เจียงอู๋เซี่ยวอยู่ในการคุ้มครองของคนอื่น และยังต้องการให้กู่หรูหลงพาเขากลับโลกซ่อนเร้นอีกต่างหากแน่นอนว่าเขาไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำชวนของกู่หรูหลงอยู่แล้ว หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า"เอาไว้คุยกันตอนที่ออกไปนอกโรงแรมแล้ว ที่นี่หูตามันเยอะ เรื่องบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในตอนนี้"กู่หรูหลงไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ เขาหันหลังและนำทางอยู่ข้างหน้าเจียงอู๋เซี่ยวเดินตามกู่หรูหลงออกจากโรงแรม จนมาถึงเชิงเขาของจิ่วหลงซานโดยมีสระน้ำที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นสระ"อาจารย์ลุงครับ ท่านได้ให้ศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อไปซื้อยามาให้หลานไม่ใช่เหรอครับ?""ทำไมสองวันมานี้ อู๋เซี่ยวถึงไม่ได้เจอศิษย์พี่ฮว่าและศิษย์พี่ฉางเล่อเลยล่ะครับ"เจียงอู๋เซี่ยวเป็นฝ่ายเอ่ยถามกู่หรูหลงก่อน"อ้อ ไอ้สองคนนั้นไม่รู้ว่าไปเถลไถลที่ไหนแล้ว นี่ก็สองวันแล้วยังไม่กลับมาเลย""วันนี้ข้าออกไปตามหาก็
"ผมจะเป็นอะไรไปได้ เสี่ยวหยู่คุณอย่าได้เป็นห่วงเลยนะ""วันนี้คุณออกไปทำงานทั้งวัน เหนื่อยหรือเปล่า?""อยากจะให้ผมบีบๆ นวดๆ ขาให้คุณไหมล่ะ?"เมื่อสัมผัสความเป็นห่วงที่เจียงเฉินหยู่มีต่อเขาหลินเฟยอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเขาดึงเจียงเฉินหยู่ไปนั่งบนเตียง พร้อมพูดเอาอกเอาใจ"เฮ้อ ฉันวิ่งวุ่นมาทั้งวัน แม้แต่ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน คุณว่าฉันเหนื่อยหรือเปล่าล่ะ?""ถือว่าคุณยังมีจิตสำนึกอยู่ ยังรู้จักเป็นห่วงฉัน""เดี๋ยวตอนนวดคุณเบามือหน่อยนะ ฉันล่ะกลัวว่าคุณจะเผลอนวดจนไหล่ของฉันทรุดไปแล้วจริงๆ"เจียงเฉินหยู่พูดล้อเล่น พร้อมกับหันหลังให้กับหลินเฟย"แหะๆ โอเค รับรองว่าผมจะนวดเบาๆ!"หลินเฟยวิ่งไปล้างมือในห้องน้ำ และกลับมาอย่างรวดเร็วเขาวางมือบนไหล่ของเจียงเฉินหยู่และคลำไปจนถึงคอเสื้อของเธอจากนั้นก็เลื่อนไปตามผิวเรียบเนียนไร้ที่ติ พร้อมกับสอดลึกเข้าไป นวด บีบ และหยอกล้อและมันก็ทำให้เจียงเฉินหยู่คร่ำครวญออกมาอย่างทันที"อืม...คนผีทะเล ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ""คุณยังคิดจะมาแกล้งฉันอีก ปล่อยเดี๋ยวนี้ อย่ามาเล่นมั่วๆ!"แต่ทว่ามือของหลินเฟยกลับเอาแต่ใจ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายว่
"ทำได้ครับ สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก พวกเราสองปู่หลานทำได้อยู่แล้วครับ"กู่หรูหลงทำมือคารวะอย่างชาญฉลาดรวมไปถึงกู่เยว่อิ๋งที่ยืนกรานอย่างแข็งขันเมื่อครู่ที่ผ่านมา เธอก็ได้เปลี่ยนทัศนคติและพยักหน้าตอบรับอย่างถ่อมตัวในทันที"โอเค ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกนายปู่หลานก็กลับไปที่โรงแรมจิ่วหลงซานก่อนเถอะ รอให้ถึงพรุ่งนี้เช้า""ฉันก็จะไปร่วมประลองจอมยุทธ์ด้วยตัวเอง ถึงตอนนั้น หากฉันมีอะไรให้รับใช้ ค่อยเรียกพวกนายปู่หลานก็แล้วกัน"หลินเฟยรำพันอยู่ในใจว่า 'คำสาบานโลหิต' นั้นมีประโยชน์แบบสุดๆ และในเวลาเดียวกัน เขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้กู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋งถอยออกไปเสียก่อนซึ่งก็เป็นเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งได้ดังแว่วมา และนั่นก็คือโอวหยางเยี่ยนและโอวหยางชงที่ได้วิ่งตามมานั่นเองเมื่อเห็นหลินเฟยไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อยตรงกันข้ามกับกู่หรูหลงที่จากไปโดยเสียแขนไปหนึ่งข้าง และดูแก่กว่าเดิมเป็นอย่างมากแม้แต่กู่เยว่อิ๋งที่เดิมตามหลังก็ก้มหน้าก้มตาราวกับถูกสูบวิญญาณไปอะไรแบบนั้นและนั่นก็ทำให้พวกเขาสองพ่อลูกตกตะลึงจนหน้าถอดสีเลยทีเดียว!"สหายน้อง หรือว่านายจะ
น้ำเสียงของหลินเฟยเผด็จการ และเร่งเร้าอย่างหงุดหงิดเต็มที่"คุณปู่คะ เราจะทำอย่างไรกันดี?""หนูอายุยังน้อย หนูยังไม่อยากตายนะคะคุณปู่ พี่เซียวเฟิงกำลังรอหนูอยู่นะคะ…""เพียงแต่ว่าคุณปู่ หากจะให้หนูยอมเป็นทาสรับใช้เขาแล้วละก็ งั้นหนูก็ยอมตายเสียดีกว่า!"กู่เยว่อิ๋งตื่นตระหนก เธอไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้ พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นกับกู่หรูหลง"เยว่อิ๋ง กระบวนท่าที่เจ้าเด็กนั่นใช้ ปู่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน ปู่ก็ไร้หนทางด้วยเหมือนกัน""ปู่ก็ไม่อยากจะประนีประนอมเหมือนกัน แต่การมีชีวิตอยู่ ยังไงมันก็ดีกว่าตายเป็นไหนๆ""ยังไงพวกเราก็ยอมๆ ไปเถอะ อย่างแย่ที่สุดต่อไปก็ยังมีโอกาสหลบหนีกลับไปที่โลกซ่อนเร้น และไม่ต้องกลับมาเหยียบที่โลกปัจจุบันอีกก็ได้"และกู่หรูหลงที่เพิ่งจะสำเร็จว่าที่มหาจอมยุทธ์ได้เมื่อครู่ที่ผ่านมา อายุของเขาก็ได้ยืดออกไปกว่าห้าสิบปีแล้วซึ่งในอีกห้าสิบกว่าปีข้างหน้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีโอกาสสำเร็จขั้นมหาจอมยุทธ์ก็เป็นไปได้กู่หรูหลงยิ่งไม่อยากตายมากกว่าเดิม เขาลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจหนักๆ ออกมา พร้อมกับกระซิบกับกู่เยว่อิ๋ง"ในเมื่อพวกแกยอมมาเป็นทาสฉัน งั้น
กู่หรูหลงร้องขอความเมตตาอย่างสุดใจ แต่ทว่าหลินเฟยกลับไม่มีความคิดที่จะปล่อยพวกเขาไปแต่อย่างใดล้างแค้นสิบปีก็ยังไม่สาย ความจริงที่แสนจะเรียบง่ายนี้ หลินเฟยยังคงเข้าใจได้ดีแต่อย่างไรก็ตาม หลินเฟยไม่ได้เป็นปีศาจหรือฆาตกร ให้เขาฆ่ากู่หรูหลงและกู่เยว่อิ๋ง เขาก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน"พี่สาว งั้นพี่ก็ดูดกำลังภายในของเขาให้หมดสิ้น แล้วผมจะให้ผู้อำนวยการโม่ขังพวกเขาไปตลอดชีวิตก็แล้วกัน"ท้ายที่สุด หลินเฟยก็ถอนหายใจ และพูดตัดสินใจออกมา"ไม่ต้องหรอก คนคนนี้เจ้าโจมตีด้วยตัวเอง""เจ้าก็เก็บเอาไว้เป็นทาสเถอะ""ต่อไปหากพบจอมยุทธ์โบราณที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงตอนนั้นข้าค่อยดูดพลังลมปราณก็ยังไม่สาย""อีกอย่าง ขอแค่เจ้าควบคุมเขาได้ เจ้าก็สามารถสั่งให้เขาไปตามหาหินวิญญาณและหญ้าวิญญาณในโลกซ่อนเร้นได้ แบบนี้จะทำให้เจ้าสามารถบรรลุข้อตกลงกับข้าได้เร็วขึ้นด้วย"สิ่งที่ทำให้หลินเฟยคิดไม่ถึงก็คือ หลงอู่ได้ให้คำตอบแบบนี้ออกมาและในน้ำเสียงนั้น ยังมีการชื่นชมปะปนอยู่ด้วย"ให้ผมรับไว้เป็นทาส? ผมไม่ได้มีบุญคุณกับพวกเขาเหมือนกับโอวหยางเยี่ยนและลูกชายแบบนั้น มีแต่ความแค้นล้วนๆ เลยก็ว่าได้""แล้วพวกเขาจะยอมมาเ
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและเดือดดาลแบบสุดๆ ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วในตอนนี้!เพราะวิธีการของหลินเฟย เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน!"คุณปู่ คุณปู่รีบถอดเสื้อมาดับไฟเร็วเข้า!"กู่เยว่อิ๋งก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน พร้อมตะโกนเตือนเสียงดังออกไปทันที"ไม่ต้องหรอก ปู่มีวิธีของตัวเอง"กู่หรูหลงถ่ายเทพลังงานลงในแขนที่กำลังลุกไหม้ จากนั้นก็กระทืบเท้าลงไปที่พื้นอย่างเต็มแรงแปร๊ะ แปร๊ะ!แต่ทว่า หลังจากที่กู่หรูหลงได้ดึงแขนออกมา เปลวไฟดวงนั้นก็ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะมอดลงไปแต่อย่างใด!กู่หรูหลงถอดเสื้อออก และเปลวไฟก็ไหม้แขนของเขาจนเลือดและเนื้อผสมปนเปกันไปหมด!เมื่อเห็นว่าอีกไม่นาน แขนของเขาก็คงจะไหม้ไปเสียทั้งหมดแล้ว!กู่หรูหลงก็ทำได้เพียงอดกลั้นต่อความเจ็บปวด พร้อมกับดึงมีดออกมาตัดแขนข้างขวาของตัวเองออกไปทั้งหมด!เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เปลวไฟที่แปลกประหลาดนี้ก็จะลามไปทั่วตัวและเผาเขาให้ตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!"ไอ้สารเลว ไอ้เด็กเมื่อวานซืน นี่จริงแกก็ออกมาประจันหน้ากับข้าเลยสิ!""ข้าจะสับแกเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน!"กู่หรูหลงกุมบาดแผลที่เกิดจากกา
ในขณะนี้ เวลาก็ได้ล่วงเลยมาสองทุ่มกว่าๆ แล้ว ท้องฟ้าไร้ซึ่งดวงจันทร์มีดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงที่ส่องแสงกะพริบจางๆ ออกมาภายในภูเขาชิงซาน เมื่อความมืดได้คืบคลานเข้ามา มันจึงทำให้บรรยากาศดูมืดมิดมากยิ่งขึ้นแต่ทว่าความเร็วของหลินเฟยยังไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เขาสามารถหลบหลีกหินที่นูนสูงเหล่านั้นได้อย่างคล่องแคล่วความมืดในยามค่ำคืน ไม่ได้ทำให้ความสามารถในการใช้ตาทิพย์ของเขาลดลงแต่อย่างใดหลินเฟยหันกลับไปมอง และพบว่ากู่หรูหลงไม่ได้เร็วเท่ากับตอนแรกอีกต่อไปหลินเฟยรู้ดีว่า นั่นไม่ใช่เพราะกู่หรูหลงเหนื่อยล้า แต่เป็นเพราะความสามารถในการมองเห็นของกู่หรูหลงลดลงเมื่ออยู่ในตอนกลางคืนนั้นเองส่วนโอวหยางเยี่ยนและลูกชายที่ติดตามมาท้ายสุดก็ถูกสลัดทิ้งโดยไม่เห็นแม้แต่เงาแล้วในตอนนี้!"กู่หรูหลง อย่างน้อยๆ แกก็เป็นถึงว่าที่มหาจอมยุทธ์ ทำไมช้าอย่างกับเต่าแบบนี้?""ขืนแกยังชักช้าอยู่ ฉันก็คงจะเบื่อจนหลับไปแล้วนะ""ด้วยความเร็วแบบนี้ แกยังคิดจะฆ่าฉันอีกงั้นเหรอ? กลับบ้านไปนอนฝันซะดีกว่า!"หลินเฟยตั้งใจชะลอความเร็ว และหันมาพูดเหน็บแนม"ไอ้หนุ่ม แกอย่าได้ชะล่าใจไปเลย แม้ว่าความเร็วของข้าจะสู้แกไม่ได